Fool Me Once ชื่อภาษาไทยว่า “อย่าหลอกกัน” เป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนของ Netflix สร้างจากนวนิยายของนักเขียนชื่อดัง ฮาร์ลาน โคเบน ซึ่งมีพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และเต็มไปด้วยการหักมุม โดยเฉพาะในตอนจบ
โดยซีรีส์จะติดตามเรื่องราวของ มายา (รับบทโดย มิเชลล์ คีแกน) อดีตทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่พยายามสืบหาความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ โจ (รับบทโดย ริชาร์ด อาร์มิเทจ) สามีของเธอ ซึ่งระหว่างการหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริง เธอต้องเจอกับเบาะแสที่ขัดแย้งกันมากมาย
อย่างไรก็ตาม แม้ตอนจบของซีรีส์จะเคลียร์ปมส่วนใหญ่จนเกือบหมด แต่ “โคเบน” ก็จงใจทิ้งตอนจบแบบปลายเปิดเอาไว้ เพื่อให้คนดูอย่างเราเอาไปคิดต่อให้ปวดหัว
คำเตือน : เนื้อหามี สปอยล์ !
ทำไม “เชน” ต้องทำตัวน่าสงสัย ?
ตลอดทั้งเรื่อง มีตัวละครหนึ่งที่น่าสงสัย จนทำให้หลายคนคิดว่า คนคนนี้แหละคือฆาตกรตัวจริง เชน (รับบทโดย Emmett J Scanlan) เพื่อนสนิทของมายา เป็นคนที่เธอมักจะทิ้งลูกสาวตัวน้อยไว้ให้ดูแลเป็นประจำ นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอเชื่อใจเขามาก อีกทั้งยังเป็นคนที่ช่วยเธอหลาย ๆ อย่าง หนึ่งในนั้นคือ การช่วยเธอตรวจสอบปลอกกระสุน ซึ่งนำไปสู่ความจริงที่ว่า “โจฆ่าแคลร์” พี่สาวของเธอ
นอกจากนั้น มายายังขอให้เชนไปสืบเรื่อง นักสืบซามี (รับบทโดย อะดีล อัคห์ตาร์) เนื่องจากเธอได้เบาะแสว่า นักสืบซามีรับสินบนจากแม่ของโจ (ในภายหลังเราจะรู้ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของแผนการของจูดิธ ที่ต้องการปั่นหัวมายาให้กลายเป็นบ้า)
เรื่องของเรื่องคือ ตัวละครเชนเนี่ย ทำอะไรหลายอย่างที่ชวนน่าสงสัย อย่างเช่น เขาแอบติดตั้งอุปกรณ์ติดตามไว้ที่รถของมายา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม และเขายังแอบเข้าไปในบ้านมายาตอนกลางดึก ทำให้ทุกคนตกใจ โดยเฉพาะลิลลี่ ลูกสาวตัวน้อยของมายา
พฤติกรรมที่น่าสงสัยของเชนไม่ได้ถูกอธิบายเอาไว้ในซีรีส์ ดังนั้น สิ่งที่จะทำได้ก็คือเดา และคำอธิบายที่น่าจะตรงมากที่สุด คือ นักเขียนต้องการใช้ตัวละครนี้เบี่ยงเบน เพื่อหลอกให้เราหลงทาง ก่อนที่สุดท้ายจะหักมุมเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดเผยว่า คนร้ายตัวจริงคือใคร
และก็เป็นไปได้ว่า พฤติกรรมแปลก ๆ ที่เชนทำ เป็นเพราะเขาเป็นห่วงมายาจริง ๆ จึงทำให้เขาจับตาดูเธอ แม้ระหว่างนั้นเราจะตั้งคำถามว่า “เชนแอบชอบมายาหรือเปล่า ?” แต่ความสงสัยนี้ถูกปัดตกไป เพราะเชนไม่แสดงออกให้เห็นเลยว่า เขาความรู้สึกในเชิงชู้สาวกับเธอ
ใครฆ่าโจ ?
ในตอนสุดท้าย EP.8 เราได้รู้ความจริงว่า มายาเป็นคนยิงโจที่สวนสาธารณะ ซึ่งตรงกับข้อสงสัยของนักสืบซามี โดยปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนที่เธอซ่อนเอาไว้ในช่องลับ ซึ่งมีแต่เธอกับโจเท่านั้นที่รู้ที่ซ่อน และเป็นปืนกระบอกเดียวกับที่ใช้ลั่นไกสังหารแคลร์ พี่สาวของมายา
เหตุผลที่มายาจัดฉากฆ่าโจ เริ่มต้นจากความสงสัยว่าโจเป็นฆาตกรที่ฆ่าแคลร์ เธอจึงนำเอาปลอกกระสุนที่ยิงจากปืนกระบอกนั้นไปตรวจสอบ ผลปรากฏว่ากระสุนที่ใช้สังหารแคลร์มาจากปืนของเธอ นั่นก็หมายความว่าโจต้องเป็นคนฆ่าแคลร์
ทีนี้ เมื่อรู้แล้วว่าโจเป็นฆาตกร มายาจึงวางแผนสังหารโจที่สวนสาธารณะ แล้วจัดฉากว่าเป็นการ ปล้นฆ่า
ด้วยความที่มายามีอาวุธปืนชนิดเดียวกัน แบบเดียวกันสองกระบอก กระบอกหนึ่งไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนอีกหนึ่งกระบอกซ่อนเอาไว้ เธอจึงสับเปลี่ยนปืน ก่อนที่จะนัดโจให้มาเจอที่สวนสาธารณะ มายาใช้วิธีนี้เหมือนเป็นการลองใจโจครั้งสุดท้าย
เมื่อทั้งสองมาเจอกันที่สวนสาธารณะ มายาบอกกับโจว่า เธอรู้ความจริงที่เขาฆ่าแคลร์ ทำให้โจเผยธาตุแท้ของตัวเอง เขาชักปืนเล็งไปที่มายาแล้วลั่นไก ซึ่งแน่นอนว่าปืนมันใช้การไม่ได้ ทำให้มายาตัดสินใจลั่นไกยิงใส่เขาทันที โดยเธอตั้งใจยิงสองนัดแรกให้เขาบาดเจ็บ เพื่อให้เหมือนเป็นการยิงที่เกิดจากการปล้น ก่อนที่นัดสุดท้ายจะยิงปลิดชีวิตเขาที่หน้าอก ตอนนั้นเอง เธอก็เข้าไปกอดร่างที่ไร้ลมหายใจของเขา เพื่อตบตาตำรวจว่าเธอเสียใจกับการจากไปของสามี
ระหว่างนั้น มายาเห็นเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์อยู่แถวนั้น จึงชี้เบาะแสกับตำรวจไปว่า เธอกับโจถูกเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นปล้น เพื่อเบี่ยงเบนให้ตำรวจสืบสวนผิดทาง แต่ …
แต่มีคนขี่จักรยานคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเห็นว่ามายาเป็นคนลั่นกระสุนสังหารโจ ซึ่งเธอก็รู้อยู่แล้วว่ามีพยานคนนี้อยู่ (มายารู้ว่ายังไงเธอจะถูกจับในที่สุด) แต่ที่เธอต้องการจริง ๆ คือ ซื้อเวลาให้ตำรวจสืบผิดทาง เพื่อจะได้มีเวลาสืบหาเหตุผลว่า “ทำไมโจต้องฆ่าแคลร์ ?”
ทำไมโจต้องฆ่าแคลร์ ?
เรื่องมันย้อนกลับสมัยที่มายายังเป็นทหาร มีนักแฉคนหนึ่งเผยเรื่องที่เธอทำสิ่งที่ผิดพลาด โดยการสังหารพลเรือนในสนามรบ ทำให้เธอถูกปลดจากกองทัพ ทีนี้ แคลร์แอบไปเจรจากับนักแฉ ให้หยุดการแฉ (โดยที่มายาไม่รู้) และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน แคลร์ต้องสืบเรื่องทุจริตของบริษัทยาที่เธอทำงานอยู่ ซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัวโจ
แคลร์สืบไปสืบมาจนได้พบความลับอันน่าตกตะลึง บริษัทยาของครอบครัวโจทำการปลอมแปลงผลการวิจัย เพื่อทำให้ยาออกวางขายได้ เมื่อโจรู้จึงตัดสินใจสังหารแคลร์ โดยใช้ปืนของมายา แล้วจัดฉากว่าเป็นการปล้น
ต่อมา มายาได้เจอกับนักแฉ เธอจึงได้รู้ความจริง จากนั้น มายาก็เริ่มหมกมุ่นกับการวางแผนทำลายครอบครัวของโจ ยิ่งเมื่อได้รู้ว่า ยาเหล่านั้นทำให้คนที่กินเข้าไปเป็นอันตรายถึงชีวิต ยิ่งทำให้มายารู้สึกขยะแขยงกับครอบครัวของโจ ที่ร่ำรวยมาจากเงินสกปรกและชีวิตของมนุษย์ (นักสืบซามีก็ได้รับผลกระทบจากยานี้เช่นกัน)
และมายายังสืบจนรู้ด้วยว่า โจเป็นคนฆ่าแอนดรูว์ พี่ชายของตัวเอง โดยการผลักตกเรือยอตช์ เพราะแอนดรูว์รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ในอดีต ที่เคยร่วมกับโจและกลุ่มเพื่อน รังแกเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งจนเสียชีวิต
ณ จุดนี้ มายารู้แล้วว่า โจมีพฤติกรรมไม่ต่างไปจากฆาตกรต่อเนื่อง เธอยังเชื่ออีกว่า แม่ของโจรู้เรื่องทุกอย่าง แถมยังช่วยโจปกปิดความผิด
Fool Me Once ตอนจบ
ในตอนจบ นักสืบซามีตามสืบจนพบกับคนขี่จักรยาน ที่เห็นเหตุการณ์ที่สวนสาธารณะ เขาจึงรู้ว่า มายาคือคนฆ่าโจ เขาตามไปจนจับตัวมายาได้ แต่มายาขอเวลาให้เธอได้ทำตามแผนที่วางเอาไว้ให้สำเร็จก่อน โดยเธอได้เล่าเรื่องการปลอมแปลงผลการวิจัยยา ซึ่งนักสืบซามีเชื่อ เพราะเขาเองก็ได้รับผลข้างเคียงที่เกิดจากยานี้เช่นกัน
แผนคือ มายาจะเข้าไปหาจูดิธ พร้อมกับน้องสาวและน้องขายของโจ โดยมีการแอบติดตั้งกล้อง เพื่อใช้ถ่ายทอดสดเอาไว้ภายในห้อง มายาหยิบปืนพกออกมาแล้ววางเอาไว้บนโต๊ะ ในขณะที่เธอพยายามหลอกล่อให้จูดิธเผยความจริงทั้งหมดออกมา ส่วนเธอก็สารภาพเช่นกันว่าเป็นคนฆ่าโจ
ในท้ายที่สุด เมื่อทุกคนเผยความจริงออกมาผ่านกล้องถ่ายทอดสด นีล น้องชายของโจก็หยิบปืนที่มายาวางเอาไว้ ลั่นไกใส่มายาจนเสียชีวิต ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องจากคนทั่วโลกผ่านการถ่ายทอดสด … ซึ่งเป็นแผนที่มายาวางเอาไว้ตั้งแต่ต้น เธอเลือกที่จะจบแบบนี้
ทำไมมายาเห็นโจในกล้องสอดแนม ?
ความจริงคือโจตายไปแล้วด้วยมือของมายา แล้วทำไมเขายังปรากฏตัวในภาพจากกล้องสอดแนม ?
สั้น ๆ คือ ภาพของโจเป็นภาพที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (Deepfake) ซึ่งเป็นแผนของจูดิธ เพราะเธอต้องการปั่นประสาทมายาให้กลายเป็นบ้า เพราะจูดิธรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่ามายาเป็นคนฆ่าโจ
ดูซีรีส์ Fool Me Once ที่ Netflix >>> คลิกที่นี่