Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Taxi Driver ซีซั่น 2 (2023)

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Taxi Driver ซีซั่น 2 (2023)

Taxi Driver 2 สปอยล์ : เรนโบว์แท็กซี่วีไอพีกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังทีมงานแยกกันไปใช้ชีวิตที่แสนจะธรรมดา แต่ดูเหมือนการต่อสู้กับความอยุติธรรมมันจะฝังอยู่ในสัญชาตญาณของพวกเขาซะแล้ว

EP.1 ตามหาลูกชายที่หายไป

เรื่องราวเริ่มต้นที่ คิมโดกี (รับบทโดย อีเจฮุน) กลายเป็นไอ้หนุ่มคนคุกผมยาวอยู่ในเรือนจำกูชอน ระหว่างที่เขากำลังออกกำลังกายอยู่ภายในห้องขังเดี่ยวจนกล้ามเป็นมัด ๆ ซิกแพ็กขึ้นเป็นลูก ๆ ผู้คุมก็เรียกตัวเขาให้ออกไปรวมตัวกับนักโทษอีกสามคน เพื่อขึ้นรถขนส่งนักโทษเดินทางไปยังศาล

นักโทษสามคนที่เดินทางไปพร้อมกับโดกี เป็นนักโทษที่กระทำความผิดทางเพศ จนเหยื่อบางรายตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง เมื่อถูกพวกมันปล่อยคลิปลามกเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม พวกมันทั้งสามกำลังจะได้รับการปล่อยตัวหลังขึ้นศาลในวันนี้

ขณะรถขนส่งนักโทษกำลังวิ่งผ่านบนเส้นทางโล่งกว้างไร้ผู้คน จู่ ๆ รถก็เกิดพลิกคว่ำ โดกีโยนลูกกุญแจที่ใช้ไขกุญแจมือให้ทั้งสาม แล้วตะโกนบอกพวกมันให้รีบหนี “จะรออะไรล่ะเฮ้ย รีบหนีเร็ว” จากนั้น โดกีก็ขับแท็กซี่วีไอพีมารับไอ้ชั่วสามคนนั้นคนรถไป ขณะอยู่บนรถทั้งสามก็หยิบเครื่องดื่มชูกำลังขึ้นมาดื่ม ไม่นานนักก็สลบไป

ผ่านมาจนถึงยามดึก ทรชนทั้งสามตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในโกดังร้างแห่งหนึ่ง เบื้องหน้ามีทีวีเปิดอยู่ เป็นข่าวการแหกคุกหลบหนีของพวกเขา ในขณะที่ตำรวจกำลังระดมกำลังออกตามล่า แล้วไม่นานนัก หน่วย S.W.A.T. ก็บุกเข้ามาจับตัวพวกมันเอาไว้ได้

จากนักโทษคดีทางเพศที่ใช้ช่องว่างของกฎหมาย จนเกือบจะได้ออกจากคุก แต่กลับต้องมาได้รับโทษคดีแหกคุกและทำร้ายเจ้าหน้าที่ ที่มีอัตราโทษสูงสุดตลอดชีวิต … เรื่องที่เกิดขึ้นถ้าไม่ใช่เขาเป็นคนทำ คิมโดกี ไอ้ชั่วสามคนก็ยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม สร้างความเจ็บปวดให้กับเหยื่อต่อไป

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน …

ในตอนนั้น เรนโบว์แท็กซี่ถูกตำรวจบุกค้น และเข้าจำกุม จางซองชอล (รับบทโดย คิมอึยซอง) ซึ่งเขายอมรับความผิดแต่เพียงผู้เดียว ส่วนสมาชิกในทีมคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตและทำงานที่ตัวเองฝัน

อันโกอึน (รับบทโดย พโยเยจิน) ไปเป็นตำรวจ แต่เธอได้เป็นเพียงตำรวจที่ทำงานธุรการ ชีวิตในทุก ๆ วันของเธอจึงดำเนินไปด้วยความเหี่ยวเฉา

วันหนึ่งเธอเห็นชายที่กำลังตามหาลูกด้วยสีหน้าท้อแท้สิ้นหวัง แต่เธอไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะโดนหัวหน้าห้ามเอาไว้ เนื่องจากเธอเป็นเพียงเจ้าหน้าที่สืบค้นข้อมูล การไปทำอะไรนอกเหนือหน้าที่ ถือว่าเป็นการทำผิดกฎระเบียบของตำรวจ

พัคจินออน (รับบทโดย แบยูรัม) เป็นวิศวกรอวกาศ ทำยานอวกาศส่งไปนอกโลก ชเวคยองกู (รับบทโดย จางฮยอกจิน) ก็เป็นหัวหน้าช่างที่ทำเงินได้มากมาย จะมีก็แต่คิมโดกีเท่านั้นที่ยังอยู่กับจางซองชอลที่เรนโบว์แท็กซี่

อย่างไรก็ตาม ในทุก ๆ วัน จางซองชอลก็ยังคงใช้เวลากลางคืนนำนามบัตรและสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความว่า “อย่าตาย แก้แค้นสิ เรนโบว์แท็กซี่” เอาไปวางไว้ตามจุดสุ่มเสี่ยงที่ผู้คนเลือกใช้เป็นสถานที่ฆ่าตัวตาย

พ่อเลี้ยงเดียวกับลูกชายที่หายไป

คืนหนึ่งก็มีชายที่กำลังจะกระโดดสะพานได้เห็นนามบัตรนั้น เขาจึงโทร. ขอความช่วยเหลือจากเรนโบว์แท็กซี่ โดกีขับรถแท็กซี่วีไอพีสีดำคันเดิมไปรับชายคนนั้น ระหว่างทาง ชายคนนั้นก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น …

เขาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ภรรยาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตั้งแต่ลูกชายยังเล็ก เขาเปิดร้านไก่ทอดเล็ก ๆ หาเลี้ยงชีพให้ตัวเองและลูก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี กระทั่งลูกชายเกิดรู้ว่าพ่อค้างค่าเช่าร้านขายไก่ทอดมาหลายเดือนและกำลังจะถูกไล่ที่ ลูกชายจึงหลอกพ่อว่าได้ทุนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองนอก แต่จริง ๆ แล้วเขาแอบไปทำงานที่เมืองโคทายา ประเทศเวียดนาม แลกกับเงินล่วงหน้าก้อนหนึ่ง ที่เอาไปจ่ายค่าเช่าร้านขายไก่ทอดให้กับพ่อ

เรื่องมันแดงขึ้นเมื่อลูกชายขาดการติดต่อ พ่อจึงเริ่มด้วยการไปแจ้งความ แต่ตำรวจกลับอ้างว่า กฎหมายเกาหลีถ้าบุคคลมีอายุเกิน 18 ปีจะไม่สามารถติดตามตัวได้ เพราะถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะไม่ให้ใครตามหา ยกเว้นจะมีเหตุให้เชื่อได้ว่าถูกลักพาตัวหรือถูกทำร้าย

ผ่านไปครึ่งเดือน ตำรวจช่วยอะไรเขาไม่ได้ เขาจึงช่วยตัวเอง ด้วยการพิมพ์ใบประกาศตามหาคนหายออกไล่แจกไปทั่ว เพราะเขาเชื่อว่าลูกชายของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย

เมื่อตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว โดกีกับจางซองชอลจึงเห็นตรงกันว่าจะรับเคสนี้ โดกีเริ่มด้วยการส่งเรซูเม่สมัครงานไปยังบริษัทร้บสมัครงานต้องสงสัย ทุกอย่างเป็นไปตามแผน โดกีได้รับการติดต่อและให้เดินทางไปทำงานที่เวียดนามทันที

เมื่อไปถึงเวียดนาม โดกีถูกพาไปนอกเมือง และถูกชายฉกรรจ์นับสิบบังคับให้คลุมถุงดำ จากนั้นก็พาไปยังสถานที่หนึ่ง สถานที่ที่เป็นเหมือนซิลิคอนวัลลีย์ แตกต่างที่ว่าที่นี่เป็นซิลิคอนวัลลีย์ในนรก ทุกคนจะถูกบังคับให้เขียนโปรแกรมการพนันออนไลน์ในทุกรูปแบบ ถ้าไม่ทำหรือทำไม่ได้ก็จะถูกทำร้ายร่างกายอย่างแสนสาหัส !

EP.2 เริ่มกันใหม่อีกครั้ง

ในขณะที่โดกีกำลังตกอยู่ท่ามกลางอันตรายในเวียดนาม และขาดการติดต่อ แต่ด้วยสกิลทางด้านคอมพิวเตอร์อันอ่อนด๋อยของจางซองชอล ทำให้เขาช่วยอะไรโดกีไม่ได้เลย

ระหว่างนั้น โกอึนรู้แล้วว่าจางซองชอลกับโดกีแอบเปิดบริการเรนโบว์แท็กซี่ขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจลาออกจากตำรวจและกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม

ไม่นานนัก โกอึนก็สามารถติดต่อกับโดกีได้ เขาให้ข้อมูลกับเธอว่า พวกชั่วพวกนี้ต้องการสร้างโปรแกรมพนันออนไลน์ แต่ทำที่เกาหลีไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย พวกมันเลยหลอกนักศึกษาวิศวะคอมพิวเตอร์ให้มาเขียนโปรแกรมที่เวียดนาม

อย่างไรก็ตาม แม้จะอันตรายแต่โดกีมีแผนที่จะจัดการกับไอ้พวกชั่วพวกนี้เอาไว้แล้ว โดยขอให้โกอึนส่งโปรแกรมจำลองเว็บพนันออนไลน์ให้ เพื่อสร้างผลงานให้พวกมันไว้ใจ

คืนนั้น โดกีแอบหนีออกมา โดยยึดรถแท็กซี่จากคนขับแท็กซี่เวียดนามที่โกงมิเตอร์ผู้โดยสาร … โดกีไปเค้นข้อมูลจากไกด์เถื่อน เพื่อถามสถานที่ที่ใช้ขัง อีดงแจ ลูกชายที่หายไปของพ่อเลี้ยงเดี่ยว จึงได้รู้ว่าพวกมันแบ่งกันทำงานเป็นหลายทีม และแต่ละทีมก็ไม่รู้ว่าแต่ละทีมอยู่ที่ไหน

ระหว่างที่โดกีกำลังคิดวิธีการตามหาตัวอีดงแจอยู่นั้น เขาก็ขับรถไปเจอสองหน่อสมองเขื่อง จินออนกับคยองกู ที่กำลังเดินหิวโซอยู่ข้างถนนหลังจากไม่ได้กินอะไรมาเป็นวัน ๆ แล้วทั้งสองก็เล่าให้โดกีฟังว่า ทั้งคู่ไปหาข้อมูลคดีคนหายที่สถานีตำรวจ เมื่อรู้ว่าอีดงแจมาทำงานที่โคทายา เวียดนาม ทั้งสองจึงรีบบินตรงมาทันทีเพื่อช่วยโดกี แต่เกิดบังเอิญไปเจอกับโจทก์เก่า คือ คุณนายอิม ที่ไชน่าทาวน์ ทำให้ต้องทิ้งกระเป๋าเดินทางและทรัพย์ทั้งหมดเอาไว้ จนกระทั่งได้มาเจอโดกีโดยบังเอิญ

เมื่อโดกีได้ยินชื่อ “คุณนายอิม” เขาจึงปิ๊งไอเดียที่ใช้ตามหาตัวอีดงแจขึ้นมา (คุณนายอิมคือสาวใหญ่ที่หลงรักโดกี แต่ก็โดนเขาหลอกใน ซีรีส์ Taxi Driver ซีซั่น 1 Ep.10 ทำให้เธอโกรธแค้นโดกีมาตลอด)

โดกีไปปรากฏตัวที่ไชน่าทาวน์ให้คุณนายอิมเห็น จากนั้น เขาก็รีบขับแท็กซี่ออกไปทันที … คุณนายอิมจึงสั่งลูกน้องให้ตามล่าตัวโดกีด้วยความโกรธแค้น ไม่นานนักกองกำลังของคุณนายอิมก็มาบุกสถานที่ที่โดกีถูกพวกชั่วขังเอาไว้

ทีนี้ เมื่อไอ้พวกชั่วโดนบุกอย่างไม่ทันตั้งตัว จึงมีคำสั่งให้ทุกทีมไปรวมตัวกัน ณ ที่ทำการของหัวหน้าแก๊ง ส่วนคุณนายอิมก็พลาดที่จะได้เจอกับโดกีอีกเช่นเคย

โดกีและเหยื่อคนอื่น ๆ ถูกพาตัวมายังที่ทำการของหัวหน้าแก๊ง ที่นั่นโดกีเห็นอีดงแจในสภาพโดนทำร้ายจนใบหน้าและร่างกายพังยับเยิน สักพักหัวหน้าแก๊งก็ปรากฏตัว โกอึนมองผ่านกล้องบนแว่นตาอัจฉริยะของโดกีเมื่อได้เห็นหน้าของหัวหน้าแก๊ง จึงพูดบอกโดกีไปทันทีว่า หัวหน้าแก๊งเป็นตำรวจเกาหลี และเป็นหัวหน้าของเธอเอง !

จังหวะนั้น จินออนกับคยองกูก็ปลอมเป็นตำรวจเวียดนามบุกเข้ามา ทำให้พวกชั่วโดนจับเอาไว้ได้ทั้งหมด ส่วนตัวหัวหน้าแก๊งที่เป็นตำรวจชั่วก็ถูกกระสุนจากมือสไนเปอร์ยิงสังหารจากระยะไกล โดกีได้แต่สงสัยว่าผู้ที่ลั่นไกคือใคร ?

อย่างไรก็ตาม แก๊งพนันออนไลน์ระหว่างประเทศก็โดนทลายไปได้ ทั้งหมดถูกจับกุม ส่วนอีดงแจก็กลับคืนสู่อ้อมอกพ่ออีกครั้ง … งานของโดกี และทีมเรนโบว์แท็กซี่เสร็จสมบูรณ์อีกครั้ง

ในตอนท้าย สมาชิกเรนโบว์แท็กซี่ทั้งห้าอยู่กันอย่างพร้อมหน้าที่ฐานลับใต้ดิน ทั้งห้าตกลงกันว่าจะร่วมมือกันจัดการกับความอยุติธรรม ที่พวกคนชั่วอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายอีกครั้ง

EP.3 นักร้องหน้ากากคนดี

โดกีบังเอิญรับผู้โดยสารที่เป็นทหารรุ่นน้องในหน่วยพิเศษที่เขาเคยสังกัดสมัยอยู่ในกองทัพ เมื่อไปถึงปลายทางที่เป็นค่ายทหาร โดกีได้ยินเสียงนกหวีดของครูฝึก มันทำให้เขานึกถึงบาดแผลในใจที่แม่ถูกฆาตกรรม ซึ่งเป็นเสียงเดียวกับเสียงหวีดของกาต้มน้ำที่แม่เขาต้มก่อนเสียชีวิต

เพื่อที่จะเอาชนะบาดแผลนั้น โดกีจึงขอซื้อนกหวีดจากเด็ก ๆ ที่สนามเด็กเล่น แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่สามารถเอาชนะบาดแผลนั้นด้วยการเป่านกหวีดได้อยู่ดี

ระหว่างนั้น จางซองชอลได้รับข้อมูลว่า กระสุนที่สังหารหัวหน้าแก๊งเป็นกระสุนของเกาหลี นั่นหมายความว่า คนที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มากด้วยอำนาจ ถึงสามารถสั่งให้มือสไนเปอร์สังหารนายตำรวจระดับหัวหน้าได้ในต่างแดน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร แต่ “มัน” ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

โดกีเมื่อรู้เช่นนั้นก็สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที “มันคือใครกันนะ ?”

นักต้มตุ๋นในคราบหนุ่มจิตใจดี

หญิงสูงวัยในชุดฮันบกกำลังตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยวิธีให้รถไฟพุ่งชน แต่บังเอิญเหลือบไปเห็นสติ๊กเกอร์ “อย่าตาย แก้แค้นสิ” ที่ติดอยู่ที่รางรถไฟ

เมื่อได้รับการติดต่อจากคุณยาย โดกีจึงรีบเดินทางไปหาทันที คุณยายจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น …

วันหนึ่ง มีนักร้องหนุ่มมาจัดการแสดงที่เรียกว่าเทศกาลความสุขผู้สูงอายุ พร้อมกับตั้งขายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ชายหนุ่มจะแสดงตัวเป็นคนดี และอ้างว่าทำการแสดงเพื่อหาเงินไปดูแลลูกวัยห้าขวบที่กำลังป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ระหว่างนั้นมันก็มองหาเหยื่อ เหยื่อที่อยู่เพียงลำพัง เหยื่อที่ไม่มีลูกหลานคอยดูแล

ชายหนุ่มหลอกให้คุณยายเกิดความสงสาร คุณยายจึงเอาเงินเก็บไปช่วยอุดหนุนซื้อสินค้า แต่ชายหนุ่มกลับปฏิเสธที่จะเอาเงินของคุณยาย มันกลับเสนอให้คุณยายสมัครบัตรเครดิตแทน เพราะมันจะได้ค่าคอมมิชชั่นโดยที่คุณยายไม่ต้องเสียเงิน มันหลอกคุณยายว่า “เมื่อคุณแม่ได้รับบัตรเครดิต ถ้าไม่ใช้ก็หักทิ้งได้เลย”

วันต่อมา ชายหนุ่มก็หลอกให้คุณยายมาช่วยเฝ้าเต็นท์ขายสินค้า เมื่อคนเห็นว่าคุณยายเป็นคนขายจึงมาช่วยซื้อสินค้าจนเกือบหมด

แต่ยังไม่ทันข้ามวัน ลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปก็เอาสินค้ามาคืน เพราะสินค้าทั้งหมดเป็นสินค้าไร้คุณภาพ คุณยายปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเจ้าของ คนที่ซื้อสินค้าจึงรวมกลุ่มกันไปแจ้งความ … เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า มีหลักฐานว่าคุณยายใช้บัตรเครดิตในชื่อตัวเอง ไปซื้อสินค้าคุณภาพต่ำพวกนั้นแล้วมาขายในราคาแพง

บัตรเครดิตของคุณยายถูกเอาไปใช้จนเต็มวงเงิน ในหัวของคุณยายมีอยู่สองทางให้เลือก หนึ่ง บอกลูกชายที่ทำงานที่โซลให้หาเงินมาช่วย สอง จบชีวิตตัวเอง … คุณยายเลือกจบชีวิตตัวเองเพราะไม่ต้องการทำให้ลูกชายต้องมาเดือดร้อน … หัวอกคนเป็นแม่ กลัวลูกลำบากมากกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก

แต่ทีมเรนโบว์แท็กซี่เสนอทางเลือกที่สามให้กับคุณยาย คือ เอาเงินทุกบาททุกสตางค์คืน และล้างแค้นไอ้ชั่วในคราบคนดี !!!

หลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด สมาชิกในทีมเรนโบว์แท็กซี่ทุกคนยกมือโหวตรับเคสนี้อย่างเป็นเอกฉันท์ จากนั้น ทีมก็หาข้อมูลและลงพื้นที่สืบสวนทันที แล้วก็พบว่าพวกมันทำงานกันเป็นขบวนการ

นักร้องหนุ่มเป็นคนหาเหยื่อผู้สูงอายุแล้วหลอกให้ทำบัตรเครดิต จากนั้นก็ส่งบัตรเครดิตไปให้แก๊งที่จะเอาบัตรไปสมัครใช้บริการต่าง ๆ และซื้อไอเท็มเกมจนบัตรเต็มวงเงิน (เป็นวิธีการดูดเงินจากบัตรเครดิตวิธีการหนึ่ง)

เมื่อรู้เช่นนั้น โดกีจึงบุกเดี่ยวไปยังรังของแก๊งที่เปิดร้านโทรศัพท์บังหน้า ใช้เวลาไม่นาน เสียเหงื่อไม่กี่หยด โดกีก็จัดการพวกสถุลนี้ได้อย่างง่ายดาย

ต่อมา นักร้องหนุ่มกับลูกน้องอีกสองคนกำลังขับรถอยู่ในถนนชนบท รถก็เกิดเสียขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เวลานั้นเอง ชายหนุ่มรูปงามนามว่าโดกีก็แต่งตัวในชุดเกษตรกร กำลังขี่รถไถมุ่งมายังนักร้องหนุ่มที่กำลังยืนมองด้วยความงงงวย …

EP.4 ติดกับดักความโลภของตัวเอง

โกอึนสืบจนรู้ว่า “นักร้องหน้ากากคนดี” คนนี้ชื่อยูซังกี แต่เธอตรวจสอบไม่พบข้อมูลทางด้านการเงินของมันเลย ไม่มีบัญชีธนาคาร ไม่มีบัตรเครดิต ไม่มีการทำธุรกรรมทางการเงินใด ๆ ทั้งสิ้น โกอึนจึงสันนิษฐานว่ามันคงเป็นพวกใช้เงินมือเติบ หลอกคนมาได้ก็ใช้จนหมด แต่โดกีไม่คิดเช่นนั้น เขาสังเกตจากการใช้เงินของมัน เขาคิดว่ามันต้องซุกซ่อนเงินเอาไว้ ซึ่งเขาต้องหาให้เจอว่ามันอยู่ที่ไหน

โดกีปลอมตัวเป็นช่างซ่อมรถบ้านนอกผู้ใสซื่อจิตใจดี และแกล้งทำตัวโง่ ๆ เซ่อ ๆ เพื่อให้ยูซังกีและลูกสมุนทั้งสองของมันตายใจ จากนั้น โดกีก็ลงมือซ่อมรถให้ โดยได้แอบติดตั้งกล้องและอุปกรณ์ดักฟังต่าง ๆ เอาไว้

เศรษฐีชราสติเลอะเลือน

ระหว่างนั้น จางซองชอลก็ปลอมตัวเป็นเศรษฐีชราที่หลง ๆ ลืม ๆ เพื่อเป็นเหยื่อล่อ

ที่บ้านของเศรษฐีชรา [จางซองชอล] มี Porsche SUV จอดอยู่ รองเท้าที่วางอยู่หน้าบ้านก็มีแต่รองเท้าแบรนด์เนม มีไวน์ ไม้กอล์ฟ และข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นของมีราคา ทำให้ยูซังกีมั่นใจว่าเศรษฐีชราผู้นี้เป็นเศรษฐีตัวจริงที่ตอนนี้สติเลอะเลือน พวกมันจึงแอบติดตามพฤติกรรมของเศรษฐีชรา

กลางวัน เศรษฐีชราก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ ออกจากบ้านไป แล้วกลับบ้านมาพร้อมกับกล่องเงินสด เมื่อรู้เช่นนั้น ยูซังกีถึงกับตาลุกวาวที่ได้เจอกับขุมทรัพย์มหาศาล มันจึงพยายามตามเศรษฐีชราไปหาที่ดินที่ฝังสมบัติเอาไว้

ยูซังกีคิดในใจว่าวันนี้ตัวเองจะรวยมหาศาล มันสั่งลูกน้องให้ไปขุดดินหาเงินสดที่ฝังดินเอาไว้ทันที แล้วมันก็เจอกระเป๋าที่ถูกฝังเอาไว้จริง ๆ ยูซังกีและลูกสมุนทั้งสองกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ แต่เมื่อเปิดกระเป๋าออกมา ปรากฏว่าในนั้นมี “ขรี้” อยู่ 4 ก้อน !

ยูซังกีโดนทีมเรนโบว์เล่นด้วยของเหม็นสีเหลืองทองอร่ามเข้าให้แล้ว 🤣

ติดกับดักความโลภของตัวเอง

ระหว่างนั้น โกอึนจึงปลอมตัวเป็นนักร้องสาวพาร์ตไทม์ เธอเป็นที่ถูกใจของเศรษฐีชรา จึงยกรถ Porsche SUV สี Carmine Red คันโตให้ และยังบอกสถานที่ฝังเงินสดให้เธออีกด้วย เมื่อยูซังกีรู้ก็ตาลุกวาวรีบสั่งลูกน้องให้ขับรถตามโกอึนทันที

โกอึนขับรถไปที่หน้าผาแห่งหนึ่ง แต่ยูซึงกิไปถึงช้าเพราะถูกรถไถของโดกีขับมาขวาง เมื่อยูซังกีไปจนถึงหน้าผาก็เจอแต่รถ Porche จอดอยู่ ระหว่างนั้น โดกีที่ขับรถไถตามมาก็กดปุ่มปลดเบรกมือ รถของยูซังกีจึงไหลตกเขาไปแล้วก็ระเบิดจนไฟลุกไหม้ คนที่ตกใจสุดขีดเหมือนสูญสิ้นทุกอย่างไปแล้วในชีวิตคือ ยูซังกี มันไม่ได้เสียดายรถ ไม่ได้เสียดายจริง ๆ แล้วอะไรคือสิ่งที่มันเสียดาย !?

ย้อนกลับไปคืนก่อนหน้า โดกีเข้าไปค้นหาที่ซ่อนเงินสดและทองคำแท่งในรถของยูซังกี และก็พบเงินที่ซ่อนเงินจริง ๆ เมื่อโดกีได้เงินทั้งหมดแล้ว เขาจึงติดตั้งกลไกและระเบิดเอาไว้แทน … นั่นหมายความว่าสิ่งที่ยูซังกีร้องลั่นออกมา เนื่องจากมันสูญเสียเงินเก็บทั้งหมกที่ได้จากการหลอกลวงผู้สูงอายุมาตลอดทั้งชีวิต

เมื่อเสียทุกอย่างไป ความโลภจึงกลับมาเล่นงานยูซังกี ทางเดียวที่จะทำให้มันได้ทุกอย่างคืนคือสมบัติของเศรษฐีชรา มันไล่ลูกสมุนของมันไปเพราะไม่ต้องการแบ่งสมบัติให้ใคร ยูซังกีในเวลานี้ไม่ต่างไปคนที่โดนปีศาจแห่งความโลภเข้าสิง มันเข้าไปยังที่ดินที่มันคิดว่าเศรษฐีชราฝั่งสมบัติเอาไว้ มันใช้พลั่วขุดดินลงไปอย่างกับคนบ้า แล้วไม่นานนักมันก็พบความจริงที่ว่า ที่ดินที่มันขุดอยู่ไม่มีสมบัติใด ๆ มีแต่ทุ่นระเบิดฝังอยู่เต็มไปหมด แล้วขาของมันก็ไปเหยียบเข้ากับทุ่นระเบิด มันร้องเสียงหลงด้วยความกลัวผสมกับความโกรธแค้น

ด้านทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็เอานำเอาเงินสดที่ยึดคืนมาได้จากยูซังกีไปคืนให้ผู้สูงอายุที่ถูกมันโกง ส่วนที่เหลือก็นำไปซื้อข้าวของมาแจกผู้สูงอายุ

โดกียิ้มอย่างผู้ชนะ ในขณะที่ยูซังกีก็ยังคงใช้ขาของตัวเองเหยียบทุ่นระเบิดนั้นต่อไป โดยที่ไม่สามารถยกขาออกมาได้ …

EP.5 เด็กน้อยผู้น่าสงสาร

เรื่องราวเริ่มต้นตอนกลางดึกคืนหนึ่ง เด็กหญิงตัวน้อยกำลังวิ่งหนีชายสองคน เด็กน้อยหนีเข้าไปซ่อนอยู่ในซอกเล็ก ๆ ซอกหนึ่ง ทำให้ชายทั้งสองหาไม่เจอ สักพักทั้งสองจึงตกลงกันว่า จะติดต่อกับแม่เพื่อให้ไปแจ้งความเด็กหาย

วันต่อมา โดกีกระทืบเบรกอย่างกะทันหันเมื่อมีเด็กหญิงตัดหน้ารถ เขารีบลงไปดูเด็กน้อยที่ดูเหมือนเป็นเด็กเร่ร่อนซึ่งอยู่ในอาการหวาดกลัว จากนั้นโดกีจึงพาเด็กน้อยมาที่เรนโบว์แท็กซี่ เนื่องจากเด็กน้อยไม่ต้องการไปสถานีตำรวจ

ระหว่างนั้น ทีมงานเรนโบว์แท็กซี่สังเกตเห็นความผิดปกติหลายอย่าง เด็กน้อยมีอาการหวาดกลัว เธอเอาแต่พูดว่า “ช่วยหนูตามหาโซมังหน่อยค่ะ” อีกทั้งเธอยังไม่ต้องการกลับไปหาแม่ และไม่ต้องการพบตำรวจอีกด้วย

จางซองชอลหาข้อมูลจากตำรวจ ทำให้ได้ข้อมูลเบื้องต้นว่าแม่ของเด็กเข้ามาแจ้งความเด็กหาย โดยระบุชื่อของหนูน้อยว่า “ซอยอน” มีน้องสาวชื่อ “โซมัง” … โดกีจึงรีบออกไปสืบตามที่อยู่ที่แม่เด็กให้ได้ ทำให้ได้รู้ว่าแม่เด็กได้ให้ลูกตัวเองอยู่กับคนอื่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนที่ชื่อ “โปรคัง”

โปรคังมีชื่อจริงว่าคังพิลซึง เจ้าของบริษัทฟีลคอนซัลติ้ง มีชื่อเสียงในโลกโซเชียลจากการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังเป็นเจ้าพ่ออสังหาฯ ที่ถือครองทรัพย์สินเป็นอพาร์ตเมนต์สุดหรูเป็นจำนวนมาก

คู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามัน

เพื่อการสืบสวนลึกเข้าไปอีก โดกีจึงขอให้โกอึนปลอมตัวเป็นคู่แต่งงานใหม่ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาจากโปรคัง ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน จนถึงขั้นตอนการรับคำปรึกษาแบบตัวต่อตัว แต่ปรากฏว่าโปรคังปฏิเสธ เพราะทั้งสองมีการเงินดีเกินกว่าเกณฑ์ที่เขากำหนด … ซึ่งโกอึนก็งง เพราะปกติผู้ที่จะซื้อบ้านยิ่งมีการเงินดีก็น่าจะได้รับสิทธิ์ ?

อย่างไรก็ตาม โดกีคิดแผนที่จะให้เขากับโกอึนได้เข้ารับคำปรึกษาแบบตัวต่อตัวอีกครั้ง ในคืนนั้น ทีมเรนโบว์แท็กซี่จึงแฮ็กเข้าระบบและสั่งดับไฟทั้งออฟฟิศ จากนั้นก็แอบเข้าไปจุดไฟเพื่อให้สปริงเกอร์ทำงาน

เมื่อเอกสารโดนทำลาย รุ่งขึ้นโปรคึงจึงต้องเรียกโดกีกับโกอึนให้เข้ามาประเมินใหม่อีกครั้ง โดยครั้งนี้ โดกีกับโกอึนแจ้งว่าสถานะการเงินของพวกเขาอยู่ในสถานะย่ำแย่ โดยอ้างว่าได้นำเงินไปออลอินกับเหรียญชิบะ (Dogecoin) จนหมดเนื้อหมดตัว โปรคังจึงตกลงรับทั้งสองเข้าโครงการ

โดกีกับโกอึนคิดว่าเรื่องจะจบแค่นี้ แต่โปรคังต้องการจะเข้ามาดูบ้านของพวกเขา ทำให้โดกีกับโกอึนต้องเพื่อสองพี่น้องสติเฟื่องในทีมเรนโบว์แท็กซี่ ให้เนรมิตห้องที่ท้องสองอยู่ด้วยกัน โดยมีเวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมง

ไม่นานนัก โปรคังก็มาถึงห้องเช่าของคู่แต่งงานใหม่อย่างโดกีและโกอึน แต่ดูเหมือนว่าสองพี่น้องสติเฟื่องจะทำการตกแต่งภายในบ้านมากจนเกินไป ทำให้โปรคังทำสีหน้าสงสัย และเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “พวกคุณสองคุณไม่ใช่คู่แต่งงานใหม่จริง ๆ ใช่มั้ย ?”

EP.6 น่าสะอิดสะเอียน

โปรคังจับได้ว่าโดกีและโกอึนไม่ใช่คู่แต่งงานกันจริง ๆ โดกีจึงใช้ไหวพริบงัดไม้ตายสุดท้ายขึ้นมา คือ แสดงให้โปรคังเห็นว่าพวกเขาอยากได้บ้านมากแค่ไหน … โดกีลงไปคุกเข่าต่อหน้าโปรคังแล้วยอมรับเขากับโกอึนไม่ได้เป็นคู่รัก แต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง

โปรคังเมื่อเห็นความตั้งใจของโดกีและโกอึน ถึงขนาดลงทุนจดทะเบียนสมรสจึงชอบใจ และได้เลือกทั้งสองให้ได้สิทธิ์ซื้อบ้านหรู โดยจะติดต่อให้มาดำเนินเรื่องเอกสารต่อไป

ระหว่างนั้น ทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็ยังคงสืบหาเด็ก ๆ แต่ก็ยังมืดแปดด้าน

โปรคังเดินทางมายังสถานที่แห่งหนึ่งที่ถูกทำเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเถื่อน เป็นบ้านซอมซ่อเล็ก ๆ ที่ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้า ที่นั่นมีเด็ก ๆ นับสิบอาศัยอยู่ เมื่อโปรคังไปถึงก็โปรยขนมและนมให้ และสั่งให้เด็ก ๆ กินขนมเหล่านั้นได้เมื่อมันสั่นกระดิ่งอนุญาต … มันเลี้ยงเด็ก ๆ ไม่ต่างกับสุนัข มันยังเป็นคนอยู่หรือเปล่านะ !?

ต่อมา โปรคังโทร. นัดโดกีกับโกอึนให้มาเจอกันที่โรงพยาบาลสูติ-นรีเวชในตอนกลางคืน เมื่อทั้งสองมาถึงก็แปลกใจ ทั้งโรงพยาบาลไม่มีใครอยู่เลย !?

จากนั้น โปรคังก็อธิบายว่าวิธีที่ทำให้กู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้นคือการมีลูก เขายื่นเอกสารการแจ้งเกิดให้ โกอึนถึงกับหน้าเสีย “นี่มันเรื่องอะไรกันนะ ?” … สักพักความจริงก็ปรากฏ เมื่อโปรคังนำคุณแม่เลี้ยงเดียวที่ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงลูกมาทำคลอด โดยอ้างว่าเลี้ยงดูลูกให้เป็นอย่างดี

นั่นหมายความว่า โปรคังเสนอความช่วยเหลือให้คุณแม่เลี้ยงเดียว โดยสัญญาว่าจะเลี้ยงดูลูกให้ จากนั้นก็ให้พ่อแม่ปลอมเซ็นเอกสารแจ้งเกิด แล้วโปรคังก็ใช้เด็กเป็นเครื่องมือที่ทำให้คู่แต่งงานสามารถกู้ซื้อบ้านราคาแพงได้ แต่เมื่อคู่แต่งงานไม่สามารถจ่ายค่างวดได้ โปรคังก็จะยึดบ้านเหล่านั้นมาเป็นของตัวเอง เป็นเหตุผลที่ทำให้โปรคังมีคอนโดหรูมากกว่า 30 แห่ง

โดกีโกรธจัดที่ไอ้พวกชั่วพวกนั้นทำกับเด็ก ๆ เขาจึงให้โกอึนสืบหาสถานที่ที่มีมูลค่าต่ำสุดในชื่อโปรคัง จนในที่สุดเขาก็พบที่ที่ให้ขังเด็ก ๆ เอาไว้ และสุดท้ายทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็ช่วยเด็ก ๆ ออกมาได้ปลอดภัยทั้งหมด

ส่วนโปรคังที่ไหวตัวทัน ก็รีบเกือบทรัพย์สินทั้งหมดเตรียมหนี แต่คิมโดกีไม่ปล่อยให้ไอ้ชั่วที่ทำกับเด็กแบบนี้หนีรอดไปได้หรอก โปรคังโดนทั้งหมัดทั้งถีบทั้งศอกระดมเข้าใส่ยอดหน้าจนต้องร้องขอชีวิต จากนั้น โดกีก็จับโปรคังไปทิ้งเอาไว้ที่กองขยะ แล้วเขาก็ถามคำถามโปรคังว่า เคยรู้สึกผิดกับเด็ก ๆ บ้างไหม ?

โปรคังตอบขณะที่ตัวเองนอนจมกองขยะ “เด็กพวกนั้มันโดนพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่ยังไม่เกิด ผมก็แค่เอาเด็กเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ แถมยังให้ข้าวให้น้ำกับที่ซุกหัวนอน ผมก็แค่เอาเด็กมาช่วยทำให้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น โดยขึ้นมาพวกมันก็ลืมหมดแล้ว”

เมื่อจบประโยคที่แสดงให้เห็นถึงความไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่นิดเดียว โดกีจึงขึ้นไปบนรถเครนและปล่อยขยะลงมาทับร่างของโปรคังให้อยู่กับกองขยะไปตลอดกาล

หลังจากทีมเรนโบว์แท็กซี่จัดการกับพวกชั่ว และช่วยเหลือเด็ก ๆ ให้อยู่กับผู้อุปการะใจดีเรียบร้อยแล้ว … ฮาจุน (รับบทโดย ชินแจฮา) คนขับรถแท็กซี่คนใหม่มารับรถที่อู่ เขาทักทายโดกีก่อนจะขับรถออกไป แต่เขาขับไปยังสถานที่หนึ่ง ที่ซึ่งคนในนั้นต่างโค้งคำนับให้กับเขา … ฮาจุนเป็นใครกันนะ ?

ในตอนท้าย โปรคังตอนนี้กลายเป็นคนเสียสตินั่งอยู่ที่กองขยะ เขาเอาแต่พูดว่าตัวเองมีคอนโดสุดหรู 30 ห้อง แต่ถูกคนขับรถแท็กซี่เอาไปหมด ก่อนที่จะหยิบเศษแซนด์วิชจากกองขยะขึ้นมากิน เวลานั้น ฮาจุนปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าโปรคังแล้วแสยะยิ้มออกมาแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “คนขับแท็กซี่อย่างงั้นเหรอ”

EP.7 ลัทธินอกรีต

ที่แท้โชเฟอร์ฮาจุน พนักงานขับแท็กซี่มือใหม่ที่ดูใสซื่อของอู่เรนโบว์แท็กซี่ กลับเป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากรระดับประเทศ ที่เสียผลประโยชน์จากการปราบปรามของเรนโบว์แท็กซี่ ตั้งแต่ธุรกิจพนันออนไลน์ที่ส่งคนไปเขียนโปรแกรมที่เวียดนาม สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเถื่อน หรือแม้แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ฉากหน้ามีโปรคังเป็นเจ้าของ

ต่อมา หญิงสาวคนหนึ่งได้เข้าขอรับความช่วยเหลือจากทีมเรนโบว์แท็กซี่ พี่สาวของเธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ระหว่างการรักษาอย่างยาวนาน พี่สาวเกิดหลงผิดไปเชื่อคำสอนของเจ้าลัทธินอกรีตที่เรียกตัวเองว่าเป็น “พ่อ”

คำสอนของมันคือให้ทุกคนตัดสัมพันธ์กับคนในครอบครัว และใช้ตัวมันเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงเหล่าสาวกเข้าด้วยกัน เพื่อจะได้รับสิทธิ์ขึ้นรถไฟไปสู่ปลายทางที่มันเรียกว่า “เนินเขาซุนแบค” ดังนั้น เหล่าสาวกจะถูกห้ามไม่ให้เจอกับพ่อแม่ญาติพี่น้องเด็ดขาด

ลัทธินอกรีตจะส่งคนไปฝังตัวอยู่ตามโรงพยาบาล เพื่อหาผู้ป่วยที่มีจิตใจอ่อนแอ ตอนนั้นเองที่พวกนั้นจะชักชวนคนเข้าลัทธิ จากนั้นมันจะค่อย ๆ ล้างสมองด้วยคลิปของเหล่าสาวก (ปลอม) ที่กล่าวเทิดทูน “พ่อ” ว่ามีอิทธิฤทธิ์ในการรักษาโรคให้หายได้จริง

คิมโดกีและทีมเรนโบว์แท็กซี่เข้าไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม จึงทำให้ได้รู้ว่ามันเป็นลัทธินอกรีตที่มีหัวหน้าลัทธิเป็นนักฉ้อโกงมืออาชีพ สิ่งที่น่ากลัวคือมันล้างสมองให้สาวกเชื่อว่า โรงพยาบาลและยารักษาโรคเป็นสิ่งชั่วร้าย แต่วิธีรักษาโรคที่แท้จริงคือคำพูดของ “พ่อ” … ระหว่างนั้น มันก็จะให้เหล่าสาวกกินน้ำที่มีส่วนผสมของมอร์ฟีน เพื่อทำให้เหล่าสาวกหลงเชื่อว่าพวกเขากำลังจะหายจากโรคร้าย

โกอึนสืบหาข้อมูลจนได้รู้ว่า เจ้าลัทธิที่เรียกตัวเองว่าพ่อคือ “อ๊กจูมัน” เคยมีคดีติดตัวกว่า 14 คดี ทั้งคดีแชร์ลูกโซ่ ยักยอก ฉ้อโกง และอีกมากมาย โกอึนยังพบด้วยว่า เป้าหมายของอ๊กจูมันคือการสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่ที่เนินเขาซุนแบค … และโดกีจะยอมให้มันทำสำเร็จไม่ได้ !

หมายเหตุ : สร้างจากเค้าโครงคดีลัทธินอกรีต JMS ในเกาหลี

EP.8 ความศรัทธา

แผนการของโดกีที่จะช่วยเหล่าสาวกให้หลุดพ้นออกมาจากคำสอนนอกรีต คือ ต้องทำลายความศรัทธาของเหล่าสาวกที่มีต่อเจ้าลัทธิอย่างอ๊กจูมัน เพราะความเชื่อความศรัทธาเป็นเรื่องที่ต้องให้เจ้าตัวยินยอมจากใจ

โดกีปลอมตัวเป็นเจ้าลัทธิลวงโลก และทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็วางแผนหลอกผีให้อ๊กจูมันกลัว แต่ด้วยความที่อ๊กจูมันเป็นคนไม่มีศาสนา ทำให้เขาไม่เชื่อเรื่องผีหรือเรื่องเหนือธรรมชาติใด ๆ แม้จะเจอกับสถานการณ์เฉียดตายหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ยังไม่เชื่อ สุดท้าย โดกีจึงต้องงัดแผนบีขึ้นมาใช้

โดกีให้ทีมเรนโบว์แท็กซี่หลอกผีอ๊กจูมันเหมือนเดิม จากนั้น โดกีก็แสดงตัวเป็นร่างทรงของแม่อ๊กจูมัน เมื่อเห็นแม่ตัวเองอ๊กจูมันจึงเกิดความศรัทธาในตัวโดกีทันที และเอ่ยปากว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้โดกีกำจัดผีที่จ้องเอาชีวิตเขา … โดกีจึงให้อ๊กจูมันเข้าพิธีไล่ผีต่อชะตา

ระหว่างนั้น ทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็ทำการบันทึกคลิปหลักฐานต่าง ๆ ที่ใช้เปิดโปงอ๊กจูมันเอาไว้หลายต่อหลายคลิป ไม่ว่าจะเป็นคลิปที่เขาเอ่ยปากว่า เขาเป็นคนไม่เชื่อพระเจ้า คลิปที่เขาให้เครื่องประดับเป็นรางวัลกับสาวกที่ทำหน้าที่หลอกคนเข้าลัทธิ ฯลฯ

เมื่อเก็บหลักฐานจนครบ ทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็เปิดคลิปเหล่านั้นให้เหล่าสาวกดูธาตุแท้ของเจ้าลัทธิ เมื่อทุกคนรู้ตัวว่าโดนหลอกก็เกิดความโกรธแค้น จึงพากันเข้าไปหยุมหัวอ๊กจูมัน จากนั้นก็กลับไปหาครอบครัวของตัวเอง และเข้ารับการรักษาโรคที่เป็นจากแพทย์แผนปัจจุบันตามที่ควรจะเป็น

EP.9 อุบัติเหตุทางการแพทย์

ฮาจุนถือกาแฟมาหาโดกีที่บ้าน อ้างว่ามีเรื่องที่ต้องการปรึกษา เขาเล่าเรื่องที่น้องชายของเขาโดนซ้อม โดยผู้ก่อเหตุเป็นคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน จากนั้นก็ตั้งคำถามแปลก ๆ กับโดกี “คนคนนั้น (ผู้ก่อเหตุ) กับผมจะเป็นเพื่อนกันได้ไหมครับ ?”

โดกีทำหน้างง ๆ แล้วก็ตอบกลับไปว่าไม่ได้ ฮาจุนจึงขอตัวเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นเขาก็ถือวิสาสะแอบดูเอกสารบางอย่างของโดกีที่วางอยู่บนโต๊ะ โดกีผิดสังเกตจึงเดินตามเข้ามาดู ฮาจุนก็ตีหน้าซื่อ แก้ตัวนู่นนี่นั่นไปน้ำขุ่น ๆ แล้วก็บอกว่ามีนัด ก่อนจะรีบกลับไปท้นที … โดกีมองไล่หลังฮาจุนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

หมอใจบุญกับชายกักขฬะ

รุ่งขึ้น โดกีขับรถส่งผู้โดยสารที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาได้เห็นชายขี้เมาตัวเหม็นท่าทางกักขฬะ ตั้งแคมป์ขึ้นป้ายประท้วงอยู่บริเวณทางเข้าโรงพยาบาล ป้ายเขียนข้อความกล่าวหา ผอ.อันยองซุกว่า ผ่าตัดผิดพลาดจนทำให้ลูกสาวของเขากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

เมื่อถึงเวลาที่ ผอ.อันยองซุกมาถึงโรงพยาบาล ชายขี้เมาก็หยิบโทรโข่งขึ้นมาต่อว่าด่าทอ อย่างไรก็ตาม ผอ.อันยองซุกก็เดินเข้าไปหาชายขี้เมาพร้อมด้วยผู้ติดตามอีกสามคน จากนั้นเธอก็ควักเงินสดยื่นให้ชายขี้เมาไปหาอะไรกิน และไปชำระล้างกายที่ซาวน่า ก่อน ผอ.หญิงจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลว่า เธออนุญาตให้เขาประท้วงได้ตามที่ต้องการ เพียงแต่ขอร้องอย่าใช้โทรโข่งรบกวนคนอื่น

สักพัก ลูกน้องคนหนึ่งของ ผอ.อันยองซุกที่ทนไม่ไหว จึงเดินมาต่อว่าด่าทอ และกล่าวว่าศาลตัดสินคดีไปแล้วว่าการผ่าตัดเป็นอุบัติเหตุ แต่ชายขี้เมาก็โต้เถียงกลับไปว่า ที่ศาลตัดสินแบบนั้นเพราะมีการทำหลักฐานปลอมขึ้นมา ก่อนที่ชายขี้เมาจะร้องเอะอะโวยวายเสียงดังออกมาด้วยความอึดอัด … โดกีเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ก็เก็บความรู้สึกเอาไว้

คืนนั้น ชายขี้เมาเกิดไปเห็นสติกเกอร์ของเรนโบว์แท็กซี่ เขาจึงโทร. ไปปรึกษาและเล่าเรื่องทั้งหมด …

เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ชายขี้เมาได้พาลูกสาวเข้าผ่าตัดกับหมอชื่อดัง ผอ.อันยองซุก ก่อนการผ่าตัดทุกอย่างเป็นปกติ ตลอดระยะเวลา 3 ชั่วโมงของการผ่าตัด ชายขี้เมาเฝ้ารอลุ้นอาการของลูกสาวด้วยความกระวนกระวายใจ แต่เมื่อผ่าตัดเสร็จปรากฏว่าลูกสาวของเขาก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย

เรื่องดำเนินไปถึงชั้นศาล ชายขี้เมายืนยันกับศาลว่าเขาได้กลิ่นเหล้าจากตัวของ ผอ.อันยองซุกขณะกำลังเข้าทำการผ่าตัด แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มีเพียงคำกล่าวอ้าง ด้านทนายของ ผอ.ก็อ้างว่าการผ่าตัดดำเนินไปด้วยดี แต่การที่คนไข้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราก็เพราะคนไข้ได้รับผลข้างเคียงที่เกิดจากยาสลบ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หนึ่งในหมื่น เป็นตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ ทนายใช้คำเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ‘อุบัติเหตุทางการแพทย์’

อุบัติเหตุทางการแพทย์

เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากลูกค้า ทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็ดำเนินการสืบสวน โดยเริ่มจากพฤติกรรมส่วนตัวของ ผอ.อันยองซุก แต่ดูเหมือนยิ่งสืบก็ยิ่งพบว่าเธอเป็นหมอใจบุญที่ทำโครงการช่วยเหลือผู้คนมากมาย … โกอึนเช็กข้อมูลบัตรเครดิต ก็ไม่พบเธอเข้าร้านเหล้าเลย

ข้อมูลที่ได้เบื้องต้น สมาชิกทีมเรนโบว์แท็กซี่ลงมติเอกฉันท์ไม่รับเคสนี้มาทำ อย่างไรก็ตามทุกคนในทีมก็ยังแคลงใจ โกอึนจึงปลอมตัวเป็นพนักงานทำความสะอาด แอบเข้าไปในห้องรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล เพื่อแฮ็กกล้องวงจรปิดและเซิร์ฟเวอร์ของโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็ไม่พบข้อมูลอะไรเลย

ด้านโดกีก็สงสัยเช่นกัน เขาปลอมตัวเข้ามาหาข้อมูลในห้องเวชระเบียนของโรงพยาบาล โดกีพบเวชระเบียนของลูกสาวชายขี้เมาถูกวางตรงที่มีน้ำรั่ว เอกสารจึงถูกน้ำทำลายจนเสียหายทั้งหมด โดกีรู้ได้ในทันทีว่าต้องความจริงที่ถูกซ่อนอยู่ เขาจึงตัดสินใจเข้าไปอยู่ ณ จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ นั่นก็คือ ห้องผ่าตัด

โดกีปลอมตัวเป็นหมอแอบเข้าไปถายในห้องผ่าตัด แต่จู่ ๆ สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น โกอึนรีบบอกกับโดกีว่าภายในห้องผ่าตัดมีอุปกรณ์ตรวจจับการบันทึกวิดีโอ พูดไม่ทันขาดคำ ผอ.อันยองซุกกับลูกน้องก็มาที่ห้องผ่าตัดทันที ส่วนโดกีก็ใช้สกิลตีนแมวหลบเข้าไปซ่อนอยู่ภายในตู้เก็บของ … ทำไมโรงพยาบาลจึงต้องติดตั้งอุปกรณ์ดักจับการใช้กล้องในห้องผ่าตัด ทั้งที่เป็นอุปกรณ์ราคาแพง ?

อีกหลักฐานที่ทำให้สมาชิกทีมเรนโบว์แท็กซี่เปลี่ยนใจรับเคสชายขี้เมามาทำก็คือ การที่เขาไม่ยอมเคลมประกันชีวิตของลูกสาวมูลค่า 54 ล้านวอน (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) เพราะการเคลมประกันเป็นการยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ

โดกียืนยันว่าต้องเข้าไปในห้องผ่าตัดเพื่อพิสูจน์ความจริง เขาจึงจัดฉากให้ตัวเองเกิดอุบัติเหตุรถชน จนต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยใช้แว่นอัจฉริยะที่ซ่อนกล้องขนาดเล็กเอาไว้ ซึ่งโกอึนจะสั่งให้กล้องทำงานเมื่อโดกีอยู่ระหว่างทำการผ่าตัด เพื่อไม่ให้ถูกจับได้

ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น โดกีก็หมดสติไปเพราะฤทธิ์ของยาสลบ โกอึนเปิดให้กล้องจากแว่นอัจฉริยะทำงาน ระหว่างนั้นเองเธอก็ได้เห็นภาพอันน่าตกตะลึง ผู้ที่ผ่าตัดโดกีไม่ใช่ ผอ.อันยองซุก แต่กลับเป็นคนที่เธอเรียกว่า “หมอกง” !!?

EP.10 โรงงานผ่าตัด

ด้วยไหวพริบของโกอีนจึงช่วยให้โดกีรอดจากการผ่าตัดโดยคนที่ถูกเรียกว่า ‘หมอกง’

จากนั้น โดกีก็ตามสืบว่าหมอกงคือใคร ในที่สุดก็รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่หมอ แต่เป็นเซลส์แมนของบริษัทชายเวชภัณฑ์ที่ชื่อ MEDITOPIA ! นั่นหมายความว่า ผอ.อันยองซุกใช้เซลส์แมนผ่าตัดแทนเพราะถูกกว่าจ้างหมอ แลกกับคำสั่งซื้อเวชภัณฑ์

โกอึนพบหลักฐานที่น่าตกใจยิ่งกว่า ผอ.อันยองซุกเปลี่ยนชื่อเมื่อ 4 ปีก่อน เดิมชื่ออันจีอึน เมื่อสืบค้นข้อมูลก็พบว่า เธอเคยเปิดคลินิกเอกชนและเคยถูกระงับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เนื่องจากจ้างเซลส์แมนมาผ่าตัดแทน แต่หลังจากนั้นหกเดือน คำสั่งระงับใบอนุญาตก็ถูกเพิกถอน ทำให้เธอกลับมาเป็นหมอได้อีกครั้ง จากนั้น เธอก็ลบประวัติเก่าทิ้ง แล้วมาเปิดโรงพยาบาลใหม่ แต่ก็ยังใช้วิธีจ้างเซลส์แมนมาผ่าตัดเหมือนเดิม

เมื่อรู้ความจริง โดกีจึงไปรีดความจริงจากเซลส์แมนกง เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกสาวชายขี้เมาจึงได้ปรากฏออกมา …

วันนั้น เซลส์แมนกงได้รับคำสั่งจาก ผอ.อันยองซุกให้มาผ่าตัดแทนตามปกติ เนื่องจาก ผอ.หญิงติดเหล้าจนมือสั่น ทำให้ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ ด้วยความที่เซลส์แมนกงไม่ได้เป็นหมอ ทำให้เขาทำผิดพลาดในการผ่าตัดลูกสาวชายขี้เมา จนทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา “ผมไม่มีทางเลือก ผมจำเป็นต้องทำ ถ้าเปิดโปงผมก็จะถูกไล่ออก และทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิม”

โดกีได้ยินคำแก้ตัวจากปากของเซลส์แมนกงก็โกรธจัด ตวาดกลับไปว่าสิ่งที่ทำเรียกว่าผู้สมรู้ร่วมคิด ซึ่งมีความผิดไม่ต่างไปจากตัวการอย่าง ผอ.อันยองซุกเลยแม้แต่นิดเดียว

ไม่สำนึกเลยแม้แต่นิดเดียว

วันต่อมา โดกีก็สืบหาความจริงต่อจนได้พบความจริงว่า ผอ.อันยองซุกทำโครงการรักษาผู้สูงอายุฟรี เป็นเพราะเธอจะเสนอการผ่าตัดฟรีให้คนแก่เหล่านั้น โดยอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายยื่นเบิกเงินค่าผ่าตัดกับรัฐ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ผอ.อันยองซุกมีเคสผ่าตัดเยอะ … โดกีเรียกโรงพยาบาลแห่งนี้ว่า ‘โรงงานผ่าตัด’

ระหว่างนั้นมีผู้ป่วยสูงอายุรายหนึ่งกำลังจะถูกปล่อยให้ตาย ทีมเรนโบว์แท็กซี่จึงรอช้าไม่ได้ ต้องรีบปิดเกมทันที เริ่มด้วยการวางแผนปลอมลายเซ็น ผอ.อันยองซุก เซ็นบริจาคเงินรายได้ทั้งปีให้กับมูลนิธินกฟ้าเพื่อผู้สูงอายุ จากนั้นก็จัดฉากวางยาต่าง ๆ ขึ้นในโรงพยาบาล ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐเข้าตรวจสอบ เช่น ใช้เข็มฉีดยาซ้ำ, เบิกยาจิตเวชให้ตัวเองกิน, ให้ยาหมดอายุกับคนไข้ และสุดท้าย เซลส์แมนกงเข้ามอบตัวกับตำรวจ และสารภาพความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ผอ.อันยองซุกไม่รู้สึกสำนึกผิดเลยสักนิด เธอกลับมาเอาเหล้าราคาแพงที่โรงพยาบาล แล้วก็พูดออกว่า “ก็แค่เสียค่าปรับ เปลี่ยนชื่อ แล้วเปิดโรงพยาบาลใหม่ ไม่นานคนก็ลืม ไอ้พวกโง่เอ๊ย”

โดกีมารออยู่ที่ห้องผ่าตัด เขายิงคำถามใส่ ผอ.อันยองซุก “คุณเลือกจะทำยังไงต่อไป ระหว่างสำนึกผิดกับเปลี่ยนชื่อแล้วกลับมาทำเหมือนเดิม ?” เขาไม่รอให้ ผอ.หญิงตอบ มือที่ถือเข็มฉีดยาสลบก็วาดเข้าไปที่ต้นคอของ ผอ.ชั่ว ก่อนที่จะยกตัวเธอขึ้นไปบนเตียงผ่าตัด สิ่งที่โดกีเลือกทำก็คือทุบมือของเธอซะ !!!

แล้วท้ายที่สุดปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น ลูกสาวของชายขี้เมาฟื้นขึ้นมา ผู้เป็นพ่อได้แต่น้ำตาไหลออกมาไม่หยุดด้วยความดีใจ

ฮาจุนโทร. สั่งให้นายตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจทำตามแผน … ขณะทีมเรนโบว์แท็กซี่กำลังขับรถกลับฐาน หลังปฏิบัติการล้างแค้นสำเร็จ จู่ ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น รถแท็กซี่ของโดกีเกิดวิ่งออกนอกเส้นทาง ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้ขึ้น โกอันและสองพี่น้องสติเฟื่องที่ขับรถตามมาต่างตกใจกับภาพที่เห็น !

EP.11 งานศพของคิมโดกี !

ในงานศพของโดกี ทีมเรนโบว์แท็กซี่ต่างพากันร้องไห้กันระงมด้วยความเสียใจ ท่ามกลางน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุดฮาจุนก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเดินไปยิ้มเยาะเบื้องหน้ารูปเหมือนของโดกีเหมือนเป็นการเย้ยหยัน เพราะเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการระเบิดที่เกิดขึ้น และฮาจุนก็ไม่คิดจะหยุดอยู่ที่การกำจัดโดกี เขาวางแผนที่จะถอนรากถอนโคนเรนโบว์แท็กซี่ให้สิ้นซาก

ภาพตัดกลับไปก่อนรถแท็กซี่วีไอพีจะเกิดระเบิดจนไฟลุกท่วม เมื่อโดกีสังเกตพบสิ่งผิดปกติเขาก็ตัดสินใจกระโดดออกจากรถทันที นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้โดกีรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด จากนั้น เขาก็วางแผนกระชากหน้ากากผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ โดยการแกล้งตาย และใช้งานศพของตัวเองในการหาตัวผู้ต้องสงสัย

ต่อมา ฮาจุนขอลาออกจากการเป็นคนขับแท็กซี่ โกอึนเช็กประวัติก็พบว่าคนที่น่าสงสัยมากที่สุดคือ ฮาจุน

ทีนี้ โกอึนพบว่าคนที่มางานศพโดกีเมื่อสืบย้อนกลับไปเป็นคนที่ทำงานที่คลับระดับหรูที่ชื่อ BLACK SUN ทีมเรนโบว์แท็กซี่จึงตกลงกันว่าจะเริ่มต้นสืบจากที่นั่น ด้วยความที่เป็นคลับหรูที่รับเฉพาะแขกระดับวีไอพี โดกีจึงต้องหาทางแอบเข้าไป เมื่อเข้าไปได้ก็แกล้งเข้าไปทักทายกับแขกระดับวีไอพีคนหนึ่งที่ชื่อ ‘ริกเตอร์’ ว่าเป็นเพื่อนเก่า ริกเตอร์ก็ทำหน้างง ๆ แต่ก็เออออกับโดกีไป เมื่อตีซี้กับแขกวีไอพีของคลับได้ โดกีจึงออกสำรวจภายในคลับ แล้วก็ไปพบสิ่งผิดกฎหมาย มีผู้เยาว์เข้ามาเที่ยวในคลับ โดกีจึงแจ้งตำรวจทันที แต่ …

แต่ตำรวจกลับทำในสิ่งตรงกันข้าม ตำรวจที่รับแจ้งความโทร. แจ้งบอกการ์ดของคลับ เมื่อการ์ดของคลับรู้จึงลากโดกีออกมาด้านนอก แล้วพากันรุมกระทืบเขาจมบาทา ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวโดกีไปสถานีตำรวจในข้อหาทำลายทรัพย์สินของคลับ

เวลาเดียวกัน ผอ.จางซองชอลได้รับแจ้งจากผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์หลักฐานว่า ระเบิดที่เกิดกับรถแท็กซี่วีไอพีของโดกีเป็นการวางระเบิดของหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของกระทรวงมหาดไทย เมื่อรู้ดังนั้น จางซองชอลก็แสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมาอย่างชัดเจน

ณ โรงพัก โดกีพยายามแก้ต่างให้กับตัวเองว่าไม่ได้ทำลายทรัพย์สินของคลับ ขณะนั้น ตำรวจผู้ทำการสอบปากคำก็ได้รับโทรศัพท์สายปริศนา จากนั้นก็เดินมาแจ้งกับโดกีว่า เขาถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม “ลวนลามพนักงานหญิงในคลับ” !

EP.12 คดีอื้อฉาว BLACK SUN

นักข่าวคิมยองมิน คนที่โดกีเคยให้ความช่วยเหลือบนดาดฟ้าของคลับ BLACK SUN มาให้การเป็นพยานกับตำรวจว่าโดกีเป็นผู้บริสุทธิ์ โดกีจึงได้รับการปล่อยตัว

โดกีได้ข้อมูลบางอย่างจากนักข่าวคิมยองมิน ทำให้เขาแน่ใจว่าคลับ BLACK SUN ไม่ใช่สถานบันเทิงปกติ โดกีจึงคิดแผนการแฝงตัวเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้เขาสวมรอยเข้าไปในฐานะพนักงานของคลับ แต่การจะเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามของคลับไม่ใช่เรื่องง่าย ระหว่างนั้น คนที่โดกีไม่คิดว่าจะเจอก็ปรากฏตัวขึ้น ฮาจุน !

โดกีใช้สกิลตีนแมวหลบฮาจุนไปได้ จังหวะนั้นก็มีพนักงานคลับประคองหญิงสาวคนหนึ่งที่หมดสติออกมา โดกีจึงอาสาขับรถไปให้ ระหว่างทางอยู่ดี ๆ ก็เกิดมีรถคันหนึ่งขับด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนรถที่โดกีกำลังขับ และคนที่ขับรถคันนั้นก็คือนักข่าวคิมยองมิน รถทั้งสองคันเสียหายอย่างหนัก นักข่าวคิมยองมินจึงตะโกนให้รีบพาหญิงสาวส่งโรงพยาบาล

ณ ห้องฉุกเฉิน นักข่าวคิมยองมินบอกกับโดกีถึงเหตุผลที่เขาต้องพุ่งเข้าชน ถ้าปล่อยไปหญิงสาวคนนั้นก็จะถูกล่วงละเมิดอย่างไร้ความปราณีด้วยฤทธิ์การถูกวางยาเสพติด ไม่นานนักเมื่อหญิงสาวได้สติ เธอพยายามแจ้งความว่าถูกวางยา แต่แทนที่ตำรวจจะรับแจ้งความ ตำรวจกลับจับหญิงสาวในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

นักข่าวคิมยองมินให้ข้อมูลกับโดกี เมื่อปีกลายเขาได้ข่าวจากนักสืบชเว แหล่งข่าวที่เป็นเพื่อนสนิทว่า มีการค้ายาเสพติดในคลับ BLACK SUN ระหว่างการสืบสวน จู่ ๆ นักสืบชเวก็เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่าเป็นการฆ๋าตัวตาย

นักข่าวคิมยองมินไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ที่นักสืบชเวจะฆ่าตัวตายแล้วทิ้งครอบครัวเอาไว้เบื้องหลัง เขาไม่มีเหตุผลในการฆ่าตัวตายเลยแม้แต่นิดเดียว นักข่าวคิมยองมินยังเชื่ออีกว่า นักสืบชเวถูกฆ่าปิดปากเพราะไปรู้ข้อมูลบางอย่าง และเขาต้องหาสิ่งนั้นให้เจอ ต่อมา นักข่าวคิมยองมินก็ถูกต้นสังกัดไล่ออกโดยรู้สาเหตุ

ทีมเรนโบว์แท็กซี่ได้ฟังเรื่องราวจากปากนักข่าวคิมยองมิน ทุกคนลงมติเอกฉันท์ที่จะรับเคสนี้มาทำ

EP.13 ปาร์ตี้ย่อมมีวันถูกทำลาย

สมาชิกเรนโบว์แท็กซี่ทีมช่วยกันสืบหาข้อมูลคลับ BLACK SUN จนไปพบความเชื่อมโยงกับตำรวจระดับหัวหน้าอย่างน้อย 3 นาย

ยิ่งไปกว่านั้น โกอึนยังพบความผิดปกติในสถานีตำรวจที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบคลับ BLACK SUN ว่ามีจุดบอดของกล้องวงจรปิดภายในสถานี แถมยังมีกล้องดัมมี่ติดตั้งเอาไว้ถึงสามตัว โกอึนอธิบายว่า ปกติสถานีตำรวจจะไม่ปล่อยให้มีจุดบอดจากกล้องวงจรปิด เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่และประชาชน นั่นหมายความว่าต้องมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

ต่อมา โดกีจึงปลอมตัวไปเป็นพนักงานในคลับ BLACK SUN อีกครั้ง สุดท้ายเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ … ไอดอล KPOP ที่ชื่อริกเตอร์ ชี้นิ้วเลือกหญิงสาวที่มาเที่ยว จากนั้น ก็จะมีคนแอบไปวางยาและพาหญิงคนนั้นไปที่โรงแรม เพื่อรอให้ริกเตอร์มาทำการล่วงละเมิด

โดกีไปดักรอภายในห้องพักที่โรงแรม เขาช่วยเหลือผู้หญิงและจัดการกับริกเตอร์อย่างสาสม ระหว่างนั้น ทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็ช่วยกันจัดการกับผู้ร่วมขบวนการในคลับ BLACK SUN แต่ผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังที่แท้จริงคือ ฮาจุน ยังอยู่ดี

ระหว่างนั้น โดกีถูกสั่งให้เข้าไปช่วยเก็บกวาดหลักฐานในคลับ เขาจึงกลับเข้าไปอีกครั้ง โดยสิ่งที่ต้องการคือหลักฐานสำคัญที่ทำให้นักสืบชเวถูกฆ่าตาย อย่างไรก็ตาม โดกีพลาดท่าโดนพวกมันวางยาในเครื่องดื่มจนหมดสติไป

จากนั้น พวกมันก็พาโดกีที่เมายาจนเกิดประสาทหลอนไปยืนอยู่กลางถนน เพื่อจะจัดฉากให้โดกีเกิดอุบัติเหตุรถชนตาย

แต่โชคดีที่โกอึนเห็นความผิดปกติ จึงรีบเข้าไปช่วยโดกีเอาไว้ได้ทัน

ณ เตียงผู้ป่วย ที่ห้องฉุกเฉิน โดกีได้สติขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาทำคือการพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจำอะไรแทบไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋า โดกีกลับพบอุปกรณ์บันทึกเสียงที่มีลักษณะเหมือนปากกาอยู่ เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างผู้มีชัยชนะ

EP.14 ความยุติธรรมที่ผิดกฎหมาย

โดกีได้ข้อมูลสำคัญจากคลิปเสียงที่นักสืบชเวบันทึกเอาไว้ ทำให้รู้ว่ายาเสพติดที่ถูกนำไปใช้ BLACK SUN เป็นยาเสพติดของกลาง ที่กำลังถูกนำไปเผาทำลายตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ถูกตำรวจเลวพวกนั้นยักยอกออกมา

นักสืบชเวยังระบุไว้ด้วยว่า การปราบปรามกับคนกลุ่มนี้ต้องทำพร้อมกันภายในครั้งเดียว เนื่องจากมันเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ เมื่อรวบรวมหลักฐานและวางแผนทุกอย่างแล้ว ทีมเรนโบว์แท็กซี่จึงเริ่มลงมือจัดการไอ้พวกชั่วให้สิ้นซาก

ณ คลับแบล็กซัน ฮาจุนนั่งดื่มอยู่ภายในห้องรับรองแขกวีไอพี ระหว่างนั้นเขาได้รับรายงานว่ามีพนักงานคนหนึ่งไม่มาทำงาน ฮาจุนจึงขอดูรูป เมื่อเห็นรูปฮาจุนถึงกับสตั๊นนานหลายวินาที “โดกียังไม่ตาย ! เป็นไปได้ยังไง ?”

แม้ฮาจุนจะรู้แล้วว่าโดกียังไม่ตาย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แผนของทีมเรนโบว์แท็กซี่เปลี่ยนไป ทุกอย่างเริ่มต้นจากที่สองพี่น้องสมองเฟื่องแอบสับเปลี่ยนยาเสพติดกับพวกตำรวจชั่ว และนำยาที่ได้มาผสมกับเหล้าที่พวกวีไอพีที่คลับแบล็กซันดื่ม

ทุกอย่างเป็นไปอย่างวุ่นวาย บางคนสลบลงไปกองอยู่กับพื้นอย่างไร้สติ บางคนก็เกิดอาการหลอนยาคลุ้มคลั่งเข้าไปทำร้ายร่างกายชกต่อยกันอย่างกับคนบ้า

ในขณะที่ตำรวจหน่วยคอมมานโดเข้ามาจับกุมคนในคลับ ฮาจุนที่กำลังจะหนีได้เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “แล้วเจอกันนะ ฉันจะฆ่าแก (โดกี) ด้วยมือของฉันเอง” … ทุกคนในคลับถูกจับกุมตัว

จากนั้น ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมนักสืบชเวก็ถูกนำตัวขึ้นศาล ผลการตัดสินคือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนริกเตอร์ถูกจำคุก 10 ปี

หลังจัดการกับแบล็กซัน และช่วยเอาคนทำผิดมาลงโทษได้สำเร็จ นักข่าวคิมยองมินก็กล่าวกับคิมโดกีว่า เขาไม่ยอมรับวิธีการที่ผิดกฎหมายแบบนี้ ยังไงมันก็เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ยอมรับว่า “มันก็ยุติธรรมดีนะ”

ต่อมา ฮาจุนเข้าไปฆ่าปิดปากหัวหน้าตำรวจ แต่นั่นไม่เพียงพอที่จะทำให้ “ท่านบิชอบ” หายโกรธกับการทำงานที่ผิดพลาดครั้งมโหฬารที่เกิดขึ้น ฮาจุนถูกเรียกตัวไปพบกับท่านบิชอบ ที่นั่น ลูกสมุนของท่านบิชอบเข้ารัดคอฮาจุน ความตายของเขาคือบทลงโทษ แต่ …

แต่ก่อนที่ฮาจุนจะขาดใจตาย เขาได้ขอโอกาสกับท่านบิชอบอีกครั้ง “ขอโอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ ผมสาบานว่าจะจัดการกับไอ้คิมโดกีให้ได้”

จากนั้น ท่านบิชอบโทร. ติดต่อขอใช้บริการการล้างแค้นกับเรนโบว์แท็กซี่ โดกีขับแท็กซี่วีไอพีไปรับท่านบิชอบ เขากดอุปกรณ์บันทึกเสียงแล้วขอให้ท่านบิชอบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น “ช่วยเล่าได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ​ ?”

EP.15 ลูกพี่คิมโดกี

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ฮาจุนเป็นเด็กไม่มีชื่ออยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และเป็นจุดที่ทำให้เขาโดนเด็กคนอื่น ๆ ล้อว่า “เด็กไม่มีชื่อ” … เขาโดนล้อจนทนไม่ไหว ผลักเด็กคนหนึ่งที่มาล้อจนล้มหัวไปฟาดหินตาย เด็กคนนั้นชื่อ “ฮาจุน”

ท่านบิชอปซึ่งเป็นบาทหลวงผู้ดูแลสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในขณะนั้น ก็เข้ามาเคลียร์คดีให้ โดยสั่งให้ตำรวจสรุปสำนวนคดีว่า เด็กชายประสบอุบัติเหตุลื่นหัวฟาดหินตาย จากนั้น ท่านบิชอปก็เรียกเขาว่า “ฮาจุน” พร้อมกับสอนว่า “ผู้ชนะเท่านั้นที่จะกำหนดว่าใครเป็นฝ่ายผิด”

ฮาจุนกลายเป็นนักฆ่าในองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ของท่านบิชอป โดยคนในองค์กรจะสวมแหวนไม้กางเขนที่มีลักษณะคล้ายงูเป็นสัญลักษณ์

ตัดกลับมาปัจจุบัน โดกีเอาแหวนไม้กางเขนวางต่อหน้าสมาชิกทีมเรนโบว์แท็กซี่ มันเป็นเบาะแสที่ได้จากคลับแบล็กซัน

โกอึนทำการสืบ จึงพบว่าพวกชั่วทุกคนที่ถูกจัดการตั้งแต่หัวหน้าตำรวจที่เวียดนาม โปรคัง รวมถึงตำรวจระดับสูงที่ถูกฮาจุนฆ่า ล้วนแล้วแต่สวมแหวนแบบเดียวกัน เมื่อรู้เช่นนั้น เป้าหมายต่อไปของพวกเขาคือ บอสใหญ่ ผู้ที่สร้างแหวนนี้ขึ้นมา

ต่อมา บิชอปก็ปรากฏตัวในฐานะลูกค้าของเรนโบว์แท็กซี่ เพื่อขอให้ช่วยลูกชายที่อยู่ในคุกที่ชื่อ อีซีวาน

โกอึนทำการสืบประวัติของอีซีวานก็พบว่า เป็นคนที่เปิดโปงเส้นทางการเงินของแก๊งอาชญากรที่โยงกับแบล็กซัน เขาจึงตกเป็นเป้าหมายฆ่าปิดปาก เมื่อรู้เช่นนั้น สมาชิกทุกคนจึงยกมือเป็นเอกฉันท์ให้รับเคสนี้มาทำโดยด่วน

โดกีปลอมตัวเป็นนักโทษเข้าไปอยู่ในเรือนจำเดียวกับอีซีวาน แล้วก็พบว่ามีการตั้งค่าหัวอีซีวานไว้หลักร้อยล้านวอน ทำให้อีซีวานตกเป็นเป้าหมายของทุกคนในคุก แล้วโดกีจะทำยังไง ?

โดกีแกล้งทำทีเป็นคนบ้า คนบ้าที่มีสกิลการต่อสู้เหนือชั้น ไม่ว่าขาใหญ่คับบ้านหน้าไหน ก็ต้องลงไปกองวัดหน้ากับรากมะม่วงกันทุกคน เมื่อทุกคนต่างพากันขยาด โดกีก็เข้าไปแสดงตัวว่าอีซีวานคือเพื่อนซี้ของเขา และนั่นก็ทำให้อีซีวานปลอดภัย

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ แต่ทว่าโดกีรู้สึกผิดสังเกต แผนการที่วางเอาไว้มันราบรื่นเกินไป

แล้วมันก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ คืนนั้น ระหว่างที่โดกีอยู่ในห้องขัง ฮาจุนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเฉลยความจริงว่า “มันเป็นกับดัก”

โดกีถูกตั้งค่าหัวเอาไว้สูงลิบลิ่ว นักโทษทั้งคุกจ้องรุมกินโต๊ะโดกีเพื่อหวังค่าหัว แม้โดกีจะไม่ใช่จอห์นวิคแต่เขาคือโดกี นักโทษทั้งคุกต่างดาหน้าเข้าทำร้าย ทั้งมือทั้งหมัดทั้งอาวุธ ถึงอย่างนั้นก็ยังทำอะไรคนขับแท็กซี่คนนี้ไม่ได้เลย ในท้ายที่สุด โดกีก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายจัดการคนคุกทั้งหมดได้สำเร็จ แต่ …

แต่มันยังไม่จบแต่นั้น นักโทษอีกกลุ่มใหญ่ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าโดกี ที่สะบักสะบอมเลือดเปรอะเปื้อนทั้งตัวและใบหน้า พวกมันจับโดกีมัดแล้วลากไปหาฮาจุนที่ห้อง ห้องที่มีจอขนาดใหญ่หลายจอตั้งอยู่เบื้องหน้า จอที่แสดงให้เห็นสมาชิกคนอื่น ๆ ของเรนโบว์แท็กซี่ถูกจับมัดเอาไว้

ฮาจุนยิ้มอย่างผู้ชนะ ก่อนที่จะเอ่ยปากออกไปว่า “มาเล่นเกมกันดีกว่า ลูกพี่โดกีจะเลือกให้ใครตายก่อนครับ ?”

โดกีมองภาพบนจอทีวีด้วยสีหน้าเป็นกังวล โกอึน ผู้ช่วยชเว และผู้ช่วยพัค ถูกจับมัดอยู่กับเก้าอี้บนดาดฟ้าตึกที่ใดที่หนึ่ง จังหวะนั้นเอง โดกีก็เอ่ยปากออกไปว่า “ฉันขอเลือกคนที่สี่ …” ฮาจุนแปลกใจที่โดกีเลือกให้คนที่สี่ตาย เพราะมันมีแค่สามคน “… ก็แกยังไงล่ะ”

ตอนนั้น ลูกน้องของฮาจุนเข้ามาแจ้งข่าวว่า อีซีวานที่ฮาจุนคิดว่าถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว ได้ขึ้นศาลพร้อมกับเปิดเผยเส้นทางการเงินทั้งหมดแสดงให้เห็นการฟอกเงินขององค์กรอาชญากรรม … ฮาจุนตกตะลึงถึงกับพูดไม่ออก

ภาพตัดย้อนหลังกลับไปเฉลยว่า แท้จริงโดกีกับทีมเรนโบว์แท็กซี่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ท่านบิชอบยอมเผยหลักฐานเส้นทางการเงินให้อีซีวานเพื่อเป็นเหยื่อล่อโดกี ดังนั้น ทั้งโกอึนและสองพี่น้องสติเฟื่องจึงแกล้งทำเป็นโดนจับ เพื่อซื้อเวลาให้อีซีวานไปขึ้นศาล

ถ้าอย่างนั้น ภาพที่เห็นบนจอทีวีก็เป็นเพียงคลิปที่ถูกบันทึกเอาไว้เท่านั้น !

ฮาจุนรู้ตัวว่าตัวเองโดนหลอก เขาจึงชักปืนกึ่งอัตโนมัติออกมาด้วยความโกรธ วาดปากกระบอกเล็งไปที่หัวของโดกี พร้อมกับตวาดออกมา “แกต้องตายด้วยมือของฉัน !”

EP.16 สงครามครั้งสุดท้าย

ก่อนที่ฮาจุนจะลั่นกระสุนใส่โดกี ผู้คุมก็เข้ามาขวางเอาไว้ โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของท่านบิชอบ จากนั้น ฮาจุนก็ถูกจับไปขับในห้องข้งเดี่ยวข้าง ๆ ห้องของโดกีเพื่อเป็นการลงโทษที่ทำงานผิดพลาด ปล่อยให้อีซีวานรอดไปให้ปากคำที่ศาล ทำให้เกิดความเสียหายกับองค์กร

ต่อมา โดกีก็ติดต่อกับโกอึนผ่านทางวิทยุสื่อสาร เขาตัดสินใจที่จะอยู่ในคุกนี้ต่อไป เพราะเชื่อว่าที่นี่เป็นฐานใหญ่ของพวกมัน เขาวางแผนให้ทีมเรนโบว์แท็กซี่ช่วยจัดการทำลายธุรกิจของท่านบิชอป โดยผู้ช่วยชเวและผู้ช่วยพัคไปทำการขโมยวัตถุโบราณที่มีมูลค่าสูง ส่วนโกอึนก็เข้าไปขโมยรายชื่อลูกค้าของบริษัทเงินทุน

เมื่อท่านบิชอปรู้ว่าธุรกิจเสียหาย เขาจึงสั่งให้ผู้คุมพาตัวโดกีมาหาที่โบสถ์ ท่านบิชอปกล่าวกับโดกีด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “วันนี้จะเป็นวันที่แกทนอยู่ในคุกไม่ไหว จึงพยายามหลบหนี แล้วก็ถูกคมกระสุนของผู้คุมยิงใส่ …” ท่านบิชอบยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “… ชีวิตของแกจะจบลงอย่างไร้ความหมาย เหมือนแม่ของแก”

โดกีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อถูกพูดถึงแม่ โดกีโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาพยายามปรี่เข้าไปหาท่านบิชอปแม้ว่าตัวจะถูกมัดอยู่ก็ตาม ทันใดนั้น ท่านบิชอปก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เป่านกหวีด !

โดกีได้ยินเสียงนกหวีด ที่เป็นเสียงคล้ายกับเสียงหวีดของกาต้มน้ำที่ดังลั่น มันเป็นเสียงกาต้มน้ำที่แม่ต้มทิ้งไว้ ก่อนที่จะถูกไอ้ฆาตกรชั่วเข้ามาแทงตายอย่างโหดเหี้ยม มันเป็นเสียงเดียวที่ทำให้โดกีล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น มันเป็นเสียงที่เรียกความเจ็บปวดในใจที่เขาไม่อาจทานทนได้ขึ้นมา โดกีในเวลานี้ไม่ใช่โชเฟอร์โดกีคนเดิมอีกต่อไป

ในเวลาเดียวกัน โกอึนกับสองพี่น้องขมองเขื่องก็โดนลูกน้องของท่านบิชอปจับเอาไว้ได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม จางซองชอลเข้าไปตีเยี่ยมฮาจุนที่เรือนจำ น่าแปลกใจที่คนของท่านบิชอปให้เขาเข้าเยี่ยม และนั่นก็กลายเป็นโอกาสที่จางซองชอลได้บอกให้ฮาจุนได้รู้ความจริง ความจริงที่เขาไม่เคยรู้มาตลอดชีวิต

แท้จริงแล้ว ฮาจุนไม่ใช่เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทิ้ง และท่านบิชอปก็เป็นคนที่หลอกให้เขาฆ่าพ่อของตัวเอง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าคนคนนั้นเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด ฮาจุนช็อกและรู้สึกสับสนเป็นอย่างมากกับความจริงที่ได้ยิน !

ต่อมา สมาชิกเรนโบว์แท็กซี่ก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย จากหญิงสาวคนหนึ่งที่จางซองชอลขอร้องให้ช่วย (คิมโซยอน)

ท่านบิชอบให้โอกาสฮาจุนครั้งสุดท้าย โดยให้เขาดวลกับโดกีซึ่งมีชีวิตเป็นเดิมพัน ผลสุดท้าย ชัยชนะก็ตกไปอยู่ในมือของโดกี

ณ นาทีนี้ ฮาจุนในสายตาของท่านบิชอปคือ “ไอ้คนอ่อนแอ” ท่านบิชอปคว้าปืนออกมาเล็งไปที่ฮาจุน แต่จังหวะนั้นเอง ฮาจุนทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด เขากล่าวกับโดกีว่าจะเป็นคนจบสงครามครั้งนี้เอง แล้วก็วิ่งปรี่เข้าไปหาท่านบิชอปที่เหนี่ยวไกลั่นกระสุนใส่เขานัดแล้วนัดเล่า แต่ดูเหมือนว่ากระสุนเหล่านั้นจะไม่สามารถหยุดความตั้งใจของฮาจุนได้ ฮาจุนเข้าถึงตัวท่านบิชอป ก่อนจะกระโจนเข้าใส่ ทำให้ทั้งสองตกลงมาจากดาดฟ้า ร่างกระแทกพื้นดับสยองสองศพในทันที

แก๊งอาชญากรของท่านบิชอปถูกทำลายลงอย่างราบคาบ

อีกราวหนึ่งปีต่อมา (8 ธันวาคม 2023) โดกีได้แฝงตัวเข้าไปในกองทัพ หลังจากมีเหตุทหารหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศ จนทำให้เธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง แต่ทางกองทัพพยายามปกปิดเรื่องนี้ ด้านโกอึนและทีมเรนโบว์แท็กซี่ก็เริ่มปฏิบัติการทวงความยุติธรรมต่อไป …

ที่ไหนที่ความยุติธรรมไม่ทำงาน ที่นั่นจะมีเรนโบว์แท็กซี่ และโชเฟอร์คิมโดกี

พบกันใหม่ใน Taxi Driver ซีซั่น 3

จบบริบูรณ์

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Taxi Driver ซีซั่น 1 (2021)

Photos : ภาพหน้าจอจาก SBS Korea
ดู Taxi Driver ซีซั่น 2 ที่ VIU Thailand : คลิกที่นี่