รีวิว The Beekeeper นรกเรียกพ่อ : กระทืบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้จมดิน

The Beekeeper รีวิว : พูดน้อยต่อยหนัก บู๊จัดเต็ม แม้บทจะดูงง ๆ ไปบ้าง แต่ก็ทดแทนด้วยฉากเท่ ๆ ที่มีเป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ถ้าคุณเป็นแฟนของ เจสัน สเตแธม ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ดู

ทุกไอเดียเจ๋ง ๆ ที่ประสบความสำเร็จ มักจะถูกนำไปเลียนแบบ และ John Wick ก็ไม่อาจหนีกฏนี้เช่นกัน เมื่อมีคนพบสูตรสำเร็จ ไฉนเลยจะต้องไปเสียเวลาคิดสูตรใหม่ให้เสียทั้งเงินและเวลาอีกล่ะ

เมื่อคนดูชอบฉากต่อสู้ที่แสดงให้เห็นรายละเอียดชัดเจน ดังนั้น ในหนังแอ็คชั่นทุกเรื่องก็จะจัดเต็มด้วยฉากต่อสู้ยาว ๆ โหด ๆ บ้าระห่ำ ถ่ายด้วยมุมกว้าง เพื่อให้เห็นการต่อสู้เต็ม ๆ ตามด้วยการสร้างเรื่องราวตำนานของตัวละครหลัก ซึ่งมักจะเป็นอดีตสมาชิกขององค์กรลับ ส่วนศัตรูก็มักจะเป็นพวกแก๊งมาเฟีย หรือไม่ก็เป็นเหล่ามือสังหารระดับพระกาฬ … ซึ่ง The Beekeeper ก็เดินตามรอยนี้เช่นกัน พร้อมจุดประเด็นคำถามเชิงเชิญชวน “เฮ้ยพวกแก ถ้าจอห์นวิคเป็นคนเลี้ยงผึ้งจะเป็นยังไง ?”

อดัม เคลย์ (รับบทโดย เจสัน สเตแธม) ชายผู้เงียบขรึม ไม่ค่อยพูด รักสันโดษ อาศัยอยู่ในแถบชนบทของนิวอิงแลนด์ เมืองบอสตัน วัน ๆ ก็ไม่ได้คุยกับใคร ยกเว้นกับเพื่อนบ้านหญิงวัยชราที่ชื่อ อีลอยส์ พาร์คเกอร์ (รับบทโดย ฟิลิเซีย ราชาด) ทั้งสองพูดคุยกันอย่างถูกคอ และดูเหมือนเธอจะเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา

เคลย์เลี้ยงผึ้ง และเก็บน้ำผึ้งเอาไว้โรงเก็บของอีลอยส์ เย็นวันหนึ่ง เขาไปที่บ้านอีลอยส์แล้วพบเธอนอน ‘ตุย’ อยู่บนพื้น เธอจบชีวิตตัวเอง หลังจากโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินเก็บทั้งชีวิตไปจนเกลี้ยงบัญชี

นับจากนั้นสถานการณ์ก็เริ่มเลวร้าย เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ ด้วยเหตุผลข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย ทำให้เคลย์ตัดสินใจออกล่า หาตัวผู้รับผิดชอบต่อการตายของอีลอยส์ โดยไประเบิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ซะเหี้ยนไม่เหลือซาก

แล้วความจริงก็เปิดเผยว่า เคลย์ไม่ใช่แค่คนเลี้ยงผึ้งธรรมดา แต่เขาเป็นอดีตเจ้าหน้าที่พิเศษขององค์กรลับระดับสูง โค้ดเนม ‘Beekeeper’ ที่ทำภารกิจที่กฎหมายไม่สามารถจัดการได้

หลังจากนั้น หนังก็จะเข้าสู่โหมดแอ็คชั่นบ้าระห่ำ ทั้งหมัด ทั้งปืน ทั้งระเบิด เพื่อสาวไปถึงต้นตอของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เคลย์ใช้วิธีต่าง ๆ นานาจัดการพวกชั่ว ไม่ต้องพูดเยอะเน้นต่อยหนักเข้าว่า … แน่นอนว่าในสายตาของคนดูอย่างเรา การกระทำของเคลย์ถือเป็นความชอบธรรม ที่ตอบโต้ไอ้พวกชั่วที่หากินกับการหลอกลวงผู้คน เหมือนบทกำลังทำให้ตัวละคร อดัม เคลย์ เป็นตัวแทนการล้างแค้นของคนที่เคยโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก “เมื่อกฎหมายจัดการพวกมึงไม่ได้ งั้นเจอกู” อะไรแบบนี้

Exclusive Clip : บุกทะลวงรังคอลเซ็นเตอร์

The Beekeeper เขียนบทโดย เคิร์ต วิมเมอร์ (Expendabl3s) ซึ่งบอกเลยว่าเชื่อมือได้ อย่างคำเท่ ๆ ที่ใช้ในเรื่องอย่างเช่น “เมื่อบีคีปเปอร์บอกว่าต้องตาย มันก็ต้องตาย” … แต่บทจะไม่ได้ลงลึกถึงในหลายส่วน อย่างเช่น เหล่าบีคีปเปอร์ควบคุมโดยใครในรัฐบาล ? องค์กรลับนี้มีสาขาต่างประเทศหรือไม่ หรือปฏิบัติภารกิจแค่ในอเมริกา ? แล้วบีคีปเปอร์คนอื่น ๆ มีชีวิตอย่างไร ? ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีภาคต่อ เรื่องราวเหล่านี้น่าจะถูกหยิบขึ้นมาใช้

โดยรวมถึงจะไม่ใช่หนังแอ็คชั่นชั้นยอด แต่ถ้าคุณแค่ต้องการดู เจสัน สเตแธม ระเบิดความมันด้วยฉากแอ็คชั่นสุดโหด ที่แทรกด้วยลูกเล่นเจ๋ง ๆ เข้าไปตลอดทั้งเรื่อง รับรองไม่ผิดหวัง

สรุป

ไอเดียคนเลี้ยงผึ้งที่เป็นอดีตสายลับโค้ดเนม “Beekeeper” ผู้มีหน้าที่ปกป้องรังผึ้ง (เศรษฐกิจและประชาธิปไตยของอเมริกา) เป็นไอเดียที่เจ๋ง แม้ว่ามันออกจะดูตลก ๆ หน่อยก็เถอะ แต่เมื่อมันอยู่ในมือของ เจสัน สเตแธม ในบทบาท อดัม เคลย์ ผู้คลั่งไคล้ผึ้ง ไอเดียนี้ก็ดูจะมีแววที่จะได้ไปต่อ และอาจกลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ไปอยู่ในใจของคนดูก็เป็นได้

แม้บทจะดูงงนิด ๆ และการกำกับที่ดูจะหนักมือไปซักหน่อย ทำให้เรื่องราวดูตึง ๆ นิด แต่จุดบกพร่องที่กล่าวมาก็ถูกกลบด้วยฉากเท่ ๆ ที่มีให้เห็นเป็นระยะ ๆ ก็ทำให้หนังอยู่ในเกณฑ์ที่โอเค ข้ามเส้นยาแดงผ่าแปดไปอย่างหวุดหวิด

6.5/10

เรต : R (ความรุนแรง)
แนว : แอ็คชั่น
ผู้กำกับ : David Ayer
เขียนบท : เคิร์ต วิมเมอร์
วันฉาย : 11 มกราคม 2024 (ไทย)
ความยาว : 105 นาที