Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องละคร สืบลับหมอระบาด (2023) Doctor Detective - คิมเบอร์ลี่ - ณเดชน์ คูกิมิยะ

สรุปเนื้อเรื่องละคร สืบลับหมอระบาด (2023) Doctor Detective

สืบลับหมอระบาด สปอยล์ : เมื่อคดีที่หมอระบาดกำลังตามสืบ ดันมาเจอนักข่าวสาวจอมแสบตามจิกข่าวไม่เลิก ทั้งสองจึงต้องร่วมมือช่วยเหลือกัน …

EP.1 คดีผีแม่หม้าย

ย้อนกลับไปในปี 2000 … หมอขุนเขา (รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ) ต้องเสียพ่อแม่ในเหตุไฟไหม้ศูนย์วิจัย เหตุการณ์นั้นเป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ทำให้เขาเป็นหมอระบาดตามรอยพ่อ

ปัจจุบัน หมอขุนเขาเข้าตรวจโรคผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลารายแรกในไทย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ ที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในไทย

นักข่าวสาวจอมจิกอย่าง เจนจิรา (รับบทโดย คิม คิมเบอร์ลี่) เจ้าของฉายานักข่าวร้อยล้านวิว ได้รับมอบหมายจากหัวหน้า ให้ลงพื้นที่สัมภาษณ์หมอขุนเขาเพื่อทำสกู๊ป แต่เขาไม่เคยให้เจนจิราสัมภาษณ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเขามีทัศนคติในเชิงลบกับนักข่าว ที่มักจะชอบพาดหัวขาดบิดเบือนเพื่อเรียกยอดไลค์ยอดวิว

เจนจิราจึงหัวเสียจัด ไปวีนแตกใส่หมอขุนเขา เลยกลายเป็นว่าแทนที่จะได้แหล่งข่าว กลับได้คู่ปรับมาแทนซะอย่างนั้น … สุดท้าย เจนจิราเลยไปขอหัวหน้าทำข่าวอื่นแทน หัวหน้าก็จำใจยอมตามคำขอ

ต่อมา หมอขุนเขาได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบโรคแปลกประหลาดในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่มีคนเสียชีวิตไปแล้วหลายศพ จนชาวบ้านพากันลือว่า คนเหล่านั้นตายเพราะ ‘ผีแม่หม้าย’

แต่ไม่รู้เป็นเวรเป็นกรรมกันแต่ชาติปางไหน เจนจิราก็ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าให้ไปทำข่าวผีแม่หม้ายเช่นกัน แล้วคืนนั้น ขณะที่หมอขุนเขากำลังลงพื้นที่ ก็ไปเจอเข้ากับผีตัวเป็น ๆ … ผีนักข่าวเจนจิรา 555

แล้วกลางดึกคืนเดียวกัน หมอขุนเขากับเจนจิราแอบไปเห็นชายฉกรรจ์หลายคนสวมหน้ากากกันพิษ กำลังขนขยะต้องสงสัยทิ้งในพื้นที่บริเวณนั้น

EP.2 ขยะสารพิษ

หลังพบเห็นกลุ่มชายต้องสงสัยกำลังทิ้งวัตถุต้องสงสัย ขุนเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่รู้ทำอีท่าไหน โดนชายกลุ่มนั้นจับได้ ทำให้ขุนเขาต้องรีบพาเจนจิราหนี

รุ่งขึ้น หมอขุนเขาออกสอบสวนโรค มีชาวบ้านเสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุแล้ว 5 ศพ จุดสังเกตคือ ผู้เสียชีวิตจะมีจุดจ้ำ ๆ สีดำตามตัว

แต่เมื่อหมอขุนเขาไปสอบสวนโรคกับชาวบ้าน จู่ ๆ หมอผีก็เข้ามาตะโกนโหวกเหวกโวยวายใส่ โดยหาว่าการกระทำของหมอจะยิ่งทำให้ผีแม่หม้ายออกอาละวาด แล้วมันก็เป็นอย่างที่หมอผีพูดจริง ๆ ลุงที่กำลังให้ข้อมูลกับหมอขุนเขาอยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการชัก แต่จุดสังเกตคือ ตามตัวของลุงมีจุดจ้ำดำ ๆ หมอขุนเขาจึงรีบขับรถพาลุงส่งโรงพยาบาลทันที

วันต่อมา การสอบสวนโรคยังคงดำเนินต่อไป โดยมีเจนจิรากับช่างกล้องคู่ใจตามติดไปด้วยทุกที่ จนหมอขุนเขาเหลือบไปเห็นรถกระบะ คล้ายกับรถของพวกที่มาทิ้งขยะต้องสงสัยในคืนนั้น เขาจึงรีบขับรถตามไปทันที ส่วนเจนจิราก็รีบขับรถตามไปเช่นกัน

หมอขุนเขาเห็นตำตาว่าพวกมันกำลังเทสารพิษทิ้ง จึงเข้าไปแสดงตัวจนเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ต้องการต่อสู้ มันแค่ต้องการหนี หลังพวกมันถีบหมอขุนเขาจนกระเด็น มันจึงรีบขึ้นรถเผ่นแน่บไปทันที

หมอขุนเขาเก็บตัวอย่างขยะสารพิษพวกนั้นไปด้วย ระหว่างนั้นเขาย้ำกับเจนจิราว่าห้ามเอาข้อมูลที่ยังไม่ได้ข้อสรุปไปลงข่าวเด็ดขาด เพราะมันอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เจนจิราพยักหน้าตกลง … เดินไปเดินมา หมอขุนเขาก็พบแหล่งน้ำบริเวณใกล้ ๆ เขาจึงเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจเช่นกัน

วันเดียวกัน หมอขุนเขากับเจนจิราก็ได้รับแจ้งข่าวอันน่าตกตะลึง ลุงตายแล้ว ลุงที่มีอาการชักที่เขาพามาโรงพยาบาลเมื่อวานเสียชีวิตแล้ว เป็นการเสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุอีกเช่นเคย … เมื่อทั้งสองกลับมาถึงหมู่บ้านก็เจอสิ่งที่ไม่คาดหมาย ชาวบ้านรวมตัวกันขับไล่หมอระบาดและนักข่าวให้ออกจากพื้นที่ เพราะเชื่อว่าเป็นเหตุทำให้ผีแม่หม้ายออกอาละวาดฆ่าผู้คนจนตายไปแล้ว 6 ศพ !?

EP.3 ไคโรเนียม

หลังถูกชาวบ้านไล่ หมอขุนเขากับเจนจิราก็มาโต้เถียงกันนู่นนี่นั่น ระหว่างนั้นก็ให้บังเอิญได้ยินหมอผีสาวกำมะลอคุยโทรศัพท์เรื่องขยะสารพิษที่แอบนำมาทิ้ง โดยหมอผีรับหน้าที่เบี่ยงเบนความสนใจให้ชาวบ้านเชื่อว่า การตายของชาวบ้านเป็นเพราะผีแม่หม้าย

เมื่อรู้เช่นนั้น หมอขุนเขากับเจนจิราจึงตามไปที่บ้านของหมอผี แต่พอไปถึง หมอผีกำมะลอก็ไหวตัวทันเผ่นหนีไปซะแล้ว … เจนจิรารู้แจ้งเห็นจริงแล้วว่าผีแม่หม้ายไม่มีจริง จึงรีบเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที หมอขุนเขาเองก็เช่นกัน กลับกรุงเทพฯ ด่วน เพื่อเอาตัวอย่างสารพิษไปตรวจ

แน่ชัดแล้วว่า สารพิษปนเปื้อนเป็นสารที่เรียกว่า ‘ไคโรเนียม’ ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการทดลองและวิจัยยารักษาโรคมะเร็ง โดยเป็นงานวิจัยของ หมอราม (รับบทโดย กบ ทรงสิทธิ์) อาจารย์ของหมอขุนเขา แต่ด้วยความที่มีประเด็นกันตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้หมอรามปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเรื่องโคโรเนียมกับหมอขุนเขา

ในอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว … ในเหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์วิจัยจนเป็นเหตุให้พ่อแม่ของหมอขุนเขาเสียชีวิต ทุกคนเชื่อกันว่าแม่ของหมอขุนเขาเป็นคนทำให้สารพิษแพร่กระจาย จนทำให้มีคนตายจำนวนมาก มีเพียงคนเดียวที่ไม่เชื่อ นั่นคือ หมอขุนเขา

เรื่องราวผ่านไปยี่สิบปี มาถึงปัจจุบัน ไคโรเนียมได้รับอนุญาตให้นำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง รดากร (รับบทโดย แหม่ม รดากร) เศรษฐีสาวใจบุญที่ต้องการให้โครงการวิจัยยารักษามะเร็งประสบความสำเร็จ เธอจึงไปขอร้องหมอรามให้เข้าร่วมทีมวิจัยโดยไม่หวังผลประโยชน์ทางธุรกิจ

EP.4 ทางที่ไม่อยากเลือก

หมอขุนเขาต้องการปิดเรื่องสารไคโรเนียมไว้เป็นความลับ เพื่อการสืบสวนหาต้นตอจะเป็นไปได้โดยง่าย ในทางตรงกันข้าม เจนจิราต้องการเอาเรื่องสารไคโรเนียมเปิดเผยให้สังคมรับรู้ เพื่อสร้างยอดวิวให้กับเพจข่าว เมื่อความคิดสวนทางกัน ทำให้จากเดิมที่เป็นคู่กัดกันอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มดีกรีกันกัดหนักยิ่งกว่าเดิม

วันนั้น หลังจากขุนเขาได้ผลการตรวจตัวอย่างสารพิษจากแล็บว่าเป็นสารไคโรเนียม เขาจึงรีบไปหาหมอราม ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่ารู้เรื่องสารไคโรเนียมดีที่สุดในประเทศไทย ขุนเขามาถึงก็เจอกับเจนจิรา เขาก็พยายามไล่เธอไปเพราะคิดว่าจะมาตามจิกขอข่าวสารพิษ แต่ไล่ยังไงเจนจิราก็ไม่ไป ทีนี้ พอหมอรามเดินมาเท่านั้นแหละ ขุนเขาก็ถึงกับช็อก เมื่อได้ยินเจนจิราเรียกหมอรามว่า “พ่อ”

เจนจิราเป็นลูกสาวของหมอรามอย่างนั้นเหรอ ? ขุนเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ช็อกที่สองคือหมอรามปฏิเสธที่จะคุยกับขุนเขา

ต่อมา ขุนเขาจึงติดต่อไปหาเพื่อนเก่าอย่าง ธีธัช (รับบทโดย อเล็กซ์ เรนเดลล์) ผู้บริหารบริษัท RDK ที่กำลังทำการวิจัยยา ขุนเขาคิดว่าธีธัชน่าจะมีความรู้เรื่องสารไคโรเนียม แต่ก็นั่นแหละ ธีธัชให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้เพราะเป็นความลับสำคัญของบริษัท

ถึงขุนเขาจะไม่ได้ข้อมูลเรื่องไคโรเนียม แต่เขาได้เจอกับคนคนหนึ่ง คนที่ในอดีตเคยให้เงินจ้างนักข่าวทำข่าวใส่ร้ายแม่ของเขาว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้ศูนย์วิจัยไฟไหม้ … คนคนนั้นคือ นพดนัย (รับบทโดย บิ๊ก ศรุต) รองประธานบริษัท RDK

เมื่อหนทางตีบตัน ขุนเขาจึงจำใจเอาผลแล็บไปให้เจนจิราทำข่าว แลกกับการที่เจนจิรานัดให้เขาคุยกับหมอราม

EP.5 ทัศนคติที่เปลี่ยนไป

หมอขุนเขาจำใจยอมให้ผลแล็บขยะสารพิษกับเจนจิรา แลกกับเธอจะนัดเขาให้เจอกับหมอราม จริง ๆ แล้วหมอขุนเขาก็อดเป็นกังวลไม่ได้ เขากลัวว่าเมื่อข่าวสารไคโรเนียมถูกเผยแพร่ออกไป จะทำให้ประชาชนแตกตื่น

รุ่งขึ้น เจนจิราพาหมอรามไปเจอกับหมอขุนเขาตามที่ตกลงกันไว้ แม้หมอรามจะไม่ค่อยพอใจ แต่ก็จำใจยอมทำตามลูกสาว … หมอขุนเขาพุ่งเป้ายิงคำถามไปที่สารไคโรเนียมที่ตรวจพบในร่างของผู้เสียชีวิต หมอรามได้ยินคำถามของหมอขุนเขาก็หัวร้อนขึ้นทันที เขายืนยันว่าสารไคโรเนียมไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ทันใดนั้น หมอรามก็ลุกขึ้นและเดินออกไปด้วยความไม่พอใจกับคำพูดที่ไม่ให้เกียรติของหมอขุนเขา

แม้การนัดเจอกับหมอรามจะเต็มไปด้วยบรรยากาศของความขัดแย้ง แต่หมอขุนเขาก็รู้สึกขอบคุณเจนจิรา ส่วนเจนจิราก็บอกกับหมอขุนเขาว่า เธอตัดสินใจที่จะไม่เล่นข่าวสารไคโรเนียม เพราะกลัวประชาชนจะแตกตื่น อีกอย่างเธอคิดว่าควรรอให้หมอระบาดสืบหาสาเหตุที่แท้จริงให้กระจ่างเสียก่อน … เมื่อได้ยินแบบนั้น ทำให้ทัศนคติของหมอขุนเขาที่มีต่อเจนจิราเริ่มเปลี่ยนไป

ช่วงเวลาสายของวันต่อมา เจนจิราได้รับแจ้งข่าวอันน่าตกใจ ตกใจมากที่สุดในชีวิต รถตู้รับส่งทีมวิจัยของ RDK ที่พ่อเธออยู่บนรถคันนั้น เกิดอุบัติเหตุชนกับรถสิบล้อ คนขับและผู้โดยสารทั้งหมดเสียชีวิตคาที่ !

หัวใจของเจนจิราหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ก่อนที่จะตั้งสติได้แล้วรีบโทร. ไปหาพ่อทันที … ตู๊ด ๆ ๆ … หมอรามรับสาย เจนจิราดีใจที่ปลายสายเป็นเสียงของพ่อ พ่อยังไม่ตาย … นั่นเป็นเพราะก่อนที่รถตู้จะเกิดอุบัติเหตุ หมอรามขอให้คนขับรถตู้แวะมาส่งที่มหาวิทยาลัยเพื่อเคลียร์งาน ทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด

ระหว่างนั้น ผลแล็บที่ตรวจอย่างละเอียดได้ออกมา หมอขุนเขาพบว่า นอกจากสารไคโรเนียมที่พบในตัวอย่างสารพิษ ยังมีสารอีกชนิดอยู่ด้วย ทำให้หมอขุนเขาเริ่มเชื่อแล้วว่า สารไคโรเนียมไม่เป็นอันตรายต่อคนอย่างที่หมอรามบอกเอาไว้จริง ๆ แต่เป็นสารอีกตัวต่างหาก

ต่อมา มีรายงานว่าชาวบ้านมีอาการปวดท้องพร้อมกันนับสิบราย ทุกรายมีอาการอาเจียนเป็นเลือด สุดท้ายก็เสียชีวิตอย่างรวดเร็วในเวลาไล่เลี่ยกัน อีกทั้งยังมีรอยจ้ำสีดำตามร่างกายคล้ายกับเคสผีแม่หม้าย

ผอ.กองระบาดวิทยา ได้รับคำสั่งให้เร่งดำเนินการสืบสวนโรคอย่างเร่งด่วน ผอ.กับหมอขุนเขาจึงไปพบหมอรามที่บ้านอีกครั้ง ตอนแรกหมอรามทำท่าจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็น ผอ.มาด้วยตัวเองหมอรามจึงยอมคุยด้วย … ผอ.นำผลแล็บให้หมอรามดู หมอรามดูอยู่นานหลายนาทีก่อนจะบอกว่า “ผมไม่เคยเห็นสารนี้มาก่อน”

“มีที่ไหนใช้สารไคโรเนียมบ้างครับ ?” เมื่อหมอรามได้ยินคำถามจาก ผอ. เขาก็ตอบกลับไปทันทีว่า นอกจากเขาที่ใช้ทำการวิจัย ก็มีที่ RDK เท่านั้น แต่หมอรามก็อธิบายต่อว่า ศูนย์วิจัยของ RDK ทำแค่วิจัยยา จึงไม่น่าไปเกี่ยวข้องอะไรกับสารพิษ

แล้วจู่ ๆ หมอขุนเขาก็โพล่งขึ้นมาขอสมัครเป็นนักวิจัยในทีมหมอราม เพื่อเข้าไปทำงานในศูนย์วิจัย RDK เพราะต้องการเข้าไปสืบหาความจริงให้เร็วที่สุด “ถ้าเราไม่รีบหาคำตอบ ก็ต้องมีคนตายเพิ่มนะครับ”

หมอรามนั่งคิดอยู่นานหลายนาที ก่อนจะก้าวข้ามเรื่องบาดหมางในอดีต ตอบตกลงให้หมอขุนเขาเข้าร่วมทีม เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือชีวิตของประชาชน

EP.6 หอมกลิ่นความรัก

เจนจิราเชื่อว่าอุบัติเหตุรถตู้รับส่งนักวิจัยของ RDK ชนกับรถสิบล้อตายยกคัน มีเบื้องหลังที่น่าสงสัย เธอจึงไปที่สถานีตำรวจเพื่อขอตรวจดูรถตู้คันนั้น เมื่อไปถึง มีชายฉกรรจ์ต้องสงสัยสองคนทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ใกล้ ๆ รถตู้ พวกมันเห็นเจนจิราเดินมาจึงจะเข้าไปทำร้าย ดีที่ขุนเขามาพอดีจึงเข้าไปช่วยเจนจิรา ทำเอาขุนเขาได้รับฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว ก่อนที่พวกมันจะหนีไป ยิ่งตอกย้ำให้เจนจิราเชื่อเต็มร้อยว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มีคนบางคนจงใจให้มันเกิดขึ้น

เจนจิราเห็นขุนเขาได้รับบาดเจ็บ จึงชวนเขาไปพักที่ห้องของเธอ วินาทีแรกที่ขุนเขาเข้าไปในห้องสาวโสดอย่างเจนจิราเท่านั้นแหละ อึ้งสิครับ นี่มันห้องหรือรังหนู !? เจนจิราเห็นขุนเขาอึ้ง ๆ ไปเลยแก้ตัวไปแบบเขิน ๆ ว่า “นี่ งานของฉันแทบจะไม่เวลากิน เวลานอนก็ไม่เป็นเวลา แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาเก็บห้องล่ะ” 555

ไม่รู้ยังไง ไป ๆ มา ๆ เจนจิรากลับเผลอหลับบนโซฟาไปซะอย่างนั้น ขุนเขาจึงเอาผ้าห่มมาห่มให้ ก่อนกลับ ขุนเขาเก็บขยะใส่ถุง กล่องข้าวเอย แก้วกาแฟกระดาษเอย เอาไปทิ้งให้ และยังจัดข้าวของต่าง ๆ ภายในห้องให้จนเป็นระเบียบ

เมื่อกลับมาถึงห้อง ขุนเขาก็อดคิดถึงอีกมุมหนึ่งที่น่ารักของเจนจิราไม่ได้ คืนนั้น ขุนเขาจึงหลับไปทั้งรอยยิ้มแห่งความสุขเล็ก ๆ ที่เรียกว่ากลิ่นของความรัก

รุ่งเช้า เจนจิราตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ มีผ้าห่มห่มอยู่ด้วย ยิ่งหันไปมองรอบ ๆ ห้องก็ยิ่งตะลึงหนักเข้าไปอีก “อุ๊ย ห่มผ้าให้ แล้วยังเก็บห้องให้อีก โอ๊ย ผู้ชายอะไรเนี่ยน่ารักไม่ไหวแล้ว” เจนจิราบิดไปบิดมาด้วยความเขินอยู่อย่างนั้น

นักวิจัยคนใหม่

ขุนเขาเข้าพบกับ ธีธัช (รับบทโดย อเล็กซ์ เรนเดลล์) ประธาน RDK ในฐานะนักวิจัยคนใหม่ในทีมหมอราม จริง ๆ แล้วธีธัชกับขุนเขาเป็นเพื่อนสมัยเด็ก แต่ธีธัชไม่ชอบขี้หน้าขุนเขา เพราะธีธัชเชื่อมาตลอดว่าแม่ของขุนเขาทำให้แม่ของเขาต้องตาย ด้วยเหตุผลนี้ ธีธัชจึงปฏิเสธให้ขุนเขาเข้าร่วมทีมวิจัย

ทันใดนั้น มินตรา (รับบทโดย น้ำหวาน ภูริตา) เพื่อนสนิทและแอบรักขุนเขา ก็เข้ามาตามคำเชิญของธีธัชที่ชวนเธอเข้าร่วมทีมวิจัย เพื่อช่วยขุนเขาสืบหาต้นตอของสารพิษ ธีธัชตอบตกลงทันที … เหตุผลเพียงข้อเดียวที่ธีธัชยอมให้มินตราเข้าร่วมทีม เพราะเขาชอบเธออยู่ โดยไม่รู้เลยว่า ใจทั้งใจของมินตรามอบให้ขุนเขาไปจนหมดแล้ว

ระหว่างนั้น ทางกองระบาดวิทยาได้รับรายงานว่า มีการนำศพมาเผาตอนกลางคืนวันละ 5-6 ศพทุกคืน ที่น่าสังเกตคือ ทุกศพจะหัวโล้น ขุนเขาจึงได้รับคำสั่งให้ไปสืบสวนว่าเป็นศพที่ตายจากโรคระบาดหรือเปล่า

EP.7 นกหวีดและเข็มฉีดยา

ขุนเขาพาทีมไปที่วัดที่ได้รับรายงานว่ามีการเผาศพตอนกลางคืน ซึ่งเจนจิราก็ได้รับรายงานจากสายข่าว เธอจึงไปทำข่าวที่นั่นเช่นกัน ระหว่างนั้น เจนจิรากลับถูกชายชุดดำพยายามนำเข็มฉีดยาเข้าทำร้าย ยังดีที่ขุนเขามาช่วยได้ทัน จนทำให้ชายต้องสงสัยรีบหนีไป

หลังเคลียร์ศพที่วัดเสร็จ ขุนเขากับเจนจิราจึงไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ขุนเขารู้สึกเป็นห่วงเจน เขาจึงให้นกหวีดพกติดตัวเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เมื่อตกอยู่ในอันตรายขอเพียงเธอเป่านกหวีด เขาจะรีบไปช่วยทันที

ระหว่างนั้น ธีธัชพยายามรุกจีบมินตราอย่างหนัก จนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวจะไม่ได้อยู่ในทีมวิจัย แต่คืนนี้มินตราทนไม่ไหว จึงโทร. ไประบายกับขุนเขา จากนั้น มินตราก็ตามมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ณ จุดนี้ รัศมีทำลายล้างของมินตรายิ่งพวยพุ่งออกมา เมื่อเห็นขุนเขาอยู่กับเจน

ที่ออฟฟิศของเจน หัวหน้าปรี๊ดแตกใส่เธอถึงขั้นจะไล่ออก เพราะเจนไม่มีข่าวมาลงเพจเลย เจนจึงรับปากกับหัวหน้าว่าจะสัมภาษณ์กับขุนเขาให้ได้

เจนไปขอร้องขอสัมภาษณ์ขุนเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เธออ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก ถ้าเขาไม่ให้สัมภาษณ์เธอต้องถูกหัวหน้าไล่ออกแน่นอน เมื่อขุนเขาตกลงให้สัมภาษณ์เท่านั้นแหละ เจนดีใจจนโผเข้าไปกอด

หลังมินตราเข้าร่วมทีมวิจัย เธอก็เดินหน้าหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสารไคโรเนียมในศูนย์วิจัยทันที ระหว่างที่ค้นหาเอกสารเก่าในห้องเก็บเอกสาร เธอบังเอิญไปเจอจดหมายของหัวหน้าทีมวิจัยคนเก่า เธอจึงรีบส่งจดหมายนั้นให้หมอรามทันที

ค่ำวันนั้น ธีธัชชวนมินตราไปไดนิ่งดินเนอร์ด้วยกัน มินตราตอบตกลง ระหว่างนั่งทานอาหาร เธอจึงใช้เสน่ห์ยั่วยวนหลอกล่อให้ธีธัชบอกความจริงเรื่องงานวิจัย แต่ไม่ว่าจะอ่อยยังไง ธีธัชก็ยังยืนยันว่าไม่รู้อะไรเลย “ถ้ารู้ เราคงไม่ให้หมอรามกับมินมาร่วมทีมวิจัยหรอก” ธีธัชพูดจบก็มองมินตราด้วยสายตารู้ทัน

คืนเดียวกัน เจนนัดเลี้ยงหมูกระทะขุนเขา โดยนัดเจอกันที่ออฟฟิศ เจนนั่งดูคลิปที่ขุนเขาให้สัมภาษณ์แล้วก็ยิ้มปลื้มปริ่มไม่หยุด ทันใดนั้น ชายชุดดำก็ปรากฏตัว !

EP.8 มากกว่าคำว่าเพื่อนสนิท

ขุนเขาช่วยเจนจากชายชุดดำที่บุกเข้ามาทำร้ายถึงในออฟฟิศได้อีกครั้ง ขุนเขารู้ในทันทีว่า ชายชุดดำมีจุดประสงค์ ไม่ต้องการให้เจนเขียนข่าวของศูนย์วิจัย ด้วยความเป็นห่วง คืนนั้นขุนเขาจึงขออยู่เป็นเพื่อนนอนค้างที่คอนโดของเจน ณ จุดนี้เอง ทำให้ความใกล้ชิดของทั้งคู่เพิ่มมากขึ้น

ก่อนนอนคืนนั้น ได้เกิดอุบัติเหตุแห่งรักขึ้น เมื่อทั้งสองเกิดเดินชนกันจนล้ม เจนลงไปจูจุ๊บกับขุนเขา แต่แทนที่เธอจะรีบลุกขึ้น เจนกลับทิ้งร่างตัวเองให้ทับขุนเขาอยู่อย่างนั้น จนขุนเขาต้องขอให้เจนลุกขึ้นออกจากตัวเขา … เจนลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนอน เมื่อปิดประตูห้องเท่านั้นแหละ เจนก็ร้องกรี๊ดออกมาลั่นห้อง เจนยิ้มจนแก้มแทบปริที่ได้จูจุ๊บขุนเขา ด้านขุนเขาก็ไม่ต่างกัน นอนอมยิ้มอยู่คนเดียวทั้งคืนจนหลับไป

คืนเดียวกัน ธีธัชพยายามลวนลามมิน แต่มินขัดขืนและเอาตัวรอดได้ … เช้าวันต่อมา มินจึงโทร. ไปบอกเรื่องนี้กับขุนเขา ระหว่างนั้น มินได้ยินเสียงเจนรอดเข้ามา มินจึงพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจที่ขุนเขาให้ความสำคัญกับเจนมากกว่า อีกทั้งยังมองเธอเป็นแค่เพื่อนสนิท เพราะสำหรับมินแล้ว คำว่า “เพื่อนที่ดีที่สุด” จากปากขุนเขาไม่มีความหมายอะไรเลย สิ่งที่เธอต้องการคือคำว่า “แฟน” ต่างหาก พูดจบมินก็วางสายไปทันที ขุนเขาโทร. กลับไปก็ไม่รับสาย

ขุนเขาทั้งร้อนใจทั้งโมโห เขารีบตรงไปศูนย์วิจัย RDK ทันที เจนที่จะไปหาหมอรามจึงอาสาพาขุนเขาไปส่ง

ที่ RDK ขุนเขาปรี่เข้าไปหาธีธัชด้วยความโมโห ที่เมื่อคืนพยายามลวนลามมิน ธีธัชก็ตอกกลับขุนเขาว่ามีสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับมิน ขุนเขาจึงประกาศออกไปว่าเขาเป็นแฟนมิน ทุกคนสตั๊นกับคำพูดของขุนเขา แต่คนที่ช็อกที่สุดก็คือเจน

นับแต่วันนั้น เจนเข้าสู่โหมดสภาวะทิ้งตัว ไม่ติดต่อ ไม่ตอบไลน์ ไม่อะไรทั้งสิ้น ขุนเขาเองก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจน

ระหว่างนั้น ผลแล็บของศพที่เจอที่วัดก็ออกมา ขุนเขารีบเอาไปให้หัวหน้าดู ผลแล็บพบว่าทุกศพเป็นมะเร็ง และตรวจพบสารไคโรเนียมทุกศพเช่นกัน หัวหน้าหยิบภาพศพขึ้นมาดู ที่ข้อมือของศพมีสัญลักษณ์เขียนอักษร GMP ติดอยู่ ซึ่งเป็นชื่อศูนย์วิจัยเก่าที่แม่ขุนเขาเคยทำงาน … ขุนเขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในอดีต ทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดก็คือ นพดนัย

EP.9 เราเป็นแฟนกันแล้ว

เจนอยู่ในสภาวะทิ้งตัว ด้วยความเสียใจที่ได้ยินขุนเขาประกาศว่าเป็นแฟนกับมิน

ขุนเขาเป็นงงอยู่พักใหญ่ว่าทำไมเจนถึงไม่รับโทรศัพท์ อ่านไลน์ก็ไม่ตอบ จนเขาต้องไปหาเธอและอธิบายว่า ที่ต้องพูดอย่างนั้นก็เพื่อนปกป้องมิน จากนั้น ขุนเขาก็ใช้รอยจูบเป็นการยืนยันความรู้สึกตัวเอง ก่อนที่เขาจะขอเจนเป็นแฟน เจนตอบรับรอยจูบนั้น พร้อมกับตอบตกลงด้วยความดีใจ

“เป็นแฟนกันแล้วห้ามเลิกกันนะ” เจนพูดจบก็โถมตัวเข้าหาขุนเขาจนล้มลงไปนอนทับกันบนโซฟา ทั้งสองยังคงจูบขุนเขา นานจนขุนเขาต้องขอให้เจนหยุด เพราะเขาต้องไปคุยกับหมอรามเรื่องขอเข้าร่วมทีมวิจัย

หมอรามเห็นผลแล็บที่ตรวจพบสารไคโรเนียมในศพผู้เสียชีวิต หมอรามจึงตกลงยอมให้ขุนเขาเข้าร่วมทีมงานวิจัย เพื่อให้ขุนเขาสืบหาหลักฐานเกี่ยวกับสารไคโรเนียม พร้อมกับขจัดอคติที่เคยมีต่อขุนเขาในอดีตออกไปจนหมดสิ้น

การเข้าร่วมทีมวิจัยของขุนเขาสร้างความไม่พอใจให้ธีธัชเป็นอย่างมาก ถึงขั้นยอมแตกหักกับหมอราม โดยการบอกเลิกสัญญาทั้งหมดที่มีกับหมอราม ทันใดนั้น รดากรก็เข้ามาแทรกแซง โดยหักหน้าธีธัชและยอมให้ขุนเขาเข้าร่วมทีมวิจัยอย่างไม่มีเงื่อนไข

ระหว่างนั้น หมอรามได้เปิดจดหมายที่มินเจอในห้องเก็บเอกสารขึ้นมาอ่าน เนื้อหาในจดหมายระบุว่าโครงการวิจัยยาต้านมะเร็งโดยใช้สารไคโรเนียมมีความผิดพลาดมากมาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ในจดหมายยังระบุชัดเจนให้ยุติโครงการนี้ทันที ท้ายจดหมายลงชื่อแม่ของขุนเขาที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อน

หมอรามเอาจดหมายไปให้รดากรดู และขอยุติการวิจัยเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งขัดกับความต้องการของรดากร

วันนั้น เจนมารับขุนเขาที่ RDK ทั้งสองกะหนุงกะหนิงกันบนรถ ก่อนที่ขุนเขาจะโน้มตัวจากเบาะนั่งข้างคนขับไปหอมแก้มเจน จังหวะนั้น มินเดินมาโป๊ะกับภาพบาดตาบาดใจเข้าพอดี ภาพที่ทำเอาความฝันและความหวังที่ผ่านมาตลอดสิบปีพังทลายไปในพริบตา ความรักพังทลาย หัวใจเพียงดวงเดียวแหลกสลาย

EP.10 ไม่อาจเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นคนรัก

เจนพาขุนเขาไปเปิดตัวกับเพื่อน ๆ ในฐานะแฟน เมื่อเห็นว่าเป็นขุนเขา หมอระบาดสุดฮอตขวัญใจประชาชน ทุกคนก็ต่างพากันดีใจกันยกใหญ่

ท่ามกลางความสุขของทั้งสอง แต่มินกับยืนเสียใจร้องไห้อยู่ที่หน้าบ้านขุนเขา มันเป็นความรู้สึกเสียใจที่ความหวังตลอดสิบปีพังทลายลงไปต่อหน้าต่อตา ภาพที่เห็นเมื่อตอนเย็น ภาพที่ขุนเขาโน้มตัวไปหอมแก้มเจนบนรถยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ภาพที่มินไม่สามารถลบมันออกไปจากความคิดได้เลย มินโทร. ไปตามขุนเขาที่อยู่ในงานเปิดตัว

เจนเห็นขุนเขามีสีหน้าเป็นกังวล จึงบอกให้ขุนเขากลับบ้านไปหามินก่อน … เมื่อมาถึงบ้าน มินที่ใบหน้านองไปด้วยน้ำตาจึงตวาดใส่ขุนเขาด้วยความเสียใจ “ทำไมเราถึงเป็นผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ทำไมขุนถึงรักเราไม่ได้ ทำไมขุนทำกับเราแบบนี้”

ขุนเขาได้แต่ยืนนิ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปโอบกอดมิน “เรารักมินนะ แต่เรารักมินแบบเพื่อน” ขุนเขาได้แต่ขอโทษที่รู้สึกแบบที่มินต้องการไม่ได้ และตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่ามินจะเสียใจ

มินได้แต่เดินออกจากบ้านขุนเขาไปอย่างเงียบ ๆ ทั้งน้ำตา น้ำตาที่เสียไปกับความเจ็บปวด เจ็บปวดที่ความรักตลอดสิบปีที่ผ่านมามีความหมายเพียงคำว่าเพื่อนเท่านั้น

เมื่อมาถึงคอนโด มินได้แต่นั่งจ้ำเบ้าหลังพิงเคาน์เตอร์ร้องไห้อยู่เพียงลำพัง ข้าง ๆ ตัวมีขวดไวน์วางอยู่กับแก้วไวน์ที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ระหว่างนั้นธีธัชโทร. หามิน แต่ไม่ว่าโทร. กี่สายมินก็ไม่รับ ธีธัชจึงรีบขับรถมาหามินด้วยความเป็นห่วง

ธีธัชมาปลอบประโลมใจในยามที่มินอ่อนแอ “มินไม่ต้องไปสนใจคนที่ไม่รักมินอีกแล้ว เพราะเรารักมิน” มินเคลิบเคลิ้มกับคำพูดของธีธัช มินโน้มตัวเข้าไปจูบธีธัช แล้วทั้งสองก็ได้สัมผัสลึกซึ้งและเป็นของกันและกันในคืนนั้น

รุ่งเช้า มินตื่นขึ้นมาพร้อมกับคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มินขอให้ธีธัชจบเรื่องเมื่อคืนเพียงแค่นั้น เพราะมันเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ธีธัชเก็บความโกรธเอาไว้ ความโกรธที่ถูกมินปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

มินตัดสินใจเดินหน้าเปิดศึกกับเจนเต็มตัว แต่ดูเหมือนเจนจะไม่แคร์เลยสักนิด

ด้านธีธัช เมื่อเห็นมินยังใกล้ชิดอยู่กับขุนเขาก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาขู่มินไม่ให้ยุ่งกับขุนเขาอีก ไม่เช่นนั้นเขาจะบอกขุนเขาว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

ในขณะที่ขุนเขาเริ่มสืบหาข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวกับสารไคโรเนียมทันที โดยขุนเขาได้เข้าไปเก็บตัวอย่างขยะอันตรายเพื่อนำไปตรวจ

ส่วนหมอรามก็ทำงานอยู่ที่ RDK จนดึก เขาสังเกตเห็นพนักงานทำความสะอาดดูมีพิรุธจึงแอบเดินตามไป จนได้พบความจริงที่ว่า มีห้องลับอยู่ชั้นใต้ดิน แต่ระหว่างหมอรามจะเดินออกมา ชายปริศนาก็ใช้เข็มฉีดยาทิ่มเข้าที่ต้นคอจนหมอรามสลบไป

EP.11 การสูญเสียที่เจ็บปวดที่สุด

ก่อนหมอรามจะถูกชายปริศนาทิ่มด้วยเข็มฉีดยา หมอรามได้โทร. ตามให้ขุนเขามาที่ RDK ขุนเขาจึงยืมรถเจนขับไปหาหมอรามทันที

ขณะที่ร่างหมอรามถูกใส่ในถุงซิปดำเพื่อนำไปเผาทำลาย หมอรามได้สติและลุกขึ้นเดินเซไปเซมามุ่งออกไปถนนด้านหน้าศูนย์วิจัย ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ขุนเขาขับรถมาพอดี หมอรามออกมาตัดหน้ารถ ขุนเขาเหยียบเบรกสุดแรง ก่อนที่หมอรามจะล้มพับลงไปหน้ารถ ขุนเขารีบโทร. เรียกรถพยาบาลทันที หมอรามพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะสิ้นสติไป “ไปที่ห้องใต้ดินลับ มีคนต้องตายอีกมาก”

เจนได้รับแจ้งข่าวจึงรีบตามมาที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ เมื่อมาถึงเจนแทบช็อก หมอรามเสียชีวิตแล้ว !

ขุนเขาได้แต่ขอโทษเจน เขาไม่แน่ใจว่าเขาขับรถชนหมอราม หรือหมอรามสลบล้มลงไปเอง เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ดูเหมือนคำขอโทษของขุนเขาจะเทียบไม่ได้เลยกับการที่เธอสูญเสียพ่อไป เจนตวาดลั่นใส่ขุนเขา “ไหนคุณบอกว่าจะดูแลพ่อฉันอย่างดีไง แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้”

ขุนเขาเข้าสวมกอดเจนพร้อมกับกล่าวคำขอโทษ “ไป บอกว่าให้ออกไป” เจนตวาดลั่นไล่ให้ขุนเขาไปไกล ๆ ซะ น้ำตาของลูกสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อไหลออกมาไม่หยุด พ่อที่จากไปไม่มีวันกลับ

คืนนั้นทั้งคืนขุนเขาได้แต่คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่คิดยังไงก็คิดไม่ตกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ … มินรู้ข่าวก็รีบไปหาขุนเขาทันทีด้วยความเป็นห่วง หลังจากฟังเรื่องห้องลับ มินจึงเสนอตัวเป็นคนเข้าไปหาห้องลับนั้นด้วยตัวเอง

การเสียชีวิตของหมอราม ทำให้ธีธัชเสนอตัวขึ้นมาทำหน้าที่แทน ซึ่งทำให้นพดนัยไม่พอใจ เพราะเขาต้องการให้ยุติโครงการนี้

ระหว่างที่เจนกำลังจมอยู่กับความเศร้า เธอก็ได้รับแจ้งจากตำรวจให้ไปรับผลการชันสูตรพลิกศพหมอราม ซึ่งผลการชันสูตรระบุว่า “ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการได้รับสารมอร์ฟีนเข้าสู่ร่างกายเกินขนาด” และที่สำคัญคือไม่มีร่องรอยการถูกรถชนแต่อย่างใด

เมื่อความจริงปรากฏ เจนจึงรีบไปหาขุนเขาทันที เธอต้องการรู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายพ่อ แต่ที่แน่ ๆ คนคนนั้นต้องอยู่ใน RDK อย่างแน่นอน ขุนเขาสัญญาว่าจะจับตัวคนร้ายให้ได้

คืนนั้น ขุนเขากับเจนจึงรีบพากันแอบเข้าไปสืบในศูนย์วิจัย ทั้งสองบังเอิญไปเจอนพดนัยเดินมากับลูกน้อง เจนเห็นรอยสักก็จำได้ทันทีว่า ลูกน้องของนพดนัยคนนี้เป็นคนที่เคยทำร้ายเธอ ทั้งสองยังแอบได้ยินนพดนัยสั่งให้ลูกน้องกำจัดทุกคนในทีมหมอราม

EP.12 คนเป็นพูดได้แต่คนตายพูดไม่ได้

ขุนเขาถ่ายคลิปหลักฐานตอนที่นพดนัยสั่งฆ่าคนในทีมวิจัยไปให้กับตำรวจ นพดนัยเห็นท่าไม่ดีจึงคว้าปืนออกมาขู่และจับมินเป็นตัวประกัน ก่อนจะบังคับให้เธอขับรถไปที่บ้านธเนศ ซึ่งเป็นพ่อของมิน … นพดนัยต้องการให้ธเนศช่วยพาเขาหนีออกนอกประเทศ

มินแปลกใจที่พ่อของเธอเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ นพดนัยจึงเฉลยความจริงให้มินได้รู้ว่า คนที่เผาจีเอ็มพีเมื่อยี่สิบปีก่อนก็คือพ่อของมิน … ณ จุดนี้ ธเนศไม่มีทางเลือก เขาตกลงจะช่วยนพดนัยหนีออกนอกประเทศ

มินในตอนนี้เสียใจยิ่งกว่าสิ่งใด พ่อของเธอทำให้คนตายมากมายจากเหตุการณ์ไฟไหม้จีเอ็มพีเมื่อยี่สิบปีก่อน แล้วจังหวะนรกก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อธีธัชมาหามินที่บ้านและได้ยินทุกอย่าง ธีธัชโกรธจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ปรี่เข้าไปตะบันหน้าพ่อของมินหมัดแล้วหมัดเล่า มันนั่นเองที่เป็นคนทำให้พ่อแม่ของเขาต้องตาย

ด้านขุนเขาสงสัยว่าจะต้องมีคนที่อยู่เหนือนพดนัยคอยสั่งการอีกที เจนคิดว่ารดากรเนี่ยแหละเป็นคนที่เธอสงสัยมากที่สุด เจนจึงเข้าไปขอสัมภาษณ์รดากรในฐานะนักข่าว เจนจี้ถามรดากรเรื่องนพดนัยแต่ก็ไม่ได้ความอะไร

อย่างไรก็ตาม ผลจากการสัมภาษณ์รดากรส่งผลให้นพดนัยคลั่งที่รดากรโบ้ยความผิดทั้งหมดมาให้เขา คืนนั้น นพดนัยจึงไปหารดากรที่บ้านเพื่อหวังสังหารให้ตายไปซะ “อีชั่ว มึงใช้กูเป็นมือเป็นไม้ทำชั่วแทนมึง ตอนนี้กลับโบ้ยความผิดให้กูคนเดียว”

“เปรี้ยง” เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ไม่ใช่เสียงจากปืนในมือนพดนัย แต่เป็นเสียงจากปืนในมือของธีธัช ธีธัชลั่นไกสังหารไอ้นพดนัย คนที่ฆ่าพ่อแม่เขา นพดนัยล้มลงนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่กับพื้น

หลังลั่นไกสังหาร ธีธัชตกใจแทบสิ้นสติ เขาเพิ่งฆ่าคนตาย ธีธัชพยายามรวบรวมสติ เขาตั้งใจจะโทร. แจ้งตำรวจ แต่รดากรห้ามเอาไว้ จากนั้นรดากรก็โทร. หาคนคนหนึ่ง เรียกมาให้ทำหน้าที่เก็บกวาด

คนคนนั้นคือธเนศ ธีธัชไม่มีทางเลือกแม้จะโกรธแค้นแค่ไหนก็ตาม เรื่องราวมันบานปลายมาจนถึงจุดที่ธีธัชไม่มีทางเลือก … ธีธัชกับธเนศช่วยกันเอาศพนพดนัยไปทิ้งน้ำ เขาพาตัวเองมาจุดนี้ได้ยังไง ธีธัชได้แต่คิดวกวนอยู่ในหัว

รุ่งขึ้น รดากรประกาศลาออกต่อที่ประชุมกรรมการบริษัท และให้ธีธัชขึ้นรับตำแหน่งประธาน RDK แทน โดยอ้างว่าเพื่อรับผิดชอบในส่ิงที่นพดนัยทำลงไป

เวลาเดียวกัน เจนกับขุนเขามาที่ RDK เพื่อมาเก็บของหมอราม และได้เจอจดหมายที่ลงชื่อแม่ของขุนเขาเขียนถึงหัวหน้าโครงการต่อต้านมะเร็ง ขุนเขาอ่านจดหมายแล้วรู้สึกแปลกใจ เพราะเป็นจดหมายที่ดูใหม่มาก เจนจึงตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจดหมายนี้เป็นของจริง แสดงว่าแม่ของขุนเขาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ !?

EP.13 จดหมายลับ

ขุนเขานำจดหมายมาเทียบกับลายมือแม่บนการ์ดอวยพรที่เขียนให้เมื่อตอนเขายังเด็ก ลายมือเหมือนกันเป๊ะ นั่นแสดงว่าแม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ ขุนเขาโผเข้าไปกอดเจนด้วยความดีใจ

รดากรเคยเห็นจดหมายตั้งแต่ตอนที่หมอรามยังมีชีวิต แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว รดากรรู้ในทันทีว่าจดหมายได้ตกไปอยู่ในมือของเจน เธอจึงลงไปห้องลับชั้นใต้ดิน ก่อนจะตวาดเสียงดังลั่นด้วยความโกรธใส่หน้าหมอครองขวัญ ก่อนจะง้างมือตบเข้าไปที่หน้าอย่างแรงจนเลือดกบปาก ข้อหาที่เขียนจดหมายถึงคนภายนอก พร้อมกับสั่งให้รีบทำวิจัยยาต้านมะเร็งให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นจะสั่งฆ่าขุนเขาทันที

จากนั้น รดากรก็สั่งธีธัชให้ไปเอาจดหมายที่อยู่กับเจนคืนมา แต่ก็คว้าน้ำเหลว

รดากรจึงคิดแผนการใหม่ เธอพาธีธัชไปห้องลับชั้นใต้ดินที่อยู่ภายใต้อาคารด้านหลังศูนย์วิจัย ธีธัชตกใจมากที่ได้รู้ว่า รดากรแอบใช้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเป็นหนูทดลองยามาตลอดยี่สิบปี

ธีธัชเจอเรื่องช็อกซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวใจอันบอบช้ำของเขาต้องการที่พึ่ง ธีธัชไปหามินที่คอนโด ที่เดียวที่เขารู้สึกว่าเป็นเซฟโซน เขานั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ มินก่อนจะค่อย ๆ เอียงคอไปพิงไหล่มิน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “ขอผมอยู่ที่นี่สักแป๊บนะ”

ขุนเขาคิดว่า ความลับทุกอย่างจะคลี่คลายถ้ารู้ว่าห้องลับชั้นใต้ดินอยู่ที่ไหน และบางทีแม่ของเขาอาจจะอยู่ที่นั่น

ขุนเขาเดินตามนักวิจัยคนหนึ่งเข้าไปห้องทิ้งขยะสารพิษ แต่นักวิจัยคนนั้นกลับหายตัวไป เขาจึงสำรวจสิ่งต่าง ๆ ภายในห้องจนพบสิ่งผิดปกติหลายอย่าง โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่หันไปด้านกำแพง แทนที่จะหันไปทางประตูทางเข้า … ขุนเขาจึงกลับมาวางแผน โดยการแอบติดตั้งกล้องสอดแนม

ระหว่างนั้น เจนก็เขียนข่าวเรื่องจดหมายลับ และการตายที่เป็นปริศนาของหมอรามที่ศูนย์วิจัย ทำให้ข่าวกลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ส่งผลรุนแรงทำให้หุ้น RDK ถูกเทขายอย่างหนัก … รดากรโกรธจัด สั่งให้เลขาฯ เรียกให้เจนมาพบทันที

เจนไปพบรดากร ทั้งสองต่อปากต่อคำโต้เถียงกันอย่างรุนแรง รดากรยื่นข้อเสนอเป็นเช็คเปล่าแลกกับเจนต้องลบข่าวทั้งหมดทิ้ง แต่เจนปฏิเสธ เธอไม่สนใจเงินจำนวนมากมายมหาศาลที่รดากรใช้ฟาดหัวเธอ เจนจ้องตารดากรด้วยสายตาเย่อหยิ่ง ก่อนจะฉีกเช็คฉบับนั้นเป็นเสี่ยง ๆ แล้วโปรยมันทิ้งต่อหน้า

รดากรโกรธจัด จึงสั่งให้ธีธัชไปกำจัดเจนซะ ธีธัชรับปากโดยไม่มีทางเลือก !

EP.14 น้องสาวที่หายสาบสูญ

ธีธัชคลุมไอ้โม่งใส่ชุดดำแอบเข้าไปในบ้านเจน แต่ด้วยความเป็นมือสมัครเล่น เจนจึงรู้ตัวก่อน ทำให้ทั้งสองเกิดการต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน จังหวะนั้น ธีธัชเกิดเหลือบไปเห็นรูปหมอรามที่กำลังอุ้มเด็ก ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวเขาทันที “นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย !?”

ทันใดนั้น ขุนเขาก็มาถึงพอดีและเข้าช่วยเจนเอาไว้ ด้านธีธัชจึงรีบวิ่งหนีไปพร้อมกับรูปถ่ายใบนั้น

ธีธัชกลับมาบ้าน เขารีบเอารูปถ่ายที่ได้จากเจนมาเปรียบเทียบกับรูปน้องสาวของเขา ที่หายสาบสูญไปเมื่อยี่สิบปีก่อน เด็กหญิงตัวน้อยที่หมอรามอุ้มกับน้องสาวของเขาหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ … หรือว่าเจนจะเป็นน้องสาวของธีธัชจริง ๆ ?

เพื่อคลายความสงสัย ธีธัชจึงให้คนตามสืบอดีตของเจน ในที่สุดก็ได้เอกสารการเปลี่ยนชื่อนามสกุลของเจนในวัยเด็ก ซึ่งระบุชื่อเดิมเป็นชื่อน้องสาวของเขาจริง ๆ … เจนคือน้องสาวของธีธัช !

ธีธัชพยายามโทร. หาเจน หรือแม้แต่ไปหาที่ออฟฟิศ แต่เจนก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพบ ธีธัชจึงไปขอร้องมินให้นัดเจนมาเจอกับเขา แลกเปลี่ยนกับการเก็บเรื่องคืนนั้นเป็นความลับ

เจนเจอกับธีธัช และได้รับคำเตือนให้เลิกยุ่งกับเรื่องนี้ แถมธีธัชยังบอกด้วยว่าหมอรามไม่ใช่พ่อของเธอ ใช่ เจนไม่มีทางเชื่อคำพูดของธัธัช เพราะหมอรามคือพ่อของเธอ

ระหว่างนั้น ขุนเขาก็เจอทางเข้าห้องลับ เขาแต่งตัวเป็นพนักงานทำความสะอาดแฝงตัวเข้าไป สิ่งที่เห็นทำเอาขุนเขาตกตะลึง ภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งใกล้ตายนอนเรียงรายกันบนเตียงผู้ป่วย ขุนเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปหลักฐานเอาไว้ทั้งหมด

มีผู้ป่วยคนหนึ่งเกิดอาการชักเหมือนกำลังจะตาย ขุนเขาจึงเข้าไปทำ CRP เพื่อช่วยยื้อชีวิต แต่นักวิจัยคนหนึ่งเดินเข้ามาห้าม และไล่เขาให้ไปเก็บขยะแล้วออกไปซะ จังหวะนั้นขุนเขาก็เผลอทำโทรศัพท์หล่น

หมอครองขวัญเดินมาเจอโทรศัพท์ตกบนพื้น เธอจึงหยิบขึ้นมาเปิดดูภาพหน้าจอ เผยให้เห็นภาพของขุนเขา หมอครองขวัญจึงเก็บโทรศัพท์เอาไว้โดยไม่บอกใคร แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าโทรศัพท์ของขุนเขามาตกอยู่ในห้องลับนี้ได้ยังไง

ขุนเขาเอาเรื่องที่เห็นในห้องลับชั้นใต้ดินไปบอกกับ ผอ.กองระบาดวิทยา ให้ช่วยทำเรื่องสั่งปิดศูนย์วิจัย RDK ทันที ก่อนที่จะมีคนตายมากกว่านี้ เพราะมันคือศูนย์วิจัยเถื่อนที่ใช้มนุษย์เป็นหนูทดลองยา

เมื่อมั่นใจว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น ผอ.จึงประสานงานกับตำรวจเข้าตรวจค้นภายใน RDK โดยตั้งข้อหาฆาตกรรม ขุนเขาเป็นคนนำตำรวจบุกเข้าค้นในจุดที่เป็นห้องลับ ธีธัชทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่นับสิบเดินผ่านประตูลับลงบันไดไปสู่ชั้นใต้ดิน โดยมีขุนเขาเป็นคนเดินนำ ด้วยสีหน้าที่มั่นใจว่าวันนี้คือวันเผด็จศึก

EP.15 คว้าน้ำเหลว

เจ้าหน้าที่กองระบาดวิทยาและตำรวจจำนวนนับสิบบุกเข้าไปในห้องลับชั้นใต้ดิน โดยการนำของขุนเขา แต่ปรากฏว่าที่ที่เคยเป็นห้องวิจัยเถื่อน มีเตียงผู้ป่วย มีอุปกรณ์การแพทย์มากมาย เวลานี้กลับว่างเปล่า

ขุนเขาหัวร้อนจนฟิวส์ขาด ปรี่เข้าไปตะบันหน้าธีธัช จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปห้าม “พวกคุณทำลายหลักฐานก่อนที่ผมจะมาที่นี่” ขุนเขาตวาดลั่นใส่ธีธัช ขณะที่รดากรค่อย ๆ เดินเข้ามายิ้มเยาะใส่ขุนเขาด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ … ผอ.กองระบาดวิทยาได้แต่ก้มหน้าขอโทษรดากร

จริง ๆ แล้วก่อนที่เจ้าหน้าที่จะบุกเข้ามาตรวจค้น ลูกน้องของรดากรพบกล้องสอดแนมในห้องทิ้งขยะสารพิษ ทำให้เธอไหวตัวทัน เคลื่อนย้ายห้องวิจัยออกไปก่อน

ความผิดพลาดครั้งนี้ทำให้ขุนเขาเสียใจมาก ทุกคนต้องมาเดือดร้อนเพราะเขา ต้องมีผู้ป่วยที่ต้องทรมานจากการทดลองบ้า ๆ นี่อีกเท่าไร แถมยังไม่ได้เจอแม่อีก ขุนเขาทรุดลงไปนั่งก้มหน้าชันเข่าร้องไห้อยู่ตรงมุมห้องเพียงคนเดียว เจนพยายามเข้ามาปลอบและให้กำลังใจ

“ถ้าคุณทำหน้าเครียด ฉันจะจุ๊บคุณหนึ่งที” เจนก็จุ๊บขุนเขาไม่หยุดเลยทีนี้ … อยากเครียดแล้วมีคนจุ๊บแบบนี้บ้าง 🥰

หลังได้กำลังใจจากเจน ขุนเขาก็ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เขากางแผนที่ RDK ประชุมแผนกับเพื่อน ๆ ในการหาเบาะแสต่อไป ขุนเขาพบว่าบริเวณรอบ ๆ RDK มีบ้านของชาวบ้านอยู่โดยรอบ เขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นที่ที่หาเบาะแสได้

ต่อมา ธีธัชรู้ว่ารดากรจับหมอครองขวัญขังเอาไว้นานกว่ายี่สิบปี เพราะหมอครองขวัญเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยยาโรคมะเร็ง ธีธัชจึงสงสัยว่ารดากรยังปิดบังความลับเอาไว้อีกหลายอย่าง

ธีธัชไปดักเจอเจน เพื่อเตือนให้เธอเลิกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับ RDK เพราะกลัวว่าเจนจะไม่ปลอดภัย เจนไม่เชื่อจุดประสงค์ของธีธัช จึงด่ากลับไปเหมือนเคย ธีธัชจึงยื่นหลักฐานในซองสีน้ำตาลให้ “เธอแน่ใจเหรอว่าหมอรามคือพ่อของเธอ”

เจนกลับมาที่บ้านแล้วหยิบเอกสารในซองสีน้ำตาลมาเปิดดู เอกสารการเปลี่ยนชื่อนามสกุลตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก แสดงว่าหมอรามไม่ใช่พ่อแท้ ๆ เมื่อรู้ความจริง เจนถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

แม้เจนจะถูกเลี้ยงมาด้วยความรักจากหมอราม แต่เมื่อรู้ทีหลังว่าคนที่เธอเรียกว่าพ่อมาตลอดทั้งชีวิต ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้ … บางทีความจริงบางเรื่องไม่ควรรู้จะดีกว่านะ ว่ามั้ย ?

ขุนเขาเห็นเจนตกอยู่ในห้วงความเศร้าจึงเข้ามาปลอบ “ถึงอาจารย์รามจะไม่ใช่พ่อ แต่ก็รักเจนมากเลยนะ อย่าเสียใจไปเลยนะเจน” คืนนั้น ขุนเขาจึงอาสานอนเฝ้ากระทั่งเจนหลับไปด้วยรอยยิ้มและอารมณ์ที่ผ่อนคลาย

EP.16 พี่ชายที่แสนเลว

เจนไปหาธีธัชที่ RDK เพื่อตามหาความจริง ธีธัชจึงรูปถ่ายครอบครัวให้เจนดู แล้วบอกความจริงว่า เจนคือน้องสาวแท้ ๆ ของเขา

เจนรับกับความจริงที่เพิ่งรู้มาไม่ได้ ความจริงที่เธอไม่อยากเชื่อ ความจริงที่ทำให้เธอหัวใจสลายซ้ำแล้วซ้ำอีก … หมอรามไม่ใช่พ่อ ส่วนพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดก็ตายไปแล้ว และยังมีพี่ชายเลว ๆ อย่างธีธัช

“ฉันต้องทำยังไง ?” เจนได้แต่ถามตัวเองด้วยประโยคเดิมซ้ำ ๆ เมื่อสถานการณ์บีบให้ต้องเลือกระหว่างความถูกต้อง กับธีธัช ที่เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่

ขุนเขาและทีมหมอระบาดลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ RDK จนไปพบกับชิ้นกระเป๋าเดินทางต้องสงสัยทิ้งอยู่ในแหล่งน้ำ เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นชิ้นส่วนศพมนุษย์ ต่อมาได้รับการยืนยันว่าเป็นศพนพดนัย ขุนเขาสันนิษฐานทันทีว่า ฆาตกรคือธีธัช

เจนเองก็คิดไม่ต่างไปจากขุนเขา เธอคิดว่าฆาตกรที่ฆ่านพดนัย คือ ธีธัช

คืนนั้น เจนจึงโทร. นัดธีธัชให้มาเจอกันที่ร้านกาแฟสโลว์บาร์ เพื่อถามเรื่องการตายของนพดนัย แต่ธีธัชยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนฆ่า ถึงธีธัชจะยืนยันอย่างนั้น แต่เจนดูไม่ค่อยเชื่อ เธอแนะนำให้เขาเข้ามอบตัว ถ้าไม่อย่างนั้น เธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาเข้าคุก

ขุนเขาเห็นเจนไม่อยู่บ้าน จึงรีบขับรถตามไปหาด้วยความเป็นห่วง ขุนเขาแอบมองเจนอยู่กับธีธัชด้วยความรู้สึกแปลก ๆ แต่ที่แน่ ๆ เจนต้องมีอะไรปิดบังเขา

หมอครองขวัญ หนีออกมาจากศูนย์วิจัย โดยแอบซ่อนในรถตู้ขนส่ง ระหว่างทางรถเกิดยางแตก คนขับจึงจอดรถเพื่อเปลี่ยนยาง ทำให้หมอครองขวัญต้องวิ่งหนีเข้าไปในป่า ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ขุนเขากับเจนมาเดินสำรวจหาทางเข้าห้องลับพอดี จึงเข้ามาช่วยหมอครองขวัญเอาไว้ได้ทัน

และกลายเป็นโมเมนต์แรกที่แม่ลูกที่จากกันไปนานกว่ายี่สิบปี ได้เจอกันอีกครั้ง … หมอครองขวัญมองหน้าขุนเขาตาไม่กะพริบ ไม่ว่าผ่านไปกี่ปี ยังไงแม่ก็จำลูกได้ ขุนเขาช็อก เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้คือแม่ของเขา ทั้งสองกอดกันทั้งน้ำตา

แต่เวลาแห่งความสุขมันสั้นเหลือเกิน ธีธัชตามมาจนเจอ ธีธัชพร้อมปืนในมือเล็งไปที่ขุนเขา เปรี้ยง ! เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด กระสุนถากแขนขุนเขา เจนรู้ดีว่าธีธัชไม่กล้ายิงใส่เธอแน่ ๆ จึงเอาตัวเอาขวางเป็นเกราะกำบังให้ขุนเขา

เมื่อเห็นเจนเข้ามาขวาง ธีธัชทำท่าจะเหนี่ยวไกแต่ก็ไม่กล้า จนเขาตัดสินใจตวาดลั่นออกไป “อย่านึกว่าเป็นน้องสาวแล้วกูนะไม่กล้ายิงนะ !”

ขุนเขาช็อกกับคำพูดของธีธัช เจนคือน้องสาวของธีธัชอย่างงั้นเหรอ ?

EP.17 ความลับในห้องลับ

ก่อนธีธัชจะลั่นไกปล่อยกระสุนใส่ขุนเขา หมอครองขวัญก็ตะโกนขอร้องให้ธีธัชหยุด เธอจะยอมกลับไปโดยไม่มีเงื่อนไข

ขุนเขาถามเจนเรื่องที่ธีธัชบอกว่าเธอเป็นน้องสาว เจนจึงยอมสารภาพว่า ธีธัชคือพี่ชายของเธอจริง ๆ ทำให้ขุนเขาโกรธมาก ที่เจนปิดบังเรื่องนี้ ขุนเขาโวยวายใส่เจนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในที่สุด เจนประกาศว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก “เพราะคุณเป็นแบบนี้ไง ฉันถึงไม่บอกคุณ จากนี้ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของคุณอีก”

เวลาเดียวกัน มินที่รู้สึกผิดกับการกระทำของพ่อ ที่เป็นคนวางเพลิงเผาศูนย์วิจัย GMP เมื่อยี่สิบปีก่อน เธอจึงมาขอรดากรทำงานวิจัยยาต้านมะเร็งต่อจากหมอราม แลกกับการที่รดากรจะยอมให้พ่อของเธอเลิกทำงานที่นี่

จังหวะนั้น ธีธัชพาหมอครองขวัญกลับมาพอดี รดากรจึงโกรธที่หมอครองขวัญเอาแต่สร้างเรื่องวุ่นวาย จึงสั่งลูกน้องให้พาตัวไปฆ่าทิ้งซะ มินจึงขอร้องให้ไว้ชีวิตหมอครองขวัญ โดยอ้างว่า เพื่อให้มาช่วยเธอ จะได้ทำงานสำเร็จได้เร็วขึ้น

ต่อมา ธีธัชกับมินบังเอิญไปเห็นความลับของรดากร ที่แอบเข้าไปในห้องลับอีกห้อง เมื่อเข้าไปทั้งสองถึงกับผงะ เมื่อเห็นร่างเด็กชายวัยประมาณสิบขวบ นอนอยู่ในตู้แช่แข็ง

รดากรตกใจเมื่อเห็นธีธัชกับมินเข้ามา เธอจึงไล่มินให้ออกไป แล้วเล่าความจริงให้ธีธัชฟัง เด็กที่นอนอยู่ในตู้แช่แข็งคือลูกชายแท้ ๆ ของเธอ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งสมอง เธอตั้งใจเก็บรักษาร่างเอาไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อรอวันที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าพอที่จะรักษาลูกเธอให้หายได้

รดากรอ้างว่า ที่ต้องปกปิดเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ เพราะเธอกลัวว่าธีธัชจะไม่ยอมรับลูกของเธอเป็นน้องชาย เมื่อได้ยินธีธัชยอมรับเรื่องนี้ได้ รดากรจึงยิ้มออก

ขุนเขาวางแผนเข้าไปสืบหาข้อมูลที่มูลนิธิแสงส่องใจของรดากร ทำให้รู้ว่า มูลนิธิเปิดให้ญาติผู้ป่วยมาลงทะเบียนรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งฟรี และยังได้รับเงิน แลกกับการเซ็นสัญญาว่าจะไม่เอาผิดทุกกรณีถ้าผู้ป่วยเสียชีวิต จากนั้น ผู้ป่วยจะถูกนำตัวไปทำการทดลองเถื่อนที่ชั้นใต้ดิน

ที่ห้องวิจัยลับ หมอครองขวัญกับมินช่วยกันทำงานวิจัยจนคืบหน้า ยาสามารถหยุดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้แล้ว !?

รดากรเริ่มสังเกตเห็นความสนิทสนมจนผิดสังเกต ระหว่างธีธัชกับเจน รดากรจึงสั่งให้ลูกน้องไปจัดการกับเจนซะ

คืนนั้น เจนถูกชายชุดดำขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาดักรอทำร้ายที่หน้าบ้าน โชคดีที่ขุนเขาตามมาช่วยเอาไว้ได้ทัน … และคืนนั้น ทั้งสองก็ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง โดยทิ้งเรื่องที่รู้สึกไม่ดีต่อกันเอาไว้เบื้องหลัง

EP.18 เริ่มต้นทำสิ่งที่ถูกต้อง

เมื่อรดากรรู้ว่าการวิจัยยาต้านมะเร็งใกล้จะสำเร็จ เธอจึงให้ทนายทำพินัยกรรมใหม่ … ธีธัชแอบมาเห็นเข้า จึงสงสัยว่ารดากรเขียนอะไรเอาไว้ในพินัยกรรม

ธีธัชไปดักเจอกับทนายความ เพื่อถามข้อความที่เขียนเอาไว้ในพินัยกรรม ทนายก็อ้างเรื่องจรรยาบรรณ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ธีธัชจึงงัดท่าไม้ตาย เสนอเงินให้สองล้านบาท เขาจึงได้รู้ว่า หญิงที่เขาเรียกแม่มาตลอดชีวิต ได้แก้พินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้เป็นของ ‘แทน’ ลูกชายที่กำลังนอนเป็นซอมบี้อยู่ในตู้แช่แข็ง โดยที่ตัวเขาไม่ได้อะไรเลย

ธีธัชเสียใจมาก เพราะตลอดเวลาเขารักรดากรเหมือนแม่แท้ ๆ และยอมทำตามคำสั่งทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะชั่วช้าแค่ไหน เขาก็ทำตามทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับโดนตัดหางปล่อยวัด

มินเห็นธีธัชนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว จึงเดินเข้ามาปลอบ เธอบอกกับเขาว่า “ธียังมีโอกาสที่จะเริ่มใหม่นะ แค่ต้องทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง”

ระหว่างนั้น ขุนเขาแฝงตัวเป็นคนขับรถเข้าไปในห้องลับ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของธีธัช ขุนเขาโดนจับได้ซะแล้ว แต่ …

แต่ธีธัชจึงตัดสินใจย้ายขั้วเปลี่ยนข้าง หันมาร่วมมือกับขุนเขา เพื่อช่วยหมอครองขวัญกับมินออกจากห้องวิจัยลับ

ขุนเขาพาแม่และมินวิ่งหนีออกมา แต่หนีไปได้ไม่ไกล กลุ่มชายชุดดำ ลูกน้องของรดากรก็ตามมาทัน ขุนเขาพยายามต่อสู้ ในขณะที่หมอครองขวัญถูกชายชุดดำใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง !

ขุนเขาต่อสู้อย่างสุดแรง จนกลุ่มชายชุดดำหนีไป แต่มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เพราะเวลานี้เขาได้สูญเสียคนที่สำคัญที่สุดไปต่อหน้าต่อตา แม่

ที่ห้องลับ รดากรได้รับแจ้งว่า ข้อมูลงานวิจัยถูกลบไปจนหมด มันเป็นไปได้ยังไง ? ในเมื่อห้องนี้มีแค่เพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้ ตัวเธอกับธีธัช … หรือว่าธีธัชจะหักหลัง !?

รดากรเผชิญหน้ากับธีธัช ณ จุดนี้ไม่จำเป็นต้องปั้นหน้ากันอีกต่อไป ธีธัชยอมรับว่าเขาเป็นคนลบข้อมูลงานวิจัย และเป็นคนช่วยขุนเขาพาแม่กับมินหนีเอง

รดากรสั่งให้ลูกน้องนำตัวร่างที่ไร้สติของเจนเข้ามา ในเมื่อธีธัชหักหลัง ก็จะต้องได้รับบทลงโทษอันสาสม “ถ้าแกไม่อยากให้น้องสาวแก [เจน] ตาย ก็บอกมาว่าไอ้ขุนเขาพาแม่มันไปไว้ที่ไหน ?”

EP.19 ความสำเร็จที่ไม่สำเร็จ

รดากรจับตัวเจนกับธีธัชเป็นตัวประกัน ทำให้ขุนเขากับมินต้องยอมกลับมาที่ห้องลับ … มินตกลงจะทำวิจัยต่อให้เสร็จ โดยต้องให้ขุนเขาเป็นผู้ช่วย แลกกับความปลอดภัยของทุกคน

ใช้เวลาไม่นาน มินกับขุนเขาก็สามารถวิจัยยาต้านมะเร็งจนสำเร็จ

รดากรตื่นเต้นที่จะได้พบลูกชายอีกครั้ง แต่ขุนเขากลับยื่นเข็มฉีดยา 3 เข็มให้รดากรเลือก โดยหนึ่งในสามเป็นยาจริง ส่วนอีกสองเข็มเป็นมอร์ฟีน “ชีวิตลูกของคุณอยู่ในกำมือผมแล้ว ปล่อยพวกเขาไปซะ”

โดนไม้นี้เข้าไป รดากรไม่มีทางเลือก จึงสั่งให้ลูกน้องปล่อยตัวเจน ธีธัช และมิน

ทั้งสามขับรถออกมา แต่ระหว่างทางก็ถูกธเนศ พ่อของมินเอารถตู้มาจอดขวางดักเอาไว้ ธเนศสั่งให้ลูกน้องไปจับตัวมินเอาไว้ จากนั้นก็เล็งปากกระบอกปืนไปที่ธีธัช ก่อนจะลั่นไกส่งกระสุนออกไป ธีธัชทรุดลงไปกองกับพื้น เลือดไหลออกมาไม่หยุด

มินเห็นพ่อทำเรื่องบ้า ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงพยายามพูดเตือนสติให้พ่อหยุด คำพูดของลูกเริ่มทำให้ธเนศสับสน ธเนศจึงหันปืนไปทางชายชุดดำ แต่ไม่ทันที่จะได้ลั่นไก ชายชุดดำก็ส่งกระสุนเข้าใส่ร่างธเนศจนสิ้นใจภายในนัดเดียว

ชาวชุดดำหันปากกระบอกปืนไปที่มิน ธีธัชเห็นจึงรีบวิ่งเข้าไปกอดมินเอาไว้ เพื่อให้ตัวเขาเป็นโล่กำบัง ปัง ! ธีธัชแน่นิ่งทันที จังหวะนั้น เจนก็หยิบปืนลั่นกระสุนใส่ร่างชายชุดดำ

อย่างไรก็ตาม ธีธัชถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรับการผ่าตัดอย่างรวดเร็ว มินนั่งรออยู่ห้องผ่าตัดด้วยความหวัง

ที่ศูนย์วิจัยลับ รดากรก็พาขุนเขาเข้ามาที่ห้องตู้แช่แข็ง เพื่อฉีดยาให้ลูกชายของเธอ ขุนเขาลงมือฉีดยาให้ ‘แทน’ แล้วเรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น แทนกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ทว่า แทนฟื้นขึ้นเพียงแวบเดียว ชีพจรก็หยุดทำงาน ขุนเขาพยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่อาจช่วยยื้อชีวิตแทนเอาไว้ได้ เนื่องจากร่างกายถูกแช่เย็นเอาไว้นานถึง 23 ปี ซึ่งนานเกินเกินไป ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว

รดากรสติแตก หลังจากความหวังที่ตั้งตารอมานานกว่ายี่สิบปีพังทลาย เธอเข้าไปกดปุ่มอุปกรณ์ในห้องมั่วไปหมด จนเครื่องเกิดช็อตเป็นประกายไฟออกมา เพียงวูบเดียว ไฟก็ลุกลามไปทั้งศูนย์วิจัยลับ ไม่นานก็ลามไปทั้งตึก แต่รดากรยังคงกอดร่างไร้วิญญาณของลูกชายเอาไว้อย่างนั้น เธอร้องไห้ออกมาไม่หยุด ปากก็เอาแต่พูดว่า “เอาลูกฉันคืนมา”

ขุนเขารีบมาเตือนสติรดากร ให้รีบหนีออกไปก่อนที่ไฟจะลามจนหนีออกไปไม่ได้ สุดท้ายขุนเขาต้องลากตัวเธอออกมา

EP.20 ชีเซย์เยส (ตอนจบ)

ขุนเขาช่วยรดากร พร้อมกับผู้ป่วยที่ติดอยู่ด้านในห้องลับอีกหลายคนออกมาได้ ก่อนที่ศูนย์วิจัยจะเกิดระเบิด

ในขณะที่มินได้รับข่าวดีจากแพทย์ผู้ผ่าตัด ธีธัชรอดชีวิต แต่ต้องทำกายภาพบำบัด เพื่อให้กลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง

ด้านรดากรถูกตำรวจควบคุมตัวไปสอบปากคำ แต่เธอไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ในทางตรงกันข้าม ธีธัชกลับยอมรับผิดว่า ตัวเองเป็นคนทำทุกข้อกล่าวหา

ทีนี้ ขุนเขาเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ที่ธีธัชจะยอมรับความผิดเอาไว้เอง เพราะขุนเขาเชื่อว่าธีธัชถูกรดากรหลอกใช้ ดังนั้น ขุนเขาจึงไปขอเข้าเยี่ยมรดากร และกล่อมให้รดากรรู้ว่า ธีธัชรักเธอเหมือนแม่แท้ ๆ ถึงได้ยอมรับความผิดเอาไว้เอง

รดากรตัดสินใจเรียกทนาย และยอมสารภาพรับผิดทุกข้อกล่าวหา ทำให้ธีธัชได้รับโทษในข้อหากักขักหน่วงเหนี่ยวผู้ป่วย เพียงข้อหาเดียว ซึ่งต่อมา เขาถูกตัดสินใจจำคุกเป็นเวลา 2 ปี

ผ่านไปสองปี ขุนเขา เจน และมิน ไปรับธีธัชในวันปล่อยตัว สิ่งแรกที่ธีธัชขอคือให้ทุกคนพาเขาไปหารดากร

ธีธัชกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อได้เห็นหน้าหญิงที่เขาเรียกว่าแม่อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะก้มลงไปกราบ รดากรเห็นธีธัชก้มลงกราบก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เช่นกัน เธอลงไปกอดธีธัชแล้วกล่าวแต่คำขอโทษออกมาไม่หยุด

ด้านเจนกับมินเมื่อเห็นรดากรสำนึกผิด ก็อโหสิกรรมให้กับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด

ไม่กี่วันต่อมา กรมควบคุมโรค นำโดยขุนเขาก็ออกแถลงข่าว สาเหตุการเสียชีวิตของชาวบ้านที่ผ่านมาทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมาจากสารไคโรเนียม

หลังจากนั้น เรื่องราวความรักของขุนเขากับเจนก็ดำเนินไป แต่สิ่งที่เจนเฝ้ารอแล้วรอเล่าก็ไม่เกิดขึ้นสักที เจนรอให้ขุนเขาขอแต่งงาน อีตาขุนเขานี่ก็แกล้งเก่ง ทำเป็นไม่สนใจ วัน ๆ เอาแต่ทำงาน

กระทั่งวันหนึ่ง ขุนเขาเชิญเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้กันที่บ้าน เจนที่อึดอัดจึงระบายกับขวดแอลกอฮอล์ขนเมามาย เมื่อเมามายก็เริ่มรั่ว เจนจึงโวยวายออกมาเป็นมุกแบบนี้ “โดนัทยังมีรู แต่กรูไม่มีใคร … โอ๊ย แฟนไม่รักโว้ย”

ขุนเขาเห็นเจนเริ่มอาการหนัก แต่ก็ยังแกล้งไม่หยุด เขาแกล้งรับโทรศัพท์ และรีบออกไปทำงานด่วน เจนตอนนี้ทั้งเมาทั้งนอย เพื่อน ๆ ก็พยายามเตือนว่า “อย่าเยอะ” ก่อนจะค่อย ๆ กลับไปทีละคน ๆ จนเหลือเจนอยู่คนเดียว แล้ว …

แล้วขุนเขาก็ปรากฏตัวขึ้น คุกเข่าลงเบื้องหน้าเจน พร้อมกับแหวนเพชรวงงาม “แต่งงานกับผมนะ” โอ๊ย ทีนี้ล่ะ เจนกรี๊ดลั่น เสียงไปถึงหน้าปากซอย เซย์เยสสิคะ

ด้านคู่ของมินกับธีธัชก็ลงเอยกันด้วยความเข้าใจ ธีธัชเปิดมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้า เหมือนอย่างที่เขาเคยได้รับเมื่อตอนเป็นเด็ก

แล้วเรื่องราวก็จบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง

จบบริบูรณ์

Images : Ch3Thailand
ดู สืบลับหมอระบาด ที่ Ch3Plus >>> คลิกที่นี่