Mask Girl สปอยล์ : สาวออฟฟิศหน้าตาขี้เหร่ กลายเป็นดาวเด่นในโลกออนไลน์ภายใต้หน้ากากในชื่อ ‘มาสก์เกิร์ล’ ซึ่งนำพาเหตุร้ายเข้ามาในชีวิตเธอ …
EP.1 คิมโมมี สาวออฟฟิศสายมโน
EP.2 จูโอนัมกับตุ๊กตายางของเขา
EP.3 แม่วุ่นวายตามหาลูกชายผู้โดดเดี่ยว
EP.4 ศัลยกรรมพลิกชีวิต
EP.5 คิมมีโมกับเพื่อนสนิทจอมโกหก
EP.6 นักโทษหญิงคิมโมมี
EP.7 ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ (ตอนจบ)
เรต : 16+ คะแนน : 7/10
แนว : ตลกร้าย ระทึกขวัญ
EP.1 คิมโมมี สาวออฟฟิศสายมโน
คิมโมมีในปี 2009
คิมโมมี (รับบทโดย อีฮันบยอล) สาวออฟฟิศวัย 27 ปี ที่มีความฝันอยากเป็นดารา เสพสุขเสียงตบมือและคำชื่นชมจากผู้คนตั้งแต่วัยเด็ก แต่ด้วยหน้าตาที่กระเดียดไปทางขี้เหร่ ทำให้ความฝันของเธอยากจะเป็นจริง
แล้ววันหนึ่งโมมีก็พบช่องทางที่จะทำให้เธอได้ทำตามฝัน นั่นคือการเป็นสตรีมเมอร์แนวเซ็กซี่ภายใต้หน้ากาก ไม่นาน ชื่อของ Mask Girl ก็กลายเป็นดาวเด่นของผู้ชายสายหื่นในโลกออนไลน์ … นับแต่นั้น โมมีจึงมีโลกใบแรกเป็นสาวออฟฟิศธรรมดา ๆ ส่วนโลกใบที่สองคือสาวเซ็กซี่โชว์
โมมีเป็นสาวสายมโน เธอแอบหลงรัก หัวหน้าทีมพัค (รับบทโดย ชเวแดเนียล *นักแสดงรับเชิญ) ทั้งหล่อ เท่ ทำงานเก่ง แถมยังมีซิกแพ็กที่ชวนหลงใหล ข้อเสียข้อเดียวคือเขาแต่งงานและมีลูกแล้ว ถึงอย่างนั้นโมมีก็แอบรักหัวหน้าเข้าอย่างจัง
ค่ำวันนั้น โมมีลืมของเอาไว้ที่ออฟฟิศ เอ๊ะ ทำไมเหมือนได้ยินเสียงคนคุยกัน เธอจึงค่อย ๆ ย่องไปดู ภาพที่เห็นทำเอาโมมีถึงกับตาค้าง หัวหน้าทีมพัคกับ อีอารึม (รับบทโดย พัคจองฮวา) สาวสวยประจำออฟฟิศกำลังแสดงบทรักกัน โมมีเดินออกจากออฟฟิศไปทั้งน้ำตานองหน้า
เมื่อกลับถึงห้องพัก โมมีคว้าเอาโซจูในตู้เย็นขึ้นมาเปิดฝาแล้วกระดกที่เดียวหมดขวด ด้วยความเสียใจผสมกับความเมามาย คืนนั้นเธอจึงเปิดการแสดงไลฟ์โชว์วาบหวิว แล้วจบด้วยการเต้นที่ไม่มีอาภรณ์ปกปิดร่างกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว จนเป็นเหตุให้ไลฟ์ของเธอถูกแบน
เมื่อได้สติในวันต่อมา โมมีจึงวางแผนชำระแค้นมารหัวใจ เธอเอาเรื่องที่เห็นไปเม้าท์กับเพื่อน ๆ หวังให้อีอารึมเสียชื่อ แต่โมมีคงไม่รู้สินะ แรงเม้าท์ของชาวออฟฟิศมันกระจายไปไกล และมีพลังทำลายล้างยิ่งกว่าคลื่นซึนามิ ปากต่อปากเติมนู่นเสริมนี่ จนสุดท้ายไปไกลถึงขนาดเม้าท์กันว่า อีอารึมเป็นเมียคนที่สองและมีลูกกับหัวหน้าทีมพัค
หัวหน้าทีมพัคโดนบริษัทตั้งเรื่องสอบถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คืนนั้น เขาจึงไปดื่มจนเมามายและพยายามเดินตัดหน้ารถให้รถชน จะได้ตาย ๆ ไปซะ ดีที่โมมีมาเห็นพอดี จึงพยายามพาเขากลับบ้าน แต่หัวหน้าทีมพัคก็เมาชนิดไม่ได้สติ โมมีจึงตัดสินใจพาเขาไปนอนพักที่ห้องของเธอ แล้วคืนนั้น ทั้งสองก็มีความสัมพันธ์กัน
รุ่งเช้า หัวหน้าทีมพัคตื่นขึ้นมาเห็นโมมีนอนอยู่ข้าง ๆ ก็ตกใจ รีบใส่เสื้อใส่กางเกงแล้วเผ่นแน่บออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรกับโมมีเลยแม้แต่คำเดียว … ส่วนโมมีก็รู้ภายหลังว่าหัวหน้าทีมพัคลาออกจากบริษัทไปแล้ว
ที่ออฟฟิศ ระหว่างที่โมมียังคงโซแซด เธอก็ได้รับอีเมลจากยูเซอร์คนหนึ่งในไลฟ์โชว์ “ฉันรู้นะว่าเธอคือมาสก์เกิร์ล” โมมีช็อกแทบคุมสติเอาไว้ไม่อยู่
แล้วภาพก็เผยออกมาให้เห็นว่า คนที่ส่งอีเมลหาโมมีก็คือ จูโอนัม (รับบทโดย อันแจฮง) ชายหนุ่มที่ทำงานอยู่ที่เดียวกับเธอ
EP.2 จูโอนัมกับตุ๊กตายางของเขา
ตอนนี้เริ่มต้นด้วยการเล่าชีวิตในวัยเด็กของ จูโอนัม ด้วยความที่เขาเป็นเด็กอ้วนเตี้ย จึงทำให้โดนเพื่อน ๆ รังแกอย่างรุนแรง เขาโดนกระทำอย่างนั้นมาตลอดตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม มันทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า ทางเดียวที่จะทำให้เขาอยู่ได้อย่างสงบคือการอยู่อย่างไร้ตัวตน
และนั่นทำให้โอนัมชอบการใช้เวลาอยู่คนเดียว เมื่อโตขึ้นเข้าสู่วัยทำงาน เขาจึงขอแม่ออกมาอยู่อพาร์ตเมนต์คนเดียว ที่นั่น โอนัมมีความสุขอยู่ในโลกส่วนตัวกับตุ๊กตายางสาวญี่ปุ่นสุดเซ็กซี่ และชอบช่วยตัวเองกับการ์ตูนแนวเฮ็นไต ชีวิตของเขาวนลูปดำเนินไปอย่างนั้น จนได้เจอกับสตรีมเมอร์สาวสุดเซ็กซี่ ‘มาสก์เกิร์ล’
วันหนึ่งที่ออฟฟิศ โอนัมสังเกตเห็นไฝที่มือของโมมีอยู่ตำแหน่งเดียวกับมาสก์เกิร์ล แถมยังทาเล็บสีเดียวกันซะด้วย เขารู้ในทันทีว่า โมมีคือมาสก์เกิร์ล … นับแต่วินาทีนั้น โอนัมจึงแอบหลงรักโมมีสุดหัวใจ … ด้วยความที่เขาเป็นคนมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม ทำให้เขาได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ และมีความสุขอยู่ในโลกจินตนาการของตัวเอง
โอนัมเริ่มทำตัวเป็นสตอกเกอร์ ติดตามชีวิตของโมมี จนรู้ว่าโมมีแอบรักหัวหน้าทีมพัค และรู้ด้วยว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน หลังหัวหน้าทีมพัคลาออก เขาจึงตัดสินใจส่งอีเมลไปหาโมมี โดยระบุว่า “ฉันรู้นะว่าเธอคือมาสก์เกิร์ล”
พระหล่อ
เรื่องราวดำเนินไปกระทั่งวันหนึ่ง โมมีนัดเจอกับยูเซอร์คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า ‘พระหล่อ’ (Handsome Monk) ทั้งสองไปกินเนื้อย่างกัน พระหล่อคะยั้นคะยอให้โมมีถอดแมสก์ออก โมมีก็จำใจเปิดเผยหน้าอย่างอาย ๆ เธออายหน้าตาขี้เหร่ของตัวเอง แต่พระหล่อกลับไม่แสดงท่าทางรังเกียจเธอเลย มันแสร้งทำเป็นพูดเกาหลีไม่คล่อง โดยอ้างว่าอยู่อเมริกามาตั้งแต่เด็ก แถมยังชมว่าหน้าตาของโมมีเป็นสไตล์ที่คนอเมริกันชอบ
โมมีเจอลูกยอ ก็ชอบใจใหญ่ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีผู้ชายมองว่าเธอสวย ทั้งสองไปดื่มต่อกันที่บาร์และคุยกันอย่างถูกคอ จนพระหล่อชวนโมมีไปหาที่คุยกันเงียบ ๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าโรงแรมม่านรูด มันจึงแสร้งทำเป็นชวนเธอไปนั่งดื่มเบียร์ โมมีที่ไม่เป็นใจแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เธอจึงเออ ๆ ออ ๆ เดินตามมันเข้าไป
แล้วก็เป็นตามคาด ธาตุแท้ของพระหล่อก็แสดงออกมา ธาตุแท้หื่นกาม มันพูดนู่นนี่นั่นชักแม่น้ำร้อยแปดสายมาอ้าง เพื่อที่จะให้โมมียอมมีอะไรกับมัน แต่โมมีไม่ยอม ไอ้ชั่วมันจึงด่าออกมาอย่างเจ็บแสบ “หน้าอุบาทว์ขนาดนี้ยังดัดจริตเล่นตัวอีกนะ ถ้าสวยจะไม่ว่าอะไรเลย นี่หน้าอย่างกับผี”
เจอด่าแบบนี้โมมีก็ขึ้นสิ โมมีกับพระหล่อฟัดกัน แล้วโมมีก็ใช้ตัวโถมเข้าใส่ไอ้ชั่ว หัวมันไปฟาดเข้ากับอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะมันจะนอนแน่นิ่งไป โมมีตกใจสุดขีด ไอ้สารเลวบ้ากามนอนแน่นิ่งอย่างกับคนตาย หรือมันตายไปแล้ว ? มันคงตายไปแล้ว !
หั่น
จังหวะนั้น โอนัมที่คอยติดตามโมมีก็เห็นไอ้ชั่วนั่นทวีตข้อความว่า “อยู่โรงแรมม่านรูดกับมาสก์เกิร์ล” เขาจึงรีบส่งข้อความหาโมมีทันที … โมมีที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นข้อความจากโอนัมจึงโทร. กลับไป
โอนัมมาที่โรงแรมม่านรูด โมมีนั่งร้องไห้อยู่เบื้องหน้า โดยมีร่างของพระหล่อนอนแน่นิ่งอยู่ … โมมีเสนอให้แจ้งตำรวจ เพราะเชื่อว่ามันเป็นการป้องกันตัวจากการถูกข่มขื่น โอนัมรีบห้ามทันที ข้ออ้างว่าถูกข่มขืนฟังไม่ขึ้น เนื่องจากโมมีสมัครใจเข้าโรงแรม ที่สำคัญ ถึงจะเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา แต่ยังไงก็ต้องติดคุกอยู่ดี
โอนัมขึ้นเสียงสั่งโมมี “คุณโมมีกลับบ้านไปก่อนเถอะครับ ที่นี่ผมจะจัดการเอง ถือว่าผมขอเถอะนะ”
หลังโมมีกลับไปแล้ว โอนัมก็ลากร่างของพระหล่อเข้ามาในห้องน้ำ ข้าง ๆ มีอุปกรณ์ที่ใช้หั่นศพวางอยู่ แต่ทันใดนั้น ไอ้ชั่วพระหล่อก็ขยับตัว มันยังไม่ตาย ! ด้วยความตกใจ โอนัมใช้มีดปลายแหลมในมือแทงเข้าไปที่ร่างของพระหล่อซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาแทงซ้ำนับสิบ ๆ ครั้ง เลือดสาดกระจายไปทั่วตัวเขาและผนังห้องน้ำ
วันต่อมา โอนัมมาทำงานตามปกติ ที่ไม่ปกติคือโมมีลาออกจากบริษัทไปแล้ว … โอนัมจึงไปขอที่อยู่โมมีที่ฝ่ายบุคคล ค่ำวันนั้น เขาก็ไปหาโมมีที่อพาร์ตเมนต์
“คุณเป็นคนส่งอีเมลหาฉันใช่มั้ย ?” โมมีที่สวมหน้ากากมาสก์เกิร์ลพูดออกมา หลังรู้ว่าโอนัมคือสต๊อกเกอร์ที่คอยติดตามชีวิตเธอมาตลอด จากนั้นทั้งสองก็เริ่มโต้เถียงกัน แล้วโอนัมก็เผยธาตุแท้ความหื่นออกมา ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อต้องการสิ่งนี้ โอนัมเข้าขืนใจโมมี ทว่า โมมีนอนแน่นิ่งให้เขาทำไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตายาง เธอนอนนิ่งไร้อารมณ์อยู่อย่างนั้นจนโอนัมแปลกใจ เขาจึงค่อย ๆ เอื้อมมือไปถอดหน้ากากของเธอออก หน้าตาของโมมีถูกห่อหุ้มด้วยผ้าพันแผลที่ชุ่มไปด้วยเลือด ก่อนที่โมมีจะจับโอนัมนอนลง แล้วเธอก็ขึ้นทำให้เขา โอนัมหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขสุดซี้ด
และนั่นก็เป็นความสุขครั้งสุดท้ายของโอนัม โมมีคว้าเอามีดที่วางอยู่ข้างเตียง จ้วงแทงโอนัมนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาว่า “ไอ้สารเลว แกพูดถูกแล้วที่ฉันต้องลบทุกอย่างไปจากความทรงจำ”
EP.3 แม่วุ่นวายตามหาลูกชายผู้โดดเดี่ยว
คิมคยองจา (รับบทโดย ยอมฮเยรัน) เป็นแม่ของโอนัม … เธอแต่งงานกับสามีผ่านแม่สื่อเมื่อเกือบ 50 ปีก่อน (1974) หลังใช้ชีวิตคู่ได้ไม่กี่ปี เธอก็หย่ากับสามี สิ่งที่สามีทิ้งไว้ให้มีเพียงสิ่งเดียวคือ ‘จูโอนัม’
นับแต่นั้น คยองจาจึงทำงานทุกอย่างที่ได้เงินเพื่อเลี้ยงดูลูกชาย แม่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำ ขับแท็กซี่ ส่งอาหาร จนในที่สุดก็เก็บเงินก้อนหนึ่งเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อสิ่งเดียว คือ ต้องการเลี้ยงลูกให้ดี คยองจากต้องการให้ลูกเรียนหมอ
ในที่สุด คยองจาก็ส่งโอนัมเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงโซลได้สำเร็จ แม้จะไม่ได้เรียนหมออย่างที่เธอฝันไว้ก็เถอะ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอภูมิใจ … เมื่อโอนัมเรียนจบและทำงาน เขาก็ต้องการย้ายออกไปอยู่คนเดียว หลังจากนั้น สองแม่ลูกก็ห่างเหินกัน ยิ่งกว่านั้นโอนัมก็ไม่เคยให้คยองจาเข้าอพาร์ตเมนต์ของเขาเลย
เมื่อเวลาผ่านไป คยองจาติดต่อลูกชายไม่ได้ เธอจึงแจ้งตำรวจให้พังประตูอพาร์ตเมนต์ของโอนัม กลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง เมื่อเปิดตู้เย็นออกมาถึงกับผงะ มีชิ้นส่วนมนุษย์ห่อด้วยพลาสติก คยองจาตกใจจนสลบไป
คยองจาฟื้นได้สติที่โรงพยาบาล ตำรวจสองนายเข้ามาแจ้งว่า ศพที่พบในอพาร์ตเมนต์ไม่ใช่ศพของโอนัม คยองจาโล่งอกกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “จะเป็นศพใครก็ช่างเถอะ ขอแค่ลูกชายฉันยังไม่ตายก็พอแล้ว โอ้ พระเจ้า”
ตำรวจสันนิษฐานว่า โมมีกับจูนัม ร่วมมือกันสังหารเหยื่อ ก่อนที่จะหลบหนีไปด้วยกัน แต่คยองจาไม่เชื่อ เธอโวยวายใส่จนตำรวจตัวหงอไปเลย “พูดบ้าพูดบออะไร เด็กนั่น [โอนัม] แค่ฆ่าแมลงวันสักตัวยังไม่ได้เลย แค่เห็นเลือดนิดเดียวเขาก็กลัวจนตัวสั่นแล้ว”
คยองจาตัดสินใจออกตามหาลูกชายด้วยตัวเอง เพราะเธอเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ลูกชายของเธอเป็นคนดี และคนที่ทำเรื่องชั่วทั้งหมดคืออีนังสารเลวคิมโมมี
ฉันรู้จักคิมโมมี
คยองจาถอนเงินเก็บทั้งหมดที่มีมาใช้ในการตามหาโอนัม แต่ระหว่างนั้น เธอต้องเผชิญกับความเสียใจแทบหัวใจแตกสลาย เมื่อตำรวจได้รับแจ้งว่าพบศพโอนัมถูกทิ้งอยู่ในป่า
โมมีคือฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของเธอ คยองจาเชื่ออย่างนั้น ความแค้นสั่งสมเพิ่มเป็นร้อยเท่าพันเท่า คยองจาไปหาร่างทรงหมอผีเพื่อหาตัวโมมี แล้วร่างทรงก็ทำพิธีจนรู้ว่าโมมีอยู่ที่คังชอน … คยองจาตามจนเจอหญิงสาวหน้าคล้ายโมมีทำงานอยู่ที่คลับแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้น คยองจาก็ไปติดต่อซื้อปืนเถื่อน ปืนลูกซองสไลด์ห้านัด กะว่าถ้าเจออีนังโมมีเมื่อไรป้าจะยิงให้เละ
ต่อมา ป้าคยองจาไปเช่ารถแท็กซี่มาจอดรอรับโมมีอยู่หน้าคลับ โมมีที่ตอนนี้ทำศัลยกรรมทุบหน้ามาใหม่ทั้งหน้าจนกลายเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ขึ้นมาบนรถ ป้าคยองจาจึงใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตโมมีจนสลบเหมือดไป ก่อนจะนำพาตัวโมมีไปที่บ้านร้างแห่งหนึ่งกลางป่า
หญิงสาวฟื้นได้สติขึ้นมาพบว่าตัวเองถูกมัดมือมัดเท้าก็ร้องโวยวายออกมาไม่หยุด ป้าคยองจาหยิบรูปภาพโอนัมออกมา หญิงสาวโวยวายออกมาว่าไม่รู้จัก และบอกว่าเธอชื่อ ‘คิมชุนแอ’ (รับบทโดย ฮันแจอี)
สร้อยพระจันทร์เสี้ยวที่คอของหญิงสาวทำให้ป้าคยองจาเชื่อว่าเธอคือคิมโมมี เมื่อชุนแอรู้ว่าเพราะสร้อยที่ทำให้ป้าคยองจาเข้าใจผิด เธอจึงหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ฉันรู้ว่าคิมโมมีคือใคร”
EP.4 ศัลยกรรมพลิกชีวิต
หญิงสาวที่ถูกคยองจาจับตัวไว้ เธอชื่อคิมชุนแอ … ในอดีตตอนเรียนมัธยมปลาย ชุนแอมักถูกเพื่อน ๆ บูลลี่ ด้วยเหตุผลที่เธอมีหน้าตาเชย ๆ แถมชื่อยังแปลกประหลาดชวนขบขัน
ที่โรงเรียน ชุนแอได้พบกับรักแรก เป็นหนุ่มสุดหล่อที่กำลังจะเป็นไอดอลชื่อ ‘พูยอง’ เธอได้แต่แอบรักเขาอยู่แบบนั้นนานนับปีทั้งที่ไม่เคยพูดคุยกันสักคำ กระทั่งเธอได้เจอกับเขาโดยบังเอิญ ขณะกำลังทำงานพาร์ตไทม์อยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ เขาคุยกับเธออย่างเป็นกันเอง
วันหนึ่ง พูยองก็ชวนชุนแอไปงานวันเกิดของเขา แล้วจู่ ๆ เขาก็เซอร์ไพรส์เธอด้วยการขอยืมเงิน 3 แสนวอน (ประมาณ 8 พันบาท) โดยอ้างว่ามีเงินไม่พอจ่ายค่าบิล แต่เขาก็ไม่เคยคืนเงินที่ยืมเลย ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงยืมเงินเธออยู่เรื่อย ๆ และชุนแอก็ให้ยืมทุกครั้ง
เวลาผ่านไป พูยองได้เดบิวต์เป็นไอดอลชื่อเสียงโด่งดัง นับแต่นั้น ชุนแอก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้อีกเลย เธอจึงตัดสินใจแอบเข้าไปในห้องพักของพูยอง แล้วเธอก็ได้ยินคำพูดที่ทำให้เธอหัวใจแตกสลาย … “ผู้หญิงพวกนั้น ฉันใช้เป็นตู้เอทีเอ็มกดเงินเท่านั้นแหละ”
ชุนแอกลับมาที่พักด้วยคราบน้ำตา เธอตัดสินใจแฉพฤติกรรมของพูยองลงในอินเทอร์เน็ต การแฉด้วยอารมณ์ชั่ววูบของชุนแอ ทำให้พูยองถูกแบนจากวงการบันเทิงทันที
ต่อมา ชุนแอไปทำศัลยกรรมยกหน้าใหม่ ความสวยเป็นสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดในชีวิต
ผ่านไประยะหนึ่ง ชุนแอก็พบกับพูยองโดยบังเอิญ พูยองในตอนนี้ไม่ใช่พูยองคนเดิมที่เธอรู้จักในฐานะไอดอล พูยองเวลานี้เป็นเพียงผู้ชายโทรม ๆ ที่ไม่มีแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน ด้วยความรู้สึกผิด ชุนแอจึงเสนอให้เขามาอยู่กับเธอ
ทีนี้ ด้วยความที่พูยองจมไม่ลง เขาอายที่จะไปทำงาน คงเพราะเขาเคยเป็นถึงไอดอล ทำให้ชุนแอต้องไปทำงานที่คลับเพื่อหาเงินมากขึ้นมาเลี้ยงพูยอง … ที่คลับนี้เอง ชุนแอจึงได้เจอกับโมมี และได้สร้อยคอพระจันทร์เสี้ยวจากโมมี
ชุนแอไล่ยาวเล่าเรื่องต่าง ๆ จนคยองจาเชื่อใจ ปล่อยชุนแอ แลกกับการที่ชุนแอจะช่วยตามหาโมมี
พรมแดง
จริง ๆ แล้วที่ชุนแอรับปากจะช่วยตามหาโมมีเป็นเรื่องโกหก ชุนแอสนิทกับโมมีมาก สนิทขนาดไหน ? สนิทขนาดที่โมมีเคยเล่าเรื่องที่กำลังหนีคดีฆาตกรรมโอนัม ดังนั้น ชุนแอจึงรีบไปหาโมมีเก็บข้าวของเตรียมหนีไปด้วยกัน แต่ …
แต่ระหว่างที่ชุนแอกำลังเก็บของ พูยองก็รู้ความจริงว่าเธอเป็นคนที่ออกมาแฉเขา จนทำให้เขาหมดอนาคต เขาจึงเข้าไปตบซ้ายตบขวาแล้วต่อด้วยกระทืบด้วยความแค้น ยังดีที่โมมี (รับบทโดย นานะ) เข้ามาช่วยไว้ได้ ก่อนจะสำเร็จโทษพูยองด้วยการรัดคอจนแน่นิ่งไป … ทั้งสองช่วยกันขนศพใส่ท้ายรถเพื่อนำไปทิ้งอำพราง
แต่คยองจาไม่ได้โง่ เธอจ้างนักสืบให้คอยติดตามชุนแอ เมื่อรู้ว่าทั้งสองกำลังหนี คยองจาจึงรีบขับรถตามคนทั้งสองไป ขณะที่ชุนแอกับโมมีกำลังช่วยกันยกศพพูยองไปทิ้ง คยองจาก็ขับรถมาขวาง ป้าคยองจาสายโหดในมือถือลูกซองสไลด์ห้านัดในมือ ป้าเดินมาช้า ๆ ก่อนจะตวาดลั่นด้วยความสะใจ “ฉันเฝ้ารอให้ถึงวันนี้จนใจฉันเต้นแทบจะทะลุอกออกมาอยู่แล้วอีนังบ้า”
ป้าคยองจาสะบัดมือสไลด์ลูกซองในมือ ก่อนจะเหนี่ยวไกไปที่โมมี ฉิบหาย ปืนยิงไม่ออก !
โมมีกับชุนแอเห็นโอกาสจึงรีบเข้ามาชาร์จ แล้วจังหวะซวยก็มาเยือน คยองจาเหนี่ยวไกส่งกระสุนออกจากปากกระบอกพุ่งตรงไปที่ช่วงท้องของชุนแอ … โมมีกับคยองจากอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กันสักพัก แล้วจู่ ๆ ชุนแอที่เลือดอาบร่างก็คว้าก้อนหินขนาดเท่าหัวเด็กกระแทกลงกลางกบาลคยองจา จากนั้น ชุนแอก็เหลือเพียงร่างที่ไร้ลมหายใจ
โมมีจับคยองจาใส่ในรถ ก่อนจะเข็นรถพุ่งลงสู่ผืนน้ำเพื่ออำพราง
เวลาผ่านไป … โมมีก็เข้ามอบตัวกับตำรวจ ท่ามกลางนักข่าวที่รายล้อมราวกับเธอเป็นซูเปอร์สตาร์ที่กำลังเดินอยู่บนพรมแดง
EP.5 คิมมีโมกับเพื่อนสนิทจอมโกหก
การเข้ามอบตัวของ โมมีหรือมาสก์เกิร์ล กลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ … เมื่อถึงวันพิพากษา ศาลตัดสินให้โมมีได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น โมมีคลอดลูกออกมา ซึ่งเป็นลูกที่ท้องกับจูโอนัม โมมีเอาลูกไปฝากไว้กับแม่ของเธอ โดยตั้งชื่อว่า คิมมีโม (รับบทโดย ชินเยซอ) … เด็กหญิงมีโมเติบโตขึ้นมาโดยได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี กระทั่งวันหนึ่ง มีโมถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อว่าเป็นลูกของฆาตกร นับแต่นั้น พฤติกรรมของมีโมก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเด็กก้าวร้าว ต่อต้านสังคม และเงียบขรึม
ความก้าวร้าวของมีโมรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายเพื่อนนักเรียน จนถูกไล่ออกโรงเรียนแล้วโรงเรียนเล่า หนักข้อจนถึงเกือบได้เข้าไปอยู่ในสถานพินิจฯ ยังดีที่คุณยายของมีโมพอมีฐานะและมีเส้นสาย จึงช่วยให้ออกมาได้
ที่โรงเรียนใหม่ มีโมได้เพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อ คิมเยชอน (รับบทโดย คิมมินซอ) ซึ่งเป็นเด็กสาวมัธยมต้นที่มีนิสัยชอบโกหก โกหกว่าครอบครัวตัวเองมีปัญหา โกหกว่ามีพ่อที่ชอบทำร้ายร่างกาย และมีแม่ที่ใจร้าย ถึงขนาดที่เยชอนเคยบอกกับมีโมว่า อยากฆ่าแม่ตัวเอง เพียงเพราะแม่ไม่ยอมให้เลี้ยงแมว !
ถึงมีโมกับเยชอนจะเป็นเด็กมีปัญหา แต่ทั้งคู่ก็รักกันมาก จนวันหนึ่ง มีโมก็เล่าเรื่องที่แม่เป็นฆาตกรให้เยชอนฟัง ยิ่งเยชอนได้รู้ว่ามีโมเป็นลูกสาวของมาสก์เกิร์ล ก็ยิ่งทำให้เยชอนปลื้มมีโมมากขึ้นไปอีก และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองเริ่มวางแผนหนีออกจากบ้าน ปัญหาเดียวคือเงิน
เยชอนหาเงินด้วยการขโมยของในบ้านไปขาย แต่ขายยังไงก็รวมเงินได้แค่ 130,000 วอน (ประมาณ 3,400 บาท) มีโมจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ควร นั่นคือขโมยของ ผลก็คือไม่รอดโดนจับส่งตำรวจ
ยายของมีโมมาที่โรงพัก แวบแรกที่เห็นหลานก็กางมือตบเข้าไปเต็มหน้าหนึ่งฉาด ก่อนจะใช้คำพูดรุนแรงใส่ด้วยความโกรธ มีโมวิ่งหนีออกจากโรงพักทั้งน้ำตาด้วยความเสียใจ
รุ่งขึ้น มีโมได้ยินเพื่อนที่โรงเรียนพูดเรื่องที่เธอมีแม่เป็นมาสก์เกิร์ล และนั่นคือฟางเส้นสุดท้าย มีโมตัดสินใจหนีออกจากบ้าน และไม่ไปโรงเรียน โดยไปขอความช่วยเหลือจากคุณยายที่ขายต๊อกโบกีที่หน้าโรงเรียน เพราะเป็นคนเดียวที่ดีกับเธอ
เยชอนเป็นห่วงเพื่อน ทั้งออกตามหา ทั้งโทร. ติดต่อ แต่ไม่ว่าจะไปหาที่ไหนก็ไม่เจอ ไม่ว่าจะโทร. ไปกี่ร้อยกี่พันสายมีโมก็ไม่รับสาย โดยเยชอนไม่รู้เลยว่า มีโมกำลังแอบตามดูพฤติกรรมอยู่ ทำให้มีโมได้รู้ความจริงว่าเยชอนโกหกเรื่องพ่อแม่
เย็นวันนั้น มีโมจึงโทร. นัดเยชอนให้ออกมาเจอ ก่อนมีโมจะระเบิดอารมณ์เข้าไปทำร้ายเยชอนด้วยความโกรธ “ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง แกเอาข่าวนั้นไปแพร่กระจายที่โรงเรียนทำไม อีโกหก อีสารเลว” … เวลาเดียวกัน ก็มีหญิงชราปรากฏตัวขึ้นมองไปที่เด็กสาวทั้งสองกำลังตบตีกัน พร้อมกับรอยยิ้ม หรือว่าหญิงชราคือ ป้าคยองจา !?
EP.6 นักโทษหญิงคิมโมมี
ในคุก โมมีมีชื่อเสียงในฐานะมาสก์เกิร์ล จนกลายเป็นกูรูด้านการทำศัลยกรรม แต่จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร เพราะในคุกไม่มีหมอศัลยกรรม ในทางตรงกันข้าม หน้าพลาสติกของโมมีกลับไปขวางหูขวางตาเจ๊ขาใหญ่ ที่ไม่ชอบขี้หน้าผู้หญิงหน้าปลอม เพราะเมียน้อยของสามีเจ๊แกเป็นผู้หญิงหน้าปลอมเช่นเดียวกัน
เจ๊ขาใหญ่ต้องโทษในคดีจ้างวานฆ่าสามี ร่ำรวย มีเส้นสาย และที่สำคัญเจ๊แกได้รับสิทธิพิเศษจากพัศดีเรือนจำทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือไม่ได้ออกไม่นอกคุก
ทีนี้ ลูกน้องของเจ๊ขาใหญ่ก็ชอบมาบูลลี่โมมีเรื่องหน้าปลอมของเธอ บูลลี่ไปบูลลี่มาโมมีก็แกล้งบ้าสติแตกขึ้นมา ไล่ทุบไล่ตีไอ้พวกลูกน้องปากหมาจนเลือดกบปาก โมมีถูกลงโทษจับขึ้นซอยขังเดี่ยว ผ่านไป 14 วัน โมมีถูกปล่อยออกมาก็ทำซ้ำแบบเดิมอีก ใช้ถาดอาหารทุบไอ้ลูกน้องปากเลวของเจ๊ขาใหญ่จนสลบ โมมีทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเจ๊ขาใหญ่แกต้องยอมขอสงบศึก
ผ่านไปหลายปี โมมี (รับบทโดย โกฮยอนจอง) ก็ใช้ชีวิตแบบซังกะตายให้ผ่านพ้นไปในแต่ละวัน กระทั่งวันหนึ่ง โมมีได้รับจดหมายปริศนาที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือระบุว่า “ถึงเวลาที่แกต้องลิ้มรสความรู้สึกที่ลูกถูกทำลายบ้างแล้ว” คืนนั้น โมมีนอนคิดทั้งคืน เมื่อฟ้าสางโมมีตัดสินใจวางแผนแหกคุก
แสงสว่างนำทางชีวิตใหม่
โมมีค่อย ๆ เก็บอุปกรณ์ในกองงานที่นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการหนี ผ้า มีด เมื่อได้ทุกอย่างครบโมมีจึงหนีทันที ปัดโธ่ แต่ยังไม่ทันที่โมมีจะปีนขึ้นกำแพง ก็โดนจับซะแล้ว แผนแหกคุกล้มเหลวไม่เป็นท่า
โมมีถูกลงโทษโดยการจับขึ้นขังซอย ระหว่างนั้น พัศดีเรือนจำก็ให้ผู้คุมเอาไบเบิลไปให้โมมี และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิตโมมี พระเจ้าทำให้โมมีเหมือนเกิดใหม่ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าโมมีอีกครั้ง
วันหนึ่ง โมมีเห็นเจ๊ขาใหญ่แกนั่งร้องไห้ เธอจึงถามเพื่อนนักโทษว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าลูกสาวของเจ๊ขาใหญ่ป่วยหนัก ต้องได้รับการปลูกถ่ายไตโดยด่วน โมมีจึงเดินไปหาเจ๊แก “พี่คะ ลูกสาวของพี่กรุ๊ปเลือดอะไรคะ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากมอบไตให้ลูกสาวของพี่” เจ๊ขาใหญ่ตอบกลับไปทันทีว่ากรุ๊ปเอบี
ผ่านไประยะหนึ่ง ผลการตรวจออกมาแล้ว เจ๊ขาใหญ่วิ่งไปหาโมมีด้วยความดีใจ “ลูกสาวของฉันสามารถรับบริจาคไตจากเธอได้ นี่มันปาฏิหาริย์จริง ๆ” ทั้งสองเข้าสวมกอดกันด้วยความปีติ
วันนี้ โมมีไปโบสถ์ตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเธอได้เจอกับแขกที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ ป้าคิมคยองจา !
หน้าใหม่ของป้าคิมคยองจา
ป้าคิมคยองจายังไม่ตาย … ในวันนั้น ป้าแกได้สติก่อนที่รถจะจมน้ำ ก่อนจะหาวัตถุแข็งทุบกระจกหนีออกมาได้ และเพื่อเป็นการอำพรางตัวตน ป้าคยองจาจึงไปทำศัลยกรรมยกหน้าใหม่ ระหว่างนั้น ป้าก็ออกตามหาโมมี แต่หายังไงก็ไม่มีเบาะแส จนกระทั่งได้เห็นข่าวโมมีถูกจับและตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
คยองจาเสียใจที่ไม่ได้ฆ่าโมมีด้วยมือตัวเอง เวลาผ่านไป คยองจาจึงคิดแผนใหม่ขึ้นมาได้ ในเมื่อจัดการกับแม่ไม่ได้ก็คงต้องจัดการกับลูกสาว ‘มีโม’ คือเป้าหมายของคยองจา … แล้วความจริงก็ถูกเปิดเผยออกมา เรื่องร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับมีโม ล้วนแล้วแต่เกิดจากคยองจาทั้งสิ้น !
EP.7 ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ (ตอนจบ)
โมมีสติแตกหลังรู้ว่าลูกสาวกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากเจ๊ขาใหญ่ เจ๊แกก็ตกปากรับคำเป็นอย่างดีว่าจะให้ลูกน้องออกไปตามสืบ แต่ทว่าอีเจ๊ขาใหญ่เล่นไม่ซื่อ สั่งลูกน้องให้ไปถ่ายรูปเด็กที่ไหนมาก็ไม่รู้ เพื่อเอามาหลอกโมมี … ถึงจะไม่เคยเห็นหน้าลูกสาวตอนโต แต่ความเป็นแม่ไม่มีที่จะจำลูกตัวเองไม่ได้
คืนนั้น โมมีดูรูปนั้นแล้วก็ฉีกมันทิ้งไปอย่างไร้ค่า
วันนี้เป็นวันที่โมมีจะถูกนำตัวออกไปนอกคุก เพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไตที่โรงพยาบาล เจ๊ขาใหญ่แกเตรียมการให้ทั้งหมด โดยมีผู้คุมหญิงตามไปด้วยสองคน
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล โมมีขอผู้คุมไปเข้าห้องน้ำ เธออาศัยจังหวะนั้นคว้าเอาฝาชักโครงฟาดเข้าไปที่กบาลของผู้คุมจนสลบ ก่อนจะกระโดดหนีออกทางหน้าต่างห้องน้ำด้วยความสูงสองชั้น โมมีวิ่งกะเผลก ๆ ไปจนถึงลานจอดรถ แล้วรถที่วิ่งมาก็ชนเธอเข้าเต็ม ๆ จนร่างกระเด็น โมมีฝืนพยุงตัวขึ้นมาแล้วขึ้นไปบนรถคันที่ชน ก่อนจะรีบขับออกไปช่วยมีโม
โมมีโทร. ไปหาแม่ จนได้ที่อยู่ของคยองจา เธอจึงเหยียบคันเร่งมิดไปยังที่อยู่ที่ได้ทันที
ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ
วันเดียวกัน ที่บ้านเช่าอันห่างไกลผู้คน คยองจาเตรียมอาหารให้มีโมตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือวันนี้คยองจากใส่ยานอนหลับเอาไว้ในอาหารที่มีโมกิน เพราะวันนี้จะเป็นวันตายของสาวน้อยมีโม
มีโมถูกจับมัดมือมัดเท้าเอาไว้ที่ชั้นใต้ดิน กล้องบันทึกวิดีโอเตรียมบันทึกการตายของมีโม คยองจาต้องการให้โมมีเห็นการตายของลูกสาวทุกวินาที … จริง ๆ แล้ว การฆ่าเด็กหญิงมีโมก็เป็นเรื่องที่ลำบากใจสำหรับคยองจาไม่น้อย มันไม่ง่ายเลย แต่เพื่อล้างแค้นให้กับลูกชาย ยังไงก็ต้องทำ แต่ …
แต่ก่อนที่คยองจาจะลงมือ ยายของมีโมก็มาถึงพอดี การต่อสู้ของหญิงชราสองคนจึงเริ่มขึ้น มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่น่าตื่นเต้นอะไรเลย ยายมีโมถูกคยองจาจัดการอย่างง่ายดาย มีดในมือคยองจาแทงเข้าไปที่ร่างของยายมีโม แต่ยังไม่ทันจะได้ซ้ำมีดที่สอง โมมีก็มาถึงแล้วคว้าเอาของแข็งทุบเข้าไปที่ท้ายทอยของคยองจา จนสลบเหมือดลงไปนอนกองกับพื้น ไม่นานนัก ยายมีโมก็สิ้นใจ
โมมีลงมาช่วยมีโมที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ขึ้นจากชั้นใต้ดิน คยองจาก็ยืนจังก้าในมือถือลูกซองสไลด์ห้านัดเอาไว้ในมือ เหมือนเดิม โมมีพุ่งเข้าชาร์จก่อนที่คยองจาจะลั่นไก ลูกกระสุนพุ่งขึ้นไปบนเพดาน ปืนไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริง ๆ ทั้งสองต่อสู้กันด้วยมือเปล่า ตอบโต้กันไปมาจนเลือดท่วมตัว
เสียงไซเรนรถตำรวจดังมาแต่ไกล รถตำรวจมากกว่าสิบคันค่อย ๆ จอดอยู่ด้านหน้า เจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือเล็งไปที่โมมี โมมีที่ตอนนี้สภาพสะบักสะบอมกำลังเดินออกมานอกประตูบ้านพร้อมกับมีโม “ยกมือขึ้น คิมโมมี” เสียงตำรวจประกาศดังลั่น โมมียกมือขึ้นตามคำสั่ง
ทันใดนั้น คยองจาก็โผล่ออกมาพร้อมด้วยลูกซองสไลด์ห้านัด “คนอย่างแก ต้องเจ็บเจียนตายเหมือนอย่างที่ฉันรู้สึก” คยองจาเล็งปากกระบอกปืนไปที่มีโม เปรี้ยง ! โมมีโถมตัวเข้าไปกอดลูกสาวเพื่อรับกระสุนแทน โมมีตายคาที่ … ป้าคยองจาก็ถูกลูกกระสุนเจ้าหน้าที่ยิงเข้ากลางกบาลตายคาที่เช่นกัน
บทสรุป
หลังจากนั้น อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนไป มีโมกลับมาคืนดีกับเพื่อนซี้เยชอน พ่อแม่ของเยชอนกลายเป็นผู้ปกครองของมีโม ความเกลียดชังหายไปจากใจมีโมจนหมดสิ้น … มีโมหยิบม้วนวิดีโอสมัยแม่ยังเด็กกำลังเต้นบนเวทีขึ้นมาเปิดดู ดูไปน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
จบบริบูรณ์
Images : Netflix
ดูซีรีส์ Mask Girl ที่ Netflix : คลิกที่นี่