Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ King the Land (2023)

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ King the Land (2023)

King the Land สปอยล์ : เรื่องราวของทายาทแชบอลผู้ไม่สามารถทนกับรอยยิ้มอันจอมปลอม กับหญิงสาวที่มาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส …

EP.1 คุณหนูยิ้มยากกับสาวสวยยิ้มง่าย

King Hotel เป็นโรงแรมระดับ 6 ดาวในเครือ King Group ตั้งเด่นเป็นสง่าในกรุงโซล

วันนี้ ชอนซารัง (รับบทโดย ยุนอา) หญิงสาวที่มีรอยยิ้มอันสดใสกำลังมาสัมภาษณ์งานที่เธอรัก ระหว่างเดินเข้าห้องสัมภาษณ์ส้นรองเท้าส้นสูงเกิดหัก แต่ด้วยไหวพริบและความฉลาด ทำให้เธอสร้างส้นเท้าเสมือนขึ้นมา แล้วทำท่าเดินเหมือนยังมีส้นอยู่เข้าห้องสัมภาษณ์โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

อย่างไรก็ตาม ซารังมาขอฝึกงานที่โรงแรมคิงทั้งที่เรียนแค่มหาวิทยาลัยปี 2 ไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ต้องเรียนปี 4 เธอจึงทำใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ได้งานที่นี่ ถึงอย่างนั้นก็ขอให้ได้ลองเถอะ

ผิดคาด วันต่อมาซารังได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า ผ่านการสัมภาษณ์ได้ฝึกงานที่โรงแรมคิงเป็นเวลาหนึ่งเดือน ซารังกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจยกใหญ่

คุณหนูยิ้มยาก

กูวอน (รับบทโดย อีจุนโฮ) เป็นทายาทของ King Group วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกในฐานะเด็กฝึกงาน พ่อต้องการให้เขาเรียนรู้ตั้งแต่ตำแหน่งล่างสุดไปถึงบนสุด แต่แค่วันแรกเขาก็มาทำงานสายซะแล้ว เพราะกระโดดร่มลงผิดตึก !?

กูวอนนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาจากเกาะเชจู แล้วโดดร่มลงมาบนตึกอย่างเท่ ๆ แหม่แต่ดันลงผิดตึกซะงั้น

ด้วยความเป็นลูกคุณหนู กูวอนเลยทำงานอะไรไม่เป็น เมื่อถูกหัวหน้างานสั่งให้ไปถ่ายเอกสารซึ่งควรจะเป็นงานง่าย ๆ แต่เขาต้องเปิดโทรศัพท์หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต จนเพื่อนที่ฝึกงานด้วยกันต้องมาช่วย ทีนี้ เจ้าเพื่อนสมองล้นคนนั้นไม่รู้ทำอีท่าไหน หมึกพิมพ์เกิดระเบิดกระจายเต็มห้อง ทั้งคู่จึงโดนหัวหน้างานไล่ออกทั้งที่เพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึงวัน

แหม่ ไล่ลูกชายเจ้าของออกซะงั้น ตอนแรกไม่รู้ไงว่ากูวอนเป็นใคร พอรู้เท่านั้นแหละ หัวหน้างานหน้าเหลือสองนิ้ว 555 … แต่กูวอนยอมรับการถูกไล่ออก เพราะเขาไม่อยากเป็นเด็กฝึกงานอยู่แล้วตั้งแต่แรก

กูฮวารัน เป็นพี่สาวของกูวอน ทั้งคู่ไม่ค่อยลงรอยกัน พ่อเชื่อใจฮวารันให้บริหารโรงแรมคิง ในขณะที่พ่อก็พยายามผลักดันกูวอนให้เรียนรู้เรื่องการบริหาร ติดตรงที่ฮวารันคอยกันท่าตลอด เธอขอร้องแกมบังคับน้องชายให้ไปอยู่อังกฤษ

สาวยิ้มง่าย

ซารังมาทำงานเป็นวันแรก งานที่ได้รับมอบหมายคือ คอยดูแลและทำความสะอาดฟิตเนส ที่ยี้ที่สุดคือต้องคอยเช็ด ‘เหงื่อร่องก้น’ ของแขกที่ติดอยู่บนเก้าอี้ฟิตเนส อี๋ แค่นึกก็สยองแล้ว

ระหว่างทำงานด้วยความขยันขันแข็ง เกิดมีแขกโรคจิตส่งจดหมายเขียนด้วยลายมือชวนขึ้นห้อง ซารังโกรธจัดเลยจะไปเอาเรื่อง แต่ก็ให้บังเอิญว่ากูวอนดันใส่เสื้อแบบเดียวกับแขกโรคจิตคนนั้น ทำให้ซารังเข้าใจผิด เข้าไปด่าตวาดใส่หน้ากูวอนแบบไม่เว้นช่องว่างให้เถียง กูวอนก็โกรธแบบงง ๆ ไปว่า “อะไรวะ !?”

เรื่องราวดำเนินไป ซารังถูกย้ายให้มาอยู่ที่ล็อบบี้ ด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของเธอ ฮวารันบอกเหตุผลที่เลื่อนซารัง “ล็อบบี้เป็นหน้าตาของโรงแรม รอยยิ้มของเธอจะเป็นหน้าตาให้กับโรงแรม”

ส่วนกูวอนก็เดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ

7 ปีผ่านไป

ณ ปัจจุบัน ซารังได้รับการบรรจุให้เป็นพนักงานประจำของโรงแรมคิง และได้รับการเลือกให้เป็นพนักงานดีเด่นหลายสมัย

ในขณะใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ กูวอนได้รับจดหมายปริศนา เขาตัดสินใจกลับเกาหลีอย่างกะทันหัน การกลับมาคราวนี้ เขาบอกกับพ่อว่าต้องการบริหารโรงแรม พ่อดีใจเพราะคงถึงเวลาแล้วที่ฮวารันกับกูวอนจะต้องพิสูจน์ฝีมือ ใครกันแน่ที่สมควรจะได้เป็นทายาทสืบทอดธุรกิจต่อไป

วันนี้ กูวอนตื่นจากห้องสวีทขึ้นลิฟต์ไปทำงานเป็นวันแรก แต่ก็ให้บังเอิญว่าลืมโทรศัพทืไว้ที่ห้อง เลขาของกูวอนจึงโทร. ไปที่ล็อบบี้ให้พนักงานขึ้นไปเอาโทรศัพท์ให้ พนักงานคนนั้นคือ ซารัง แต่ …

แต่ซารังปวดท้องเข้าห้องน้ำจนตัวบิดตัวงอ อีหัวหน้าก็ไม่ได้ดูอะไรเลย ยืนยันคำสั่งให้ซารังไปเอาโทรศัพท์ก่อนแล้วค่อยเข้าห้องน้ำทีหลัง ซารังก็ต้องทำตาม ระหว่างทางไปห้องสวีทเธอต้องเกร็งขั้นสุดเพื่อต่อต้านข้าศึก เมื่อเข้าไปในห้อง ซารังเหลือบไปเห็นห้องสวรรค์อยู่เบื้องหน้า เอาวะ ทำผิดกฎใช้ห้องน้ำของแขกยังดีกว่าปล่อยให้ข้าศึกพังกำแพงได้

เมื่อได้นั่งที่สุขภัณฑ์หรู ความฟินก็บังเกิด ซารังยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ จริง ๆ ก็ควรจะจบไปแบบนี้ ถ้าเธอไม่มือบอนไปหยิบรีโมตเปิดปิดม่านไฟฟ้าในห้องน้ำมากดเล่น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่กูวอนเดินกลับมาที่ห้องเพื่อมาเอาโทรศัพท์ด้วยตัวเอง เอ๊ะ ทำไมม่านไฟฟ้ามันเปิด ๆ ปิด ๆ เขาจึงเดินเข้าไปดู

ซารังหน้าเหวออ้าปากหวอ ตกใจขึ้นสุด ที่เห็นกูวอนยืนมองหน้านิ่งดูเธอปลดปล่อยข้าศึกอยู่ในนั้น !

EP.2 ยิ้มจอมปลอม

กูวอนเห็นซารังนั่งหน้าเหวอขณะกำลังทำภารกิจส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ เขาจึงเดินออกมารอด้านนอก ซารังกดชักโครกแล้วเดินออกมาทำหน้าเหลอหลา แต่ก็ยังฝืนฉีกยิ้มตามที่ได้รับการอบรมมา ก่อนจะขอโทษที่ใช้ห้องน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต

มองไปมองมา กูวอนเริ่มคุ้นหน้าซารัง เขานึกสักพักจนจำได้ว่า เมื่อ 7 ปีที่แล้วเธอนี่เองที่เป็นคนพูดจาหยาบคายใส่เขา ด่าว่าเขาเป็นพวกโรคจิต กูวอนขอให้เธอขอโทษเรื่องในวันนั้นด้วย ซารังปฏิเสธ กูวอนจึงบอกไม่ให้เธอมาเจอหน้าเขาอีก

“ได้ค่ะ คุณลูกค้า ฉันก็ต้องการแบบนั้นเหมือนกัน” ซารังพูดไปทั้งที่หน้ายังฉีกยิ้มตามที่ได้ฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี

ยิ้มจอมปลอม

พ่อตั้งกูวอนให้เป็นผู้อำนวยการโรงแรม และสั่งให้จัดพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ เมื่อกูวอนยืนอยู่ที่โพเดียม เขามองไปที่ด้านล่าง พนักงานทุกคนส่งยิ้มให้เขา อาการวิงเวียนก็กำเริบ กูวอนพยายามควบคุมตัวเองแล้วกล่าวแนะนำตัวเองสองประโยค

แต่คนที่หนักกว่าคือ ซารัง เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่า ‘ไอ้โรคจิต’ จะมาเป็นผู้อำนวยการที่นี่ ชห ละงานนี้ เพราะเธอต้องเป็นตัวแทนพนักงานมอบดอกไม้ให้กับกูวอน

หลังจบงานต้อนรับ กูวอนเรียกซารังให้มาพบที่ห้องทำงานเป็นการส่วนตัว เขาถามด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงเรียกเขาว่า “ไอ้โรคจิต” ซารังจึงเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น พอได้คุยกันเธอจึงได้รู้ว่าที่แท้ ผิดคน ! ซารังโค้งขอโทษยกใหญ่

ก่อนซารังจะออกจากห้อง กูวอนสั่งให้หยุดยิ้ม “อย่ายิ้ม ถ้ายิ้มจะไล่ออก ฉันไม่ชอบยิ้มจอมปลอมนั่น” ซารังทำตามคำสั่งพร้อมกับสารภาพว่า ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมยิ้มให้เขาด้วยความจริงใจ และก็ขอบคุณที่ไม่ให้เธอต้องฝืนฉีกยิ้ม

ระหว่างนั้น ฮวารันยังคงหวาดระแวงว่ากูวอนจะมาแย่งมรดก กูวอนจึงเปิดอกกับพี่สาวว่าเขาไม่คิดที่จะเป็นผู้สืบทอดธุรกิจ ถึงอย่างนั้น ฮวารันก็ยังไม่เชื่อใจเขาอยู่ดี

คุณแม๊แห่งชาติ

วันนี้ มีนักแสดงอาวุโสชื่อดังฉายา ‘คุณแม่แห่งชาติ’ มาเข้าพักที่โรงแรม แต่จะขอสิทธิพิเศษอัปเกรดห้องจากดีลักซ์เป็นห้องสวีทโดยไม่เสียเงินเพิ่ม ซารังปฏิเสธด้วยรอยยิ้มและคำพูดที่ควบคุมอารมณ์เป็นอย่างดี แต่คุณแม๊แห่งชาติโวยวายยกใหญ่จะเอาห้องสวีทให้ได้ ซารังก็ได้แต่ตอบด้วยประโยคที่ได้รับการฝึกมาพร้อมรอยยิ้มกลับไป

กูวอนมาเห็นจึงสั่งให้ รปภ.พาตัวคุณแม๊แห่งชาติ ที่เขาเรียกว่าเป็นแขกนิสัยเสียออกไปจากโรงแรมซะ จากนั้นก็เรียกซารังให้มาพบที่ห้องทำงาน เขาไม่พอใจที่โรงแรมไม่มีระบบการจัดการกับแขกนิสัยเสียขั้นเด็ดขาด ซารังจึงชี้แจงว่า ไม่ว่ายังไงเราต้องอัธยาศัยดีกับแขกเสมอ เธอเป็นมืออาชีพ เมื่อถึงเวลาทำงานเธอไม่ใช่ ‘ชอนซารัง’ แต่เป็นพนักงานที่ทำงานอย่างมืออาชีพ โดยไม่ใช่อารมณ์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง

กูวอนอึ้งกับทัศนคติอันเยี่ยมยอดของซารัง

คืนนั้น ซารังไปเดตกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาประมาณปีกว่า ทั้งสองขึ้นไปดูวิวกรุงโซลกัน แต่ดูเหมือนแฟนของเธอจะเป็นผู้ชายประเภท ‘ปสด’ ให้แท็กซี่ส่งกลางทาง แล้วพาซารังเดินขึ้นบันไดสูงประมาณสามพันแปดร้อยขั้น เขาอ้างว่าอยากให้เธอออกกำลังกาย

เมื่อไปถึง ดูวิวชิล ๆ ได้ไม่กี่นาที เพื่อนเขาก็โทร. มาชวนให้ไปดื่มงานเลี้ยงรุ่น เขาจึงบอกซารัง “กลับกันเถอะ” อ้าว เฮ้ย เพิ่งมาถึงเมื่อกี๊เองนะ สุดท้าย ซารังก็ไปงานเลี้ยงรุ่นกับเขาด้วย เหมือนเดิม เขาทิ้งเธอให้นั่งอยู่คนเดียว ส่วนตัวเองก็ไปสนุกกับเพื่อน ๆ

ณ จุดนี้ ซารังหมดความอดทน เห็นทีจะต้องเลิกกับไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนี้แล้วล่ะ

สายตาที่เปลี่ยนไป

ซารังกับกูวอนเดินทางไปเกาะเชจู เพื่อถ่ายทำรายการโปรโมตโรงแรมคิง ที่สนามบิน กูวอนถึงกับอึ้งไปหลายวินาทีเมื่อเห็นซารังในเดรสสีขาวปล่อยผมยาวสลวย ที่นั่น กูวอนมีเรื่องนิดหน่อย แต่ก็จัดการให้มันผ่านพ้นไปได้ด้วยเช็คเงินสด 1 ล้านวอน แหม่

เมื่อถึงเวลาถ่ายทำ ซารังที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรก็ถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นกูวอนในมาดสุดเท่ เธอยืนขึ้นแล้วมองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

EP.3 ความรู้สึกที่เรียกว่ารัก

ก่อนการสัมภาษณ์จะเริ่มไม่กี่นาที ฮวารันสั่งลูกน้องให้เอาสคริปต์มาสับเปลี่ยน … การสัมภาษณ์รายการสดเริ่มขึ้น ซารังยิงคำถามเกี่ยวกับแม่ใส่กูวอน สีหน้าของผู้ถูกถามเปลี่ยนไปทันที หันมามองตาขวางใส่ซารัง ก่อนจะลุกขึ้นออกจากเซตด้วยสีหน้าไม่พอใจ

แม่คือปมในใจ เขาคิดถึงผู้จากไปแทบทุกวินาที !

ยังดีที่ซารังแก้ไขสถานการณ์เอาไว้ได้ เธอเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ ผ่านไปหลายนาที กูวอนก็กลับเข้ามาในเซตอีกครั้งด้วยท่าทางใจเย็นลง เขาขอดูสคริปต์ในมือซารังก่อนจะโยนมันทิ้งไป แล้วการสัมภาษณ์ก็จบลงด้วยดีจากฝีมือของซารัง

วันต่อมาเป็นการถ่ายภาพนิ่งของทั้งคู่ ช่างภาพถึงกับกุมขมับ ถ่ายเป็นร้อยรูปพันรูป กูวอนไม่ยิ้มซักกะรูป ลูกน้องหัวหน้าช่างภาพจึงเสนอว่าจะโฟโต้ชอปรอยยิ้มให้

ติดเกาะ

งานน่าจะจบลงแค่นี้ แต่ผู้กำกับฯ ขอเก็บภาพเพิ่ม ซารังกับกูวอนจึงต้องลงเรือประมงที่ส่งวัตถุดิบให้โรงแรมใช้ทำอาหาร ระหว่างอยู่กลางทะเลเรือพังซะงั้น คืนนี้ทั้งสองเลยต้องนอนพักที่โรงแรมบนเกาะ เกาะที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

เกาะแปลกประหลาดแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยความมืด บรรยากาศน่ากลัวเหลือเกิน เกาะวังเวงไม่น่าจะมีโรงแรม น่าจะมีผีซะมากกว่า … ซารังเปิดไฟฉายบนไอโฟนเพื่อส่องนำทาง เดินไปสักพักก็เห็นแสงสลัว ๆ สามดวงอยู่ กูวอนหน้าเริ่มถอดสี แล้วเงาตะคุ่ม ๆ ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า นั่นมันผียายแก่ กูวอนถึงกับช็อกสลบเหมือดไปทันที ปั๊ดโธ่ ไหนคุยนักคุยหนาว่าไม่กลัวผี 555

หนักซารังต้องแบกกูวอนไปที่โรงแรม ผีที่กูวอนเห็นที่แท้ก็เป็นยายแก่เจ้าของโรงแรม คืนนั้น ทั้งคู่มีดื่มกันจนเมามาย ทำให้มีโมเมนต์ที่ใกล้ชิดกัน รุ่งเช้าก็ปั่นจักรยานเล่นกัน

พอถึงตอนคิดเงินนี่สิ ซารังโวยวายออกมาไม่หยุด “มันขูดรีดกันชัด ๆ” ยายแก่คิดค่าที่พักพร้อมอาหารและค่าเช่าจักรยานเป็นเงิน 675,000 วอน (ประมาณ 18,000 บาท) ซารังสวมบทแม่สาวนักต่อ จนยายแก่ยอมลดเหลือ 350,000 วอนอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

ระหว่างนั่งเรือกลับ กูวอนบ่นซารังที่ไปเสียพลังงานต่อรองราคา จ่าย ๆ ไปซะก็จบเงินแค่นั้นเอง ซารังเล่าว่าคุณย่าสอนเธอตั้งแต่เด็กให้รู้จักคุณค่าของเงิน ยิ่งเป็นการขูดรีดกันแบบนี้ยิ่งไม่สมควรต้องจ่าย … ทัศนคติของซารังทำให้กูวอนเริ่มมองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

ความรู้สึกที่เรียกว่ารัก

กูวอนกลับมาบ้านก็โดนพ่อด่ากรอกหู ที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมตอนออกรายการสด แต่ทว่า กูวอนกลับมองพ่อด้วยสายตาที่แข็งกร้าวแล้วพูดประโยคปริศนาออกมา “ผมต้องรู้ความจริงเรื่องแม่ให้ได้” พ่อได้ยินประโยคนี้ถึงกับเสียงอ่อนและรีบเดินจากไปทันที … ปริศนาเรื่องแม่ของกูวอนมันคืออะไรกันนะ ?

ในขณะที่ซารังได้รับคำชื่นชมที่แก้ไขสถานการณ์ตอนออกรายการสด เธอจึงได้รับการโปรโมตให้ไปทำงานในโซน VVIPs ของโรงแรม

หลังกลับมาจากติดเกาะ กูวอนก็เอาซารังออกจากหัวไม่ได้เลย เอาแต่คิดถึงรอยยิ้มของเธอทั้งวัน เขาเริ่มสับสนกับความรู้สึกตัวเอง “มันคือรักหรือเปล่านะ ?”

ระหว่างกำลังงง ๆ กับความรู้สึก คืนนั้น กูวอนซื้อมาการองไปให้ซารัง แต่ภาพที่เขาเห็นคือ ซารังกอดกันตัวกลมกับแฟนหนุ่มของเธอ !?

EP.4 สองคนสองความรู้สึก

กูวอนทนเห็นภาพบาดตาบาดใจไม่ไหวจนต้องเดินหลบไป แต่จริง ๆ แล้วภาพที่เห็นกับสิ่งที่เป็นกลับตรงกันข้าม ซารังตัดสินใจบอกเลิกกับแฟนหนุ่มจอมเห็นแก่ตัวในคืนนั้น

วันต่อมา ซารังตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ที่ได้แต่งตั้งจากท่านประธาน (พ่อกูวอน) การทำงานในห้องรับรองแขก VVIPs ถือเป็นงานที่พนักงานทุกคนใฝ่ฝัน อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมงานตั้งแง่ว่าเธอเป็นเด็กเส้น และดูจะไม่ยอมรับซารัง เนื่องจากซารังจบมหาวิทยาแค่ปีสอง ขณะที่เธอจบปีสี่จากมหาวิทยาลัยดังในกรุงโซล “ถ้าอยากได้รับการยอมรับก็ต้องพิสูจน์ฝีมือ”

ส่วนพ่อหนุ่มกูวอนในตอนนี้กำลังโดนสิ่งที่เรียกว่าความรักเล่นงานเข้าอย่างจัง เขาอดคิดถึงซารังไม่ได้เลย ไม่ได้เลยจริง ๆ เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความไปหาเธอ “เย็นนี้มาเจอกันหลังเลิกงาน” … คือพอส่งเสร็จก็อารมณ์แบบ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กแทบทุกนาที แต่ดูกี่ที ๆ ซารังก็ไม่ตอบกลับ โอ๊ยมันแน่นอก รักแรกอะนะ มันก็จะโฉ่งฉ่างหน่อย 555

ผ่านไปหนึ่งวัน เมื่อไม่ตอบ กูวอนก็เข้าถึงตัวซารังแล้วชวนไปไดนิ่งดินเนอร์ อ้างว่ามีธุระจะคุย ด้วยความที่ฟอร์มเยอะ แทนที่น้ำเสียงจะนุ่มนวลแบบชวนสาวออกเดต แต่กลับเป็นน้ำเสียงออกคำสั่งซะอย่างนั้น ซารังปฏิเสธทันที พร้อมกับพูดสั่งสอน “การขอนัดทานอาหารเย็นต้องพูดจาดี ๆ ไหมล่ะ ไม่ใช่พูดเหมือนออกคำสั่งแบบนี้”

นิสัยคุณหนูเอาแต่ใจ กูวอนไม่ยอม ยังไง ๆ ค่ำนี้ก็ต้องทานอาหารกับซารังให้ได้ เขาจึงไปปรึกษากับเลขาฯ สมองเขื่อง จนได้ความว่าให้เรียกพนักงานทุกคนมารับประทานอาหารค่ำร่วมกัน … แหม่ ถึงจะไม่ได้ร่วมโต๊ะกันสองต่อสอง ก็ยังดีที่มีซารังร่วมโต๊ะ 555

ระหว่างรับประทานร่วมกันอยู่นั้น กูวอนสังเกตเห็นซารังไม่ชอบกินซาชิมิ เขาจึงสั่งสเต๊กมาให้ ซารังกินไปก็เขินไปที่ตัวเองเป็นจุดเด่น จนตกเป็นเป้าสายตาของพนักงานคนอื่น

หลังรับประทานอาหารเสร็จ ซารังหาจังหวะเข้าไปด่ากูวอน “ทีหลังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้นะ” เธอไม่พอใจที่เขาทำให้เธออยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด และดูไม่ดีในสายตาเพื่อนร่วมงาน … กร่อยเลย แผนที่กูวอนตั้งใจจะทำคะแนน กลับเป็นติดลบซะอย่างนั้น บอกแล้วว่ารักแรกมันจะโฉ่งฉ่างหน่อย 555

สองความรู้สึก

คืนเดียวกัน แฟนหนุ่มของซารังถือช่อดอกไม้มาง้อขอคืนดี ไม่เป็นผล ซารังตัดสินใจจะเลิกกับเขาอย่างเด็ดขาด

เมื่อแฟนหนุ่มจอมเห็นแก่ตัวเดินจากไป ซารังก็ปล่อยโฮออกมาไม่หยุด เธอยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายฝน อย่างน้อยสายฝนคงจะช่วยชะล้างคราบน้ำตาออกไป และกลบเกลือนความเสียใจที่มี ทันใดนั้น คุณหนูกูวอนก็ถือร่มเดินตรงมาที่ซารังด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ซารังไม่สนใจร่มกับใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มของกูวอนเลยแม้แต่นิดเดียว มันไม่โรแมนซ์เหมือนที่กูวอนคาดหวัง ซารังมองเขาด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันหลังเดินหนีไป แต่พรหมลิขิตอะนะ จู่ ๆ ซารังก็สะดุดทำท่าจะล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปกระแทกกับพื้น ยังดีที่กูวอนเข้าไปประคองเธอเอาไว้ได้ทัน … มือขวาถือร่ม มือซ้ายเข้าไปประคอง

ซารังอยู่ในอ้อมกอดของกูวอน ทั้งสองมองตากันและกัน คนหนึ่งใบหน้าเรียบเฉยไร้รอยยิ้ม อีกคนหนึ่งตาแดงก่ำจากน้ำตา คนหนึ่งเพิ่งพบกับรักแรก อีกคนหนึ่งกำลังเสียใจกับรักที่ล้มเหลว

EP.5 แง่มุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

บรรยากาศความโรแมนซ์ก่อตัวขึ้นหนักแน่นและรุนแรงท่ามกลางสายฝน เม็ดฝนที่ตกลงมากระทบผืนผ้าใบของร่มในมือกูวอน ร่มที่ปกป้องซารังจากฝนที่ตกลงมาไม่หยุด

กูวอนเห็นใบหน้าซารังเปียกชุ่ม ดวงตาอันเศร้าสร้อย แม้เขาจะไม่ชอบรอยยิ้ม แต่สำหรับความเศร้าเขารู้จักเป็นอย่างดี “กลับเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง”

ระหว่างรถติดอยู่บนรถในค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำเทลงมาไม่หยุด ซารังเผลอหลับไป กูวอนจึงถือวิสาสะพาเธอไปที่ร้านอาหารหรูร้านหนึ่ง เพื่อเลี้ยงฉลองวันเกิดให้ซารัง … ที่นั่น ซารังได้เห็นแง่มุมอันละเอียดละออเอาใจใส่ของกูวอนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ‘แฟนหนุ่ม’ ที่ตอนนี้ถูกเรียกว่า ‘แฟนเก่า’ มาดักรอที่หน้าบ้านของซารัง ทั้งสองโต้เถียงกัน ก่อนที่เธอยืนยันให้เขาไปให้พ้น ๆ แล้วเดินหนีเข้าบ้านอย่างไม่สนใจใยดีรักเน่า ๆ ของผู้ชายห่วย ๆ … กูวอนเห็นไอ้หนุ่มแฟนเก่าโวยวายไม่เลิกจึงเข้าไปเล่นงาน พร้อมคำขู่ “อย่ามายุ่งกับซารังอีก ไม่งั้นเจอดีแน่”

คืนนั้น กูวอนโทร. หาซารัง “สุขสันต์วันเกิด” เขาเอ่ยคำอวยพรที่ยังไม่ได้กล่าว จนเกิดเป็นความรู้สึกพิเศษระหว่างคนทั้งสองขึ้น ณ จุดนี้ เห็นได้ชัดว่าซารังเริ่มรู้สึกดี ๆ กับกูวอน วันเกิดที่เธอไม่เคยรู้สึกมีคุณค่า กลับถูกทำให้มีคุณค่าขึ้นมาในวันนี้ เพราะเขา

ค่ำวันต่อมา กูวอนชวนซารังไปไดนิ่ง เธอตอบตกลงและขอเป็นคนเลี้ยงเอง ซารังพาไปร้านอาหารดังสไตล์ที่กูวอนไม่เคยไปมาก่อน กูวอนได้รับประสบการณ์ใหม่อย่างที่ไม่เคยเจอ ตั้งแต่การนั่งรอคิว และการนั่งกินอาหารที่มีผู้คนมากมาย มีแอมเบียนต์เป็นเสียงอึกทึกของผู้คน มันไม่ใช่การกินอาหารแบบสงบเงียบอย่างที่เขากินมาตลอดทั้งชีวิต

วันต่อมา กูวอนได้อนุมัติให้พนักงานโซน VVIP ไปทำกิจกรรมประจำปีที่เรียกว่า Super Farmer Week ซารังที่เป็นน้องเล็กสุดถูกให้ไปทำกิจกรรมสุดโหด นั่นคือ ไปหา ‘โสมป่า’ บนเขาจีรี

ทีนี้ กูวอนที่ตอนแรกไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับ Super Farmer Week เมื่อได้รู้ว่าซารังต้องไปผจญกับความลำบาก เขาจึงอดเป็นห่วงไม่ได้ ระหว่างที่ซารังกำลังเดินขึ้นไปบนเขาเป็นเวลานานกว่าสองชั่วโมง กูวอนจึงโทร. หาด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ซารังบังเอิญเจอโสมป่าพอดี โสมป่าที่อยู่ตรงหน้าผา

ซารังค่อย ๆ เอื้อมมือไปขุดโสมป่าหายากออกมาด้วยความตื่นเต้น ทันใดนั้น ซารังเกิดลื่นพลัดตกหน้าผา ยังดีที่เธอไม่ตกลงไปจนสุดก้นเหว ร่างไร้สติของซารังกระแทกลงพื้นที่เล็ก ๆ ที่ยื่นออกมา

ผ่านไปจนค่ำมืด ซารังได้สติขึ้นด้วยความตกใจ แสงไฟและเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้น เงาของกูวอนปรากฏ พระเอกขี่เฮลิคอปเตอร์มาช่วยแล้ว

EP.6 หึงแหละดูออก

กูวอนขอฮวารันใช้เฮลิคอปเตอร์ของบริษัท แต่ถูกปฏิเสธ เขาจึงใช้ความเป็นลูกชายท่านประธานสั่งให้พนักงานเอาเฮลิคอปเตอร์ขึ้น โดยจะรับผิดชอบเอง

กูวอนตามตำแหน่ง GPS ไป เมื่อเจอซารัง เขาก็กระโดดลงไปอยู่กับเธอ แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็บินจากไป อ้าว !

“นี่คุณอย่าบอกนะว่ามาช่วยฉันแค่คนเดียว แล้วเราจะขึ้นไปยังไงเนี่ย ?” ซารังทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก แบบนี้ไม่เรียกมาช่วย มาอยู่เป็นเพื่อนซะมากกว่า 555

อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักก็มีคนเดินผ่านมาพอดี จึงมาช่วยทั้งสองเอาไว้ได้ จากนั้นก็ให้ไปนอนที่บ้าน … ที่แท้คนที่มาช่วยก็คือ เถ้าแก่ขุดโสมที่ซารังได้รับมอบหมายให้มาเจรจา เพื่อให้เถ้าแก่ส่งโสมคุณภาพดีให้กับโรงแรมคิง รุ่งเช้า ซารังจึงหยิบโสมป่าที่เธอขุดมาได้เอามาให้เถ้าแก่ดู มันเป็นโสมป่าจริง ๆ

“เธอต้องเป็นคนที่สั่งสมบุญบารมีมากจริง ๆ ถึงจะเจอโสมป่าหายากแบบนี้” เถ้าแก่กล่าวชื่นชมซารังยกใหญ่ ก่อนจะตกลงขายวัตถุดิบให้โรงแรมคิง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ใครมาเจรจา เถ้าแก่ก็ปฏิเสธ ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของซารัง

หลังจากนั้น กูวอนก็ขับรถ AUDI e-tron รถไฟฟ้าสีดำสุดเท่ไปส่งซารังที่บ้านย่า เพื่อเอาโสมป่าไปให้คุณย่าที่เปิดร้านอาหาร ด้วยความที่มีลูกค้าเต็มร้าน เมื่อไปถึงคุณย่าจึงสั่งให้ซารังช่วยเสิร์ฟอาหการ ส่วนกูวอนก็ต้องไปปอกหอมหัวใหญ่ กูวอนมองหน้าคุณย่า แต่ก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำไปแบบงง ๆ

เสร็จภารกิจปอกหอมหัวใหญ่ ซารังก็ชวนกูวอนออกไปเดินตลาด เปิดโลกเลย เพราะเขาไม่เคยเดินตลาดแบบนี้มาก่อน เมื่อไปเจอเกมจับฉลากปลาคาล์ฟยักษ์ครั้งละ 1 พันวอน เขาจึงจับแล้วจับอีกจับไม่เลิก เพื่อจะเอาชนะรางวัลใหญ่ให้ได้ จับไม่รู้กี่สิบครั้งก็ได้แต่แห้ว ซารังจึงเตือนให้หยุดเล่นได้แล้ว แต่ความดื้ออยากเอาชนะนั่นแหละ กูวอนก็จับไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ชนะได้รางวัลใหญ่ ฟินสุด ๆ … เอิ่ม ไปซื้อเองจะถูกกว่านะ 555

คู่หมั้นคลุมถุงชน

ซารังกลับมาทำงานที่โซน VVIP … วันนี้ มีหญิงสาวไฮโซมาฉลองวันเกิด ระหว่างที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ กูวอนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกล่องของขวัญแบรนด์เนมสุดหรู เป็นของวันเกิดของหญิงสาว หญิงสาวที่พ่อของทั้งคู่ตกลงให้แต่งงานกัน !

ซารังได้เห็นและได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมาทั้งหมด “ทั้งคู่เป็นคู่หมั้นกันเหรอ !?” ซารังหน้าบอกบุญไม่รับทันที ใคร ๆ ก็ดูออกว่าหึง

คืนนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้าน ซารังดื่มกับเพื่อน ๆ และร้องคาราโอเกะเพื่อลืมความเศร้า ขณะที่กำลังร้องเพลงอย่างเมามัน จู่ ๆ เสียงกดกริ่งก็ดังขึ้น เมื่อซารังเปิดประตูก็ถึงกับผงะ กูวอนมาหาเธอที่บ้านด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

EP.7 คู่แข่งหัวใจ

กูวอนมาหาซารังที่บ้าน เขามาเพราะสังเกตเห็นเธอหึงเขาหนักมาก พร้อมกับบอกว่าหญิงสาวที่กอดกับเขาที่โรงแรมไม่ใช่แฟน เป็นเพียงคนที่พ่อจะให้แต่งงานด้วย แต่ทั้งสองตกลงกันว่า ถ้าอีกฝ่ายมีคนที่ชอบอีกฝ่ายก็จะไม่เหนี่ยวรั้ง เนื่องจากฝ่ายหญิงก็ไม่ชอบที่พ่อจับคู่ให้เธอเช่นกัน

ซารังเดินไปส่งกูวอน ระหว่างนั้น กูวอนกุมมือซารังเดินเคียงคู่กันไป และนี่คือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์อันหวานซึ้งของทั้งคู่

รุ่งขึ้น ฮวารันเรียกซารังมาพบ เพื่อขอให้นำเรื่องการตกหน้าผาที่เขาจีรีมาประชาสัมพันธ์โรงแรม โดยสคริปต์มีการแต่งเสริมเติมแต่งให้เรื่องมีความดราม่า ส่วนในตอนท้ายซารังต้องกล่าวขอบคุณโรงแรมคิงและฮวารัน … ซารังยอมรับคำสั่งอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

เมื่อถึงตอนแถลงข่าวต่อหน้าสื่อ ซารังพูดทุกอย่างตามสคริปต์ แต่ในตอนท้าย เธอกล่าวของคุณกูวอนเพิ่มเข้าไปอีกคน … เมื่อข่าวถูกเผยแพร่ เรื่องราวของเธอจึงกลายเป็นไวรัลในเน็ตทันที

เจ้าชายอาหรับ

ต่อมา กูวอนได้รับผิดชอบงานสำคัญของโรงแรม คือการดึงตัว ‘ซาเมียร์’ เจ้าชายอาหรับ ผู้ที่รวยอันดับ 13 ของโลก แขกระดับซูเปอร์วีวีไอพี ที่ตอนนี้เลือกพักโรงแรมคู่แข่ง ดังนั้น ท่านประธาน พ่อของกูวอนจึงยอมไม่ได้ โรงแรมคิงต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น

ตอนแรก ฮวารันพยายามทำทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงคิดหาวิธีโบ้ยความรับผิดชอบ โดยให้กูวอนเป็นคนทำหน้าที่ดึงตัว ‘ซาเมียร์’ กูวอนตกปากรับคำด้วยสีหน้ามั่นใจ เพราะแท้จริงแล้ว เขากับซาเมียร์เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกัน แม้เขาจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าอีตาซาเมียร์ก็เถอะ

กูวอนโทร. ไปหาซาเมียร์เพื่อตกลง ‘ดีลลับ’ ตอนแรกซาเมียร์ปฏิเสธ กูวอนจึงยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ไปให้ “ฉันจะดูแลนายอย่างดี ฉันจะจัดให้ทุกอย่างที่นายต้องการ” … ดันดีล

เมื่อถึงหมายกำหนดการ ซาเมียร์เดินทางมาตามนัดหมาย ซารังพร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงมาต้อนรับกันอย่างพร้อมเพรียง ซาเมียร์ลงมาจากรถลีมูซีนคันหรู สิ่งแรกที่เขาเห็นคือใบหน้าที่มีรอยยิ้มอันงดงามของซารัง เจ้าชายอาหรับปิ๊งซารังตั้งแต่แรกเห็น

กูวอนงานเข้า อยู่ดี ๆ ก็มีคู่แข่งหัวใจขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ด้วยความเป็นเพื่อนนักเรียนกันมา กูวอนจึงหาจังหวะเข้าไปเป็น กขค ABC อยู่ตลอด … กูวอนใช้ข้อตกลงในสัญญาเข้าพักที่ระบุว่า เขาต้องเป็นคนดูแลเจ้าชายอาหรับตลอดเวลาเป็นข้ออ้าง ซึ่งในสัญญาระบุด้วยว่า พนักงานโรงแรมต้องยิ้มตลอดเวลา ซารังจึงสอนให้กูวอนยิ้ม

และเมื่อกูวอนยิ้ม กลายเป็นว่าเขามียิ้มที่สวยงามหน้ามองอย่างเหลือเชื่อ

ระหว่างนั้น ด้วยความสงสัย ซารังจึงถามว่าทำไมซาเมียร์ถึงพูดภาษาเกาหลีได้ดี เขาตอบด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย “รักแรกของผมเป็นคนเกาหลี แต่เธอดันทิ้งผมไป”

รุ่งขึ้น ซาเมียร์อยากไปเที่ยวพระราชวังสมัยโชซอนกับซารัง กูวอนจึงขอไปด้วยในฐานะก้างขวางคอ 555

แล้วอยู่ดี ๆ ซาเมียร์เกิดอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ เข้าพิธีอภิเษกแบบโชซอนกับซารัง … ซารังแต่งตัวเต็มยศในฐานะเจ้าสาว แต่ทว่า เมื่อเจ้าบ่าวปรากฏเบื้องหน้ากลับเป็น กูวอน

ฮะ ! ซารังตกตะลึง

EP.8 รอยจูบกลางสายน้ำ

กูวอนอาศัยจังหวะที่กำลังแต่งตัวเข้าพิธีอภิเษกย้อนยุคแบบจำลอง หลอกให้เจ้าชายซาเมียร์แต่งตัวชุดคนกวาดขยะ โดยอ้างว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่มีเกียรติสูงสุด โถ เจ้าชายอาหรับก็โง๊โง่ เชื่อกูวอนเฉยเลย

ส่วนกูวอนก็แต่งตัวชุดเจ้าบ่าวเข้าพิธีอภิเษกกับซารัง แต่พิธียังไม่ทันเสร็จ เจ้าชายซาเมียร์ที่เพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอกก็เข้ามาโวยวายใส่กูวอน ถือไม้กวาดวิ่งไล่ตีอย่างกับเด็ก ๆ ซารังได้แต่ยืนมองผู้ชายทั้งสองด้วยความเหนื่อยใจ 555

ต่อมา ในคืนวันก่อนเจ้าชายซาเมียร์จะกลับ เขาเชิญซารังมาร่วมรับประทานอาหารค่ำสุดหรูเป็นการส่วนตัว โดยให้กูวอนแต่งตัวเป็นบริการคอยเสิร์ฟอาหาร กูวอนก็ต้องทำตามอะนะ เพราะเป็นข้อบังคับที่ระบุเอาไว้ในสัญญา

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เจ้าชายอาหรับก็หยิบเอาแหวนเพชรราคาแพงออกมาขอซารังแต่งงาน กูวอนเห็นจึงเข้าไปแย่งแหวนวงนั้นเอาไว้กับตัว แต่ซารังก็ขอแหวนคืนจากกูวอน ก่อนจะเอาไปคืนให้เจ้าชายซาเมียร์พร้อมปฏิเสธด้วยคำพูดอันนุ่มนวล เจ้าชายอาหรับคอตกด้วยความผิดหวัง ถึงอย่างนั้นเขาก็เคารพการตัดสินใจของเธอ

เมื่อถึงวันเช็กเอาต์ ซาเมียร์โผเข้าไปกอดกูวอน พร้อมกับเอ่ยปากออกมาว่า “โชคดีเพื่อน แล้วจะกลับมาอีก”

“เออ ถ้านายกลับมาอีก ฉันจะปิดโรงแรมหนี” กูวอนตอบกลับด้วยสีหน้าไร้รอยยิ้ม

หลังงานดึงตัวเจ้าชายซาเมียรืมาพักที่โรงแรมคิงผ่านไปได้ด้วยดี ท่านประธาน พ่อของกูวอนก็กล่าวชื่นชมเขายกใหญ่ ณ จุดนี้ กูวอนเริ่มได้แรงบันดาลใจที่จะต่อกรกับฮวารัน ในการแย่างชิงตำแหน่งผู้สืบทอดคิงกรุ๊ป เขาต้องการหาความจริงเรื่องแม่

ซาวน่าเตาไฟ

เพื่อนสนิททั้งสองชวนซารังไปซาวน่าเตาไฟ เพื่อไปช่วยกันขายสินค้าปลอดภาษี กูวอนจึงตามไปด้วย … เพื่อนสาวของซารังจึงอาศัยจังหวะนั้นเข้าหากูวอน และคะยั้นคะยอให้เขาเผยความรู้สึกในใจกับซารัง

กูวอนตัดสินใจนัดซารังให้มาดินเนอร์ในวันรุ่งขึ้น

เฟิร์สคิส

ร้านอาหารที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นอย่างดี พนักงานคนเดียวในร้านคือกูวอน เมื่อซารังมาถึงเขาเดินไปต้อนรับด้วยความสุภาพ ก่อนจะแนะนำตัวเองว่าเป็นเชฟในวันนี้

แต่เอ๊ะ ซารังสงสัยว่าเมื่อวันก่อน เขายังปอกหัวหอมไม่เป็นอยู่เลย วันนี้เป็นเชฟจะกินได้มั้ยเนี่ย กูวอนจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า เขาได้รับการฝึกจากเชฟชั้นนำเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ ซารังได้ยินก็ตบมือให้ด้วยความชื่นชมในความพยายาม

กูวอนทำอาหารมาเสิร์ฟแต่ละเมนู ทั้งดูดีหน้าตาและรสชาติ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณหนูที่มีคนทำทุกอย่างมาให้ทั้งชีวิต จะมุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ เพื่อซารัง แต่ …

เมื่อถึงตอนทำสเต๊ก กูวอนทำฟอร์มโชว์โรยเกลือโปรยหิมะ แต่ไม่รู้ทำอีท่าไหน ไฟเกิดลุกท่วมอย่างกับผักบุ้งไฟแดง !

ควันลุกท่วม เครื่องฉีดน้ำดับเพลิงอัตโนมัติทำงาน ไฟฟ้าตัด … กูวอนรีบวิ่งไปคว้าตัวซารัง สายน้ำที่ไหล แสงไฟสลัวที่รอดผ่านกระจกจากภายนอก ก่อเกิดเป็นบรรยากาศโรแมนติกขึ้นมา ทั้งสองจูบกันอย่างหวานซึ้ง จูบแรกที่ยืนยันความรู้สึกของกันและกัน

EP.9 เธอเป็นแฟนฉันแล้ว

หลังจากค่ำคืนอันสุดแสนโรแมนซ์ท่ามกลางสายน้ำจากสปริงเกอร์ดับเพลิง วันรุ่งขึ้น บรรยากาศความหวานระหว่างกูวอนกับซารังก็ยังคงดำเนินต่อไป ณ ลิฟต์ของโรงแรม ทั้งสองได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง แต่ทว่า ระหว่างการทำงานทั้งสองต้องทำเป็นวางฟอร์ม เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นรู้

แหม่ แต่คุณหนูกูวอนดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่ แกล้งทำเป็นฟอร์มนั่งดื่มกาแฟอยู่ในโซน VVIP เพื่อดูซารังทำงาน จนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด เธอจึงพยายามขอร้องให้เขาไปซะ คูณหนูกูวอนก็จะสั่งกาแฟแก้วที่สี่เพื่อเป็นข้ออ้าง 555

จากนั้น กูวอนก็ประกาศสงครามกับฮวารันอย่างเต็มตัว เขาประกาศความต้องการที่จะเป็นผู้ดูแลโรงแรมต่อหน้าท่านประธาน ผู้เป็นบิดา โดยท่านประธานจะพิจารณาเรื่องนี้อีกทีหลังเสร็จงานฉลองครบรอบ 100 ปีของคิงกรุ๊ป ซึ่งกูวอนเป็นผู้รับผิดชอบ ในขณะที่ฮวารันมองหน้าน้องชายต่างแม่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

เพื่อขัดขวางไม่ให้กูวอนได้แย่งคิงกรุ๊ปไป เธอจึงเตรียมแผนการบางอย่างเอาไว้ในงานฉลองครบรอบ 100 ปีเรียบร้อยแล้ว

เข้าหาผู้ใหญ่

กูวอนเดินทางไปหาคุณย่าของซารัง แต่ให้บังเอิญว่าเมื่อเขาไปถึงคุณย่าเกิดตกจากเก้าอี้ขณะเปลี่ยนหลอดไฟ เขาจึงรีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาล และรับปากว่าจะดูแลเปิดร้านอาหารด้วยตัวเอง เพื่อที่คุณย่าจะได้รักษาตัวอย่างหมดห่วง

ซารังตามมาดูอาการคุณย่าที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ … คืนนั้น ทั้งสองมาที่ร้านอาหาร กูวอนทำเก่งอาสาจะซ่อมไฟด้วยตัวเอง แต่ไหงทำไปทำมาไฟช็อต ไฟดับทั้งหลังไปซะอย่างนั้น

แสงไฟสลัว ๆ ทำให้เกิดบรรยากาศโรแมนซ์ขึ้นมาอีกครั้ง กูวอนกับซารังจูบกันอย่างหวานซึ้ง ตอกย้ำความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กัน … ทั้งคู่นอนที่ห้องคุณย่า แต่ซารังจัดที่นอนห่างกันประมาณ 28 เอเคอร์ กูวอนเห็นว่านอนห่างกันเกินไป เขาจึงเดินไปลากที่นอนของซารังเข้ามานอนข้าง ๆ เขา แล้วคืนนั้นซารังก็นอนหลับ ในขณะที่มือของกูวอนกุมมือของซารังอย่างมีความสุข

เช้ารุ่งขึ้น คุณย่าออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้านเร็วกว่าที่คิด คุณย่าพากูวอนไปเดินตลาดเพื่อแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับกูวอนในฐานะ ‘หลานเขย’

กูวอนปกปิดสถานะที่แท้ของตัวเองในฐานะทายาทคิงกรุ๊ป แถมยังบอกทุกคนว่ายังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อน ๆ ของคุณย่ายกเอาหลานเขาของตัวเองขึ้นมาคุยทับ จนคุณย่าหน้าเสีย

จากนั้น คุณย่าจึงพากูวอนมาเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการซื้อบ้านให้กูวอน โดยคุณย่าประเดิมออกเงินก้อนแรกที่ใช้ในการเปิดบัญชีให้ สีหน้ากูวอนรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่คุณย่าทำให้เป็นอย่างมาก

ระหว่างนั้น เพื่อนสนิทของซารังทั้งสองคนที่ทำงานในบริษัทในเครือ King Group ถูกเอารัดเอาเปรียบจากหัวหน้า ที่ไม่ทำตามสัญญาเมื่อทำยอดขายได้ตามเป้า แทนที่จะพาไปเที่ยวบาหลีตามสัญญา กลับพาไปร้านอาหารชื่อ ‘บาหลี’ ซะอย่างนั้น

ส่วนเพื่อนอีกคนที่เป็นแอร์โฮสเตส ทำยอดขายติดอันดับอยู่ในเกณฑ์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ แต่หัวหน้าดันตั้งรุ่นน้องข้ามหัวเธอไปเฉยเลย

เมื่อกูวอนรู้ เขาจึงโกรธจัดที่บริษัทปฏิบัติต่อพนักงานอย่างไม่เป็นธรรม เขาจึงจัดทริปพิเศษระดับพรีเมียมเพื่อตอบแทนให้กับสุดยอดพนักงานของบริษัท ให้กับสองเพื่อนซี้และซารัง

EP.10 อะเมซิ่งไทยแลนด์

กูวอน ซารัง และชาวแก๊งมาเจอกันที่สนามบินเพื่อเดินทางไปทริปท่องเที่ยวประเทศไทย

เมื่อถึงกรุงเทพฯ เลขาสติเฟื่องได้จัดเตรียมจองรีสอร์ตหรูเอาไว้ แหม่ มากันห้าคนดันจองไว้แค่สองห้อง กูวอนจึงไม่พอใจที่ต้องนอนร่วมเตียงกับเลขาคนสนิท “มาห้าคนทำไมจองแค่สองห้อง” แต่ความหงุดหงิดของเขาก็หายไป เมื่อเห็นซารังชอบรีสอร์ตแห่งนี้

ทริปอะเมซิ่งไทยแลนด์ดำเนินไป เลขาสติเฟื่องพาทุกคนเข้าร้านนู้นไปกินร้านนี้ ตกค่ำก็พาไปเดินตลาดกลางคืนซื้อของกินแนวสตรีทฟูด จนซารังเอ่ยปากออกมาว่า “ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการกินอย่างแท้จริง”

หลังจากไปตระเวนกินกันจนเหนื่อยล้า ทุกคนก็พากันหลับปุ๋ย กูวอนที่รู้สึกว่าทริปนี้เขาไม่มีโอกาสอยู่กับซารังสองต่อสองเลย จึงส่งข้อความไปหาเธอให้มาจู๋จี๋กันที่บริเวณริมสระน้ำ คุยกันสักพัก กูวอนก็ชวนซารังให้ลงมาเล่นน้ำด้วยกัน ก่อนที่สระน้ำจะกลายเป็นฉากการจูบอันหวานซึ้งของทั้งสองอีกครั้ง

รุ่งขึ้น กูวอนกับซารังตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะทั้งสองนัดออกไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสอง และวันนั้นก็กลายเป็นเดตแรกอย่างเป็นทางการของทั้งคู่

จากนั้น ระหว่างนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน กูวอนได้บอกเรื่องที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนกับซารัง เขาเล่าเรื่องแม่ที่หายไปตั้งแต่เขายังเด็ก แม่ไปโดยไม่ได้บอกอะไรเขาเลย ตอนนั้นเขาตะโกนเรียกแม่ลั่นบ้าน แต่ทุกคนเอาแต่ยิ้มให้ มันทำให้เขาคิดว่ายิ้มเหล่านั้นเป็นยิ้มของปีศาจ และคิดว่าคนรอบตัวไม่มีใครยิ้มอย่างจริงใจกับเขาเลย เมื่อโตขึ้น เขาก็พยายามตามหาแม่ แต่สืบยังไงก็ไม่เจอร่องรอยของแม่เลย เหมือนแม่ไม่มีตัวตน

ซารังฟังสิ่งที่กูวอนเล่า เธอจึงเอื้อมมือมากุมมือเขาแล้วกล่าวว่า “เราจะตามหาแม่ไปด้วยกันนะคะ” แล้วค่ำคืนนั้นก็จบลงด้วยรอยจูบอันหวานซึ้ง ท่ามกลางฉากหลังเป็นทิวทัศน์เมืองกรุงเทพฯ อันสวยงาม

EP.11 ยาหม่องตราเสือ

บนดาดฟ้าสุดหรูบนตึกสูงใจกลางกรุงเทพฯ กูวอนสารภาพรักกับซารัง “ผมรักคุณนะ ชอนซารัง” หญิงสาวยิ้มด้วยความสุขก่อนจะเอ่ยกลับไป “ฉันก็รักคุณเช่นกันค่ะ” จากนั้น ทั้งสองก็บรรจงรอยจูบอันหวานซึ้ง เป็นการยืนยันความรู้สึกที่มีให้กัน

เมื่อกลับมาถึงเกาหลี ซารังมีของขวัญติดไม้ติดมือให้กับเพื่อนร่วมงานที่ King the Land ทุกคน แต่ไม่วายที่ยังมีบางคนแอบนินทาลับหลังซารัง

ด้านกูวอน ต้องวุ่นอยู่กับการเตรียมงานฉลองครบรอบ 100 ปีคิงกรุ๊ป ถึงงานจะยุ่งจนหัวหมุน แต่ด้วยความรักที่กำลังสุกงอม กูวอนจึงเอาเอกสารไปทำที่โซนคิงเดอะแลนด์ เพื่อได้เห็นหน้าและใกล้ชิดกับซารัง แม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้จิตใจเขาพองโตมีความสุขแล้ว … ทั้งสองตกลงนัดเจอกันหลังเลิกงาน

ค่ำวันนั้นหลังเลิกงาน ซารังยืนรอกูวอนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ กูวอนอาศัยจังหวะนั้นทำเซอร์ไพรส์แอบเข้าไปสวมกอดซารัง ด้วยความตกใจ ซารังจึงกระทุ้งข้อศอกกระแทกกูวอนอย่างแรงจนเข่าสุดลงไปนั่งจุกอยู่กับพื้น เมื่อรู้ว่าเป็นหญิงสาวซารังจึงเข้าไปประคองเข้าขึ้นมานั่งที่ม้านั่ง กูวอนที่ทำตัวออดอ้อนเป็นเด็กน้อยก็เข้าไปกอดแขนซารัง “ต้องขอชาร์จแบตหน่อยแล้วก็จะหายเอง”

ซารังระดมหอมแก้มกูวอนหลายต่อหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายกูวอนหันหน้ามา ทั้งสองจึงจุ๊บปากกัน น่ารักไม่ไหว

รุ่งขึ้น กูวอนไปหาคุณย่าของซารังเพื่อเอาของฝากกองใหญ่จากเมืองไทยไปให้ ที่เด็ดคือ ‘ยาหม่องตราเสือ’ ที่กูวอนภูมิใจนำเสนอ ระหว่างนั้นเขาก็ซ่อมท่อน้ำให้คุณย่าด้วย … แหม่ เข้าทางผู้ใหญ่ได้ดีทุกคน บอกเลย

และแล้วก็ถึงวันงานฉลองครบรอบ 100 ปี งานดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังจากท่านประธานขึ้นมากล่าวคำอวยพร กูวอนก็เรียกให้ลูกชายของหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งโรงแรมขึ้นมาพูด แทนที่จะเป็นท่าน สส.ที่ถูกเชิญมาในงานตามธรรมเนียมปฏิบัติ

ฮวารันแสดงความไม่พอใจที่กูวอนหักหน้าท่าน สส. ที่มีอำนาจในการให้ใบอนุญาตธุรกิจปลอดภาษี และการขยายเส้นทางการบินให้บริษัทในเครือคิงกรุ๊ป แต่ดูเหมือนว่าท่านประธานจะรำลึกถึงความหลังบางอย่างในอดีต ที่ได้ยินจากคำพูดของลูกชายผู้ก่อตั้งโรงแรม ฮวารันจึงหัวร้อนเดินหันหลังออกไปด้วยความโกรธ

หลังงานครบรอบ 100 ปีผ่านไป คืนนั้น กูวอนมาหาซารังที่ห้อง ขณะที่กูวอนกำลังโอบอุ้มซารังเอาไว้ ขณะที่ทั้งสองกำลังบรรจงจูบกัน จู่ ๆ เพื่อนซี้ทั้งสองก็เปิดประตูห้องเข้ามา “กรี๊ด ๆ ๆ” ทุกคนต่างช็อกกับภาพที่เห็น ในขณะที่ซารังกับกูวอนถึงกับหน้าถอดสี

EP.12 ผู้สืบทอดบริษัท

เพื่อนซี้ทั้งสองของซารังทำการสอบสวนความสัมพันธ์ของทั้งสอง เมื่อเห็นว่าความแตก กูวอนจึงสารภาพความจริงทุกอย่าง และสารภาพว่าเขาคือลูกชายของท่านประธานคิงกรุ๊ป ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ เมื่อรู้ความจริงเท่านั้นแหละ เพื่อนซี้ทั้งสองต่างเปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนน้อมถ่อมตน “เราทั้งสองสมควรตาย ท่าน ผอ. เราต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ” 555

กูวอนพยายามบอกสถานะของเขาว่า ตอนนี้เขาเป็นเพียงแฟนของซารัง ขอให้ทุกคนทำตัวตามสบายเหมือนแต่ก่อน

รุ่งขึ้น ท่านประธานเรียกประชุมใหญ่รับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น ฮวารันยืนยันว่าต้องลดค่าใช้จ่ายขององค์กร ด้านกูวอนกลับมองตรงกันข้ามว่า การลดค่าใช้จ่ายเป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น ที่ส่งผลกระทบกับพนักงาน ถ้าต้องการให้คิงกรุ๊ปกลายเป็นบริษัทระดับโลก ต้องมองการแก้ปัญหาระยะยาว

เมื่อผู้ชิงตำแหน่งผู้สืบทอดทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน ท่านประธานจึงบอกให้ทั้งคู่ไปทำแผนธุรกิจมานำเสนอ … การแข่งขันเป็นผู้สืบทอดบริษัทระหว่างกูวอนกับฮวารันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

ระหว่างนั้น ฮวารันที่กำลังทุ่มทุกอย่างไปกับการชิงตำแหน่งผู้สืบทอด กลับต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัว เมื่อสามีของเธอต้องการหย่า ด้วยเหตุผลที่ฮวารันไม่เคยสนใจดูแลลูกชายและครอบครัวเลย มัวแต่เอาเวลาทั้งหมดไปกับการชิงตำแหน่งผู้สืบทอด

ด้านซารังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในดรีมทีม ผู้ทำหน้าที่บริการให้กับท่านประธานที่คฤหาสน์หรู ซารังเดินเข้าไปในห้องอาหารเพื่อเสิร์ฟซุป มีท่านประธานนั่งอยู่หัวโต๊ะ ถัดมาเป็นกูวอน ซึ่งนั่งข้าง ๆ กับหญิงสาวที่ผู้ใหญ่วางตัวเอาไว้ให้เป็นคู่หมั้นของเขา

ซารังหน้าตายิ้มแย้มค่อย ๆ เอื้อมมือไปบรรจงหยิบจานที่กูวอนทานเสร็จแล้ว ทันใดนั้นเอง ท่านประธานก็พูดขึ้น “ตอนนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ให้วอนกับยูรีแต่งงานกันปีนี้เลยนะ” เมื่อได้ยินประโยคนี้ ประโยคที่เหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวใจของซารัง จานที่ถืออยู่ในมือก็ร่วงลงกระแทกกับพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ

EP.13 คลุมถุงชน

ซารังยืนสตั๊นนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้นนานหลายวินาที พนักงานอีกคนในดรีมทีมจึงเข้ามาจัดการเคลียร์เศษกระเบื้องที่แตกกระจัดกระจาย

ผ่านไปชั่วครู่ กูวอนได้หันไปพูดกับท่านประธานที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ “ผมมีคนรักอยู่แล้วครับ” แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขาพูดจะไม่มีใครสนใจเลย ท่านประธานยังคงยืนยันให้เขาแต่งงานกับยูรี จนสุดท้าย กูวอนแสดงความไม่พอใจ ด้วยการลุกออกจากโต๊ะอาหารอย่างหัวเสีย

ด้านซารังเองก็อึน ๆ ไปเช่นกัน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกูวอนดำเนินไปอย่างกระอักกระอ่วน จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองได้มีโอกาสเปิดใจ ทำให้เข้าใจกันและกันมากขึ้น

จากนั้น ซารังก็เล่าความอึดอัดใจเรื่อง ‘ดรีมทีม’ ซึ่งเธอไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันคืออะไร รู้เพียงว่ามันเป็นจุดสูงสุดที่พนักงานโรงแรมคิงทุกคนต้องการก้าวไปถึง กระทั่งเธอได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ทำให้ได้รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด ดรีมทีมเป็นเพียงแค่งานคนรับใช้ ไม่ใช่งานบริการที่มีเกียรติอย่างที่เธอคิด แต่สิ่งที่ทุกคนต้องการจากการเป็นหนึ่งในดรีมทีมก็คือเงินค่าจ้าง ซึ่งทำงานเพียงหนึ่งวันจะได้เท่ากับเงินเดือนทั้งเดือน กูวอนจึงรับปากว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงมัน เขาสัญญาว่าจะยกเลิกดรีมทีมที่เป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ให้ได้

ท่านประธานคนใหม่

ณ ห้องประชุม … กูวอนเตรียมนำเสนอแผนงานของโรงแรมคิง ที่จะปูทางให้กลายเป็นโรงแรมชั้นนำระดับโลก โดยเขาเน้นย้ำเรื่องการให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคน ดังนั้น เขาเลือกที่จะไม่เขี่ยพนักงานทิ้ง แม้ว่าสถานะทางเศรษฐกิจจะทำให้โรงแรมอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก “ถ้าเราไม่ให้ใจกับพนักงาน พวกเขาก็ไม่มีทางทำงานอย่างจริงใจให้เราเช่นกัน หัวใจของธุรกิจโรงแรมคือการบริการ ถ้าพนักงานไม่มีใจในการทำงาน ก็ยากที่จะบริการลูกค้าด้วยใจ”

แน่นอนว่าแนวทางของกูวอนแตกต่างกับฮวารันอย่างสิ้นเชิง ฮวารันมองวิธีการลดค่าใช้จ่ายเป็นวิธีเบสิกที่ผู้บริหารทุกคนมักจะเลือกทำ เมื่อองค์กรกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทางเศรษฐกิจ แต่ …

แต่กูวอนไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่าถ้าไม่ลดค่าใช้จ่าย สิ่งที่ต้องทำคือการเพิ่มรายได้และกำไร

กูวอนลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปยืนหน้าจอพรีเซนเตชั่นต่อหน้าผู้ร่วมประชุม เขาพรีเซนต์แผนงานที่เตรียมเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ผมยื่นข้อเสนอไปให้โรงแรม 170 แห่งทั่วโลก และมี 30 โรงแรมรับข้อเสนอที่จะให้โรงแรมคิงเป็นที่ปรึกษา แลกกับการใช้ชื่อและการบริการระดับเดียวกับโรงแรมคิง”

กูวอนบอกตัวเลขค่าตอบแทนที่จะได้รับจากโปรเจกต์นี้ที่ 35,000 ล้านวอน (ประมาณ 930 ล้านบาท) ที่สำคัญจะทำให้โรงแรมคิงก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในเชนโรงแรมระดับโลก

ท่านประธานประทับใจเป็นอย่างมาก และแต่งตั้งให้กูวอนขึ้นเป็นประธานของโรงแรมคิง พร้อมทั้งกล่าวย้ำให้เขาทำโรงแรมคิงให้เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก ทุกคนในห้องเงียบกริบ โดยเฉพาะฮวารันที่แสดงความไม่เห็นด้วย

EP.14 รักลับ ๆ ของทายาทรุ่นที่สาม

ฮวารันส่งคนไปแอบถ่ายรูปตอนที่ซารังกับกูวอนใกล้ชิดกัน จากนั้น ก็ใช้มันตีข่าว “รักลับ ๆ ของทายาทรุ่นที่สาม” จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์

ข่าวที่เกิดขึ้นทำให้ซารังกลายเป็นจุดสนใจที่เพื่อนร่วมงานเอาไปเม้ามอย หลายคนมองซารังด้วยสายตาแปลก ๆ อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ออกไปก็ไม่ได้ทำให้กูวอนกับซารังรักกันน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียว ในทางตรงกันข้าม กูวอนยังอยู่เคียงข้างซารัง และพยายามหาทางจัดการกับข่าวที่เกิดขึ้น

กูวอนประกาศต่อหน้าพนักงาน King the Land เขาอธิบายว่าข่าวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องอื้อฉาว แต่มันเป็นเรื่องของความรัก

ฮวารันประชุมผู้บริหารฉุกเฉิน เพื่อปรึกษากันเรื่องการรับมือข่าวฉาวที่เกิดขึ้นกับกูวอน โดยจะเอาความเห็นของชาวเน็ต อย่างเช่น “ทายาทโรงแรมเกาะแกะพนักงานหญิง” หรือ “โรงแรมคิงเป็นโรงแรมพลอดรักของทายาท” ยื่นเสนอท่านประธานให้ยกเลิกการเข้ารับตำแหน่งประธานโรงแรมคิงของกูวอน โดยอ้างว่าข่าวฉาวที่เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์ของโรงแรม ถ้ากูวอนได้ขึ้นเป็นประธาน

ผิดคาด ท่านประธานไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของฮวารัน จนเป็นเหตุให้ทั้งสองโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ฮวารันตวาดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจใส่ท่านประธาน “ไม่ว่าจะทำยังไง พ่อก็ไม่เคยมีหนูอยู่ในใจ ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้” เมื่อพูดจบเธอก็หันหลังและเดินออกจากห้องไป

ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับเข้ามาในห้วงความคิดของฮวารัน ภาพที่ท่านประธานสนใจกับแต่กูวอน ภาพที่เธอเป็นลูกสาวที่ถูกพ่อมองข้ามมาโดยตลอด

ห่างกันสักพัก

วันต่อมา ท่านประธานนัดคุยกับซารังเป็นการส่วนตัว เขาสั่งให้ซารังอยู่เงียบ ๆ จนกว่าข่าวจะซาลง พูดง่าย ๆ ก็คือ ท่านประธานออกคำสั่งให้ซารังอยู่ห่างกูวอน

กูวอนเองก็ได้รับคำสั่งให้ไปดูงานที่ต่างประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์ คืนนั้น เขาจึงไปหาซารังและชวนไปสวนสนุก สวนสนุกที่กูวอนเช่าทั้งหมดเพื่อความเป็นส่วนตัว ทั้งสองใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันอย่างเต็มที่ก่อนจะไม่ได้เจอกันเกือบเดือน

รุ่งขึ้น ซารังถูกส่งไปทำงานที่โรงแรมคิงทัวริสต์ เมื่อไปถึง ซารังจึงได้รู้จากปากของพนักงานที่ทำงานที่นั่นว่า โรงแรมแห่งนี้คือสถานที่เนรเทศพนักงานที่ไม่เป็นที่ต้องการของบริษัท แถมยังเป็นโรงแรมที่ต่ำต้อยที่สุดในเครือโรงแรมคิง

ที่นั่น ซารังต้องทำงานอย่างหนัก แบกรับภาระหลายหน้าที่ ตั้งแต่รีเซปชันยันพนักงานเสิร์ฟในห้องอาหาร เนื่องจากพนักงานไม่พอ แต่ด้วยความเป็นพนักงานเบอร์หนึ่ง รอยยิ้มแอร์เมสของเธอยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยการบริการที่จริงใจให้กับแขกของโรงแรมทุกคน แม้ว่าแขกที่โรงแรมคิงทัวริสต์แห่งนี้ จะเป็นแขกคนละระดับกับที่ King the Land ก็เถอะ

ผ่านไป 3 สัปดาห์ กูวอนกลับมาถึงเกาหลี เขารีบตรงไปหาซารังที่ King the Land ทันที แต่ซารังไม่อยู่แล้ว เธอไม่อยู่ที่นั่นแล้ว

ระหว่างที่กูวอนเดินออกมาจาก King the Land เขาเดินสวนกับหญิงคนหนึ่ง หญิงที่ยิ้มให้เขาแล้วเรียกชื่อเขา “วอน นี่แม่เอง” … เธอคือแม่ของกูวอนอย่างนั้นเหรอ ?

EP.15 ประโยคที่คาดไม่ถึง

แม่ของกูวอนปรากฏตัวขึ้น และเหตุผลที่ทำให้เธอต้องจากไปก็ถูกเปิดเผย … ในอดีต แม่กูวอนเป็นผู้นำในการก่อตั้งสหภาพแรงงาน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของบริษัท ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อสามีของเธอ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานในขณะนั้น บีบให้เธอออกจากบ้าน โดยใช้ตัวกูวอนเป็นตัวประกัน

กูวอนเจอแม่ที่โถงทางเดินของโรงแรม เขามองไปที่แม่ด้วยสีหน้าเย็นชา ประโยคแรกที่เขาเอ่ยกับแม่เป็นประโยคที่เย็นชายิ่งกว่า “มีธุระอะไรครับ ?” แม่มาเพื่อขอโทษ และพยายามอ้างเหตุผลที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจจากไป จริง ๆ แล้วกูวอนไม่ได้สนใจคำขอโทษเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาไม่เคยโกรธแม่ เป็นเพียงแต่เขาไม่มีความทรงจำในอดีตที่มีแม่อยู่เลย ไม่มีเลยจริง ๆ

เมื่อพูดกันได้ไม่กี่คำ กูวอนก็ขอตัว … เมื่อเดินหันหลังออกมา น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด น้ำตาที่ทำให้เขาเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น กูวอนตัดสินใจเดินกลับไปหาแม่อีกครั้ง แม้สายตาเขาจะยังคงเย็นชา แต่มือของเขาก็ค่อย ๆ เอื้อมไปโอบกอดแม่ พร้อมทั้งรอยยิ้มที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น

ตัดมาที่โรงแรมคิงทัวริสต์ … ซารังได้รับแจ้งจากประธานว่าโรงแรมกำลังจะปิดกิจการ ประธานจึงบอกให้พนักงานรีบไปหางานใหม่ทำซะ ในขณะที่ซารังพยายามเสนอวิธีที่จะทำให้โรงแรมแห่งนี้ดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่กลับถูกประธานต่อว่า

แล้วพระเอกก็ขี่ม้าขาวมาทันเวลาพอดี กูวอนปรากฏตัวขึ้น ซารังยิ้มไม่หุบเมื่อได้เจอหน้าคนรัก หลังไม่ได้เจอกันมานานนับเดือน

กูวอนได้รู้สถานการณ์ที่ง่อนแง่นของโรงแรมคิงทัวริสต์จากปากของซารัง เขาใช้เวลาตลอดทั้งวันในการสำรวจโลเคชัน และพื้นที่ใช้สอยของโรงแรม เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ เขาจึงยื่นข้อเสนอกับประธานว่า จะซื้อโรงแรมแห่งนี้เอาไว้เอง เพราะเขาไม่ต้องการให้พนักงานต้องตกงาน ที่สำคัญเขามองเห็นศักยภาพของพื้นที่ติดธรรมชาติ ซึ่งมีผืนป่าขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังของโรงแรม

พนักงานโรงแรมคิงทัวริสต์มองกูวอนด้วยสายตาชื่นชม ไม่น่าเชื่อว่าลูกชายของท่านประธานใหญ่ จะเป็นคนหล่อใจดี แถมเก่งขนาดนี้

ประธานคนใหม่

แล้ววันเข้ารับตำแหน่งประธานโรงแรมคิงก็มาถึง กูวอนได้เป็นประธานอย่างเต็มตัว ในวันนั้น ฮวารันเข้ามาทักทายกูวอน และเตือนว่าอย่าคิดแย่งอะไรไปจากเธอ แต่สำหรับกูวอนแล้วเขาไม่ได้มองฮวารันเป็นคู่แข่งหรือศัตรูเลย เขามองฮวารันเป็นครอบครัว

คืนนั้น กูวอนนัดทานอาหารค่ำกับซารังที่ร้านอาหารที่ทั้งสองเคยมาด้วยกันครั้งแรก เขาเตรียมเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน แต่ทว่า ซารังกลับเอ่ยประโยคที่ไม่คาดคิดออกมา …

“ฉันอยากเลิกค่ะ” !!!

EP.16 โรงแรมห้ายิ้ม (ตอนจบ)

แหม่ ประโยคที่ซารังเอ่ยว่า “ฉันอยากเลิกค่ะ” เธอหมายถึงว่าอยากเลิกทำงานที่โรงแรม และกำลังตัดสินใจจะลาออก ซารังบอกกับกูวอนว่าเธออยากทำโรงแรมเล็ก ๆ ในแบบที่เธอกำหนดเอง

ถึงจะผิดแผนจนทำให้แผนเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานต้องยกเลิกไป แต่กูวอนก็โล่งใจที่ซารังค้นพบสิ่งที่ต้องการซะที … ซารังถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความปีติที่กูวอนสนับสนุนความคิดของเธอ ช่างเป็นผู้ชายแสนดีอะไรอย่างนี้

รุ่งขึ้น ซารังขอพบท่านประธานเป็นการส่วนตัวเพื่อขอลาออก ขณะเดินออกจากโรงแรมคิง สีหน้าของซารังแสดงให้เห็นถึงความเสียใจที่คละเคล้าไปด้วยความโล่งใจ

ด้านกูวอนเองก็เริ่มเปลี่ยนแปลงโรงแรมคิงในแบบที่เขาต้องการ นั่นคือ การปฏิบัติต่อแขกของโรงแรมทุกคนในฐานะแขกวีไอพี ในอีกด้านหนึ่ง เขาก็ปฏิบัติต่อพนักงานในฐานะส่วนหนึ่งของโรงแรมเช่นกัน

โรงแรมอะมอร์

ระหว่างนั้น ซารังก็เจอสถานที่ที่จะทำเป็นโรงแรมในฝัน โดยคุณย่าได้ให้เงินที่เก็บหอมรอบริบมาทั้งชีวิตให้ซารัง

หลังจากทำการรีโนเวตและตกแต่งจนเสร็จด้วยตัวเอง ซารังก็ได้เชิญแขกคนแรกมาที่โรงแรมเล็ก ๆ ในฝันของเธอ นั่นคือ กูวอน … ซารังคุยว่า ‘โรงแรมอะมอร์’ ของเธอเป็นโรงแรมระดับ 5 ยิ้ม มีแม้จะไม่หรูหราเท่าโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่เป็นโรงแรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขของทั้งเจ้าของและแขกผู้มาพัก

และคืนนั้น ทั้งสองได้ยืนยันความรักด้วยกันอย่างลึกซึ้ง รุ่งเช้าทั้งสองตื่นมาด้วยความรู้สึกที่แนบแน่นกว่าเดิม บรรยากาศเต็มไปด้วยความรักอันหวานซึ้งและอบอุ่น

นับแต่นั้น กูวอนก็เทียวมาหาซารังทุกวัน แม้โรงแรมจะอยู่ห่างจากโซลก็เถอะ แหม่

ทีนี้ ด้วยความที่มีแขกเข้าพักเต็มตลอดทั้งเดือน ซารังจึงคิดจ้างพนักงานพาร์ตไทม์มาช่วยงาน สัมภาษณ์ผู้ที่มาสมัครไปหลายคน แต่ไม่มีสักคนที่มีรอยยิ้มอย่างจริงใจ จนสุดท้าย กูวอนมาขอสมัครเป็นพนักงาน เขามีเงื่อนไขว่าจะไม่ขอเป็นแค่พนักงานพาร์ตไทม์ แต่จะขอเป็นพนักงานไปชั่วชีวิต

ตอนนั้นเอง กูวอนคุกเข่าลงกับพื้น ก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋าหยิบแหวนออกมา “แต่งงานกับผมนะ” ซารังพยักหน้าตอบตกลงทันที

จากนั้น ทั้งสองก็ไปหาคุณย่า และประกาศการแต่งงานอย่างเป็นทางการ … การแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีคุณย่าซารัง ท่านประธานและแม่กูวอนมาร่วมงาน แล้วเรื่องราวก็จบลงอย่างมีความสุข

จบบริบูรณ์

Images : JTBC Korea