Skip to content
สรุปเนื้อเรื่อง Believer (2018)

สรุปเนื้อเรื่อง Believer (2018)

Believer (2018) สปอยล์ : ตำรวจตามล่า ‘ท่านอี’ เจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ ที่ไม่เคยเปิดเผยใบหน้า กระทั่งได้รับความร่วมมือจากผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์โรงงานผลิตยาระเบิด …

แนว : แอ๊คชั่น อาชญากรรม
เรต : 16+
คะแนน : 6/10
IMDb เรตติ้ง : 6.6

วอนโฮ (รับบทโดย โจจินอุง) หัวหน้าทีมตำรวจสายสืบแผนกยาเสพติด ที่ทุ่มเทเวลาตลอดสองปี พยายามโค่นล้ม ‘ท่านอี’ เจ้าพ่อแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย เพียงแต่ไม่เคยมีใครเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาเลย ทุกครั้งที่วอนโฮตามสืบจนใกล้ถึงตัว ‘ท่านอี’ ความตายก็มักมาเยือนสายที่ให้ข่าวคนนั้น

ครั้งนี้ วอนโฮได้ติดต่อเยาวชนหญิงติดยาคนหนึ่งให้เป็นสาย เพื่อหวังจะได้เข้าถึงตัวท่านอี แต่ยังไม่ทันได้เริ่มงาน เธอก็ถูกทำร้าย และจับมัดเอาร่างอันบอบช้ำมาทิ้งที่ลานจอดรถ แม้วอนโฮจะพาเธอไปโรงพยาบาล แต่อาการก็หนักเกินกว่าที่หมอจะยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ก่อนสิ้นใจ เธอได้เขียนสัญลักษณ์บางอย่างให้เขาบนกระดาษ เป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี้

วอนโฮถูกผู้บังคับบัญชาเรียกไปต่อว่า ที่ทำงานพลาดและคว้าน้ำเหลวมาตลอดสองปี จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้แม้แต่ ‘ท่านอี’ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แถมยังก่อเรื่องใช้เยาวชนเป็นสายและทำเธอตาย … ความผิดใหญ่ขนาดนี้เขาต้องถูกถอดออกจากภารกิจ แต่เขาก็ยังดื้อขอโอกาสทำภารกิจล่า ‘ท่านอี’ ต่อไป เพราะมันฆ่าลูกน้องของเขา ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องล่าตัวมันให้ได้

ผู้รอดชีวิต

วันหนึ่ง เกิดเหตุระเบิดที่โรงงานผลิตยาแห่งหนึ่ง โอยอนอ๊ก ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสังหารกลับรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด เธอจึงตัดสินใจไปหาวอนโฮ เพื่อช่วยให้เขาจับตัว ‘ท่านอี’ โดยแลกกับการที่เธอจะได้รับความคุ้มครอง โดยอาศัยอยู่ที่สำนักงานตำรวจ และขอให้เคลียร์คดีที่อยู่ในชั้นอัยการให้เธอด้วย

โอยอนอ๊กให้ข้อมูลว่า ‘ท่านอี’ อยู่เบื้องหลังการสังหารผู้บริหารระดับสูง เพื่อปรับองค์กรขนานใหญ่ ซึ่งเป็นวิธีที่ ‘ท่านอี’ ใช้มาตลอด แต่เธอก็ไม่เคยเห็นหน้า ‘ท่านอี’ เช่นกัน … อย่างไรก็ตาม โอยอนอ๊กถูกวางยา และเสียชีวิตทันทีระหว่างกินอาหาร

เวลาเดียวกัน วอนโฮได้รับแจ้งว่าพบผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ระเบิด เขาคือ ’ซอยองรัก’ (รับบทโดย รยุจุนยอล) และยังพบสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนแม่ของเขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ … ตำรวจพาเขาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ที่นั่นเขาพยายามหลบหนี แต่ก็ไม่รอด ถูกตำรวจจับได้ และพาตัวมาสอบสวน

วอนโฮพยายามหว่านล้อมให้ซอยองรักให้การที่เป็นประโยชน์ แต่เขากลับปิดปากเงียบ จนกระทั่งวอนโฮพูดถึงสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และพาเขาไปเจอสุนัขที่กำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ เขาจึงยอมเอ่ยปากพูด

ซอยองรักเล่าว่า เมื่อก่อนเคยมีอยู่สองสามคนที่อ้างว่าตัวเองเป็น ‘ท่านอี’ ทำให้เกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง นำไปสู่เหตุระเบิดเพื่อล้างบางองค์กร

ซอยองรักมีตำแหน่งเป็นผู้ประสานงานในองค์กร และเป็นคนติดต่อแก๊งยาเสพติดชาวจีน เพื่อขยายตลาด ซึ่งมณฑลจี๋หลินเป็นตลาดค้ายาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ที่สำคัญคือ พรุ่งนี้เขาต้องไปพบหัวหน้าแก๊งค้ายาชาวจีน เพื่อคุยกันเรื่องธุรกิจ

วอนโฮจึงสั่งให้ลูกน้องวางแผนจัดฉาก ในการพบกับ จินฮาริม หัวหน้าแก๊งค้ายาชาวจีนสุดโหด …

ไลก้า

เมื่อถึงเวลานัด ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน เพียงแต่จินฮาริมกับเมียของมันบ้าเกินพิกัด มันหยิบเอาลูกตามนุษย์ใส่แก้วแล้วรินเหล้าส่งให้วอนโฮดื่ม วอนโฮก็ต้องตีเนียนดื่มและเคี้ยวลูกตาลูกนั้นเข้าไปจนหมด วอนโฮสามารถรับมือเอาไว้ได้ ก่อนที่ซอยองรักจะหยิบเอายาเสพติดชนิดใหม่ที่มีชื่อว่า ‘ไลก้า’ ออกมาให้หัวหน้าแก๊งชาวจีนกับเมียของมันได้ลอง ซื้ดไปสองปื๊ดเท่านั้นแหละ ของขึ้น จนทั้งสองเข้าไประบายอารมณ์กันในห้อง

จากนั้น วอนโฮก็รีบไปเปลี่ยนชุด ปลอมตัวเป็นจินฮาริม ส่วนซอยองรักก็ลงไปรับ พัคซอนชาง (รับบทโดย พัคแฮจุน) หัวหน้าสายตรงของเขา ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ วอนโฮแสดงบทบาทเป็นจินฮาริมได้เหมือนเป๊ะ ทั้งความบ้า ความเพี้ยน และความโหด

จนถึงตอนที่ซอยองรักหยิบเอาไลก้าออกมาให้วอนโฮลอง พัคซอนชางเห็นสินค้าสีขุ่นผิดปกติ เขาจึงหยิบสินค้าที่เขาเตรียมไว้ออกมาให้ลองแทน จังหวะนั้น วอนโฮเห็นพัคซอนชางเริ่มระแวง เขาจึงต้องออกอาการแกล้งบ้า กวาดจานบนโต๊ะทิ้ง และขึ้นเสียงให้พัคซอนชางเอาของมาให้ลองเร็ว ๆ เมื่อสูดเข้าไปสองปื้ด ฤทธิ์ของยาก็เริ่มทำงาน วอนโฮพยายามฝืนควักปืนออกมากรอกปากพัคซอนชาง แล้วถามว่า “แกใช่ท่านอีหรือเปล่า ?” เมื่อได้คำตอบว่าไม่ใช่ เขาจึงไล่ทั้งคู่ออกไป ก่อนจะฝืนเดินเข้าห้องไป

เมื่อเข้ามาถึงห้อง วอนโฮก็ล้มลง จากอาการช็อกเพราะได้รับยาเกินขนาด พวกลูกน้องต้องเข้ามาช่วยเอาร่างเขาลงไปแช่ในน้ำเย็น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ดีขึ้น ตอนนี้วอนโฮหยุดหายใจไปแล้ว !

หลังส่งพัคซอนชางกลับ ซอยองรักก็รีบขึ้นมาหาวอนโฮทันที โชคยังดีที่ซอยองรักมีความรู้ในเรื่องการช่วยชีวิตคนเสพยาเกินขนาด ในที่สุด วอนโฮก็รอดตาย

โรงงานผลิตยากับคนใบ้สองคน

ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผน จินฮาริมให้ลูกน้องนำสารตั้งต้นมาให้ที่โรงงานผลิตเกลือ ที่ด้านในทำเป็นโรงงานผลิตยา โดยมีคนใบ้สองคนเป็นมือปรุงยา ซึ่งคนที่สั่งงานคนใบ้สองคนนี้ได้มีเพียงคนเดียวคือซอยองรัก นั่นเป็นเพราะเขาเป็นคนเดียวที่พูดภาษามือได้

แล้วคืนนั้น สองใบ้ก็เริ่มปรุงยาทันที เพื่อให้ทันกำหนดส่งของในอีกสองวัน

ระหว่างนั้น วอนโฮก็ได้หลักฐานที่เจอในที่เกิดเหตุระเบิด เป็นรูปถ่ายครอบครัวของซอยองรัก แต่เด็กในรูปไม่ใช่ซอยองรัก มันทำให้วอนโฮเกิดความสงสัย จึงเรียกมาถามความจริง ซอยองรักจึงได้เล่าว่า เขาอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ขนยาเสพติด และแม่ก็เป็นคนเลี้ยงเขามาตั้งแต่แปดขวบ ต่อมาลูกชายของแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แม่จึงให้เขาใช้ตัวตนเป็นซอยองรักนับตั้งแต่นั้น “แบบนี้มันก็เท่ากับผมคือซอยองรักไม่ใช่เหรอครับ ?”

ในคืนเดียวกันนั้น ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญขับรถมาที่โรงงานผลิตเกลือ พัคซอนชางแนะนำให้ซอยองรักรู้จักกับ ผอ.ไบรอัน (รับบทโดย ชาซึงวอน)

เมื่อ ผอ.ไบรอันปรากฏตัว วอนโฮก็สั่งให้ลูกน้องค้นประวัติทันที เพราะเขาไม่มีอรายชื่ออยู่ในลิสต์รายชื่อแก๊งมาก่อน เมื่อค้นประวัติ วอนโฮก็พบสัญลักษณ์ประจำตัวของ ผอ.ไบรอัน เป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี้ ซึ่งตรงกับสัญลักษณ์ที่เยาวชนหญิงเขียนให้เขาก่อนตาย ตอนนี้วอนโฮเริ่มสงสัยว่า ผอ.ไบรอันอาจจะเป็น ‘ท่านอี’

แผนแตก

ผ่านไปสองวัน สองใบ้ก็ปรุงยาเสร็จ ซอยองรักกับวอนโฮจึงเตรียมขนยาไปส่ง ทันใดนั้น ลูกน้องของจินฮาริมก็มาจับตัวทั้งสองไป

จินฮาริมยืนหัวเราะอยู่หน้าวอนโฮ ก่อนจะหยิบป้ายตำรวจของวอนโฮออกมา “แกไม่ใช่ ‘ท่านอี’ แต่แกคือตำรวจยังไงล่ะ” จินฮาริมโกรธจัด เขาลั่นออกมาว่าจะหั่นทั้งสองเป็นชิ้น ๆ ก่อนจะโยนให้หมารับประทาน วอนโฮอาศัยจังหวะที่จินฮาริมจ้อไม่หยุด คว้าเอาปืนในมือของลูกน้องจินฮาริม ก่อนที่ซอยองรักจะคว้าเอาปืนเล็งกระสุนเข้าไปที่กลางกบาลของจินฮาริม ตายคาที่ … ส่วนเมียก็ตายเหมือนกัน เนื่องจากเสพยาเกินขนาด

ระหว่างนั้น ตำรวจลูกน้องของวอนโฮก็เข้าไปตรวจสอบในโรงงานผลิตเกลือ โดยที่ไม่รู้ว่าด้านในได้วางกับระเบิดเอาไว้ ทำให้ลูกน้องของวอนโฮเสียชีวิตไปหนึ่งนาย

วอนโฮเสียใจมากที่เสียลูกน้องไป เขาโกรธมาก โดยโทษว่าเป็นความผิดของซอยองรักที่ไม่บอกเรื่องระเบิดที่อยู่ในโรงงาน ซึ่งซอยองรักก็แก้ตัวว่า เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าสองใบ้จะวางกับดักระเบิดเอาไว้ เขาได้แต่เพียงขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ท่านอีและสัญลักษณ์อินฟินิตี้

วอนโฮกับซอยองรักเอาของไปส่งให้พัคซอนชาง โดยมี ผอ.ไบรอันอยู่ด้วย ในตอนนั้น ผอ.ไบรอันได้สั่งให้พัคซอนชางพาตัวซอยองรักไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเตรียมไว้สำหรับสังหารซอยองรักทิ้งซะ

ส่วนวอนโฮก็มานั่งคุยกับ ผอ.ไบรอันอีกห้องหนึ่ง ในตอนแรกวอนโฮก็เข้าใจว่า ผอ.ไบรอันนี่แหละคือ ‘ท่านอี’ เพราะได้เห็นเขาสวมแหวนที่มีสัญลักษณ์อินฟินิตี้ แต่เมื่อได้คุยเพียงแค่ไม่กี่ประโยค วอนโฮก็รู้ได้ในทันทีว่า ผอ.ไบรอันไม่ใช่ ‘ท่านอี’

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ก็มีผู้หญิงเข็นกล่องมาให้ แล้วบอกว่าเป็นของ ‘ท่านอี’ ส่งมาให้ เมื่อ ผอ.ไบรอันเปิดกล่องดูก็ถึงกับผงะ เมื่อพบว่าเป็นมือมนุษย์ที่เต็มไปด้วยเลือด และในมือก็กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น ทันใดนั้น สายจาก ‘ท่านอี’ ก็โทร. เข้ามา วอนโฮจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ก็มีระเบิดควันปาเข้ามาในห้อง ก่อนจะระดมยิงเข้าใส่ไม่ยั้ง วอนโฮได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขน ส่วน ผอ.ไบรอันก็สลบและถูกจับตัวไป

ท่านอีตัวจริงกับท่านอีตัวปลอม

เมื่อ ผอ.ไบรอันฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองถูกจับมัดอยู่กับเก้าอี้โลหะ ส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือ ‘ซอยองรัก’ ขณะนี้ ผอ.ไบรอันสั่นเทาไปทั้งร่าง … และมือที่ถูกตัดก็คือมือของพัคซอนชางนั่นเอง

ซอยองรักพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แล้วเอ่ยออกไปว่า ก่อนหน้านี้มีคนอ้างตัวเป็น ‘ท่านอี’ ถึงเก้าคน แต่ไม่มีคนไหนเลยที่กล้าทำขนาดนี้ พูดถึงตรงนี้ ซอยองรักก็ถึงกับหัวเราะออกมา ที่ ผอ.ไบรอันทำผิดพลาดอย่างมหันต์ถึงสามอย่าง หนึ่งคือแม่บุญธรรมของเขาที่ต้องตายอย่างทรมาน ทั้งที่จริง ๆ แล้วเธอควรจะตายในทันที … สอง คือหมาของเขาที่ยังไม่ตาย และต้องทนทรมานกับอวัยวะภายในเสียหายยับเยิน … และสุดท้ายที่แย่ที่สุด คือคิดว่าตัวเองเป็น ‘ท่านอี’ ต่อหน้าเขา

จากนั้น สองใบ้ก็เป่าไฟไปที่หลังของ ผอ.ไบรอัน ให้เป็นแผลไฟไหม้เหมือนกับสุนัขของเขาโดนกระทำ ผอ.ไบรอันร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด

ไม่นานนัก วอนโฮก็ได้รับโทรศัพท์จาก ‘ซอยองรัก’ โดยบอกว่า “ให้มาเจอกับ ‘ท่านอี’ ที่ชั้นหนึ่งของสถานีรถไฟ’

วอนโฮเจอกับ ผอ.ไบรอันที่นอนหมดสติ หลังเป็นแผลไฟไหม้คล้ายกับสุนัขตัวนั้น ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ‘ท่านอี’ ตัวจริงคือ ‘ซอยองรัก’

ผู้บัญชาการตำรวจสั่งปิดคดีนี้ทันที เพราะจับตัว ผอ.ไบรอันที่อ้างตัวเป็น ‘ท่านอี’ ได้แล้ว แม้วอนโฮพยายามจะบอกว่าไม่ใช่ ‘ท่านอี’ ตัวจริง แต่ผู้บัญชาการก็ไม่สนใจ จนวอนโฮก็ต้องยอมทำตามคำสั่ง เขาเดินออกมาหาลูกน้องแล้วสั่งให้ทุกคนไปพัก คดีปิดแล้ว

ไลก้า

จากนั้น วอนโฮก็รีบไปที่โรงพยาบาลสัตว์ เขาไปหาสุนัขตัวนั้นและเรียกชื่อมันว่า “ไลก้า” เรียกปุ๊บหันควับเลย แล้วเขาก็แอบติดจีพีเอสเอาไว้ที่เจ้าไลก้า

ต่อมา วอนโฮก็ขับรถไปตามจีพีเอสไปในพื้นที่ห่างไกลที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ จนมาเจอกับบ้านหลังหนึ่ง เขาเดินเข้าไปแล้วก็พบเจ้าไลก้า สองใบ้ และซอยองรักอยู่ที่นั่น

ซอยองรักดริปกาแฟให้วอนโฮดื่ม วอนโฮหยิบปืนรีวอลเวอร์ของตำรวจขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ ซอยองรักก็หยิบปืนกึ่งอัตโนมัติของเขามาวางไว้บนโต๊ะเช่นกัน

ความเงียบงันปกคลุมภายในห้อง น้ำตาของวอนโฮเริ่มซึมออกมา แต่เขาพยายามกลั้นมันเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา ก่อนจะถามซอยองรัก “เกิดมานายเคยมีความสุขบ้างมั้ย ?”

ไม่มีคำตอบ ในห้องยังคงเงียบงัน ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด โดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน !!?

จบภาค 1

อธิบายตอนจบ Believer (2018)

ท่านอี’ คือใคร ?

เนื้อเรื่องพยายามชี้ให้เชื่อว่า ‘ท่านอี’ น่าจะเป็น ‘ซอยองรัก’ แต่ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนขนาดนั้น หรือบางทีท่านอีอาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริง ๆ ก็เป็นได้ แต่คนที่เชื่อแน่ ๆ ว่า ‘ซอยองรัก’ คือ ‘ท่านอี’ ก็คือวอนโฮ

ใครตายในตอนจบ ?

เรื่องจบแบบปลายเปิด ไม่มีอะไรที่บ่งชี้ได้เลยว่าเสียงกระสุนปืนหนึ่งนัดในตอนจบ เป็นเสียงจากปืนของใคร และยิงไปถูกใคร หรือมีใครตาย ? แต่ …

แต่ถ้าวิเคราะห์จากน้ำหนักของเสียง น่าจะเป็นปืนของ ‘ซอยองรัก’ มากกว่า

ดู Believer (2018) ที่ Netflix >>> คลิกที่นี่