Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องละคร สืบลับหมอระบาด (2023) Doctor Detective - คิมเบอร์ลี่ - ณเดชน์ คูกิมิยะ

สรุปเนื้อเรื่องละคร สืบลับหมอระบาด (2023) Doctor Detective

สืบลับหมอระบาด สปอยล์ : เมื่อคดีที่หมอระบาดกำลังตามสืบ ดันมาเจอนักข่าวสาวจอมแสบตามจิกข่าวไม่เลิก ทั้งสองจึงต้องร่วมมือช่วยเหลือกัน …

EP.1 คดีผีแม่หม้าย

ย้อนกลับไปในปี 2000 … หมอขุนเขา (รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ) ต้องเสียพ่อแม่ในเหตุไฟไหม้ศูนย์วิจัย เหตุการณ์นั้นเป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ทำให้เขาเป็นหมอระบาดตามรอยพ่อ

ปัจจุบัน หมอขุนเขาเข้าตรวจโรคผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลารายแรกในไทย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ ที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในไทย

นักข่าวสาวจอมจิกอย่าง เจนจิรา (รับบทโดย คิม คิมเบอร์ลี่) เจ้าของฉายานักข่าวร้อยล้านวิว ได้รับมอบหมายจากหัวหน้า ให้ลงพื้นที่สัมภาษณ์หมอขุนเขาเพื่อทำสกู๊ป แต่เขาไม่เคยให้เจนจิราสัมภาษณ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเขามีทัศนคติในเชิงลบกับนักข่าว ที่มักจะชอบพาดหัวขาดบิดเบือนเพื่อเรียกยอดไลค์ยอดวิว

เจนจิราจึงหัวเสียจัด ไปวีนแตกใส่หมอขุนเขา เลยกลายเป็นว่าแทนที่จะได้แหล่งข่าว กลับได้คู่ปรับมาแทนซะอย่างนั้น … สุดท้าย เจนจิราเลยไปขอหัวหน้าทำข่าวอื่นแทน หัวหน้าก็จำใจยอมตามคำขอ

ต่อมา หมอขุนเขาได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบโรคแปลกประหลาดในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่มีคนเสียชีวิตไปแล้วหลายศพ จนชาวบ้านพากันลือว่า คนเหล่านั้นตายเพราะ ‘ผีแม่หม้าย’

แต่ไม่รู้เป็นเวรเป็นกรรมกันแต่ชาติปางไหน เจนจิราก็ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าให้ไปทำข่าวผีแม่หม้ายเช่นกัน แล้วคืนนั้น ขณะที่หมอขุนเขากำลังลงพื้นที่ ก็ไปเจอเข้ากับผีตัวเป็น ๆ … ผีนักข่าวเจนจิรา 555

แล้วกลางดึกคืนเดียวกัน หมอขุนเขากับเจนจิราแอบไปเห็นชายฉกรรจ์หลายคนสวมหน้ากากกันพิษ กำลังขนขยะต้องสงสัยทิ้งในพื้นที่บริเวณนั้น

EP.2 ขยะสารพิษ

หลังพบเห็นกลุ่มชายต้องสงสัยกำลังทิ้งวัตถุต้องสงสัย ขุนเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่รู้ทำอีท่าไหน โดนชายกลุ่มนั้นจับได้ ทำให้ขุนเขาต้องรีบพาเจนจิราหนี

รุ่งขึ้น หมอขุนเขาออกสอบสวนโรค มีชาวบ้านเสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุแล้ว 5 ศพ จุดสังเกตคือ ผู้เสียชีวิตจะมีจุดจ้ำ ๆ สีดำตามตัว

แต่เมื่อหมอขุนเขาไปสอบสวนโรคกับชาวบ้าน จู่ ๆ หมอผีก็เข้ามาตะโกนโหวกเหวกโวยวายใส่ โดยหาว่าการกระทำของหมอจะยิ่งทำให้ผีแม่หม้ายออกอาละวาด แล้วมันก็เป็นอย่างที่หมอผีพูดจริง ๆ ลุงที่กำลังให้ข้อมูลกับหมอขุนเขาอยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการชัก แต่จุดสังเกตคือ ตามตัวของลุงมีจุดจ้ำดำ ๆ หมอขุนเขาจึงรีบขับรถพาลุงส่งโรงพยาบาลทันที

วันต่อมา การสอบสวนโรคยังคงดำเนินต่อไป โดยมีเจนจิรากับช่างกล้องคู่ใจตามติดไปด้วยทุกที่ จนหมอขุนเขาเหลือบไปเห็นรถกระบะ คล้ายกับรถของพวกที่มาทิ้งขยะต้องสงสัยในคืนนั้น เขาจึงรีบขับรถตามไปทันที ส่วนเจนจิราก็รีบขับรถตามไปเช่นกัน

หมอขุนเขาเห็นตำตาว่าพวกมันกำลังเทสารพิษทิ้ง จึงเข้าไปแสดงตัวจนเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ต้องการต่อสู้ มันแค่ต้องการหนี หลังพวกมันถีบหมอขุนเขาจนกระเด็น มันจึงรีบขึ้นรถเผ่นแน่บไปทันที

หมอขุนเขาเก็บตัวอย่างขยะสารพิษพวกนั้นไปด้วย ระหว่างนั้นเขาย้ำกับเจนจิราว่าห้ามเอาข้อมูลที่ยังไม่ได้ข้อสรุปไปลงข่าวเด็ดขาด เพราะมันอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เจนจิราพยักหน้าตกลง … เดินไปเดินมา หมอขุนเขาก็พบแหล่งน้ำบริเวณใกล้ ๆ เขาจึงเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจเช่นกัน

วันเดียวกัน หมอขุนเขากับเจนจิราก็ได้รับแจ้งข่าวอันน่าตกตะลึง ลุงตายแล้ว ลุงที่มีอาการชักที่เขาพามาโรงพยาบาลเมื่อวานเสียชีวิตแล้ว เป็นการเสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุอีกเช่นเคย … เมื่อทั้งสองกลับมาถึงหมู่บ้านก็เจอสิ่งที่ไม่คาดหมาย ชาวบ้านรวมตัวกันขับไล่หมอระบาดและนักข่าวให้ออกจากพื้นที่ เพราะเชื่อว่าเป็นเหตุทำให้ผีแม่หม้ายออกอาละวาดฆ่าผู้คนจนตายไปแล้ว 6 ศพ !?

EP.3 ไคโรเนียม

หลังถูกชาวบ้านไล่ หมอขุนเขากับเจนจิราก็มาโต้เถียงกันนู่นนี่นั่น ระหว่างนั้นก็ให้บังเอิญได้ยินหมอผีสาวกำมะลอคุยโทรศัพท์เรื่องขยะสารพิษที่แอบนำมาทิ้ง โดยหมอผีรับหน้าที่เบี่ยงเบนความสนใจให้ชาวบ้านเชื่อว่า การตายของชาวบ้านเป็นเพราะผีแม่หม้าย

เมื่อรู้เช่นนั้น หมอขุนเขากับเจนจิราจึงตามไปที่บ้านของหมอผี แต่พอไปถึง หมอผีกำมะลอก็ไหวตัวทันเผ่นหนีไปซะแล้ว … เจนจิรารู้แจ้งเห็นจริงแล้วว่าผีแม่หม้ายไม่มีจริง จึงรีบเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที หมอขุนเขาเองก็เช่นกัน กลับกรุงเทพฯ ด่วน เพื่อเอาตัวอย่างสารพิษไปตรวจ

แน่ชัดแล้วว่า สารพิษปนเปื้อนเป็นสารที่เรียกว่า ‘ไคโรเนียม’ ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการทดลองและวิจัยยารักษาโรคมะเร็ง โดยเป็นงานวิจัยของ หมอราม (รับบทโดย กบ ทรงสิทธิ์) อาจารย์ของหมอขุนเขา แต่ด้วยความที่มีประเด็นกันตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้หมอรามปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเรื่องโคโรเนียมกับหมอขุนเขา

ในอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว … ในเหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์วิจัยจนเป็นเหตุให้พ่อแม่ของหมอขุนเขาเสียชีวิต ทุกคนเชื่อกันว่าแม่ของหมอขุนเขาเป็นคนทำให้สารพิษแพร่กระจาย จนทำให้มีคนตายจำนวนมาก มีเพียงคนเดียวที่ไม่เชื่อ นั่นคือ หมอขุนเขา

เรื่องราวผ่านไปยี่สิบปี มาถึงปัจจุบัน ไคโรเนียมได้รับอนุญาตให้นำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง รดากร (รับบทโดย แหม่ม รดากร) เศรษฐีสาวใจบุญที่ต้องการให้โครงการวิจัยยารักษามะเร็งประสบความสำเร็จ เธอจึงไปขอร้องหมอรามให้เข้าร่วมทีมวิจัยโดยไม่หวังผลประโยชน์ทางธุรกิจ

EP.4 ทางที่ไม่อยากเลือก

หมอขุนเขาต้องการปิดเรื่องสารไคโรเนียมไว้เป็นความลับ เพื่อการสืบสวนหาต้นตอจะเป็นไปได้โดยง่าย ในทางตรงกันข้าม เจนจิราต้องการเอาเรื่องสารไคโรเนียมเปิดเผยให้สังคมรับรู้ เพื่อสร้างยอดวิวให้กับเพจข่าว เมื่อความคิดสวนทางกัน ทำให้จากเดิมที่เป็นคู่กัดกันอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มดีกรีกันกัดหนักยิ่งกว่าเดิม

วันนั้น หลังจากขุนเขาได้ผลการตรวจตัวอย่างสารพิษจากแล็บว่าเป็นสารไคโรเนียม เขาจึงรีบไปหาหมอราม ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่ารู้เรื่องสารไคโรเนียมดีที่สุดในประเทศไทย ขุนเขามาถึงก็เจอกับเจนจิรา เขาก็พยายามไล่เธอไปเพราะคิดว่าจะมาตามจิกขอข่าวสารพิษ แต่ไล่ยังไงเจนจิราก็ไม่ไป ทีนี้ พอหมอรามเดินมาเท่านั้นแหละ ขุนเขาก็ถึงกับช็อก เมื่อได้ยินเจนจิราเรียกหมอรามว่า “พ่อ”

เจนจิราเป็นลูกสาวของหมอรามอย่างนั้นเหรอ ? ขุนเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ช็อกที่สองคือหมอรามปฏิเสธที่จะคุยกับขุนเขา

ต่อมา ขุนเขาจึงติดต่อไปหาเพื่อนเก่าอย่าง ธีธัช (รับบทโดย อเล็กซ์ เรนเดลล์) ผู้บริหารบริษัท RDK ที่กำลังทำการวิจัยยา ขุนเขาคิดว่าธีธัชน่าจะมีความรู้เรื่องสารไคโรเนียม แต่ก็นั่นแหละ ธีธัชให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้เพราะเป็นความลับสำคัญของบริษัท

ถึงขุนเขาจะไม่ได้ข้อมูลเรื่องไคโรเนียม แต่เขาได้เจอกับคนคนหนึ่ง คนที่ในอดีตเคยให้เงินจ้างนักข่าวทำข่าวใส่ร้ายแม่ของเขาว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้ศูนย์วิจัยไฟไหม้ … คนคนนั้นคือ นพดนัย (รับบทโดย บิ๊ก ศรุต) รองประธานบริษัท RDK

เมื่อหนทางตีบตัน ขุนเขาจึงจำใจเอาผลแล็บไปให้เจนจิราทำข่าว แลกกับการที่เจนจิรานัดให้เขาคุยกับหมอราม

EP.5 ทัศนคติที่เปลี่ยนไป

หมอขุนเขาจำใจยอมให้ผลแล็บขยะสารพิษกับเจนจิรา แลกกับเธอจะนัดเขาให้เจอกับหมอราม จริง ๆ แล้วหมอขุนเขาก็อดเป็นกังวลไม่ได้ เขากลัวว่าเมื่อข่าวสารไคโรเนียมถูกเผยแพร่ออกไป จะทำให้ประชาชนแตกตื่น

รุ่งขึ้น เจนจิราพาหมอรามไปเจอกับหมอขุนเขาตามที่ตกลงกันไว้ แม้หมอรามจะไม่ค่อยพอใจ แต่ก็จำใจยอมทำตามลูกสาว … หมอขุนเขาพุ่งเป้ายิงคำถามไปที่สารไคโรเนียมที่ตรวจพบในร่างของผู้เสียชีวิต หมอรามได้ยินคำถามของหมอขุนเขาก็หัวร้อนขึ้นทันที เขายืนยันว่าสารไคโรเนียมไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ทันใดนั้น หมอรามก็ลุกขึ้นและเดินออกไปด้วยความไม่พอใจกับคำพูดที่ไม่ให้เกียรติของหมอขุนเขา

แม้การนัดเจอกับหมอรามจะเต็มไปด้วยบรรยากาศของความขัดแย้ง แต่หมอขุนเขาก็รู้สึกขอบคุณเจนจิรา ส่วนเจนจิราก็บอกกับหมอขุนเขาว่า เธอตัดสินใจที่จะไม่เล่นข่าวสารไคโรเนียม เพราะกลัวประชาชนจะแตกตื่น อีกอย่างเธอคิดว่าควรรอให้หมอระบาดสืบหาสาเหตุที่แท้จริงให้กระจ่างเสียก่อน … เมื่อได้ยินแบบนั้น ทำให้ทัศนคติของหมอขุนเขาที่มีต่อเจนจิราเริ่มเปลี่ยนไป

ช่วงเวลาสายของวันต่อมา เจนจิราได้รับแจ้งข่าวอันน่าตกใจ ตกใจมากที่สุดในชีวิต รถตู้รับส่งทีมวิจัยของ RDK ที่พ่อเธออยู่บนรถคันนั้น เกิดอุบัติเหตุชนกับรถสิบล้อ คนขับและผู้โดยสารทั้งหมดเสียชีวิตคาที่ !

หัวใจของเจนจิราหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ก่อนที่จะตั้งสติได้แล้วรีบโทร. ไปหาพ่อทันที … ตู๊ด ๆ ๆ … หมอรามรับสาย เจนจิราดีใจที่ปลายสายเป็นเสียงของพ่อ พ่อยังไม่ตาย … นั่นเป็นเพราะก่อนที่รถตู้จะเกิดอุบัติเหตุ หมอรามขอให้คนขับรถตู้แวะมาส่งที่มหาวิทยาลัยเพื่อเคลียร์งาน ทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด

ระหว่างนั้น ผลแล็บที่ตรวจอย่างละเอียดได้ออกมา หมอขุนเขาพบว่า นอกจากสารไคโรเนียมที่พบในตัวอย่างสารพิษ ยังมีสารอีกชนิดอยู่ด้วย ทำให้หมอขุนเขาเริ่มเชื่อแล้วว่า สารไคโรเนียมไม่เป็นอันตรายต่อคนอย่างที่หมอรามบอกเอาไว้จริง ๆ แต่เป็นสารอีกตัวต่างหาก

ต่อมา มีรายงานว่าชาวบ้านมีอาการปวดท้องพร้อมกันนับสิบราย ทุกรายมีอาการอาเจียนเป็นเลือด สุดท้ายก็เสียชีวิตอย่างรวดเร็วในเวลาไล่เลี่ยกัน อีกทั้งยังมีรอยจ้ำสีดำตามร่างกายคล้ายกับเคสผีแม่หม้าย

ผอ.กองระบาดวิทยา ได้รับคำสั่งให้เร่งดำเนินการสืบสวนโรคอย่างเร่งด่วน ผอ.กับหมอขุนเขาจึงไปพบหมอรามที่บ้านอีกครั้ง ตอนแรกหมอรามทำท่าจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็น ผอ.มาด้วยตัวเองหมอรามจึงยอมคุยด้วย … ผอ.นำผลแล็บให้หมอรามดู หมอรามดูอยู่นานหลายนาทีก่อนจะบอกว่า “ผมไม่เคยเห็นสารนี้มาก่อน”

“มีที่ไหนใช้สารไคโรเนียมบ้างครับ ?” เมื่อหมอรามได้ยินคำถามจาก ผอ. เขาก็ตอบกลับไปทันทีว่า นอกจากเขาที่ใช้ทำการวิจัย ก็มีที่ RDK เท่านั้น แต่หมอรามก็อธิบายต่อว่า ศูนย์วิจัยของ RDK ทำแค่วิจัยยา จึงไม่น่าไปเกี่ยวข้องอะไรกับสารพิษ

แล้วจู่ ๆ หมอขุนเขาก็โพล่งขึ้นมาขอสมัครเป็นนักวิจัยในทีมหมอราม เพื่อเข้าไปทำงานในศูนย์วิจัย RDK เพราะต้องการเข้าไปสืบหาความจริงให้เร็วที่สุด “ถ้าเราไม่รีบหาคำตอบ ก็ต้องมีคนตายเพิ่มนะครับ”

หมอรามนั่งคิดอยู่นานหลายนาที ก่อนจะก้าวข้ามเรื่องบาดหมางในอดีต ตอบตกลงให้หมอขุนเขาเข้าร่วมทีม เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือชีวิตของประชาชน

EP.6 หอมกลิ่นความรัก

เจนจิราเชื่อว่าอุบัติเหตุรถตู้รับส่งนักวิจัยของ RDK ชนกับรถสิบล้อตายยกคัน มีเบื้องหลังที่น่าสงสัย เธอจึงไปที่สถานีตำรวจเพื่อขอตรวจดูรถตู้คันนั้น เมื่อไปถึง มีชายฉกรรจ์ต้องสงสัยสองคนทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ใกล้ ๆ รถตู้ พวกมันเห็นเจนจิราเดินมาจึงจะเข้าไปทำร้าย ดีที่ขุนเขามาพอดีจึงเข้าไปช่วยเจนจิรา ทำเอาขุนเขาได้รับฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว ก่อนที่พวกมันจะหนีไป ยิ่งตอกย้ำให้เจนจิราเชื่อเต็มร้อยว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มีคนบางคนจงใจให้มันเกิดขึ้น

เจนจิราเห็นขุนเขาได้รับบาดเจ็บ จึงชวนเขาไปพักที่ห้องของเธอ วินาทีแรกที่ขุนเขาเข้าไปในห้องสาวโสดอย่างเจนจิราเท่านั้นแหละ อึ้งสิครับ นี่มันห้องหรือรังหนู !? เจนจิราเห็นขุนเขาอึ้ง ๆ ไปเลยแก้ตัวไปแบบเขิน ๆ ว่า “นี่ งานของฉันแทบจะไม่เวลากิน เวลานอนก็ไม่เป็นเวลา แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาเก็บห้องล่ะ” 555

ไม่รู้ยังไง ไป ๆ มา ๆ เจนจิรากลับเผลอหลับบนโซฟาไปซะอย่างนั้น ขุนเขาจึงเอาผ้าห่มมาห่มให้ ก่อนกลับ ขุนเขาเก็บขยะใส่ถุง กล่องข้าวเอย แก้วกาแฟกระดาษเอย เอาไปทิ้งให้ และยังจัดข้าวของต่าง ๆ ภายในห้องให้จนเป็นระเบียบ

เมื่อกลับมาถึงห้อง ขุนเขาก็อดคิดถึงอีกมุมหนึ่งที่น่ารักของเจนจิราไม่ได้ คืนนั้น ขุนเขาจึงหลับไปทั้งรอยยิ้มแห่งความสุขเล็ก ๆ ที่เรียกว่ากลิ่นของความรัก

รุ่งเช้า เจนจิราตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ มีผ้าห่มห่มอยู่ด้วย ยิ่งหันไปมองรอบ ๆ ห้องก็ยิ่งตะลึงหนักเข้าไปอีก “อุ๊ย ห่มผ้าให้ แล้วยังเก็บห้องให้อีก โอ๊ย ผู้ชายอะไรเนี่ยน่ารักไม่ไหวแล้ว” เจนจิราบิดไปบิดมาด้วยความเขินอยู่อย่างนั้น

นักวิจัยคนใหม่

ขุนเขาเข้าพบกับ ธีธัช (รับบทโดย อเล็กซ์ เรนเดลล์) ประธาน RDK ในฐานะนักวิจัยคนใหม่ในทีมหมอราม จริง ๆ แล้วธีธัชกับขุนเขาเป็นเพื่อนสมัยเด็ก แต่ธีธัชไม่ชอบขี้หน้าขุนเขา เพราะธีธัชเชื่อมาตลอดว่าแม่ของขุนเขาทำให้แม่ของเขาต้องตาย ด้วยเหตุผลนี้ ธีธัชจึงปฏิเสธให้ขุนเขาเข้าร่วมทีมวิจัย

ทันใดนั้น มินตรา (รับบทโดย น้ำหวาน ภูริตา) เพื่อนสนิทและแอบรักขุนเขา ก็เข้ามาตามคำเชิญของธีธัชที่ชวนเธอเข้าร่วมทีมวิจัย เพื่อช่วยขุนเขาสืบหาต้นตอของสารพิษ ธีธัชตอบตกลงทันที … เหตุผลเพียงข้อเดียวที่ธีธัชยอมให้มินตราเข้าร่วมทีม เพราะเขาชอบเธออยู่ โดยไม่รู้เลยว่า ใจทั้งใจของมินตรามอบให้ขุนเขาไปจนหมดแล้ว

ระหว่างนั้น ทางกองระบาดวิทยาได้รับรายงานว่า มีการนำศพมาเผาตอนกลางคืนวันละ 5-6 ศพทุกคืน ที่น่าสังเกตคือ ทุกศพจะหัวโล้น ขุนเขาจึงได้รับคำสั่งให้ไปสืบสวนว่าเป็นศพที่ตายจากโรคระบาดหรือเปล่า

EP.7 นกหวีดและเข็มฉีดยา

ขุนเขาพาทีมไปที่วัดที่ได้รับรายงานว่ามีการเผาศพตอนกลางคืน ซึ่งเจนจิราก็ได้รับรายงานจากสายข่าว เธอจึงไปทำข่าวที่นั่นเช่นกัน ระหว่างนั้น เจนจิรากลับถูกชายชุดดำพยายามนำเข็มฉีดยาเข้าทำร้าย ยังดีที่ขุนเขามาช่วยได้ทัน จนทำให้ชายต้องสงสัยรีบหนีไป

หลังเคลียร์ศพที่วัดเสร็จ ขุนเขากับเจนจิราจึงไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ขุนเขารู้สึกเป็นห่วงเจน เขาจึงให้นกหวีดพกติดตัวเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เมื่อตกอยู่ในอันตรายขอเพียงเธอเป่านกหวีด เขาจะรีบไปช่วยทันที

ระหว่างนั้น ธีธัชพยายามรุกจีบมินตราอย่างหนัก จนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวจะไม่ได้อยู่ในทีมวิจัย แต่คืนนี้มินตราทนไม่ไหว จึงโทร. ไประบายกับขุนเขา จากนั้น มินตราก็ตามมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ณ จุดนี้ รัศมีทำลายล้างของมินตรายิ่งพวยพุ่งออกมา เมื่อเห็นขุนเขาอยู่กับเจน

ที่ออฟฟิศของเจน หัวหน้าปรี๊ดแตกใส่เธอถึงขั้นจะไล่ออก เพราะเจนไม่มีข่าวมาลงเพจเลย เจนจึงรับปากกับหัวหน้าว่าจะสัมภาษณ์กับขุนเขาให้ได้

เจนไปขอร้องขอสัมภาษณ์ขุนเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เธออ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก ถ้าเขาไม่ให้สัมภาษณ์เธอต้องถูกหัวหน้าไล่ออกแน่นอน เมื่อขุนเขาตกลงให้สัมภาษณ์เท่านั้นแหละ เจนดีใจจนโผเข้าไปกอด

หลังมินตราเข้าร่วมทีมวิจัย เธอก็เดินหน้าหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสารไคโรเนียมในศูนย์วิจัยทันที ระหว่างที่ค้นหาเอกสารเก่าในห้องเก็บเอกสาร เธอบังเอิญไปเจอจดหมายของหัวหน้าทีมวิจัยคนเก่า เธอจึงรีบส่งจดหมายนั้นให้หมอรามทันที

ค่ำวันนั้น ธีธัชชวนมินตราไปไดนิ่งดินเนอร์ด้วยกัน มินตราตอบตกลง ระหว่างนั่งทานอาหาร เธอจึงใช้เสน่ห์ยั่วยวนหลอกล่อให้ธีธัชบอกความจริงเรื่องงานวิจัย แต่ไม่ว่าจะอ่อยยังไง ธีธัชก็ยังยืนยันว่าไม่รู้อะไรเลย “ถ้ารู้ เราคงไม่ให้หมอรามกับมินมาร่วมทีมวิจัยหรอก” ธีธัชพูดจบก็มองมินตราด้วยสายตารู้ทัน

คืนเดียวกัน เจนนัดเลี้ยงหมูกระทะขุนเขา โดยนัดเจอกันที่ออฟฟิศ เจนนั่งดูคลิปที่ขุนเขาให้สัมภาษณ์แล้วก็ยิ้มปลื้มปริ่มไม่หยุด ทันใดนั้น ชายชุดดำก็ปรากฏตัว !

EP.8 มากกว่าคำว่าเพื่อนสนิท

ขุนเขาช่วยเจนจากชายชุดดำที่บุกเข้ามาทำร้ายถึงในออฟฟิศได้อีกครั้ง ขุนเขารู้ในทันทีว่า ชายชุดดำมีจุดประสงค์ ไม่ต้องการให้เจนเขียนข่าวของศูนย์วิจัย ด้วยความเป็นห่วง คืนนั้นขุนเขาจึงขออยู่เป็นเพื่อนนอนค้างที่คอนโดของเจน ณ จุดนี้เอง ทำให้ความใกล้ชิดของทั้งคู่เพิ่มมากขึ้น

ก่อนนอนคืนนั้น ได้เกิดอุบัติเหตุแห่งรักขึ้น เมื่อทั้งสองเกิดเดินชนกันจนล้ม เจนลงไปจูจุ๊บกับขุนเขา แต่แทนที่เธอจะรีบลุกขึ้น เจนกลับทิ้งร่างตัวเองให้ทับขุนเขาอยู่อย่างนั้น จนขุนเขาต้องขอให้เจนลุกขึ้นออกจากตัวเขา … เจนลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนอน เมื่อปิดประตูห้องเท่านั้นแหละ เจนก็ร้องกรี๊ดออกมาลั่นห้อง เจนยิ้มจนแก้มแทบปริที่ได้จูจุ๊บขุนเขา ด้านขุนเขาก็ไม่ต่างกัน นอนอมยิ้มอยู่คนเดียวทั้งคืนจนหลับไป

คืนเดียวกัน ธีธัชพยายามลวนลามมิน แต่มินขัดขืนและเอาตัวรอดได้ … เช้าวันต่อมา มินจึงโทร. ไปบอกเรื่องนี้กับขุนเขา ระหว่างนั้น มินได้ยินเสียงเจนรอดเข้ามา มินจึงพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจที่ขุนเขาให้ความสำคัญกับเจนมากกว่า อีกทั้งยังมองเธอเป็นแค่เพื่อนสนิท เพราะสำหรับมินแล้ว คำว่า “เพื่อนที่ดีที่สุด” จากปากขุนเขาไม่มีความหมายอะไรเลย สิ่งที่เธอต้องการคือคำว่า “แฟน” ต่างหาก พูดจบมินก็วางสายไปทันที ขุนเขาโทร. กลับไปก็ไม่รับสาย

ขุนเขาทั้งร้อนใจทั้งโมโห เขารีบตรงไปศูนย์วิจัย RDK ทันที เจนที่จะไปหาหมอรามจึงอาสาพาขุนเขาไปส่ง

ที่ RDK ขุนเขาปรี่เข้าไปหาธีธัชด้วยความโมโห ที่เมื่อคืนพยายามลวนลามมิน ธีธัชก็ตอกกลับขุนเขาว่ามีสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับมิน ขุนเขาจึงประกาศออกไปว่าเขาเป็นแฟนมิน ทุกคนสตั๊นกับคำพูดของขุนเขา แต่คนที่ช็อกที่สุดก็คือเจน

นับแต่วันนั้น เจนเข้าสู่โหมดสภาวะทิ้งตัว ไม่ติดต่อ ไม่ตอบไลน์ ไม่อะไรทั้งสิ้น ขุนเขาเองก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจน

ระหว่างนั้น ผลแล็บของศพที่เจอที่วัดก็ออกมา ขุนเขารีบเอาไปให้หัวหน้าดู ผลแล็บพบว่าทุกศพเป็นมะเร็ง และตรวจพบสารไคโรเนียมทุกศพเช่นกัน หัวหน้าหยิบภาพศพขึ้นมาดู ที่ข้อมือของศพมีสัญลักษณ์เขียนอักษร GMP ติดอยู่ ซึ่งเป็นชื่อศูนย์วิจัยเก่าที่แม่ขุนเขาเคยทำงาน … ขุนเขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในอดีต ทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดก็คือ นพดนัย

EP.9 เราเป็นแฟนกันแล้ว

เจนอยู่ในสภาวะทิ้งตัว ด้วยความเสียใจที่ได้ยินขุนเขาประกาศว่าเป็นแฟนกับมิน

ขุนเขาเป็นงงอยู่พักใหญ่ว่าทำไมเจนถึงไม่รับโทรศัพท์ อ่านไลน์ก็ไม่ตอบ จนเขาต้องไปหาเธอและอธิบายว่า ที่ต้องพูดอย่างนั้นก็เพื่อนปกป้องมิน จากนั้น ขุนเขาก็ใช้รอยจูบเป็นการยืนยันความรู้สึกตัวเอง ก่อนที่เขาจะขอเจนเป็นแฟน เจนตอบรับรอยจูบนั้น พร้อมกับตอบตกลงด้วยความดีใจ

“เป็นแฟนกันแล้วห้ามเลิกกันนะ” เจนพูดจบก็โถมตัวเข้าหาขุนเขาจนล้มลงไปนอนทับกันบนโซฟา ทั้งสองยังคงจูบขุนเขา นานจนขุนเขาต้องขอให้เจนหยุด เพราะเขาต้องไปคุยกับหมอรามเรื่องขอเข้าร่วมทีมวิจัย

หมอรามเห็นผลแล็บที่ตรวจพบสารไคโรเนียมในศพผู้เสียชีวิต หมอรามจึงตกลงยอมให้ขุนเขาเข้าร่วมทีมงานวิจัย เพื่อให้ขุนเขาสืบหาหลักฐานเกี่ยวกับสารไคโรเนียม พร้อมกับขจัดอคติที่เคยมีต่อขุนเขาในอดีตออกไปจนหมดสิ้น

การเข้าร่วมทีมวิจัยของขุนเขาสร้างความไม่พอใจให้ธีธัชเป็นอย่างมาก ถึงขั้นยอมแตกหักกับหมอราม โดยการบอกเลิกสัญญาทั้งหมดที่มีกับหมอราม ทันใดนั้น รดากรก็เข้ามาแทรกแซง โดยหักหน้าธีธัชและยอมให้ขุนเขาเข้าร่วมทีมวิจัยอย่างไม่มีเงื่อนไข

ระหว่างนั้น หมอรามได้เปิดจดหมายที่มินเจอในห้องเก็บเอกสารขึ้นมาอ่าน เนื้อหาในจดหมายระบุว่าโครงการวิจัยยาต้านมะเร็งโดยใช้สารไคโรเนียมมีความผิดพลาดมากมาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ในจดหมายยังระบุชัดเจนให้ยุติโครงการนี้ทันที ท้ายจดหมายลงชื่อแม่ของขุนเขาที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อน

หมอรามเอาจดหมายไปให้รดากรดู และขอยุติการวิจัยเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งขัดกับความต้องการของรดากร

วันนั้น เจนมารับขุนเขาที่ RDK ทั้งสองกะหนุงกะหนิงกันบนรถ ก่อนที่ขุนเขาจะโน้มตัวจากเบาะนั่งข้างคนขับไปหอมแก้มเจน จังหวะนั้น มินเดินมาโป๊ะกับภาพบาดตาบาดใจเข้าพอดี ภาพที่ทำเอาความฝันและความหวังที่ผ่านมาตลอดสิบปีพังทลายไปในพริบตา ความรักพังทลาย หัวใจเพียงดวงเดียวแหลกสลาย

EP.10

ออกอากาศ 19 ก.ย.

Images : Ch3Thailand
ดู สืบลับหมอระบาด ที่ Ch3Plus : คลิกที่นี่