Divorce Attorney Shin สปอยล์: หลังเผชิญโศกนาฏกรรมที่เกิดกับครอบครัว หนุ่มนักเปียโนจึงผันตัวมาเป็นทนายความ ที่คอยสะสางปัญหาหย่าร้างอันซับซ้อน …
EP.1 นอกใจ คลิปหลุด และหย่าร้าง
EP.2 แต่งต้องระวัง หย่าต้องทันที
EP.3 ฝันร้าย
EP.4 พนักงานใหม่
EP.5 คดีหย่าร้างที่น่าอึดอัด
EP.6 เมื่ออดีตคืบคลานเข้ามา
EP.7 ประกาศสงคราม
EP.8 พลิกสถานการณ์
EP.9 ออกอากาศ 1 เมษายน
EP.10 ออกอากาศ 2 เมษายน
EP.11 ออกอากาศ เมษายน
EP.12 ออกอากาศ เมษายน
แนว : ดราม่า
เรต : 15+ คะแนน : 5/10 เรตติ้งเฉลี่ย : 6.5%
EP.1 นอกใจ คลิปหลุด และหย่าร้าง
ชินซองฮัน (รับบทโดย โจซึงอู) เป็นทนายความคดีหย่าร้างที่ประสบความสำเร็จ เขามีไลฟ์สไตล์และรสนิยมส่วนตัวค่อนข้างดี ขับรถ Porche Cayenne สีดำคันโต อยู่อพาร์ตเมนต์หรู และชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ
อีซอจิน (รับบทโดย ฮันฮเยจิน) นักจัดรายการวิทยุชื่อดังเดินทางมาหาซองฮันที่สำนักงาน เพื่อขอให้เขาเป็นทนายให้เธอในคดีหย่าร้าง ซึ่งเธอเพิ่งถูกสามียื่นฟ้องหย่า
ซองฮันปฏิเสธทันที เพราะเขาแทบมองไม่เห็นหนทางชนะคดี เนื่องจากมีคลิปหลุดของซอจินกับชู้รักแพร่กระจายในอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม เมื่อซองฮันรู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของซอจินว่าไม่ใช่การฟ้องร้องเพื่อเอาทรัพย์สิน แต่สิ่งเดียวที่เธอต้องการคือ “สิทธิในการเลี้ยงลูก” ซึ่งเธอกล่าวอย่างหนักแน่นว่าพร้อมจะยอมแลกกับทุกอย่าง ซองฮันจึงตอบตกลงรับว่าความให้
ต่อมา ซอจินได้ให้ข้อมูลกับซองฮันว่า สามีของเธอเป็นคนขี้หึงรุนแรงมาก มากถึงระดับเป็นการข่มเหงและเหยียดหยาม ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอด 7 ปี โดยการเขียนข้อความลงบนกระดาษ Post-it ติดเอาไว้ตามที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น …
-”เวลามีเด็กหนุ่ม ๆ มาออกรายการ ดีใจจนเนื้อเต้นเลยสินะ”
-”เวลาออกรายการทำไมต้องทำตัวดี๊ด๊าต่อหน้าผู้ชายด้วย ทำตัวต่ำจริง ๆ”
-”เธอใส่เสื้อชั้นในราคาแพงแบบนี้เอาไปอ่อยผู้ชายหรือไง หรือว่าใส่ไปทำอาชีพเสริม”
แถมสามีซอจินยังบังคับให้เธอต้องถ่ายรูปส่งให้ดูทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง เวลาไปงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ สร้างความอึดอัดใจให้กับเพื่อน ๆ จนตอนหลังไม่มีใครกล้าชวนเธอไปร่วมงานอีกเลย แม้แต่เพื่อนซี้ที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียนก็ไม่ชวนซอจินไปงานแต่งงาน
ยังไม่นับเรื่องที่สามีติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ทั่วอพาร์ตเมนต์ เพื่อติดตามดูพฤติกรรมของซอจิน แม้แต่ในห้องแต่งตัวก็ยังมีกล้องวงจรปิด
กรรมที่ไม่มีทางเลี่ยง
เมื่อถึงนัดวันไกล่เกลี่ยเรื่องสิทธิการเลี้ยงดูลูก ทนายความฝ่ายสามีได้หยิบยกกรณีที่ซอจินไม่ไปงานประชุมผู้ปกครอง ทำให้ ฮยอนอู ลูกชายของเธอรู้สึกผิดหวังที่แม่ผิดนัด ความผิดหวังทำให้หนีโรงเรียน ส่งผลให้ฮยอนอูได้รับบาดเจ็บระหว่างที่กำลังปีนรั้วโรงเรียน จนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ไม่ว่าคุณครูจะพยายามโทร. ติดต่อซอจินเท่าไรก็ติดต่อไม่ได้
ซอจินได้ยินก็นึกถึงเหตุการณ์นั้นในอดีต วันนั้นเธอกำลังอยู่กับชู้รักที่โรงแรม !
ไม่เท่านั้น ทนายสามียังยกเรื่องคลิปหลุดขึ้นมา พร้อมกับอ้างถึงความรู้สึกของฮยอนอู อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายยังหาข้อยุติกันไม่ได้ กรรมการการไกล่เกลี่ยจึงขอให้ฮยอนอูเข้ารับการทดสอบสภาพจิตใจ ก่อนที่จะนัดไกล่เกลี่ยกันในครั้งถัดไป
ระหว่างนั้น ซองฮันจึงไปหาคำตอบที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือเขาต้องรู้ว่า ฮยอนอูต้องการอยู่กับใครระหว่างพ่อกับแม่ ?
ซองฮันรอเจอฮยอนอูหน้าโรงเรียนประถม เมื่อทำความรู้จักกันได้สักพัก เขาจึงถามกับเด็กชายชั้น ป.3 ว่า อยากอยู่กับใครระหว่างพ่อกับแม่ ?
แต่คำตอบจากปากฮยอนอูก็คือ “ผมอยากลบความจำของตัวเอง …” พูดมาถึงตรงนี้ฮยอนอูแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมาอย่างชัดเจน “… ผมเกลียดแม่ครับ แม่ไม่รับโทรศัพท์โทรศัพท์คุณครู ผมอยากลบแม่ออกจากความทรงจำของผม” เด็กน้อยฮยอนอูร้องไห้ออกมาก่อนจะเดินจากไป
ซองฮันรู้สึกอึดอัดกับคดีนี้มาก ๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขารู้สึกสงสารเด็กมาก ๆ เพราะเด็กเป็นผู้ที่รับผลกรรมจากพ่อแม่อย่างไม่มีทางเลี่ยงได้เลย ไม่มีทางเลยจริง ๆ
คืนหนึ่ง จู่ ๆ ฮยอนอูก็เกิดคลั่งขึ้นมากลางดึก เด็กน้อยร้องกรี๊ดลั่นบ้าน ร้องไห้ออกมาไม่หยุด และหายใจติดขัด ซอจินกับสามีจึงพาฮยอนจูมาเข้าพักที่โรงพยาบาล (ซอจินขอร้องสามีให้เธออยู่ที่บ้าน โดยเธอจะยอมนอนที่โซฟาเพื่อได้อยู่ใกล้ ๆ ลูก)
ซอจินเห็นลูกชายต้องแอดมิตเข้าโรงพยาบาลจึงโทร. ไปหาซองฮันทั้งน้ำตา พร้อมกับขอให้หยุดทำคดี เพราะเธอเห็นลูกทรมานแบบนี้ไม่ไหวแล้ว แต่ซองฮันไม่คิดเช่นนั้น เขากลับบอกให้ซอจินยื่นฟ้องคดี และกล่าวอย่างมั่นใจว่า “เราจะชนะคดีครับ”
EP.2 แต่งต้องระวัง หย่าต้องทันที
ซอจินอยากจะหยุดการฟ้องร้องคดี เนื่องจากไม่ต้องการให้ฮยอนอู ลูกชายวัย 9 ขวบต้องมารับรู้เรื่องแย่ ๆ อีกต่อไป แต่ซองฮันยืนยันที่จะให้ซอจินเดินหน้าฟ้องร้องคดีต่อไป เพราะเขามั่นใจว่าต้องชนะคดี
เรื่องราวดำเนินมาถึงวันพิจารณาคดีในศาล ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างหยิบหลักฐานแสดงต่อผู้พิพากษา ถึงเหตุผลที่ฝ่ายตนเองเป็นฝ่ายที่ควรได้สิทธิเลี้ยงดูลูก ซองฮันก็ได้ยิงคำถามใส่สามีของซอจิน จนในที่สุดเขาก็ยอมรับกลางศาลว่า เขาเป็นคนเอาคลิปหลุดของซอจินให้ฮยอนอูดู !
ซอจินช็อกกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะคนสุดท้ายบนโลกที่เธอต้องการให้ดูคลิปอุบาทว์นั้นก็คือลูกชายของเธอ !
ซอจินโกรธจัดแทบเป็นบ้า เธอลุกออกจากคอกจำเลย เดินปรี่ไปหาสามีแล้ววาดมือขวาตบเข้าไปที่หน้าของเขาสุดแรง 2 ฉาดใหญ่ แรงขนาดทำให้แว่นตาของเขากระเด็นหลุดออกจากเบ้าหน้า สักพัก ซอจินก็เป็นลมล้มพับไป
ซอจินชนะคดี … วันนั้นที่บ้าน เธอลงไปคุกเข่าต่อหน้าฮยอนอู พร้อมกับพูดขึ้นว่า “แม่ขอโทษ แม่ผิดไปแล้ว” ฮยอนอูโน้มตัวลงไปกอดแม่ ทั้งสองกอดกันอยู่อย่างนั้นทั้งน้ำตา เหมือนต่างพยายามบรรเทาความเจ็บปวดของกันและกันให้เบาบางลง
EP.3 ฝันร้าย
พัคแอรัน เป็นแม่บ้านทำความสะอาดตึกที่ตั้งสำนักงานกฎหมายซองฮันมานานกว่าสองปี วันนี้เธอมาขอรับคำปรึกษาการฟ้องหย่า และต้องการส่วนแบ่งในทรัพย์สินซึ่งก็คือตึกนี้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกดันเป็นชื่อของแม่สามี ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมานานตลอดระยะเวลา 20 ปี แต่พัคแอรันก็อดทนมาตลอด จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอตบหน้าแม่สามีไปหนึ่งฉาด เพราะบันดาลโทสะที่มาพูดจาร้ายใส่ลูกสาวของเธอ
ตอนแรกที่ซองฮันฟังเรื่องราวของแม่บ้านพัคแอรัน เขาก็คิดจะปฏิเสธไม่รับว่าความให้ เพราะแทบจะปิดประตูชนะคดีแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ด้วยความที่พัคแอรันเป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่นี่มานานกว่าสองปี ซองฮันจึงลองให้เพื่อน ๆ ไปสืบข้อมูลของพัคแอรันและแม่สามี
ซองฮันสืบจนรู้ว่า แม่สามีของพัคแอรันเป็นมนุษย์ป่าระดับที่คนแถวนี้ยกให้เป็นมือวางอันดับหนึ่ง ทั้งปากร้ายทั้งจู้จี้ทั้งขี้ตืด เรียกว่าถูกทุกข้อของคุณสมบัติมนุษย์ป้า ซึ่งตรงกันข้ามกับพัคแอรันที่เป็นคนขยันขันแข็ง ก้มหน้าก้มตาทำงานตั้งแต่เช้ามืดยันกลางคืน
ต่อมาซองฮันจึงขอข้อมูลเพิ่มเติม พัคแอรันเล่าว่า สามีของเธอซื้อตึกนี้ ระหว่างนั้นสามีเริ่มมีปัญหาทางด้านการเงิน เขาจึงตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ตึกไปให้แม่ โดยมีหนังสือรับรองและการบันทึกเสียงเอาไว้ว่าสามีของเธอเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริง ต่อมาสามีประสบปัญหาทางด้านการเงินมีหนี้สินล้นพ้นตัวลากมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ตึกนี้ยังเป็นชื่อของแม่สามีถึงตอนนี้
ระหว่างนั้น ซอจินมาหาซองฮันที่ออฟฟิศเพื่อขอสมัครเข้าทำงาน โดยไม่เกี่ยงเรื่องเงินเดือน เพราะเธอต้องมีงานประจำทำตามคำสั่งศาลตอนได้รับสิทธิ์เลี้ยงดูลูก ซองฮันได้แต่หัวเราะแหะ ๆ เป็นการปฏิเสธ เพราะพนักงานที่มีอยู่สามคนตอนนี้ยังนั่งว่างกันอยู่เลย “อย่างที่คุณเห็น สำนักงานเราไม่ได้มีงานยุ่งจนหัวหมุนขนาดนั้น”
ซอจินยิ้มอ่อนให้ซองฮัน ก่อนจะเดินไปยกประตูห้องทำงานของซองฮันออกมา แล้วหยิบอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปซ่อมรางประตูที่ติดขัด ประตูที่ซองฮันปล่อยให้มันพังอยู่อย่างนั้นมานาน ถูกซ่อมให้ใช้งานได้ดีอีกครั้งด้วยมือของซอจิน “ให้ฉันช่วยงานจิปาถะแบบนี้ก็ได้นะคะ”
ในคืนเดียวกัน ซองฮันสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกหลังจากฝันเห็นน้องที่จากไป จากนั้นเขาก็ร้องไห้ออกมา ในขณะที่ตัวขดและมือก็กำผ้าห่มเอาไว้แน่น !?
EP.4 พนักงานใหม่
ซอจินไปหาซองฮันที่ออฟฟิศอีกครั้ง เพื่อขอโทษที่เมื่อวันก่อนมาขอทำงานทั้งที่เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เนื่องจากเครียดที่ยังหางานทำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดซองฮันก็ตัดสินใจรับซอจินเข้าทำงาน
ซองฮันนัดคุยเรื่องคดีกับพัคแอรัน เขาบอกกับเธอว่าจะฟ้องแม่สามีในคดีหมิ่นประมาท โดยซองฮันย้ำให้พัคแอรันๅต้องคิดว่าไม่เคยตบตีแม่สามี จากนั้นเขาก็เล่าสตอรีที่เขาคิดขึ้นมา “แม่สามีโกรธจัดจึงผลักคุณแอรัน แต่แทนที่จะผลักให้คุณล้ม กลับทำให้ตัวแม่สามีพลาดหงายหลังล้มไปเอง แต่ทีนี้ กลับมีข่าวลือว่าลูกสะใภ้ตีแม่สามี นั่นคือจุดที่เราจะเอามาฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาท”
พัคแอรันแปลกในที่ซองฮันแต่งเรื่องโกหกขึ้นมา แต่ซองฮันก็ตอบกลับไปว่า การที่แม่สามีโกหกเรื่องกรรมสิทธิ์ของตึกก็เป็นเรื่องโกหกเช่นกัน เมื่อได้ยินเช่นนั้น พัคแอรันจึงตกลงจะทำตามซองฮัน
ณ ห้องไกล่เกลี่ยคดีหย่าร้าง ระหว่างที่การเจรจากำลังดำเนินไป จู่ ๆ พัคแอรันก็เกิดรู้สึกผิดที่โกหก เธอจึงสารภาพว่าเธอทุบตีแม่สามีจริง ด้วยเหตุผลที่อัดอั้นจากการถูกข่มเหงมาตลอดยี่สิบปี ซองฮันอาศัยจังหวะนั้นพูดถึงเรื่องตึกที่สามีโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของแม่ชั่วคราว เมื่อสามีของพัคแอรันฟังมาถึงตรงนี้ก็เกิดความสงสารภรรยา ที่อดทนทำงานหนักมาตลอดยี่สิบปีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เขาจึงหยิบหลักฐานที่ยืนยันตึกนี้เป็นของเขาจริงออกมา
สุดท้ายเรื่องก็จบลงด้วยดี สามีรู้สึกผิด แม่สามีที่ได้รู้ความจริงก็รู้สึกผิดเช่นกัน ในค่ำวันนั้น หลังพัคแอรันทำอาหารค่ำให้คุณแม่สามีตามปกติ แม่สามีร้องไห้ออกมาแล้วกล่าวว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมา เพราะเธอฉันถึงได้กินข้าวอุ่น ๆ ได้แก่ตัวอย่างอบอุ่น ถ้าไม่ได้คนอย่างเธอ ป่านนี้ฉันคงต้องไปอยู่ที่บ้านพักคนชรา”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พัคแอรันก็คุกเข่าลงต่อหน้าแม่สามีและกล่าวขอโทษเช่นกันที่ทำไม่ดีในวันนั้น … เรื่องราวครอบครัวของพัคแอรันก็จบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง และเธอก็เข้าใจเหตุผลที่ซองฮันให้เธอโกหก
ตัดกลับมาที่ออฟฟิศ … ซองฮันตัดสินใจทำออฟฟิศใหม่ โดยต่อเติมห้องรับคำปรึกษาขึ้นมาตามคำขอของซอจิน ที่เธอตั้งใจจะทำหน้าที่กรองลูกความให้ก่อนจะถึงมือซองฮัน เนื่องจากเธอมองว่าการที่เขาทำให้เธอชนะคดีจะทำให้มีลูกความเพิ่มขึ้น และแนะนำให้เขารับทนายความเพิ่มขึ้นด้วย แต่ซองฮันไม่ค่อยเห็นด้วย
หลังจากนั้น ทนายชเวจุน (ทนายของสามีพัคแอรัน) ลาออกจากสำนักงานกฎหมายกึมฮวา ซึ่งเป็นสำนักงานกฎหมายระดับประเทศ เพื่อมาสมัครเป็นทนายที่สำนักงานกฎหมายซองฮัน … ซองฮันปฏิเสธเสียงแข็ง เขาอ้างเหตุผลเดิมคือ ไม่มีคดีมากขนาดที่เขาต้องรับทนายเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ชเวจุนได้เผยว่าเขาเป็นเจ้าของช่องที่ลงคลิปขณะซองฮันกำลังเล่นเปียโนลงยูทูบ เมื่อซองฮันรู้เท่านั้นแหละ เขาก็พุ่งไปคว้าคอเสื้อชเวจุน และเงื้อมมือเตรียมฟาดเข้าหน้าชเวจุนที่ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ !
EP.5 คดีหย่าร้างที่น่าอึดอัด
ซองฮันหยุมหัวชเวจุนด้วยความโกรธ ที่แอบถ่ายและลงคลิปขณะเขาเล่นเปียโนโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่สุดท้าย ซองฮันก็ยอมรับชเวจุนเข้าทำงานแลกกับการลบคลิป อย่างไรก็ตาม ลึก ๆ แล้วซองฮันก็รู้สึกอึดอัดกับชเวจุนอยู่ดี ด้วยเหตุที่เขาเคยทำงานที่สำนักงานกฎหมายกึมฮวา ซึ่งจินยองจู ภรรยาใหม่ของอดีตสามีน้องสาวผู้ล่วงลับซองฮันเป็น ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์อยู่ที่นั่น … ว่าแต่ว่าอดีตที่ทำให้ซองฮันปวดใจไม่หายมันคืออะไรนะ ?
ซองฮันตั้งซอจินเป็นหัวหน้าที่ปรึกษา เขาให้เหตุผลว่าเธอเคยเป็นดีเจชื่อดัง ที่มีประสบการณ์ในการรับฟังผู้คน แล้วเธอก็ได้ทำหน้าที่นั้นทันทีที่ลูกความเข้ามาปรึกษาปัญหาการหย่าร้างกับซองฮัน
ลูกความเป็นคู่หญิงชู้กับชายวัยเกษียณที่ต้องการฟ้องร้องภรรยาหลวงให้หย่า โดยหญิงชู้อ้างว่าฝ่ายชายป่วยเป็นมะเร็งตับ ต้องได้รับการปลูกถ่ายตับ และตัวเธอยินดีจะบริจาคตับให้ แต่ตามกฎหมายผู้บริจาคกับผู้รับต้องจดทะเบียนสมรส “ภรรยาปัจจุบันตั้งใจจะรอให้สามีตาย เพราะผู้หญิงทำประกันชีวิตของผู้ตายเอาไว้เยอะ เธออยากให้เขาตายเพื่อเอาเงินประกันชีวิต”
อย่างไรก็ตาม ซองฮันยังไม่ตอบรับที่จะทำคดีนี้ให้ เพราะทั้งคู่เป็นชู้กัน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะชนะคดี
ระหว่างที่ซองฮันกำลังตัดสินใจว่าจะรับทำคดีนี้หรือไม่ จู่ ๆ ก็มีเด็กชายอายุ 15 ปีเข้ามาขอพบที่ออฟฟิศ เพื่อมาขอให้ซองฮันทำเรื่องบริจาคตับให้กับพ่อ เพราะเขาศึกษากฎหมายมาแล้ว ลูกชายที่อายุ 15 ปีขึ้นไปสามารถบริจาคอวัยวะให้พ่อได้
ซองฮันจึงตัดสินใจรับทำคดีนี้ เขานัดเจอกับชายวัยเกษียณแล้วบอกสิ่งที่ต้องทำ “ผมคิดหนักเลยว่าจะรับทำคดีนี้หรือเปล่า แต่เมื่อเริ่มต้นแล้วก็ต้องชนะให้ได้ ทีนี้มีสองสิ่งที่คุณต้องทำ หนึ่ง บอกเลิกประกันมะเร็งทั้งหมด สอง คุณจะต้องทำผิดกฎหมายบางอย่าง”
EP.6 เมื่ออดีตคืบคลานเข้ามา
ช่วงเช้า ซองฮันไปหลุมศพน้องสาว เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เขาคร่ำครวญอยู่คนเดียวหน้าหลุมศพ เหมือนต้องการให้คำพูดของเขาไปถึงน้องสาวผู้ล่วงลับ
เมื่อซองฮันมาถึงออฟฟิศ ก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยือน ‘มากึมฮี’ แม่อดีตสามีของน้องสาวที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกา มาถามหาสถานที่ฝังศพของเธอ เพื่อที่จะได้ไปเคารพศพ แต่ซองฮันปฏิเสธ แล้วก็ตัดบทขอให้มากึมฮีกลับไปก่อนที่ความมีมารยาทของเขาจะหมด
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มากึมฮีจึงกล่าวกับซองฮันว่า “ฉันเคยบอกแล้วไง ถ้าทำตัวเป็นคนดีจะเจอแต่ปัญหาไม่จบสิ้น”
ณ ห้องไกล่เกลี่ยคดีหย่าร้าง … จู่ ๆ ฝ่ายภรรยาก็ยอมหย่ากับชายวัยเกษียณ เพราะเธอไม่ต้องการให้ลูกชายวัย 15 ปีบริจาคตับให้พ่อ และหมดเหตุจำเป็นที่เธอจะต้องกอดทะเบียนสมรสเอาไว้ เมื่อไม่มีผลประโยชน์เป็นเงินก้อนโตจากประกันชีวิต อีกอย่างเธอจำนนต่อเสียงที่บันทึกการโทร. ของเธอที่พูดว่าต้องการเกินประกัน และคดีที่ชายวัยเกษียณต้องเจอก็คือ ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ที่เอาคลิปเสียงของภรรยามาเปิดเผยโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
สุดท้าย เรื่องราวก็จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งไปอีกหนึ่งคดี
ต่อมา มีลูกความเดินทางมาจากต่างจังหวัดแถบชนบทเพื่อมาปรึกษาเรื่องคดีกับซองฮัน หลังจากพูดคุยสักพัก ซองฮันจึงตั้งคำถามว่าทำไมต้องเดินทางมาหาเขาถึงที่นี่ด้วย ในเมื่อทนายความดี ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ ก็มีมากมาย ชายคนนั้งจึงยื่นนามบัตรใบหนึ่งให้ซองฮัน พร้อมกับบอกว่าเจ้าของนามบัตรเป็นคนแนะนำให้มาที่นี่ …
ซองฮันมองนามบัตรนั้นด้วยสีหน้ากระวนกระวาย “จินยองจู ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานกฎหมายกึมฮวา”
EP.7 ประกาศสงคราม
ซองฮันไปหาทนายพัคยูซอกที่สำนักงานกฎหมายกึมฮวา เหตุผลที่เขาไปที่นั่นด้วยตัวเองก็เพื่อประกาศสงครามกับจินยองจู … เมื่อทนายพัคยูซอกประมวลเหตุการณ์เขาก็รู้ได้ในทันทีว่า จินยองจูต้องการทำลายชินซองฮัน แต่เขาไม่มั่นใจว่าบทสรุปใครกันแน่จะเป็นฝ่ายถูกทำลาย !?
จากนั้น ภาพแฟลชแบ็กก็ย้อนหลังให้เห็นว่า จินยองจูตั้งใจรับทำคดีนี้เพราะต้องการเปิดศึกกับซองฮัน หรือที่เธอเรียกว่า “สะสางความสัมพันธ์อันคลุมเครือกับซองฮันให้จบในคดีนี้”
ระหว่างนั้น ซอจินก็ได้รับข่าวที่น่าตกใจ เมื่อลูกความหญิงคนหนึ่งที่มาปรึกษาคดีกับเธอเกิดคิดสั้น แต่ตอนนี้พ้นขีดอันตราย ซอจินจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที โดยมีชเวจุนไปด้วย เมื่อไปถึงเธอก็เห็นสามีของลูกความทำท่าทางรู้สึกผิด แต่ซอจินรู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่เห็นจากสามีเป็นแค่การแสดง
ซอจินขอให้ชเวจุนตามสามีของลูกความไป สิ่งที่เห็นคือเป็นอย่างที่ซอจินคิดเอาไว้จริง ๆ ในขณะที่ภรรยาเกือบตายเพราะกินยาเกินขนาด ตัวสามีกลับมานั่งดูคลิปรายการวาไรตี้ในโทรศัพท์ หัวเราะอย่างมีความสุขที่ล็อบบี้โรงพยาบาล !
ขณะที่ จินยองจูเปิดเกมใช้โซเชียลโจมตีลูกความของซองฮัน ด้วยการใช้สื่อลงข่าวแบบปูพรมเพื่อสร้างกระแส “ภรรยาชาวเวียดนามคราวลูก ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงและทารุณกรรม” ทำให้คอมเมนต์ในโซเชียลรุมด่าทอลูกความของซองฮันอย่างรุนแรง
ในคืนนั้น ซองฮันโทร. ไปหาลูกความ ตอนนั้นเองที่ลูกความชาวไร่วัย 50 พูดระบายความในใจทั้งน้ำตากับซองฮัน เขาเล่าว่าเขาไปเที่ยวเวียดนามตามการรบเร้าของแม่ การไปเที่ยวคราวนั้นทำให้เขาได้เจอกับภรรยา เขาคิดในทันทีว่าจะพาเธอมาอยู่ที่เกาหลี และจะทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ไม่นึกเลยว่าวันนี้เขาจะถูกกล่าวหาจากโซเชียลว่า ซื้อหญิงเวียดนามรุ่นราวคราวลูกมาทำทารุณกรรม
ซองฮันตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นผ่านโทรศัพท์ว่า “ผมจะกอบกู้ศักดิ์ศรีของคุณกลับมาให้ได้ครับ”
EP.8 พลิกสถานการณ์
ซองฮันและผู้ช่วยพยายามคิดหาทางดึงมวลชนในโซเชียลให้กลับมาเห็นใจลูกความของเขา แต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด ในเมื่อความเห็นแทบทั้งหมดกล่าวโจมตีด่าทอลูกความของซองฮัน ทำไปทำมากลายเป็นว่า ซองฮันเป็นถูกลากไปให้ทัวร์ลงอีกคน โทษฐานออกโรงปกป้องผู้ก่อความรุนแรงภายในครอบครัว ซึ่งเป็นคดีที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของคนในสังคม
ซองฮันเชื่อว่าลูกความของเขาไม่ได้ทำทารุณกรรมภรรยาของเขาจริง แต่คำถามที่ต้องการคำตอบคือ “ทำไมภรรยาถึงไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีสามีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ?”
จากนั้น สองเพื่อนซี้ของซองฮันก็เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งสองสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียง คำตอบของชาวบ้านแถวนั้นก็เชื่อเช่นกันว่า สามีชาวไร่ทุบตีภรรยาชาวเวียดนามจริง เมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้น สองเพื่อนซี้ก็ถึงกับออกอาการหน้าเหวอ
อย่างไรก็ตาม สองเพื่อนซี้ก็ได้ข้อมูลอันน่าตกตะลึงจากปากเจ้าของร้านขายยาฆ่าแมลง คือ เขาเห็นหญิงชาวเวียดนามคนนี้คบอยู่กับชายอื่น แม้เขาเคยบอกกับสามีชาวไร่แล้ว แต่ก็ไม่เชื่อว่าภรรยาจะคิดนอกใจ
ในเวลาเดียวกัน มากึมฮี (แม่อดีตสามีของน้องสาวผู้ล่วงลับของซองฮัน) ก็พากียอง หลานชายสุดที่รักของซองฮันมาเยี่ยม ทำให้ทั้งสองลุงหลานมีโมเมนต์ดี ๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
แต่แล้วจู่ ๆ จินยองจูก็โผล่มาที่หน้าบ้านซองฮันเพื่อพากียองกลับ เธออ้างว่ากียองมีเรียนตอนเย็น แม้ซองฮันจะพยายามโต้เถียง แต่ตามกฎหมายแล้วจินยองจูก็ผู้มีสิทธิ … จินยองจูจะไม่ยอมให้ซองฮันมีความสุขกับหลานชาย แม้ช่วงเวลาเพียงเล็กน้อยเลยอย่างนั้นเหรอ หรือว่าเธอสะใจกับการที่ได้พรากคนที่ซองฮันรักไปจากอ้อมอก !
ซองฮันนึกย้อนอดีตกลับไปด้วยความเสียใจ ที่ปล่อยให้น้องสาวกับหลานชายไปอยู่กับคนพวกนั้น เขาตั้งใจว่าจะต้องชนะคดีนี้ให้ได้
วันพิจารณาคดี ณ ศาลยุติธรรม … ทนายความคดีหย่าร้างระดับเทพได้ยิงคำถามใส่ภรรยาชาวเวียดนาม คำถามที่ทำให้ทุกคนในห้องพิจารณาคดีพากันตกตะลึง “ลูกชายของคุณเป็นลูกที่เกิดกับสามี [จำเลย] หรือเปล่า ?”
ไม่มีคำตอบ … จากนั้น ซองฮันก็ร้องต่อศาลขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอ ก่อนที่หันหน้ามายิ้มที่มุมปากให้กับทนายพัคยูซอก
ความจริงคือภรรยาสาวชาวเวียดนามแอบคบหากับชายชู้ชาติเดียวกัน และลูกชายวัยแบเบาะก็เป็นเด็กที่เกิดกับชายชู้ ที่เธอไปแจ้งความว่าสามีทำร้ายร่างกาย เพราะต้องการเลิกกับสามเพื่อไปอยู่กับชายชู้
EP.9
กำลังอัปเดต
Photos : ภาพหน้าจอจาก JTBC Korea
ดู Divorce Attorney Shin EP.1 ที่ Netflix : คลิกที่นี่