Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องละคร มาตาลดา (2023) To the Moon and Back

สรุปเนื้อเรื่องละคร มาตาลดา (2023) To the Moon and Back

มาตาลดา สปอยล์ : หญิงสาวผู้มองโลกในแง่ดี กับชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมแต่ขาด ทั้งสองมาพบกันและเติมเต็มหัวใจให้กันและกัน …

เรต : 13+ คะแนน : 7.5/10 เรตติ้งเฉลี่ย : 2.9%
แนว : รอมคอม

EP.1 สาวใจดีกับหมอมีปม

มาตาลดา หรือ มาตา (รับบทโดย เต้ย จรินทร์พร) ลูกสาวคนเดียวของเจ้าของบาร์ที่พัทยา เธอถูกปลูกฝังให้เป็นหญิงสาวที่มีพลังแห่งความใจดีมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโตเป็นสาว มาตาขอพ่อซื้อบ้านเพื่อย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เพราะมีแผนบางอย่าง แต่ก้าวแรกที่เข้าไปเหยียบพื้นที่ภายในบ้าน มาตาถึงกับผงะ นี่มันบ้านที่ฆาตกรโรคจิตเคยอยู่หรือไงเนี่ย มันถึงได้เละเทะเลอะเทอะขนาดเน้ !?

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มาตาไม่มีทางเลือก ถ้าไม่อยู่ที่นี่ก็ต้องกลับบ้าน … อยู่ก็อยู่ ทำความสะอาดหน่อยก็อยู่ได้ละ

ต่อมา ระหว่างมาตาเข้าไปซื้อกาแฟที่ร้านสะดวกซื้อ เกิดซุ่มซ่ามทำกาแฟร้อนหกใส่ หมอปุริม หรือ เป็นหนึ่ง (รับบทโดย เจมส์ จิรายุ) จนเลอะเต็มตัว หมอปุริมร้องด้วยความเจ็บปวดจากการโดนกาแฟร้อนลวก ก่อนจะรีบถอดเสื้อและไปหยิบกระป๋องเครื่องดื่มในตู้แช่มาประคบ

มาตาเห็นหน้าอกของหมอปุริมแดงก่ำ จึงรีบขอโทษแล้วกุลีกุจอไปหยิบยาสีฟันมาทาให้ หมอปุริมมองหน้าหญิงสาวตาเขม็ง “ยาสีฟันไม่ได้ช่วยให้แผลน้ำร้อนลวกหายนะ” แล้วก็เดิมจากไปด้วยท่าทางหงุดหงิด

มาตาหน้าเหวอเมื่อรู้ว่า ความเชื่อที่เชื่อมาตลอดชีวิตเป็นความเชื่อที่ผิด

ปุริมเป็นหมอผ่าตัดหัวใจที่มีฉายา “หมอผ่าตัดหัวใจที่ไม่มีหัวใจ” ด้วยความที่เย็นช๊าเย็นชา เหมือนมีปมอะไรบางอย่างอยู่ในใจ อาจเป็นเพราะเขาโดนพ่อเข้มงวดในเรื่องการเรียนมาตั้งแต่เด็ก ทำให้โลกของเขาเป็นโลกของความจริงจังและความเครียด ยิ่งต้องมาเป็นหมอผ่าตัดหัวใจที่ต้องแบกรับความเป็นความตายของคน ทำให้เขาแทบไม่เคยยิ้มออกมาให้ใครเห็นเลย

วันนี้ พ่อเรียกให้ปุริมมาที่บ้าน แม้ไม่ค่อยอยากไปแต่โดนแม่คะยั้นคะยอ เขาจึงจำใจไปอย่างไม่มีทางเลือก พ่อต้องการจับคู่ปุริมให้แต่งงานกับ แพง อรุณรัศมี (รับบทโดย อแมนด้า ออบดัม) ลูกสาวรัฐมนตรี ตอนแรกปุริมพยายามปฏิเสธ แต่บทสรุปก็เป็นอย่างทุกครั้ง พ่อใช้ความเป็นเผด็จการจนปุริมจำใจตกปากรับคำอย่างไม่มีทางเลือก

นี่ใช่มั้ยที่ทำให้ปุรุมเป็นคนไร้หัวใจ โดนบังคับให้อยู่ในกรอบที่พ่อตีไว้ให้ตั้งแต่เด็ก อาจไม่เคยมีสักเสี้ยววินาทีที่เขาได้เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ … และหมอก็เป็นผลพวงของกรอบที่พ่อได้สร้างให้เขา !?

ทีนี้ ด้วยความเบ๊อะบ๊ะของมาตา ที่ก้มเข้าไปล้วงหยิบของบางอย่างในถังขยะในหมู่บ้านจนถังขยะหนีบหัว หมอปุริมที่เป็นเพื่อนบ้านจึงเข้ามาช่วยงัดหัวเธอออกมา ณ จุดนี้เองก็เกิดโมเมนต์ที่ทำให้ทั้งสองได้ใกล้ชิดกัน เมื่อจู่ ๆ มาตาก็ข้อเท้าแพลงซะอย่างนั้น คุณหมอปุริมจึงเสนอให้มาตาเข้ามาในบ้านเพื่อปฐมพยาบาล

และเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ที่หมอปุริมได้ใกล้ชิดกับมาตา หมอผ่าตัดหัวใจผู้ไม่มีหัวใจคนนี้ ก็เผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก

EP.2 ความหลากหลายทางเพศ

หมอปุริมขับรถมาส่งมาตาที่บ้าน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ พ่อเกรซ (รับบทโดย ชาย ชาตโยดม) พร้อมด้วยชาวคณะนางโชว์ซึ่งเป็น LGBTQIA2S+ เดินทางจากพัทยามาเยี่ยมพอดี ทำให้พ่อเกรซรู้สึกตื่นเต้นที่ลูกสาวมีผู้ชายมาส่ง จนกลายเป็นเรื่องเมาส์มอยสนุกปากของเหล่าน้า ๆ

รุ่งขึ้น มาตาไปหาอากงอาม่าที่ร้านทอง เมื่อมาตาแสดงตัวว่าเป็นหลาน อากงก็ไล่มาตาออกไปจากร้านด้วยความโกรธ “อั๊วไม่มีลูก ไม่มีหลาน ลื้อไปเลยไป แล้วอย่ามาที่นี่อีก เก๋าเจ้ง”

แม้โดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมาขนาดนั้น แต่มาตาที่มีพลังใจดีอยู่เต็มเปี่ยมกลับยิ้มให้อากง “จะไม่มีได้ยังไงล่ะอากง หนูตัวเป็น ๆ ยืนอยู่เนี่ย ใช่มั้ยอาม่า” อาม่าได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าพูดอะไรขัดอากง ไม่เป็นไรเดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่ แล้วมาตาก็เดินออกไปกินก๋วยเตี๋ยวบะหมี่ร้านใกล้ ๆ

ด้วยความบังเอิญ หมอปุริมก็มากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เหมือนกัน ที่ไม่เหมือนกันคือ หมอปุริมสั่ง “บะหมี่น้ำ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่น้ำมันกระเทียมเจียว แล้วก็ไม่ใส่กากหมู” ส่วนมาตาสั่ง “บะหมี่ปูน้ำหนึ่ง เกี๊ยวแห้งหนึ่ง เอากระเทียมเจียวเยอะ ๆ แล้วก็กากหมูเน้น ๆ”

ไม่เท่านั้น หมอปุริมยังกินแบบไม่ใส่เครื่องปรุงเลย มาตาเลยเสนอตัว “ให้ฉันปรุงให้เอามั้ย ที่บ้านฉันกินก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเอามาให้ฉันปรุงทุกคนเลย ฉันอ่านลิ้นคนเก่งน่ะ” … แล้วหมอปุริมก็ได้กินก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดฝีมือปรุงของมาตา เพียงแค่คำแรกเข้าปากเท่านั้นแหละ หมอแกอึ้งไปเลย พักเดียวล่อหมดชาม

ความหลากหลายทางเพศ

อากงโกรธพ่อเกรซขนาดตัดขาดพ่อลูก อากงอาม่าต้องอดอยากลำบาก กินแต่ข้าวต้มเปล่า ๆ เป็นปี ๆ ประหยัดเงินส่งพ่อเกรซให้ได้เรียนสูง ๆ จะได้มีชีวิตที่ดี อีกทั้งอากงยังเลือกผู้หญิงดี ๆ ให้พ่อเกรซแต่งงาน เพื่อหวังว่าจะได้มีครอบครัวที่ดี แต่กลายเป็นว่าพ่อเกรซเลือกที่จะเป็น LGBTQIA2S+ อากงรับกับสิ่งที่พ่อเกรซเป็นไม่ได้

ถึงอากงจะตัดขาดพ่อลูก พ่อเกรซก็ยังคอยส่งคนไปช่วยเหลืออากงกับอาม่าอยู่ตลอด ทำให้ช่วงหนึ่งที่ร้านทองกำลังย่ำแย่จนแทบปิดกิจการ ก็ได้พ่อเกรซนี่แหละช่วยเหลือไว้ เพียงแต่อากงอาม่าไม่รู้

แล้วภาพก็ตัดย้อนกลับไปตอนที่มาตาเรียนอยู่ชั้นประถม ตอนนั้นมาตาโดนเพื่อนล้อว่า “ลูกตุ๊ด ๆ ๆ” จนทำให้มาตาเอาคืนด้วยการทำร้ายเด็กที่ล้อเธอ

เมื่อมาตากลับมาถึงบ้านก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พ่อเกรซฟัง พ่อเกรซจึงอธิบายว่าในโลกของเราไม่ได้มีแต่ผู้ชายกับผู้หญิง ยังมีคนหลากหลายเพศเต็มไปหมด “ทุกคนเป็นคนธรรมดาเหมือนกันหมด บางวันก็ใจดี บางวันก็หงุดหงิด แต่เพศไม่ได้เกี่ยวกับการที่ใครจะเป็นคนดีหรือไม่ดีเลยนะลูก”

ตัดกลับมาปัจจุบัน หลังจากพ่อเกรซกับน้า ๆ กลับพัทยาไปแล้ว มาตาก็ไปที่ร้านทองอีกครั้ง วันนี้อาม่าอยู่เพียงคนเดียว อาม่าที่คิดลูกและหลานแทบขาดใจ แต่ที่ผ่านมาติดที่ไม่อยากขัดใจอากงจึงต้องฝืนเก็บความทุกข์ไว้ เมื่อวันนี้หลานเพียงคนเดียวมายืนอยู่ตรงหน้า อาม่าถึงกับทำอะไรไม่ถูก ไม่ใช่ปัญหา เพราะมาตาใช้พลังความใจดีเข้าหาอาม่า เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่นาทีที่ทั้งสองได้คุยกัน แต่มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดจนมาตาปีติจนหลั่งน้ำตาออกมา ก่อนกลับมาตาให้สัญญาว่าจะมาหาอาม่าทุกวันเลย เพราะตอนนี้เธอมาอยู่กรุงเทพฯ แล้ว

วันต่อมาที่บ้านพ่อ วันนี้เป็นวันนัดบอดของหมอปุริมกับลูกสาวรัฐมนตรี เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังไปสาย เมื่อเดินเข้าทุกคนต่างรอกันอย่างพร้อมหน้า หญิงสาวมองไปที่ปุริมด้วยรอยยิ้มที่ออกมาจากแววตา เธอรู้สึกชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น

EP.3 คุณหมอผู้ไม่เคยกินหมูกระทะ

วันนี้ หมอปุริมบังเอิญเจอมาตาอีกครั้งระหว่างหาซื้อเสื้อในร้านหนังสือ 555 … มาตาหยิบหนังสือทำเค้กยื่นให้ แล้วเสนอให้เขาทำเค้กแบบนี้ มันดูน่าอร่อยดี หมอปุริมตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉยตามสไตล์ “ขอโทษนะแต่เราไม่ได้สนิทกัน”

เป็นแต่เพียงว่า มาตาตอบกลับด้วยประโยคที่หมอปุริมไม่คาดคิด “เออจริง เราไม่ได้สนิทกัน งั้นเรามาสนิทกันมั้ยคุณ” มาตายิ้มให้ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยพลังใจดี ที่ค่อย ๆ เติมเต็มคุณหมอโรคหัวใจที่ไม่มีหัวใจ

จากนั้น มาตาก็เปิดประสบการณ์ใหม่เรื่องการกินให้หมอปุริมอีกครั้ง ด้วยการชวนไปร้านปิ้งย่าง #หมอปุริมผู้ไม่เคยกินหมูกระทะ … มาตาไม่เข้าใจว่าหมอปุริมเป็นคนยังไงถึงไม่เคยกินอาหารประเภทปิ้งย่าง เขาจึงอธิบายด้วยน้ำเสียงแบบอาจารย์ที่กำลังสอนอินเทิร์น “คนไข้ที่มาให้ผมรักษาก็เพราะว่ากินของพวกนี้มากเกินไปนั่นแหละ”

แต่คำสั่งสอนของอาจารย์หมอหรือจะมาหยุดยั้งปิศาจหมูกระทะอย่างมาตาได้ เธอจึงบอกสุดยอดความอร่อยของการกินหมูกระทะ นั่นคือ การที่น้ำหมูมันไหลลงมารวมกับซุปผัก ตอนสุดท้ายคือน้ำซุปมันจะหวาน แล้วมันก็จะอร่อยมาก ๆ ๆ ๆ มาตาพูดไปพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความฟิน

หมอปุริมหยิบตะเกียบคีบเนื้อหมูลงไปจิ้มน้ำจิ้มแล้วค่อย ๆ เอาเข้าปาก ถึงกับอึ้ง จากนั้นคุณหมอก็กินไม่หยุดเลย แหม่

ความเมตตาเกิดจากหัวใจ

ต่อมา ค่ำนี้ฝนตกหนักมาก หมอปุริมขับรถกำลังจะเลี้ยวเข้าบ้าน เขาเห็นมาตาเนื้อตัวเปียกปอนยืนถือร่มให้น้องหมาจรจัดที่เพิ่งคลอดลูก เขาจึงเรียกให้มาตาขึ้นรถพามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวที่บ้าน ก่อนที่เขาจะออกไปเอาน้องหมาจรจัดกับลูก ๆ มาไว้ในบ้าน

มาตาตั้งชื่อให้น้องหมาจรจัดว่า ‘โอลีฟ’ เพราะมันหน้าเหมือนแฟนป๊อปอาย ส่วนลูก ๆ มันอีกสองตัวชื่อ ป๊อปอายกับพลูโต

หมอปุริมนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในวัยเด็ก เขาเคยขอพ่อเลี้ยงน้องหมาเป็นรางวัลที่สอบได้ที่หนึ่ง แต่พ่อไม่อนุญาต ด้วยเหตุผลว่าน้องหมาจะทำให้เขาเสียสมาธิในการอ่านหนังสือ

มาตาเสนอให้หมอปุริมรับเลี้ยงมันจะได้สมกับที่เป็นหมอหัวใจ หมอปุริมโต้กลับด้วยความรู้ทางวิชาการว่า ความรักไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหัวใจเลย ณ จุดนี้ มาตามองตาคุณหมอแล้วพูดว่า “ใครบอกว่าความรักล่ะ ความรักมันเกิดจากสมอง ความเมตตาต่างหากที่เกิดจากหัวใจ” หมอปุริมอึ้งกับคำพูดของมาตา ทั้งสองนั่งจ้องตากันอย่างนั้น เหมือนกับส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างให้แก่กัน

คำพูดของมาตาดังกึกก้องอยู่ในหัวของหมอปุริม เขาจึงตัดสินใจฝ่าฝืนคำสั่งพ่อเป็นครั้งแรก ทำให้พ่อไม่พอใจที่เขาเอาหมาจรจัดมาเลี้ยงในบ้าน แต่มันกลับเป็นครั้งแรกเช่นกันที่เขาเริ่มรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง … เขาสัญญากับมาตาว่า “เราจะเลี้ยงหมาตัวนี้ไปด้วยกัน” มาตากระโดดด้วยความดีใจเหมือนกับถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง

และเจ้าโอลีฟก็กลายเป็นตัวเชื่อม ที่ทำให้หมอปุริมกับมาตาลดาได้ใกล้ชิดกัน

วันต่อมา มาตาจึงขอให้หมอปุริมสอนทำเค้ก มาตาหยิบกล้วยหอมใหญ่ยาวและโค้งงอขึ้นมาลูบ ๆ คลำ ๆ “อุ๊ย มาตาชอบกินกล้วย กล้วยเป็นหนึ่งน่ากินมาก ต้องอร่อยมากแน่ ๆ เราจะทำเค้กกล้วยหอมกันใช่มั้ย” หมอปุริมทำท่าเขิน ๆ ก่อนจะสะอึกออกมา 555

EP.4 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

หลังเป็นหนึ่งตัดสินใจเลี้ยงเจ้าโอลีฟกับลูก ๆ อีกสองตัว มาตาก็เทียวมาเล่นกับน้องหมาที่บ้านหมอปุริมทุกวัน ระหว่างนั่งกินเค้กกล้วยหอมเล่นกับน้องหมาบนพื้น จู่ ๆ ขามาตาก็โดนตะคริวกิน “โอ๊ย”

หมอปุริมจับขามาตายืดออกแล้วนวด จากนั้นก็เทศนาเรื่องสุขภาพของมาตา … เป็นตะคริวทุกวัน ขี้หนาว ข้าวเช้าก็ไม่กิน กินทีก็กินจนจุกท้อง ปวดหัวไมเกรน ปวดประจำเดือนก็ปวดมาก เย็น ๆ บ่าย ๆ ขาบวม … มาตาได้ยินก็เริ่มวิตกจริต “นี่ฉันเป็นโรคร้ายอะไรเนี่ย !?”

“คุณไม่ได้เป็นโรค จริง ๆ แล้วคนสมัยนี้แค่ไม่สบาย แล้วหมอก็รักษาไม่ได้ การรักษาที่ดีที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง” หมอปุริมพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้มาตาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้วยการมากินข้าวเย็นที่บ้านเขาหนึ่งอาทิตย์

เย็นรุ่งขึ้น มาตาไปไดนิ่งดินเนอร์ที่บ้านหมอปุริม พอจานอาหารมาวางตรงหน้าเท่านั้นแหละ มาตาถึงกับช็อก มีแต่ผักเขียวอี๋ ซุป แล้วข้าวสวยอีกขยุ้มหนึ่ง

หมอปุริมยิ้ม “แค่ลดอาหารเย็นอาทิตย์เดียวไม่ตายหรอก เชื่อสิ ผมเป็นหมอ” เขาให้เหตุผลว่าเธอใช้พลังงานในแต่ละวันน้อยมาก จึงให้กินข้าวเย็นเร็วแล้วก็น้อยลง เข้านอนด้วยความรู้สึกหิวนิด ๆ ตื่นเช้ามาจะได้กินอาหารเช้าได้อร่อย ทั้งหมดก็เพื่อให้ลำไส้ได้พักทำความสะอาดบ้าง

เพื่อเป็นกำลังใจให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รุ่งขึ้น หมอปุริมนัดมาตาให้มาที่บ้าน เขาจะสอนทำเค้กให้ ทีนี้ ทำเสร็จมาตาก็ขอเอาเค้กไปให้อาม่าที่ร้านทอง หมอปุริมจึงอาสาขับไปส่งด้วยข้ออ้างว่าอยากกินบะหมี่

มาตาเดินถือกล่องเค้กจะเข้าไปที่ร้านทอง แต่ยังไม่ทันเข้าไปก็เห็นอากงกำลังโดนซินแสมาเฟียข่มขู่เอาเงินบริจาคหลายหมื่นบาท มาตาเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปต่อกรกับซินแสมาเฟียด้วยตัวเอง ถึงอย่างนั้น ซินแสก็ยังไม่หยุด แล้วพระเอกขี่ม้าขาวก็ปรากฏตัวขึ้น

หมอปุริมเข้ามาในร้านแล้วอ้างข้อกฎหมายบลา ๆ ๆ ออกมา จนซินแสมาเฟียถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก “นี่ลื้อเป็นใครวะ ?” จากนั้น หมอปุริมก็ยิงหมัดเด็ด ขอชื่อมูลนิธิพร้อมเอกสารมาแล้วเขาจะเขียนเช็คบริจาคให้ ไอ้พวกซินแสมาเฟียเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบออกจากร้านไป

อากงที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็มองไปที่หมอปุริมด้วยท่าทางชื่นชม มาตาแนะนำว่าเขาเป็นแฟนของเธอ หมอปุริมจึงยกมือไหว้อากงด้วยท่าทางเขิน ๆ

EP.5 รักแหละดูออก

อากงเชิญหมอปุริมเข้ามาจิบน้ำชาข้างในบ้าน ระหว่างอากงกำลังถามชื่อแซ่ มาตาก็แกล้งขัด โดยหันไปคุยกับอาม่า “ชาหอมจังเลยนะคะอาม่า”

อากงหันขวับ “อาม่าใคร ใครอาม่าลื้อ”

มาตาทำหน้าตาย ตอบกลับอากงด้วยน้ำเสียงใสซื่อ “ก็เมียอากงไงคะ … หรืออากงมีเมียหลายคน” 555

อย่างไรก็ตาม แม้อากงจะยังไม่ยอมรับมาตาเป็นหลาน แต่อากงดูจะถูกชะตากับหมอปุริมเข้าให้แล้ว

คุณแม่หมอปุริมเจ้ากี้เจ้าการส่งโลเคชันบ้านลูกชายไปให้ แพง อรุณรัศมี ตามความต้องการของพ่อจอมบงการ … แพงไปบ้านหมอปุริม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มาตามารอกินเข้าเย็นพอดี มาตาเลิ่กลั่กเมื่อถูกแพงยิงคำถามใส่ว่าเป็นอะไรกับปุริม “เอิ่ม เป็นเพื่อนบ้านค่ะ”

เมื่อปุริมมาถึง ความรู้สึกเป็นส่วนเกินก็ผุดขึ้นมาในหัวของมาตา เธอจึงขอตัวกลับ แต่เมื่อมาถึงบ้านนี่สิ มาตากลับรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ แล้วคืนนั้นมาตาก็ออกอาการอึนมึนไม่ร่าเริงอย่างที่เคยเป็น

เอ๊ะ ยังไง !? #รักแหละดูออก

ความอึนความมึนยังเกาะอยู่ในหัวมาตาจนถึงเช้าอีกวัน มาตาจึงไปปรึกษาพ่อเกรซ เธอสงสัยว่าแพงอาจจะเป็นแฟนกับเป็นหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอก็ไม่อยากเป็นตัวปัญหาของใคร พ่อเกรซเลยแนะนำให้มาตาไปถามหมอปุริมตรง ๆ

เขาให้กุญแจบ้านกันด้วยล่ะ

แดดเปรี้ยง … มาตามายืนรอที่หน้าบ้านหมอปุริม เผอิญว่ามีเคสผ่าตัดด่วนเข้ามา มาตายืนกลางแดดเปรี้ยงอยู่อย่างนั้นนานนับชั่วโมงจนหน้าแดง เมื่อหมอปุริมมาถึง มาตาก็เป็นลงล้มพับไปในอ้อมกอดของคุณหมอพอดี

หมอปุริมพามาตาเข้ามาในบ้านแล้วปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ เมื่อมาตารู้สึกดีขึ้นแล้ว หมอปุริมขอโทษด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เขามีผ่าตัดด่วนจึงทำให้กลับบ้านผิดเวลา มาตาได้ยินน้ำเสียงแบบนั้นจึงตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เป็นหนึ่งจะขอโทษทำไม การรักษาชีวิตคนไข้มันยิ่งใหญ่กว่ามากเลยนะ”

ทีนี้ เมื่อคิดวิเคราะห์แยกแยะปัญหา หมอปุริมจึงแลกเบอร์โทร. กับมาตาเพื่อจะติดต่อกันได้ จากนั้น หมอปุริมก็เดินไปหยิบกุญแจบ้านยื่นให้มาตา เผื่อเวลาที่เขาผ่าตัดแล้วรับโทรศัพท์ไม่ได้ … ผู้ชายให้กุญแจบ้าน มาตาก็เขินสิคะ

คืนนั้น หมอปุริมฝันร้าย ฝันว่าบ้านบึ้มเละเทะเลอะเทอะอย่างกับมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายบุกเข้ามาในบ้าน มาตา !

รุ่งขึ้น หมอปุริมจึงตามให้มาตามาบ้านด่วน จากนั้นก็บอกกฎข้อห้ามประมาณสามร้อยกว่าข้อ เพื่อให้เขามั่นใจว่ามาตาจะไม่ทำบ้านเละเหมือนในฝัน มาตาบิดไปบิดมาด้วยความเขินอาย กฎอะไรมันจะเยอะขนาดน้าน

ระบบไหลเวียนเลือด

หลังผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาหลายวัน วันนี้ หมอปุริมจึงเช็กพฤติกรรม มาตาทำตามที่คุณหมอปุริมสั่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ห้ามกินขนมระหว่างมื้อ แช่น้ำอุ่นก่อนนอน นอนก่อนห้าทุ่ม ตื่นมาอาบแดดตอนเช้า แล้วก็กินข้าวเช้า แต่มีอย่างหนึ่งที่ยังทำไม่ได้ คือตอนเช้าไม่ได้หิวอยากกินข้าวเช้า

หมอปุริมฟังแล้วก็ยิ้ม “เดี๋ยวก็หิว รอให้ร่างกายมันปรับตัวก่อน” จากนั้นเขาก็เลคเชอร์เรื่องสุขภาพผู้หญิง สิ่งที่เขาสั่งให้ทำ จะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น เป็นปัญหาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นแต่ไม่รู้ตัว ซึ่งมันจะกระทบไปถึงระบบอื่น ๆ ในร่างกาย … ถ้าเลือดสูบฉีดดีร่างกายก็จะดี

ค่ำวันนั้น หมอปุริมพามาตาไปเดินออกกำลังกาย ระหว่างนั้นเขาก็สอนวิธีการออกกำลังกายขา มาตาทำหน้างงว่าทำไปเพื่ออะไร ? หมอปุริมจึงเลคเชอร์อีกครั้ง … เลือดแดงมีหัวใจคอยบีบส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แต่เลือดดำไม่มีหัวใจคอยบีบกลับขึ้นไป เพราะฉะนั้นน่องของเราเท่ากับเป็นหัวใจดวงที่สอง ถ้าน่องแข็งแรงเลือดก็จะถูกส่งกลับไปที่หัวใจได้ดีขึ้น

เมื่อรู้แบบนั้น มาตาจึงออกกำลังกายขาไม่เลิกจนเป็นตะคริว หมอปุริมจึงให้มาตานั่งแล้วจับขาเธอพาดหน้าตักเขาแล้วก็นวดให้ด้วยความนุ่มนวล

EP.6 คุณหมอเก่งกับคุณหมอใจดี

ระหว่างที่ความสัมพันธ์ของหมอปุริมกับมาตาพัฒนาดีขึ้นตามลำดับ จนเพื่อน ๆ หมอและพยาบาลเริ่มสงสัยว่า “ปุริมซุ่มคบหญิง” แต่หมอปุริมก็เฉไฉปฏิเสธไปแบบเขิน ๆ

หมอปุริมได้ทำเคสด่วน คนไข้มีอาการ ‘หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง’ ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดทันที เนื่องจากถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายถึงชีวิต คนไข้เป็นดาราหญิงรุ่นใหญ่จอมดื้อ ยังไง ๆ ก็ยืนยันว่าจะไม่รับการผ่าตัด

เนื่องจากเป็นเคสอันตราย หมอปุริมจึงตัดสินใจนอนที่โรงพยาบาล เขาจึงเฟซไทม์ไปขอร้องให้มาตาช่วยหาข้าวหาปลาให้เจ้าโอลีฟ

เมื่อมาตารู้เรื่องคนไข้จอมดื้อ เธอจึงเล่าเรื่องในวัยเด็กตอนที่เธอหาหมอฟัน เด็กหญิงมาตาในตอนนั้นไม่ชอบหมอฟันที่ชอบพูดเรื่องการรักษา ถึงมันจะเป็นข้อมูลจริงแต่ไม่มีคนไข้คนไหนอยากฟัง เด็กหญิงมาตาชอบหมอที่ให้อมยิ้มหลังทำฟันเสร็จ เพราะทำให้รู้สึกว่าหมอมองเราเป็นเด็กหญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่คนไข้ที่หมอต้องรักษาตามหน้าที่

“บางทีคุณดาราคนนั้นอาจไม่ได้ต้องการหาหมอที่เก่งที่สุด แต่กำลังมองหาหมอใจดีอยู่ก็ได้นะ” คำพูดของมาตาทัชเข้าไปในหัวใจของหมอปุริม

หมอปุริมนำเอาสิ่งที่มาตาแนะนำมาปรับใช้ เขาให้ลูกหลาน เพื่อนดารา และเหล่าแฟนคลับมาเป็นกำลังใจคนไข้ จนในที่สุดคนไข้ก็มีกำลังใจและพร้อมที่เข้ารับการผ่าตัด

ต่อมา ชายคนหนึ่งออกมาจากคุก ชายคนนั้นมุ่งไปหาพ่อของปุริมที่บ้าน พ่อเปิดประตูออกไปพบด้วยสีหน้าตกใจ ชายคนนั้นคือเพื่อนสมัยเด็กที่กุมความลับบางอย่างเอาไว้ … พ่อหมอปุริมปิดซ่อนความลับอะไรเอาไว้ ?

EP.7 ครอบครัวที่เต็มเปี่ยวด้วยความรัก

มาตาชวนปุริมไปงานวันเกิดของพ่อเกรซ ที่จัดขึ้นอย่างเต็มสตรีม มีนางโชว์ออกมาทำการแสดงบนเวที แสงสีเสียงจัดเต็มในเพลงบุพเพสันนิวาส เมื่อปุริมเห็นเพอร์ฟอร์แมนซ์บนเวทีของพ่อเกรซ ถึงกับอึ้ง ตาค้าง 555

ปุริมเจอกับพ่อเกรซที่หน้าห้องน้ำ ทั้งสองได้คุยกันจนถูกคอ สักพักพ่อเกรซให้ปุริมกลับบ้านไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเป่าเค้กที่บ้าน เพราะเกรงใจกลัวคุณหมอจะนอนดึก

มาตาพาหมอปุริมไปเป็นหน้าด่านรับหน้าอากง ส่วนมาตาก็เข้าไปหาอาม่าในครัว ที่กำลังเตรียมขนมให้พ่อเกรซในวันเกิด อากงเกรงใจหมอปุริมจึงไม่ไล่มาตาเหมือนหมูเหมือนหมาอย่างที่ผ่าน ๆ มา อีกอย่าง ท่าทีของอากงดูจะเบาลง แม้จะยังห่างไกลกับคำว่า “หายโกรธพ่อเกรซ” ก็เถอะ

พ่อเกรซหลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุดที่ได้กินอาหารที่อาม่าทำมาให้ มาตาถามพ่อเกรซตรง ๆ ว่าทำไมอากงถึงโกรธพ่อเกรซมากขนาดนี้ พ่อเกรซจึงตอบกลับอย่างเข้าใจ “ตัวตนของพ่อทำให้ชีวิตที่วางแผนเอาไว้ของอากงพัง เพราะพ่อเป็นความหวังเดียวในชีวิต ที่อากงตั้งความหวังเอาไว้”

มาตาฟังคำตอบจากปากพ่อเกรซ เธอถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เช่นกัน มาตาให้สัญญาว่าวันเกิดพ่อเกรซปีหน้า ทุกคนจะต้องกลับมาพร้อมหน้ากัน เพราะเวลาจะชะล้างความโกรธให้จางลง แต่ความรักจะไม่มีวันจางหายไป

ค่ำวันเดียวกันนั้น หมอปุริมไปงานเลี้ยงวันเกิดพ่อเกรซที่บ้านมาตา ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า ครอบครัวของมาตาที่พ่อเกรซให้คำจำกัดความว่าเป็นครอบครัวแปลกประหลาด แท้จริงแล้วเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ต่างจากครอบครัวของเขาที่คนภายนอกมองว่าสมบูรณ์แบบ แต่ข้างในกลับแปลกประหลาดยิ่งกว่า

EP.8 คนแรกของผม

ไตรฉัตรเริ่มเข้าหาแพงอย่างจริงจัง จากเดิมที่แพงมองข้าม แต่น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน หัวใจแพงไม่ใช่หิน เมื่อโดนไตรฉัตรกะเทาะทุกวัน ๆ แพงก็เริ่มใจอ่อน

ส่วนมาตาก็ได้ทีชวนปุริมไปเที่ยวสวนสนุก ซึ่งเป็นที่ที่มาตาอยากไปมาก ๆ ปุริมได้ยินก็อึ้งนิดหน่อย เพราะเขาไม่เคยไปมาก่อน มาตาเลยพาคุณหมอนั่งรถไฟฟ้า ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้นั่งรถไฟฟ้าซะอีกน่ะ

มาตาจึงเป็นคนที่ทำให้เป็นหนึ่งได้ทำอะไรหลายอย่างเป็นครั้งแรก ที่สำคัญยังเป็นรักแรกของเขาอีกด้วย … ช่วงเวลานั้นจึงกลายเป็นความสุขสุด ๆ ของคนทั้งสอง

ทั้งสองเล่น ‘ล่องแก่ง’ จนเนื้อตัวเปียกปอน มาตาจึงไปซื้อเสื้อมาเปลี่ยน ปุริมถอดเสื้อออก ทีนี้ล่ะ มาตาถึงกับจ้องซิกแพคของหมอปุริมจนตาแทบถลนออกมาจากเบ้า ไม่เท่านั้น ยังเอานิ้วจะไปจิ้มซิกแพคงาม ๆ ของปุริม แต่ปุริมเอามือปัดเอาไว้ “ฉันอยากลองจับมาตั้งนานแล้ว อยากรู้ว่าซิกแพคมันเป็นยังไง”

ปุริมมองมาตาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุ ๆ “ไม่ได้ เดี๋ยวค่อยไปจับที่บ้าน” แหม่ โดนประโยคนี้เข้าไปมาตาถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ 555

เมื่อกลับถึงบ้าน มาตาก็เอาเค้กปอนด์จิ๋วปักเทียนสามต้น เอามาอวยพรวันเกิดเป็นหนึ่ง … ทั้งชีวิตไม่เคยมีใครจัดงานวันเกิดให้ วันนี้จึงเป็นวันเกิดครั้งแรกของเขาที่มีความสุขอย่างไม่รู้สึกมาก่อน

ในขณะที่ คู่มาตากับปุริมกำลังแฮปปี้กับช่วงเวลาดี ๆ ที่มีให้กัน คู่ของแพงกับไตรฉัตรก็เลยเถิดไปไกลกว่าที่คิด คืนนั้น ทั้งสองเมามายกันแทบสิ้นสติ แพงชวนไตรฉัตรดื่มต่อที่คอนโด เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาแพงตกใจ เมื่อเห็นผู้ชายนอนอยู่ข้าง ๆ “นี่เมื่อคืนฉันทำอะไรไปเนี่ย”

อย่างไรก็ตาม ไตรฉัตรก็เฉลยกับแพงว่า เมื่อคืนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากเมาหลับกันไปทั้งคู่ … ยิ่งได้รู้ว่าไตรฉัตรไม่ใช่พวกผู้ชายฉวยโอกาส ความรู้สึกที่เธอมีกับเขาจึงดับเบิลคูณสองทันที

EP.9 ผลท้อที่โดนทุบจนนุ่ม

แพงไปหาไตรฉัตรที่คอนโด แต่เมื่อเห็นเขาอยู่กับหญิงอื่น แพงก็เสียใจจนน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด มันเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอที่เธอเกลียด และไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่มันเกิดขึ้นแล้ว

ไตรฉัตรเห็นแพงโกรธ จึงถือดอกไม้ช่อโตไปง้อที่คอนโด แพงไม่ยอมรับคำขอโทษ ไตรฉัตรรู้ดี ไตรฉัตรไม่ได้โง่ ผู้หญิงไม่ว่าภายนอกจะแสดงท่าเข้มแข็งขนาดไหนก็ไม่ต่างจากผลท้อ ผลท้อที่ต้องค่อย ๆ ทุบจนเนื้อนุ่ม ถึงจะกินอร่อย ผู้หญิงอย่างแพงก็ไม่ยกเว้น ภายนอกที่ดูเข้มแข็งเป็นเพียงกำแพงที่มีเอาไว้ปิดซ่อนความอ่อนนุ่มที่ซ่อนเอาไว้ข้างใน

ริมฝีปากที่แผ่วเบาค่อย ๆ สัมผัสที่แก้มของแพง ริมฝีปากของผู้ชายเพลย์บอยอย่างไตรฉัตรนุ่มและมีกลิ่นหอมเบา ๆ มือค่อย ๆ สัมผัสที่ร่างของเธออย่างทะนุถนอม แพงเริ่มทำตาพริ้ม “ผมนอนกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่ผมไม่เคยนอนหลับกับใครได้เลยซักคน เมื่อคืน (ที่นอนกับคุณ) เป็นครั้งแรกที่ผมนอนหลับสนิท” … นี่มันคำพูดของลีโอพุฒ ใน Fake โกหกทั้งเพ ใช่มั้ย !?

เมื่อโดนทุบทั้งคำหวาน ทั้งรสสัมผัส แพงจึงตอบสนองไตรฉัตรด้วยรอยจูบ แล้วคืนนั้นทั้งสองก็จบลงด้วยความสัมพันธ์แนบสนิทกัน

รุ่งเช้า เหมือนละครคนละเรื่อง แพงขอร้องให้ไตรฉัตรเก็บเรื่องความสัมพันธ์เป็นความลับ โลกกลับตาลปัตร ไอ้หนุ่มเพลย์บอยอย่างไตรฉัตรเจ็บจี๊ดเหมือนโดนกระทืบเข้าที่ขั้วหัวใจ แพงไม่ต้องการให้ปุริมรู้ … ไตรฉัตรรู้สึกแพ้ปุริมอีกครั้ง ทั้งที่แพ้มาแล้วทั้งชีวิต

เวลาเดียวกัน คุณหมอปุริมเป็นไข้นอนซมอยู่ที่บ้าน มาตาจึงมาดูแลหาข้าวต้มให้กิน คอยเช็ดตัวให้ แล้วจู่ ๆ คุณหมอก็ดึงแขนมาตาจนโน้มตัวเข้ามาใกล้ แล้วเอ่ยประโยคที่มาตาไม่คิดว่าจะได้ยิน …

“คุณเคยคิดถึงเรื่องความรักบ้างมั้ย คิดไว้บ้างก็ดีนะ”

EP.10 ลืมกุญแจบ้าน

หลังโดนประโยค “คิดถึงความรัก” ของเป็นหนึ่งเข้าไป มาตาถึงกับนอนหลับยิ้มหวานทั้งคืน ตื่นมาตอนเช้าก็ยังยิ้มไม่หุบ

ไตรฉัตรกลับมาบ้าน เจอแม่ดื่มจนเมามาย แล้วก็เอาแต่บ่นเรื่องที่มีลูกไม่เอาไหน สู้ปุริมไม่ได้ คำพูดของแม่ยิ่งทำให้ไตรฉัตรเกิดแรงฮึดที่จะสู้ปุริม เขาจึงคิดเปลี่ยนเป้าหมายจากแพงไปหามาตา

ด้านพ่อเกรซที่ได้รู้ว่ามีซินแสมาเฟียมาระรานอากงที่ร้านทอง จึงวางแผนกับแก๊งเซเลอร์มูนไปจัดการกับถ่ายรูป ขณะที่ซินแสมาเฟียกำลังจู๋จี๋อยู่กับสาว ๆ โดยขู่ว่าจะเอาภาพไปประจาน ซินแสมาเฟียจึงสิ้นท่า ยอมมายกน้ำชาขอขมาอากงที่ร้านทองแต่โดยดี

วันเดียวกันนั้น มาตาได้งานใหญ่ คืนนั้นเธอจึงต้องนั่งปั่นงานทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพื่อส่งงานให้ทัน หมอปุริมก็ได้แต่โทรศัพท์หาด้วยความเป็นห่วง

รุ่งขึ้น มาตาที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืน ก็แวะมาที่บ้านหมอปุริม ด้วยความที่ง่วงจัดจนลืมกุญแจบ้านตัวเอง แต่เอ๊ะ ไม่ลืมกุญแจบ้านคุณหมอ 555 … เมื่อร่างได้นั่งลงบนโซฟานุ่ม ๆ ตัวก็ค่อย ๆ เอนลงไป จากนั้นตาก็ค่อย ๆ หลับ เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา มาตาก็ได้ไปเฝ้าพระอินทร์

หมอปุริมกลับมาถึงบ้าน ก็เดินเข้ามาดูมาตาที่กำลังนอนหลับด้วยความเอ็นดู ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ใช้มือทั้งสองอุ้มมาตาขึ้นจากโซฟา เพื่อพาไปนอนบนเตียงนอนในห้องชั้นบน

EP.11 ความสับสนที่ปนอยู่ในความรัก

คุณหมอปุริมอุ้มมาตาไปนอนบนเตียงที่ห้องชั้นบน ส่วนตัวเขามานอนที่โซฟาแทน เมื่อมาตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็รู้สึกปลื้ม ที่มีผู้ชายใจดีอุ้มเธอไปนอนบนห้อง ส่วนตัวเองยอมนอนที่โซฟา แถมตื่นมายังหล่อขนาดนั้นได้อีก 555

เช้าวันนั้น ไตรฉัตรมาหาปุริมที่บ้านพอดี ทำให้เขารู้ว่ามาตาเป็นตัวจริงของปุริม แผนการเอาชนะปุริมจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่ปุริมรู้นิสัยความเพลย์บอยคลำไม่เจอหางของลูกพี่ลูกน้องคนนี้ดี เขาจึงออกอาการหึงแรงจนออกนอกหน้า

คืนนั้น ขณะมาตา พ่อเกรซและชาวแก๊งเซเลอร์มูนกำลังนั่งกินอาหารค่ำกัน พวกแก๊งทวงหนี้ก็มาทวงหนี้เพื่อนบ้านจอมสาระแน พวกมันพยายามงัดบ้านเข้าไป สาว ๆ ชาวแก๊งเซเลอร์มูนจึงต้องออกโรงไปช่วย

อันธพาลหนึ่งในสอง เห็นแก๊งเซเลอร์มูนเป็นสาวสอง มันจึงปากแจ๋วใส่ น้าวีทนไม่ไหวเลยควักปืนออกมา จากอันธาพาลปากแจ๋วเลยกลายเป็นอันธพาลหน้าประจวดทันที แต่ก่อนที่เรื่องราวจะไปกันใหญ่ มาตาก็ออกโรงประกาศว่าจะจ่ายดอกแทนให้ พวกมันจึงยอมกลับไป

พ่อเกรซและน้าวียื่นมือเข้าไปช่วยเพื่อนบ้านจอมสาระแน น้าวีรวบรวมทรัพย์สินที่เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมของเพื่อนบ้านจอมสาระแน ก่อนจะช่วยขายเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ เรื่องราวผ่านไปได้ด้วยดี

วันต่อมา แพงมาหาปุริมที่บ้าน ในขณะที่มาตาอยู่ด้วย มันทำให้มาตาที่กำลังจมอยู่ในความรัก ที่ปนเปกับความสับสนเรื่องสถานะของแพงกับปุริมรู้สึกปวดใจ

แพงกับปุริมนั่งคุยกันที่สวนหน้าบ้าน ระหว่างนั้น มาตาก็คอยแอบดูทั้งสองคุยกันด้วยความรู้สึกเจ็บจี๊ด แล้วสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ ๆ เจ้าพลูโตก็เดินไปฉี่ใส่เท้าของแพง “ว้ายยย อะไรเนี่ยไอ้หมาบ้า !”

แพงขอตัวกลับทันที เธอเดินออกไปจากบ้านปุริมพร้อมกับความพ่ายแพ้มาตา ที่เธอเรียกว่าผู้หญิงธรรมดา แถมยังโดนเจ้าพลูโตฉี่ใส่เท้าอีก

EP.12 ตามหาหัวใจตัวเอง

เมื่อเห็นแพงมาหาเป็นหนึ่งถึงที่บ้าน มาตาก็เริ่มสับสนกับความรู้สึกตัวเองว่า จริง ๆ แล้วเธอรู้สึกยังไงกับเขากันแน่ มาตาจึงไปปรึกษากับ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อย่างน้าวี ที่แนะนำให้มาตากลับอยู่พัทยา และตัดการติดต่อกับเป็นหนึ่งสักพัก เพื่อทบทวนหัวใจตัวเอง ถ้ารู้สึกกระวนกระวายใจ รู้สึกคิดถึงเขา ก็แสดงว่า “ไม่ใช่แค่ชอบ แต่มาตาหลงรักเป็นหนึ่งเข้าให้แล้ว”

มาตาทำตามคำแนะนำของน้าวี เธอเดินทางไปพัทยา พร้อมกับส่งข้อความบอกเป็นหนึ่งว่า ช่วงนี้มีงานยุ่ง คงไม่ได้ไปที่บ้านสักพัก

คุณหมอปุริมอ่านข้อความแล้วก็ถึงกับช็อตไปทันที คนที่ทำให้วันทุกวันของเขามีความสุข ทำให้ชีวิตเขามีแต่ความสดใส หายไปจากชีวิต แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งก็เถอะ ถึงขนาดแสดงอาการจนเพื่อนหมอและพิมพิสังเกตเห็นได้ 555

ผ่านไปหนึ่งวัน ผ่านไปสองวัน ผ่านไปสามวัน มาตาก็เริ่มออกอาการกระวนกระวายใจ วัน ๆ เอาแต่เฝ้าโทรศัพท์รอข้อความจากเป็นหนึ่ง ด้านเป็นหนึ่งเองก็คิดถึงมาตาไม่ต่างกัน เขาจึงถ่ายรูปเจ้าโอลีฟ เจ้าพลูโต ส่งไปให้มาตา … พอมาตาได้ยินเสียงเตือนข้อความเท่านั้นแหละ ก็แสดงตื่นเต้นดีใจจนพ่อเกรซเริ่มเป็นห่วง

ระหว่างนั้น ไตรฉัตรกับแพงก็ยุติความสัมพันธ์กันตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ แพงได้แต่เก็บความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ ได้แต่แอบร้องไห้เพียงลำพัง

พ่อเกรซสอนลูก

พ่อเกรซเป็นห่วงลูกสาว จึงเข้าไปสอนมาตาในการใช้ชีวิตที่กำลังตกอยู่ในห้วงของความรัก พ่อเกรซแนะนำให้มาตาถามเป็นหนึ่งไปตรง ๆ ถ้าเขาเซย์เยสก็โอเค แต่ถ้าเขาเซย์โนก็ต้องยอมรับความจริง ที่จะต้องเสียใจจากความผิดหวังให้ได้ “ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์กับตัวเอง ความเจ็บปวดจะกลายเป็นคำตอบ ดังนั้น เราต้องกล้าที่จะถามเขาไปตรง ๆ”

เป็นหนึ่งไปหามาตาที่บ้าน บ้านล็อกไม่มีคนอยู่ เพื่อนบ้านสายเผือกจึงบอกกับคุณหมอว่า มาตากลับไปพัทยา เมื่อรู้เช่นนั้น เป็นหนึ่งจึงรีบขับรถไปพัทยาตามหัวใจตัวเองทันที

ค่ำคืน ณ ชายหาดเมืองพัทยา … มาตาเอ่ยปากถามเป็นหนึ่งด้วยอาการประหม่า “เป็นหนึ่งมีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้วใช่มั้ย ใช่คนที่มาตาเจอที่บ้านเป็นหนึ่งหรือเปล่า ?”

เป็นหนึ่งเดินหันหลังให้มาตา เขาค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินไปตามผืนทรายโดยไม่ได้ตอบคำถามนั้น มาตารีบก้าวเท้าเดินตามไปจนทรายเข้าไปในรองเท้าผ้าใบ เธอจึงนั่งยอง ๆ ถอดรองเท้าเอาทรายออก เป็นหนึ่งเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาถอดรองเท้าและเอาทรายออกให้ ก่อนจะตอบว่า “ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นแฟนผม”

EP.14 เธอเป็นแฟนฉันแล้ว

เป็นหนึ่งสารภาพรักกับมาตา ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปจูบสุดที่รักของเขา แต่ริมฝีปากสัมผัสริมฝีปากเพียงแผ่วเบาก็ทำเอามาตาหลับตาพริ้มด้วยความสุข … ท่ามกลางความสมหวังของลูกสาว พ่อเกรซและชาวแก๊งเซเลอร์มูนก็ตื่นเต้นดีใจ กรี๊ดกร๊าดกระตู้วู้กันยกใหญ่

อย่างไรก็ตาม ลึก ๆ แล้วเป็นหนึ่งยังเป็นกังวลว่า ครอบครัวของเขาอาจจะเป็นกำแพงเหล็ก ที่ทำให้มาตาก้าวข้ามไปด้วยความยากลำบาก

รุ่งขึ้น คุณหมอปุริมมาทำงานที่โรงพยาบาล เพื่อนหมอและพิมพีผู้ (อยาก) รู้ทุกสิ่งที่ถามถึงอาการของคุณหมอที่วันทั้งวันเอาแต่ยิ้มไม่หุบ เหมือนกับคนกำลังมีความรัก คุณหมอปุริมจึงสารภาพไปว่า ผู้หญิงคนนั้นคือ ‘มาตาลดา’

ด้านอากงก็เกิดอุบัติเหตุล้มก้นจ้ำเบ้ากระแทกพื้น มาตาจึงคอยมาดูแลทำอาหารการกินให้ โดยมีพ่อเกรซเป็นพ่อครัว มาตาอยากให้อากงไปหาหมอเพื่อตรวจดูอาการ แต่ความดื้อของอากงอะนะ คะยั้นคะยอยังไงก็ไม่ไปเพราะกลัวเสียเงินเสียทองเยอะ มาตาจึงขอให้เป็นหนึ่งมาช่วยพูดให้ อากงจึงยอม

อากงได้รับการรักษาและทำกายภาพบำบัดอย่างดี ระหว่างนั้น อากงก็เริ่มยอมรับมาตามากขึ้น จนในที่สุด ก็เอ่ยปากยอมรับมาตาเป็นหลานซะที

ด้านพ่อเกรซที่จมอยู่กับความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูแลอากงกับอาม่ามานานนับสิบ ๆ ปี ก็ตัดสินใจครั้งสำคัญ ถึงเวลาแล้วที่ต้องกล้วเผชิญหน้ากับความจริง เริ่มที่อาม่า มาตาบอกอาม่าให้มาเจอกับพ่อเกรซที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง สองแม่ลูกกอดกันด้วยความคิดถึง หลังจากไม่ได้เจอกันมานานกว่านับสิบ ๆ ปี

วันต่อมา พ่อเกรซแต่งตัวอย่างหล่อ วันนี้พ่อเกรซจะไปหาอากงที่ร้านทอง … ลูกที่ทำให้พ่อหัวใจสลาย ลูกที่โดนพ่อแพ่นกบาลจนเลือดท่วมตัว ขณะที่ในทั้งสองมือโอบอุ้มหลานสาวเอาไว้ ลูกที่ถูกพ่อตัดขาดความเป็นพ่อลูกเพราะรับไม่ได้ที่ลูกชายเป็น LGBTQIA+ แล้ววันนี้ทั้งสองกำลังต้องกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ผลลัพธ์จะเป็นยังไงนะ ?

EP.14 ความเข้าใจของคนสองยุค

มาตานั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ขี่ไปชนเข้ากับรถของไตร มาตากลิ้งเป็นลูกขนุนกับพื้นถนน ยังดีที่เป็นแค่แผลถลอกที่แขนและที่ขานิดหน่อย … ถึงไตรจะดูแลเทกแคร์พามาตาไปรักษาพยาบาล แต่มาตารู้สึกได้ว่า ไตรฉัตรมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลังรอยยิ้ม เมื่อหมอทำแผลเสร็จ มาตาจึงรีบขอตัวกลับทันที

ค่ำวันนั้น เป็นหนึ่งรีบไปหามาตาที่บ้านด้วยความเป็นห่วง หลังจากทานอาหารค่ำกับพ่อเกรซและชาวแก๊งเซเลอร์มูนเสร็จ เป็นหนึ่งของคุยกับพ่อเกรซเป็นการส่วนตัว

เป็นหนึ่งถามพ่อเกรซด้วยความสงสัยว่า ทำไมพ่อเกรซถึงอยากคืนดีกับอากง แม้ว่าอากงจะเคยทำร้ายพ่อเกรซอย่างรุนแรงจนเลือดตกยางออก เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน

พ่อเกรซอธิบายได้อย่างเคลียร์คัต ทำให้เป็นหนึ่งเข้าใจความคิดความรู้สึกของคนเป็นพ่อในยุคก่อน ที่อาจจะมีความคิดบางอย่างที่ต่างออกไป พ่อที่เกิดในยุครักลูก และอยากให้ลูกเดินในทางที่พ่อรู้สึกว่าจะทำให้ลูกมีความสุข ซึ่งนั่นเป็นพื้นฐานที่เกิดจากความรัก … เมื่อได้ฟังสิ่งที่พ่อเกรซอธิบาย เป็นหนึ่งจึงเข้าใจพ่อตัวเองมากยิ่งขึ้น

ระหว่างนั้น แม่ไตรบังเอิญเจอกับสมบัติ เพื่อนวัยเด็กของพ่อเป็นหนึ่ง … สมบัติเล่าความลับว่า พ่อเป็นหนึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่หลวงตาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นพ่อเป็นหนึ่งก็ฆ่าคนตาย แต่คนที่ติดคุกกลับเป็นสมบัติเพียงคนเดียว

แม่ไตรฉัตรกลับบ้านมานั่งจิบไวน์อย่างอารมณ์ดี ที่ได้รู้ความลับซึ่งสามารถทำให้ครอบครัวของพี่สาวพังพินาศ ความลับที่จะทำให้เธอคลายปมในวัยเด็กที่แพ้พี่สาวมาตลอดทั้งชีวิตได้สักที

ไตรบังเอิญเจอแพงที่แกลเลอรี การเจอกันครั้งนี้จุดไฟปรารถนาในตัวแพงขึ้นมาอีกครั้ง ขณะแพงกำลังจะเปิดประตูขึ้นรถที่บริเวณลานจอดรถ ไตรเข้าประชิดตัวและระดมจูบ แพงที่ตอนแรกยังปากแจ๋วก็อ่อนระทวย จากนั้นทั้งสองก็เปิดประตูเข้าไปท้ายรถเพื่อเชื่อมต่อสัมพันธ์ทางร่างกาย ท้ายรถที่แคบ ๆ ก็ไม่อาจต้านทานความต้องการของคนทั้งสองได้

ในคืนเดียวกันนั้น ไตรได้สาวอีกคนชื่อ รินริน เขาชวนรินรินมาที่คอนโด และจบลงที่ริมระเบียง

ต่อมา แพงเห็นรินรินมีความสัมพันธ์กับไตร สายตาแห่งความหึงริษยาจึงลุกโชนขึ้นมา หญิงสาวที่ในสายตาของทุกคนดูเป็นหญิงแกร่ง แต่แท้จริงแล้ว แพงก็ไม่ต่างกับหญิงสาวที่มีหัวใจอ่อนนุ่ม อ่อนนุ่มจนสั่นสะท้านเมื่อเจอแรงกระแทกเสน่หาของไตรฉัตร

EP.15 ความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่

มาตากับลิลลี่ไปเดินช็อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าเพื่อใส่ไปพบครอบครัวเป็นหนึ่ง แต่ก็ให้บังเอิญว่าไปพบกับแพงที่ร้านขนมพอดี๊พอดี จังหวะนั้นโต๊ะดันเต็มพอดี มาตาจึงชวนแพงมานั่งร่วมโต๊ะ ขณะนี้ โต๊ะที่เต็มไปด้วยของหวานกลับเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เดือดปุด ๆ

แล้วจู่ ๅ เป็นหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น เขาแสดงท่าทางสวีตหวานแหววกับมาตาจนออกนอกหน้า ทำเอาขนมหวานตรงหน้ายังดูจืดไปเลย … แพงถึงกับเลือดขึ้นหน้าที่แพ้ผู้หญิงธรรมดาเพลน ๆ อย่างมาตา

ไม่เพียงแค่เสียเป้าหมายหลักอย่างคุณหมอปุริมไป เพราะแม้แต่ไตรฉัตร แพงก็ยังไม่อาจเหนี่ยวรั้งเอาไว้ได้ แถมเขายังแสดงท่าทีไม่สนใจเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนเธอเป็นเพียงดอกไม้ริมทางที่ไร้ค่า เมื่อเด็ดมาเชยชมแล้วก็โยนทิ้งถังขยะไปอย่างไร้ค่า

วันนี้ พ่อเกรซตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต พ่อเกรซไปที่ร้านทองเพื่อพบอากง ที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานเกือบสามสิบปี แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ช่วงเวลานั้นไม่มีตำรวจคอยเฝ้าอยู่หน้าร้าน สองโจรชายหญิงเข้ามาฉกทองในร้าน อากงรีบวิ่งไล่ตามสองโจรออกมา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พ่อเกรซเดินมาถึงบริเวณหน้าร้านพอดี ไอ้โจรผู้ชายมันจึงชักมีดพกออกมา ก่อนจะแทงเข้าไปที่บริเวณหน้าอกของพ่อเกรซ มันแทงซ้ำสามสี่ครั้ง ก่อนที่จะวิ่งหนีไปพร้อมทองที่อยู่ในมือ

พ่อเกรซค่อย ๆ เซล้มลง เลือดไหลออกมาไม่หยุด อากงพยุงร่างที่หายใจรวยรินของลูกชาย ในขณะที่พ่อเกรซพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายพูดในสิ่งที่อยากพูดมาตลอดเกือบสามสิบปี “อั๊วขอโทษ”

ไม่นานนัก พ่อเกรซก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โรงพยาบาลที่คุณหมอปุริมกำลังเข้าเวร ปุริมถูกโทร. ตามตัวให้มาที่ห้องผ่าตัดโดยด่วน ปุริมตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองกำลังทำการผ่าตัดคือ ‘พ่อเกรซ’ เจ้าหน้าที่พยาบาลย้ำกับปุริมว่า ไม่มีหมอท่านอื่นสแตนด์บาย ปุริมจึงต้องตัดสินใจทำการผ่าตัดที่ท้าทายที่สุดในชีวิต

การผ่าตัดดำเนินไปผ่านไปนานหลายชั่วโมง หมอปุริมเดินออกมาด้วยสีหน้าเหมือนเพิ่งเผชิญกับแรงกดดัน เขาบอกกับทุกคนรวมถึงมาตาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า พ่อเกรซปลอดภัยแล้ว แต่ต้องพักอยู่ในห้อง I.C.U. ต่อไป

มาตาเห็นท่าทางเป็นหนึ่งแปลก ๆ ไป เธอจึงเดินไปหาเขาที่ห้องทำงาน เป็นหนึ่งค่อย ๆ เคลื่อนตัวลงไปนอนหนุนตักมาตา แล้วพูดความรู้สึกที่เผชิญตลอดช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่ผ่านมา …

“มันเป็นการผ่าตัดที่ผมกลัวพลาดที่สุดในชีวิต ตอนที่ผมถือหัวใจของพ่อคุณเอาไว้ในมือ ตอนนั้นผมได้แต่คิดว่า ถ้าผมทำพลาด ผมคงไม่มีหน้ามาเจอคุณอีกแน่ ๆ”

EP.16 พร้อมหน้าพร้อมตา

หลังจากพ่อเกรซได้สติหลังการผ่าตัด อากงกับอาม่าจึงรีบมาเยี่ยมลูกชาย ทั้งสามได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง หลังเกิดเรื่องบาดหมางใจกันยาวนานเกือบสามสิบปี พ่อเกรซกับอากงต่างขอโทษกันและกัน ในขณะที่อากงยอมรับว่าที่ผ่านมาเป็นความผิดของตัวเอง ทั้งสามกอดกันด้วยน้ำตาแห่งความปีติที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุด

เป็นหนึ่งพามาตาไปเปิดตัวกับเพื่อน ๆ ทุกคนให้การยอมรับมาตา

เวลาเดียวกันนั้น ไตรฉัตรแกล้งทำเป็นส่งรูปเป็นหนึ่งกอดกับมาตาให้กับพ่อเป็นหนึ่ง เพราะรู้ว่าพ่อเป็นหนึ่งจะไม่พอใจที่รู้ว่าเป็นหนึ่งคบกับผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างมาตา

เมื่อถึงวันที่พ่อแม่เป็นหนึ่งเดินทางกลับจากไปเที่ยวอังกฤษ เป็นหนึ่งจึงพามาตาไปรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แวบแรกที่พ่อเป็นหนึ่งเห็นมาตาก็ถึงกับแสดงความไม่พอใจ แววตาแสดงให้เห็นถึงการไม่ยอมรับมาตา

ถึงอย่างนั้น มาตาก็บอกกับเป็นหนึ่งว่า เขาไม่ควรโกรธพ่อ เพราะเธอเข้าใจดี และไม่แปลกอะไรที่พ่อจะรู้สึกผิดหวังจากเดิมที่ต้องการให้เป็นหนึ่งแต่งงานกับแพง แต่กลายเป็นว่าเป็นหนึ่งกลับพาเธอไปเปิดตัว

รุ่งขึ้น พ่อเรียกเป็นหนึ่งให้ไปหาที่บ้าน เป็นหนึ่งยืนยันว่าเขาคิดจริงจังกับมาตาถึงขั้นคิดจะแต่งงานด้วย “ผมรักมาตาครับ ไม่ใช่ผมจะเอาชนะคุณพ่อ แต่ผมรักมาตาจริง ๆ เธอทำให้ผมรู้สึกมีความสุขกับชีวิตตัวเอง”

แต่คำตอบของพ่อทำเอาเป็นหนึ่งถึงกับแปลกใจ “ถ้าลูกอยากจะคบกับผู้หญิงคนนี้ก็ตามใจ แต่พ่อยังไม่ยอมรับ ถ้าเต็มร้อยตอนนี้พ่อให้แค่สิบ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของแกที่จะแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้พิเศษจริง ๆ”

หรือว่าจะเป็นจริง ๆ อย่างที่พ่อเกรซเคยบอก พ่อทุกคนต้องการให้ลูกมีความสุข เป็นเพียงแต่ว่าวิธีการของพ่อแต่ละคนแตกต่างออกไป … เป็นหนึ่งได้แต่คิดอย่างนั้น แล้วมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ใช่มั้ย ?

EP.17 แค่อยากเป็นตัวของตัวเอง

ใช้เวลาไม่นานพ่อเกรซก็อาการดีขึ้นจนกลับบ้านได้ อากงมาเยี่ยมพ่อเกรซที่บ้าน เมื่ออากงเห็นน้าวีก็คิดจะจับคู่กับพ่อเกรซ โดยที่อากงไม่รู้เลยว่า ความคิดแบบนี้จะทำให้ฟ้าผ่า 5555

น้าวีกับพ่อเกรซปล่อยให้อากงเข้าใจผิดต่อไปไม่ได้ ทั้งสองจึงเลคเชอร์เรื่อง LGBTQIA2S+ ให้กับอากง ซึ่งอากงเข้าใจมาตลอดว่าพ่อเกรซอยากเป็นผู้หญิง พ่อเกรซอธิบายว่า เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ พ่อเกรซก็เข้าใจตัวเองอยากเป็นผู้หญิง แต่เมื่อได้เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้เข้าใจว่า จริง ๆ แล้วพ่อเกรซก็แค่อยากเป็นตัวเอง เป็นในสิ่งที่อยากเป็น … ส่วนน้าวีแตกต่างออกไป เพราะน้าวีต้องการเป็นผู้หญิง

ไตรเจอกับแพงที่งานอีเวนต์งานหนึ่งโดยบังเอิญ ไตรอาศัยเวลานั้นพยายามคืนดีกับแพง แต่ดูเหมือนว่าแพงจะไม่คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะไปด้วยกันได้ เธอจึงปฏิเสธเขาและเดินหันหลังให้ทั้งน้ำตา

ระหว่างที่เดินขึ้นลิฟต์ แพงเจอกับหนุ่มรูปงาม เขาได้ยื่นผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้กับเธอ จากนั้น ทั้งสองก็ได้สานสัมพันธ์กันต่อไป แต่ดูเหมือนว่าแพงจะตั้งกำแพงหัวใจเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บปวดอีกครั้ง

เป็นหนึ่งชวนมาตาไปงานวันเกิดของพ่อ โดยเชิญน้าวีไปด้วยตามคำเชิญของพ่อที่ต้องการเจอครอบครัวของมาตา แต่ทว่า พ่อเกรซกลับรู้สึกเป็นกังวลมาก ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พ่อเกรซก็ยังเชื่อว่ามาตาจะใช้ ‘พลังความใจดี’ ผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปได้

วันต่อมา มาตาไปหาเป็นหนึ่งที่โรงพยาบาล เพื่อปรึกษาว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญให้พ่อเป็นหนึ่ง เพื่อน ๆ คุณหมอจึงแนะนำมาตาให้ซื้อของแบบเดียวกับที่ซื้อให้พ่อมาตานั่นแหละ มาตาทำหน้าเหลอหลาตอบกลับว่า “ลิปสติกเหรอคะ ?” เพื่อนหมอต่างพากันงงเป็นไก่ตาแตก 555555

EP.18 คำขอแรกคำขอเดียวในชีวิต

ณ งานวันเกิดพ่อ เป็นหนึ่งพามาตามางาน และแนะนำมาตาให้ทุกคนรู้จักในฐานะคนรัก แต่ดูเหมือนว่าพ่อเป็นหนึ่งได้วางแผนทำลายมาตาเอาไว้แล้ว

ขณะมาตาอยู่ในงาน จู่ ๆ ก็มีพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งทำอาหารหกใส่ชุดมาตาจนเละเทะ พนักงานคนนั้นแนะนำให้มาตาไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ มาตาก็เออออไปเปลี่ยนเป็นชุดพนักงานเสิร์ฟที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้ว เมื่ออยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟ มาตาก็คอยเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับแขกเหรื่อที่มาในงานซะอย่างนั้น

ระหว่างที่มาตาเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับแขกที่มาในงาน จู่ ๆ ก็มีพนักงานเสิร์ฟอีกคนหนึ่งเดินมากระแทกมาตาจนล้มกระเด็น เครื่องดื่มในถาดแตกกระจายไปทั่วบริเวณ ทุกคนเบนสายตาไปที่มาตา ณ ตอนนั้นเอง พ่อเป็นหนึ่งก็ใช้คำพูดบูลลีมาตา โดยประกาศให้ทุกคนรู้ว่าครอบครัวมาตามีอาชีพเป็นนางโชว์ และขอให้มาตาขึ้นโชว์ภายในงาน

จังหวะนั้น น้าวีก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมทั้งเหวี่ยงวีนใส่พ่อเป็นหนึ่งและเพื่อน ๆ ที่แสดงท่าทางบูลลีคนที่เป็น LGBTQIA2S+ จนเกือบจะมีเรื่องลงไม้ลงมือ ดีที่มาตาห้ามน้าวีเอาไว้ก่อน และดึงน้าวีออกไปอธิบายที่ด้านนอกงาน

มาตาแสดงทัศนคติบวก ๆ ๆ ๆ ให้กับน้าวีได้เข้าใจว่า แท้จริงแล้วคนที่น่าสงสารคือครอบครัวของเป็นหนึ่งต่างหาก จากนั้น ก็พาน้าวีเข้าไปในงานอีกครั้ง มาตายิ้มให้กับพ่อเป็นหนึ่งแล้วกล่าวลาด้วยคำพูดและน้ำเสียงที่นุ่มนวล “สุขสันต์วันเกิดอีกครั้งนะคะคุณลุง มาตาขอให้คุณลุงมีความสุขมาก ๆ นะคะ”

ก่อนกลับ มาตาบอกเป็นหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันเกิดของพ่อ เธอขอให้เขาอยู่ที่บ้านกับพ่อ … ณ จุดนี้ ทุกอย่างกลับตาลปัตร แทนที่จะเป็นงานทำลายมาตา กลับเป็นงานที่คุณพ่อจัดขึ้นเพื่อทำลายตัวเองซะงั้น

คำขอแรกคำขอเดียวในชีวิต

เหตุการณ์ในคืนนี้ ทำให้แม่เป็นหนึ่งที่นิ่งเงียบมาตลอด กลับแสดงจุดยืนตรงกันข้ามกับสามีเป็นครั้งแรก เมื่อพ่อระเบิดอารมณ์โดยการคว้าวัตถุของแข็งปาใส่หน้าลูกชาย “ไอ้เนรคุณ ถ้าแกไม่เชื่อที่ฉันบอก แกไปตายที่ไหนก็ไปเลย ฉันตายก็ไม่ต้องมาเผาผีกัน”

“ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยขออะไรพ่อเลย ครั้งนี้ผมขอแค่ให้พ่อยอมรับผู้หญิงที่ผมรักแค่นี้ไม่ได้เหรอครับ” เป็นหนึ่งพยายามควบคุมอารมณ์ พูดในสิ่งที่เขาต้องการจากพ่อ แต่คำตอบที่ได้คือคำปฏิเสธ

แม่เป็นหนึ่งทนไม่ไหวกับภาพที่เห็น แม่ขอไปจากพ่อด้วยอีกคน !

เช้ารุ่งขึ้น แม่มาตาขอให้เป็นหนึ่งพาไปหามาตา แม่ขอโทษพ่อเกรซและน้าวีที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

เมื่อรู้ว่าแม่ย้ายมาอยู่บ้านเป็นหนึ่ง มาตาจึงชวนให้แม่มาอยู่ด้วย ระหว่างที่เป็นหนึ่งไปทำงานที่โรงพยาบาล ระหว่างนั้นแม่เป็นหนึ่งจึงได้เรียนรู้ครอบครัวของมาตา ทำให้เธอรู้ว่าพ่อเกรซเลี้ยงมาตามาดีมาก ๆ ต่างจากเธอที่คิดว่าเลี้ยงเป็นหนึ่งมาเป็นอย่างดี แต่จริง ๆ แล้วเป็นหนึ่งใช้ชีวิตด้วยความเครียดมาตลอด

ระหว่างนั้น เป็นหนึ่งสังเกตเห็นอาม่ามือสั่น ๆ จึงแอบเป็นกังวลว่า อาม่าจะเป็นโรคร้ายบางอย่าง !?

EP.19 สารตั้งต้นของความสุข

ไตรบุกไปหาเป็นหนึ่งถึงโรงพยาบาลเพื่อเอาเรื่อง เพราะเข้าใจว่าพ่อเป็นหนึ่งมีส่วนทำให้พ่อของเขามีเมียน้อย เมื่อเผชิญหน้ากันก็ซัดกันอย่างกับเด็ก ๆ ไตรโดนเป็นหนึ่งซัดไปหนึ่งดอกจนหน้าเป็นแผล ดีที่เพื่อน ๆ หมอมาห้ามเอาไว้

ถึงจะเพิ่งซัดกันก็เถอะ แต่ด้วยความไนซ์ของเป็นหนึ่งจึงพาไตรมาทำแผลที่ห้อง ตอนนั้นเองที่ทั้งคู่ได้เคลียร์ความรู้สึกของกันและกัน เป็นหนึ่งเอ่ยจากใจจริงว่า เขาไม่เคยมองไตรเป็นคู่แข่งเลย เพราะยังไงไตรก็คือน้อง … คำพูดของเป็นหนึ่งทำให้ไตรเบิกเนตร ที่แท้เขาโดนแม่ ปสด. ปั่นหัวให้เอาชนะเป็นหนึ่งมาตลอด

จากนั้น ไตรก็ไปขอโทษพ่อเกรซกับน้าวี ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีเมื่อคืนกับมาตา พ่อเกรซยอมรับคำขอโทษของไตร

เมียน้อย

ด้านแพงเองที่ตอนนี้คบอยู่กับหนุ่มใหญ่อย่าง ฟาราซ (รับบทโดย เกรท วรินทร) ก็ต้องเจอเมียของฟาราซเข้ามาเม้นต์ด่าในไอจี จนกลายเป็นข่าวฉาวใหญ่โต เป็นกระแสเม้ามอยกันของชาวเน็ต

แพงตัดสินใจไปเคลียร์กับฟาราซที่คอนโด เขายอมรับว่ามีเมียอยู่แล้ว และพยายามใช้คำพูดหว่านล้อมให้แพงยอมรับสถานะเมียน้อย แต่ทว่า แพงไม่หลงไปกับคำพูดอันทรงเสน่ห์ของฟาราซ แพงเบ้ปากให้กับเขาแล้วสะบัดบ๊อบเดินหันหลังจากไป

ข่าวแพงเป็นเมียน้อยกระจายกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว จนเข้าหูพ่อแพง ทำให้ทั้งคู่โต้เถียงกันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม แพงก็ยังยืนยันที่จะให้อภัยตัวเองและใช้ชีวิตต่อไป เพราะเธอเชื่อว่ามันเป็นเพียงแค่ความผิดพลาด แม้ว่าใครจะมองว่าเธอเป็นเมียน้อยก็ตาม

พาร์กินสัน

เป็นหนึ่งกับมาตาพาอาม่าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล หมอวินิจฉัยว่าอาม่าเป็นโรคพาร์กินสัน เนื่องจากการเสื่อมของเซลล์สมองส่วนที่ผลิตโดปามีน ซึ่งบางคนเรียกว่าเป็นสารตั้งต้นของความสุข

มาตากลัวและเป็นกังวลอย่างมาก จนทำให้ทุกคนกลัวกันไปหมด เมื่อเห็นทุกคนพากันวิตกกังวลจนเกินกว่าเหตุ ก็เป็นหน้าที่ของคุณหมอเป็นหนึ่งต้องอธิบาย จริง ๆ แล้วโรคพาร์กินสันระยะเริ่มต้นเป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวเลย ถ้าดูแลอย่างถูกวิธี

แม่ไตรเกิดบ้าบอสติแตกขึ้นมา เมื่อพบความจริงที่ว่า สามีของตัวเองเอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดหนีไปอยู่กับเมียน้อย แม่ไตรคิดว่าพ่อเป็นหนึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเธอพังพินาศย่อยยับ จึงคิดเอาคืนแค้นนี้ให้สาสม โดยการเปิดเผยความลับที่ในอดีตต่อหน้าสาธารณชน

EP.20 สิ่งเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่าครอบครัว

ณ ห้องประชุม แขกผู้มีเกียรติเข้ามาร่วมงานมากมายในงานเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของบุญฤทธิ์ พ่อเป็นหนึ่ง ระหว่างที่บุญฤทธิ์กำลังพูดอยู่บนเวที จู่ ๆ นายสมบัติก็ลุกขึ้นแฉอดีตของบุญฤทธิ์ว่า เคยฆ่าคน !

บุญฤทธิ์รีบเดินออกจากงานกลับบ้านทันที จากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าไปนอนกับหลวงตาที่วัด ที่นั่น บุญฤทธิ์ได้คิดทบทวนถึงความหลังสมัยยังเป็นเด็ก บุญฤทธิ์เป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่กับหลวงตาที่วัด สมบัติจึงเข้ามาตีสนิทแล้วชักชวนให้เขาหาเงินด้วยการวางตะปูเรือใบรถยนต์ แล้วหลอกให้โดนฟันค่าซ่อมหัวแบะ

หนักข้อไปกว่านั้น สมบัติปาหินใส่รถยนต์เพื่อขโมยทรัพย์สิน แต่บุญฤทธิ์ไม่เห็นด้วยกับวิธีการหาเงินของสมบัติ เพราะมันเป็นวิธีการของโจร เขาจึงไปแจ้งตำรวจให้มาจับสมบัติและพรรคพวก ที่น่าเศร้าคือ เหยื่อในคืนนั้นของแก๊งสมบัติคือ รถยนต์พ่อบุญธรรมของบุญฤทธิ์

สมบัติและพรรคพวกต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุก ในขณะที่บุญฤทธิ์สอบชิงทุนได้ และมาเจอกับแม่เป็นหนึ่ง เวลานั้นเองที่บุญฤทธิ์เริ่มมีจุดหมายในชีวิต จุดหมายที่เรียกว่า ‘ครอบครัว’

เป็นหนึ่งกับแม่รู้เรื่องร้ายที่พ่อกำลังเผชิญ ทั้งสองจึงรีบกลับไปบ้าน แต่ไม่เจอพ่อ โทรศัพท์ก็โทร. ไม่ติด ระหว่างนั้น แม่ก็เล่าเรื่องในอดีตของพ่อให้ทั้งเป็นหนึ่ง มาตา พ่อเกรซ และน้าวี ฟัง … มันไม่ใช่ความผิดของพ่อเลย บุญฤทธิ์ไม่ผิด แต่จะให้ทำยังไงล่ะ ในเมื่อความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แล้วคนที่จะพูดเรื่องนี้ได้มีเพียงแค่สองคน

ออกตามหาว่าที่คุณพ่อสามี

มาตาออกความเห็นให้แม่เป็นหนึ่งตามรอยเส้นทางของพ่อโดยเช็กการใช้บัตรเครดิต แล้วก็ได้ผลจริง ๆ เมื่อมีรายการใช้บัตรบริเวณวัดแถวชลบุรี … พ่อเกรซ น้าวี มาตา และแม่ จึงรีบบึ่งรถไปทันที แต่คลาดกัน พ่อเกรซจึงตัดสินใจขับรถตระเวนหาตามโรงแรมต่าง ๆ

ระหว่างนั้น ก็ให้บังเอิญว่ามาตาเจอบุญฤทธิ์กำลังลงเรือข้ามเกาะ มาตาจึงรีบวิ่งขึ้นเรือตามไปด้วย ขณะอยู่บนเรือมาตาเกิดซุ่มซ่ามทำมือถือตกทะเล แถมยังเมาเรืออ้วกแตกต่อหน้าบุญฤทธิ์ 555

บุญฤทธิ์พยายามไล่มาตาให้กลับไป มาตาก็โต้กลับทันทีเลยว่า “กลับไม่ได้” แหม่ อยู่บนเรือจะให้กลับยังไงล่ะคุณพ่อ … แต่ไหงอ้วกไปอ้วกมาจนเป็นลมล้มพับไป หนักหน้าบุญฤทธิ์ต้องแบกมาตาขึ้นไปนอนในที่พักเมื่อถึงเกาะ

ตัดภาพมาที่ไตร ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นคนใหม่ แม้จะไม่ดีที่สุดแต่ก็ดีกว่าเดิมแหละ เขากลับมาดีกับลิลลี่ ที่สำคัญ ไตรกลับไปคืนดีกับแพง ทั้งสองตกลงกันว่าจะกลับไปเซ็ตซีโร่เริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง

อีกคู่ที่พัฒนาความสัมพันธ์กันก็คือสองเพื่อนหมอของเป็นหนึ่ง ที่ก้าวข้ามเฟรนด์โซนไปสู่โซนของความรัก … อร๊ายยย เขาจูจุ๊บกันด้วย จุ๊บเดียวเท่านั้นแหละเฟรนด์โซนกลายเป็นอดีตไปเลย

สิ่งเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่าครอบครัว

ด้านพ่อเกรซก็อดเป็นห่วงมาตาไม่ได้ จากตอนนั้นต้องเป็นห่วงแค่พ่อเป็นหนึ่ง ตอนนี้ต้องเป็นห่วงมาตาอีกคน ส่วนเป็นหนึ่งที่ไม่ได้ไปตามหาพ่อ เพราะติดผ่าตัดใหญ่ตลอดคืน เมื่อผ่าตัดเสร็จก็รีบเดินทางตามไปทันที

มาตาตื่นขึ้นมา เมื่อสถานการณ์เป็นใจ มาตาจึงใช้เวลาบนเกาะคุยนู่นนี่นั่นกับว่าที่คุณพ่อสามี เดินไปเดินมาไม่รู้ไปทำอีท่าไหน มาตาดันไปเจอหมูป่าวิ่งไล่ บุญฤทธิ์จึงรีบจูงมือมาตาวิ่งหนีหน้าตั้ง 555

เวลาเดียวกันนั้น พ่อเกรซ น้าวี เป็นหนึ่ง และแม่ก็เดินทางมาถึงเกาะพอดี แม่พยายามพูดปรับความเข้าใจกับพ่อ “นิดรู้ว่าคุณไม่สบายใจ แต่เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ให้นิดกับลูกอยู่ด้วยนะคะ”

แม่พูดเตือนสติพ่อให้นึกย้อนกลับไปคิดถึงวันเก่า ๆ ที่ครอบครัวมีแต่ความสุข และขอให้เขากลับไปเป็นคนเดิมคนนั้น คนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของลูก

EP.21 ถึงเวลาที่ครอบครัวต้องซัพพอร์ตกัน (จบ)

บุญฤทธิ์ตัดสินใจมาอยู่บ้านพ่อเกรซที่พัทยา ระหว่างนั้นข่าวฉาวก็กระจายไปทั่ว จนกลายเป็นกระแสสังคม พ่อเกรซจึงแนะนำให้บุญฤทธิ์ออกมาชี้แจงต่อสังคม โดยใช้ The Cage เป็นสถานที่จัดแถลงข่าว “เวลานี้เป็นเวลาที่ครอบครัวต้องซัพพอร์ตกัน” พ่อเกรซออกคำสั่งสมาชิกแก๊งเซเลอร์มูน

ณ The Cage วันนี้ มีการจัดเตรียมสถานที่เป็นอย่างดี เพื่อรองรับกองทัพนักข่าวนับร้อยชีวิต พ่อเกรซเป็นคนสัมภาษณ์บุญฤทธิ์ด้วยตัวเอง เมื่อพ่อเกรซถามว่าบุญฤทธิ์อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นหรือไม่ ?

“ใช่ ผมอยู่ในเหตุการณ์” บุญฤทธิ์ตอบตามความจริง แม้จะรู้ว่าคำตอบของเขาเป็นการมัดตัวเอง

เวลาเดียวกัน ก็มีการแถลงข่าวของพยาน ซึ่งเป็นลูกผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์คืนนั้น พยานออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า บุญฤทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแม่เขา และที่บุญฤทธิ์อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น เป็นเพราะบุญฤทธิ์ต้องการจะไปห้ามสมบัติ

เมื่อความจริงปรากฏ พ่อเกรซจึงยิงคำถามกับบุญฤทธิ์ว่า ทำไมถึงเก็บงำความจริงนี้เอาไว้ … บุญฤทธิ์รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ค่อย ๆ เอ่ยปากออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ “ผมอายครับ ผมอายเกินกว่าที่จะพูดมันออกมา”

เป็นหนึ่งเห็นพ่อพูดในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน เขาจึงรีบเดินเข้าไปหาพ่อเพื่อเป็นกำลังใจ ณ จุดนี้เอง บุญฤทธิ์เอ่ยปากขอโทษต่อเป็นหนึ่ง แล้วสองพ่อลูกก็สวมกอดกันด้วยความเข้าใจ

ต่อมา เป็นหนึ่ง-มาตา และ ไตร-แพง ก็ร่วมโต๊ะเบรกฟาสต์ปรับความเข้าใจกัน รวมถึงขอโทษกับสิ่งต่าง ๆ ที่ทำผิดต่อกันในอดีต … แล้ววันนั้น มาตากับเป็นหนึ่งก็พากันขึ้นไปบนห้องเพื่อไปเช็ก 6 แพ็กและหน้าท้องของกันและกันอย่างละเอียด 555

บุญฤทธิ์ไปขอบคุณพ่อเกรซ และชาวแก๊งเซเลอร์มูน พร้อมทั้งขอโทษในส่วนที่เขาเคยทำไม่ดีกับมาตา แม้บุญฤทธิ์จะยอมรับมาตาและครอบครัวแล้ว แต่บุญฤทธิ์ก็ยังไม่เข้าใจเสียงโวลลุมพังของเหล่าแก๊งเซเลอร์มูน ถึงกับออกปากถามเป็นหนึ่งว่าที่นี่เขามีเรื่องอะไรกัน เป็นหนึ่งได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วหันไปบอกพ่อว่า “ปกติครับ” 555

สุดท้ายครอบครัวคือคำตอบ

คืนนั้น หลังทานอาหารเสร็จ อากงจึงชงเรื่องแต่งงานขึ้นมา เป็นหนึ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความเขิน ทันใดนั้น เซอร์ไพรส์ก็บังเกิด …

มาตาค่อย ๆ เดินมาข้าง ๆ เป็นหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ จากนั้นเธอก็คุกเข่าพร้อมกับยื่นมือออกไปขอเป็นหนึ่งแต่งงาน “แต่งงานกันนะเป็นหนึ่ง” … เป็นหนึ่งยิ้มด้วยความสุข ความสุขที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกมาตาขอแต่งงาน

แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่า คืออากงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด จัดการเอาทองมากล่องใหญ่ เพื่อเป็นสินสอดให้มาตาใช้สู่ขอเป็นหนึ่ง … แต่อากงดันลืมเอาแหวนแต่งงานมาซะอย่างนั้น 555

เป็นหนึ่งเห็นมาตาไม่ได้เตรียมแหวนแต่งงานมา เขาจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบแหวนออกมา แหวนที่เขาเตรียมเอาไว้ขอมาตาแต่งงานเช่นกัน … จะมีโมเมนต์ไหนในชีวิตที่จะสุขกว่านี้ได้อีกนะ

วันแรกของชีวิตคู่ คืนนั้นเป็นหนึ่งฝันร้ายว่ามาตาทำบ้านเละเทะ ตื่นเช้าขึ้นมาเขาก็โล่งใจที่เป็นเพียงความฝัน มาตาเตรียมไข่เจียวเอาไว้ให้ เพราะเป็นอาหารอย่างเดียวที่ทำเป็น จากนั้นมาตาก็ค่อย ๆ ถอดผ้ากันเปื้อนออก เผยให้เห็นโบที่ผูกกับตัวเธอเอาไว้ “แฮปปี้วันวาเลนไทน์เป็นหนึ่ง”

แล้วเป็นหนึ่งก็ค่อย ๆ ปลดโบออก ก่อนที่ทั้งสองจะจูบกันอย่างหวานซึ้ง

“สุดท้ายครอบครัวคือคำตอบ อย่าลืมกลับไปหาพลังแห่งความใจดีของเรา ความรักและความสุขต้องการการดูแลรักษานะ”

จบบริบูรณ์

Photos : Ch3Thailand
ดูละคร มาตาลดา ที่ Ch3Plus : คลิกที่นี่