Skip to content
รีแคปซีรีส์ Alice in Borderland ซีซั่น 2 EP. : นี่มันเกมสังหารหมู่ชัด ๆ

รีแคปซีรีส์ Alice in Borderland ซีซั่น 2 EP.1 : นี่มันเกมสังหารหมู่ชัด ๆ

Alice in Borderland ซีซั่น 2 EP.1 : อะริสุ อุซางิ ชายสวมฮูด และสาวทูพีชยืนรอเล่นเกมที่แยกชิบูย่านานนับชั่วโมง แต่ทุกอย่างกลับเงียบสงบ หรือว่าเกมมาสเตอร์จะลืมกดปุ่มสตาร์ทกันนะ ?

กลางแยกชิบูย่า … อะริสุ อุซางิ ชายสวมฮูด และสาวทูพีซสุดเซ็กซี่ ทั้งสี่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น พวกเขายืนรออยู่ตรงนั้นนานนับชั่วโมงตั้งแต่ป้ายบอกสัญญาณเริ่มเกม แต่ทุกอย่างกลับเงียบสงบ ไม่มีการลงทะเบียนเล่นเกม ไม่มีการแจ้งกฎ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น

สาวทูพีซ (รับบทโดย อายะ อะซาฮินะ) ยืนจนเมื่อยจึงนั่งลงไปกับพื้นถนน ส่วนชายสวมฮูดหรือชิชิยะ (รับบทโดย นิจิโระ มุราคามิ) ก็เอ่ยติดตลกออกมา “หรือว่าเกมมาสเตอร์จะลืมกดปุ่มสตาร์ทกันนะ” พูดไม่ทันขาดคำ เสียงรถยนต์เครื่องคาบูเรเตอร์หลายคันก็ดังขึ้น รถทั้งแปดคันจอดและพวกเขาลงมาทักทายอะริสุ (รับบทโดย เคนโตะ ยามาซากิ) ที่แท้เป็นพวกที่เคยอยู่ที่บีช

ทั้งหมดกล่าวทักทายกันได้ไม่กี่คำ เสียงปืนต่อต้านรถถังก็ดังกึกก้องจนทำเอาทุกคนช็อก ร่างของหญิงชายคู่หนึ่งกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อปลิวว่อนในอากาศ “เกมคงเริ่มแล้วสินะ” ทุกคนเริ่มวิ่งหนีเข้าหาที่กำบัง แต่ดูเหมือนที่กำบังจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเมื่อเจอกับปืนไรเฟิลที่ยิงมาจากระยะไกล ผู้คนถูกยิงตายราวใบไม้ร่วง นี่มันเกมสังหารหมู่ชัด ๆ

เรือเหาะคิงโพดำลอยอยู่เหนือหัวคนทั้งสี่ที่กำลังหลบอยู่ข้างรถ จากนั้นบอสของคิงโพดำก็ปรากฏตัวขึ้นในชุดคลุมปกปิดใบหน้า มันมาพร้อมกับห่ากระสุนที่ยิงออกมารัว ๆ ไม่มียั้ง ผู้คนตายกันเกลื่อนถนน “อยู่ที่นี่ต่อไปไม่รอดแน่” จังหวะนั้นก็มีรถมาจอดรับพวกเขาหนี อะริสุ อุซางิ และสาวทูพีซหนีขึ้นรถไป ส่วนชายสวมฮูดไม่สามารถขึ้นรถได้เพราะโดนระเบิดขวางทางไว้

จากนั้น ก็เป็นการขับรถหนีการไล่ล่าของคิงโพดำ หลังผ่านไปนานนับสิบนาที อะริสุ อุซางิ สาวทูพีซ และหนุ่มบื้อ คนจากบีชที่ขับรถมาช่วย ก็หลบเข้ามาอยู่ในอาคารหลังจากเสียงปืนเงียบสงบลง คืนนั้น พวกเขาออกไปหาเสบียงในร้านสะดวกซื้อใกล้ ๆ แถวนั้น แล้วค่ำคืนนั้นก็ผ่านพ้นไป

รุ่งขึ้น อะริสุออกไปยืนบนดาดฟ้า เขาเห็นเรือเหาะที่มีสัญลักษณ์ไพ่หน้าคน (K Q J) ลอยอยู่ทั่วเมือง อะริสุจึงรู้ในทันทีว่า “เมืองทั้งเมืองเป็นพื้นที่เล่นเกม” ดังนั้น ทางเดียวที่จะรอดจากการโจมตีของคิงโพดำก็คือการเข้าร่วมเกมอื่น และเกมที่อะริสุเลือกเล่นคือเกมคิงดอกจิก เนื่องจากเป็นเกมที่อาศัยทีมเวิร์ก ทำให้มีโอกาสชนะได้ไม่ยากนัก เมื่อตกลงกันได้ทั้งสี่จึงขับรถเปิดประทุนรุ่นคลาสสิกสีแดงสดมุ่งหน้าไปหาเรือเหาะคิงดอกจิกทันที

พื้นที่เล่นเกมคิงดอกจิกมีตู้คอนเทนเนอร์วางเรียงกันเป็นแนวกำแพง วางต่อกันสูงสามตู้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เมื่อมองจากทางด้านบนลงไป จะเห็นเป็นพื้นที่เล่นเกมถูกจัดวางเป็นรูปแบบคล้ายเขาวงกต ด้านนอกประตูทางเข้ามีกำไลข้อมืออิเล็กทรอนิกส์วางอยู่บนโต๊ะ มีข้อความเขียนระบุชัดเจนว่าเกมนี้ต้องการผู้เล่น 5 คน ผู้ที่ต้องการเล่นให้สวมกำไลแล้วรอจนกว่าคนจะครบ แต่เอ๊ะ ทำไมเหลือกำไลอยู่แค่ 4 อัน ?

“แหม่ รออยู่ตั้งนาน นึกว่าจะไม่ครบห้าคนซะแล้ว” เสียงนี้ทำให้ทั้งสี่ต้องตกตะลึง เพราะมันคือเสียงของ นิรากิ (รับบทโดย โดริ ซะกุระดะ) กุ๊ยขยะสังคมที่เคยพยายามล่วงละเมิดอุซางิ มันยังไม่ตายหรือนี่ ? แต่ถึงมันจะยังไม่ตายแต่สภาพมันก็ไม่ต่างไปจากครึ่งคนครึ่งผี เนื่องจากใบหน้าของมันแถบหนึ่งมีรอยบาดแผลจากการโดนไฟไหม้

ในขณะที่สาวทูพีซกับหนุ่มบื้อไม่อยากลงเล่นเกมร่วมกับนิรากิ แต่สาวปีนเขาสาว อุซางิ (รับบทโดย ทาโอะ ทสึจิยะ) ไม่สนใจ เธอเดินไปที่โต๊ะและหยิบกำไลข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาใส่ แล้วก็หันไปพูดกับทุกคนว่า “ฉันไม่สนใจหรอกว่าจะเล่นกับใคร ฉันรู้แต่เพียงว่า ถ้าเราไม่เล่นเกมนี้สักวันเราก็ต้องตายอยู่ดี” อะริสุเป็นคนต่อมาที่หยิบกำไลมาใส่ที่ข้อมือ ทำให้สาวทูพีซกับหนุ่มบื้อไม่มีทางเลือก ต้องยอมร่วมเล่นเกมนี้ด้วย

เมื่อทั้งห้าเดินเข้าไปในพื้นที่เล่นเกม ต่างก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้เผชิญหน้ากับคิงดอกจิก ทึ่ตะลึงไม่ใช่ตะลึงเพราะความน่ากลัว แต่ตะลึงเพราะคิงดอกจิกเป็นมนุษย์ที่เชื่อในเรื่องความเป็นธรรมชาติ เขาจึงไม่ใส่เสื้อผ้าปกปิดร่างกายแม้แต่ชิ้นเดียว !

คิงดอกจิกหรือคิวมะ (รับบทโดย ยามะพี) กล่าวทักทายผู้เล่นทั้งห้าที่ยืนพะอืดพะอมที่ได้เห็นของสงวนของเขา จากนั้น เขาก็สาธยายความเชื่อแปลก ๆ ของตัวเอง “การเปลือยกายเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เสื้อผ้าต่างหากเป็นสิ่งปลอมแปลงที่สังคมกำหนดขึ้นมา ทางชีววิทยาถือว่าเสื้อผ้าเป็นสิ่งไม่จำเป็น นี่แหละคือรูปลักษณ์ของมนุษย์อย่างแท้จริง”

“นี่มันคิงดอกจิกจริงหรือวะเนี่ย !?” มีใครบางคนบ่นเป็นเสียงพึมพำออกมา

ดูซีรีส์เรื่องนี้ได้ที่เน็ตฟลิกซ์ : คลิกที่นี่
Source: Netflix