สปอยล์ซีรีส์เกาหลี https://www.online-idol.com/movies-series/k-drama/k-spoiler/ idol รีแคป ซีรีส์เกาหลี สรุปหนัง สปอยล์ซีรีส์ Netflix - HBO GO - Prime Video - Disney Plus Wed, 24 Apr 2024 03:20:47 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.2 https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2020/08/cropped-idol-ico-512-min-32x32.png สปอยล์ซีรีส์เกาหลี https://www.online-idol.com/movies-series/k-drama/k-spoiler/ 32 32 สรุปเนื้อเรื่อง Queen of Tears (2024) ราชินีแห่งน้ำตา https://www.online-idol.com/2024/03/23/queen-of-tears-2024-kdrama-spoiler-38974/ Sat, 23 Mar 2024 02:33:42 +0000 https://www.online-idol.com/?p=38974 ราชินีแห่งห้างสรรพสินค้าและเจ้าชายแห่งซูเปอร์มาร์เก็ตต้องฝ่ามรสุมชีวิตคู่ จนกระทั่งความรักเริ่มกลับมาเบ่งบานราวปาฏิหาริย์อีกครั้ง

The post สรุปเนื้อเรื่อง Queen of Tears (2024) ราชินีแห่งน้ำตา appeared first on idol.

]]>
Queen of Tears สปอยล์โดย Kopook

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน
คิมจีวอน – คิมซูฮยอน

5 ปีก่อน ฮงแฮอิน (รับบทโดย คิมจีวอน) กลับมาจากไปเรียนเมืองนอก เธอปลอมตัวเข้าทำงานที่ห้างควีนส์ในฐานะเด็กฝึกงาน โดยไม่มีใครรู้ว่า เธอคือทายาทรุ่นที่สามของควีนส์กรุ๊ป

ความเป็นเด็กฝึกงานนิสัยเสียของแฮอิน เป็นที่ซุบซิบนินทาของพนักงาน ทำให้ แบคฮยอนอู (รับบทโดย คิมซูฮยอน) ชายหนุ่มจากหมู่บ้านยงดูรี หมู่บ้านชนบททางตอนใต้ของเกาหลี เข้าไปช่วยเธอจัดการกับเครื่องถ่ายเอกสาร และช่วยเหลือเธอในการทำงานหลาย ๆ อย่าง กระทั่งวันหนึ่ง เขาเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเจนเทิลแมนว่า ให้เธอทำตัวดี ๆ ถ้าไม่อยากโดนไล่ออก

“ไล่ก็ไล่สิ ฉันไม่สนหรอก”

“จริง คุณคงไม่สน ถูกไล่ออกคุณก็คงไปทำงานที่ใหม่ แต่รู้มั้ย คุณก็จะถูกไล่ออกอีก …” แล้วฮยอนอูก็เล่าในสิ่งที่แฮอินไม่คาดคิด “… ผมเรียนที่มหาลัยแห่งชาติโซล และเรียนโรงเรียนกฎหมายที่นั่น ผมเกิดที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ทางตอนใต้ ที่บ้านมีวัวสามสิบห้าตัว ผมเช่าอพาร์ตเมนต์สตูดิโอด้วยสัญญาเช่าระยะยาวสองปี แทนที่จะจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน ซึ่งหมายความว่าผมพอมีเงิน”

“นี่คุณเล่าอะไรให้ฉันฟังเนี่ย ?” แฮอินทำหน้างงใหญ่

“ที่ผมจะบอกก็คือ ถึงคุณจะถูกไล่ออกจนหางานใหม่ทำไม่ได้ แต่ผมก็สามารถดูแลคุณได้ ผมฝันอยากให้ภรรยาในอนาคตของผมทำงาน แต่ถ้าเป็นคุณ ผมคิดว่าผมทำงานคนเดียวก็ได้” พูดจบฮยอนอูก็ยิ้มอ่อน ในขณะที่แฮอินยังยืนนิ่งด้วยสีหน้างงงวย

นับแต่วันนั้น ความรักของทั้งสองก็เบ่งบาน แต่แล้วฮยอนอูก็ต้องตกใจ จนเป็นเหตุให้เขายื่นใบลาออก เมื่อรู้ว่าแฮอินเป็นทายาทรุ่นสามของควีนกรุ๊ปส์ จากนั้น เขาก็เงียบหายไปเลย

ผ่านไปหลายวัน ณ หมู่บ้านยงดูรี ขณะฮยอนอูกำลังนอนเศร้าอยู่บนเตียง เสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ค่อย ๆ ดังเคลื่อนใกล้เข้ามา เขารีบวิ่งออกไปดู หญิงสาวค่อย ๆ ก้าวเท้าลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ท่ามกลางแรงลมหมุนวนที่เกิดจากใบพัด เมื่อตั้งสติได้ เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเธอด้วยความรักและคิดถึง

ปัจจุบัน ฮยอนอูใช้ชีวิตแต่งงานกับแฮอินได้สามปีแล้ว เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยงานทีมกฎหมาย ภายใต้อำนาจการบริหารของแฮอินในฐานะ CEO

ในขณะที่ใคร ๆ มองจากภายนอกต่างอิจฉาฮยอนอู ที่โชคดีเหมือนหนูตกถังข้าวสาร แต่ใครจะรู้ว่า จริง ๆ แล้วเขาต้องทนใช้ชีวิตคู่ด้วยความอึดอัด เขาย้ายเข้าอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลฮง บ้านไม่ใช่ที่ที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย แต่บ้านเป็นที่ที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด จากท่าทีที่พ่อแม่ของแฮอินมองเขาเป็นลูกน้อง แทนที่จะมองเป็นลูกเขย

ที่บริษัท แฮอินใช้อำนาจในฐานะ CEO สั่งการทุกอย่างให้ได้ดั่งใจ ไล่พนักงานที่เธอมองว่าไร้ความสามารถ สั่งปิดแบรนด์ร้านค้าที่ไม่ทำเงิน แต่ฮยอนอูกลับเป็นคนเดียวที่ไม่เห็นด้วย เขาไม่ต้องการให้เธอใช้อำนาจเอาเปรียบคนที่ตัวเล็กกว่า แถมยังแสดงท่าทีงัดข้อต่อหน้าพนักงาน จนทำให้แฮอินไม่พอใจ

ทุกสิ่งอย่างล้วนแล้วแต่เป็นแรงกดดันที่ถาโถม อีกด้านหนึ่ง ฮยอนอูก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเขาต้องประคับประคองชีวิตคู่ และรักษาภาพลักษณ์ลูกเขยตระกูลแชโบล จนค่ำวันนั้น ฮยอนอูทนแบกรับเอาไว้ไม่ไหว เขาออกไปดื่มกับเพื่อนสนิทจนเมามาย แล้วก็เผลอลั่นร้องไห้ออกมา แต่ดูเหมือนเพื่อนของเขาจะไม่เข้าใจ การได้แต่งงานกับหญิงสาวทายาทแชโบลจะมีเรื่องอะไรไม่ดีจนถึงขั้นต้องหย่า ?

ต่อมา ฮยอนอูตัดสินใจไปปรึกษาจิตแพทย์ เขาระบายทุกสิ่งอย่างออกมา ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย เพราะต้องอยู่ในบ้านที่รวมพ่อแม่ญาติพี่น้องของภรรยา ความเครียดสะสมทีละนิด ๆ ต่อเนื่องหลายปี จนทำให้เขาแทบเป็นบ้า

“คุณควรเอาตัวออกจากความเครียดนะ ผมคิดว่าคุณกับภรรยาควรย้ายออกไปอยู่ด้วยกัน” คุณหมอแนะนำพลางยิ้มอ่อน

“ผมไม่ชอบครอบครัวภรรยา แต่จริง ๆ แล้วผมไม่ชอบภรรยายิ่งกว่า เพราะเธอไม่เคยสนใจผมเลย เธอสนแต่ตัวเอง …” ฮยอนอูพูดด้วยน้ำตาที่เอ่อเบ้า พร้อมที่จะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ “… ก่อนแต่งงาน เธอสัญญาว่าจะไม่ทำให้ผมร้องไห้ วันนี้ผมรู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องโกหก”

เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด จิตแพทย์แสดงท่าทีเห็นใจและเห็นด้วยกับการหย่าของฮยอนอู ทั้งสองโผเข้าโอบกอดกัน เหมือนเป็นการถ่ายทอดกำลังใจให้กัน ณ จุดนี้ เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้ว หย่า ต้องหย่าเท่านั้น

คืนนั้น ฮยอนอูหยิบสัญญาการหย่าออกมาจากตู้เซฟ ก่อนจะเดินไปที่ห้องของแฮอิน

“ผมมีอะไรจะพูด”

“ฉันขอพูดก่อน …” แฮอินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอหยุดไปหลายวินาทีก่อนที่จะพูดต่อ “… ฉันกำลังจะตาย วันนี้ฉันไปโรงพยาบาล หมอบอกว่า ฉันเหลือเวลาอีกสามเดือน”

ฮยอนอูช็อกกับคำพูดที่ออกจากปากภรรยา เขารีบขยับมือข้างที่ถือสัญญาการหย่าซ่อนเอาไว้ด้านหลัง ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษออกมาไม่หยุด “สิ่งที่ผมจะพูดมันไม่สำคัญอีกแล้ว สิ่งที่สำคัญคือคุณ ผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีคุณ …” พูดจบเขาก็โผเข้าไปโอบกอดเธอ “… ผมรักคุณ ฮงแฮอิน ผมรักคุณ”

ช่วงหลัง ๆ แฮอินมักมีอาการสูญเสียความทรงจำกะทันหัน บางครั้งก็สิบนาที บางครั้งก็นานเป็นชั่วโมง หมอแจ้งว่า เธอเป็น ‘โรคคลาวด์ไซโตมา’ เป็นโรคที่หายากมาก มีแค่ไม่กี่เคสบนโลก เธอเป็นคนไข้รายแรกของเกาหลี มันเป็นเนื้องอกที่แตกต่างจากเนื้องอกทั่วไป เป็นเซลล์เนื้องอกที่กระจัดกระจายไปทั่วเส้นประสาทในสมอง ทำให้สูญเสียความทรงจำชั่วคราว ถ้าอาการแย่ลง อาจเห็นภาพหลอน หรืออาจมีอาการผิดปกติทางบุคลิกภาพ ไม่มียารักษา การผ่าตัดก็เสี่ยงเกินไป เพราะเซลล์เนื้องอกกระจายไปทั่วแล้ว สุดท้ายหมอพยากรณ์โรคว่า “คุณจะมีชีวิตอยู่ได้อีกสามเดือน”

คิมซูฮยอน
คิมซูฮยอน

รุ่งเช้า ฮยอนอูตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่เขารู้สึกดีแบบนี้ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของตัวเองในกระจก เขาก็บอกกับตัวเองว่า “ต้องตีหน้าเศร้าสิ จะยิ้มดีใจไม่ได้”

ระหว่างไปทำงาน แฮอินย้ำกับฮยอนอูให้เก็บเรื่องอาการป่วยของเธอเป็นความลับ โดยเฉพาะคนในครอบครัวของเธอจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะคุณปู่สัญญาจะยกห้างควีนส์ให้ ถ้าเธอทำยอดขายได้เกินหนึ่งล้านล้านวอน ฮยอนอูรับปากว่าจะไม่บอกใครเด็ดขาด

แต่คำพูดที่ว่า “จะไม่บอกใคร” ไม่มีอยู่จริง … เที่ยงวันนั้น ฮยอนอูแอบนัดเจอกับเพื่อนสนิทที่เป็นทนาย เขาเล่าเรื่องอาการป่วยของแฮอิน พร้อมทั้งบอกว่า แฮอินเขียนระบุเอาไว้ในพินัยกรรมตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่า จะไม่ยกทรัพย์สินให้เขา ถึงอย่างนั้นฮยอนอูก็รู้สึกโอเค เพราะเขากำลังจะได้อิสระโดยไม่ต้องหย่า นั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว แต่ …

แต่เพื่อนทนายความไม่คิดแบบนั้น เขาแนะนำให้ฮยอนอูทำดีกับแฮอินในช่วงเวลาที่เหลืออีกสามเดือน ไม่แน่ เธออาจจะเปลี่ยนใจแก้ไขพินัยกรรมยกห้างควีนส์ให้เขาก็เป็นได้

คิมซูฮยอน - คิมจีวอน
คิมซูฮยอน – คิมจีวอน

ฮยอนอูเริ่มทำดีและเอาใจแฮอิน เริ่มด้วยการซื้อดอกไม้ช่อใหญ่ไปให้ เนื่องในโอกาสครบรอบวันแต่งงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำ พฤติกรรมแปลก ๆ ของฮยอนอูที่เปลี่ยนไป ทำให้แฮอินเริ่มสงสัย ตอนทานอาหาร เขาก็แกะเปลือกกุ้งให้ จนสาวรับใช้ในบ้านพากันซุบซิบนินทา

วันต่อมา ฮยอนอูคิดว่าแฮจินอาจแกล้งป่วย เขาจึงไปพบหมอเจ้าของไข้ของเธอเพื่อสอบถาม ซึ่งหมอก็บอกแบบเดียวกันว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกสามเดือน

คืนนั้น ฮยอนอูจึงเปิดคอมฯ ค้นข้อมูลในกูเกิ้ล เขาพบว่ามีผู้ป่วยหลายรายอยู่รอดได้นานหลายสิบปี ทั้งที่หมอพยากรณ์โรคว่าจะอยู่ได้แค่สามเดือน และมีบางเคสที่อยู่ดี ๆ เนื้องอกก็หายไปเองราวปาฏิหาริย์ … เสิร์ชไปเสิร์ชมาเขาก็ผล็อยหลับไป

แฮอินบังเอิญเข้ามาเห็นฮยอนอูนอนฟุบหลังบนโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมเปิดดูข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคของเธอ จังหวะนั้นฮยอนอูก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา

แฮอินหันไปมองหน้าฮยอนอูด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก พร้อมกับสารภาพว่า เธอสงสัยที่เขามาทำดีด้วย แต่เมื่อเห็นว่าเขาหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่เธอเป็นอยู่ จึงรู้ได้ทันทีว่าคิดผิด เขาเป็นคนเดียวที่สนใจและเป็นห่วงเธอ “คุณทำให้ฉันรู้สึกว่า ต้องทำทุกอย่างเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป”

จากนั้น แฮอินก็เล่าเรื่องห้องแล็บต่างประเทศที่กำลังวิจัยยาตัวใหม่ ถ้ายาถูกวิจัยจนสำเร็จ เธอก็จะมีโอกาสรอด ดังนั้น เธอจะสนับสนุนเงินทุนให้กับห้องแล็บเหล่านั้นอย่างเต็มที่ … ฮยอนอูฟังแล้วก็ทำหน้าเจื่อน ๆ

ณ งานเลี้ยงกลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุน เพื่อต้อนรับมิสเตอร์เฮอร์แมน นักลงทุนผู้ร่ำรวยจากธุรกิจน้ำมัน ที่เตรียมหาช่องทางการลงทุนธุรกิจในเกาหลี แฮอินก๋ไปร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน ที่นั่น แฮอินได้เจอกับ ยุนอึนซอง (รับบทโดย พัคซองฮุน) แฟนเก่าของเธอสมัยเรียนอยู่เมืองนอก ตอนนี้เขาเป็นมือขวาของมิสเตอร์เฮอร์แมน หลังทักทายกัน เธอจึงขอร้องให้เขาช่วยเหลือในการนำแบรนด์ดังมาเปิดที่ห้างควีนส์

อึนซองแนะนำตัวกับฮยอนอู เขาเป็นแฟนเก่าของแฮอิน และยังคงคิดถึงเธออยู่บ่อย ๆ แต่ฮยอนอูกลับไม่มีท่าทางแปลกใจหรือแสดงอาการหึงหวงออกมา ทำให้อึนซองคิดว่า ฮยอนอูไม่ได้สนใจแฮอินเลยแม้แต่นิดเดียว

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน ในซีรีส์ Queen of Tears EP.2 ราชินีแห่งน้ำตา

ต่อมา แม่ของแฮอินได้ยินชื่อเสียงของอึนซอง ในฐานะนักธุรรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จและร่ำรวย จึงบอกให้แฮอินชวนเขามาร่วมล่าสัตว์ประจำปีของครอบครัว ณ ป่าส่วนตัวของตระกูล

ระหว่างที่ทุกคนออกล่าสัตว์ตามเขตที่กำหนดเอาไว้ในแผนที่ ตอนนั้นแฮอินกำลังยกปืนเล็งไปที่ไก่ฟ้า จู่ ๆ เธอก็ตกอยู่ในภวังค์จากภาพหลอน หมอกควันปกคลุมรอบตัวจนมองอะไรไม่เห็น เธอพยายามดึงสติและบอกกับตัวเองว่าภาพที่เห็นไม่มีอยู่จริง ทันใดนั้น หมูป่าตัวใหญ่เท่าลูกช้างก็พุ่งเข้ามาหาเธอด้วยความเร็ว

“เปรี้ยง” เสียงกระสุนจากปลายกระบอกปืนในมือของฮยอนอูดังลั่นสนั่นป่า กระสุนนัดนั้นหยุดเจ้าหมูป่าได้ราวปาฏิหาริย์ ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าทำร้ายแฮอิน

‘วันช็อต’ จากปืนลูกซองในมือของฮยอนอู จัดการเจ้าหมูป่าจนนอนแน่นิ่ง การหยุดความดุร้ายของหมูป่าด้วยกระสุนนัดเดียว เป็นเรื่องที่แม้แต่พรานป่ามืออาชีพยังทำไม่ได้ง่าย ๆ เพราะหนังของมันหนามาก ต้องยิงเข้าจุดสำคัญเท่านั้น

แฮอินบอกฮยอนอูว่า “ฉันไม่เป็นไร” แต่อาการตัวสั่นหน้าซีด ทำให้เขารู้ว่า เธอยังตกใจกับวินาทีเป็นวินาทีตายที่เพิ่งเกิดขึ้น

ตกค่ำ ฮยอนอูเดินไปสำรวจบริเวณที่หมูป่าปรากฏตัว เขาพบรั้วเหล็กโดนตัด และเห็นกองเศษอาหารที่มีคนนำมาวางล่อหมูป่าให้เข้ามาในเขตล่าสัตว์ เขานำเรื่องนี้กลับไปบอกทุกคน ซึ่งคุณปู่ของแฮอินบอกจะไปเช็กกล้องวงจรปิดด้วยตัวเอง (ภาพกล้องวงจรปิดปรากฏภาพลูกชายคนโตของคุณปู่ ยืนอยู่บริเวณรั้วเหล็กที่ถูกตัด)

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน

ถึงเวลาเข้านอน ฮยอนอูรู้สึกกลัวที่จะนอนห้องเดียวกับแฮอิน เพราะปกติอยู่ที่บ้าน เขาจะแยกนอนคนละห้องกับเธอตลอด … ฮยอนอูย่องเข้าไปในห้อง แล้วค่อย ๆ หย่อนตัวลงไปบนเตียง แต่ยังไม่ทันที่จะล้มตัวลงนอน เขาก็สะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงของภรรยา “ฉันยังไม่หลับ ช่วยปลดกระดุมเสื้อด้านหลังให้หน่อยสิ”

ฮยอนอูเอื้อมมือไปปลดกระดุมให้แฮอินทีละเม็ด ๆ แต่พอถึงเม็ดสุดท้าย เธอก็บอกให้เขาหยุด ก่อนจะไล่ให้เขาไปอาบน้ำ

ระหว่างนั้น แฮอินกลับรู้สึกบางอย่าง ‘วาบ’ ขึ้นมา ความรู้สึกนั้นทำให้เธอตั้งคำถามกับตัวเอง “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาหล่อ ?”

ทันใดนั้น ฮยอนอูก็นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำ เธอหันไปมองด้วยอาการตาค้าง ละสายตาจากเขาไม่ได้เลย พลางคิดในใจ “หุ่นเขาดีขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย มีซิกแพ็กด้วย” แต่ก่อนจะคิดเตลิดไปไกล แฮอินก็ตะคอกใส่เขาด้วยคำพูดประชดประชัน “นี่คุณคิดว่าตัวเองเป็น ‘ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ’ หรือไง”

แฮอินนอนไม่หลับ เพราะเตียงเล็กและไม่คุ้นกับการมีคนนอนด้วย เธอจึงเล่าเรื่องที่เธอเคยนอนเตียงเดียวกับเขาครั้งแรก ตอนที่ไปหาเขาที่บ้าน คืนนั้น เขาและเธอนั่งดูดาวด้วยกัน ก่อนจะนอนกอดกันบนเตียงเล็กขนาด 3 ฟุต

ฮยอนอูถาม “เรานอนหลับบนเตียงเล็ก ๆ เตียงนั้นได้ยังไง ?”

“ก็เพราะเรากอดกันไงล่ะ …” แฮอินเว้นวรรคหลายวินาที ก่อนถาม “… งั้นเรามานอนกอดกันแบบตอนนั้นมั้ย ?”

คำถามของแฮอินทำให้ฮยอนอูรู้สึกอึดอัด เธอจึงบอกว่า “ไม่ต้องหรอก ฉันล้อเล่น” แล้วทั้งคู่ก็นอนหันหลังต่างคนต่างนอน

ด้านอึนซองเห็นคนงานเลี้ยงสุนัข และรักมันเหมือนสมาชิกในครอบครัว เขาจึงยื่นข้อเสนอซื้อมันในราคา 100 ล้านวอน คนงานเห็นจำนวนเงินมหาศาลก็ตกลงขาย แม้ลึก ๆ เขาจะไม่อยากขายก็ตาม

รุ่งเช้า คนงานและภรรยาเอาเงินมาคืนอึนซอง เขารู้สึกเสียใจที่ขายมัน เพราะน้องหมาเคยช่วยชีวิตลูกชายของเขา แต่ไม่ว่าคนงานจะอ้อนวอนขอร้องยังไง อึนซองก็ปฏิเสธที่จะคืนให้ แล้วจู่ ๆ เขาก็คว้าปืนขึ้นเล็งไปที่น้องหมา !

“นี่ นายกำลังทำอะไร ?” เสียงฮยอนอูตวาดลั่น

“ไม่มีอะไร แค่ล้อเล่น” อึนซองหัวเราะออกมาเหมือนเป็นเรื่องตลก

ฮยอนอูจัดแจงจนคนงานได้น้องหมาคืน … สิ่งที่เห็นทำให้เขารู้ในทันทีว่า ‘อึนซองไม่ใช่คนดี’ !

หลังกลับจากล่าสัตว์ แฮอินรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป เธอจึงไปปรึกษาหมอ เธอรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และรู้สึกวูบวาบกับสามี ทั้งที่ก่อนหน้านี้รู้สึกเย็นชามาตลอด

หมออธิบายว่า เป็นเรื่องปกติของผู้ป่วยที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเสียชีวิต แต่ดูเหมือนแฮอินจะไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าเธอกำลังจะตายโดยไม่มีทางรักษา

พัคซองฮุน - คิมจีวอน
พัคซองฮุน – คิมจีวอน

ค่ำวันนั้น อึนซองนัดดินเนอร์กับแฮอินเรื่องแบรนด์ที่จะเอามาลงห้างควีนส์ …

หลังคุยเรื่องงานเสร็จ อึนซองก็ชวนแฮอินคุยเรื่องชีวิตแต่งงาน คุยไปคุยมาเธอก็จับทางได้ว่า เขาพยายามพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับฮยอนอูให้เธอฟัง เธอจึงพูดขึ้นว่า …

“ความรักสำหรับฉันไม่ใช่แค่การที่คนสองคนมีความสุข แต่มันคือการที่คนสองคนทนความเจ็บปวดไปด้วยกัน ไม่ว่าปัญหาหนักหนาแค่ไหน ก็ทนอยู่ด้วยกันแทนที่จะเลิกรา แบบนี้สิถึงเรียกว่าความรัก”

ภาพหน้าจอจาก Queen of Tears EP.3

ระหว่างนั้นพี่สาวของฮยอนอูส่งข้อความถึงแฮอินเรื่องการหย่า ทำให้ฮยอนอูกระวนกระวายใจ กลัวแฮอินจะเห็นข้อความ

แฮอินกลับมาถึงบ้านด้วยอาการเมามาย ฮยอนอูจึงรีบตรงเข้าไปหา พร้อมกับถามด้วยความสงสัยว่า ทำไมถึงดื่มหนักขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยดื่ม เธอบอกว่า “ฉันอยากลองใช้ชีวิต อยากทำอะไรก็ทำ … มันไม่แฟร์เลย ฉันรักษาสุขภาพมาตลอดเพื่อจะได้อายุยืน แต่ดูผลลัพธ์ที่ได้สิ ฉันกำลังจะตาย”

ณ จุดนี้ ฮยอนอูไม่ได้สนใจคำพูดของแฮอินเลยสักนิด สายตาของเขาเอาแต่จับจ้องอยู่ที่กระเป๋าถือของเธอ เขาต้องการหยิบโทรศัพท์มาลบข้อความ

จังหวะนั้น แฮอินก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ฮยอนอูรีบโผเข้าไปจับข้อมือเธอ ทำให้โทรศัพท์ตกลงบนพื้น สถานการณ์ในตอนนี้ ใบหน้าของทั้งสองใกล้ชิดกัน ทั้งคู่มองตากัน …

“ฉันบอกคุณแล้วไง ตอนนี้ฉันอยากทำอะไรฉันก็จะทำ” พูดจบ แฮอินก็ดึงฮยอนอูเข้ามาจูบ

แฮอินโน้มตัวฮยอนจูเข้ามาจูบ รอยจูบที่เธอมอบความรู้สึกผ่านริมฝีปาก ริมฝีปากที่ส่งผ่านความรักอันหวานซึ้ง ทว่าสิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้ ไม่ได้อยู่ที่ริมฝีปากอันนุ่มนวลของเธอ แต่อยู่ที่โทรศัพท์ที่ตกอยู่บนพื้น โทรศัพท์ที่ตอนนี้หน้าจอดับไปเพราะแบตหมด

ฮยอนอูเดินตามแฮอินเข้าไปในห้องของเธอ เขาอาศัยจังหวะที่เธอเข้าห้องน้ำ หยิบโทรศัพท์ที่กำลังชาร์จขึ้นมาลองกดรหัสปลดล็อกหน้าจอ วันเกิด วันครบรอบ บลา ๆ ๆ ผิดทั้งหมด เขาพยายามนึก ปรากฏว่ารหัสที่ถูกต้องคือ 1031 เขาจึงเข้าไปลบข้อความทันที

เมื่อแฮอินออกมาจากห้องน้ำ เธอมองเขาด้วยท่าทางสงสัย “คุณเข้ามาในห้องฉันทำไม ?”

“เอ่อ ผมนอนไม่หลับน่ะ”

“อ๋อ เพราะฉันใช่มั้ย คุณถึงนอนไม่หลับ” แฮอินมองชายผู้เป็นสามีด้วยสายตายั่วยวน ก่อนจะหัวเราะคิก ๆ ออกมา

“เอ่อ ไม่ใช่แบบนั้น ผมแค่เป็นห่วงคุณน่ะ” ฮยอนอูท่าทางเลิ่กลั่ก ก่อนจะขอตัว แล้วก็รีบเดินออกจากห้องไป

ฮยอนอูเข้ามาในห้อง ห้องที่ทำให้เขานึกถึงเลข 1031 ที่แฮอินใช้เป็นรหัสปลดล็อกหน้าจอ เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้น นึกย้อนกลับไปถึงบาดแผลบางอย่างในอดีต

31 ตุลาคม เป็นกำหนดวันคลอดของลูก ทั้งสองดีใจมากที่ดวงใจดวงน้อยกำลังออกมาลืมตาดูโลก แฮอินจัดแจงเตรียมข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้า ส่วนฮยอนอูก็ตกแต่งห้องด้วยดาวสะท้อนแสง เขาติดมันจนเต็มห้อง แต่ตอนนี้ เมื่อเขาเงยหน้ามอง กลับเหลือเพียงดาวแค่ดวงเดียว นั่นเป็นเพราะเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ต้องเสียลูกไป นับแต่นั้นพวกเขาก็แยกห้องกันนอน แล้วความสัมพันธ์ก็เข้าสู่สภาวะแช่แข็ง

วันต่อมา แฮอินไปพบกับมิสเตอร์เฮอร์แมน เพื่อเจรจาให้แบรนด์แฟชั่นของเขามาลงที่ห้างควีนส์ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจากความช่วยเหลือของอึนซอง

วันนี้ฮยอนอูรู้สึกตื่นเต้น ที่ได้รับข้อความจากแฮอินให้รีบกลับบ้าน เพราะเธอมีข่าวดีจะบอก … เขาคิดไปเอง ข่าวดีที่ว่าอาจจะเป็นเรื่องการแก้พินัยกรรม

เมื่อกลับถึงบ้าน แฮอินยื่นซองเอกสารให้ ใบหน้าของเธอดูสดชื่นและมีรอยยิ้ม ฮยอนอูรับเอกสารมาเปิดอ่าน เธอเห็นเขาทำท่างง ๆ จึงพูดขึ้นว่า “นี่เป็นเอกสารจากศูนย์มะเร็งที่ดีที่สุดของยุโรป ถ้ารักษาที่นั่นฉันจะมีโอกาสรอด 51 เปอร์เซ็นต์ …” แฮอินหัวเราะร่าด้วยความสุข “… บอกแล้วไงว่าพระเจ้าอยู่ข้างฉัน”

ฮยอนอูโดนช็อตฟีล ทำเอาสตั๊นไปหลายวิ ก่อนจะตั้งสติฝืนยิ้มเก็บอาการ แล้วกล่าวยินดีกับเธอ

ฮยอนอูเดินออกมานอกบ้าน เขาเริ่มออกวิ่งพร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่น ระบายความเครียดความอึดอัด … ถ้าหมอรักษาแฮอินได้จริง ๆ เขาคงต้องทนอยู่กับครอบครัวนี้ไปตลอดชีวิต … พอกลับเข้ามาที่ห้อง น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาไม่หยุด เมื่อนึกถึงสิ่งที่ต้องเจอน้ำตามันก็ไหลออกมา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาคงต้องหย่าอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก

ช่วงนี้ ฮยอนอูสังเกตเห็นอึนซองมาหาแฮอินบ่อย ๆ เขารู้ว่า ‘หมอนั่น’ มาคุยกับภรรยาของเขาเรื่องงาน แต่ด้วยท่าทางกวนบาทา ทำเป็นเอื้อมมือไปจับผมแฮอินบ้างล่ะ ทำเป็นพูดจาหวาน ๆ บ้างล่ะ ทำให้ฮยอนอูรู้สึกไม่โอเค เขาพยายามแอบสอดส่องสายตา ขณะทั้งคู่กำลังคุยกันสองต่อสอง … หึงนั่นแหละ ดูออก

ฮยอนอูเอาเรื่องอึนซองไปปรึกษาเพื่อนทนาย ซึ่งเขาก็ได้คำแนะนำว่า ถ้าอึนซองเป็นมือที่สามจริง ๆ ถือเป็นเรื่องดี ได้หย่าแถมยังได้เงินก้อนอีกด้วย ฮยอนอูหันไปมองหน้าเพื่อนสนิท “ก็ดีอยู่หรอก ถ้ามันไม่ใช่ไอ้ผู้ชายโรคจิตคนนี้”

จริง ๆ แล้วอึนซองเข้าหาแฮอินมีจุดประสงค์บางอย่างซ่อนอยู่ เขากำลังวางแผนฮุบควีนส์กรุ๊ป โดยทำให้ควีนส์กรุ๊ปนำหุ้นมาค้ำประกัน

เวลาเดียวกัน พ่อของฮยอนอูกำลังลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านต่ออีกหนึ่งสมัย แต่ดูเหมือนสถานการณ์ของพ่อตอนนี้จะเสียเปรียบคู่แข่ง พี่สาวของฮยอนอูจึงขอร้องให้แฮอินมาช่วย วันนั้นแฮอินจึงมาปรากฏตัว ณ ที่ประชุมหมู่บ้าน พร้อมรถบรรทุกของควีนส์กรุ๊ปหลายคันรถ เพื่อนำอาหารมาจัดเลี้ยงคนในหมู่บ้าน ทีนี้ ชาวบ้านก็หันมาเทคะแนนให้กับพ่อของฮยอนอูอย่างท่วมท้น

แฮอินเดินเข้าไปในห้องของฮยอนอู เธอหยิบเครื่องเล่น MP3 ในลิ้นชักขึ้นมาฟัง ระหว่างกำลังนั่งฟังอยู่นั้น จู่ ๆ อาการของเธอก็กำเริบ แล้วภาพก็ตัดไป …

แฮอินรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าขาเปื้อนโคลน หันมองรอบ ๆ มีแต่ความมืด เธอได้แต่เดินไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน

คิมซูฮยอน -- คิมจีวอน
คิมซูฮยอน — คิมจีวอน

ขณะที่กำลังกลัวและสับสน เสียงยางรถจักรยานบดกับถนนก็ดังขึ้น ฮยอนอู !

ฮยอนอูออกตามหาแฮอินตั้งแต่ช่วงบ่ายจนค่ำมืด เขาขี่จักรยานหาเธอไปทั่วจนเหงื่อท่วมตัว เขารีบทิ้งจักรยานแล้วเข้าไปหาเธอทันที “ทำไมมาอยู่ที่นี่คนเดียวแบบนี้ รู้มั้ยว่าผมเป็นห่วง ?”

“ฉันมาเดินเล่น …” แฮอินทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้น้ำตาคลอเบ้า “… ห่วงทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไร”

“ขอโทษด้วยที่เป็นห่วง” ฮยอนอูหันหลังเดินกลับไปที่รถจักรยาน

จังหวะนั้นเองที่แฮอินสังเกตเห็นเหงื่อท่วมตัวฮยอนอู เธอตัดสินใจที่จะพูดความจริง “จริง ๆ แล้วฉันจำไม่ได้ว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ตรงนี้ …” เธอพูดไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมาจากเบ้า “… ฉันกลัวมาก ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

ฮยอนอูสังเกตเห็นตามตัวของแฮอินมีแต่รอยแผล และรอยเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด เขาจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปโอบกอดเธอ

ฮยอนอูปั่นจักรยานพาแฮอินซ้อนท้ายฝ่าสายฝนกลับมาถึงบ้าน

คืนนี้ ทั้งสองต้องนอนห้องเดียวกันที่บ้านยงดูรี ฮยอนอูหยิบไดร์เป่าผมมาเป่าให้ เป่าผมเสร็จเขาก็ทำแผลถลอกที่เข่าและที่ข้อมือให้เธอ ด้วยความใกล้ชิด ทำให้เกิดบรรยากาศแปลก ๆ ระหว่างคนทั้งสอง เหมือนประกายไฟเล็ก ๆ ที่กำลังจุดเชื้อไฟที่มอดดับมานานหลายปีให้กลับลุกโชนขึ้นอีกครั้ง …

ฮยอนอูค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปหาแฮอิน ทั้งสองจ้องตากัน ส่งผ่านความรู้สึก ‘บางอย่าง’ ถึงกัน เมื่อริมฝีปากของชายหนุ่มค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ เธอก็หลับตาพริ้มรอให้ริมฝีปากสีชมพูของเขาเข้ามาสัมผัส แต่ …

ยังไม่ทันที่เปลวไฟจะลุกโชน ฮยอนอูก็ช็อตฟีล เขาลุกขึ้นและเปิดประตูออกไปจากห้อง ปล่อยให้แฮอินนั่งงงอยู่บนเตียงเพียงลำพัง

ฮยอนอูเดินจ้ำออกมานอกบ้าน ปากก็พูดกับตัวเองไม่หยุด “นี่แกทำอะไรลงไป แกจะให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ แกจะทำผิดพลาดอีกไม่ได้ !?”

คิมซูฮยอน
คิมซูฮยอน

ฮยอนอูมานั่งก๊งที่บ้านพี่ชาย เขารู้สึกสับสน ความรู้สึกที่มีมันแน่นอกจนไม่อาจเรียบเรียงให้ชัดเจนได้ เขาคิดแต่เพียงว่า คืนนี้เขาจะดื่มให้เมามายเพื่อลืมความเจ็บปวดนี้ เขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก

เวลาเดียวกัน แฮอินนั่งรอฮยอนอูอยู่ในห้อง ผ่านไปเป็นชั่วโมง ทำไมยังไม่กลับ ? เธอจึงส่งข้อความไปถาม “อยู่ไหน ?” … เขาตอบกลับมาสั้น ๆ “นอนไปก่อนเลย” … แฮอินหงุดหงิดงุ่นง่านกับคำตอบที่ได้รับ เปิดหน้าต่างชะโงกหน้าออกไปตะโกนด่าหมาที่เห่าไม่เลิก “เห่าหาอะไรวะ !”

แฮอินลงไปนอนแผ่บนเตียง พยายามข่มตานอนแต่ก็นอนไม่หลับ เธอได้แต่คิดว่า “เขากลัวที่ต้องนอนกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ ?”

ไม่นาน ด้วยความเมา ฮยอนอูก็เอนตัวลงนอน ดาวที่เปล่งแสงอยู่บนฟ้าทำให้เขาคิดถึง ‘ลูก’ ลูกที่เขาไม่มีโอกาสแม้แต่ได้เห็น ความเศร้าแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตา น้ำตาที่ไหลออกมา มันไหลออกมาไม่หยุด ไม่ต่างจากฝนที่โปรยปรายลงมาไม่หยุดเช่นกัน

เมื่อสองปีที่แล้ว หลังจากเสียลูก แฮอินสั่งให้คนย้ายข้าวของในห้องลูกออกไปทั้งหมด เธอเลือกเยียวยาหัวใจด้วยการลืม เธอบอกกับตัวเองเสมอว่า เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ร้องไห้ เธอต้องเข้มแข็ง หรืออย่างน้อยก็ต้องให้คนอื่นเชื่ออย่างนั้น

ในขณะที่ฮยอนอูอยากจะเก็บทุกอย่างให้เป็นเหมือนเดิม ทั้งคู่ล้วนเจ็บปวด แต่เลือกจัดการกับความเจ็บปวดแตกต่างกัน เกิดเป็นรอยแยกที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แตกสลาย นับแต่วันนั้น เขาก็มานอนที่ห้องลูก ทั้งสองแยกห้องกันนอนนับแต่วันนั้น

เมื่อกลับมาถึงโซล ฮยอนอูประหลาดใจที่เห็นอึนซองอยู่ที่บ้าน นั่นเป็นเพราะแม่ของแฮอินเชิญเขาให้มาพักที่นี่ อ้างว่าเพื่อความสะดวกในการคุยธุรกิจกับแฮอิน

จริง ๆ แล้วอึนซองมีแผนเตะฮยอนอูออกไปจากบ้านหลังนี้ และแผนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ซูชอล (รับบทโดย ควักดงยอน) นำโปรเจกต์ใหญ่มาเสนอคุณปู่ เป็นโครงการรีสอร์ตครบวงจร มูลค่า 1.9 ล้านล้านวอน โดยใช้เงินลงทุนจากกองทุนของอึนซอง ดูเหมือนทุกคนจะเห็นดีด้วย มีเพียงฮยอนอูที่เตือนว่าโครงการนี้เสี่ยงเกินไป

แฮอินไปเยอรมนีโดยไม่บอกใคร เพราะไม่ต้องการให้ใครมองว่าอ่อนแอ ฮยอนอูพยายามโทร. หา แต่ก็ติดต่อไม่ได้

เมื่อไปถึงศูนย์มะเร็ง แฮอินเข้ารับการตรวจร่างกายก่อนเข้ากระบวนการรักษา แต่เมื่อผลการตรวจออกมาปรากฏว่า จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว (WBC) ของเธอต่ำเกินไป จึงไม่สามารถทำการรักษาได้

คิมซูฮยอน - คิมจีวอน ในซีรีส์ Queen of Tears EP.5

แฮอินมายังสถานที่ที่เรียกว่า ‘A place of no sorrow’ เธอเดินไปพลางพูดกับตัวเอง “ห้ามเครียด” เดินลงบันไดได้ครึ่งทางก็ทรุดตัวลงนั่ง เนื่องจากรองเท้ากัด ระหว่างนั้นเสียงเรียกก็ดังขึ้น “ฮงแฮอิน”

ฮยอนอูปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าพร้อมกับรองเท้าผ้าใบ เขาย่อตัวลงไปใส่รองเท้าให้ ขณะที่แฮอินยิงคำถามด้วยความสงสัย “รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่ ?”

“ตอนเรามาฮันนีมูน คุณบอกว่าชอบที่นี่มาก”

แฮอินยืนขึ้น “ฉันไม่เคยบอกว่าชอบที่นี่ ‘A place of no sorrow’ ก็แค่คำโกหกของไกด์”

“คุณก็โกหกไม่ต่างกัน คุณสัญญาจะไม่ทำให้ผมร้องไห้ บอกให้ผมเชื่อใจ แต่คุณทำให้ผมร้องไห้ตลอดเวลา รู้มั้ยทำไมผมถึงแยกห้องนอน เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าผมร้องไห้ทุกคืน”

แฮอินจ้องผู้เป็นสามี “ฉันเคยบอกคุณหรือเปล่า ฉันต้องการให้คุณอยู่เคียงข้าง …” แฮอินใช้มือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเปื้อนแก้ม ก่อนจะใช้มือข้างเดียวกันยื่นออกไป “… กลับบ้านกันเถอะ ฉันเคยคิดว่ามีปาฏิหาริย์อยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างที่ฉันต้องการคือกลับบ้านกับคุณ”

ทั้งสองโถมตัวเข้าโอบกอดกันและกัน น้ำตาหลั่งไหลออกมา ณ สถานที่ที่ไม่มีมีความเศร้า ดังนั้น น้ำตาของทั้งคู่อาจไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้า แต่เป็นน้ำตาที่เซาะทำลายกำแพงแห่งความเย็นชา น้ำตาที่เซาะกร่อนความไม่เข้าใจให้พังทลายลงไป

ภาพจากกล้องหน้ารถเผยให้เห็นคนร้ายที่ตัดรั้ว และโปรยอาหารล่อหมูป่าให้เข้าไปในเขตล่าสัตว์ ที่แท้คือ ดาฮเย ภรรยาของซูชอล และผู้ที่อยู่เบื้องหลังดาฮเย คือ อึนซอง ! แต่ดันผิดแผน แทนที่หมูป่าจะพุ่งเข้าทำร้ายประธานฮงมันแด กลับเป็นแฮอินที่รับเคราะห์แทนคุณปู่ของเธอ

คืนนั้น ดาฮเยกับอึนซองแอบเข้าไปในห้องของฮยอนอูกับแฮอิน อึนซองกำลังมองหาจุดอ่อนที่จะใช้เล่นงานฮยอนอู และก็พบภาพอัลตร้าซาวด์ ทำให้รู้ว่าทั้งคู่เคยเสียลูกไป

ต่อมา อึนซองพบว่าในตู้เซฟของฮยอนอูมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ความลับที่ว่าก็คือ ‘หนังสือสัญญาการหย่า’ !

คิมจีวอน คิมซูฮยอน
คิมจีวอน – คิมซูฮยอน

โรงแรมหรู ณ กรุงเบอร์ลิน … ฮยอนอูเคาะประตูห้องนอนของแฮอิน “ผมขอนอนห้องคุณได้มั้ย ?”

แฮอินทำหน้านิ่งรักษาทรง แต่ขาบิดไปบิดมาด้วยความเขินอาย “คุณหมายถึงเฉพาะวันนี้หรือตลอดไป ?”

“เอ่อ ผมหมายถึงตั้งแต่วันนี้และตลอดไป”

คืนนั้น ทั้งสองนอนห้องเดียวกัน ครั้งแรกในรอบสองปีที่ทั้งสองนอนบนเตียงเดียวกัน … เพียงแค่เปิดใจคุยกัน เผยความรู้สึกที่แท้จริงต่อกัน กำแพงน้ำแข็งแห่งความเย็นชาของชีวิตคู่ก็ถูกละลายลงไปอย่างง่ายดาย

บนเตียงนอน ฮยอนอูเฝ้าดูจนแฮอินหลับไป สายตาของสามีจ้องมองไปที่ภรรยาด้วยความเศร้าสร้อย ความเศร้าที่เคลือบด้วยความสงสาร หญิงสาวที่คนทั้งประเทศเฝ้ามองด้วยความอิจฉา กลับมีเวลาใช้ชีวิตเหลืออีกแค่สองเดือน เขาได้แต่เฝ้ามอง ในใจก็พลางคิดว่าทำอะไรได้อีกบ้าง ทุกอย่างที่ช่วยแฮอินได้เขาจะทำ เมื่อนึกขึ้นได้ก็ออกไปโบสถ์ใกล้ ๆ โรงแรม เขาสวดภาวนาอ้อนวอนต่อพระเจ้า ขอให้แฮอินหายจากโรคร้าย … หากมีสิ่งหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั่นคือ พระเจ้า ผู้อยู่เหนือทุกสิ่ง

รุ่งขึ้น แฮอินตื่นเต้นเมื่อได้รับอีเมลจากศูนย์มะเร็ง เธอรีบบอกข่าวดีกับฮยอนอู “ศูนย์มะเร็งแจ้งให้ฉันเข้าไป ‘ฉีดฟีลกลาสทิม’ เพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาว”

ฮยอนอูยิ้มรับข่าวดี โดยที่แฮอินไม่รู้เลยว่า เขานี่แหละที่เป็นคนไปเจรจากับหัวหน้าศูนย์มะเร็งขอให้ทำการรักษาเธอ

ฮยอนอูรู้เหลี่ยมของศูนย์มะเร็งแห่งนี้ เขารู้ว่าการที่ศูนย์มะเร็งแห่งนี้มีอัตราการรอดชีวิตมากกว่า 51 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพราะเลือกรับผู้ป่วยที่มีอัตราการรอดชีวิตสูง ในขณะที่ปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยที่มีอัตราการรอดชีวิตต่ำ ซึ่งแฮอินถูกปฏิเสธการรักษาก็เพราะเหตุผลนี้ เขาจึงขู่ฟ้องหัวหน้าศูนย์มะเร็งในข้อหาฉ้อโกง โดยจะยื่นฟ้องที่ศาลเกาหลี และเรื่องราวฉาวโฉ่จะกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก

ระหว่างอยู่ที่ศูนย์มะเร็ง แฮอินเห็นเด็กชายหน้าคล้ายพี่ชายของเธอที่เสียชีวิต เธอวิ่งตามไป ฮยอนอูก็วิ่งตามมาด้วยความเป็นห่วง

ตอนแฮอินอายุ 9 ขวบ เธอกับครอบครัวไปเที่ยวทะเล เด็กหญิงแฮอินในตอนนั้นพลัดตกทะเล พี่ชายของเธอจึงกระโดดลงไปช่วย จนเป็นเหตุให้พี่ชายของเธอเสียชีวิต นับแต่นั้น แม่ก็ไม่ให้อภัยเธอ

ที่เยอรมนีความรักความเข้าใจเริ่มเบ่งบาน แต่ที่เกาหลีความวุ่นวายได้เริ่มขึ้น เมื่อประธานฮงมันแดพบว่า ถูกแอบติดตั้งเครื่องดักฟัง โดยมีเครื่องรับสัญญาณอยู่ภายในห้องทำงานของฮยอนอู และยังพบหนังสือสัญญาการหย่าในตู้เซฟ ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนร้ายของอึนซอง

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน
คิมจีวอน – คิมซูฮยอน

ในขณะที่หัวใจกำลังชุ่มฉ่ำกับความสุข แฮอินก็ได้รับข้อความจากครอบครัว เมื่อกดอ่านก็เห็น ‘หนังสือสัญญาการหย่า’ ที่ถูกระบุว่าเป็นของฮยอนอู แฮอินอึ้งสตั๊นไปหลายวินาที เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น อาจจะนานหลายนาที หรืออาจจะนานนับสิบนาที เธอยืนอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งฮยอนอูวิ่งมาหาเธอด้วยรอยยิ้ม เขายื่นใบโคลเวอร์นำโชคที่เพิ่งเหมามาทั้งร้าน แต่แฮอินไม่สนใจสิ่งใด เธอปัดใบโคลเวอร์กระจายไปทั่วพื้น ก่อนยื่นรูปหนังสือสัญญาการหย่าในโทรศัพท์ให้เขาดู “บอกฉันมา ว่ามันไม่จริง บอกมาว่ามันไม่ใช่คุณเป็นคนทำ”

ณ จุดนี้ฮยอนอูก็นิ่งอึ้งไปเช่นกัน “ไม่ ผมเป็นคนทำเอง ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกคุณ”

“คุณเตรียมเอกสารหย่าตั้งแต่ตอนไหน ?” แฮอินเอ่ยปากถามทั้งน้ำตา

“วันนั้น”

“อ๋อ วันเดียวกับที่ฉันบอกคุณว่าฉันกำลังจะตายสินะ เพราะแบบนี้ใช่มั้ยคุณถึงไม่บอกฉัน เพราะยังไงฉันก็ต้องตายอยู่ดี …” แฮอินเสียใจมาก เธอรู้สึกผิดหวัง เธอคิดมาตลอดว่าเขาทำทุกอย่างเพราะเป็นห่วง แต่มันไม่ใช่เลย “… แปลว่าที่ผ่านมาคุณโกหกฉันมาตลอด”

ฮยอนอูได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แม้แต่น้ำตาก็ยังคลออยู่ที่เบ้า ทุกอย่างหยุดนิ่ง เขาไม่แม้แต่จะเอ่ยคำพูดอะไรออกมา ไม่แม้แต่ปรายตามองเธอเดินจากไป มันเป็นความผิดที่ไม่มีข้อแก้ตัวเลยจริง ๆ

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน
คิมจีวอน – คิมซูฮยอน

แฮอินเดินเข้าห้องพักที่โรงแรมเหมือนคนหมดแรง ยืนพิงประตูทั้ง ๆ ที่เสียงของฮยอนอูยังดังก้องอยู่ในหัว “ผมรักคุณ ฮงแฮอิน ๆ ๆ ๆ” คำพูดที่เขาบอกรักเธอดังซ้ำ ๆ คำพูดที่เธอรู้แล้วว่าเป็นเพียงคำโกหก

ระหว่างนั้นอาการของแฮอินก็กำเริบ เธอเดินออกจากห้องพักลงไปบนถนน เสียบีบแตรของรถที่วิ่งด้วยความเร็วคันแล้วคันเล่า บีบไล่ให้เธอออกไปให้พ้นทาง แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่รู้สึกตัว ยังดีที่ฮยอนอูตามมาช่วยเธอไว้ได้ทัน

แฮอินรู้สึกตัว เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาของคนที่หัวใจแตกสลาย “ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก ไม่ต้องมาช่วยฉัน”

รุ่งขึ้น แฮอินไปศูนย์ตามนัดเพื่อฉีดฟีลกลาสทิม แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอจะไม่ตอบสนอง เซลล์เม็ดเลือดขาวยังคงอยู่ในระดับต่ำ

หัวหน้าศูนย์แจ้งกับฮยอนอู และแนะนำให้เขาพยายามทำให้เธอสู้ต่อ “อย่าให้ผู้ป่วยหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่”

แฮอินตัดสินใจกลับเกาหลีโดยไม่รักษาต่อ ฮยอนอูสังเกตเห็นสีหน้าของเธอเหมือนคนยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาจึงตัดสินใจกระตุ้นความโกรธของเธอ เขาต้องการให้ความโกรธทำให้เธอเข้มแข็งขึ้น ความโกรธนี่แหละที่จะทำให้เธอสู้ เพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อไป …

“รู้มั้ย ทำไมผมถึงไปจากคุณ ทั้งที่ผมเลือกจะมีชีวิตที่สุขสบายได้ เพราะผมเกลียดที่ต้องอยู่กับคุณยิ่งกว่าอะไรไงล่ะ … บอกอะไรให้นะ ตอนที่รู้ว่าคุณกำลังจะตาย ผมดีใจแทบบ้า”

แฮอินกำมือที่ถือกระเป๋าเอาไว้แน่น “แน่ใจนะว่ารับความโกรธของฉันไหว !”

“อยากจะทำอะไรก็ทำเลย เชิญเลย” เสียงตวาดของฮยอนอูลั่นใส่หน้าแฮอิน มีไม่กี่ครั้งที่กล้าขึ้นเสียงใส่เธอ และครั้งนี้มันทำให้เธอโกรธสุด ๆ

ที่เกาหลี อึนซองประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญาโครงการรีสอร์ตครบวงจรกับควีนส์กรุ๊ป แผนของอึนซองกำลังดำเนินไปตามขั้นตอน ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน โครงการนี้จะประสบปัญหา และเขาก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของควีนส์กรุ๊ปในที่สุด

ในขณะที่ฮยอนเข้าพบประธานฮงมันแด เพื่ออธิบายว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดตั้งเครื่องดักฟัง แต่ไม่ว่าพูดยังไงประธานฮงมันแดก็ไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูด

แฮอินเจอกับฮยอนอูโดยบังเอิญ เธอระบายความโกรธใส่เขาด้วยคำพูดเจ็บแสบ “คุณทิ้งฉันในวันที่ฉันสิ้นหวังที่สุด อย่าคิดว่าจะเดินออกจากบ้านนี้ไปได้ง่าย ๆ ฉันจะให้ทนายกระทืบให้คุณจมดิน แล้วค่อยเตะคุณออกไป”

“โอเค แต่ผมขอให้คุณอยู่ห่าง ๆ อึนซอง เขาดูไม่น่าไว้ใจ*

“ฉันไม่ถูกใครหลอกง่าย ๆ หรอก”

“จริงเหรอ ขนาดผมยังหลอกคุยได้เลย” พูดจบ ฮยอนอูก็เดินจากไป ทิ้งให้แฮอินยืนอึ้งกับคำพูดที่โดนตอกกลับ

แฮอินตั้งใจเอาคืนฮยอนอูให้สาสม เธอบอกทุกคนในครอบครัวว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เธอสั่งให้คนไปตามสืบทุกอย่าง เพื่อหาหลักฐานเอาผิดฮยอนอูให้ได้ งานนี้เธอตั้งใจจะเหยียบเขาให้จบบาทาด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม หลังจากให้นักสืบตามดูพฤติกรรม และให้ทีมตรวจสอบบัญชีเข้าตรวจสอบ ก็ไม่พบความผิดปกติหรือสิ่งที่ฮยอนอูทำผิดกฎหมายเลย ถึงอย่างนั้น แฮอินก็ยังไม่เลิกสงสัยในตัวเขาอยู่ดี

แล้วตัวตนของ ‘โมซึลฮี’ (เมียใหม่ของประธานฮงมันแด) ก็ถูกเปิดเผย เธอคือแม่ผู้ให้กำเนิดของอึนซอง

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน ในซีรีส์เกาหลี Queen of Tears EP.7

ค่ำวันนั้น อาการของแฮอินกำเริบ เธอนั่งยอง ๆ กางร่มกันฝนให้อาหารน้องแมวอยู่ข้างถนน ฮยอนอูขับรถผ่านมาพอดี เขารีบลงไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วถามเธอว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ?

“ฉันไม่รู้ รู้สึกตัวก็มาอยู่ที่นี่ …” แฮอินอมยิ้ม แล้วชี้ไปที่ร่มบนพื้น “… ร่มที่คุณให้ฉันไง จำได้มั้ย”

จากนั้นเธอก็พูดประโยคซ้ำเดิม เหมือนที่เคยพูดกับเขาในห้องพักโรงแรมที่เยอรมนี เธอบอกกับเขา “ไม่ต้องเป็นห่วง” เธอมีโอกาสหายถึง 51 เปอร์เซ็นต์

ฮยอนอูนิ่งเงียบ เขามองแฮอินด้วยสีหน้าเป็นกังวล อาการของเธอแย่ลงมาก ความทรงจำของเธอค่อย ๆ เลือนหายไปทีละเล็กทีละน้อย เขาพยายามกลั้นน้ำตา แต่สุดท้ายก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่

“นี่คุณร้องไห้เหรอ ไม่ต้องร้องนะ บอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นไร หมอบอกว่าฉันมีโอกาสรอด 51 เปอร์เซ็นต์ ดีจะตาย” แฮอินยิ้มแล้วโผเข้ากอดเขา

น้ำตายังคงไหลออกมานองหน้าฮยอนอู แม้แฮอินจะเข้าไปโอบกอดปลอบประโลมเขา “บอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นไร”

ในที่สุด ฮยอนอูก็เผยความรู้สึกแท้จริงออกมา เขาไม่อาจทนใช้ประโยชน์จากการที่เธอสูญเสียความทรงจำ “ผมอยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ อยากให้คุณยิ้มให้ผมอย่างนี้ต่อไปโดยไม่รู้ความจริง”

แฮอินทำหน้าสงสัย เธอไม่เข้าใจว่าเขาพูดถึงอะไร ? ฮยอนอูจึงบอกว่า เธอไปเยอรมนีมาแล้ว แต่ร่างกายของเธอไม่พร้อมสำหรับการรักษา ก่อนเขาจะเม้มปากแล้วพูดต่อ “จริง ๆ ผมตั้งใจหย่ากับคุณ ทำให้ตอนนี้เรามีปัญหากัน”

เหมือนฟ้าฟาดลงกลางใจอีกครั้ง แฮอินรู้สึกสับสน “นี่ฉันเสียความทรงจำไปเหรอเนี่ย !” เธอคิดและพยายามนึกถึงความทรงจำอันเลือนราง ไม่นานนัก คำพูดที่เขาพูดกับเธอก่อนกลับเกาหลีก็ย้อนกลับมา เธอจำได้แล้ว เธอจำได้ทุกคำพูดที่เขาพูดไม่ดีกับเธอ จำได้ทุกคำ “ฉันจำสิ่งที่คุณทำกับฉันได้แล้ว งั้นฉันจะหย่ากับคุณ !”

ซงจุงกิ ในซีรีส์ Queen of Tears EP.8
ซงจุงกิ

แล้วก็ถึงวันนัดเซ็นเอกสารการหย่า ทนายของแฮอินคือ วินเซนโซ่ (รับบทโดย ซงจุงกิ) เจ้าของฉายา ‘ทนายมาเฟีย’ ว่ากันว่าเขาไม่นิยมการเจรจาแบบทนายทั่วไป ข้อเสนอของเขาต้องแลกด้วยสิ่งเดียว นั่นคือ ‘ลูกปืน’

การหย่าดำเนินไปอย่างเรียบร้อยตามที่วินเซนโซ่และแฮอินต้องการ โดยทนายฝั่งฮยอนอูไม่มีหือไม่มีอือ

เนื่องด้วยปัญหาความการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ทำให้โครงการพัฒนารีสอร์ตครบวงจรติดปัญหา ส่งผลให้กลุ่มผู้ลงทุนพากันถอนตัว ณ จุดนี้ ควีนส์กรุ๊ปกำลังเผชิญกับความเสียหายมูลค่ามหาศาล อึนซองจึงถือโอกาสยื่นมือเข้ามาช่วย โดยเขาจะเป็นคนใส่เงินลงทุนทั้งหมด 9 แสนล้านวอน โดยควีนส์กรุ๊ปต้องใช้หุ้นค้ำประกัน

ฮยอนอูพบว่าสัญญาของอึนซองทำให้ควีนส์กรุ๊ปเสียเปรียบ จึงพยายามเข้ามาขัดขวาง แต่ประธานฮงมันแดไม่สนใจคำเตือน แถมยังหาว่าฮยอนอูทำงานผิดพลาด จึงไล่เขาออกทันที

ภาพหน้าจอจากซีรีส์เกาหลี Queen of Tears EP.8

อย่างไรก็ตาม ฮยอนอูยังคงแอบตามสืบประวัติของอึนซองกับโมซึลฮี แล้วก็พบว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด

เมื่อรู้ความจริง ฮยอนอูจึงรีบโทร. แจ้งประธานฮงมันแด แต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว เมื่อโมซึลฮีรู้ตัวว่ากำลังจะถูกเปิดโปง เธอจึงวางยาประธานฮงมันแดจนกลายเป็นอัมพาตเฉียบพลัน

แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่า คือ ก่อนหน้านั้น ประธานฮงมันแดได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้โมซึลฮี นั่นหมายความว่า โมซึลฮีเป็นผู้ปกครองตามกฎหมาย และมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่างแทน

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ โมซึลฮีเตะทุกคนออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็น แฮอิน ซูชอล พ่อแม่ อา และควีนส์กรุ๊ปก็ตกไปอยู่ในมือของอึนซองโดยสมบูรณ์ !

เมื่อไม่มีที่ไป ฮยอนอูจึงพาครอบครัวแฮอินมาที่บ้านยงดูรี งานนี้ทำเอาพ่อแม่พี่น้องถึงกับตกตะลึงด้วยความแปลกใจ

ฮยอนอูพาครอบครัวของแฮอินมาที่บ้านยงดูรี เพื่อหลบนักข่าว และเพื่อวางแผนจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น แต่การใช้ชีวิตในชนบท ทำให้พ่อแม่และซูชอลอล น้องชายของแฮอินต้องปรับตัวอย่างมาก จากที่เคยกินอาหารออร์แกนิกก็ต้องมากินอาหารบ้าน ๆ จากที่เคยดื่มน้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์ก็ต้องมากินน้ำประปาต้ม จากที่นอนบนเตียงราชวงศ์สเปนก็ต้องมานอนกับพื้น

อีมีซุก - พัคซองฮุน
อีมีซุก – พัคซองฮุน

อึนซองไม่พอใจที่โมซึลฮีไล่ครอบครัวแฮอินออกจากบ้าน “ผมว่าเรามีเป้าหมายต่างกัน เหมือนตอนที่ผมยังเด็ก แม่เลือกอยู่กับครอบครัวนี้แล้วทิ้งผมไป และตอนนี้ผมก็ไม่เลือกแม่เช่นกัน”

ถ้าเป้าหมายของโมซึลฮีคือการยึดบ้านมาเป็นของตัวเอง เป้าหมายของอึนซองก็คือ ‘แฮอิน’ รักแรกที่เขาไม่เคยลืม

ที่บริษัท อึนซองเรียกฮยอนอูเข้ามาพบ “ผมไม่สบายใจที่คุณยังเป็นหัวหน้าทีมกฎหมาย”

ฮยอนอูโค้งให้อึนซองแล้วกล่าวด้วยคำพูดสุภาพนิ่มนวล “ผมอยากให้คุณช่วย ผมขอเวลาแค่เดือนเดียว ผมกำลังเรียกร้องเงินจากการหย่า อีกอย่างผมก็ถูกพักงาน ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเอกสารใด ๆ ของบริษัทอยู่แล้ว”

เมื่อฮยอนอูออกไป อึนซองนั่งหน้าเครียดเหมือนกำลังครุ่นคิดแผนการอะไรบางอย่าง

ต่อมา อึนซองรู้เรื่องอาการป่วยของแฮอิน เขารู้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เขาตกใจมากที่รู้ความจริง จากนั้นก็รีบไปพบหมอเจ้าของไข้ เพื่อสอบถามวิธีรักษา “ผมจะทำทุกอย่างให้เธอหายเป็นปกติ” แต่หมอแจ้งว่า เขาไม่ได้เป็นญาติหรือผู้ปกครองของแฮอิน ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้ามาก้าวก่ายกระบวนการรักษา

เมื่อรู้เช่นนั้น อึนซองจึงแอบลักพาตัวประธานฮงมันแดออกจากโรงพยาบาล

เวลาเดียวกันก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ดักทำร้ายฮยอนอู ทำให้เกิดการชกต่อยต่อสู้กัน ฮยอนอูใช้สกิลการต่อสู้ที่ฝึกฝนจากกองทัพ

ในขณะที่ อึนซองเดินทางมาหาแฮอินที่ยงดูรี …

พัคซองฮุน - คิมจีวอน
พัคซองฮุน – คิมจีวอน

อึนซองตามแฮอินมาที่ยงดูรี เพื่อยื่นข้อเสนอให้เธอแต่งงานกับเขา แลกกับการที่เธอจะได้ตำแหน่งซีอีโอห้างควีนส์ “ถ้าไม่อยากให้ครอบครัวและคนรอบข้างเป็นอันตราย เธอต้องกลับมาหาฉัน รีบตัดสินใจซะ เธอมีเวลาสองวัน”

เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่อึนซองต้องการ คือ แต่งงานกันแฮอินให้เร็วที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่เขาต้องการมาตลอดชีวิต … แต่ ‘ข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธได้’ ของเขา กลับทำให้เธอรู้สึกหนักใจ สีหน้าของเธอแสดงความกังวลออกมาชัดเจน

คิมซูฮยอน - คิมจีวอน
คิมซูฮยอน – คิมจีวอน

ฮยอนอูใช้สกิลการต่อยมวยระดับแชมป์ จัดการกลุ่มชายฉกรรจ์ซะราบคาบ แต่ตามเนื้อตัวและใบหน้าก็มีร่องรอยบอบช้ำที่เกิดจากการต่อสู้ เมื่อกลับมาถึงบ้าน แฮอินจึงต่อว่า ก่อนจะทำแผลให้ “สัญญากับฉันสิ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก ให้รีบหนี”

“ผมสัญญา”

“มีแต่คนที่แต่งงานกันที่ทำแบบนี้ เราหย่ากันแล้ว อย่าทำแบบนี้อีก อย่าโดนซ้อมกลับมาแบบนี้อีก มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ที่คุณต้องมาเจ็บตัวเพราะฉัน” พูดจบ แฮอินก็ยื่นนิ้วก้อยออกไป ก่อนที่เขาจะยื่นนิ้วก้อยออกมาเช่นกัน นิ้วก้อยของทั้งสองเกี่ยวคล้องกัน แทนคำสัญญาที่มีให้กัน

วันต่อมา ฮยอนอูโดนอึนซองไล่ออกด้วยข้อกล่าวหา ‘ประพฤติมิชอบ’ หลายกรณี ทั้งเรื่องการยักยอกเงินบริษัท และทำธุรกรรมผิดกฎหมายหลายกรรม … ฮยอนอูรู้ดีว่า กำลังถูกใส่ความ แต่เขาคิดแผนบางอย่างเพื่อรับมือเอาไว้แล้ว

ฮยอนอูใช้ข้อมูลการกระทำผิดทางกฎหมายในอดีตของ ‘เกรซ โค’ ไปแบล็กเมล์ให้เธอเปลี่ยนข้างย้ายค่ายมาร่วมมือกับเขา เพื่อช่วยเหลือตระกูลฮง … เกรซ โค ยอมตกลงโดยไม่มีทางเลือก

สิ่งแรกที่เขาให้ เกรซ โค ทำคือ ตามหาประธานฮงมันแด ซึ่งขณะนี้ถูกอึนซองนำตัวไปซ่อน

อึนซองใช้เรื่องฮยอนอูมาข่มขู่แฮอิน “ถ้าไม่เลือกฉัน ฉันจะทำให้มันเป็นนักโทษเน่าตายอยู่ในคุก”

เธอรู้ดีว่าเขาทำได้อย่างที่พูด เธอจำเป็นต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ เพื่อปกป้องครอบครัวและฮยอนอู ในที่สุด เธอก็ตกลงรับข้อเสนออย่างไม่เต็มใจ

ภาพหน้าจอจากซีรีส์เกาหลี ราชินีแห่งน้ำตา ตอนที่ 10

วันนี้ที่สำนักงานใหญ่ของควีนส์กรุ๊ป นักข่าวนับร้อยชีวิตมารวมตัวกันร่วมงานแถลงข่าวใหญ่ แฮอินเดินเข้ามาในห้องประชุมใหญ่ โดยมีอึนซองเดินโอบไหล่ประคองอยู่เคียงข้าง ท่ามกลางความแปลกใจของเหล่าพนักงาน ซึ่งฮยอนอูก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ยืนดูการแถลงข่าวด้วยใจเต้นระทึก

อึนซองขึ้นพูดบนเวที ประกาศแต่งตั้งให้แฮอินกลับมาเป็นซีอีโอของห้างควีนส์ และปฏิเสธข่าวลือที่มีก่อนหน้านี้ว่า เขาใช้วิธีผิดกฎหมายในการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของควีนส์กรุ๊ป “มันเป็นเรื่องน่าตลก ที่มีข่าวลือพวกนั้นออกมา”

เสียงปรบมือดังสนั่นห้องประชุม ก่อนที่แฮอินจะขึ้นมาพูดต่อ …

“ฉันและอดีตสามีถูกข่มขู่โดยอึนซอง …” แฮอินเว้นวรรค ในขณะที่เสียงฮือฮาอื้ออึงไปทั้งห้อง “… ฉันมีคลิปเสียงที่บันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน และฉันไม่สามารถรับตำแหน่งซีอีโอห้างควีนส์ เนื่องจากฉันป่วยเป็นโรคร้ายแรง ซึ่งฉันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน”

หนึ่งในคนที่ถูกช็อตฟีลมากที่สุดก็คือฮยอนอู เขาได้แต่นึกถึงคำพูดที่เธอบอกเขา “ฉันจะเลือกทางออกที่ฉันเลือกเอง” … นี่สินะคือทางออกที่เธอเลือก ยอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องครอบครัว และเพื่อปกป้องเขา

สายตาของฮยอนอูได้แต่จ้องมองแฮอินที่ยืนอยู่บนเวที ไม่นานน้ำตาของเขาก็ค่อย ๆ ไหลออกมา

ผู้คนต่างตกใจหลังรู้ข่าวอาการป่วยของแฮอิน โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่ช็อกกับข่าวร้ายที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน และคนที่แสดงออกว่าเสียใจมากที่สุดคือ ‘แม่’

แม่นิ่งอึ้งไปนานหลายนาที จากนั้นก็เริ่มร้องไห้ออกมา ในหัวของแม่ได้แต่คิดทบทวนถึงเรื่องในอดีตที่ทำไม่ดีกับลูกสาว แม่เพิ่งเริ่มคิดได้ว่า ที่ผ่านมาทำร้ายจิตใจลูกสาวรุนแรงมากแค่ไหน

คิมซูฮยอน - คิมจีวอน

เวลานั้น ภายในห้องแถลงข่าวเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แฮอินเดินลงจากเวที ทิ้งให้อึนซองยืนหน้าเสียอยู่บนเวทีเพียงลำพัง ทันใดนั้นเอง อาการของเธอก็กำเริบ เธอเห็นภาพหลอนราวกับตัวเองยืนอยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ แวบเดียวร่างก็ล้มพับหมดสติไป ฮยอนอูที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็รับเข้ามาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะรีบพาเธอไปห้องฉุกเฉิน

ผ่านไปหนึ่งคืน แฮอินก็ได้สติ คนแรกที่เห็นคือฮยอนอู เธอมองหน้าเขาแล้วก็เผยความรู้สึกภายในใจ เหมือนกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก …

“ฉันขอโทษที่ทำไม่ดีกับคุณ และปล่อยให้คุณอยู่อย่างอึดอัดกับครอบครัวของฉันเพียงลำพัง คุณต้องทนทรมานมาตลอด ลึก ๆ ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าคุณอยากหย่า คุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ ที่ฉันบอกคุณตอนนี้ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร”

queen of tears ep.11

ขณะเดียวกัน โมซึลฮีก็ตามหาประธานฮงมันแดจนเจอ แต่ตอนนี้ประธานฮงมันแดฟื้นได้สติขึ้นมาแล้ว เป็นเพียงแต่ว่า เขาจำอะไรไม่ได้เลย

จากผล MRI หมอวินิจฉัยว่า เขาความจำเสื่อม เนื่องจากเลือดออกในสมอง และการบาดเจ็บที่ศีรษะ หมอแจ้งว่าต้องรอดูอาการประมาณ 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ความทรงจำของผู้ป่วยจะกลับมาได้เอง

แต่สิ่งที่โมซึลฮีต้องการจากประธานฮงมันแดในตอนนี้ คือ เงินจำนวน 9 แสนล้านวอนในชื่อของเธอ ถูกซุกซ่อนเอาไว้ที่ไหน ?

ด้านอึนซองก็ต้องการเงินที่ประธานฮงมันแดซุกซ่อนเอาไว้ผ่าน ‘กองทุนโคลน’ เช่นกัน เนื่องจากการแถลงข่าวของแฮอิน ส่งผลทำให้ราคาของควีนส์กรุ๊ปร่วงอย่างหนักจนแดงเถือก แต่ดูเหมือนเส้นเงินที่ประธานฮงมันแดทำเอาไว้จะสลับซับซ้อนจนตามได้ยาก

อย่างไรก็ตาม ฮยอนอูที่รู้เรื่องกองทุนโคลน 9 แสนล้าน ก็ใช้ความสามารถในการโน้มน้าว ไปขอข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงที่ทำงานกับประธานฮงมันแดมายาวนานหลายสิบปี จนในที่สุด เขาก็ได้ข้อมูลเส้นทางการเงินที่ถูกโอนไปไว้ในบริษัทกระดาษ ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ … เมื่อนำข้อมูลต่าง ๆ มาประกอบกัน เขาคิดว่าเงินทั้งหมดน่าจะยังอยู่ที่เกาหลี และถูกเก็บเอาไว้เป็นเงินสด

เกรซ โค ที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นนกสองหัว อยู่กับโมซึลฮีแต่คอยส่งข้อมูลให้กับฮยอนอู เกรซ โค ตั้งข้อสังเกตว่า ‘ควีนส์แกลลอรี่’ ได้เช่าโกดังขนาดใหญ่เอาไว้ในแถบชานเมือง ดังนั้น ถ้ามีเงินสดมูลค่า 9 แสนล้านเก็บไว้จริง โกดังแห่งนี้แหละที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะใช้เก็บเงินสดมูลค่ามหาศาลเหล่านั้นได้

เมื่อฮยอนอูเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนฟัง ทั้งหมดก็เดินทางไปที่ควีนส์แกลลอรี่ทันที เพื่อสืบหาความจริง

ระหว่างกลับ แฮอินเกิดอาการกำเริบ เธอขึ้นไปบนรถของอึนซอง โดยเข้าใจว่าเป็นฮยอนอู … ฮยอนอูจึงรีบขับรถไล่ตามมาจนทัน และได้เอารถจอดขวางทาง ก่อนจะลงมาตะโกนเรียก “แฮอิน !”

แฮอินสับสน สีหน้าของเธอวิตกกังวล เธอไม่แน่ใจว่าใครกันแน่คือ ฮยอนอู ?

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน
คิมจีวอน – คิมซูฮยอน

แฮอินตกใจมากที่อาการกำเริบ จนทำให้เข้าใจผิดคิดว่าอึนซองเป็นฮยอนอู เมื่ออึนซองเห็นแฮอินรู้ตัว จึงเสนอให้เธอไปที่บ้านเพื่อเจอคุณปู่

แฮอินลงจากรถแล้วเดินไปหาฮยอนอู เธอตัดสินใจโกหกเพื่อไม่ให้เขาเป็นกังวล “ฉันไม่เป็นไร อึนซองชวนฉันไปเจอคุณปู่ที่บ้าน ไม่ต้องเป็นห่วง คุณกลับไปก่อนเลย”

หลังจากทั้งสองขับออกรถไป ฮยอนอูก็ถูกชายปริศนาทำร้ายจนหมดสติ

เมื่อได้สติ เขาก็พบว่าตัวเองถูกมัดกับพวงมาลัยรถ โดยชายปริศนากำลังจัดฉาก ให้ดูเหมือนว่า ฮยอนอูจบเสียชีวิตด้วยการรมควัน แต่ด้วยไหวพริบและความสามารถด้านวาทศิลป์ ฮยอนอูจึงยื่นข้อเสนอให้ชายปริศนา และจะทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น … ท้ายที่สุด ชายปริศนาก็ตกลงปล่อยฮยอนอูไป

ฮยอนอูรีบไปหาแฮอินทันที การเจอกันของทั้งสองอยู่ในสายตาของอึนซอง ที่มองทั้งสองใกล้ชิดกันผ่านกล้องวงจรปิด … “ทำไมมันยังไม่ตาย !?” อึนซองได้แต่คิดอยู่ในใจ เพราะที่แท้ เขาคือผู้จ้างวานให้ชายปริศนาไปเก็บฮยอนอู แล้วทำไมมันยังมายืนอยู่ข้างแฮอินได้

อึนซองหัวร้อนจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขาคว้าข้าวของที่อยู่ใกล้มือขว้างปาเพื่อระบายอารมณ์

ภาพหน้าจอซีรีส์เกาหลี Queen of Tears EP.12

โมซึลฮีเห็นอาการลูกชายหลงรักแฮอินแบบไม่ลืมหูลืมตา จึงเข้าไปเตือน “แฮอินมันหลอกใช้ลูกอยู่ รู้ตัวมั้ย ?”

“แม่ก็หลอกใช้ผมเหมือนกัน” อึนซองมองแม่ด้วยสายตาที่ซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้

“แม่ไม่ยอมให้ใครทำร้ายลูก แม่ตามดูลูกอยู่ตลอด อย่าให้มัน [แฮอิน] หลอกใช้ เพราะแม่จะไม่ยอมเด็ดขาด”

เวลาเดียวกัน ผัวเก่าของดาฮเยก็ตามมาจนเจอ มันมาเพื่อไถเงิน และขู่จะทำร้าย ‘กอนอู’ ลูกชายแท้ ๆ ของตัวเอง … ดาฮเยเห็นท่าไม่ดี ต้องเป็นพ่อที่เลวแค่ไหน ถึงขู่จะร้ายลูกชายแท้ ๆ ของตัวเอง เธอจึงจัดการวางยานอนหลับผัวเก่า แล้วตัดสินใจพาลูกชายหนี

คนเดียวที่ดาฮเยคิดว่าเป็นที่พึ่งได้ก็คือซูชอล วินาทีแรกที่เขาเห็นหน้าดาฮเยและกอนอู เขารีบโผเข้าไปกอดโดยไม่เอ่ยถามอะไร เขาเข้าใจกับสิ่งที่เธอทำลงไป สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือเธอและลูก แค่นั้น เท่านั้นจริง ๆ

ดาฮเยคุกเข่าขอโทษพ่อแม่สามี พร้อมกับเอาเงินสดทั้งหมดที่เหลืออยู่มาคืน โดยมีซูชอลอยู่เคียงข้าง

คิมซูฮยอน
คิมซูฮยอน

คืนนั้น หลังจากสืบสวนอย่างละเอียด ฮยอนอูเชื่อว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูง ที่เงินสดมูลค่ามหาศาลจะถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายในบ้าน ซึ่งตรงกับคำบอกเล่าของพ่อแฮอิน ที่บ้านนี้มีห้องนิรภัยลับ

เป้าหมายของฮยอนอูคือลิฟต์ เขาสังเกตเห็นลิฟต์เป็นแบบเข้าออกได้สองทาง ดังนั้น ลิฟต์น่าจะเป็นทางเข้าห้องนิรภัยลับ

ราชินีแห่งน้ำตา ตอนที่ 12

ขณะนั้น ความทรงจำของประธานฮงมันแดเริ่มกลับมา เขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่า ทางเดียวที่จะช่วยครอบครัวได้ก็คือ เขาต้องตายจากไป เพื่อให้อำนาจของโมซึลฮีในฐานะผู้รับมอบรับมอบอำนาจควบคุมควีนส์กรุ๊ปหมดไป …

ประธานฮงมันแดตัดสินใจหมุนล้อรถเข็นลงบันได ร่างของเขากลิ้ง ปั้ง ๆ ๆ หัวกระแทกกับขั้นบันไดอย่างแรง เมื่อร่างกลิ้งลงไปถึงชั้นล่าง ลมหายใจของเขาก็หมดลง คอหักตาย !

รุ่งขึ้น ฮยอนอูพร้อมครอบครัวของแฮอินเดินทางไปที่บ้าน ทั้งหมดต้องตกใจเมื่อพบว่าประธานฮงมันแดเสียชีวิต

จากนั้น ทุกคนก็เข้าไปในบ้าน ขณะขึ้นลิฟต์ ฮยอนอูค้นหาเจอสวิตช์เปิดประตูลิฟต์ เมื่อกดสวิตช์ประตูลิฟต์อีกด้านก็เปิดขึ้น ทุกคนมองเข้าไปด้วยความประหลาดใจ

Queen of Tears EP.13

ภายในห้องนิรภัยลับมีแต่ความว่างเปล่า ทิ้งไว้เพียงร่องรอยที่บ่งบอกว่า เพิ่งมีการเคลื่อนย้ายเงินออกไป บอมจาคิดว่าโมซึลฮีเป็นคนย้ายเงินทั้งหมดออกไป

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ โมซึลฮีพาอึนซองมาที่ห้องเซฟขนาดใหญ่ ที่ใช้เก็บเงินสด 9 แสนล้าน “เงินพวกนี้จะช่วยให้ลูกปลอดภัย”

คิมซูฮยอน - คิมจีวอน
คิมซูฮยอน – คิมจีวอน

หลังกลับมาที่บ้านยงดูรี ฮยอนอูได้รับโทรศัพท์สายตรงจากเยอรมนีแจ้งข่าวสำคัญ ทางศูนย์มะเร็งพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดแบบใหม่ ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะกับแฮอิน แต่มีโอกาสสูงที่แฮอินจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดไป

ฮยอนอูตัดสินใจบอกข่าวดีเรื่องการรักษากับแฮอิน แต่เลือกที่จะไม่บอกเรื่องผลข้างเคียงที่จะทำให้สูญเสียความทรงจำ เพราะกลัวว่าเธอจะปฏิเสธการรักษา … แฮอินดีใจมากเมื่อรู้ว่าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป

คิมซูฮยอน - คิมจีวอน
คิมซูฮยอน – คิมจีวอน

รุ่งขึ้น ทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันอย่างมีความสุข เหมือนย้อนเวลากลับไปออกเดตกันก่อนแต่งงาน “ฉันว่ามันคือพรหมลิขิต ตอนนี้เรามีอนาคตร่วมกันแล้ว ฉันตกลงถอนหย่าตามที่คุณขอ”

จากนั้น แฮอินก็เผยว่า จริง ๆ แล้วรักแรกของเธอก็คือเขา ฮยอนอูยิ้มจนแก้มปริที่ได้รู้ความจริง เพราะเธอก็คือรักแรกของเขาเช่นกัน

แฮอินกับฮยอนอูเดินทางไปเยอรมนี แต่ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เขาตัดสินใจบอกความจริงกับเธอ “มีบางอย่างที่ผมยังไม่บอกคุณ คือมีโอกาสสูงที่คุณจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดหลังผ่าตัด แต่มันเป็นเพียงโอกาสเดียวที่คุณจะมีชีวิตอยู่ต่อ”

แฮอินถึงกับสตั๊นไปทั้งร่างกับความจริงที่ได้รู้ ก่อนจะตวาดใส่หน้าเขาด้วยความโกรธ “คุณจะให้ฉันเลือกสิ่งที่เลวร้ายน้อยกว่างั้นเหรอ”

“ไม่ต้องเลือก แค่มีชีวิตอยู่ ทำตามที่ผมบอก ผมขอร้อง มีชีวิตอยู่”

คิมซูฮยอน - คิมจีวอน
คิมซูฮยอน – คิมจีวอน

“คุณให้ฉันเลือกระหว่างความตายกับความทรงจำ คุณกำลังบังคับให้ฉันเลือกระหว่างสิ่งเลวร้ายสองสิ่งอยู่นะ” แฮอินพูดทั้งน้ำตา

“ไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรทั้งนั้น แค่ทำตามที่ผมบอก มีชีวิตอยู่ต่อไปเถอะนะ” ฮยอนอูพยายามเกลี้ยกล่อมให้แฮอินเปลี่ยนใจ แต่ …

ดูเหมือนแฮอินยังคงยืนยันจะไม่เข้ารับการผ่าตัด สำหรับเธอแล้วความทรงจำเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่เป็นพลังในการขับเคลื่อนชีวิต หากปราศจากความทรงจำก็ไม่ต่างจากคนตาย “ความทรงจำในรัก และความทรงจำของการถูกรัก ให้ฉันจากไปพรัอมกับความทรงจำเหล่านี้เถอะนะ”

น้ำตาหลั่งไหลออกมาอาบแก้มของคนทั้งสอง มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากจริง ๆ … การมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความทรงจำ ก็ไม่ต่างจากตัวตนที่ตายไปแล้ว ?

เวลาเดียวกัน อึนซองเตรียมเดินทางไปเยอรมนี ทำให้โมซึลฮีรู้สึกไม่พอใจ เธอรู้สึกว่าแฮอินทำให้ลูกชายของเธอหวั่นไหวสั่นคลอน ซึ่งส่งผลต่อแผนการที่วางไว้พังทลาย โมซึลฮีจึงตัดสินใจกำจัดแฮอินซะ ด้วยการส่งมือสังหารไปเยอรมนี

คิมซูฮยอน

ไม่นานนัก รถบรรทุกที่ขับมาด้วยความเร็วก็พุ่งเข้าชนรถของแฮอิน แต่โชคดีที่แฮอินไม่อยู่ในรถ

ด้านฮยอนอูที่คิดว่าแฮอินอยู่ในรถก็ตกใจมาก เขาร้องไห้ฟูมฟายออกมาเหมือนคนเสียสติ … แฮอินที่เห็นฮยอนอูร้องไห้เสียใจมากมายขนาดนั้น จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เธอเปลี่ยนใจเข้ารับการผ่าตัด … แฮอินไม่อาจปล่อยให้คนที่เธอรักจมอยู่กับความเศร้าเสียใจไปตลอดชีวิตแบบนี้ได้ เธอรู้แล้วว่าชีวิตของเธอมีค่ากับเขามากแค่ไหน

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน - พัคซองฮุน
คิมจีวอน – คิมซูฮยอน – พัคซองฮุน

เมื่อวันผ่าตัดมาถึง แฮอินเอ่ยกับฮยอนอูเป็นครั้งสุดท้าย “ถ้าฉันฟื้นขึ้นมา ดูแลฉันด้วยนะ”

ระหว่างที่ฮยอนอูรออยู่ด้านนอกห้องผ่าตัด จู่ ๆ ตำรวจก็เข้าจับกุมเขาในข้อหาฆาตกรรมประธานฮงมันแด ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ต้องหาหลักในคดีนี้

อึนซองที่มาด้วย เดินไปกระซิบข้าง ๆ หูฮยอนอู “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะดูแลเธอเอง”

ฮยอนอูถูกนำตัวกลับเกาหลี และมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

พัคซองฮุน - คิมจีวอน
พัคซองฮุน – คิมจีวอน

การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แฮอินฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำทั้งหมดสูญสลายกลายเป็นศูนย์ ดูเหมือนสิ่งเดียวที่เธอจำได้คือชื่อ ‘ฮยอนอู’ เธอใช้ชีวิตอยู่ในการดูแลของอึนซอง

อึนซองบอกกับแฮอินว่า เขาเป็นสามีของเธอ แต่เธอบอกว่า เธอจำได้ว่าสามีของเธอชื่อ ‘ฮยอนอู’ … อึนซองบอกว่าฮยอนอูเป็นชื่อของอดีตสามีที่หย่ากันไปแล้ว และเขาคือสามีคนปัจจุบัน

คิมจีวอน - คิมซูฮยอน ในซีรีส์ Queen of Tears EP.14
คิมจีวอน – คิมซูฮยอน

แฮอินยืนมองดูหิมะแรกโปรยปรายร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เธอจ้องมองอยู่อย่างนั้นเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

เวลาเดียวกัน ฮยอนอูเองก็กำลังยืนมองหิมะแรกเช่นกัน เขามองด้วยความรู้สึกในใจที่เป็นกังวลและเป็นห่วงแฮอิน ความรู้สึกภายในกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่ค่อย ๆ ซึมอยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้าง

ออกอากาศ 27 เมษายน

ออกอากาศ 28 เมษายน

ดู Queen of Tears ที่ Netflix >>> คลิกที่นี่

The post สรุปเนื้อเรื่อง Queen of Tears (2024) ราชินีแห่งน้ำตา appeared first on idol.

]]>
สรุปเนื้อเรื่อง Marry My Husband (2024) สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ https://www.online-idol.com/2024/02/11/marry-my-husband-2024-spoiler-38638/ Sat, 10 Feb 2024 22:02:53 +0000 https://www.online-idol.com/?p=38638 หญิงสาวป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ถูกสามีและเพื่อนรักฆ่าตาย หลังรู้ว่าทั้งสองเป็นชู้กัน เธอฟื้นขึ้นมา 10 ปีก่อนเกิดเหตุ และตัดสินใจชำระแค้น …

The post สรุปเนื้อเรื่อง Marry My Husband (2024) สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ appeared first on idol.

]]>
Marry My Husband สปอยล์ โดย Kopook

จีวอน (รับบทโดย พัคมินยอง) หญิงวัย 37 ปี ที่สูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนแม่ก็ทิ้งเธอกับพ่อไปหาผู้ชายใหม่ เธอได้แต่งงานกับ มินฮวาน (รับบทโดย อีอีคยอง) ซึ่งทำงานที่เดียวกับเธอ

ต่อมา มินฮวานตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อมาเล่นหุ้นเต็มตัว ซึ่งมันไม่สร้างรายได้เข้าบ้านเลย แถมยังก่อหนี้มากมาย จีวอนต้องทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาดเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ไม่เท่านั้น จีวอนยังต้องทนกับคำดูถูกจากแม่สามี ทั้งดุด่า ข่มเหงรังแกต่าง ๆ นานา ราวกับเธอเป็น ‘ขยะ’ ในบ้าน

ชีวิตของจีวอนน่าสงสารมาก เธอถูกสองแม่ลูกคู่นี้ทำร้ายจิตใจทุกวัน จนเครียดจัดถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนนี้เองที่เธอได้รับข่าวร้ายว่า เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนเท่านั้น

ซงฮายุน - พัคมินยอง
ซงฮายุน – พัคมินยอง

ระหว่างที่จีวอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก็มีเพื่อนสนิทอย่าง ซูมิน (รับบทโดย ซงฮายุน) เนี่ยแหละ ที่คอยอยู่เคียงข้างให้กำลังใจ เป็นห่วงเป็นใยใส่ใจทุกอย่าง โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า เพื่อนสนิทคนนี้ที่เธอเชื่อใจ ได้แอบเป็นชู้กับสามีเฮงซวยของเธอ

วันหนึ่ง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมาทวงค่ารักษา ตอนแรกจีวอนตั้งใจจะเอาเงินประกันมาจ่าย แต่มารู้ทีหลังว่า สามีของเธอแอบเบิกเงินประกันไปใช้จนหมดแล้ว จีวอนโกรธมาก โทร. หาสามีเฮงซวยทันที แต่โทร. เท่าไรก็ไม่รับสาย … ณ จุดนี้ เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาล

Marry My Husband EP.1

จีวอนนั่งแท็กซี่กลับบ้าน เธอได้พบกับลุงคนขับรถแท็กซี่ท่าทางใจดี ตลอดทางลุงแกก็คอยถามถึงอาการป่วย อีกทั้งยังคอยให้กำลังใจด้วย ถึงอย่างนั้น จีวอนก็บอกไปตรง ๆ ว่า เธอกำลังจะตาย แล้วก็เล่าเรื่องชีวิตตัวเองให้ลุงแกฟัง โดยบอกว่าพ่อจากไปตั้งแต่เธอยังเล็ก เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย มีสามีก็กลายเป็นภาระ คิดแต่จะเกาะเธอกิน แค่ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลยังไม่ได้เลย เธอต้องดิ้นรนทำทุกอย่างด้วยตัวเอง … จังหวะนั้น ลุงคนขับแท็กซี่ก็ยิ้มให้ แล้วบอกว่า เส้นทางของเธอยังไม่จบเพียงเท่านี้

เมื่อถึงที่หมาย ลุงคนขับรถแท็กซี่ก็ยื่นแบงค์ 10,000 วอนให้จีวอน พร้อมกับบอกว่า “ถือซะว่าเป็นเงินค่าขนมจากพ่อก็แล้วกันนะ” จีวอนเอื้อมมือรับแบงค์มา ก่อนที่จะยืนมองลุงแกขับรถออกไปด้วยความสงสัย (จริง ๆ แล้วลุงคนขับแท็กซี่ก็คือพ่อของจีวอน ที่เสียชีวิตไปแล้วนั่นเอง)

จีวอนเดินขึ้นอพาร์ตเมนต์ ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไปก็ถึงกับช็อก เมื่อเห็นซูมิน เพื่อนรักนอนกกอยู่กับมินฮวาน สามีของเธอ !!!

จีวอนเดือดจัดกับความเลวทรามที่ทั้งสองทำ เธอจึงเข้าไปโวยวาย และร้องไห้ออกมาไม่หยุด เพราะสำหรับจีวอนแล้ว ซูมินคือเพื่อนรักที่เธอเชื่อใจมาตลอด ด้วยความโกรธ จีวอนจึงพุ่งเข้าไปทำร้ายซูมิน มินฮวานเข้ามาห้าม แล้วพลั้งมือผลักจีวอนจนล้มไปฟาดโต๊ะกระจก เลือดไหลนองออกจากร่างที่แน่นิ่งของจีวอน

พัคมินยอง ในซีรีส์ Marry My Husband EP.1

ไม่กี่วินาที ก่อนที่จีวอนจะเสียชีวิต เธอได้ขอพรว่า ถ้าปาฏิหาริย์มีจริงขอให้มันเกิดขึ้นกับเธอ

ชีวิตใหม่

แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น จีวอนพบว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยย้อนเวลากลับไปเมื่อสิบปีก่อน ในปี 2013 สมัยที่เธอยังไม่ได้แต่งงาน และทำงานอยู่บริษัท U&K Foods

ระหว่างนั้น จีวอนก็ได้รู้ความจริงว่า ลุงคนขับแท็กซี่คนนั้นก็คือพ่อของเธอ ที่มาอวยพรให้เธอได้พบทางสว่างในชีวิตนั่นเอง

ค่ำวันนั้น มินฮวานชวนจีวอนไปนั่งดื่ม และเธอก็ได้บอกเลิก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ จนทั้งสองเกิดมีปากเสียงกัน

ตอนแรกจีวอนกะว่าจะหนีจากมินฮวานไปให้พ้น ๆ แต่เมื่อกลับมาถึงห้อง และเห็นเงินในบัญชีธนาคารที่เหลือเพียง 7 แสนวอน (ประมาณ 18,400 บาท) ก็รู้ในทันทีว่า มินฮวานผลาญเงินเก็บของเธอไปจนเกือบหมด จะหนีก็ไม่ได้ถ้าไม่มีเงิน ตอนนั้นเองก็เกิดนึกขึ้นมาได้ว่า มีหุ้นตัวหนึ่งที่เป็นหุ้นกระทิง ใครเล่นก็มีแต่รวย เธอจึงคิดจะใช้ประโยชน์จากการล่วงรู้อนาคต โดยการซื้อหุ้นตัวนี้เพื่อทำกำไร

รุ่งขึ้น จีวอนไปซื้อหนังสือเพื่อศึกษาเรื่องการเล่นหุ้น ที่นั่นเธอบังเอิญเจอกับ จีฮยอก (รับบทโดย นาอินอู) หัวหน้าแผนกสุดหล่อ เขาจึงชวนเธอไปทานอาหารด้วยกัน ระหว่างนั้น ออร่าของจีฮยอกกระแทกตาของจีวอนอย่างแรง จนดูเหมือนเธอจะหลงสเน่ห์เขาเข้าให้แล้วล่ะ

Marry My Husband EP.1
Marry My Husband EP.1

อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

วันต่อมา จีวอนจำได้ว่า วันนี้จะเกิดอุบัติเหตุหกล้มจนเข่าเป็นแผล เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มันเกิดขึ้น แต่จนแล้วจนรอดมันก็เกิดขึ้นจนได้

จีวอนขึ้นมานั่งบนดาดฟ้าครุ่นคิดว่า ทำไมถึงหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุนี้ไม่ได้ ในเมื่อวันก่อนหน้านี้อุบัติเหตุน้ำร้อนลวก เธอยังสามารถเลี่ยงได้เลย คิดไปคิดมา เธอก็คิดออก …

กฎก็คือ “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด” สิ่งที่ทำได้ก็คือเปลี่ยนคนที่เจอกับเหตุการณ์นั้น อย่างเหตุการณ์น้ำร้อนลวก จีฮยอกเป็นคนโดนน้ำลวกแทน เมื่อรู้กฎแล้ว จีวอนจึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตใหม่นี้ล้างแค้นมินฮวานกับซูมิน โดยการส่งต่อเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอไปให้ซูมินนั่นเอง

จีวอนวางแผนส่งต่อชะตากรรมของตัวเองให้ซูมิน โดยจับคู่ซูมินกับมินฮวาน ‘สามีขยะ’ ในอนาคตของเธอ เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเองให้ดีขึ้น

อีอีคยอง - พัคมินยอง ใน Marry My Husband EP.2
อีอีคยอง – พัคมินยอง ใน Marry My Husband EP.2

คืนนั้น จีวอนซื้อเหล้าขวดใหญ่ กะมอมซูมินกับมินฮวาน เพื่อทั้งสองจะได้มีอะไรกัน แต่แผนกลับตาลปัตรไม่เป็นไปตามที่วางเอาไว้ ซูมินเปลี่ยนใจไม่มาหาเธอที่ห้อง มีเพียงมินฮวานที่มาเพียงคนเดียว

เมื่อมินฮวานมาถึงก็พยายามจะมีอะไรกับจีวอน แม้เธอจะพยายามขัดขืน แต่ดูเหมือนความหื่นของมินฮวานจะไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ เขาผลักเธอไปอยู่บนเตียง ก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนล่อนจ้อน จีวอนถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจ “อ๊ายยยยย”

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Marry My Husband EP.3
ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Marry My Husband EP.3

ทันใดนั้น ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้น จู่ ๆ ก็มีคนส่งไก่ทอดก็มายืนเคาะประตู “ปัง ๆ ๆ” อยู่ที่หน้าห้อง จีวอนจึงรีบเดินไปเปิดประตูด้วยสีหน้างง ๆ ก่อนมินฮวานจะเดินออกมานอกห้อง เพื่อเอาเรื่องกับคนส่งไก่ทอด แหม่ สั่งก็ไม่ได้สั่ง แถมยังมาขัดจังหวะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม … จีวอนอาศัยจังหวะนี้แหละ รีบเข้าห้องปิดประตูลงกลอน ก่อนจะบอกมินฮวานว่า “คืนนี้ฉันยังไม่พร้อม” มินฮวานจึงเดินกลับไปด้วยท่าทางเซ็ง ๆ

แล้วภาพก็เผยให้เห็นจีฮยอกแอบยืนมองดูเหตุการณ์อยู่ด้วยสีหน้าโล่งใจ เมื่อเห็นมินฮวานเดินออกมาจากห้องของจีวอน … ที่แท้เป็นแผนของเขานั่นเองที่ให้คนไปส่งไก่ทอด เพื่อช่วยจีวอน

งานเลี้ยงรุ่น

จีวอนพยายามบอกกับตัวเองว่า ตอนนี้เธอไม่ใช่จีวอนคนเดิมอีกต่อไป แต่เป็น ‘จีวอนเวอร์ชั่น 2.0’ ที่กำลังจะมีชีวิตที่ดีขี้น และจะไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบเธออีกต่อไป

ในงานเลี้ยงรุ่น เพื่อน ๆ ต่างตกตะลึง เมื่อเห็นจีวอนมาในลุคนางพญา โดยเฉพาะซูมินที่ถึงกับตาค้าง เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นจีวอนในลุคนี้ เพื่อน ๆ ต่างพากันชมในความสวยของจีวอน

อีกีกวัง - พัคมินยอง
อีกีกวัง – พัคมินยอง

ระหว่างนั้น เชฟอึนโฮ (รับบทโดย อีกีกวัง) ผู้หล่อเหลาก็เดินเข้ามา แล้วเข้าไปทักทายจีวอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะจีวอนเป็นรักแรกของเขา เขาเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่อย่างนั้น จีวอนจ้ำอ้าวออกมานอกร้านด้วยความอาย เชฟอึนโฮจึงรีบวิ่งตามออกมาที่ด้านนอกร้าน จังหวะนั้นเอง เชฟอึนโฮได้พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี แล้วเอ่ยปากออกไปว่า “เธอเป็นรักแรกของฉัน คังจีวอน”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากเชฟอึนโฮ จีวอนก็ถึงกับอึ้งไปเลย !!!

รุ่งขึ้น จีวอนเดินเฉิดฉายออร่าพุ่งเข้ามาในออฟฟิศ จนเพื่อน ๆ ต่างมองกันตาลุก ในขณะที่จีฮยอกก็มาในลุคใหม่เช่นกัน ใส่คอนแทคเลนส์โชว์หน้าหล่อ ๆ สร้างความวีดว้ายให้กับสาว ๆ ในออฟฟิศ ถึงกับออกปากชมกันยกใหญ่ ก่อนที่เขาจะทำหน้านิ่ง ๆ เดินเข้าห้องไปโดยไม่สนใจคำชมเหล่านั้น เพราะคนเดียวที่เขาสนใจก็คือจีวอนนั่นเอง

นาอินอู
นาอินอู

จริง ๆ แล้วจีฮยอกมีสัญลักษณ์รูปหัวใจเหนือหน้าอกด้านซ้าย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เดียวกับที่จีวอนเคยได้รับจากพ่อของเธอ นั่นหมายความว่า จีฮยอกก็เป็นคนที่เสียชีวิตแล้วได้รับโอกาสให้ฟื้นกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง เช่นเดียวกับจีวอน

จีฮยอกแอบรักจีวอนมาตลอด และในอนาคต เขาเสียใจมากที่ได้รู้ข่าวการจากไปของเธอ เขาไปงานศพด้วยความโศกเศร้า และขณะขับรถกลับ เกิดมีแมวตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถ ทำให้เขาหักพวงมาลัยหลบจนรถเกิดพลิกคว่ำ ตุยคาที่

เมื่อได้โอกาสใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางให้จีวอนมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องไปงานศพจนเกิดอุบัติเหตุ เขาต้องเปลี่ยนแปลงไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก

จีฮยอกนึกย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน ตอนที่เขาได้เจอกับจีวอนครั้งแรก ในคืนนั้น จีวอนเดินเป๋ไปเป๋มาด้วยความเมา ใกล้ ๆ มีผู้ชายหน้าหื่นสองคนกำลังยืนคุยกันว่า จะลากจีวอนไปทำมิดีมิร้าย จีฮยอกเดินผ่านมาพอดีจึงเข้าไปช่วย ด้วยความเมาจีวอนทำแว่นตาตก นั่นแหละคือเหตุผลที่จีวอนจำจีฮยอกไม่ได้

พัคมินยอง - นาอินอู
พัคมินยอง – นาอินอู

จีฮยอกพาสาวตาสั้นมานั่งพักบริเวณสนามหญ้าที่สวนสาธารณะ พร้อมกับยื่นโค้กให้ดื่ม เธอคิดว่าเป็นเบียร์จึงกระดกดื่มเข้าไปอึกใหญ่ 😁 ระหว่างนั้นสาวตาสั้นจีวอนก็เล่าชีวิตของเธอให้เขาฟัง พ่อของเธอเสียไปแล้ว แม่ก็หนีไป เพื่อนก็ไม่มี ทั้งชีวิตมีเพื่อนสนิทแค่คนเดียวคือ ซูมิน แต่ไม่รู้ทำไม เวลารู้สึกแย่มักจะติดต่อซูมินไม่ได้ พอมีแฟนก็ดันมีแฟนเฮงซวยซะอีก เวลารู้สึกแย่ ๆ เธอจึงต้องดื่มจนเมามายเพียงลำพัง

ด้านจีฮยอกก็เล่าเรื่องแย่ ๆ ของของให้จีวอนฟังเช่นกัน แม่ของเขาจากไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ต่อมาพ่อแต่งงานใหม่ เขาก็เลยมีน้องสาวที่เป็นลูกติดของแม่เลี้ยง แม้ทุกคนจะดีกับเขา แต่เขาก็ยังรู้สึกแปลก ๆ เหมือนตัวเองเป็น ‘ไอ้ขี้แพ้’ อยู่ดี

ทีนี้เมื่อได้ยินเรื่องแย่ ๆ ต่างฝ่ายต่างยื่นมือไปสัมผัสเพื่อให้กำลังกันและกัน ไม่นานนัก ทั้งคู่ก็เผลอหลับไป ถึงรุ่งเช้า จีฮยอกตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอจีวอนแล้ว เขารู้สึกผิดหวังมาก

ผ่านไปหลายปี จีฮยอกได้เจอกับจีวอนอีกครั้งที่บริษัท U&K Foods เมื่อเห็นว่าจีวอนกำลังคบกับมินฮวาน เขาจึงคิดที่จะตัดใจจากเธอ แต่นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต จีฮยอกในตอนนี้ตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม เขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ แบบนั้นอีกแล้ว

หลังเลิกงาน จีฮยอกนัดเจอกับจีวอน โดยบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมาถึงจีวอนก็ถึงกับงง เอ๊ะ ทำไมถึงนัดเจอที่ชมรมยูโด ? แล้วจีฮยอกก็เฉลยว่า เรื่องสำคัญที่บอกน่ะ ก็คือสอนเธอให้เรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัว เมื่อรู้อย่างนั้นจีวอนก็ยิ้มออกมาด้วยความชอบใจ

Marry My Husband EP.6 สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ
Marry My Husband EP.6 สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ

เริ่มแรกจีวอนก็เรียนรู้หลักการพื้นฐาน ซึ่งข้อดีของยูโดก็คือ เป็นศิลปะการต่อสู้ระยะประชิด ไม่ต้องใช้แรงมาก ขนาดตัวและเพศจึงไม่ใช่อุปสรรค ดังนั้นถ้าเรียนรู้และนำไปใช้ถูกวิธี เธอก็สามารถล้มผู้ชายตัวใหญ่ ๆ ได้ไม่ยากเลย

ตอนแรกจีวอนก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าไร แต่เมื่อฝึกไปเรื่อย ๆ เธอก็เริ่มเก่งขึ้น จนจีฮยอกขอเล่นกับเธอด้วยตัวเอง ยกแรกจีวอนพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ในยกสุดท้ายจีวอนใช้ทุกอย่างที่เรียนมา พลิกเกมกลับจัดการล้มจีฮยอกได้สำเร็จ เธอจึงกรี๊ดลั่นออกมาด้วยความดีใจ ที่สามารถล้มผู้ชายตัวใหญ่ได้สำเร็จ โดยที่ไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้วเขายอมอ่อนข้อให้เธอต่างหากล่ะ 😁 (สำหรับคนที่รักอะไรก็ยอมได้อะนะ)

ความลับถูกเปิดเผยโดย 'บังทัน' พัคมินยอง - นาอินอู
ความลับถูกเปิดเผยโดย ‘บังทัน’ พัคมินยอง – นาอินอู

ความลับที่ถูกเปิดเผยโดย BTS

จีวอนยืนฟังเพลงวง BTS อยู่บนดาดฟ้าด้วยรอยยิ้ม ระหว่างนั้น จีฮยอกก็เดินขึ้นมาหา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังฟังเพลงของ ‘บังทัน’ อยู่ เขาจึงบอกว่าเขาก็ชอบวงนี้เช่นกัน เธอจึงบอกว่าอยากฟังเพลง ‘Dynamite’ แต่หาไม่เจอ ส่วนจีฮยอกก็บอกว่า ชอบเพลง ‘Spring Day’ มากกว่า … จีวอนอึ้งไปหลายวินาที ในหัวของเธอกำลังคิดคำนวณอะไรบางอย่าง

เพลง Spring Day ปล่อยในปี 2017 ส่วนเพลง Dynamite ปล่อยในปี 2020 ซึ่งมันเป็นเพลงในอนาคต !!? ซึ่งปีปัจจุบันคือ 2013

จีวอนได้แต่จ้องหน้าจีฮยอกด้วยความตกใจ ทั้งสองเพลงเป็นเพลงในอนาคต อย่างนั้นก็หมายความว่า จีฮยอกก็เป็นคนที่มาจากอนาคตเช่นเดียวกับเธออย่างนั้นเหรอ ?

เมื่อถูกจับโป๊ะ จีฮยอกจึงยอมรับว่าเขามาจากอนาคตเช่นกัน ทั้งสองคุยกันพักใหญ่ จีฮยอกพยายามพูดให้จีวอนหนีไปจากที่นี่ เพื่อจะได้เปลี่ยนแปลงอนาคต แต่จีวอนบอกกฎที่รู้มา “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สิ่งที่ต้องทำคือส่งโชคชะตาให้คนอื่น”

สิ่งที่รู้ ทำให้จีฮยอกเครียดหนักมาก เขากลัวว่าตัวเองจะต้องตายอีกครั้ง ณ จุดนี้ จีฮยอกกำลังคิดตัดสินใจว่า เขาควรจะออกไปจากชีวิตของจีวอนดีหรือเปล่า ? เพื่อเธอจะได้มีความสุขกับคนที่รักเธอ เพราะอีกไม่นานเขาจะต้องตาย

นาอินอู - พัคมินยอง ใน Marry My Husband EP.7
นาอินอู – พัคมินยอง ใน Marry My Husband EP.7

เงินค่าขนม

บริษัทจัดกิจกรรมเวิร์กชอปสำหรับพนักงานแผนกการตลาด โดยจัดให้พนักงานเล่น ‘เกมล่าสมบัติ’ ใครที่หาธงได้หมายเลขอะไร ก็จะได้ที่นอนตามหมายเลขที่กำหนด เลข 5 จะได้นอนในถุงนอน เลข 4 จะได้นอนในเต็นท์ ส่วนธงเลข 1 จะได้นอนบนรถบ้าน

บังเอิญว่าจีวอนได้ยินคนพูดว่า ธงเลข 1 ซ่อนเอาไว้อยู่กลางน้ำ จากนั้นเธอก็เดินเล่นคิดแผนจะเอาธงเลข 1 มาให้ได้ เดินไปเดินมาก็มาเจอกับจีฮยอก เขาทำท่าคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเปิดสัญลักษณ์รูปหัวใจบนตัวเขาให้เธอดู แล้วบอกว่า “ผมเป็น ‘เงินค่าขนม’ ของพ่อคุณครับ ดังนั้น คุณใช้ผมได้ตามสบายเลย”

จีวอนรู้สึกตกใจที่ได้เห็นสัญลักษณ์รูปหัวใจบนตัวจีฮยอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังยืนยันที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง “ฉันอยากสร้างความสุขในชีวิตที่สองด้วยตัวเอง และฉันก็อยากเห็น ‘เงินค่าขนม’ ของฉันมีความสุขเหมือนกัน” พูดง่าย ๆ คือเธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา

นาอินอู - พัคมินยอง
ซีรีส์ Marry My Husband สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ | tvN Korea

ต่อมา จีวอนตัดสินใจลงน้ำไปเอาธงเลข 1 ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่รู้ว่าน้ำบริเวณนั้นลึกและอันตรายมาก แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ จีวอนกำลังจมน้ำ โชคดีที่จีฮยอกมาทันพอดี จึงเข้าไปช่วย จากนั้นจีฮยอกก็ต่อว่าจีวอนอย่างรุนแรง ที่ทำอะไรโดยไม่คิดให้ดีซะก่อน “ทำอะไรรู้ตัวหรือเปล่า คุณอาจถึงตายได้เลยนะ แค่ขอให้ผมช่วยมันง่ายนิดเดียว ทำไมต้องเลือกทำด้วยตัวเอง”

ในที่สุด คังจีวอนก็เอาธงเลข 1 มาได้ เท่ากับว่าการเปลี่ยนแปลงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพราะในชีวิตที่แล้ว จีวอนต้องนอนในเต็นท์กับมินฮวาน และคืนนั้นเธอก็ไม่อาจปฏิเสธความสัมพันธ์กับมินฮวานได้ ส่วนซูมินได้นอนบนรถบ้านอย่างมีความสุข

อย่างไรก็ตาม ซูมินพยายามเข้าแย่งธงเลข 1 จากจีวอน จนทำให้เกิดการยื้อแย่ง แย่งไปแย่งมาก็หยุมหัวถึงผมกัน จีวอนสู้สุดใจ เพราะไม่ต้องการให้ธงถูกแย่งไปเหมือนในอดีต

เมื่อแย่งธงไม่ได้ ซูมินก็หัวร้อน และต่อว่าจีวอนว่าทำไมถึงไม่ยอมแพ้ให้เหมือนเมื่อก่อน จีวอนจึงบอกว่าตอนนี้เธอไม่ต้องการทำแบบนั้นแล้ว จากนี้ไปจะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างอีก … จริง ๆ แล้วมันเป็นแผนที่จีวอนวางเอาไว้ เธอคิดว่าเมื่อซูมินโกรธ จะพยายามแย่งมินฮวาน และมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

อีอีคยอง - ซงฮายุน - พัคมินยอง - นาอินอู
อีอีคยอง – ซงฮายุน – พัคมินยอง – นาอินอู

ซูมินที่ต้องการเอาคืนจีวอน จึงเดินไปอ่อยมินฮวานที่เต็นท์ มินฮวานที่จ้องจะงาบสาวอยู่แล้วจึงสนองตอบทันที จากนั้นทั้งสองก็เริ่มบรรเลงเพลงรักกัน ในขณะที่จีวอนยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด แม้เธอจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องจะลงเอยแบบนี้ แต่เธอก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะไม่ว่ายังไง ซูมินก็เป็นเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอ

ยังดีที่ช่วงเวลานี้ จีวอนยังมีจีฮยอกอยู่เคียงข้าง เขาคอยพูดให้กำลังใจ เพื่อให้เธอสู้ต่อไป อย่ายอมใจอ่อนเด็ดขาด

การขอแต่งงานที่น่าจดจำ

ระหว่างนั้น หุ้นของบริษัทที่มินฮวานถืออยู่ก็ประกาศล้มละลาย ทำให้เงินลงทุนทั้งหมดของเขาสลายกลายเป็นศูนย์ เมื่อรู้ว่าตัวเองถังแตก มินฮวานจึงนัดเจอกับจีวอน แล้วก็พูดเรื่องการแต่งงาน จีวอนยิ้มอย่างรู้เท่าทัน เธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เธอรู้ว่าถ้าเธอยอมแต่งงานกับมินฮวาน เธอจะต้องเป็นคนแบกรับหนี้ทั้งหมดที่มินฮวานเป็นคนก่อ

ทีนี้ จีวอนจึงเอาเรื่องที่มินฮวานกำลังวางแผนขอเธอแต่งงานให้จีฮยอกฟัง เธอย้ำว่าการแต่งงานกับมินฮวานเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุดคือการขอแต่งงานสุดห่วย ที่มินฮวานจัดให้ในวันเกิดของเธอ เค้กวันเกิดก็เป็นเพียงขนมปังแผ่นปักเทียน กระดาษขอแต่งงานก็เป็นกระดาษ A4 แถมยังเขียนผิดอีก “Will you merry me?”

Marry My Husband EP.8
Marry My Husband EP.8 | tvN Korea

เมื่อได้ยินแบบนั้น จีฮยอกจึงลงทุนจัดงานให้อย่างอลังการ มีโดรนบินแปรอักษรขอแต่งงาน ถึงเวลาที่มินฮวานคุกเข่าขอจีวอนแต่งงาน เพื่อน ๆ ที่บริษัทต่างปรบมือให้ด้วยความยินดี แต่สายตาของซูมินที่มองไปที่จีวอนนั้นต่างออกไป มันเป็นสายตาที่แฝงไว้ด้วยความอิจฉา

จีวอนหันไปมองซูมินด้วยรอยยิ้ม เธอรู้ดีว่าเพื่อนรักของเธอจะอิจฉาจนอกแทบแตก เมื่อเห็นเธอมีความสุข แต่ตอนนี้เธอโนสนโนแคร์ เพราะการสับเปลี่ยนโชคชะตาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

Marry My Husband EP.9
tvN Korea

หลังจากจีวอนตกลงแต่งงานกับมินฮวาน จีวอนก็ไปพบพ่อแม่ของมินฮวาน เธอแต่งตัวมาในสไตล์สาวเฟียซ เสื้อเปิดไหล่ปีกนกอินทรี กางเกงหนังสีดำสั้นเสมอหู ถุงน่องตาข่าย และบูธหนังสีดำ แม่มินฮวานเห็นว่าที่ลูกสะใภ้มาในสภาพนี้ก็ถึงกับตาค้าง

ไม่เพียงเท่านั้น แม่มินฮวานยังพูดจาดูถูกพ่อแม่จีวอน หาว่าเลี้ยงลูกมาได้ไม่ดี จีวอนจึงตอกกลับด้วยคำพูดรุนแรง ก่อนจะประกาศยกเลิกงานแต่งงาน แล้วเดินออกไปอย่างเท่ ๆ ด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ

สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ EP.9
tvN Korea

ทีนี้ มินฮวานก็เดินมาจะเอาเรื่อง “นี่เธอทำบ้าอะไรเนี่ย” จีวอนรำคาญ มายืนขวางอยู่ได้ไอ้ชายชั่ว เธอจึงใช้สกิลยูโดที่เรียนมาจากจีฮยอก เหวี่ยงมินฮวานลงไปนอนกองกับพื้นด้วยความสะใจ

รุ่งขึ้น มินฮวานรีบปรี่เข้าไปเอาเรื่องกับจีวอนที่ออฟฟิศ แต่ไม่ทันที่เขาจะอ้าปากพูด จีวอนก็ซัดด้วยฝ่ามือเข้าที่เบ้าหน้าของมินฮวานไปหลายฉาด ก่อนที่จีวอนจะตะโกนเสียงดังให้ทุกคนในออฟฟิศได้ยินว่า มินฮวานคบผู้หญิงสองคน

จากนั้น เธอก็หยิบเอากางเกงในผู้หญิงสีแดงขึ้นมา แล้วนำมันไปวางไว้บนหัวของมินฮวาน “กางเกงในตัวนี้ ฉันเจอมันบนรถของนาย” แล้วจีวอนก็ถอนแหวนหมั้นออก ก่อนจะโยนมันทิ้งลงบนพื้นอย่างไร้ค่า

ข่าวที่มินฮวานมีโลกสองใบ กลายเป็นเรื่องที่พนักงานในออฟฟิศเอาไปเม้ามอยกันสนุกปาก จนในที่สุดทุกคนก็พุ่งเป้าไปที่ซูมิน

ทีนี้ มินฮวานก็ไปต่อว่าซูมินด้วยความหัวร้อน ที่ดันทิ้งกางเกงในไว้ในรถของเขา แต่ซูมินกลับปฏิเสธ โดยไม่รู้ไม่เห็นเรื่องกางเกางในอะไรนั่นเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นแผนของจีวอน ที่เตรียมกางเกงในแบบเดียวกับของซูมินเอาไว้ เพื่อทำให้เรื่องฉาวของทั้งคู่กระจายไปทั่วบริษัท

เรื่องราวลุกลามบานปลายจนซูมินถูกเลิกจ้าง เนื่องจากประพฤติตัวไม่เหมาะสม ส่วนมินฮวานก็ถูกหัวหน้าว่ากล่าวตักเตือน

พัคมินยอง - ซงฮายุน
พัคมินยอง – ซงฮายุน

ซูมินเก็บข้าวของใส่กล่องเดินหน้าจ๋อยออกจากบริษัท ระหว่างทางบังเอิญเจอกับจีวอน ทำให้ซูมินคุกเข่าลงแทบเท้าของจีวอนเพื่อขอโทษ “ฉันผิดไปแล้ว ฉันท้องน่ะ เลยทำให้อารมณ์แปรปรวน”

เมื่อได้ยินว่าซูมินตั้งท้องกับมินฮวาน จีวอนก็ถึงกับใจอ่อน ทั้งที่จีวอนรู้อยู่แล้วว่า มินฮวานเป็นหมัน “แล้วซูมินท้องได้ยังไง ?”

คืนนั้น มินฮวานไปดื่มระบายความเครียด หลังรู้ว่าซูมินท้อง ระหว่างทางกลับบ้าน มินฮวานเจอชายฉกรรจ์สองคนเข้ามาจับตัวไปทวงหนี้ก้อนโต มินฮวานกลัวจนปัสสาวะแทบเล็ด จนต้องรับปากว่าจะหาเงินมาคืนให้ได้ภายใจหนึ่งอาทิตย์ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนนั้นเป็นคนของจีฮยอก ที่ส่งมาบีบให้มินฮวานแต่งงานกับซูมินโดยเร็ว เนื่องจากแม่ของมินฮวานจะซื้อบ้านให้หลังจากเขาแต่งงาน ซึ่งเป็นทางเดียวที่มินฮวานจะหาเงินมาคืนเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบได้

มินฮวานจึงกลับมาขอซูมินแต่งงาน ซูมิน “เซย์เยส” แทบไม่ต้องคิด

นาอินอู - พัคมินยอง จูบ
นาอินอู – พัคมินยอง

วันต่อมา จีวอนได้เข้าพบคุณปู่ของจีฮยอก และดูเหมือนคุณปู่จะชอบเธอมาก ๆ ซะด้วย มากขนาดที่ทำให้คุณปู่เข้าใจว่า ทำไมจีฮยอกถึงไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณปู่ได้เลือกเอาไว้ให้

และดูเหมือนจีวอนรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองแล้วล่ะ ผู้ชายที่คนนั้นไม่ใช่รักแรกอย่างอึนโฮ แต่เป็นจีฮยอกนั่นเอง … ทั้งสองได้เจอกัน ก่อนจีฮยอกจะโน้มตัวเข้าไปจุมพิตเธอ แล้วทั้งคู่ก็ยืนยันความรู้สึกที่มีให้กันด้วยรอยจูบอันหวานซึ้ง

ระหว่างนั้น มินฮวานก็พาซูมินไปพบแม่ เขาโกหกแม่ว่า ซูมินจบจากมหาวิทยาลัยฮันกุก เมื่อรู้แบบนั้น แม่ก็กล่าวชื่นชมซูมินยกใหญ่

หลายวันต่อมา แม่มินฮวานก็พาซูมินไปเลือกชุดแต่งงาน พร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในพิธีสำคัญ ส่วนมินฮวานก็ไม่ได้สนใจอะไร เอาแต่นอนเล่นเกมอย่างกับเด็ก ๆ ทั้งวัน

Marry My Husband EP.11 สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ
พัคมินยอง – อีอีคยอง – ซงฮายุน | tvN Korea

ขยะที่ทิ้งแล้วถูกเก็บมาใช้ใหม่

และแล้ววันแต่งงานก็มาถึง … ซูมินจ้างป้าที่ไหนก็ไม่รู้ มาปลอมตัวเป็นแม่ของเธอ แถมยังจ้างเพื่อนเจ้าสาวมาอีก 11 คน ส่วนเพื่อนของมินฮวาน ที่มาเป็นเจ้าบ่าวมีมาแค่คนเดียว

ขณะนั้นเอง จีวอนกับจีฮยอกก็เดินตีคู่กันเข้ามาในงาน ทั้งคู่ดูสง่า ราวกับพญาหงส์กับพญาอินทรี เรียกว่าออร่ากลบคู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวซะมิด แล้วจีวอนก็เดินไปหาซูมินด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจเธอด้วยนะ ที่เก็บขยะที่ฉันทิ้งแล้วไปใช้ใหม่” พูดจบ จีวอนก็เดินหันหลังกลับไป ทิ้งให้ซูมินยืนตัวสั่นด้วยความโกรธ

เมื่อพิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น ซูมินได้แต่ยืนคิดว่า “อะไรนะ ‘ขยะที่ทิ้งแล้วอย่างงั้นเหรอ’ ไม่ใช่หรอก ฉันเป็นคนแย่งผู้ชายของเธอมาต่างหาก จีวอน ฉันคือผู้ชนะ” เมื่อคิดแบบนั้น ซูมินก็เดินเข้าพิธีไปหามินฮวานด้วยความภูมิใจ ที่ตัวเองเป็นผู้ชนะ ผู้ชนะที่แย่งทุกอย่างจากจีวอนมาได้

Marry My Husband EP.11 สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ
Marry My Husband สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ EP 11 | tvN Korea

จีวอนนั่งบนรถของจีฮยอก ใบหน้าเธอเปื้อนยิ้มทั้งน้ำตากับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่แน่ใจว่าควรดีใจหรือเสียใจกันแน่ เมื่อจีฮยอกเห็นแบบนั้น จึงเอื้อมมือมากุมมือเธอเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เธอก้าวต่อไป

เมื่อทั้งสองกลับมาถึงบ้าน จีวอนถึงกับตกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนรอจีฮยอกอยู่ พร้อมกับแนะนำตัวเองว่า เป็นอดีตคู่หมั้นของเขา !!?

เมื่อเผชิญหน้ากับ ยูรา อดีตคู่หมั้นของจีฮยอก จีวอนก็สะบัดมือออกจากเขา แล้วรีบเดินหนีออกมาทันที แต่ยังไม่ทันที่จะได้สงบจิตสงบใจ เธอก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวว่า ‘ผู้ช่วยยัง’ เพื่อนที่ทำงานป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เรื่องนี้ทำให้จีวอนรู้สึกแย่หนักขึ้นไปกว่าเดิม … ทำไมชะตากรรมของเธอถึงไม่ตกเป็นของซูมิน ? แต่มันกลับตกไปอยู่กับคนดี ๆ อย่างผู้ช่วยยัง

วันต่อมา จีฮยอกพยายามเข้ามาปรับความเข้าใจกับจีวอน โดยอ้างว่าเขากับยูราไม่มีความสัมพันธ์อะไรเกินเลยไปกว่าคู่หมั้น คู่หมั้นที่เขาไม่ได้รักเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างไรก็ตาม จีวอนกลับไม่สนใจคำแก้ตัวจากปากขอจีฮยอกเลย เพราะเธอนึกย้อนกลับไปถึงแม่ แม่ที่ทิ้งเธอกับพ่อไปอยู่กับชายอื่น ‘การเลิกราโดยอีกฝ่ายไม่ยินยอม เป็นสิ่งที่เธอไม่มีวันจะยอมรับได้’

Marry My Husband EP.12
tvN Korea

เล่นเกมปั่นประสาท

ยูรานัดจีวอนมาคุยเป็นการส่วนตัวที่ร้านอาหาร จีวอนสารภาพไปตามตรงว่า ไม่รู้เรื่องที่จีฮยอกมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ตอนนี้เธอเต็มใจจะหลีกทางให้ และจะไม่ติดต่อกับจีฮยอกอีก

เรื่องก็เหมือนจะจบ แต่ไม่จบ เพราะยูราต้องการเล่นเกมปั่นประสาท “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงเลิกกับแฟนที่คบกันมา 7 ปี แล้วมาคบกับจีฮยอก เพราะเขาเป็นทายาทเศรษฐีอย่างนั้นเหรอ” … จีวอนพยายามปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่ยูราก็ยังยิ้มด้วยท่าทางกวนประสาทไม่เลิก จีวอนจึงรีบตัดบท และขอตัวกลับทันที แต่ …

แต่เมื่อยูราเห็นจีวอนลุกขึ้น เธอก็แกล้งปัดแก้วไวน์ตกแตกต่อหน้าจีวอน ก่อนจะพูดด้วยคำดูถูกอย่างร้ายกาจ “ฉันน่ะ เกลียดคนอย่างเธอที่สุด พวกตีหน้าใสซื่อ”

โดนแรงขนาดนี้ จีวอนก็ไม่ยอมเหมือนกัน “ฉันก็เกลียดคนแบบเธอเหมือนกัน พวกชอบดูถูกคน” … ด่ามาด่ากลับไม่โกง

พัคมินยอง - นาอินอู
พัคมินยอง – นาอินอู

ขณะจีวอนกำลังขับรถกลับบ้าน รถบรรทุกวิ่งมาด้วยความเร็วกำลังพุ่งเข้าชนรถของจีวอน มันเป็นแผนของยูรา ที่ต้องการจบชีวิตจีวอนซะให้หายแค้น แต่ทันใดนั้นเอง จีฮยอกก็ขับรถมาขวางรถบรรทุกเอาไว้ ทำให้รถของจีฮยอกพังยับเยิน จีวอนได้แต่ตกตะลึงกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า !

เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ยูราได้นัดเจอกับมินฮวาน เพื่อเป่าหูให้เขาร่วมมือกับเธอล้างแค้นจีวอน ยูรายังบอกด้วยว่า จีวอนมีทรัพย์สินที่ได้จากจีฮยอกเป็นจำนวนมากถึง 8 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 2,160 ล้านบาท) และยังบอกความลับเกี่ยวกับซูมินให้มินฮวานรู้อีกด้วย ความลับอะไรล่ะ ?

จริง ๆ แล้วพ่อของซูมินกำลังคบอยู่กับแม่ของจีวอน ! นั่นหมายความว่า ถ้าจีวอนตายไป ทรัพย์สินจำนวนมหาศาลก็จะตกเป็นของแม่ … พูดง่าย ๆ คือ ถ้าจีวอนตายไปคนเดียว ทุกคนก็จะรวยกันหมด

ซูมินนำเงินสดจากยูรา 150 ล้านวอน ไปให้พ่อของเธอกับแม่ของจีวอน เพื่อเป็นค่าจ้างงวดแรกในแผนสังหารจีวอน

นาอินอู - พัคมินยอง
นาอินอู – พัคมินยอง

อย่างไรก็ตาม แผนสังหารจีวอนล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อจีฮยอกขับรถมาขวางเอาไว้ได้ทัน … เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยมีจีวอนเฝ้าอยู่ด้านหน้าห้องผ่าตัด

ไม่นานนัก หมอออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยสีหน้าตึงเครียด พร้อมกับกล่าวว่า เขาอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยก็เป็นได้

ระหว่างนั้น จีวอนบังเอิญได้ยินว่า คนขับรถบรรทุกคือพ่อของซูมิน จีวอนจึงไปคุยกับซูมิน ทั้งสองโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่จีวอนจะตวาดใส่หน้าซูมิน “นรกกำลังรอเธออยู่ นับวันรอเอาไว้ได้เลย”

นาอินอู - พัคมินยอง
นาอินอู – พัคมินยอง

ด้วยแรงแห่งรักของจีวอน ผลักดันให้จีฮยอกต่อสู้กับโชคชะตา ในที่สุดเขาก็ฟื้นขึ้นราวปาฏิหาริย์ จังหวะนั้น จีฮยอกก็โผเข้ากอดจีวอน “ขออยู่แบบนี้สักพักนะ ผมรู้สึกเสียใจมาก ที่คิดว่าตัวเองต้องตายจากคุณไป”

ระหว่างนั้น ผู้ป่วยก็ออดอ้อนสุดฤทธิ์ ไม่ยอมให้จีวอนห่างกาย ถึงขนาดอ้อนให้เธอนอนค้างเพื่อดูแลเขา ผู้ป่วยอะนะ จีวอนก็ตกลงจะนอนค้าง ตกกลางคืนปิดไฟเตรียมเข้านอน จีฮยอกก็เลยถือโอกาสไปนอนข้าง ๆ จีวอน แล้วทั้งสองก็นอนกอดกันกลมจนผล็อยหลับไป

ล่อลวงโชคชะตา

จีวอนสังเกตเห็นโชคชะตาของเธอกำลังตกไปอยู่กับผู้ช่วยยัง ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ ผู้ช่วยยังก็จะต้องตาย เมื่อเป็นเช่นนั้น จีวอนจึงคิดแผนจะล่อลวงโชคชะตาให้ตกไปอยู่กับซูมิน แต่แผนนี้จะสำเร็จเธอต้องไปคืนดีกับมินฮวาน

จีฮยอกแกล้งทำเป็นทะเลาะกับจีวอนให้มินฮวานได้ยิน จากนั้น จีวอนก็ทำทีเข้าไปคืนดีกับมินฮวาน และบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่แย่ ๆ ของมินฮวาน เป็นเพราะเขาไปคบกับซูมิน ถ้าเขากลับมาคบกับเธอรับรองรวยเละแน่นอน เพราะถ้าเธอเลิกกับจีฮยอก ก็จะได้ทรัพย์สิน 8 หมื่นล้านเลยล่ะ …​ ผู้ชายหน้าโง่แถมยังโลภอย่างมินฮวาน เมื่อเห็นเงินก้อนโตขนาดนั้นก็ถึงกับตาลุกวาว

อย่างไรก็ตาม มินฮวานรู้ความจริงว่าถูกจีวอนหลอก เขาจึงดักรอที่ออฟฟิศหลังเลิกงาน เมื่อไม่มีใครอยู่แล้ว เขาก็ปรากฏตัวและเข้าไปทำร้ายบีบคอจีวอน ยังดีที่จีฮยอกเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน

หลังจัดการกับมินฮวานได้แล้ว จีฮยอกก็เข้ามาดูอาการของจีวอน แต่ดูเหมือนเธอจะนอนแน่นิ่งไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น

จีวอนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ตอนนี้อาการปลอดภัย ส่วนจีฮยอกกับมินฮวานถูกตำรวจนำตัวเข้าซังเต ในความผิดทำร้ายร่างกาย อย่างไรก็ตาม จีฮยอกก็ได้การประกันตัวออกมา ก่อนเดินออกจากห้องขัง เขาหันไปมองมินฮวานด้วยสายตาอาฆาต พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ฉันจะขยี้แกให้จมดิน เตรียมรอรับกรรมเถอะ”

หลังจากจีวอนอาการดีขึ้น จีฮยอกก็พาเธอไปเปิดตัวกับคุณปู่ ซึ่งนั่น สร้างความไม่พอใจให้ยูราเป็นอย่างมาก เธอทนไม่ได้ที่จะต้องเป็นผู้แพ้

ด้านจีวอนก็สารภาพความรู้สึกในใจที่มีต่อจีฮยอกกับคุณปู่ พร้อมกับขอคบกับเขาอย่างเป็นทางการ คำพูดตรง ๆ จริงใจที่ออกจากปากจีวอน ทำให้คุณปู่ชอบใจ

สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ ตอน 15
สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ ตอน 15 | tvN Korea

จีฮยอกสั่งให้ลูกน้องส่งกรมธรรม์ประกันชีวิตของซูมิน ซึ่งเป็นสวัสดิการของพนักงานไปให้มินฮวาน ในกรมธรรม์ระบุว่า ผู้เป็นสามีจะได้รับผลประโยชน์สูงถึง 500 ล้านวอน มินฮวานถึงกับตาลุกวาว และคิดแผนชั่วบางอย่างขึ้นมาทันที

มินฮวานนัดเจอกับยูราที่โรงแรม เขาเสนอแผนที่จะทำให้เขาและเธอ ‘วินวิน’ กันทั้งสองฝ่าย นั่นคือการกำจัดซูมินซะ เขาจะได้เงินประกัน ส่วนยูราก็ได้ปิดปากซูมิน เพราะก่อนหน้านี้ ซูมินนำคลิปเสียงที่ยูราสั่งการให้สังหารจีวอนมาข่มขู่ … ยูราตกลงตามแผนของมินฮวาน

ทีนี้ จีฮยอกก็เดินแผนต่อ เขารีบส่งข่าวไปบอกซูมินว่า มินฮวานอยู่โรงแรมกับผู้หญิง เมื่อซูมินมาถึง เธอก็โวยวายไม่หยุด แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป ‘ชายชั่วหญิงชู้เอาไว้’ จังหวะนั้น ลูกน้องของยูราก็เข้ามาจัดการซูมินจดสลบเหมือดไป

ซงฮายุน - อีอีคยอง
ซงฮายุน – อีอีคยอง

จากนั้น ยูราก็สั่งมินฮวานพาตัวซูมินไปกลับไปที่บ้าน เขาจัดการตามแผน โดยเข้าไปทำให้เครื่องไอน้ำทำงานผิดปกติ และปล่อยคาร์บอนมอนอกไซด์ออกมา ซึ่งเป็นเหตุทำให้ซูมินเสียชีวิต

แต่แผนมันไม่เป็นไปตามแผน เมื่อซูมินฟื้นขึ้นมาแล้วจัดการเตะผ่าหมากเข้าที่กล่องดวงใจของมินฮวาน พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างกับคนเสียสติ “อุ๊ย ฉันจะบอกอะไรให้แกรู้นะ ฉันไม่เคยแท้ง เพราะฉันไม่เคยท้องกับคนไร้น้ำยาอย่างแก” พูดจบก็รีบวิ่งหนีไป แต่มินฮวานก็ฝืนลุกขึ้นมา ทำให้ทั้งสองเกิดการกระชากลากถูต่อสู้กัน จนในที่สุด มินฮวานก็ล้มลง หัวไปฟาดกับโต๊ะกระจก จนเสียชีวิตไปอย่างง่ายดาย

วันต่อมา จีวอนถึงกับมือสั่นที่ได้รับข้อความแจ้งข่าวการเสียชีวิตของมินฮวาน เย็นวันนั้น เธอจึงแต่งชุดดำไปร่วมพิธีศพของอดีตคนรักด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อย แต่ในใจของเธอได้แต่คิดว่า “ฉันต้องดีใจแค่ไหน ที่ได้เห็นคนอย่างแกรับกรรมที่ควรจะได้รับ”

นาอินอู - พัคมินยอง - ซงฮายุน
นาอินอู – พัคมินยอง – ซงฮายุน

ระหว่างนั้น ข่าวทางทีวีก็รายการว่า ตำรวจกำลังออกล่าตัวซูมินแทบพลิกแผ่นดิน ในขณะที่ซูมินที่อยู่ในชุดดำยืนอยู่หน้าบ้านของจีฮยอกกับซูมิน พร้อมกับคิดในใจว่า “เธอจะมีความสุขอยู่คนเดียวแบบนี้ไม่ได้หรอก คังจีวอน”

Marry My Husband EP.16 (ตอนจบ) เริ่มต้นที่ยูรานั่งอยู่ในห้องสอบสวน เธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่าจีวอน แต่ดูเหมือนตำรวจจะไม่มีหลักฐานมากพอ เธอจึงได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ถูกตั้งข้อกล่าวหา

ยูราเดินออกมาจากสถานีตำรวจก็เจอกับคุณปู่ของจีฮยอก ที่นั่งรออยู่บนรถตู้ คุณปู่ไม่พอใจที่เธอล้ำเส้น แต่ยังให้โอกาสโดยการยื่นข้อเสนอให้เธอลาออกจากตำแหน่งผู้บริหาร แล้วเดินทางไปเป็นอาสาสมัครที่แอฟริกา แต่ยูราปฏิเสธ

ต่อมา จีฮยอกยื่นข้อเสนอให้ยูราเข้ามอบตัว และสารภาพความผิดทั้งหมดที่ได้กระทำ แต่ยูรายังคง ‘ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ’ ทำเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทันใดนั้นเอง พ่อซูมินกับแม่ของจีวอนก็ปรากฏตัวขึ้น งานนี้ทำเอายูราถึงกับหน้าถอดสี

แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้ จีฮยอกไปกล่อมให้ลูกน้องของยูราเปลี่ยนฝั่ง และให้บอกข้อมูลทั้งหมด แลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี จีฮยอกจึงได้หลักฐานความผิดที่ยูราก่อเอาไว้ทั้งหมด

ด้านการผ่าตัดของผู้ช่วยยังก็ผ่านไปได้ด้วยดี และได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้ช่วยอีอย่างมีอย่างสุข พร้อมกับจัดการฟ้องหย่าสามีเก่าจอมเจ้าชู้ได้สำเร็จ

ส่วนเชฟอึนโฮกับฮียอนก็สานสัมพันธ์กัน จนก่อเกิดเป็นความรักในที่สุด

ซงฮายุน - พัคมินยอง - นาอินอู
ซงฮายุน – พัคมินยอง – นาอินอู

ระหว่างที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ซูมินก็ปรากฏตัวต่อหน้าจีวอน เธอหยิบเอาเครื่องช็อตไฟฟ้าแรงสูงจัดการกับจีวอนจนสลบ จากนั้นก็นำเอาน้ำมันที่เตรียมมาราดไปทั่วห้อง แต่ …

แต่ดูเหมือนว่าสกิลการเอาตัวรอดของจีวอนดีเกินกว่าซูมินจะคาดคิด เมื่อเธอลุกขึ้นมาได้ จีวอนก็ใช้สกิลยูโดขั้นเทพจัดการกับซูมินจนลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น

แถมระหว่างที่ซูมินกำลังราดน้ำมัน ก็พูดพล่ามออกมาไม่หยุด ทุกอย่างที่พูดล้วนแล้วแต่เป็นหลักฐานที่ถูกบันทึกเอาไว้ในกล้องวงจรปิด ทันใดนั้นเอง จีฮยอกก็เข้ามาในห้องพร้อมกับตำรวจ เป็นอันว่าซูมินถูกจับได้อย่างง่ายดายโดยละม่อม

ในขณะที่ยูราได้รับแจ้งจากลูกน้องว่า ให้รีบหนีไปต่างประเทศทันที เนื่องจากพรุ่งนี้อัยการจะยื่นร้องต่อศาลสั่งห้ามเธอออกนอกประเทศ ยูราจึงรีบขับรถไปที่สนามบินอย่างร้อนใจ และระหว่างทาง เธอก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่

ที่แท้ ยูราก็เป็นคนรับชะตากรรมของจีฮยอกนั่นเอง

เวลาเดียวกัน จีฮยอกพบว่าสัญลักษณ์รูปหัวใจได้หายไปแล้ว พร้อมกับข่าวทีวีรายงานการเสียชีวิตของยูรา

นาอินอู - พัคมินยอง - อีอีคยอง - ซงฮายุน
นาอินอู – พัคมินยอง – อีอีคยอง – ซงฮายุน

เวลาผ่านไป จีฮยอกก็คุกเข่าขอจีวอนแต่งงาน ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุข ที่จีวอนไม่อาจกลั้นน้ำตาแห่งความปีติเอาไว้ได้

ตรงกันข้ามกับชีวิตในคุกของซูมินที่สติแตกไม่ต่างจากคนบ้า เธอหลอนเห็นมินฮวานมาเยี่ยมที่คุก สิ่งที่เธอทำได้เพียงอย่างเดียวคือร้องโวยวายกับผู้คุม บอกให้ปล่อยเธอไป เพราะจีวอนเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ

สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ ตอนจบ EP.16
สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ ตอนจบ EP.16

จีฮยอกกับซูมินเข้าพิธีแต่งงาน ไม่นานนัก จีวอนก็ตั้งท้องลูกแฝด โดยมีจีฮยอกดูแลเป็นอย่างดี

ด้านคู่ของอึนโฮกับฮียอนก็ไม่น้อยหน้า มีหลานให้คุณปู่ด้วยกันหนึ่งคน แล้วเรื่องราวก็จบลงอย่างมีความสุข 🥰

จบบริบูรณ์

ดู Marry My Husband ที่ Prime Video >>> คลิกที่นี่

The post สรุปเนื้อเรื่อง Marry My Husband (2024) สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ appeared first on idol.

]]>
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Castaway Diva (2023) https://www.online-idol.com/2023/11/17/castaway-diva-2023-kdrama-spoiler-37606/ Fri, 17 Nov 2023 07:35:23 +0000 https://www.online-idol.com/?p=37606 หลังติดเกาะอยู่สิบห้าปี หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง มุ่งมั่นที่จะทำตามฝันในการเป็นไอดอลผู้โด่งดัง …

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Castaway Diva (2023) appeared first on idol.

]]>
Castaway Diva สปอยล์ : หลังติดเกาะอยู่สิบห้าปี หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง มุ่งมั่นที่จะทำตามฝันในการเป็นไอดอลผู้โด่งดัง …

EP.1 ปลาที่กำลังขาดอากาศหายใจ

รีแคปซีรีส์ Castaway Diva EP.1 : ปลาที่กำลังขาดอากาศหายใจ

มกฮา (วัยเด็ก รับบทโดย อีเร) นักเรียนมัธยมต้น ที่อาศัยอยู่บนเกาะชุนซัม เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของ รันจู ดีว่าเบอร์หนึ่งของเกาหลี

วันนี้ มกฮาจะได้ออกวิทยุใน ‘รายการร้องเกะกับดารา’ แต่ปรากฏว่า แบตเตอรี่โทรศัพท์เกิดหมด มกฮาจึงเดินถามเพื่อน ๆ ทั่วโรงเรียน “มีใครใช้มือถือโกอารา ?” (มือถือที่ ‘โกอารา’ เป็นพรีเซนเตอร์) เพื่อหาคนใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกับเธอ

กีโฮ นักเรียนที่เพิ่งย้ายมาใหม่ บังเอิญมีโทรศัพท์โกอารา มกฮาจึงเข้าไปขอยืมแบตเตอรี่ แต่กีโฮไม่ยอมให้ยืมง่าย ๆ จนทำให้ มกฮาร้องไห้ออกมา สุดท้ายกีโฮจึงยอมให้ยืมแบตเตอรี่

ไม่นานนัก ทางรายการก็โทร. เข้ามา มกฮาดีใจจนร้องไห้ออกมาด้วยความสุข ที่ได้คุยกับนักร้องในดวงใจ แต่ขณะที่มกฮากำลังจะได้ร้องเพลงในรายการ กีโฮก็คว้าเอามือถือจากมือของเธอ แล้วถอดเอาแบตเตอรี่คืน ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่สนใจไยดี

อีเร

หลังผิดหวังจากรายการวิทยุ มกฮาก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เธอตัดสินใจทำมิวสิกวิดีโอเดโม่ เพื่อส่งเข้าร่วมงานประกวดร้องเพลง ที่จูรันเป็นกรรมการ ปัญหาคือ ต้องมีกล้องดิจิตอลที่ใช้ถ่ายวิดีโอ และคนที่มีก็คือกีโฮ

หลังเลิกเรียน มกฮาเสนอเงินให้กีโฮ 10,000 วอน เพื่อขอให้เขาถ่ายทำมิวสิกวิดีโอให้ … เมื่อมกฮาเปล่งเสียงร้องเพลงออกมา ก็ทำเอากีโฮถึงกับประทับใจในทักษะการร้องเพลงอันยอดเยี่ยมของเธอ

จริง ๆ แล้ว กีโฮไม่ค่อยชอบความสดใสของมกฮา เพราะชีวิตของเธอแตกต่างกับเขาอย่างสิ้นเชิง เขารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของเธอ

ซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.1

กีโฮพยายามทำงานเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อจะหนีไปจากพ่อที่ชอบใช้ความรุนแรง ซึ่งแม่ของเขาได้หนีไปก่อนแล้ว ความโกรธทั้งหมดของพ่อจึงมาลงกับเขา

ซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.1

และดูเหมือนว่า สิ่งที่กีโฮคิดเกี่ยวกับมกฮาจะตรงกันข้าม เพราะคืนนั้น มกฮาก็ถูกพ่อที่ดื่มจนเมามายทำร้ายร่างกายเช่นกัน ซึ่งคือเหตุผลที่แท้จริงที่เธอต้องการหนีไปจากเกาะแห่งนี้

วันรุ่งขึ้น มกฮาจึงตัดสินใจโทร. แจ้งตำรวจว่าถูกพ่อทำร้ายร่างกาย ซึ่งหนึ่งในสองตำรวจที่ถูกส่งมาก็คือ พ่อของกีโฮ !

กีโฮเอาคลิปมิวสิกวิดีโอมาให้มกฮา แต่เธอไม่มาโรงเรียน ทำให้กีโฮเริ่มเป็นห่วง หลังเลิกเรียนเขาจึงปั่นจักรยานไปที่ร้านปลาดิบ ที่พ่อมกฮาเป็นเจ้าของ

เมื่อไปถึง กีโฮเห็นพ่อของเขาในเครื่องแบบตำรวจอยู่ในร้านปลาดิบ และพยายามไกล่เกลี่ยให้มกฮาไม่เอาเรื่องพ่อ แถมยังหาว่าเธอป่วยเป็นโรคของเด็กวัยรุ่น ในที่สุดเธอก็ยอมขอโทษพ่อ และสัญญาจะไม่ก่อปัญหาอีก … แน่ล่ะ พ่อกีโฮก็ชอบทำลายลูกตัวเอง เขาจึงเข้าข้างพ่อมกฮา มันเป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก

กีโฮเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันทำให้เขารู้สึกเห็นใจมกฮา เพราะเขาก็เจอสิ่งเดียวกับที่เธอเจอเหมือนกัน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน กีโฮจึงจัดการอัปโหลดคลิปมิวสิกวิดีโอส่งเข้าประกวด และใส่เบอร์โทร. ของเขาเป็นเบอร์ที่ใช้ในการติดต่อ เนื่องจากโทรศัพท์ของมกฮาถูกพ่อทำพังเมื่อคืนก่อน

จูรันได้เห็นคลิปของมกฮาแล้วรู้สึกประทับใจมาก และมกฮาก็ถูกคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะเลิศ

รุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่จึงโทร. ติดต่อไปที่เบอร์ของกีโฮ เมื่อเขารับสายจึงรีบวิ่งเอาโทรศัพท์ไปให้มกฮาทันที แต่ทว่า มกฮากลับพูดกลับปลายสายว่า เธอทำคลิปส่งไปเล่น ๆ เท่านั้น และปฏิเสธที่จะเดินทางไปโซลด้วย

กีโฮมองด้วยความแปลกใจ แต่เขาก็สังเกตได้ว่า มกฮาไม่สดใสเหมือนก่อน สายตาของเธอแฝงไปด้วยความเศร้า … หรือเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้น จะทำให้เธอหมดแรงตามล่าหาฝันไปซะแล้ว ?

อีเร ในซีรีส์ Castaway Diva EP.1

เย็นวันนั้น กีโฮยื่นกระดาษแผนที่บ้านของเขาให้มกฮา เขาย้ำว่า ถ้าเธอถูกพ่อทำร้ายร่างกายอีก ให้รีบมาหาเขาตามแผนที่นี้ “เราเหมือนปลาที่ใกล้ตายอยู่ในตู้ ฉันจะพาเธอหนีไปจากตู้ปลาใบนี้ ที่กำลังขาดอากาศหายใจ”

วันหนึ่ง พ่อของมกฮาก็เมามายกลับมาบ้าน พ่อทุบประตูห้องเสียงดังลั่น มกฮาตัดสินใจปีนหน้าต่างออกจากห้อง แล้วไปหากีโฮตามแผนที่ที่เขาให้ไว้

ทั้งสองพากันนั่งเรือออกจากเกาะ เพื่อไปหาจูรันที่โซล แต่เรือยังไม่ทันออกจากท่า ชาวบ้านที่รู้จักทั้งสองคนก็โทร. ไปบอกพ่อของมกฮา … ปัดโธ่ ชาวบ้านสระเอือก !

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Castaway Diva EP.1

พ่อมกฮารรีบขับรถมาที่ท่าเรือเพื่อตามลูกสาวกลับบ้าน กีโฮตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เขาขอให้มกฮาเดินทางไปโซลเพียงลำพัง ส่วนเขาจะไปขวางพ่อของเธอ

กีโฮเข้าไปขวาง จนถูกพ่อมกฮาทำร้ายร่างกาย แต่เขาก็ยังขวางเอาไว้อย่างนั้น แต่แรงเด็ก ม. สอง ยังไงก็ไม่อาจต้านทานแรงผู้ใหญ่ได้ กีโฮถูกทำร้ายจนเลือดกบปาก ล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น

ในที่สุด พ่อก็ตามมกฮาขึ้นมาบนเรือได้สำเร็จ มกฮาพยายามวิ่งหนีไปจนถึงท้ายเรือ เธอไม่มีทางให้หนีอีกแล้ว ยกเว้นทางเดียวคือกระโดดลงไปในทะเล พ่อรีบวิ่งตามเพื่อห้ามลูกสาว แต่เขาก็พลัดตกลงน้ำไปด้วยเช่นกัน

มุนอูจิน

กีโฮฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาลด้วยอาการสาหัส เขาได้รับแจ้งว่า มกฮากับพ่อพลัดตกลงไปในทะเล เจ้าหน้าที่กำลังออกค้นหา แต่การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากหมอกลงหนาจัด กีโฮรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง

อีเร ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.1

อย่างไรก็ตาม มกฮารอดชีวิต และมาติดอยู่ที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง เธอกำลังเดินสำรวจไปทั่วเกาะเพื่อหาของกิน จนไปเจอกับดอกมันฝรั่ง เธอจึงลงมือขุดมันฝรั่งขึ้นมากิน

แล้วเมื่อมกฮาเดินไปอีกฟากของชายหาด เธอก็พบร่างพ่อถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาด เธอได้แต่คิดพร้อมกับน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด สิ่งที่เธอขอเอาไว้เป็นจริงแล้ว พ่อไม่มีวันทำร้ายเธอได้อีกต่อไป

มกฮาอาศัยอยู่บนเกาะเพียงลำพังเป็นเวลา 15 ปี โดยใช้ก้อนหินมาวางเรียงกันเป็นสัญลักษณ์ของความช่วยเหลือ SOS บนชายหาด

แล้ววันหนึ่งก็มีโดรนบินมาบนเกาะ ลอยอยู่เบื้องหน้ามกฮา เธอได้แต่จ้องมองด้วยความสงสัยว่า สิ่งที่ลอยอยู่ตรงหน้ามันคืออะไร ?

EP.2 ความบังเอิญและโชคชะตา

อูฮัก (ชาฮักยอน) และโบกอล (แชจงฮยอบ) เป็นพี่น้องคู่กัดกันตั้งแต่เด็ก อูฮักเป็นนักข่าวหัวขบถ ส่วนโบกอลเป็นโปรดิวเซอร์รายการวาไรตี้ทางทีวี ทั้งสองอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ที่เปิดเป็นร้านเสริมสวย

พัคอึนบิน ในซีรีส์ Castaway DIva EP.2

หลังจากทะเลาะกันเป็นปกติในตอนเช้า อูฮักก็ไปที่เกาะเพื่อทำงานอาสาสมัครเก็บขยะกับโบกอล แต่จริง ๆ เมื่อไปถึง อูฮักกลับบินโดรนเล่นอย่างสบายใจ จนโดรนลำนั้นบินไปอยู่เบื้องหน้ามกฮา ซึ่งเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร จึงวิ่งไล่ตามจับโดรนแล้วก็จับได้ด้วย

อูฮักจึงวิ่งตามมาเอาโดรนคืน มกฮาได้เห็นอูฮักก็ยืนอึ้ง เป็นมนุษย์ตัวเป็น ๆ คนแรกที่เธอเจอในรอบ 15 ปี ด้วยความดีใจ เธอจึงโถมตัวเข้าไปสวมกอดเขาทั้งน้ำตา

พัคอึนบิน - แชจงฮยอบ

ในที่สุด มกฮาก็ได้รับความช่วยเหลือให้ออกมาจากเกาะร้าง ระหว่างอยู่บนเรือ เพื่อน ๆ ของโบกอลก็คุยกัน เป็นไปได้ยังไงที่ติดอยู่บนเกาะนานขนาดนั้น โดยไม่มีใครไปช่วย ? เพื่อนอีกคนจึงบอกว่า เป็นไปได้สิ เพราะประเทศนี้มีเกาะร้างมากถึงสองสามพันเกาะ

เมื่อมาถึงฝั่ง มกฮารู้สึกตื่นเต้นกับโลกในยุคปัจจุบัน ที่อะไร ๆ เปลี่ยนไปเยอะมาก

โบกอลซื้อรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่ใหม่ให้มกฮา เขาลงไปคุกเข่าสวมและผูกเชือกรองเท้าให้เธอ มันทำให้เธอนึกถึงกีโฮ ที่ถอดรองเท้าของเขาให้เธอ และบอกว่าเมื่อถึงฝั่งจะพาไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่ เมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้น มกฮาก็หลั่งน้ำตาออกมา เธออยากเจอกีโฮเหลือเกิน

ระหว่างนั้น อูฮักแอบถ่ายคลิปของมกฮา เพื่อเอาไปทำข่าว โบกอลเห็นจึงเข้าไปต่อว่า และพยายามห้ามไม่ให้เขาทำข่าวนี้ เพราะจะทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เนื่องจากเธอยังปรับตัวกับโลกในปัจจุบันไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละ พี่น้องคู่นี้ไม่เคยเห็นอะไรตรงกันซักกะอย่าง … อูฮักทำข่าวการติดเกาะร้างเป็นเวลา 15 ปีของมกฮา

ภาพหน้าจอจากซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.2 จาก Netflix

จากนั้น มกฮาก็ได้เข้าไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว แม้เธอจะอายุ 31 ปีแล้ว แต่ความคิดของเธอเหมือนเด็กสาวอายุ 16 ผ่านไปหลายวันก็ยังไม่มีญาติมาติดต่อเลย เธอได้แต่หวังลึก ๆ ว่า กีโฮจะมาหา

อูฮักรู้ว่ามกฮาไม่มีญาติมาติดต่อ เขาจึงมารับ และพาไปที่เกาะชุนซัม บ้านเกิดของเธอ

เมื่อมาถึงที่ที่เคยเป็นร้านปลาดิบของพ่อ เธอก็พบว่ามันถูกเปลี่ยนเป็นร้านปูดองซีอิ๊ว เจ้าของร้านปูดองเมื่อเห็นมกฮาก็กลัวว่าเธอจะมายึดร้านคืน จึงไล่เธอออกไป มกฮาจึงบอกว่า เธอไม่ได้จะมาเอาร้านคืน ที่เธอต้องการเพียงอยากรู้ว่า กีโฮอยู่ไหน ?

หลังมกฮาหายตัวไป กีโฮเอาแต่โดดเรียนไปนั่งมองทะเลอยู่คนเดียว ต่อมากีโฮก็แจ้งความว่าถูกพ่อทำร้ายร่างกาย และหนีออกจากบ้านไป ส่วนพ่อก็ถูกไล่ออกจากตำรวจ นับแต่นั้น พ่อก็ออกตามหากีโฮแทบพลิกแผ่นดิน โดยไม่กลับมาที่นี่อีกเลย

มกฮามาที่บ้านกีโฮ บ้านที่ถูกปล่อยทิ้งร้างให้ผุพังไปตามกาลเวลา เธอเห็นกระดาษโพสต์อิทที่เขียนด้วยลายมือของกีโฮก็ มันทำให้เธอคิดถึงเขาขึ้นมาจับใจ … อูฮักเห็นจึงถามว่า ทำไมถึงไม่โกรธ ทั้งที่กีโฮเป็นคนที่ทำให้เธอติดเกาะ มกฮาจึงบอกว่า ถ้าไม่มีกีโฮ เธอคงตายไปตั้งแต่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว “เราไม่ได้แค่หนีออกจากบ้าน เราหนีเพื่อให้รอดตายต่างหาก”

พัคอึนบิน และ ชาฮักยอน ในซีรีส์ Castaway Diva EP.2

ระหว่างที่อูฮักกำลงจะเดินทางกลับโซล มกฮาบอกว่าเธอไม่อยากอยู่ที่นี่ ตอนแรกเขาไม่ยอมให้เธอไปด้วย แต่สุดท้ายก็ใจอ่อน และแอบพาเธอเข้าไปอยู่ที่ห้องบนดาดฟ้า ตกกลางคืนก็แอบเอาอาหารในตู้เย็นไปให้เธอกิน

จากเดิมที่มกฮาเรียกอูฮักว่า “คุณอา” เพราะเธอรู้สึกว่าตัวเองยังอายุสิบหา อูฮักจึงขอให้เธอเรียกเขาว่า “ดูฮัก” เพราะเธอกับเขาอายุเท่ากัน ในตอนนั้น ทั้งสองก็ตกลงเป็นเพื่อนกัน จากนั้น มกฮาก็บอกว่า อูฮักมีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายกีโฮ

เมื่อมาถึงตรงนี้ ดูเหมือนจะมีความลับหลายอย่างถูกเปิดเผยออกมา ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ ‘อูฮักจะเป็นกีโฮ’ เนื่องจากอูฮักสูญเสียความทรงจำตอนอยู่มัธยมปลาย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กีโฮหายตัวไป และคนทั้งสองก็มีอายุเท่ากัน มีบุคลิกหลาย ๆ อย่างคล้ายกัน อีกอย่างคือ แม่ของอูฮัก อาจเป็นแม่ของกีโฮที่หนีไป ?

วันต่อมา มกฮาตื่นเต้นกับการที่จะได้ไปเทศกาลทอด็อก ซึ่งรันจู ไอดอลในดวงใจของเธอมาร่วมงานนี้ด้วย เธอเตรียมลูกโป่งสีเขียวมะนาวมาเป็นจำนวนมาก เพื่อไปแจกผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งลูกโป่งเป็นสิ่งที่แฟนคลับสมัยก่อนนิยมใช้

แต่ทว่าตอนนี้ รันจูกลายเป็นนักร้องตกอับ ติดเหล้าติดบุหรี่ ทำให้ต้องมารับงานร้องเพลงในเทศกาลท้องถื่น ที่สำคัญคือ รันจูไม่สามารถร้องเพลงได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ผู้จัดงานขอให้เธอร้องสดโดยไม่ใช้ลิปซิงค์ เธอจึงดื่มเหล้าจนเมา เพื่อจะใช้เป็นข้ออ้างที่จะไม่ขึ้นเวที

ทีนี้ มกฮาไปหาผู้จัดากรส่วนตัวของรันจู เพื่อขอเป็นนักร้องเงาเสียงให้รันจูลิปซิงค์

ภาพหน้าจอจาก Castaway Dive EP.2 ซีรีส์จาก Netflix

เมื่อถึงเวลาการแสดง ผู้จัดการให้รันจูขึ้นเวที รันจูก็เดินเซไปเซมาขึ้นเวทีด้วยความเมา เมื่อเห็นผู้ชมถือลูกโป่งสีเขียวมะนาว ทำให้เธอนึกย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ในอดีต

และรันจูก็หันไปมองมกฮาที่ยืนหลบอยู่ด้านข้างเวที แล้วมกฮาก็เริ่มร้องเพลงให้รันจูลิปซิงค์

อูฮักที่ยืนอยู่ด้านหลังเวทีดูมกฮาร้องเพลงอยู่ ก็ถึงกับทึ่งในความสามารถในการร้องเพลงของเธอ ในขณะที่คนอื่น ๆ ที่ไม่รู้ว่ารันจูร้องลิปซิงค์ ก็เอ่ยปากชมว่าเธอร้องเพลงเพราะกว่าเมื่อก่อนซะอีก

หลังจบการแสดง รันจูก็เดินไปหามกฮาและโผเข้ากอด ทั้งสองหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความปีติ ในตอนนั้น มกฮารู้สึกว่า “เวลา 15 ปีที่ดูว่างเปล่า กลับมีความหมายขึ้นมาทันที”

EP.3 กระติกน้ำแข็งกับโดรน

พัคอึนบิน ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.3

ย้อนกลับไปในปีที่หกที่อยู่บนเกาะ ความลำบากและความสิ้นหวัง ทำให้มกฮารู้สึกว่าชีวิตไร้ความหมาย เธอจึงตัดสินใจจะหนีทุกอย่างไป

วันนั้น เธอขึ้นไปบนหน้าผาและกระโดดลงมา ระหว่างที่ร่างดำดิ่งลงไปใต้ผืนน้ำทะเล เธอเห็นกระติกน้ำแข็งลอยอยู่บนผิวน้ำ กระติกใบนั้นทำให้เธอตัดสินใจขึ้นมาเหนือผิวน้ำอีกครั้ง เพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ในนั้น

เมื่อเปิดกระติกน้ำแข็ง มกฮาถึงกับตาลุก มีรามยอนหมดอายุแล้วหนึ่งห่ออยู่ในนั้น เธอเอารามยอนห่อแรกในรอบหกปีไปต้มกิน มันเป็นรามยอนที่อร่อยที่สุดในชีวิต และรามยอนห่อนี้ ก็ทำให้เธอคิดได้ว่า ถ้าจบชีวิตตัวเองไปซะก่อน ก็คงไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสชาติของรามยอนห่อนั้น

และต่อมาอีก 9 ปี มกฮาก็ได้พบโดรนกับชายหนุ่มสองคน ที่ช่วยพาเธอออกจากเกาะ จนทำให้เธอได้มาเจอกับรันจู หลังจากเวลาผ่านไป 15 ปี

รันจูเองก็มีช่วงเวลาที่แย่ไม่ต่างกัน เธอกลายเป็นนักร้องตกอับ หลังจากผ่าตัดติ่งเนื้อในเส้นเสียง ทำให้ร้องเพลงไม่ได้เหมือนเดิม นักร้องเมื่อร้องเพลงไม่ได้ก็ไม่มีงาน เมื่อไม่มีงานก็ไม่มีเงิน เมื่อไม่มีเงินชีวิตก็ตกต่ำลงเรื่อย ๆ จนต้องไปเช่าห้องใต้ดินของแฟนคลับอยู่ สุดท้ายก็ถูกแฟนคลับไล่ เพราะไม่จ่ายค่าเช่านานหลายเดือน

และเมื่อชีวิตอยู่ในช่วงตกต่ำสุดขีด มกฮาก็เป็นเหมือนกระติกน้ำแข็ง ที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้

พบกันหลังสิบห้าปีผ่านไป

การแสดงบนเวทีของรันจูในเทศกาลทอด็อก กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล คลิปวิดีโอการร้องเพลงของเธอติดเทรนด์แบบเรียลไทม์ เธอได้รับคำชมจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก

มกฮาบอกกับรันจูว่า เธอเป็นคนส่งเอ็มวีเข้าประกวดแล้วได้ที่หนึ่งเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ซึ่งรันจูจำได้ และวันนั้นเธอก็รอมกฮาอยู่ที่โซลนาน แต่เมื่อมกฮาไม่มาตามนัด เธอจึงตัดสินใจเลือก อึนโมแร มาปั้นเป็นนักร้องในสังกัดแทน จนกลายเป็นไอดอลเบอร์หนึ่งในปัจจุบัน

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Castaway DIva EP.3

ทีนี้ ขากลับเทศกาลทอด็อก รันจูไม่มีรถกลับ เธอจึงขอติดรถอูฮักกลับโซลด้วย คืนนั้น รันจูจึงมาอยู่ที่ห้องบนดาดฟ้ากับมกฮา

ระหว่างนั้น รันจูจึงชวนมกฮาดื่มยาดองทอด็อก เมื่อดื่มจนเมามายสติหลุด รันจูก็มอบเงินค่าจ้างที่ได้จากการแสดงที่เทศกาลทอด็อกให้กับแม่ของอูฮัก เป็นค่าเช่าห้อง และให้สัญญากับมกฮาว่า จะพาเธอไปออดิชั่นที่ RJ Entertainment

พอได้สติในตอนเช้า รันจูก็โกรธตัวเองที่เมาทีไรหาเรื่องทุกที เธอจึงโทร. ไปหาประธานอี เพื่อจัดฉากให้มกฮาเข้าออดิชั่น

จากนั้น มกฮาก็ได้ยินเรื่องสัญญาที่ระบุเอาไว้ว่า ถ้ารันจูขายอัลบั้มได้ 20 ล้านแผ่น เธอจะได้หุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ของ RJ Entertainment

คิมฮโยจิน และ พัคอึนบิน ในซีรีส์ Castaway Diva EP.3

ผู้จัดการส่วนตัว

วันต่อมา รันจูก็พามกฮาไปที่บริษัท RJ เพื่อออดิชั่น แต่ยังไม่ทันที่มกฮาจะได้ร้องเพลง ประธานอีกลับปฏิเสธที่จะรับเธอเข้าเป็นเด็กฝึก โดยอ้างเรื่องอายุและการศึกษา … แต่ประธานอียืนข้อเสนอให้มกฮาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของจูรันแทน

ระหว่างนั้น มกฮาก็คิดเหตุผลที่ประธานอีพยายามกีดกันรันจู สุดท้ายเธอก็รู้ว่า ประธานอีไม่ต้องการให้รันจูขายอัลบั้มได้ 20 ล้านแผ่น เพราะจะทำให้เขาสูญเสียอำนาจในการควบคุมบริษัท

มกฮาจึงไปขอความช่วยเหลือจากอูฮักและโบกอล จนเธอได้รู้ว่ายอดขายรวมขาดอีกแค่ 84,731 แผ่น ก็จะครบ 20 ล้าน

เมื่อโบกอลรู้ว่ามกฮาได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของรันจู เขาจึงขอให้เธอพารันจูมาออกรายการ มกฮาจึงตอบตกลง

คิมฮโยจิน

ในคืนนั้น

คืนนั้น มกฮาขอให้รันจูรักษาเส้นเสียง เพื่อจะได้กลับมาร้องเพลงได้เหมือนเดิม และเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับออกรายการ แต่รันจูปฏิเสธ เพราะลองรักษามาหลายวิธีแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงขอให้มกฮาร้องเป็นเงาเสียงให้ เหมือนอย่างที่เคยทำที่เทศกาลทอด็อก

รันจูบอกว่าเธอจะร้องเพลง ‘ในคืนนั้น’ ออกรายการ เพราะเป็นเพลงที่เป็นสัญลักษณ์ถึงกีโฮ … มกฮาตกใจ รันจูรู้จักกีโฮอย่างนั้นเหรอ ?

รันจูจึงเล่าว่า เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว กีโฮมาดักรอพบเธอที่บ้าน เขายื่นรูปถ่ายเด็กสาวให้ และบอกว่าถ้าเจอเด็กสาวคนนี้ขอให้เธอเข้าไปกอด … ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่รันจูเข้าไปกอดมกฮาที่งานเทศกาลทอด็อก

และเพลง ‘ในคืนนั้น’ ก็คือเพลงที่รันจูแต่งขึ้นจากเรื่องราวของมกฮานั่นอง

ค่ำคืนนั้น มกฮานั่งดีดกีตาร์ร้องเพลง ‘ในคืนนั้น’ บนดาดฟ้า เสียงร้องของเธอดึงดูดให้อูฮักและโบกอลเดินขึ้นมาฟัง ทั้งสองยืนฟังเหมือนถูกมนตร์สะกด

แล้วภาพก็ตัดไปที่หน้าสถานีโซล มกฮายืนถือช่อดอกไม้ อีกมือหนึ่งก็ถือร่มในคืนวันฝนตก แล้วทันใดนั้นเธอก็หันหน้าไปมองใครบางคน หรือว่ากีโฮตัวจริงจะปรากฏตัวขึ้นแล้ว ?

EP.4 ดอกไม้ช่อนั้น

รันจูได้รับเชิญให้เป็นแขกในรายการ ‘ปัดฝุ่นยุคทอง’ โดยเธอจะต้องร้องเพลงแข่งกับตัวเองในช่วงรุ่งโรจน์เมื่อปี 2008

มกฮาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของรันจู แต่เธอไม่มีโทรศัพท์มือถือ ใบขับขี่ก็ไม่มี รถก็ไม่มี เธอจึงถูกโบกอลบ่น เป็นผู้จัดการดาราแบบไหนกัน ถึงติดต่องานยากขนาดนี้ “น่าเวทนาจริง ๆ” เจอดอกนี้เข้าไป มกฮาก็ถึงกับยิ้มไม่ออก

พอโบกอลกลับไปแล้ว มกฮาจึงบ่นกับตัวเอง “ก็คนมันไม่มีเงินนี่นา จะมีโทรศัพท์ได้ยังไงล่ะ” พอรู้ตัวว่าไม่มีเงิน มกฮาจึงคิดจะหางานทำ เผอิญเธอเหลือบไปเห็นป้ายรับสมัครงานที่หน้าร้านเสริมสวยของแม่อูฮัก เธอจึงเดินเข้าไปสมัครงาน และได้งานทันที

ชาฮักยอน และ พัคอึนบิน ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.4

กินคนเดียว

อูฮักซื้อคิมบับมาฝากมกฮา ระหว่างกิน อูฮักเล่าว่าคนสมัยนี้ชอบทำอะไรคนเดียว กินข้าวคนเดียว ไปดูหนังคนเดียว ซึ่งมกฮาบอกว่า เกลียดการกินข้าวคนเดียวที่สุด เพราะเธอต้องกินข้าวคนเดียวมาตลอด 15 ปีที่อยู่บนเกาะ เกลียดถึงขนาดที่ต้องทำเป็นนั่งคุยกับตัวเองระหว่างกินข้าว ถึงขนาดที่เธอล่อนกนางนวลด้วยมันฝรั่ง เพื่อให้มันมากินข้าวกับเธอ

มกฮาย้ำกับอูฮักด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้านายต้องกินข้าวคนเดียว เรียกฉันได้เลยนะ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะไปหา”

จากนั้น อูฮักก็ให้มกฮาดูรอยแผลที่ศีรษะ ที่เกิดจากอุบัติเหตุร้ายแรงตอนที่เรียน ม.ปลาย บาดแผลนี้ทำให้เขาเสียความทรงจำก่อน ม.ปลายไปทั้งหมด เขาบอกว่า บางที่กีโฮก็อาจจะเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กับเขาก็ได้ เลยมาหาเธอไม่ได้

นกคีรีบูน

ที่สตูดิโอรายการ ‘ปัดฝุ่นยุคทอง’ พีดีรุ่นพี่เล่าเรื่องความเยอะในอดีต สมัยรันจูยังเป็นซุปตาร์ ถ้าสตูดิโอไหนมีฝุ่น นางจะหาเรื่องเทงานไม่ถ่ายซะอย่างนั้น ซึ่งเป็นที่มาของฉายา ‘นกคีรีบูน’ ซึ่งนอกจากจะเสียงเพราะแล้ว ยังไวต่อฝุ่นและอากาศอีกด้วย

เหตุนี้เอง จึงทำให้สตูดิโอต้องติดตั้งเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่เอาไว้ โบกอลจึงขอบคุณความเยอะของรันจูในอดีต ที่ทำให้วันนี้สตูดิโอมีเครื่องฟอกอากาศ

เกาลัดม้า

และแล้วก็ถึงวันถ่ายรายการ มกฮาพารันจูไปสตูดิโอด้วยรถประจำทาง

เมื่อมาถึง ทั้งสองก็ต้องแปลกใจกับสิ่งที่ประธานอีเตรียมไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มกับอาหารเลี้ยงผู้ชม เสื้อผ้าแบรนด์เนมที่ซื้อไว้ให้รันจูโดยเฉพาะ มกฮาเห็นความผิดปกติจึงเตือนว่า ประธานอีก็เหมือน ‘เกาลัดม้า’ ที่หน้าตาและรสชาติเหมือนเกาลัดธรรมดาทุกอย่าง แต่เมื่อกินเข้าไปก็จะเป็นไข้และท้องร่วง

Castaway Diva Ep.4 ซีรีส์เกาหลีจาก Netflix

ลิปซิงค์

การออกอากาศสดเริ่มต้นขึ้น เป็นการแข่งขันกันระหว่าง รันจูในปี 2008 กับรันจูในปี 2022 จากนั้นก็จะเปิดให้ผู้ชมทางบ้านโหวต

โดยมกฮาใช้เสียงของเธอร้องลิปซิงค์ให้กับรันจู ซึ่งมีเสียงคล้ายกับรันจูในอดีต (แน่นอนว่ามันเป็นการหลอกหลอกผู้ชม)

ต่อมาก็เป็นช่วงการสัมภาษณ์ รันจูได้กล่าวถึงกีโฮบนเวที “ฉันอยากบอกเขาว่า เพื่อนของเขากำลังรออยู่ และหวังว่าสักวันจะได้เจอเขา”

ชาฮักยอน และ พัคอึนบิน

ดอกไม้ช่อนั้น

หนึ่งวันหลังรายการออกอากาศ อูฮักได้รับช่อดอกไม้ โดยมีการ์ดที่เขียนข้อความด้วยลายมือติดมาด้วย “ฝากบอกมกฮาด้วยว่าผมจะรอที่นั่น วันนี้ตอนสองทุ่ม จากกีโฮ”

เมื่อมกฮารู้ จึงรีบออกไปหาอูฮักทันที เธอถึงกับหลังน้ำตาออกมา เมื่อได้อ่านข้อความบนการ์ด มันเป็นน้ำตาของความดีใจ

ต่อมา ดูฮักเล่าเรื่องนี้ให้โบกอลฟัง แล้วโบกอลก็รีบวิ่งออกไปทันที (นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า ดอกไม้ช่อนั้นไม่ได้ถูกส่งมาจากกีโฮ เพราะกีโฮก็คืออูฮัก)

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Castaway Diva EP.4 ดูได้ที่ Netflix

ระหว่างนั้น มกฮาถือช่อดอกไม้นั่งรถเมล์ไปหากีโฮที่สถานีโซล ตามเวลานัดสองทุ่ม แต่คนที่มารอพบมกฮากลับเป็นพ่อของกีโฮ มกฮาพยายามวิ่งหนีและก็ล้มลง จังหวะนั้นก็มีชายสวมฮูดมาช่วยพาเธอหนี

เมื่อหนีได้ มกฮาจึงถามเขาว่า “คุณใช่กีโฮหรือเปล่า ?” ชายคนนั้นเปิดฮูดออก เขาคือโบกอล

EP.5 รูปที่ติดอยู่บนผนังบ้าน

หลังจากช่วยมกฮา โบกอลก็ต่อว่าเรื่องที่เธอให้รันจูพูดเรื่องส่วนตัวออกรายการทีวี เพราะมันอันตราย แต่มกฮาไม่สนใจ สิ่งเดียวที่เธอต้องการคือได้เจอกับกีโฮอีกครั้ง

ถึงอย่างนั้น มกฮาก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมกีโฮถึงไม่มาหา หรือว่าเขาตายไปแล้วนะ ? โบกอลลดโทนเสียงแล้วพูดว่า กีโฮยังไม่ตายหรอก เขาแค่ซ่อนตัวอยู่ในที่ที่ปลอดภัย

ต่อมา โบกอลให้มกฮาตั้งการโทร. ฉุกเฉินเป็นเบอร์ของเขา ถ้าเกิดเหตุร้ายอะไรเขาจะได้ไปช่วยทัน คำพูดเหล่านั้นเป็นคำพูดที่เหมือนกับกีโฮเป๊ะ ทำเอามกฮาถึงกับอมยิ้มออกมา

ร้องเพลงงานแต่ง

ประธานอีเรียกคืนแผ่นซีดีอัลบั้มของรันจูออกจากตลาด รวมถึงการขายออนไลน์ทั้งหมด รันจูจึงไปพบประธานชูก้าร์ ค่ายเพลงต้นสังกัดเดิม เพื่อขอให้ประธานชูก้าร์วางขายอัลบั้มของเธอ

ประธานชูก้าร์ยื่นข้อเสนอ ให้รันจูไปร้องเพลงในงานแต่งงานของลูกสาวเขา เป็นการแลกเปลี่ยน มันเป็นข้อเสนอที่ทำให้เธอรู้สึกแย่ เพราะเธอร้องเพลงไม่ได้

คืนนั้น หลังจากจนเมามายเพราะความเครียด ที่ถูกบังคับให้ไปร้องเพลงในงานแต่งงาน รันจูก็เจอกับมกฮาโดยบังเอิญ เธอโวยวายออกมาไม่หยุด ก่อนที่จะโทษว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของมกฮา

ภาพหน้าจอซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.5

วันต่อมา มกฮาเห็นรถขนซีดีอัลบั้มของรันจูที่บริษัทเรียกคืน ก็โกรธมาก และกำลังจะไปต่อว่าประธานอี แต่ผู้จัดการได้เปิดคลิปให้ดู เป็นคลิปที่เขาแอบถ่ายตอนที่เธอแอบหยิบไมค์ ก่อนที่รายการ ‘ปัดฝุ่นดารา’ จะออกอากาศ … เขาขอให้เธออยู่เฉย ๆ ไม่งั้นเขาจะปล่อยคลิปแฉ

งานแต่งงาน

มกฮากำลังจะไปงานแต่งงาน โบกอลจึงเรียกให้เธอขึ้นรถ ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาก็จะไปงานแต่งงานของประธานชูก้าร์เช่นกัน

เวลาเดียวกัน รันจูก็ใส่แว่นพรางตัวเข้าไปร้องเพลงของตัวเองที่ร้านคาราโอเกะ เธอพยายามร้อง แต่ก็ร้องได้แป๊บเดียวก็ไอออกมา จังหวะนั้น สายของมกฮาก็โทร. เข้ามาหา มกฮาขอร้องให้เธอมาร้องเพลงอวยพรที่งานแต่งงาน

ตอนแรกรันจูปฏิเสธ มกฮาก็เลยบอกว่า จริง ๆ แล้วเธอเป็นแฟนคลับคนแรกรันจู ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ

ทำให้เราได้รู้ความจริงว่า รันจูเป็นรุ่นพี่ของมกฮาที่โรงเรียนมัธยมต้นบนเกาะชุนซัม และประธานชูก้าร์ก็คือครูสอนดนตรีของรันจู มกฮาได้เห็นรันจูร้องเพลงในคลาสดนตรี ก็ยกให้รันจูเป็นไอดอลตั้งแต่วันนั้น

ต่อมา ประธานชูก้าร์ยอมลาออกจากครู และสละสิทธิ์เงินบำนาญ เพื่อมาปลุกปั้นรันจูให้เป็นนักร้อง ถึงขนาดทะเลาะกับภรรยา จนต้องแยกกันอยู่ แต่สุดท้ายรันจูก็ทำให้ประธานชูก้าร์ผิดหวัง

ภาพหน้าจอจากซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.5

เมื่อได้หวนคิดถึงอดีต สุดท้ายรันจูก็ยอมมางานแต่งงาน

รันจูกับมกฮาร้องเพลงคู่ โดยมกฮาช่วยประคองในคีย์สูง จนกลายเป็นเพลงคู่ที่ร้องออกมาไพเราะอย่างไม่น่าเชื่อ

จากนั้น ประธานชูก้าร์กับรันจูก็ปรับความเข้าใจกัน กับเรื่องที่เคยผิดใจ และทำไม่ดีต่อกันในอดีต

ชาฮักยอน

พี่น้องทางสายเลือด ?

อูฮักตามสืบ ‘จองบงวาน’ พ่อของกีโฮที่ตอนนี้เป็น รปภ.อยู่ที่อพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่ง จนกระทั่งมีจังหวะแอบเข้าไปในที่พักของจองบงวาน เมื่อได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เศษเสี้ยวความทรงจำในวัยเด็กก็เริ่มแวบเข้ามาในหัว

อูฮักเดินสำรวจภายในห้อง และได้เห็นรูปครอบครัว เขาเห็นตัวเขา โบกอล และแม่อยู่ในรูป จังหวะนั้น โบกอลก็เดินเข้ามา อูฮักจึงยิงคำถามใส่ด้วยความสงสัย “ทำไมถึงมีรูปพวกเราอยู่ที่นี่ หรือว่าเขาคือพ่อของเรา ?” โบกอลยืนนิ่ง ไม่มีคำพูดใดออกจากปาก

เวลาเดียวกัน มกฮาก็ถามกับแม่ของอูฮักว่า “คุณรู้จักกีโฮหรือเปล่าคะ ?”

EP.6 ความลับและคำโกหก

Castaway Diva EP.6

อูฮักเห็นรูปถ่ายครอบครัวที่บ้านของจองบงวาน โบกอลที่ตามมาจึงเล่าความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้น …

ในอดีต จองบงวานเป็นพ่อที่ชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัว วันหนึ่งพอเจอเงินที่กีโฮ (โบกอล) ซ่อนเอาไว้เพื่อใช้หนี ทำให้พ่อโกรธมาก คว้าเอาเก้าอี้จะตี แต่อูฮักเข้ามาขวางเอาไว้ ทำให้เก้าอี้กระแทกเข้าที่หัวอย่างรุนแรง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และสูญเสียความทรงจำ

จากนั้น แม่ก็พาลูก ๆ หนีออกมาจากพ่อ และเปลี่ยนตัวตนเพื่อมาสร้างครอบครัวใหม่

ชาฮักยอน - แชจงฮยอบ

เมื่ออูฮักรู้ความจริงก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมทั้งแม่และโบกอลเอาแต่หลบซ่อน ไม่กล้าเผชิญหน้ากับพ่อ … โบกอลจึงบอกว่า “ถ้าเราทำแบบนั้น ครอบครัวของเราจะพัง”

วันต่อมา แม่บอกกับโบกอลเรื่องที่มกฮามาถามเธอว่า “รู้จักกีโฮหรือเปล่า ?” เขาจึงเล่าความจริงให้แม่ฟัง เรื่องที่พ่อตามหาจนเจอมกฮา แม่แสดงท่าทางกลัวออกมาทันที โบกอลจึงเข้าไปปลอบแล้วบอกว่า เขาจะเป็นคนปกป้องเธอเอง

พัคอึนบิน และ ชาฮักยอน ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.6

อูฮักนำเอา ‘ยูเอสบีไดรฟ์’ คลิปเอ็มวีที่มกฮาส่งเข้าประกวดร้องเพลงเมื่อสิบห้าปีก่อนไปให้มกฮา แล้วบอกกับเธอว่า ไปเจอกีโฮมา ซึ่งตอนนี้เขาแต่งงานและมีชีวิตที่ดี

อูฮักโกหกเพื่อปกป้องครอบครัว แต่ดูเหมือนมกฮาจะไม่เชื่อสิ่งที่อูฮักบอก เพราะทั้งแม่ โบกอลและอูฮัก ต่างมีคำพูดหลายอย่างที่เหมือนกับกีโฮในอดีต เธอคิดว่ากีโฮต้องเป็นคนใดคนหนึ่งในสองพี่น้องแน่ ๆ

ร้องเพลงแข่งตัดขา

ระหว่างนั้น ประธานชูก้าร์ก็แจ้งข่าวดีกับรันจู อัลบั้มของเธอได้รับการจองซื้อจากแฟนเพลงอย่างล้นหลาม เท่ากับว่ามียอดขายอีกแค่ 3-4 หมื่น ก็จะครบ 20 ล้านแผ่นตามสัญญา

แต่ซอจุนไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น เขาจึงส่งอึนโมแรไปแข่งร้องเพลงกับรันจู ในรายการ ‘ปัดฝุ่นยุคทอง’ เพื่อหวังกลบกระแสของรันจูให้ดับ

ระหว่างนั้น ผู้จัดการส่วนตัวของอึนโมแรก็เข้าประชุมกับโปรดิวเซอร์ของรายการ โดยเขาขอให้ใช้เสียงของอึนโมแรที่บันทึกเอาไว้แทนที่จะเป็นการร้องสด ซึ่งโปรดิวเซอร์ก็ตกลง เพราะอึนโมแรถือเป็นไอดอลเบอร์หนึ่งของยุค

แบบนี้มกฮาไม่พอใจ มันเป็นการเอาเปรียบกันชัด ๆ อีกคนร้องสด แต่อีกคนกลับเปิดเสียงที่บันทึกเอาไว้ ถึงอย่างนั้นเธอก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าผู้จัดการฯ มีคลิปแบล็กเมล์อยู่ในมือ

ต่อมา รันจูไปหาหมอเพื่อเช็กกล่องเสียง ปรากฏว่าแผลทางกายภาพหายเป็นปกติดีแล้ว หมอบอกว่าที่รันจูยังร้องเพลงไม่ได้เหมือนเดิมในคีย์สูง อาจเป็นเพราะความเครียดและความกังวลมากกว่า

เมื่อรู้แบบนั้น รันจูจึงกลับบ้านมานั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจนิ่ง เธอคิดว่ามันอาจจะช่วยให้เสียงร้องกลับมาเป็นปกติ

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Castaway Diva EP.6

ไอดอลตัวแทน

อึนโมแร แม้จะเป็นไอดอลเบอร์หนึ่งแห่งยุค แต่มีปมในใจที่เธอเป็นแค่ตัวแทนของมกฮา … “ถ้าวันนั้นมกฮามาตรงเวลา เธอก็ไม่ได้เกิด” คำพูดของรันจูยังคงดังอยู่ในหัวของอึนโมแร

มกฮาก็รู้เช่นกัน เธอเผชิญหน้ากับอึนโมแร และย้ำไปที่ปม “ถ้าคุณร้องสดแล้วชนะพี่รันจูได้ในวันนี้ ฉันถึงจะยอมรับคุณว่าเป็นไอดอลตัวจริง”

แชจงฮยอบ - คิมฮโยจิน - พัคอึนบิน

ก่อนรายการสดจะเริ่มขึ้น โปรดิวเซอร์รุ่นพี่เกิดไส้ติ่งแตกกะทันหัน ทำให้โบกอลต้องมารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์หลัก เขากล่าวต่อหน้า อึนโมแรและรันจูว่า จะไม่มีการเปิดเสียงที่บันทึกเอไว้ การแข่งขันครั้งนี้จะต้องเป็นการแข่งขันด้วยการร้องสดเพื่อความยุติธรรม

อึนโมแรโมโหที่รายการไม่ทำตามข้อตกลง เธอเดินออกไปจากห้อง และบอกว่าจะไม่ขึ้นร้องเด็ดขาด

จากนั้น โบกอลก็บอกกับรันจูว่า ครั้งนี้เธอต้องร้องโดยสดโดยไม่ใช้ลิปซิงค์ … มกฮาตกใจ … โบกอลจึงบอกความจริงว่า เขารู้เรื่องที่มกฮาลิปซิงค์ให้รันจูในรายการครั้งก่อน “เลิกโกหกเถอะครับ ยิ่งโกหกต่อไป มันจะเลยเถิดจนยากจะควบคุม”

EP.7 เผชิญหน้าและยอมรับ

รันจูเครียดจัดเมื่อรู้ว่า ต้องร้องเพลงสดด้วยตัวเอง เธอคิดว่าถ้าชนะในการแข่งขัน คนที่จะขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีต่อหน้าผู้ชมก็คือ มกฮา เมื่อเห็นรันจูเครียด มกฮาจึงบอกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอไม่มีทางทรยศรันจูอย่งแน่นอน จากนั้น รันจูก็ให้มกฮาไปแต่งหน้าแต่งตัวเตรียมขึ้นเวที

ส่วนอึนโมแรก็รู้สึกไม่มั่นใจในการแข่งขัน เธออยากจะเทรายการนี้ไปซะเลย โดยอ้างว่าโปรดิวเซอร์เปลี่ยนข้อตกลงก่อนออกอากาศ แต่ประธานอีก็มาเกลี้ยกล่อม จนในที่สุด เธอก็ยอมขึ้นเวที

เมื่อการถ่ายทอดสดเริ่มขึ้น รันจูกล่าวขอโทษต่อหน้าผู้ชมคนทั้งประเทศ และสารภาพว่า เธอใช้ลิปซิงค์มาตลอด จากนั้นเธอก็ขอถอนตัว เพื่อเปิดทางให้มกฮา ซึ่งเป็นเจ้าของเสียงตัวจริงเป็นคนร้องแทน

การแข่งขันเริ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่าอึนโมแรรู้สึกกดดัน ทำให้การร้องไม่เป็นธรรมชาติ จนในที่สุดเธอก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับมกฮา

พัคอึนบิน และ แชจงฮยอบ ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.7

มกฮาได้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีในฐานะผู้ชนะ ต่อหน้าผู้ชมทั่วประเทศ ความฝันของเธอกลายเป็นจริงแล้ว ในขณะที่โบกอลก็ยิ้มออกมาด้วยความสุข ที่ได้เห็นมกฮาได้เฉิดฉายอยู่บนเวที

พัคอึนบิน

ตัดสินใจเผชิญหน้า

ขณะเดียวกัน มกฮาก็ได้ยินโบกอลพูดคุยกับอูฮักอยู่ที่ทางเดินหนีไฟ ทำให้เธอได้รู้ว่า โบกอลคือกีโฮ และพวกเขากำลังหนีจากการตามล่าของจองบงวาน

จองบงวานมาตามหามกฮาที่สถานีโทรทัศน์ มกฮาจึงตัดสินใจไม่หนีอีกต่อไป เธอเลือกจะเผชิญหน้า และบอกว่าเธอไม่รู้ว่ากีโฮอยู่ที่ไหน แต่เซ้นส์ความเป็นอดีตตำรวจ ทำให้จองบงวานรู้ว่ามกฮากำลังโกหก

พัคอึนบิน ในซีรีส์ Castaway Diva EP.7

มกฮาตกใจมากกลัวว่ากีโฮจะได้รับอันตราย เธอจึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปที่สถานีขนส่ง แล้วซื้อตั๋วรถไปยังที่ที่ไกลจนไม่มีใครตามเจอ

แชจงฮยอบ พัคอึนบิน และชาฮักยอน

แต่เพียงแค่วันรุ่งขึ้น โบกอลก็ตามหามกฮาเจอ โดยอาศัยโพสต์ในโซเชียลที่แฟนคลับของมกฮาอัปรูปที่เห็นเธอตามสถานที่ต่าง ๆ มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่โบกอลจะตามเจอ … นี่แสดงว่ามกฮากลายเป็นนักร้องคนดังไปแล้วสินะ

เปิดเผยตัวตน

โบกอลบอกกับมกฮาว่าเขาคือกีโฮ และบอกว่าตอนนี้เขาอยากกลับไปเป็นกีโฮคนเดิม “ฉันอยากบอกคำนี้กับเธอมาตลอด ขอบคุณนะที่ยังมีชีวิตอยู่” แล้วเขาก็เข้าไปสวมกอดเธอ

ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่อูฮักตามมาพอดี เขาได้เห็นทั้งสองกอดกัน สายตาของอูฮักมันเหมือนกับว่า เขาก็ชอบมกฮาเช่นเดียวกัน … หรือพี่น้องคู่นี้จะรักผู้หญิงคนเดียวกันนะ ?

EP.8 พายุใหญ่ที่กำลังมา

โบกอลบอกว่า ถ้ามกฮาเป็นนักร้องดังจะเป็นเกราะป้องกันที่ดีกว่า จากนั้นก็ยื่นโปสเตอร์ให้เซ็น ในฐานะที่เป็นแฟนคลับคนแรก และพูดติดตลกว่า ขอให้เธอเป็นนักร้องที่โด่งดังให้ได้ เพราะเมื่อถึงวันนั้น ลายเซ็นนี้อาจจะมีมูลค่า 3.2 พันล้านวอน เหมือนลายเซ็นของ ‘ไมเคิล จอร์แดน’ ก็ได้

ชาฮักยอน

ระหว่างนั้น พ่อแม่เห็นสายตาของอูฮักที่มองมกฮาแล้วเกิดความวิตกกังวล ทั้งสองคิดว่าอูฮักอาจจะชอบผู้หญิงคนเดียวกับน้องชาย จึงตัดสินใจเข้าไปถามอูฮักตรง ๆ เขาจึงบอกว่าไม่ได้ชอบมกฮา แต่ก่อนหน้านี้ก็มีแอบคิดบ้าง เนื่องจากเขาคิดว่าตัวเองคือกีโฮ

ถึงอูฮักจะพูดไปแบบนั้น แต่สายตาของเขาก็ดูเหมือนจะยังชอบมกฮาอยู่นะ

ความฝันและความกลัว

คืนนั้น โบกอลฝันเห็นจองบงวานตามหาพวกเขาจนเจอ และเข้ามาทำร้ายคนในครอบครัว เขาจึงสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก นั่นทำให้โบกอลตัดสินใจเผชิญหน้ากับจองบงวาน

รุ่งขึ้นโบกอลตัดสินใจกลับไปที่เกาะชุนซัมอีกครั้ง เขาตั้งใจใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของจองบงวาน เขาไปหาลุงร้านปูดองนึ่งซีอิ๊วเพื่อให้ส่งข่าวบอกจองบงวาน

แต่ทว่า แผนนี้กลับใช้ไม่ได้ผล จองบงวานซึ่งเป็นอดีตตำรวจรู้ว่ามันเป็นแผนของโบกอล เขาบอกให้โบกอลกลับไปรออยู่ที่บ้าน เพราะอีกไม่นานเขาจะไม่หาเอง

ข้อเสนอที่ไม่อาจจะรับได้

วันเดียวกัน มกฮาได้รับการติดต่อจากประธานอีให้เข้ามาเป็นศิลปินในสังกัด แต่เธอปฏิเสธ โดยยืนยันเสียงแข็ง ไม่ว่ายังไงเธอจะไม่มีวันหักหลังรันจูอย่างแน่นอน ดังนั้น เธอไม่มีทางยอมรับข้อเสนอที่จะเป็นศิลปินในสังกัด RJ Entertainment อย่างแน่นอน

สิ่งเดียวที่เธอต้องการทำให้สำเร็จก็คือ ทำให้ซีดีของรันจูขายให้ได้ครบ 20 ล้านแผ่น ซึ่งตอนนี้เหลืออีกไม่ถึง 2 หมื่นแผ่นก็จะครบแล้ว

เวลาเดียวกัน แม่ของรันจูที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมก็หนีออกจากโรงพยาบาล เพื่อไปหามกฮา เพราะคิดว่าตัวเองเป็นรันจู

เมื่อรู้เช่นนั้น รันจูจึงรีบไปรับตัวแม่ทันที และตอนนั้นเธอก็ได้เจอกับมกฮา สีหน้าของรันจูดูเหมือนจะยังโกรธมกฮาที่อยู่ดี ๆ ก็หนีไปโดยไม่บอกใคร “ฉันไม่น่าไว้ใจเธอตั้งแต่แรก คบเด็กสร้างบ้านจริง ๆ” แม้มกฮาจะพยายามขอโทษ แต่รันจูก็ไม่ฟัง เธอคิดว่าเมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สองที่สามและครั้งต่อ ๆ ไป

จากนั้น รันจูก็โทร. ไปหาประธานอีเพื่อนัดยกเลิกสัญญาของเธอที่ทำไว้ ทั้ง ๆ ที่ยอดขายซีดีใกล้จะครบ 20 ล้านแผ่นตามสัญญาแล้ว มกฮาตกใจมากกับการตัดสินใจครั้งนี้ของรันจู

พายุลูกใหญ่ที่กำลังมา

มกฮานึกย้อนกลับไปถึงตอนที่เธอใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนเกาะร้าง ในตอนนั้นมีพายุลูกใหญ่กำลังก่อตัวและมุ่งหน้ามาทางเกาะ เธอยืนเผชิญหน้ากับพายุ และตะโกนไล่มันไป แต่แล้วก็ไม่มีปาฏิหาริย์ใด ๆ เกิดขึ้น

มกฮาต้องหลบพายุอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ ด้วยความหวาดกลัว ถึงอย่างนั้นเธอก็อดทนจนพายุผ่านพ้นไป และถึงพายุจะพัดพาทุกอย่างพังทลายไป แต่เธอก็เชื่อมั่นในพลังของตัวเองที่จะสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาใหม่ได้ … และวันนี้ ในปัจจุบันเธอก็ยังเชื่ออย่างนั้นเช่นเดิม

แชจงฮยอบ ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva Ep.8

ขณะเดียวกัน โบกอลก็ตัดสินใจไปพบจองบงวาน มันเป็นการพบที่แม้แต่จองบงวานก็ไม่คาดคิด … โบกอลตั้งใจจะทำอะไรไม่มีใครรู้ แต่สายตาของเขาดูจริงจังและน่ากลัวมาก

และก่อนหน้านั้น โบกอลได้เสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับการสังหารคนด้วยยาพิษ หรือว่าเขาคิดจะสังหารพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง !? ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร ที่แน่ ๆ พายุลูกใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นแล้ว

EP.9 อันทิลดิเอนด์

จองบงวานเผชิญหน้ากับโบกอล (กีโฮ) ครั้งแรกในรอบ 15 ปี ตอนแรกเขาจำลูกชายไม่ได้ จนโบกอลต้องเอ่ยปากบอกว่า “ผมคือกีโฮ”

จองบงวานรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ เขาจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าของโบกอล แล้วก็พบโทรศัพท์ที่ใช้บันทึกเสียงซ่อนเอาไว้ เมื่อเห็นว่าโบกอลใช้เล่ห์เหลี่ยม เขาจึงโกรธจัดฟิวส์ขาด ใช้กำปั้นชกเข้าไปที่หน้าของโบกอล จากนั้นก็ใช้เท้ากระทืบ แล้วต่อด้วยคว้าเก้าอี้เข้าตีใส่ไม่ยั้งจนเก้าอี้หัก

สักพัก โบกอลก็ลุกขึ้นมาพร้อมเครื่องบันทึกเสียงอีกเครื่องที่ซ่อนเอาไว้ “อย่าเข้าใกล้ครอบครัวของเราอีก ไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งตำรวจ” เขามีหลักฐานเก็บเอาไว้ทั้งหมด และที่บ้านก็ยังติดตั้งกล้องวงจรปิด โบกอลเยาะยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่กลบเกลื่อนน้ำตาที่ซ่อนเอาไว้

ความอ่อนแอ

มกฮาถามหาเหตุผลว่า ทำไมรันจูถึงยอมทิ้งความพยายามทั้งหมดให้สูญเปล่าไป ทั้งที่ใกล้จะขายอัลบั้มได้ครบ 20 ล้านก๊อบปี้แล้ว ? รันจูบอกว่าเธอไม่อยากฝากความหวังไว้กับเด็กอ่อนแอ ที่ยอมแพ้ทุกครั้งเมื่อเจอปัญหา จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องของเด็กคนหนึ่ง ที่ขี้แพ้อ่อนแอเหมือนกับมกฮา

คนคนนั้นคือ ผู้จัดการของอึนโมแร เมื่อก่อนเขาเป็นเพียงพนักงานส่งของ วันหนึ่งเขาได้ส่งเดโมเพลงให้รันจู เธอรู้สึกประทับใจและเห็นแววศิลปินของเขา จึงได้พยายามผลักดันเขาอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว เพราะเขายอมแพ้ซะก่อน ประธานอีจึงเสนอตำแหน่งผู้จัดการอึนโมแรให้เขาแทน

พัคอึนบิน

พิสูจน์ตัวเอง

วันต่อมา มกฮาก็รับข้อเสนอเป็นศิลปินในสังกัดของ RJ Entertainment เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่คนอ่อนแออย่างที่รันจูบอก ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น จนมาถึงตอนเลือกเพลง มกฮาเกิดไปถูกใจเพลงเพลงหนึ่ง เธอพยายามติดต่อผู้แต่งเพลง แต่เธอกลับถูกปฏิเสธ

วันรุ่งขึ้น มกฮาเจอกับผู้จัดการอึนโมแร เธอจึงพูดจาไม่ดีใส่ โดยหาว่าเขาเป็นคนขี้อิจฉา โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือผู้แต่งเพลงเพลงนั้น เธอพยายามขอโทษ แต่เขาโกรธควันออกหูไม่สนใจคำขอโทษ “ฉันไม่มีวันยกเพลงให้เธอหรอก”

วันนั้นทั้งวัน มกฮาจึงเอาเนื้อเพลงมาเรียบเรียงใหม่ เพื่อให้เหมาะกับยุคสมัย ทำเสร็จก็เอาไปให้ผู้จัดการอึนโมแรดู เขาบอกกับเธอว่าอย่าเอาเพลงที่อยู่ในสต๊อกไปใช้เลย เพราะมันเป็นเพลงขยะที่ไม่มีศิลปินคนไหนต้องการ ถึงอย่างนั้น มกฮาก็ยังยืนยันว่าจะใช้เพลงของเขา เพราะเธอไม่กลัวที่จะล้มเหลว และเธอก็ชอบเพลงนี้มาก ๆ สุดท้ายเขาก็อนุญาตให้เธอใช้เพลง

คิมฮโยจิน พัคอึนบิน และ แชจงฮยอบ ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.9

Until the End

ต่อมา โบกอลเผยตัวตนที่แท้จริงกับรันจูว่า เขาคือกีโฮ จากนั้นเขาก็ขอให้เธอช่วยเรียบเรียงเพลงใหม่ของมกฮา เธอก็ตอบตกลง แต่ขอร้องอย่าบอกมกฮาว่าเธอเป็นคนเรียบเรียงให้

ไม่กี่วัน เพลงใหม่ของมกฮาก็เสร็จ มกฮาได้ร้องเพลงนั้นโชว์ต่อหน้าประธานอี ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะพอใจมาก

ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี แล้วคืนนั้น จองบงวานก็มาที่บ้าน แต่ขณะนั้นมีเพียงมกฮาอยู่กับแม่ของโบกอลเพียงสองคน มกฮาถามด้วยสายตาแข็งกร้าว “คุณมาที่นี่ทำไม ?”

EP.10 เดินหน้าตามล่าฝัน

จองบงวานมาเพื่อขอให้อดีตภรรยากลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะดำเนินมาไกลเกินกว่าจะกลับไปจุดนั้นได้แล้ว ส่วนมกฮาก็รีบโทร. แจ้งตำรวจทันที

ระหว่างนั้น อูฮักกลับมาถึงบ้านพอดี ทำให้เกิดการยื้อยุดฉุดกระชาก อูฮักกำหมัดแน่นเตรียมง้างกำปั้นเข้าเบ้าหน้าของผู้เป็นพ่อ เวลานี้เขาไม่ใช่เด็กที่จะยอมให้พ่อทำร้ายได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ก่อนความรุนแรงจะเกิดขึ้น แม่ก็เข้ามาห้ามเอาไว้ ไม่นานนัก ตำรวจก็เดินทางมาถึง และควบคุมตัวจองบงวานไป

จากนั้น โบกอลก็กลับมาถึงบ้าน เขาเข้าไปโอบกอดมกฮาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เธอจะพูดกับเขาว่า “พ่อนายไม่มีค่าพอจะให้โกรธ หรือแม้แต่นึกถึงด้วยซ้ำ ลบเขาออกไปจากใจเถอะนะ”

ช่วงเวลาเดียวกัน ตำรวจได้พบศพของครอบครัวหนึ่ง ที่ตัดสินใจขับรถตกน้ำเพื่อจบชีวิตยกครัว จากหลักฐาน ตำวจสันนิษฐานว่าทั้งหมดเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน

ข่าวรายงานว่า มีคนสวมรอยเป็นผู้เสียชีวิตเพื่อหลบหนีสามี โดยผู้เป็นแม่เปิดร้านเสริมสวย ส่วนลูก ๆ คนหนึ่งเป็นนักข่าว อีกคนก็เป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวี ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม

รันจูตัดสินใจเป็นโปรดิวเซอร์ให้มกฮา แต่มีเงื่อนไขว่า เธอต้องเลิกยุ่งเลิกติดต่อกับครอบครัวโบกอล เพราะตอนนี้ในสายตาคนทั่วไป ต่างมองครอบครัวของเขาเป็นอาชญากร ถ้าขืนยังติดต่อกันต่อไป มกฮาจะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวกับข่าวฉาวโฉ่ “ตัดสินใจซะ แล้วให้คำตอบฉันในวันพรุ่งนี้”

แชจงฮยอบ พัคอึนบิน

ด้านโบกอลก็รู้เรื่องนี้จากรันจูเช่นกัน ตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นกีโฮ เขาก็ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้มกฮาได้ก้าวขึ้นไปให้ถึงฝัน และวันนี้เขาก็จะทำอย่างนั้นเช่นกัน … โบกอลเตรียมจัดแจงห้องอพาร์ตเมนต์ให้กับมกฮา ซื้อข้าวของเครื่องใช้อาหารการกินต่าง ๆ เอาไว้ให้

ในคืนนั้น มกฮาตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าเพื่อย้ายออก โบกอลอาสาจะขับรถไปส่ง โดยพาเธอไปที่อพาร์ตเมนต์ที่เขาเตรียมไว้ให้ ก่อนจากกันเขาบอกกับเธอว่า ขอเพียงอย่าตัดขาดทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอแค่เก็บเขาไว้เพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ก็พอ มกฮาถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ

วันต่อมา เมื่ออูฮักรู้ว่ามกฮาย้ายออกไปจากบ้านบนดาดฟ้า และจะเลิกติดต่ออย่างเด็ดขาด เขาก็รู้สึกเศร้าทันที มันเป็นเรื่องที่เขาไม่ได้เตรียมใจมาก่อน

พ่อบุญธรรมเข้าไปปลอบ อูฮักจึงได้เผยความรู้สึกของตัวเองออกมาทั้งน้ำตา เขาชอบมกฮา เพราะตอนนั้นเขาคิดว่าตัวเองคือกีโฮ แต่ต่อมาเมื่อรู้ว่าโบกอลคือกีโฮ เขาก็พยายามตัดใจ แต่มันก็ทำไม่ได้ เขาไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้จริง ๆ

โบกอลและอูฮักตัดสินใจลาออกจากงาน ในทุกวันและทุกคืน ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่พวกเขาไม่คิดถึงมกฮา

ด้านมกฮาเวลามุ่งมั่นที่จะเดินตามความฝันอย่างเต็มที่ เธอบอกกับรันจูว่า “เราจะทำให้สำเร็จ และทำให้ออกมาดีที่สุด”

EP.11 ว่าด้วยเรื่องคดีความ

รันจูจูงมือมกฮาเปิดโต๊ะแถลงข่าว กรณีที่เธอหลอกลวงประชาชน ด้วยการใช้เสียงลิปซิงค์ของมกฮาในรายการปัดฝุ่นดารา สร้างกระแสให้ตัวเอง เพื่อทำยอดขายแผ่นเสียงให้ครบ 20 ล้านแผ่น ซึ่งจะทำให้เธอได้หุ้นครึ่งหนึ่งของบ RJ Entertainment

การแถลงข่าวเป็นไปด้วยความตึงเครียด แม้รันจูจะยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ถึงอย่างนั้น ทัวร์ก็แห่กันมาลงมกฮาอยู่ดี มีคอมเมนต์เชิงลบเต็มไปหมดในอินเทอร์เน็ต

ระหว่างนั้น รันจูก็ได้เอกสารการจำหน่ายอัลบั้มขณะไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นจำนวน 1.4 แสนแผ่น ที่แม่ของเธอเก็บเอาไว้ ซึ่งหมายความว่า ยอดขายของเธอครบ 20 ล้านแผ่นมาตั้งนานแล้ว

พัคอึนบิน จูบ แชจงฮยอบ ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.11

ครอบครัวของโบกอลเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ในความผิดข้อหาสวมรอยเป็นผู้เสียชีวิต ทั้งสี่เข้ามาให้การต่อหน้าอัยการ โดยมีจองบงวานมาด้วย สรุปสุดท้ายคือ ทุกคนไม่ต้องติดคุก เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ

ทีนี้ เมื่อมกฮารู้ว่าครอบครัวโบกอลพ้นความผิด เธอก็รีบมาหาเขาที่บ้านด้วยความดีใจ ทั้งคู่โผเข้ากอดกัน แล้วทั้งสองก็จูบกันอย่างหวานซึ้ง

ในขณะที่ครอบครัวของโบกอลจัดปาร์ตี้ฉลองกัน แต่ดูเหมือนจองบงวานจะไม่พอใจกับคำตัดสินของอัยการ ที่ตัดสินให้พวกเขาไม่มีความผิด จองบงวานหยิบมีดทำครัวขึ้นมาแล้วมองไปที่คมมีด เหมือนกับคิดจะทำอะไรบางอย่าง

ระหว่างนั้น อูฮักกับพ่อบุญธรรมของเขากำลังเดินถือร่มกลับบ้านในวันฝนตก แล้วจู่ ๆ เมื่อทั้งสองเดินผ่านใครบางคน พ่อบุญธรรมก็ล้มลงพร้อมกับเลือดไหลที่ไหลออกมาจากคอไม่หยุด !!?

EP.12 จุดเริ่มต้นของอาชีพนักร้อง (จบ)

แชจงฮยอบ

จองบงวานนั่งเขียนจดหมายถึงลูก ๆ และอดีตภรรยา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่หยุด ก่อนที่เขาจะตัดสินใจงัดไพ่ตายใบสุดท้ายออกมาใช้ ด้วยการกินยาเพื่อจบชีวิตเน่า ๆ ของตัวเองไปซะ

“ฉันขอมอบของขวัญชิ้นสุดท้ายให้กับพวกแกทั้งสามคน คือความตายของมัน” โบกอลอ่านข้อความในจดหมายด้วยความเจ็บปวด อ่านเสร็จเขาก็ขยำมันด้วยความเสียใจอย่างที่สุด

แม่ โบกอล และอูฮักจับมือพ่อบุญธรรมที่นอนอาการโคม่าอยู่บนเตียง พวกเขาทั้งสามได้แต่หวังให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น

ต่อมา ทั้งสามกลับมาใช้ชื่อเดิมของตัวเอง อูฮักได้กลับเข้าเป็นนักข่าว ส่วนโบกอลก็กลับไปเป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวีเหมือนเดิม ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง

ส่วนรันจูเอาเอกสารหลักฐานการขายอัลบั้มที่ญี่ปุ่น ไปปรึกษาทนายความเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ดูเหมือนช่องทางการใช้กฏหมายจะกินเวลายืดเยื้อนานมากกว่าสิบปี

เมื่อรู้เช่นนั้น รันจูจึงเอาเอกสารไปหาประธานอี ซึ่งประธานอีดูเอกสารแล้วก็บอกว่า “แม่คุณเองนั่นแหละ ที่เป็นคนทำลายเอกสารฉบับนี้ เพราะแม่อยากให้คนจำภาพคุณในฐานะนักร้อง ไม่ใช่ผู้บริหารค่ายเพลง”

แล้วประธานอีก็บอกกับรันจูว่า ถ้าเขาไม่สามารถทำให้มกฮาขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้ เขาลาออกจากซีอีโอ และสละหุ้นทั้งหมดที่ถือในบริษัท

แชจงฮยอบ และ พัคอึนบิน ในซีรีส์เกาหลี Castaway Diva EP.12 ตอนจบ

คืนนั้น โบกอลบอกกับมกฮาว่า การที่เขาหาเธอเจอไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเป็นความตั้งใจของเขามาตลอดนับสิบปี เขาตั้งใจออกตระเวนไปเก็บขยะตามเกาะร้าง เพื่อตามหาเธอ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริง ๆ

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Castaway Diva EP.12 ตอนจบ

ระหว่างนั้น โมแรกับมกฮกโต้เถียงกันเรื่องเพลงที่ประธานอีเป็นคนเลือกให้ ในที่สุดทั้งสองก็เริ่มเห็นตรงกันว่า เพลงที่ประธานอีเลือกให้เหมาะกับพวกเธอ ทั้งสองจึงตกลงแลกเพลงกัน

โมแรลดอีโก้ตัวเองลง เธอขอให้รันจูเป็นโปรดิวเซอร์ให้ โดยยื่นข้อเสนอเป็นค่าลิขสิทธิ์จำนวนมหาศาล ตอนแรกรันจูปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นข้อเสนอก็ตกลงรับทำทันที

หลังเพลงถูกปล่อย เพลงของอึนโมแรขึ้นติดชาร์ตอันดับหนึ่งเป็นเวลาสิบวันติดต่อกัน ในขณะที่เพลงของมกฮาค่อย ๆ ไต่อันดับ จนล่าสุดอยู่อันดับที่ 37 … มกฮาตื่นเต้นดีใจใหญ่

พัคอึนบิน

หลังเดบิวต์ไม่นาน เพลงของมกฮาก็ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่ง เป็นจริง ๆ อย่างที่ประธานอีบอกไว้เลย ณ จุดนี้ รันจูจึงยอมรับในความสามารถของประธานอี และยอมให้เขาบริหาร RJ Entertainment เธอรู้แล้วว่าแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน

Castaway Diva EP.12 ตอนจบ

มกฮากลายเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงได้ตามที่ฝันเอาไว้

แล้วเรื่องราวก็จบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

สรุปประเด็น Castaway Diva ตอนจบ

  • จองบงวานเลือกวิธีทำร้ายครอบครัวตัวเอง ด้วยการสังหารพ่อบุญธรรมของโบกอล (กีโฮ) แล้วจบชีวิตตัวเอง แต่ปรากฏว่า พ่อบุญธรรมของโบกอลรอด
  • ครอบครัวโบกอลรอดคุกจากคดีสวมรอยเป็นบุคคลอื่น เนื่องจากอัยการลงความเห็นสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ หลังจากนั้น ทุกคนก็ได้กลับมาใช้ชื่อและตัวตนของตัวเอง โบกอลกับอูฮักกลับเข้าทำงานตามเดิม
  • รันจูได้เรียนรู้ว่า RJ Entertainment เติบโตได้ทุกวันนี้ก็เพราะการบริหารงานของประธานอี ผู้ซึ่งมีสายตาของซีอีโอค่ายเพลง แต่ละคนมีความสามารถต่างกัน ส่วนตัวเธอก็ใช้ความสามารถทางด้านเพลง ด้วยการเป็นโปรดิวเซอร์
  • โบกอล​ (กีโฮ) บอกกับมกฮาว่า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เจอเธอที่เกาะร้าง เขาตั้งใจเป็นอาสาสมัครเก็บขยะตามเกาะร้างต่าง ๆ เป็นเวลามากกว่าสิบปี ที่ทำอย่างนั้นก็เพื่อตามหามกฮานั่นเอง
  • มกฮาได้เป็นนักร้องตามที่เธอฝัน เธอไม่ละทิ้งความพยายาม แม้โชคชะตาจะแช่แข็งความฝันของเธอไว้ที่เกาะร้างเป็นเวลายาวนานถึง 15 ปี

จบบริบูรณ์

Source : tvN Korea
ดู Castaway Diva ที่ Netflix >>> คลิกที่นี่

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Castaway Diva (2023) appeared first on idol.

]]>
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Mask Girl (2023) https://www.online-idol.com/2023/09/01/mask-girl-2023-kdrama-spoiler-36656/ Thu, 31 Aug 2023 19:28:34 +0000 https://www.online-idol.com/?p=36656 สาวออฟฟิศหน้าตาขี้เหร่ กลายเป็นดาวเด่นในโลกออนไลน์ภายใต้หน้ากากในชื่อ ‘มาสก์เกิร์ล’ ซึ่งนำพาเหตุร้ายเข้ามาในชีวิตเธอ …

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Mask Girl (2023) appeared first on idol.

]]>
Mask Girl สปอยล์ : สาวออฟฟิศหน้าตาขี้เหร่ กลายเป็นดาวเด่นในโลกออนไลน์ภายใต้หน้ากากในชื่อ ‘มาสก์เกิร์ล’ ซึ่งนำพาเหตุร้ายเข้ามาในชีวิตเธอ …

EP.1 คิมโมมี สาวออฟฟิศสายมโน

อีฮันบยอล ในซีรีส์ Mask Girl EP.1

คิมโมมีในปี 2009

คิมโมมี (รับบทโดย อีฮันบยอล) สาวออฟฟิศวัย 27 ปี ที่มีความฝันอยากเป็นดารา เสพสุขเสียงตบมือและคำชื่นชมจากผู้คนตั้งแต่วัยเด็ก แต่ด้วยหน้าตาที่กระเดียดไปทางขี้เหร่ ทำให้ความฝันของเธอยากจะเป็นจริง

แล้ววันหนึ่งโมมีก็พบช่องทางที่จะทำให้เธอได้ทำตามฝัน นั่นคือการเป็นสตรีมเมอร์แนวเซ็กซี่ภายใต้หน้ากาก ไม่นาน ชื่อของ Mask Girl ก็กลายเป็นดาวเด่นของผู้ชายสายหื่นในโลกออนไลน์ … นับแต่นั้น โมมีจึงมีโลกใบแรกเป็นสาวออฟฟิศธรรมดา ๆ ส่วนโลกใบที่สองคือสาวเซ็กซี่โชว์

โมมีเป็นสาวสายมโน เธอแอบหลงรัก หัวหน้าทีมพัค (รับบทโดย ชเวแดเนียล *นักแสดงรับเชิญ) ทั้งหล่อ เท่ ทำงานเก่ง แถมยังมีซิกแพ็กที่ชวนหลงใหล ข้อเสียข้อเดียวคือเขาแต่งงานและมีลูกแล้ว ถึงอย่างนั้นโมมีก็แอบรักหัวหน้าเข้าอย่างจัง

ซีรีส์เกาหลี Mask Girl EP.1

ค่ำวันนั้น โมมีลืมของเอาไว้ที่ออฟฟิศ เอ๊ะ ทำไมเหมือนได้ยินเสียงคนคุยกัน เธอจึงค่อย ๆ ย่องไปดู ภาพที่เห็นทำเอาโมมีถึงกับตาค้าง หัวหน้าทีมพัคกับ อีอารึม (รับบทโดย พัคจองฮวา) สาวสวยประจำออฟฟิศกำลังแสดงบทรักกัน โมมีเดินออกจากออฟฟิศไปทั้งน้ำตานองหน้า

เมื่อกลับถึงห้องพัก โมมีคว้าเอาโซจูในตู้เย็นขึ้นมาเปิดฝาแล้วกระดกที่เดียวหมดขวด ด้วยความเสียใจผสมกับความเมามาย คืนนั้นเธอจึงเปิดการแสดงไลฟ์โชว์วาบหวิว แล้วจบด้วยการเต้นที่ไม่มีอาภรณ์ปกปิดร่างกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว จนเป็นเหตุให้ไลฟ์ของเธอถูกแบน

อีฮันบยอล - ชเวแดเนียล ในซีรีส์ Mask Girl EP.1

เมื่อได้สติในวันต่อมา โมมีจึงวางแผนชำระแค้นมารหัวใจ เธอเอาเรื่องที่เห็นไปเม้าท์กับเพื่อน ๆ หวังให้อีอารึมเสียชื่อ แต่โมมีคงไม่รู้สินะ แรงเม้าท์ของชาวออฟฟิศมันกระจายไปไกล และมีพลังทำลายล้างยิ่งกว่าคลื่นซึนามิ ปากต่อปากเติมนู่นเสริมนี่ จนสุดท้ายไปไกลถึงขนาดเม้าท์กันว่า อีอารึมเป็นเมียคนที่สองและมีลูกกับหัวหน้าทีมพัค

หัวหน้าทีมพัคโดนบริษัทตั้งเรื่องสอบถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คืนนั้น เขาจึงไปดื่มจนเมามายและพยายามเดินตัดหน้ารถให้รถชน จะได้ตาย ๆ ไปซะ ดีที่โมมีมาเห็นพอดี จึงพยายามพาเขากลับบ้าน แต่หัวหน้าทีมพัคก็เมาชนิดไม่ได้สติ โมมีจึงตัดสินใจพาเขาไปนอนพักที่ห้องของเธอ แล้วคืนนั้น ทั้งสองก็มีความสัมพันธ์กัน

รุ่งเช้า หัวหน้าทีมพัคตื่นขึ้นมาเห็นโมมีนอนอยู่ข้าง ๆ ก็ตกใจ รีบใส่เสื้อใส่กางเกงแล้วเผ่นแน่บออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรกับโมมีเลยแม้แต่คำเดียว … ส่วนโมมีก็รู้ภายหลังว่าหัวหน้าทีมพัคลาออกจากบริษัทไปแล้ว

Mask Girl EP.1

ที่ออฟฟิศ ระหว่างที่โมมียังคงโซแซด เธอก็ได้รับอีเมลจากยูเซอร์คนหนึ่งในไลฟ์โชว์ “ฉันรู้นะว่าเธอคือมาสก์เกิร์ล” โมมีช็อกแทบคุมสติเอาไว้ไม่อยู่

แล้วภาพก็เผยออกมาให้เห็นว่า คนที่ส่งอีเมลหาโมมีก็คือ จูโอนัม (รับบทโดย อันแจฮง) ชายหนุ่มที่ทำงานอยู่ที่เดียวกับเธอ

EP.2 จูโอนัมกับตุ๊กตายางของเขา

รีแคปซีรีส์ Mask Girl EP.2 : จูโอนัมกับตุ๊กตายางของเขา

ตอนนี้เริ่มต้นด้วยการเล่าชีวิตในวัยเด็กของ จูโอนัม ด้วยความที่เขาเป็นเด็กอ้วนเตี้ย จึงทำให้โดนเพื่อน ๆ รังแกอย่างรุนแรง เขาโดนกระทำอย่างนั้นมาตลอดตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม มันทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า ทางเดียวที่จะทำให้เขาอยู่ได้อย่างสงบคือการอยู่อย่างไร้ตัวตน

และนั่นทำให้โอนัมชอบการใช้เวลาอยู่คนเดียว เมื่อโตขึ้นเข้าสู่วัยทำงาน เขาจึงขอแม่ออกมาอยู่อพาร์ตเมนต์คนเดียว ที่นั่น โอนัมมีความสุขอยู่ในโลกส่วนตัวกับตุ๊กตายางสาวญี่ปุ่นสุดเซ็กซี่ และชอบช่วยตัวเองกับการ์ตูนแนวเฮ็นไต ชีวิตของเขาวนลูปดำเนินไปอย่างนั้น จนได้เจอกับสตรีมเมอร์สาวสุดเซ็กซี่ ‘มาสก์เกิร์ล’

วันหนึ่งที่ออฟฟิศ โอนัมสังเกตเห็นไฝที่มือของโมมีอยู่ตำแหน่งเดียวกับมาสก์เกิร์ล แถมยังทาเล็บสีเดียวกันซะด้วย เขารู้ในทันทีว่า โมมีคือมาสก์เกิร์ล … นับแต่วินาทีนั้น โอนัมจึงแอบหลงรักโมมีสุดหัวใจ … ด้วยความที่เขาเป็นคนมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม ทำให้เขาได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ และมีความสุขอยู่ในโลกจินตนาการของตัวเอง

โอนัมเริ่มทำตัวเป็นสตอกเกอร์ ติดตามชีวิตของโมมี จนรู้ว่าโมมีแอบรักหัวหน้าทีมพัค และรู้ด้วยว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน หลังหัวหน้าทีมพัคลาออก เขาจึงตัดสินใจส่งอีเมลไปหาโมมี โดยระบุว่า “ฉันรู้นะว่าเธอคือมาสก์เกิร์ล”

รีแคปซีรีส์ Mask Girl EP.2

พระหล่อ

เรื่องราวดำเนินไปกระทั่งวันหนึ่ง โมมีนัดเจอกับยูเซอร์คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า ‘พระหล่อ’ (Handsome Monk) ทั้งสองไปกินเนื้อย่างกัน พระหล่อคะยั้นคะยอให้โมมีถอดแมสก์ออก โมมีก็จำใจเปิดเผยหน้าอย่างอาย ๆ เธออายหน้าตาขี้เหร่ของตัวเอง แต่พระหล่อกลับไม่แสดงท่าทางรังเกียจเธอเลย มันแสร้งทำเป็นพูดเกาหลีไม่คล่อง โดยอ้างว่าอยู่อเมริกามาตั้งแต่เด็ก แถมยังชมว่าหน้าตาของโมมีเป็นสไตล์ที่คนอเมริกันชอบ

โมมีเจอลูกยอ ก็ชอบใจใหญ่ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีผู้ชายมองว่าเธอสวย ทั้งสองไปดื่มต่อกันที่บาร์และคุยกันอย่างถูกคอ จนพระหล่อชวนโมมีไปหาที่คุยกันเงียบ ๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าโรงแรมม่านรูด มันจึงแสร้งทำเป็นชวนเธอไปนั่งดื่มเบียร์ โมมีที่ไม่เป็นใจแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เธอจึงเออ ๆ ออ ๆ เดินตามมันเข้าไป

แล้วก็เป็นตามคาด ธาตุแท้ของพระหล่อก็แสดงออกมา ธาตุแท้หื่นกาม มันพูดนู่นนี่นั่นชักแม่น้ำร้อยแปดสายมาอ้าง เพื่อที่จะให้โมมียอมมีอะไรกับมัน แต่โมมีไม่ยอม ไอ้ชั่วมันจึงด่าออกมาอย่างเจ็บแสบ “หน้าอุบาทว์ขนาดนี้ยังดัดจริตเล่นตัวอีกนะ ถ้าสวยจะไม่ว่าอะไรเลย นี่หน้าอย่างกับผี”

เจอด่าแบบนี้โมมีก็ขึ้นสิ โมมีกับพระหล่อฟัดกัน แล้วโมมีก็ใช้ตัวโถมเข้าใส่ไอ้ชั่ว หัวมันไปฟาดเข้ากับอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะมันจะนอนแน่นิ่งไป โมมีตกใจสุดขีด ไอ้สารเลวบ้ากามนอนแน่นิ่งอย่างกับคนตาย หรือมันตายไปแล้ว ? มันคงตายไปแล้ว !

หั่น

จังหวะนั้น โอนัมที่คอยติดตามโมมีก็เห็นไอ้ชั่วนั่นทวีตข้อความว่า “อยู่โรงแรมม่านรูดกับมาสก์เกิร์ล” เขาจึงรีบส่งข้อความหาโมมีทันที … โมมีที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นข้อความจากโอนัมจึงโทร. กลับไป

โอนัมมาที่โรงแรมม่านรูด โมมีนั่งร้องไห้อยู่เบื้องหน้า โดยมีร่างของพระหล่อนอนแน่นิ่งอยู่ … โมมีเสนอให้แจ้งตำรวจ เพราะเชื่อว่ามันเป็นการป้องกันตัวจากการถูกข่มขื่น โอนัมรีบห้ามทันที ข้ออ้างว่าถูกข่มขืนฟังไม่ขึ้น เนื่องจากโมมีสมัครใจเข้าโรงแรม ที่สำคัญ ถึงจะเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา แต่ยังไงก็ต้องติดคุกอยู่ดี

โอนัมขึ้นเสียงสั่งโมมี “คุณโมมีกลับบ้านไปก่อนเถอะครับ ที่นี่ผมจะจัดการเอง ถือว่าผมขอเถอะนะ”

หลังโมมีกลับไปแล้ว โอนัมก็ลากร่างของพระหล่อเข้ามาในห้องน้ำ ข้าง ๆ มีอุปกรณ์ที่ใช้หั่นศพวางอยู่ แต่ทันใดนั้น ไอ้ชั่วพระหล่อก็ขยับตัว มันยังไม่ตาย ! ด้วยความตกใจ โอนัมใช้มีดปลายแหลมในมือแทงเข้าไปที่ร่างของพระหล่อซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาแทงซ้ำนับสิบ ๆ ครั้ง เลือดสาดกระจายไปทั่วตัวเขาและผนังห้องน้ำ

Mask Girl EP.2

วันต่อมา โอนัมมาทำงานตามปกติ ที่ไม่ปกติคือโมมีลาออกจากบริษัทไปแล้ว … โอนัมจึงไปขอที่อยู่โมมีที่ฝ่ายบุคคล ค่ำวันนั้น เขาก็ไปหาโมมีที่อพาร์ตเมนต์

“คุณเป็นคนส่งอีเมลหาฉันใช่มั้ย ?” โมมีที่สวมหน้ากากมาสก์เกิร์ลพูดออกมา หลังรู้ว่าโอนัมคือสต๊อกเกอร์ที่คอยติดตามชีวิตเธอมาตลอด จากนั้นทั้งสองก็เริ่มโต้เถียงกัน แล้วโอนัมก็เผยธาตุแท้ความหื่นออกมา ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อต้องการสิ่งนี้ โอนัมเข้าขืนใจโมมี ทว่า โมมีนอนแน่นิ่งให้เขาทำไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตายาง เธอนอนนิ่งไร้อารมณ์อยู่อย่างนั้นจนโอนัมแปลกใจ เขาจึงค่อย ๆ เอื้อมมือไปถอดหน้ากากของเธอออก หน้าตาของโมมีถูกห่อหุ้มด้วยผ้าพันแผลที่ชุ่มไปด้วยเลือด ก่อนที่โมมีจะจับโอนัมนอนลง แล้วเธอก็ขึ้นทำให้เขา โอนัมหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขสุดซี้ด

และนั่นก็เป็นความสุขครั้งสุดท้ายของโอนัม โมมีคว้าเอามีดที่วางอยู่ข้างเตียง จ้วงแทงโอนัมนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาว่า “ไอ้สารเลว แกพูดถูกแล้วที่ฉันต้องลบทุกอย่างไปจากความทรงจำ”

EP.3 แม่วุ่นวายตามหาลูกชายผู้โดดเดี่ยว

รีแคปซีรีส์ Mask Girl EP.3 - ยอมฮเยรัน - อันแจฮง

คิมคยองจา (รับบทโดย ยอมฮเยรัน) เป็นแม่ของโอนัม … เธอแต่งงานกับสามีผ่านแม่สื่อเมื่อเกือบ 50 ปีก่อน (1974) หลังใช้ชีวิตคู่ได้ไม่กี่ปี เธอก็หย่ากับสามี สิ่งที่สามีทิ้งไว้ให้มีเพียงสิ่งเดียวคือ ‘จูโอนัม’

นับแต่นั้น คยองจาจึงทำงานทุกอย่างที่ได้เงินเพื่อเลี้ยงดูลูกชาย แม่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำ ขับแท็กซี่ ส่งอาหาร จนในที่สุดก็เก็บเงินก้อนหนึ่งเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อสิ่งเดียว คือ ต้องการเลี้ยงลูกให้ดี คยองจากต้องการให้ลูกเรียนหมอ

ในที่สุด คยองจาก็ส่งโอนัมเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงโซลได้สำเร็จ แม้จะไม่ได้เรียนหมออย่างที่เธอฝันไว้ก็เถอะ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอภูมิใจ … เมื่อโอนัมเรียนจบและทำงาน เขาก็ต้องการย้ายออกไปอยู่คนเดียว หลังจากนั้น สองแม่ลูกก็ห่างเหินกัน ยิ่งกว่านั้นโอนัมก็ไม่เคยให้คยองจาเข้าอพาร์ตเมนต์ของเขาเลย

เมื่อเวลาผ่านไป คยองจาติดต่อลูกชายไม่ได้ เธอจึงแจ้งตำรวจให้พังประตูอพาร์ตเมนต์ของโอนัม กลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง เมื่อเปิดตู้เย็นออกมาถึงกับผงะ มีชิ้นส่วนมนุษย์ห่อด้วยพลาสติก คยองจาตกใจจนสลบไป

คยองจาฟื้นได้สติที่โรงพยาบาล ตำรวจสองนายเข้ามาแจ้งว่า ศพที่พบในอพาร์ตเมนต์ไม่ใช่ศพของโอนัม คยองจาโล่งอกกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “จะเป็นศพใครก็ช่างเถอะ ขอแค่ลูกชายฉันยังไม่ตายก็พอแล้ว โอ้ พระเจ้า”

ตำรวจสันนิษฐานว่า โมมีกับจูนัม ร่วมมือกันสังหารเหยื่อ ก่อนที่จะหลบหนีไปด้วยกัน แต่คยองจาไม่เชื่อ เธอโวยวายใส่จนตำรวจตัวหงอไปเลย “พูดบ้าพูดบออะไร เด็กนั่น [โอนัม] แค่ฆ่าแมลงวันสักตัวยังไม่ได้เลย แค่เห็นเลือดนิดเดียวเขาก็กลัวจนตัวสั่นแล้ว”

คยองจาตัดสินใจออกตามหาลูกชายด้วยตัวเอง เพราะเธอเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ลูกชายของเธอเป็นคนดี และคนที่ทำเรื่องชั่วทั้งหมดคืออีนังสารเลวคิมโมมี

ฉันรู้จักคิมโมมี

คยองจาถอนเงินเก็บทั้งหมดที่มีมาใช้ในการตามหาโอนัม แต่ระหว่างนั้น เธอต้องเผชิญกับความเสียใจแทบหัวใจแตกสลาย เมื่อตำรวจได้รับแจ้งว่าพบศพโอนัมถูกทิ้งอยู่ในป่า

ยอมฮเยรัน ในซีรีส์ Mask Girl EP.3

โมมีคือฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของเธอ คยองจาเชื่ออย่างนั้น ความแค้นสั่งสมเพิ่มเป็นร้อยเท่าพันเท่า คยองจาไปหาร่างทรงหมอผีเพื่อหาตัวโมมี แล้วร่างทรงก็ทำพิธีจนรู้ว่าโมมีอยู่ที่คังชอน … คยองจาตามจนเจอหญิงสาวหน้าคล้ายโมมีทำงานอยู่ที่คลับแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้น คยองจาก็ไปติดต่อซื้อปืนเถื่อน ปืนลูกซองสไลด์ห้านัด กะว่าถ้าเจออีนังโมมีเมื่อไรป้าจะยิงให้เละ

ต่อมา ป้าคยองจาไปเช่ารถแท็กซี่มาจอดรอรับโมมีอยู่หน้าคลับ โมมีที่ตอนนี้ทำศัลยกรรมทุบหน้ามาใหม่ทั้งหน้าจนกลายเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ขึ้นมาบนรถ ป้าคยองจาจึงใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตโมมีจนสลบเหมือดไป ก่อนจะนำพาตัวโมมีไปที่บ้านร้างแห่งหนึ่งกลางป่า

ฮันแจอี - ยอมฮเยรัน

หญิงสาวฟื้นได้สติขึ้นมาพบว่าตัวเองถูกมัดมือมัดเท้าก็ร้องโวยวายออกมาไม่หยุด ป้าคยองจาหยิบรูปภาพโอนัมออกมา หญิงสาวโวยวายออกมาว่าไม่รู้จัก และบอกว่าเธอชื่อ ‘คิมชุนแอ’ (รับบทโดย ฮันแจอี)

สร้อยพระจันทร์เสี้ยวที่คอของหญิงสาวทำให้ป้าคยองจาเชื่อว่าเธอคือคิมโมมี เมื่อชุนแอรู้ว่าเพราะสร้อยที่ทำให้ป้าคยองจาเข้าใจผิด เธอจึงหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ฉันรู้ว่าคิมโมมีคือใคร”

EP.4 ศัลยกรรมพลิกชีวิต

Mask Girl EP.4

หญิงสาวที่ถูกคยองจาจับตัวไว้ เธอชื่อคิมชุนแอ … ในอดีตตอนเรียนมัธยมปลาย ชุนแอมักถูกเพื่อน ๆ บูลลี่ ด้วยเหตุผลที่เธอมีหน้าตาเชย ๆ แถมชื่อยังแปลกประหลาดชวนขบขัน

ที่โรงเรียน ชุนแอได้พบกับรักแรก เป็นหนุ่มสุดหล่อที่กำลังจะเป็นไอดอลชื่อ ‘พูยอง’ เธอได้แต่แอบรักเขาอยู่แบบนั้นนานนับปีทั้งที่ไม่เคยพูดคุยกันสักคำ กระทั่งเธอได้เจอกับเขาโดยบังเอิญ ขณะกำลังทำงานพาร์ตไทม์อยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ เขาคุยกับเธออย่างเป็นกันเอง

Mask Girl EP.4

วันหนึ่ง พูยองก็ชวนชุนแอไปงานวันเกิดของเขา แล้วจู่ ๆ เขาก็เซอร์ไพรส์เธอด้วยการขอยืมเงิน 3 แสนวอน (ประมาณ 8 พันบาท) โดยอ้างว่ามีเงินไม่พอจ่ายค่าบิล แต่เขาก็ไม่เคยคืนเงินที่ยืมเลย ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงยืมเงินเธออยู่เรื่อย ๆ และชุนแอก็ให้ยืมทุกครั้ง

เวลาผ่านไป พูยองได้เดบิวต์เป็นไอดอลชื่อเสียงโด่งดัง นับแต่นั้น ชุนแอก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้อีกเลย เธอจึงตัดสินใจแอบเข้าไปในห้องพักของพูยอง แล้วเธอก็ได้ยินคำพูดที่ทำให้เธอหัวใจแตกสลาย … “ผู้หญิงพวกนั้น ฉันใช้เป็นตู้เอทีเอ็มกดเงินเท่านั้นแหละ”

ชุนแอกลับมาที่พักด้วยคราบน้ำตา เธอตัดสินใจแฉพฤติกรรมของพูยองลงในอินเทอร์เน็ต การแฉด้วยอารมณ์ชั่ววูบของชุนแอ ทำให้พูยองถูกแบนจากวงการบันเทิงทันที

ต่อมา ชุนแอไปทำศัลยกรรมยกหน้าใหม่ ความสวยเป็นสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดในชีวิต

ผ่านไประยะหนึ่ง ชุนแอก็พบกับพูยองโดยบังเอิญ พูยองในตอนนี้ไม่ใช่พูยองคนเดิมที่เธอรู้จักในฐานะไอดอล พูยองเวลานี้เป็นเพียงผู้ชายโทรม ๆ ที่ไม่มีแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน ด้วยความรู้สึกผิด ชุนแอจึงเสนอให้เขามาอยู่กับเธอ

ทีนี้ ด้วยความที่พูยองจมไม่ลง เขาอายที่จะไปทำงาน คงเพราะเขาเคยเป็นถึงไอดอล ทำให้ชุนแอต้องไปทำงานที่คลับเพื่อหาเงินมากขึ้นมาเลี้ยงพูยอง … ที่คลับนี้เอง ชุนแอจึงได้เจอกับโมมี และได้สร้อยคอพระจันทร์เสี้ยวจากโมมี

ชุนแอไล่ยาวเล่าเรื่องต่าง ๆ จนคยองจาเชื่อใจ ปล่อยชุนแอ แลกกับการที่ชุนแอจะช่วยตามหาโมมี

พรมแดง

จริง ๆ แล้วที่ชุนแอรับปากจะช่วยตามหาโมมีเป็นเรื่องโกหก ชุนแอสนิทกับโมมีมาก สนิทขนาดไหน ? สนิทขนาดที่โมมีเคยเล่าเรื่องที่กำลังหนีคดีฆาตกรรมโอนัม ดังนั้น ชุนแอจึงรีบไปหาโมมีเก็บข้าวของเตรียมหนีไปด้วยกัน แต่ …

แต่ระหว่างที่ชุนแอกำลังเก็บของ พูยองก็รู้ความจริงว่าเธอเป็นคนที่ออกมาแฉเขา จนทำให้เขาหมดอนาคต เขาจึงเข้าไปตบซ้ายตบขวาแล้วต่อด้วยกระทืบด้วยความแค้น ยังดีที่โมมี (รับบทโดย นานะ) เข้ามาช่วยไว้ได้ ก่อนจะสำเร็จโทษพูยองด้วยการรัดคอจนแน่นิ่งไป … ทั้งสองช่วยกันขนศพใส่ท้ายรถเพื่อนำไปทิ้งอำพราง

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Mask Girl EP.4

แต่คยองจาไม่ได้โง่ เธอจ้างนักสืบให้คอยติดตามชุนแอ เมื่อรู้ว่าทั้งสองกำลังหนี คยองจาจึงรีบขับรถตามคนทั้งสองไป ขณะที่ชุนแอกับโมมีกำลังช่วยกันยกศพพูยองไปทิ้ง คยองจาก็ขับรถมาขวาง ป้าคยองจาสายโหดในมือถือลูกซองสไลด์ห้านัดในมือ ป้าเดินมาช้า ๆ ก่อนจะตวาดลั่นด้วยความสะใจ “ฉันเฝ้ารอให้ถึงวันนี้จนใจฉันเต้นแทบจะทะลุอกออกมาอยู่แล้วอีนังบ้า”

ป้าคยองจาสะบัดมือสไลด์ลูกซองในมือ ก่อนจะเหนี่ยวไกไปที่โมมี ฉิบหาย ปืนยิงไม่ออก !

โมมีกับชุนแอเห็นโอกาสจึงรีบเข้ามาชาร์จ แล้วจังหวะซวยก็มาเยือน คยองจาเหนี่ยวไกส่งกระสุนออกจากปากกระบอกพุ่งตรงไปที่ช่วงท้องของชุนแอ … โมมีกับคยองจากอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กันสักพัก แล้วจู่ ๆ ชุนแอที่เลือดอาบร่างก็คว้าก้อนหินขนาดเท่าหัวเด็กกระแทกลงกลางกบาลคยองจา จากนั้น ชุนแอก็เหลือเพียงร่างที่ไร้ลมหายใจ

โมมีจับคยองจาใส่ในรถ ก่อนจะเข็นรถพุ่งลงสู่ผืนน้ำเพื่ออำพราง

เวลาผ่านไป … โมมีก็เข้ามอบตัวกับตำรวจ ท่ามกลางนักข่าวที่รายล้อมราวกับเธอเป็นซูเปอร์สตาร์ที่กำลังเดินอยู่บนพรมแดง

EP.5 คิมมีโมกับเพื่อนสนิทจอมโกหก

การเข้ามอบตัวของ โมมีหรือมาสก์เกิร์ล กลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ … เมื่อถึงวันพิพากษา ศาลตัดสินให้โมมีได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต

ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น โมมีคลอดลูกออกมา ซึ่งเป็นลูกที่ท้องกับจูโอนัม โมมีเอาลูกไปฝากไว้กับแม่ของเธอ โดยตั้งชื่อว่า คิมมีโม (รับบทโดย ชินเยซอ) … เด็กหญิงมีโมเติบโตขึ้นมาโดยได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี กระทั่งวันหนึ่ง มีโมถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อว่าเป็นลูกของฆาตกร นับแต่นั้น พฤติกรรมของมีโมก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเด็กก้าวร้าว ต่อต้านสังคม และเงียบขรึม

ความก้าวร้าวของมีโมรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายเพื่อนนักเรียน จนถูกไล่ออกโรงเรียนแล้วโรงเรียนเล่า หนักข้อจนถึงเกือบได้เข้าไปอยู่ในสถานพินิจฯ ยังดีที่คุณยายของมีโมพอมีฐานะและมีเส้นสาย จึงช่วยให้ออกมาได้

ที่โรงเรียนใหม่ มีโมได้เพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อ คิมเยชอน (รับบทโดย คิมมินซอ) ซึ่งเป็นเด็กสาวมัธยมต้นที่มีนิสัยชอบโกหก โกหกว่าครอบครัวตัวเองมีปัญหา โกหกว่ามีพ่อที่ชอบทำร้ายร่างกาย และมีแม่ที่ใจร้าย ถึงขนาดที่เยชอนเคยบอกกับมีโมว่า อยากฆ่าแม่ตัวเอง เพียงเพราะแม่ไม่ยอมให้เลี้ยงแมว !

ถึงมีโมกับเยชอนจะเป็นเด็กมีปัญหา แต่ทั้งคู่ก็รักกันมาก จนวันหนึ่ง มีโมก็เล่าเรื่องที่แม่เป็นฆาตกรให้เยชอนฟัง ยิ่งเยชอนได้รู้ว่ามีโมเป็นลูกสาวของมาสก์เกิร์ล ก็ยิ่งทำให้เยชอนปลื้มมีโมมากขึ้นไปอีก และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองเริ่มวางแผนหนีออกจากบ้าน ปัญหาเดียวคือเงิน

เยชอนหาเงินด้วยการขโมยของในบ้านไปขาย แต่ขายยังไงก็รวมเงินได้แค่ 130,000 วอน (ประมาณ 3,400 บาท) มีโมจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ควร นั่นคือขโมยของ ผลก็คือไม่รอดโดนจับส่งตำรวจ

ยายของมีโมมาที่โรงพัก แวบแรกที่เห็นหลานก็กางมือตบเข้าไปเต็มหน้าหนึ่งฉาด ก่อนจะใช้คำพูดรุนแรงใส่ด้วยความโกรธ มีโมวิ่งหนีออกจากโรงพักทั้งน้ำตาด้วยความเสียใจ

รุ่งขึ้น มีโมได้ยินเพื่อนที่โรงเรียนพูดเรื่องที่เธอมีแม่เป็นมาสก์เกิร์ล และนั่นคือฟางเส้นสุดท้าย มีโมตัดสินใจหนีออกจากบ้าน และไม่ไปโรงเรียน โดยไปขอความช่วยเหลือจากคุณยายที่ขายต๊อกโบกีที่หน้าโรงเรียน เพราะเป็นคนเดียวที่ดีกับเธอ

เยชอนเป็นห่วงเพื่อน ทั้งออกตามหา ทั้งโทร. ติดต่อ แต่ไม่ว่าจะไปหาที่ไหนก็ไม่เจอ ไม่ว่าจะโทร. ไปกี่ร้อยกี่พันสายมีโมก็ไม่รับสาย โดยเยชอนไม่รู้เลยว่า มีโมกำลังแอบตามดูพฤติกรรมอยู่ ทำให้มีโมได้รู้ความจริงว่าเยชอนโกหกเรื่องพ่อแม่

ยอมฮเยรัน

เย็นวันนั้น มีโมจึงโทร. นัดเยชอนให้ออกมาเจอ ก่อนมีโมจะระเบิดอารมณ์เข้าไปทำร้ายเยชอนด้วยความโกรธ “ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง แกเอาข่าวนั้นไปแพร่กระจายที่โรงเรียนทำไม อีโกหก อีสารเลว” … เวลาเดียวกัน ก็มีหญิงชราปรากฏตัวขึ้นมองไปที่เด็กสาวทั้งสองกำลังตบตีกัน พร้อมกับรอยยิ้ม หรือว่าหญิงชราคือ ป้าคยองจา !?

EP.6 นักโทษหญิงคิมโมมี

ในคุก โมมีมีชื่อเสียงในฐานะมาสก์เกิร์ล จนกลายเป็นกูรูด้านการทำศัลยกรรม แต่จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร เพราะในคุกไม่มีหมอศัลยกรรม ในทางตรงกันข้าม หน้าพลาสติกของโมมีกลับไปขวางหูขวางตาเจ๊ขาใหญ่ ที่ไม่ชอบขี้หน้าผู้หญิงหน้าปลอม เพราะเมียน้อยของสามีเจ๊แกเป็นผู้หญิงหน้าปลอมเช่นเดียวกัน

เจ๊ขาใหญ่ต้องโทษในคดีจ้างวานฆ่าสามี ร่ำรวย มีเส้นสาย และที่สำคัญเจ๊แกได้รับสิทธิพิเศษจากพัศดีเรือนจำทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือไม่ได้ออกไม่นอกคุก

ทีนี้ ลูกน้องของเจ๊ขาใหญ่ก็ชอบมาบูลลี่โมมีเรื่องหน้าปลอมของเธอ บูลลี่ไปบูลลี่มาโมมีก็แกล้งบ้าสติแตกขึ้นมา ไล่ทุบไล่ตีไอ้พวกลูกน้องปากหมาจนเลือดกบปาก โมมีถูกลงโทษจับขึ้นซอยขังเดี่ยว ผ่านไป 14 วัน โมมีถูกปล่อยออกมาก็ทำซ้ำแบบเดิมอีก ใช้ถาดอาหารทุบไอ้ลูกน้องปากเลวของเจ๊ขาใหญ่จนสลบ โมมีทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเจ๊ขาใหญ่แกต้องยอมขอสงบศึก

ผ่านไปหลายปี โมมี (รับบทโดย โกฮยอนจอง) ก็ใช้ชีวิตแบบซังกะตายให้ผ่านพ้นไปในแต่ละวัน กระทั่งวันหนึ่ง โมมีได้รับจดหมายปริศนาที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือระบุว่า “ถึงเวลาที่แกต้องลิ้มรสความรู้สึกที่ลูกถูกทำลายบ้างแล้ว” คืนนั้น โมมีนอนคิดทั้งคืน เมื่อฟ้าสางโมมีตัดสินใจวางแผนแหกคุก

แสงสว่างนำทางชีวิตใหม่

โมมีค่อย ๆ เก็บอุปกรณ์ในกองงานที่นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการหนี ผ้า มีด เมื่อได้ทุกอย่างครบโมมีจึงหนีทันที ปัดโธ่ แต่ยังไม่ทันที่โมมีจะปีนขึ้นกำแพง ก็โดนจับซะแล้ว แผนแหกคุกล้มเหลวไม่เป็นท่า

โมมีถูกลงโทษโดยการจับขึ้นขังซอย ระหว่างนั้น พัศดีเรือนจำก็ให้ผู้คุมเอาไบเบิลไปให้โมมี และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิตโมมี พระเจ้าทำให้โมมีเหมือนเกิดใหม่ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าโมมีอีกครั้ง

วันหนึ่ง โมมีเห็นเจ๊ขาใหญ่แกนั่งร้องไห้ เธอจึงถามเพื่อนนักโทษว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าลูกสาวของเจ๊ขาใหญ่ป่วยหนัก ต้องได้รับการปลูกถ่ายไตโดยด่วน โมมีจึงเดินไปหาเจ๊แก “พี่คะ ลูกสาวของพี่กรุ๊ปเลือดอะไรคะ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากมอบไตให้ลูกสาวของพี่” เจ๊ขาใหญ่ตอบกลับไปทันทีว่ากรุ๊ปเอบี

ผ่านไประยะหนึ่ง ผลการตรวจออกมาแล้ว เจ๊ขาใหญ่วิ่งไปหาโมมีด้วยความดีใจ “ลูกสาวของฉันสามารถรับบริจาคไตจากเธอได้ นี่มันปาฏิหาริย์จริง ๆ” ทั้งสองเข้าสวมกอดกันด้วยความปีติ

รีแคปซีรีส์ Mask Girl EP.6 : นักโทษหญิงคิมโมมี - โกฮยอนจอง

วันนี้ โมมีไปโบสถ์ตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเธอได้เจอกับแขกที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ ป้าคิมคยองจา !

หน้าใหม่ของป้าคิมคยองจา

ป้าคิมคยองจายังไม่ตาย … ในวันนั้น ป้าแกได้สติก่อนที่รถจะจมน้ำ ก่อนจะหาวัตถุแข็งทุบกระจกหนีออกมาได้ และเพื่อเป็นการอำพรางตัวตน ป้าคยองจาจึงไปทำศัลยกรรมยกหน้าใหม่ ระหว่างนั้น ป้าก็ออกตามหาโมมี แต่หายังไงก็ไม่มีเบาะแส จนกระทั่งได้เห็นข่าวโมมีถูกจับและตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

คยองจาเสียใจที่ไม่ได้ฆ่าโมมีด้วยมือตัวเอง เวลาผ่านไป คยองจาจึงคิดแผนใหม่ขึ้นมาได้ ในเมื่อจัดการกับแม่ไม่ได้ก็คงต้องจัดการกับลูกสาว ‘มีโม’ คือเป้าหมายของคยองจา … แล้วความจริงก็ถูกเปิดเผยออกมา เรื่องร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับมีโม ล้วนแล้วแต่เกิดจากคยองจาทั้งสิ้น !

EP.7 ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ (ตอนจบ)

รีแคปซีรีส์ Mask Girl EP.7 ตอนจบ : โกฮยอนจอง

โมมีสติแตกหลังรู้ว่าลูกสาวกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากเจ๊ขาใหญ่ เจ๊แกก็ตกปากรับคำเป็นอย่างดีว่าจะให้ลูกน้องออกไปตามสืบ แต่ทว่าอีเจ๊ขาใหญ่เล่นไม่ซื่อ สั่งลูกน้องให้ไปถ่ายรูปเด็กที่ไหนมาก็ไม่รู้ เพื่อเอามาหลอกโมมี … ถึงจะไม่เคยเห็นหน้าลูกสาวตอนโต แต่ความเป็นแม่ไม่มีที่จะจำลูกตัวเองไม่ได้

คืนนั้น โมมีดูรูปนั้นแล้วก็ฉีกมันทิ้งไปอย่างไร้ค่า

วันนี้เป็นวันที่โมมีจะถูกนำตัวออกไปนอกคุก เพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไตที่โรงพยาบาล เจ๊ขาใหญ่แกเตรียมการให้ทั้งหมด โดยมีผู้คุมหญิงตามไปด้วยสองคน

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล โมมีขอผู้คุมไปเข้าห้องน้ำ เธออาศัยจังหวะนั้นคว้าเอาฝาชักโครงฟาดเข้าไปที่กบาลของผู้คุมจนสลบ ก่อนจะกระโดดหนีออกทางหน้าต่างห้องน้ำด้วยความสูงสองชั้น โมมีวิ่งกะเผลก ๆ ไปจนถึงลานจอดรถ แล้วรถที่วิ่งมาก็ชนเธอเข้าเต็ม ๆ จนร่างกระเด็น โมมีฝืนพยุงตัวขึ้นมาแล้วขึ้นไปบนรถคันที่ชน ก่อนจะรีบขับออกไปช่วยมีโม

โมมีโทร. ไปหาแม่ จนได้ที่อยู่ของคยองจา เธอจึงเหยียบคันเร่งมิดไปยังที่อยู่ที่ได้ทันที

รีแคปซีรีส์ Mask Girl EP.7 ตอนจบ

ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ

วันเดียวกัน ที่บ้านเช่าอันห่างไกลผู้คน คยองจาเตรียมอาหารให้มีโมตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือวันนี้คยองจากใส่ยานอนหลับเอาไว้ในอาหารที่มีโมกิน เพราะวันนี้จะเป็นวันตายของสาวน้อยมีโม

มีโมถูกจับมัดมือมัดเท้าเอาไว้ที่ชั้นใต้ดิน กล้องบันทึกวิดีโอเตรียมบันทึกการตายของมีโม คยองจาต้องการให้โมมีเห็นการตายของลูกสาวทุกวินาที … จริง ๆ แล้ว การฆ่าเด็กหญิงมีโมก็เป็นเรื่องที่ลำบากใจสำหรับคยองจาไม่น้อย มันไม่ง่ายเลย แต่เพื่อล้างแค้นให้กับลูกชาย ยังไงก็ต้องทำ แต่ …

แต่ก่อนที่คยองจาจะลงมือ ยายของมีโมก็มาถึงพอดี การต่อสู้ของหญิงชราสองคนจึงเริ่มขึ้น มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่น่าตื่นเต้นอะไรเลย ยายมีโมถูกคยองจาจัดการอย่างง่ายดาย มีดในมือคยองจาแทงเข้าไปที่ร่างของยายมีโม แต่ยังไม่ทันจะได้ซ้ำมีดที่สอง โมมีก็มาถึงแล้วคว้าเอาของแข็งทุบเข้าไปที่ท้ายทอยของคยองจา จนสลบเหมือดลงไปนอนกองกับพื้น ไม่นานนัก ยายมีโมก็สิ้นใจ

โมมีลงมาช่วยมีโมที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ขึ้นจากชั้นใต้ดิน คยองจาก็ยืนจังก้าในมือถือลูกซองสไลด์ห้านัดเอาไว้ในมือ เหมือนเดิม โมมีพุ่งเข้าชาร์จก่อนที่คยองจาจะลั่นไก ลูกกระสุนพุ่งขึ้นไปบนเพดาน ปืนไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริง ๆ ทั้งสองต่อสู้กันด้วยมือเปล่า ตอบโต้กันไปมาจนเลือดท่วมตัว

เสียงไซเรนรถตำรวจดังมาแต่ไกล รถตำรวจมากกว่าสิบคันค่อย ๆ จอดอยู่ด้านหน้า เจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือเล็งไปที่โมมี โมมีที่ตอนนี้สภาพสะบักสะบอมกำลังเดินออกมานอกประตูบ้านพร้อมกับมีโม “ยกมือขึ้น คิมโมมี” เสียงตำรวจประกาศดังลั่น โมมียกมือขึ้นตามคำสั่ง

รีแคปซีรีส์ Mask Girl EP.7 ตอนจบ

ทันใดนั้น คยองจาก็โผล่ออกมาพร้อมด้วยลูกซองสไลด์ห้านัด “คนอย่างแก ต้องเจ็บเจียนตายเหมือนอย่างที่ฉันรู้สึก” คยองจาเล็งปากกระบอกปืนไปที่มีโม เปรี้ยง ! โมมีโถมตัวเข้าไปกอดลูกสาวเพื่อรับกระสุนแทน โมมีตายคาที่ … ป้าคยองจาก็ถูกลูกกระสุนเจ้าหน้าที่ยิงเข้ากลางกบาลตายคาที่เช่นกัน

บทสรุป

หลังจากนั้น อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนไป มีโมกลับมาคืนดีกับเพื่อนซี้เยชอน พ่อแม่ของเยชอนกลายเป็นผู้ปกครองของมีโม ความเกลียดชังหายไปจากใจมีโมจนหมดสิ้น … มีโมหยิบม้วนวิดีโอสมัยแม่ยังเด็กกำลังเต้นบนเวทีขึ้นมาเปิดดู ดูไปน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด

จบบริบูรณ์

Images : Netflix
ดูซีรีส์ Mask Girl ที่ Netflix : คลิกที่นี่

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Mask Girl (2023) appeared first on idol.

]]>
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ The Killing Vote (2023) โหวตโทษประหาร https://www.online-idol.com/2023/08/19/the-killing-vote-2023-kdrama-spoiler-36448/ Sat, 19 Aug 2023 12:04:23 +0000 https://www.online-idol.com/?p=36448 ผู้คนมัวแต่ก้มมองหน้าจอ เมื่อบุคคลสวมหน้ากากที่เรียกกันว่า 'หน้ากากสุนัข' ปรากฏตัว การโหวตโทษประหารก็เริ่มขึ้น …

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ The Killing Vote (2023) โหวตโทษประหาร appeared first on idol.

]]>
The Killing Vote สปอยล์ : ผู้คนมัวแต่ก้มมองหน้าจอ เมื่อบุคคลสวมหน้ากากที่เรียกกันว่า ‘หน้ากากสุนัข’ ปรากฏตัว การโหวตโทษประหารก็เริ่มขึ้น …

เรต : 15+ คะแนน : 5/10 เรตติ้งเฉลี่ย : 4.0%
แนว : อาชญากรรม ระทึกขวัญ

EP.1. ปีศาจบริสุทธิ์

รีแคปซีรีส์ The Killing Vote EP.1 : อิมจียอน - พัคแฮจิน

เจ้าหน้าที่หญิงจูฮยอน (รับบทโดย อิมจียอน) แผนกสืบสวนทางไซเบอร์ กำลังปลอมตัวเป็นเหยื่อของแก๊งค้ามนุษย์ โดยพวกมันบังคับหญิงสาวให้ไลฟ์เซ็กส์โชว์ หน้าที่ของจูฮยอนคือแจ้งพิกัดให้ เจ้าหน้าที่มูชาน (รับบทโดย พัคแฮจิน) นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมพวกแก๊งชั่ว

เป็นแต่เพียงว่า มูชานผู้มีชื่อเสียงว่าเป็นตำรวจแหกคอก ชอบลุยเดี่ยวและไม่สนใจขั้นตอนของตำรวจ บุกเดี่ยวเข้าไปจัดการโดยยังไม่ได้หมายค้น แม้จะลุยเดี่ยว แต่สกิลการต่อสู้ของมูชานก็สามารถจัดการกับพวกแก๊งชั่วได้อย่างง่ายดาย

ระหว่างนั้นมีการปล่อยตัวนักโทษ ‘คีชอล’ ออกมาจากเรียนจำ หลังจากรับโทษเพียงแค่หนึ่งปีหกเดือน ในข้อหาหาประโยชน์จากการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับคนเป็นจำนวนมาก ที่หน้าเรือนจำมีผู้คนมาประท้วงการปล่อยตัวคีชอลเป็นจำนวนมาก ต้องมีการระดมเจ้าหน้าที่มารักษาความปลอดภัยให้กับคีชอล ป้องกันการโดนรุมประชาทัณฑ์

เมื่อคีชอลได้รับอิสรภาพ เขาก็เตรียมแผนจะทำธุรกิจหากินกับสื่ออนาจารเด็กต่อไป … เชื้อชั่วไม่มีวันตายจริง ๆ

ต่อมา จูฮยอนพบคลิปวิดีโอแปลกประหลาดในแลปท็อปของน้องสาว ในคลิปมีชายสวมหน้ากากที่เรียกว่า ‘หน้ากากสุนัข’ พูดจาด้วยประโยคแปลก ๆ ต่อหน้ากล้อง “มีคนหลายคนที่สมควรตาย แต่กฎหมายทำอะไรพวกมันไม่ได้ และคนชั่วอย่างแกก็มีอยู่เกลื่อนเมือง เกาหลีมันเละเทะจนพัฒนาต่อไม่ได้แล้ว จำไว้นะ ฉันไปหาแกแน่”

ภาพหน้าจอซีรีส์ The Killing Vote EP.1 โหวตโทษประหาร

โหวตโทษประหาร

จูฮยอนพยายามค้นหาที่มาของคลิป แต่คว้าน้ำเหลว … คืนเดียวกันนั้น ทุกคนทั่วกรุงโซลต่างได้รับข้อความหน้าตาแปลก ๆ เด้งขึ้นมาในโทรศัพท์ “โหวตโทษประหาร” แล้วก็มีปุ่มให้กดโหวต เห็นด้วย กับ ไม่เห็นด้วย กับการประหารไอ้ชั่ว ‘คีชอล’ ?

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ตามคาด ผู้คนต่างโหวดเห็นด้วยกับการประหารคีชอลถึง 84% … แล้วคีชอลก็ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม

มูชานได้รับการแต่งตั้งจากหน่วยสอบสวนคดีพิเศษ ให้เป็นผู้รับผิดชอบคดีฆาตกรรมคีชอล แม้คีชอลจะเป็นอาชญากรที่สมควรตาย แต่การตายของเขาเป็นฆาตกรรม ยังไงซะ ตำรวจก็ต้องหาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้

ด้านจูฮยอนเองก็แอบสืบคดีนี้ด้วยตัวเอง จนเธอได้พบข้อสังเกตที่อาจนำไปสู่การจับตัวคนร้าย จูฮยอนนำหลักฐานที่มีไปหามูชานทันที เธอเปิดคลิปที่ได้จากแลปท็อปของน้องสาวให้เขาดู เทียบกับคลิปล่าสุดที่ ‘หน้ากากสุนัข’ ปล่อยออกมา

จูฮยอนบอกว่า คนร้ายพูดประโยคหนึ่งเหมือนกันในทุกคลิป ประโยคนั้นคือ “ปีศาจผู้บริสุทธิ์” เมื่อสืบค้นก็พบว่า มีคดีเมื่อแปดปีที่แล้วที่พ่อฆ่าลูกสาวตัวเอง ประโยคสุดท้ายที่พ่อคนนั้นพูดก็คือ “ปีศาจผู้บริสุทธิ์” เช่นกัน ที่สำคัญคดีนั้น มูชานเป็นผู้รับผิดชอบคดี

จูฮยอนสรุปว่า ‘ควอนซอกจู’ พ่อที่ฆ่าลูกสาวในคดีนั้นคือ ‘หน้ากากสุนัข’ !

มูชานตกใจเมื่อได้ยินจูฮยอนสรุปแบบนั้น มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อควอนซอกจูยังอยู่ในคุก !?

EP.2 อึม ไซยาไนด์

เมื่อ 8 ปีก่อน … ควอนซอกจู (รับบทโดย พัคซองอุง) ถูกจับในข้อหาฆาตกรรม ชายที่ฆ่าลูกสาววัยแปดขวบของเขา … ซอกจูแถลงต่อหน้าศาลด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจที่มีต่อกระบวนการยุติธรรม ที่ปล่อยให้ฆาตกรที่ฆ่าลูกสาวเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่กลับตีตราเขาเป็นฆาตกร ทั้งที่การฆ่าไอ้ชั่วนั่นเป็นสิ่งที่มันสมควรจะได้รับ

จูฮยอนสรุปว่า ‘หน้ากากสุนัข’ คือ ‘ซอกจู’ และขอเข้ารวมทีมสอบสวนคดีพิเศษทำคดีนี้ด้วย แต่มูชานปฏิเสธ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ซอกจูจะอยู่เบื้องหลัง เพราะซอกจูอยู่ในเรือนจำ

ทีนี้ หัวหน้าของจูฮยอนที่จ้องจะย้ายเธอออกจากแผนกอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าจูฮยอนเอาหลักฐานในแผนกไซเบอร์ไปให้มูชาน เขาจึงสั่งย้ายเธอไปอยู่ทีมสอบสวนคดีพิเศษซะเลย … แม้จะถูกถีบหัวส่ง แต่จูฮยอนกลับดีใจขอบคุณหัวหน้ายกใหญ่

ด้านมูชานก็ตามสืบไปถึงคนขับรถแท็กซี่ที่ไปส่ง คีชอล เหยื่อรายแรกของโหวดโทษประหาร ในคืนเกิดเหตุ แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์มากนัก และเมื่อตามรถแท็กซี่คันนั้น ก็พบอยู่ที่สุสานรถยนต์ สถาพรถถูกบี้ทำลายไปทั้งคันแล้ว

เหยื่อ

โหวตโทษประหารครั้งที่สองจะเริ่มในอีก 6 วัน … เบื้องบนกดดันมูชานให้รีบตามจับ ‘หน้ากากสุนัข’ ให้ได้

มูชานสั่งให้จูฮยอนเข้าไปสอบปากคำนักโทษในเรือนจำ นักโทษทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ซอกจูเป็นผู้มีพระคุณ แถมยังเป็นคนช่วยให้คีชอลไม่ถูกฆ่าตายในคุก

ซอกจูเห็นจูฮยอนถามคำถามด้วยประโยค “ปีศาจผู้บริสุทธิ์” กับนักโทษคนอื่น ๆ เขาจึงแจ้งกับผู้คุมว่าต้องการพบจูฮยอน … ซอกจูแนะนำจูฮยอนด้วยประโยคที่ว่า “ถ้าหาฆาตกรไม่เจอทำไมไม่หาเหยื่อก่อนล่ะ แสดงว่าฆาตกรมีเหยื่ออยู่ในใจ เหยื่อที่จะทำให้ฆาตกรดูเป็นฮีโร่”

มูชานเชื่อว่า ซอกจูอาจไม่เกี่ยวกับฆาตกรโดยตรง แต่ฆาตกรอาจเป็นคนที่อยู่รอบข้างเขา

จูฮยอนทำตามคำแนะนำของซอกจู เธอเร่งหาตัวคนที่เข้าข่ายจะตกเป็นเหยื่อของหน้ากากสุนัข แต่มันก็สายเกินไป

The Killing Vote EP.2

อึม ไซยาไนด์

แล้วก็ถึงเวลาสี่หุ่มของวันโหวตการประหารครั้งที่สอง หน้ากากสุนัขมาไลฟ์สดตรงตามเวลาเป๊ะ เหยื่อวันนี้ คือ อึมยุนคยอง หรือ อึม ไซยาไนด์ หญิงสาวที่วางยาฆ่าคนรอบข้างเพื่อเอาเงินประกัน แต่ตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีเธอได้เพราะไม่มีหลักฐาน

อดีตของ อึม ไซยาไนด์ เคยวางแผนฆ่าสามีโดยการวางยา แล้วจัดฉากว่าเกิดอุบัติเหตุขับรถตกน้ำ ส่วนเธอมีรอยถลอกตามร่างกายเพียงเล็กน้อย เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้เงินประกันมูลค่า 2,760 ล้านวอน (ประมาณ 73 ล้านบาท) … เธอเคยแต่งงานมาแล้วสามครั้ง และสามีตายทุกคน !

ตอนสามีคนที่สามของ อึม ไซยาไนด์ เสียชีวิต ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่ในชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลกลับตัดสินยกฟ้อง โดยระบุว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์เรื่องเจตนาได้ … แล้วตอนนี้ เธอกำลังจัดการกับเหยื่อซึ่งเป็นสามีคนที่สี่

“ทุกคนเชิญโหวดเพื่อ ‘ฆ่า’ หรือ ‘ไม่ฆ่า’ หญิงสาวใจชั่วคนนี้ได้เลย” ชายภายใต้หน้ากากสุนัข ประกาศผ่านเครื่องแปลงเสียง จากนั้น เวลาหนึ่งชั่วโมงก็เริ่มนับถอยหลัง

ระหว่างนั้นจูฮยอนก็ตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์มือถือของ อึม ไซยาไนด์ ได้ กำลังตำรวจออกตามหาทันที จนพบเธอถูกจับเอาไว้บนรถพร้อมด้วยระเบิดเวลา ระเบิดที่จะทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นได้รับอันตราย !

จูฮยอนแนะนำมูชานให้เคลื่อนย้ายรถไปไว้ที่โรงเรียนของน้องสาวเธอ ซึ่งเวลาดึกขนาดนี้น่าจะมีนักเรียนเหลืออยู่ไม่มาก เจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งก็เร่งเข้าไปเคลียร์เด็ก ๆ ออกจากรัศมีระเบิด

มูชานนำรถมาถึงลานกว้างภายในโรงเรียน อึม ซายาไนด์ ยังนั่งบนเบาะรถที่ถูกติดตั้งเข้ากับวงจรกับระเบิด ระเบิดที่เวลาเหลืออีกไม่ถึง 2 นาที แต่มูชานไม่ลงจากรถ เขาตะโกนใส่หน้ากากสุนัขผ่านโทรศัพท์ “ถ้าแกรักความยุติธรรม จะตอบคนอื่นยังไงถ้าฉันต้องตายไปด้วย … หยุดระเบิดบ้านี่ซะ ไอ้ชั่ว”

ไม่ทันสิ้นเสียงพูดของมูชาน แสงวาบที่เกิดจากแรงระเบิดก็ลุกท่วมรถ จูฮยอนมองดูด้วยสีหน้าตกตะลึง !

EP.3 เฟกนิวส์

รีแคปซีรีส์ The Killing Vote EP.3 : เฟกนิวส์

แรงระเบิดทำให้ อึม ไซยาไนด์ เสียชีวิตคาที่ ในขณะที่มูชานได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทางการให้ข่าวกับประชาชนว่า มูชานได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากัน

ที่จริงแล้วมันเป็นแผนที่มูชานวางเอาไว้ เขาหนีออกมาจากรถก่อนที่จะเกิดระเบิด เขาต้องการเปลี่ยนกระแสสังคมที่กำลังมองว่า หน้ากากสุนัขเป็นฮีโร่ … นักข่าวสาวจากโทรทัศน์ช่องหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “การทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่หรือคือความยุติธรรมที่หน้ากากสุนัขอ้าง”

จูฮยอนแอบเข้าไปเยี่ยมมูชานที่โรงพยาบาลตำรวจ แวบแรกที่เปิดห้องผู้ป่วยเข้าไปเห็นมูชานได้รับบาดเจ็บเป็นแผลที่หน้าผากเพียงเล็กน้อย เธอถึงกับยืนนิ่งอึ้งไป ก่อนจะตวาดเสียงลั่นออกมา “นี่คุณหลอกลวงคนทั้งประเทศเลยเหรอ”

มูชานพูดโดยไม่กล้าสบตาจูฮยอน เขาอ้างว่ามันเป็นวิธีการใช้สื่อทำการตลาดกู้ภาพลักษณ์ตำรวจ หลังจากถูกหน้ากากสุนัขแหกจนเละ แต่ไม่ว่าข้ออ้างจะเป็นอะไรจูฮยอนก็ไม่เห็นด้วยแม้แต่นิดเดียว เธอไม่เห็นด้วยที่ตำรวจทำเรื่องน่าขายหน้าแบบนี้ “แทนที่จะเอาเวลาไปจับคนร้าย กลับมัวเสียเวลามาทำเรื่องอัปยศแบบนี้ น่าทุเรศ”

อย่างไรก็ตาม แผนของมูชานได้ผลจริง ๆ ประชาชนเริ่มมีความเห็นเปลี่ยนไป คอมเมนต์ในเน็ตจำนวนมากให้กำลังใจตำรวจ และสาปแช่งหน้ากากสุนัขว่าเป็นแค่ไอ้ฆาตกรชั่ว

ครั้งที่ 13 พลาด

ต่อมา ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนน้องสาว จูฮยอนค้นพบสถานที่ที่หน้ากากสุนัขใช้ไลฟ์สด ซึ่งมันคือบ้านของซอกจู เธอจึงรีบไปตรวจสอบที่นั่นทันที

ที่บ้านหลังนั้น จูฮยอนพบข้อความบนผนังบ้านที่พ่นด้วยสีสเปรย์สีแดง “ครั้งที่ 13 พลาด” ทันใดนั้น ชายปริศนาก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วใช้ของแข็งตีเข้าที่ท้ายทอยจูฮยอนจนสลบไป ยังดีที่มูชานมาพอดี จึงช่วยจูฮยอนเอาไว้ได้ ส่วนชายปริศนาก็หนีไปได้เช่นกัน

รุ่งขึ้น จูฮยอนกับมูชานไปหาซอกจูในเรือนจำเพื่อสอบถามข้อมูล เมื่อไปถึง จูฮยอนยื่นรูปข้อความ “ครั้งที่ 13 พลาด” บนผนังบ้านให้ซอกจูดู เธอถามว่ามันหมายความว่าอะไร ?

“ลูกสาวผมถูกแทง 22 แผล ผมแทงไอ้ฆาตกรชั่วนั่นแบบเดียวกัน แต่การแทงครั้งที่ 13 ผมแทงพลาด มันคงหมายถึงเรื่องนั้น … แม้เรื่องนี้จะไม่มีระบุอยู่ในผลการชันสูตร แต่คนที่ติดตามคดีนี้มากตลอดก็จะรู้” ซอกจูตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง

“แล้วคุณคิดว่าเป็นใครคะ ที่จะสนใจคดีนี้ขนาดนั้น ?” จูฮยอนถามต่อทันที

ซอกจูค่อย ๆ เบือนหน้าจากจูฮยอนไปมองหน้ามูชาน ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “คิมมูชาน … เมื่อก่อนเราสนิทกันมาก คนเดียวที่ตรงกับสิ่งที่คุณถามคือ คิมมูชาน” พูดจบ ซอกจูก็ยิ้มเล็ก ๆ ออกมา แล้วเรียกผู้คุมให้พาตัวเขาออกไปจากห้องเยี่ยม

โหวตโทษประหาร The Killing Vote EP.3

ขณะที่มูชานกับจูฮยอนกำลังเดินออกจากเรือนจำ หน้ากากสุนัขก็ไลฟ์สดโหวตโทษประหารภาคพิเศษ มันเปิดคลิปหลักฐานให้ประชาชนคนเกาหลีได้เห็นว่า มูชานที่ตำรวจอ้างว่ากำลังนอนโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเรื่องหลอกลวง คลิปแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามูชานหนีออกมาจากรถก่อนที่จะเกิดระเบิด

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เปิดประตูเรือนจำ ไม่ทันที่มูชานจะก้าวเท้าออกมา แสงแฟลชจากกล้องนักข่าวนับร้อยชีวิตส่องแสงวูบวาบออกมาไม่หยุด มูชานยืนนิ่งหน้าคิ้วขมวดอยู่อย่างนั้น ก่อนจะตัดสินใจเดินก้าวเท้าออกไปแล้วพูดว่า “แกอย่าเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ ยังไงแกก็หนีไม่รอด”

EP.4 อะไรคือความยุติธรรมสำหรับคุณ

มูชานยอมรับว่าตัวเองโกหกประชาชนว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาโค้งขอโทษต่อหน้าประชาชน มูชานพูดต่อโดยใช้คำพูดเรียกรถทัวร์ “แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็ยังจะเลือกทำแบบเดิม เพราะแก [หน้ากากสุนัข] ไม่ใช่ฮีโร่ แกมันก็แค่ฆาตกร”

ทีนี้ นักข่าวสาวคนหนึ่งก็ยิงคำถามใส่ “การกระทำแบบนี้ไม่ถือเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือคะ ?” โดนคำถามนี้เข้าไป มูชานถึงกับอึ้ง จูฮยอนจึงทำเป็นแกล้งตะโกนเสียงดังลั่นว่าไฟไหม้ แล้วรีบดึงแขนของมูชานวิ่งหนีนักข่าวออกไปเฉยเลย

หลังข่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากก็เข้ามาตั้งกระทู้ด่าจนเว็บของสำนักงานตำรวจล่ม

คืนนั้น มูชานได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้เก็บตัวเงียบ ๆ จูฮยอนจึงชวนเขามาอยู่ที่บ้านเธอชั่วคราว … ทั้งสองก๊งจิบโซจูด้วยกัน มูชานเหลือบไปเห็นรอยแผลเป็นด้านหลังหูของจูฮยอน เธอจึงเล่าให้เขาฟังว่าเป็นรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุทางรถยนต์สมัยยังเด็ก อุบัติเหตุที่ทำให้พอแม่เธอเสียชีวิต

จากนั้น มูชานก็เล่าความจริงเมื่อ 8 ปีก่อน ในการพิจารณาคดีฆาตกรรมลูกสาวตัวน้อยของซอกจู … ณ ห้องพิจารณาคดี ทนายจำเลยยกเอาประเด็นเรื่องตุ๊กตาที่ตกในที่เกิดเหตุมาเป็นข้อโต้แย้ง โดยชี้ว่าตุ๊กตาของเหยื่อเป็นหลักฐานปลอม ซึ่งทำให้ศาลพิพากษายกฟ้องจำเลย

มูชานยอมรับว่าเป็นความผิดของเขา หลักฐานปลอมที่ทำให้ฆาตกรชั่วกลายเป็นผู้บริสุทธิ์เป็นฝีมือของเขาเอง

ผู้คุมเรือนจำคนหนึ่งนัดเจอมูชาน เพื่อนำเอาจดหมายจาก ‘แฟนตัวยง’ ที่เขียนถึงซอกจูมาให้ จดหมายที่เขียนเป็นประจำทุกเดือนตลอดระยะเวลาหลายปี มูชานจึงนำเอาจดหมายปึกใหญ่มาให้จูฮยอนวิเคราะห์

ผ่านไปหลายชั่วโมง จูฮยอนก็ฟันธงว่า ‘แฟนตัวยง’ คือหน้ากากสุนัข เพราะเนื้อหาในจดหมายได้เขียนเล่ารายละเอียดแผนการฆ่าก่อนที่จะเกิดขึ้น แต่มีอย่างหนึ่งที่ผิดปกติ มีข้อความบางหน้าของจดหมายหายไป … มูชานสันนิษฐานว่า ส่วนที่หายไปอาจจะเป็นการเขียนชื่อเหยื่อ และซอกจูคือคนเดียวเท่านั้นที่รู้

พัคซองอุง - อิมจียิน ในซีรีส์ The Killing Vote EP.4

ข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธได้

ที่ห้องเยี่ยมเรือนจำ … จูฮยอนเผชิญหน้ากับซอกจู ทั้งสองนั่งอยู่อย่างนั้นนานหลายนาทีโดยไม่ได้พูดอะไร กระทั่งจูฮยอนเอื้อมมือไปกดเครื่องเล่นเพลง เพลงที่เอามาจากแผ่นซีดีในบ้านซอกจู เพลงที่เขาไม่ได้ยินมานาน ซอกจูทำทีเป็นหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับบทเพลง

จูฮยอนยิงคำถามเรื่องหน้าจดหมายที่หายไป ซอกจูยิ้มอย่างผู้ชนะ ก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า “ถ้าผมได้รับการอภัยโทษกรณีพิเศษ ผมจะให้ความร่วมมือในการสืบคดีของคุณ”

ค่ำวันนั้น ซอกจูค่อย ๆ เดินออกจากเรือนจำ เขาค่อย ๆ สูดกลิ่นของอิสรภาพ ก่อนจูฮยอนจะขับรถมารับเขาที่ด้านนอก

EP.5 แผนลวง

ซอกจูถูกนำตัวออกจากเรือนจำด้วยการอภัยโทษพิเศษ โดยซอกจูต้องติดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้ตลอดเวลา ซึ่งตำแหน่งของซอกจูจะปรากฏบนสมาร์ทวอทช์ของจูฮยอนแบบเรียลไทม์

ซึ่งการอภัยโทษพิเศษคือการอนุญาตให้ซอกจูออกมาช่วยตำรวจสืบสวนคดีนอกเรือนจำ โดยอยู่ในความรับผิดชอบของผู้คุม

วันแรกที่ออกมาใช้ชีวิตอยู่นอกคุก ซอกจูก็งัดกับมูชานซะแล้ว ซอกจูยื่นข้อเสนอว่าเขาจะคุยแต่กับขูฮยอนเพียงคนเดียว “คนที่ผมรู้จักที่น่าจะเป็นหน้ากากสุนัขมากที่สุด ก็คือคุณนั่นแหละ คิมมูชาน” พูดจบเขาก็หลุดขำออกมา มูชานได้ยินแบบนั้นก็หัวเสียเดินออกจากห้องไป

ระหว่างนั้น จูฮยอนก็สืบหาเหยื่อรายต่อไปของหน้ากากสุนัข จนไปพบเข้ากับคดีการก่ออาชญากรรมทางเพศของทหาร ที่มีมากถึง 1,407 คดีในรอบสี่ปีที่ผ่านมา แต่มีเพียง 9 นายเท่านั้นที่ได้รับการลงโทษ จูฮยอนคิดว่าถ้าหน้ากากสุนัขพุ่งเป้าไปที่ทหาร อาจทำให้ทั้งประเทศว้าวุ่น

ทีนี้ จูฮยอนจึงนำรายชื่อผู้กระทำความผิดที่เข้าข่ายจะตกเป็นเหยื่อของหน้ากากสุนัข มาเปรียบเทียบกับเหยื่อในการโหวตโทษประหารครั้งแรก เธอวิเคราะห์ว่าหน้ากากสุนัขจะลงโทษผู้ที่ไม่สำนึกผิด และกระทำความผิดซ้ำ ๆ เพราะมันคิดว่าตัวเองเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรม

จูฮยอนคัดเป้าหมายเหลือ 11 คน แล้วให้เจ้าหน้าที่นำสมาร์ทวอทช์ที่ติดตั้งระบบจีพีเอสไปให้คนเหล่านั้น

โหวตโทษประหารครั้งที่สาม

ร้อยเอกโอเป็นเหยื่อรายที่สามของโหวตโทษประหาร เขาก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศในกองทัพเป็นประจำ ทำให้ทหารหญิงคนหนึ่งตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง … หน้ากากสุนัขกล่าวว่า ครั้งนี้จะไม่มีการเปิดเผยชื่อจริงของเหยื่อ จนกว่าจะปิดโหวต

เอาล่ะสิ เมื่อไม่เปิดเผยชื่อเหยื่อ ทำให้ตำรวจทำงานยาก เพราะในเป้าหมาย 11 คนมีคนนามสกุลโอถึง 5 คน ระหว่างนั้นก็มีชายสวมชุดดำโทร. มาหลอกตำรวจว่าเป็น ‘ร้อยเอกโอ’ ส่วนร้อยเอกโอตัวจริงก็โทร. แจ้งตำรวจเพื่อขอความคุ้มครอง ทำให้ตำรวจต้องแบ่งกำลังออกเป็นสองชุด

ร้อยเอกโอ ปัจจุบันทำงานเป็นแพทย์แผนกฉุกเฉิน เมื่อการโหวตโทษประหารเริ่มขึ้น เขาจึงขังตัวเองอยู่ในห้องตรวจ จูฮยอนพาซอกจูไปที่โรงพยาบาล

เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงคืนซึ่งเป็นเวลาปิดโหวต ผลออกมามีประชาชนที่เห็นด้วยให้ประหารร้อยโทโอถึง 72 เปอร์เซ็นต์ หน้ากากสุนัขได้เผยชื่อและใบหน้าของร้อยเอกโอ ซึ่งก็เป็นแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินจริง ๆ ตอนนั้นเองเสียงระเบิดก็ดังสนั่นไปทั่วห้องฉุกเฉิน ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีด้วยความตกใจ มันเป็นเพียงแค่ระเบิดควันจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

อิมจียอน - พัคซองอุง จากภาพหน้าจอซีรีส์เกาหลี The Killing Vote EP.5

ในขณะที่ทุกคนกำลังว้าวุ่นกับเสียงระเบิด ซอกจูก็ถอดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ แล้วเดินหลบหนีไป

EP.6 หน้ากากสุนัข

ขณะที่จูฮยอนกำลังถูกชายชุดดำเข้าทำร้าย ซอกจูก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วเข้ามาช่วยจูฮยอน จริง ๆ แล้วซอกจูถอดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้ต้องการจะหลบหนี แต่เป็นการดึงความสนใจตำรวจให้ติดตามหาตำแหน่งของเขา เพื่อให้ตำรวจมาจับชายชุดดำ

มูซานที่อยู่ด้านนอกกำลังมองหาทางเข้าโรงพยาบาล แต่ทางเข้าออกทุกทางถูกปิด มูซานจึงขับรถตำรวจพุ่งเข้าชนประตูเหล็ก และพยายามเข้าไปช่วยร้อยเอกโอ มูซานลั่นกระสุนใส่คนร้ายที่ปลอมเป็นตำรวจ ขณะเดียวกัน มีดในมือของคนร้ายก็ปาดเข้าที่คอของร้อยเอกโอจนเสียชีวิต … แผนการโหวตโทษประหารของหน้ากากสุนัขสำเร็จอีกครั้ง

มูซานจับตัวคนร้ายได้ และนำตัวไปสอบสวน คนร้ายยอมรับว่าตัวเองเป็นหน้ากากสุนัข และเป็นคนวางแผนโหวตโทษประหารด้วยตัวเองเพียงลำพัง ถึงคนร้ายจะรับสารภาพอย่างง่ายดาย แต่มูซานไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นหน้ากากสุนัขตัวจริง

อย่างไรก็ตาม ข่าวการจับหน้ากากสุนัขได้แล้วถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้บัญชาการตำรวจ มูซานจึงจำใจยอมทำตามคำสั่ง แต่เขาได้วางแผนสืบหาตัวหน้ากากสุนัขอย่างลับ ๆ ต่อไป

ผ่านไปไม่นาน คนร้ายก็ยอมเปิดปากให้ข้อมูลกับมูซาน เขายอมรับว่าตัวเองไม่ใช่หน้ากากสุนัข โดยเขาติดต่อกับหน้ากากสุนัขตัวจริงผ่านดาร์กเว็บ เขาจึงไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของหน้ากากสุนัขเป็นใคร แต่มั่นใจว่าหน้ากากสุนัขต้องเป็นหนึ่งในบรรดาลูกศิษย์ของซอกจูอย่างแน่นอน

จูฮยอนสงสัยมินซู ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้นของน้องสาวเธอ จูฮยอนจึงแอบสะกดรอยตามเขาที่โรงเรียน แต่อยู่ดี ๆ ลมยางเกิดแบนอย่างไม่รู้สาเหตุ มินซูจึงถือร่มเดินมาหาเธอที่รถ และเสนอว่าจะขับรถไปส่งที่สำนักงานตำรวจ

ระหว่างทางมินซูบอกกับจูฮยอนว่า เขาเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมเมื่อแปดปีก่อน จูฮยอนปฏิเสธว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน “ผมคิดว่าที่คุณมาหาผมเพราะเรื่องนี้ซะอีก”

ภาพหน้าจอซีรีส์ The Killing Vote EP.6 โหวตโทษประหาร ตอนที่ 6

แล้วค่ำวันนั้นทุกอย่างก็เปิดเผย มินซูบนนอนตักแม่ดูทีวีด้วยกัน แม่ของมินซูคือ สส.มินจียอง นักการเมืองหญิงที่มีข่าวเข้าไปพัวพันกับการทำผิดกฎหมายหลายต่อหลายครั้ง แต่เธอก็พ้นข้อกล่าวหาได้ทุกที

แล้วจู่ ๆ แม่ก็พูดกับมินซูว่า “ทำไมแกต้องฆ่าคนอีก”

มินซูมองหน้าแม่แล้วก็ยิ้ม “โดนแม่จับได้อีกแล้ว”

ภาพหน้าจอซีรีส์ The Killing Vote EP.6 โหวตโทษประหาร ตอนที่ 6

จากนั้น ภาพก็เฉลยให้เห็นว่า มินซูคือหน้ากากสุนัข !

EP.7 รอยยิ้มของเด็กชายอายุสิบหก

ย้อนกลับไปเมื่อแปดปีที่แล้ว ณ งานอภิปรายเรื่องสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรม โดยมีซอกจู และ สส.มินจียอง เป็นผู้บรรยาย เด็กชายมินซูในวัยมัธยมต้นนั่งฟังการบรรยายอยู่ที่นั่นด้วย เขาเป็น ‘แฟนตัวยง’ ของซอกจู

แต่ดูเหมือนว่าระดับความหมกมุ่นของมินซูที่มีต่อซอกจูนั้นจะเกินปกติ เขาเริ่มกำจัดสิ่งที่ซอกจูรักทีละอย่าง เริ่มจากสุนัขของลูกสาวซอกจู เขาแอบเข้าไปในบ้านซอกจูแล้วเอาสุนัขมาฆ่าแล้วฝังไว้ในสวน ถึงมินซูจะทำเรื่องร้ายแรงขนาดนั้น แต่พ่อแม่ของเขาก็ยังให้ท้าย โดยเฉพาะ สส.มินจียองที่ไม่เคยต่อว่าลูกเลยแม้แต่คำเดียว

ไม่เพียงแค่นั้น สส.มินจียองยังเลี้ยงเด็กที่ชื่ออูแท็ก เอาไว้คอยรับผิดแทนมินซู

หลังจากการตายของลูกสาว ซอกจูกลับถูกตำรวจจับกุมในฐานะผู้ต้องสงสัย ระหว่างนั้นก็มีคลิปที่เขาสัมผัสตัวกับเด็กนักเรียนหญิงว่อนในโลกอินเทอร์เน็ต ด้วยพลังของแท็ก #MeToo ซอกจูจึงถูกชาวเน็ตมองว่าเป็นตาแก่หัวงู ชอบล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง แม้ความจริงจะไม่ใช่

มูซานสืบหากล้องวงจรปิด จนพบว่าอูแท็กเป็นคนสุดท้ายที่เจอลูกสาวซอกจู อูแท็กถูกจับในฐานะผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม มูซานสงสัยว่ามินซูคือฆาตกรตัวจริง เขาเห็นรอยยิ้มของมินซู รอยยิ้มของเด็กอายุสิบหกปีแต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเลือดเย็น มูซานมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามินซูคือฆาตกร

สส.มินจียองไม่ได้โง่ เธอรู้ว่าลูกของเธอเป็นฆาตกร จึงสั่งให้ลูกน้องคอยจัดการปกปิดหลักฐานที่จะพาไปถึงตัวมินซู พร้อมทั้งจ้างทนายระดับเทพมาว่าความให้อูแท็ก

ในชั้นพิจารณาคดี ทนายของอูแท็กชี้ให้ศาลเห็นว่า มูซานใช้หลักฐานปลอม และยังซ้อมจำเลยให้รับสารภาพ ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง … ทุกอย่างพังด้วยมือของมูซาน

หลังจากอูแท็กถูกพิพากษาว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซอกจูงก็สังหารอูแท็กเพื่อแก้แค้นให้ลูกสาว

ภาพหน้าจอซีรีส์ The Killing Vote EP.7

ในวันที่ศาลพิพากษาตัดสินจำคุกซอกจู มูซานได้เห็นรอยยิ้มน่ากลัวของมินซูอีกครั้ง มินซูยืนยิ้มขณะมองดูซอกจูเดินขึ้นรถรับส่งนักโทษ

พัคแฮจิน ในซีรีส์ The Killing Vote EP.7 โหวตโทษประหาร ตอนที่ 7

ตัดกลับมาปัจจุบัน …

มินซูเข้าในการกับมูซานที่สำนักงานตำรวจ “คุณฆ่าลูกสาวของซอกจูใช่ไหม ?” มินซูได้ยินคำถามก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มที่แฝงความเลือดเย็น มูซานจำรอยยิ้มนี้ได้ดี

ระหว่างนั้น จูฮยอนก็เข้าไปแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนของมินซู แล้วเธอก็เจอหลักฐานเด็ด คลิปวิดีโอที่ถ่ายเหตุการณ์ระเบิดที่สนามฟุตบอลของโรงเรียน หลักฐานที่ได้ยิ่งทำให้มูซานเชื่อพันเปอร์เซ็นต์ว่า มินซูคือหน้ากากสุนัข อย่างไรก็ตาม ซอกจูยังมองไม่เห็นแรงจูงใจ “ถ้าเป็นมินซูจริง เขาจะทำมันไปเพื่ออะไร ?”

EP.8

เลื่อนออกากาศอย่างไม่มีกำหนด

Image : SBS Korea
ดู The Killing Vote ที่ Prime Video : คลิกที่นี่

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ The Killing Vote (2023) โหวตโทษประหาร appeared first on idol.

]]>
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ My Lovely Liar (2023) https://www.online-idol.com/2023/08/18/my-lovely-liar-2023-kdrama-spoiler-36441/ Fri, 18 Aug 2023 10:01:00 +0000 https://www.online-idol.com/?p=36436 หญิงสาวผู้มีความสามารถพิเศษในการจับโกหก เธอจึงใช้มันหาเงิน ในทางกลับกัน เธอก็คิดว่ามันเป็นคำสาปที่ไม่มีวันหลุดพ้น …

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ My Lovely Liar (2023) appeared first on idol.

]]>
My Lovely Liar สปอยล์ : หญิงสาวผู้มีความสามารถพิเศษในการจับโกหก เธอจึงใช้มันหาเงิน ในทางกลับกัน เธอก็คิดว่ามันเป็นคำสาปที่ไม่มีวันหลุดพ้น …

EP.1 นักล่าคนโกหก

มกซลฮี (รับบทโดย คิมโซฮยอน) หญิงสาวผู้มีความสามารถพิเศษในการจับโกหกคน เมื่อไรก็ตามที่เธอได้ยินคำพูด จะมีสัญญาณเตือนในหัวว่า คำพูดนั้นเป็นความจริงหรือโกหก ซลฮีใช้ความสามารถนี้เป็นเครื่องมือในการหาเลี้ยงชีพ โดยตั้งตัวเป็น ‘นักล่าคนโกหก ผู้รับใช้จิตวิญญาณแห่งความจริง’

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 … แก๊งนักเลงว่าจ้างซลฮีให้มาจับผิดลูกน้องที่ทรยศ ทำให้ลูกน้องคนนั้นตามล่าล้างแค้น ซลฮีจึงต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปกรุงโซล

ฮวังมินฮยอน - คิมโซฮยอน ในซีรีส์เกาหลี My Lovely Liar (2023)

ระหว่างอยู่บนรถโดยสาร ซลฮีพบกับ คิมโดฮา (รับบทโดย ฮวังมินฮยอน) ชายหนุ่มที่กำลังเดินทางไปโซลเช่นเดียวกัน เขากำลังถูกพี่ชายของแฟนเก่าเข้าทำร้ายร่างกาย เพราะเข้าใจว่าโดฮานอกใจน้องสาว ซลฮีจึงเข้าไปช่วย เพราะเธอรู้ว่าสิ่งที่โดฮาพูดเป็นความจริง

5 ปีต่อมา (2023)

ซลฮียังคงรับจ้างเป็น ‘นักล่าคนโกหก’ แต่จะรับเฉพาะลูกค้าเศรษฐีไฮโซ กิจการของซลฮีเจริญรุ่งเรืองจนมีเงินทองมากมาย

ซลฮีมีคาเฟ่ไพ่ทาโรต์เป็นหน้าร้านไว้รับลูกค้าที่มาใช้บริการล่าคนโกหก คาเฟ่ตกแต่งในสไตล์หลอนจัด แม้แต่พนักงานต้อนรับของที่นี่ก็ยังแต่งตัวและทำหน้าตาหลอน ๆ อีก ไม่เพียงแต่ลูกค้าที่มาใช้บริการจะต้องเจอกับประสบการณ์หลอนเป็นด่านแรก ลูกค้ายังต้องบอกรหัสลับให้ถูกต้องอีกด้วย ก่อนที่จะได้เข้าพบซลฮีแบบตัวเป็น ๆ

ในขณะที่โดฮากลายเป็นโปรดิวเซอร์เพลงมือรางวัล ถึงอย่างนั้นเขาก็ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว เนื่องจากปมในอดีตบางอย่างเกี่ยวกับแฟนเก่า เขามักจะปิดกั้นตัวเอง เวลาออกไปข้างนอกเขามักจะใส่แมสก์และสวมเสื้อฮูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ตอนที่เขาได้รับรางวัล เขาก็ไม่เดินทางไปรับรางวัลด้วยตัวเอง

ว่าที่จริง ไม่เคยมีใครเคยเห็นหน้าตาจริง ๆ ของโดฮาเลย แม้เขาจะเป็นโปรดิวเซอร์ที่ค่ายเพลงต่าง ๆ ต้องการตัว

ถึงอย่างนั้นโดฮาก็มีเพื่อน หนึ่งคือ ‘ประธานโจดึกชาน’ (รับบทโดย ยุนจีออน) เจ้าของเจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ สองคือไอดอลสาว ‘ชาอน’ (รับบทโดย อีชีอู) ทั้งสองเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องของโดฮา เพราะทั้งสามร่วมกันฝ่าฟันความลำบากมาด้วยกัน จนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

ฮวังมินฮยอน - คิมโซฮยอน

โจรโรคจิต

คืนนั้น ซลฮีบังเอิญเจอโดฮาในร้านสะดวกซื้อ โดฮาที่สวมเสื้อฮูดใส่แมสก์ปกปิดใบหน้าจนเห็นแค่ลูกตา บังเอิญที่ร้านมีประกาศจับโจรล่วงละเมิดทางเพศแปะอยู่ เป็นภาพคนร้ายใส่เสื้อฮูดใส่แมสก์สีดำปกปิดใบหน้าเช่นเดียวกัน ซลฮีเหลือบไปเห็นประกาศนั้นเข้าพอดี เธอนึกในใจ หรือว่าเจ้านี้คือโจรโรคจิตหื่นกามที่ตำรวจกำลังตามจับ ?

หลังจากซื้อของเสร็จ ซลฮีก็เดินออกจากร้าน โดยมีโดฮาตามมาอยู่ห่าง ๆ แล้วก็ให้บังเอิญว่า โดฮาดันทำกระป๋องน้ำหล่นกลิ้งไปทางซลฮี เขาจึงวิ่งจะไปเก็บกระป๋อง … เอาล่ะสิ ซลฮีที่คิดอยู่แล้วว่าโดฮาเป็นโจรหื่นกาม จึงรีบวิ่งหนีป่าราบด้วยความเข้าใจผิด ทิ้งให้โดฮายืนถือกระป๋องยืนงงอยู่อย่างนั้น

รีแคปซีรีส์ My Lovely Liar EP.1 : นักล่าคนโกหก

งานงอก ชาวบ้านแถวนั้นเห็นโดฮาเดินป้วนเปี้ยนไปมาจึงคิดว่าเป็นโจรโรคจิต จึงพากันเข้าไปจับตัวส่งตำรวจ ขณะนั้นเอง มีชาวบ้านคนหนึ่งพยายามจะเอื้อมมือไปดึงแมสก์เขา ซลฮีที่ยืนอยู่ด้วยจึงตะโกนห้าม แล้วบอกกับทุกคนว่าเขาไม่ใช่คนร้าย

ชาวบ้านจำนวนหลายสิบคนที่ยืนอยู่ต่างพากันงง “รู้ได้ยังไงว่าเจ้านี่ไม่ใช่คนร้าย ?” ซลฮีจึงหันไปบอกกับทุกคนด้วยสีหน้าที่แฝงด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ ว่า “ฉันบอกว่าใช่ ก็คือใช่”

EP.2 ฉันบอกว่าใช่ก็คือใช่

ซลฮีแน่ใจว่าโดฮาพูดความจริง เธอจึงช่วยยืนยันต่อชาวบ้านว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ จากนั้น โดฮาก็เดินเข้าอพาร์เมนต์ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ โดยไม่รู้ว่าเพื่อนบ้านข้างห้องของเขาคือซลฮี

จริง ๆ แล้วโดฮาจำซลฮีได้ตั้งแต่ที่ได้ยินเธอพูดว่า “ถ้าฉันบอกว่าใช่ ก็คือใช่” ซึ่งเป็นประโยคเดียวที่เธอเคยพูดกับเขาบนรถบัสเมื่อห้าปีก่อน และถึงตอนนี้เขาก็มั่นใจว่า ซลฮีจำเขาไม่ได้

ฮวังมินฮยอน - คิมโซฮยอน

วันแดงเดือด

คืนต่อมา ซลฮีตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอนตีสองสี่สิบห้า เพื่อตื่นขึ้นมาดูบอลศึกวันแดงเดือด ซลฮีใช้เสื้อแมนยูเต็มยศ พร้อมด้วยพร็อพมากมายเต็มห้องที่แสดงให้เห็นว่า เธอขายวิญญาณให้ปีศาจ กลายเป็นเด็กผีเป็นที่เรียบร้อย

เวลาผ่านไปไม่นาน แมนยูก็ซัดประตูขึ้นนำ ซลฮีตะโกนเสียงหลงด้วยความดีใจ เสียงตะโกนของเธอทำเอาโดฮาที่อยู่ข้างห้องสะดุ้งตื่น และทำให้เขารู้ว่าบอลนัดแดงเดือดกำลังเตะกันอยู่ เขาจึงรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูบอลคู่นัดหยุดโลกทันที

เชียร์บอลกลางดึกแบบนี้ก็หิว ทั้งโดฮาและซลฮีจึงสั่งไก่ทอดมากิน พนักงานมาส่งไก่ เมื่อเปิดประตูห้องออกมาทั้งสองจึงป๊ะกัน ซลฮีตกใจที่เพื่อนบ้านข้างห้องของเธอคือโดฮา แต่ที่ตกใจยิ่งกว่าคือ โดฮาสวมเสื้อหงส์แดงลิเวอร์พูล คู่แค้นตลอดกาลของแมนยูทีมที่เธอเชียร์นั่นเอง แหม่

เมื่อบอลจบ ซลฮีกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่แมนยูชนะ ส่วนโดฮาเด็กหงส์ผู้ปราชัยก็ต้องปิดไฟนอนรักษาแผลใจไปอย่างเงียบ ๆ เพราะนัดนี้ไม่ใช่นัด 7-0 บอกเลย 555

รุ่งขึ้น ซลฮีเห็นรถสปอร์ตสีฟ้าสุดเท่จอดอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ เธอได้แต่สงสัยว่าทำไมรถราคาแพงแบบนี้จึงมาจอดอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ถูก ๆ จนเมื่อเห็นว่าเจ้าของรถคือโดฮา ซลฮีก็ยิ่งเกิดความสงสัยเป็นเท่าทวีคูณ

จังหวะนั้น คนขับรถส่วนตัวของซลฮีก็เผลอทำโทรศัพท์หล่นใส่รถของโดฮาจนเป็นรอย แต่โดฮาก็บอกว่า “ไม่เป็นไร” คำพูดนี้ของโดฮายิ่งทำให้ซลฮีแปลกใจเข้าไปอีก เพราะคำว่าไม่เป็นไรมักจะเป็นคำที่คนมักจะใช้เป็นคำโกหกที่บ่อยที่สุด แต่เอ๊ะ ทำไมคำว่าไม่เป็นไรของโดฮาจึงไม่ใช่คำโกหกซะอย่างนั้น

โดฮาจึงขอให้ประธานโจดึกชานเปลี่ยนรถ จากรถซูเปอร์คาร์เป็นรถที่เด่นน้อยลงให้เขา

โฉมหน้าที่แท้จริง

วันนั้น นักแต่งเพลงขี้อิจฉาก็มาจ้างซลฮีเพื่อให้ไปจับโกหกโดฮา เพราะสงสัยว่าโดฮาก๊อปปี้เพลงที่เขาแต่ง เขานัดกับโดฮาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยนัดแนะให้ซลฮีแอบฟังอยู่ที่ห้องเล็ก ๆ ติดกับโต๊ะที่เขากับโดฮานั่ง

โดฮามาตามนัดตรงเวลาเป๊ะ … สรุปคือ ซลฮีไม่พบว่าโดฮาพูดโกหกเลย นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้ก๊อปปี้เพลงของนักแต่งเพลงขี้อิจฉา

รีแคปซีรีส์เกาหลี My Lovely Liar EP.2

เสร็จงาน ซลฮีกลับไปถึงหน้าอพาร์ตเมนต์ก็เห็นหนุ่มข้างห้องนั่งเมาหลับอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปดูอาการ แต่เอ๊ะ ทำไมเขาเหมือนกับโดฮาเลยล่ะ ?

ด้วยความสงสัย ซลฮีจึงถือวิสาสะเปิดแมสก์ของเขาออก แล้วเธอก็เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของโดฮา ทันใดนั้นเอง โดฮาก็ได้สติขึ้นมาคว้ามือเธอเอาไว้ แล้วทั้งคู่ก็มองหน้ากันด้วยความตกใจ

EP.3 ทุกครอบครัวล้วนแล้วแต่มีปัญหา

โดฮาตกใจ อีกทั้งยังไม่พอใจที่ซลฮีเปิดแมสก์ของเขาออก โดฮาจึงรีบเดินหนีไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร เขากลับมาที่คอนโดสุดหรูเพื่อหลบหน้าซลฮี

โดฮากระวนกระวายใจที่ซลฮีเห็นหน้าของเขา เพราะกลัวเธอจะจำได้ว่า เขาเคยมีข่าวเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมแฟนสาว ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูนักข่าวจะส่งผลกระทบไปถึงธุรกิจเพลงของเจเอ็นเตอร์เทนเมนต์

ส่วนซลฮีเองก็รู้สึกผิดที่ถือวิสาสะ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าแค่เปิดแมสก์ดูหน้าจะอะไรกันนักกันหนา เธอจึงเสิร์ชข้อมูลของโดฮา จึงได้รู้ว่าที่เขาย้ายมาอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ เพราะต้องการหลบนักข่าวที่คอยตามจิก และเธอก็ได้รู้อีกว่า เขาเป็นนักแต่งเพลงที่มีค่าลิขสิทธิ์สูงสุดในสังกัดเจเอ็นเตอร์เทนเมนต์

ผ่านไปหลายวัน โดฮาต้องหนีนักข่าวที่คอนโดกลับมาที่อพาร์ตเมนต์ เขาบังเอิญเจอกับซลฮี เธอจึงขอโทษเขาที่ถือวิสาสะเปิดหน้าเขา “ฉันสงสัยว่าทำไมคุณต้องใส่แมสก์ตลอดเวลา ก็เลยทำไปโดยไม่ได้คิดให้ดี”

คืนนั้น ระหว่างที่โดฮากำลังทำงานอยู่ในห้อง ก็มีคนมาเคาะประตู เขาจึงหยิบแมสก์มาใส่ก่อนจะเปิดประตูออกไป ก็เห็นหญิงคนหนึ่งถือกระดาษแผ่นใหญ่มีข้อความเขียนว่า เธอพูดไม่ได้เนื่องจากป่วยเป็นโรคเส้นเสียงอักเสบ ต้องการเงินไปผ่าตัด พูดง่าย ๆ ก็คือมาขอเรี่ยไรเงินบริจาคนั่นแหละ

เจอมุกนี้เข้าไป โดฮาก็งง แต่ที่งงยิ่งกว่าคือหญิงคนนั้น เพราะเธอดันเคาะประตูผิดห้อง จังหวะนั้น ซลฮีเดินออกมาจากลิฟต์พอดี จึงทักหญิงคนนั้นว่า “แม่ นี่แม่คิดจะต้มตุ๋นลูกสาวตัวเองเลยเหรอ” ที่แท้หญิงคนนั้นคือแม่ของซลฮีนั่นเอง และตั้งใจจะเคาะประตูห้องลูกสาวแต่ดันเคาะผิดห้อง

ซลฮีสวดแม่ตัวเองยกใหญ่ ตั้งแต่เธอเกิดมาถึงตอนนี้ แม่ก็ยังไม่เลิกเป็น ‘มิจ’ หลอกต้มตุ๋นเงินชาวบ้าน แต่ด้วยความเป็นแม่ ซลฮีจึงยื่นเงินให้แม่ไปก้อนหนึ่งอย่างจำใจ เพราะไม่ต้องการให้แม่ไปหลอกต้มตุ๋นเงินคนอื่นอีก ทั้งสองโต้เถียงกันอยู่พักใหญ่ก่อนแม่จะกลับไป

ซลฮีออกมายืนรับลมที่ระเบียง เธอเห็นโดฮายืนอยู่ที่ระเบียงเช่นกัน เขาจึงพูดปลอบใจเธอว่า ทุกครอบครัวก็มีปัญหากันทั้งนั้นแหละ “คุณลองมองรอบ ๆ ตัวดูสิ แล้วคุณก็จะเห็นว่าไม่มีครอบครัวไหนไม่มีปัญหา ครอบครัวผมก็เป็นเหมือนกันนะ”

ความรักกับการโกหก

วันนี้ มีลูกค้าสาวมาจ้างซลฮีให้จับโกหกผู้ชายที่กำลังคบกัน เนื่องจากไม่แน่ใจว่าที่เขาคบกับเธอ เพราะความรักหรือสถานะทางครอบครัว … ซลฮีแจ้งกับลูกค้าว่า ว่าที่เจ้าบ่าวพูดโกหกหลายอย่าง แต่ถึงอย่างนั้น ลูกค้าสาวก็ยังยืนยันว่ายังจะคบกับเขาต่อไป เพราะเธอรักเขามาก ซลฮีได้ยินแบบนั้นจึงแนะนำว่า ถ้าต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ชอบโกหกแบบนี้ ชีวิตคู่จะไม่มีความสุขนะ … ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็เดินมาหาลูกค้าสาวพร้อมกับเพื่อน ๆ แล้วเขาก็เซอร์ไพรส์ด้วยการขอเธอแต่งงาน

ซลฮีรู้สึกผิดที่ไปแนะนำให้ลูกค้าสาวเลิกกับแฟน จึงเอาเงินค่าจ้างไปคืน ระหว่างนั้น ซลฮีก็นึกย้อนกลับไปในอดีต ตอนที่เธอบอกเลิกกับ อีคังมิน (รับบทโดย ซอจีฮุน) ในตอนนั้นเธอบอกเลิกเขา เพียงเพราะเขาโกหกว่าตั้งใจจะแต่งงานกับเธอ

ความรักในอดีตทำให้ซลฮีรู้สึกอีน ๆ เธอจึงแวะไปดื่มที่คลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่โดฮาเล่นเปียโนอยู่ เมื่อเห็นซลฮีดื่มจนเมามาย โดฮาจึงชวนเธอกลับด้วยกัน

เมื่อมาถึงอพาร์ตเมนต์ ซลฮีสังเกตเห็นชายท่าทางแปลก ๆ สองคนกำลังรื้อตู้จดหมาย เธอจึงแกล้งเข้าไปถามนู่นนี่นั่น คำตอบของชายทั้งสองมีแต่คำโกหก ซลฮีจับสังเกตจนรู้ว่าทั้งสองเป็นนักข่าวที่มาตามสืบเรื่องโดฮา เธอจึงรีบเดินไปหาโดฮาที่รถแล้วทำทีเป็นแฟน กอดกันตัวกลมเดินตุปัดตุเป๋พาเขาหลบหน้านักข่าวขึ้นอพาร์ตเมนต์ได้สำเร็จ

EP.4 กงล้อแห่งโชคชะตา

รีแคปซีรีส์ My Lovely Liar EP.4 : กงล้อแห่งโชคชะตา

หลังหลบนักข่าวได้สำเร็จ ซลฮีจึงให้โดฮามาซ่อนตัวอยู่ที่ห้องของเธอ ระหว่างนั้นเธอก็ชวนเขาคุยนู่นนี่นั่นสารพัดเพื่อจับโกหก แต่กลายเป็นว่าเขาพูดความจริงทุกเรื่อง จนทำให้ซลฮีถึงกับเกิดอาการสับสน หรือว่าพลังจับโกหกของเธอจะใช้ไม่ได้ผลกับเขา ?

ด้านนักข่าวทั้งสองก็ยังคงไม่ไปไหน กระทั่งมีพนักงานส่งของเดินออกมาจากลิฟต์ นักข่าวจึงถือวิสาสะถ่ายรูป เป็นเรื่องสิ พนักงานส่งของไม่พอใจที่อยู่ดี ๆ มาถ่ายรูปเขา จึงเกิดมีปากเสียงกันจนกล้องหล่นกระแทกกับพื้น … เจ้าหน้าที่อีคังมิน (แฟนเก่าซลฮี) จึงเชิญทั้งสามไปโรงพัก แล้ว …

แล้วซลฮีก็เปิดประตูออกมาป๊ะกับอีคังมินพอดี๊พอดี โมเมนต์เดดแอร์จึงเกิดขึ้น ในหัวของอีคังมินอยากจะกล่าวขอโทษถึงเรื่องในอดีต และอยากจะบอกว่าคิดถึงเธอมาก ๆ แต่ทว่า สายตาของเขาดันเหลือบไปเห็นรองเท้าโดฮาอยู่หน้าห้องของเธอ เขาจึงเข้าใจผิดว่าเธอมีแฟนใหม่แล้ว คำพูดที่คิดเอาไว้ในหัวจึงอยู่ในหัวต่อไป โดยที่เขาไม่ได้พูดมันออกมา

คังมินกลับไปแล้ว โดฮาจึงบอกกับซลฮีให้ไปอธิบายคังมิน เพราะดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิด

ต่อมา ซลฮีได้เจอคังมินโดยบังเอิญ คราวนี้คังมินกล่าวคำขอโทษกับสิ่งที่เขาทำในอดีต ซลฮีสีหน้าเรียบเฉยแล้วตอกกลับ “ที่ขอโทษเนี่ย ขอโทษเรื่องไหนล่ะ เรื่องที่ขอแต่งงานแล้วเปลี่ยนใจ หรือเรื่องที่ฉันบอกเลิก แล้วพี่ก็เปลี่ยนเบอร์โทร. แล้วย้ายบ้านหนี” คังมินก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด

“ตลอดสามปีพี่ไม่เคยติดต่อหาฉันเลย พอบังเอิญมาเจอแล้วก็มาขอโทษอะไรไร้สาระเนี่ย” น้ำตาเริ่มเอ่อล้นดวงตาของซลฮี แล้วเธอก็บอกไปว่าเธอมีแฟนใหม่แล้ว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่โดฮาเดินมาพอดี ซลฮีจึงทำสีหน้าส่งซิก โดฮาก็เออ ๆ ออ ๆ ไปตามน้ำ แล้วก็เอื้อมมือไปจับมือซลฮีเพื่อแสดงความเป็นแฟน เมื่อคังมินเห็นแบบนั้นจึงขอโทษแล้วเดินจากไป

ซลฮีพยายามจะดึงมือออกจากมือโดฮา แต่โดฮายังกำมือเธอเอาไว้แน่น เขาอ้างว่าต้องแสดงให้เนียนเผื่อคังมินกลับมาเห็น นั่นแหละ ทั้งสองจึงเดินจูงมือกันจนไปถึงอพาร์ตเมนต์

คำโกหกแรก

วันต่อมา โดฮาแจ้งกับประธานโจดึกชานว่าเขาอยากเลิกทำเพลงให้กับชาอน เพราะตอนนี้มีโปรดิวเซอร์มือดีมากมายพร้อมที่จะทำเพลงให้กับชาอน … ประธานโจดึกชานจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับชาอน เหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวใจ

สำหรับชาอนแล้ว โดฮาคือที่สุดของหัวใจ เธอรักเขาสุดหัวใจแม้จะเป็นรักข้างเดียวก็เถอะ เพราะเขาเป็นคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัวเธอตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กฝึก ตอนนั้นเธอตัวอวบอ้วนทำให้ไม่ได้เดบิวต์เหมือนคนอื่น ๆ กำลังใจจากโดฮานี่แหละ ที่ทำให้เธอมุ่งมั่นสู้จนวันนี้ได้เป็นไอดอลชื่อดัง วันนั้นทั้งวันชาอนได้แต่ร้องไห้จนตาบวม

รีแคปซีรีส์ My Lovely Liar EP.4 : กงล้อแห่งโชคชะตา

ทีนี้ ซลฮีก็ยังคงคาใจ เธอต้องการจับโกหกโดฮาให้ได้ คนอะไรจะไม่เคยโกหกเลย ซลฮีจึงทำทีเป็นตีสนิทกับโดฮาด้วยการชวนเขาไปกินอาหารที่ร้านอร่อย ๆ คืนนั้นทั้งสองจึงไปกินข้าวด้วยกัน ระหว่างนั้นโดฮาก็รับโทรศัพท์จากชาอน …

“ห้ามวางสาย ถ้าวางสาย พี่จะได้ยินเสียงฉันเป็นครั้งสุดท้าย … ฉันรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ร้องเพลงที่พี่แต่งอีก มันทำให้ฉันดูไร้ค่า ขอบคุณนะที่ทนกับความงี่เง่าของฉันมาตลอด” น้ำเสียงชาอนดูเศร้าอย่างบอกไม่ถูก พูดจบเธอก็กดวางสายทันที โดฮาพยายามโทร. กลับแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เขารู้ในทันทีว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่นอน

โดฮารีบเดินออกขึ้นรถเพื่อขับไปหาชาอน แต่ด้วยความที่อาการแพนิคกำเริบ ซลฮีจึงอาสาจะเป็นคนขับรถให้ ระหว่างทางเขาขอร้องให้เธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด

เมื่อไปถึงชายหาด โดฮาจึงรีบวิ่งไปดึงตัวชาอนที่กำลังเดินลงทะเล เขาลากเธอขึ้นมาบนรถ เมื่อชาอนเห็นซลฮีนั่งอยู่ก็ถามรัว ๆ ด้วยความสงสัยว่าคือใคร แต่โดฮาไม่ตอบ ทำให้ชาอนเข้าใจว่าทั้งสองกำลังคบกัน ก่อนจะตวาดใส่หน้าโดฮา “ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่าจะปล่อยฉันให้ตาย ๆ ไปซะเลย” … ซลฮีได้ยินคำพูดนี้ของชาอนก็รู้ทันทีว่าเธอโกหก

โดฮาเห็นชาอนแสดงนิสัยแย่ ๆ ออกมาจึงว้ากใส่ แล้วไล่ให้ออกมาจากรถ ก่อนจะส่งตัวไปให้ผู้จัดการส่วนตัวของเธอดูแลต่อไป

ระหว่างทางที่ซลฮีขับรถพาโดฮากลับอพาร์ตเมนต์ เขาก็หลับไปแล้วก็ฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตตอนที่เขาถูกตำรวจสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัยฆ่าคนตาย โดฮาถึงกับละเมอออกมาว่า “ไม่ใช่ ผมไม่ได้ฆ่าเธอ” ซลฮีได้ยินประโยคนี้จากปากโดฮา แล้วก็พบว่าเขาโกหก !

หรือว่าโดฮาจะเป็นฆาตกรจริง ๆ ?

EP.5 คำโกหกแรก

คิมโซฮยอน - ฮวังมินฮยอน

หลังได้ยินคำโกหกแรกจากปากโดฮา ซลฮีก็พาเขาไปนอนพักที่ห้อง และได้อยู่ดูแลเขาตลอดทั้งคืนเพราะเขาไข้ขึ้นสูงและหมดสติไป ซลฮีเองก็เผลอหลับไปเช่นกัน … เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า โดฮากลับบอกซลฮี ให้คิดว่าเขาไม่มีตัวตนและเลิกสนใจเขา

คืนนั้น โดฮาไปเล่นเปียโนที่คลับตามปกติ แต่คืนนี้เขาไม่มีสมาธิเลย เพราะมีเรื่องกวนใจเต็มหัวไปหมด เขาจึงบอกกับเจ้าของคลับว่าเขาอยากย้ายมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว … ระหว่างนั้น ซลฮีก็อดคิดถึงและเป็นห่วงโดฮาไม่ได้ เธอได้แต่คิดว่าเขาคงย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว

ระหว่างนั้น ก็มีผู้แอบอ้างว่าตัวเองเป็นโดฮา โดยใส่แมสก์ใส่เสื้อฮูดปกปิดใบหน้า โดฮาตัวปลอมอัดคลิปใส่ร้ายเจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ว่าเป็นแหล่งรวมของนักก๊อบปี้เพลง หลังคลิปนี้เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ราคาหุ้นของเจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็ร่วงลงทันที

ประธานโจดึกชานพยายามโทร. ติดต่อโดฮา เพื่อให้ออกมาชี้แจง แต่โทร. เท่าไรก็โทร. ไม่ติด เพราะโดฮาปิดโทรศัพท์ตลอดเวลาขณะที่อาศัยอยู่ที่คลับ … ทางเดียวที่ประธานโจดึกชานนึกออกในตอนนี้ คือไปขอความช่วยเหลือจากซลฮี

ซลฮีไปที่คลับ และบอกเรื่องคลิปที่กำลังเป็นข่าวดัง แต่โดฮากลับพูดอย่างไม่แยแส “เดี๋ยวทางบริษัทก็ออกมาปฏิเสธเอง ถ้าคนไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้” พูดจบ เขาหันหลังแล้วก็เดินจากไป

ซลฮีไม่ยอม เธอตวาดไล่หลังโดฮา “คุณนี่ไม่ได้เรื่องเลย โยนภาระให้คนอื่น” จากนั้นทั้งสองก็เถียงกันไปมา ก่อนที่ซลฮีจะจบการโต้เถียงด้วยการขอให้เขาโทร. ไปหาประธานโจดึกชาน “เขาเป็นห่วงนายมากนะ”

ในที่สุด โดฮาก็ตัดสินใจกลับไปที่เจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เมื่อปัญหาคลี่คลาย โดฮาจึงเปิดอกคุยกับชาอนว่า เขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเธอไปมากกว่าเพื่อนร่วมงานและน้องสาว

โดฮากลับมาอยู่ที่อพาร์ตเมนต์เหมือนเดิม เขาส่งข้อความชวนซลฮีไปที่ดูการเล่นเปียโนของเขาที่คลับ … คืนนั้น โดฮาถอดแมสก์และเล่นเปียโนอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องหวาดระแวงหรือกังวลอะไรอีกต่อไป

EP.6 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

รีแคปซีรีส์ My Lovely Liar EP.6 : แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

หลังชมการแสดงเปียโนที่คลับ โดฮาก็ชวนซลฮีไปออกเดตครั้งแรกที่ร้านอาหาร แล้วซลฮีก็ชวนเขาไปก๊งโซจูกันต่อ ดื่มไปดื่มมา ซลฮีก็เมามายหน้าแดงอย่างกับเด็ก ๆ โดฮามองหน้าเธอแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ พักเดียวเท่านั้นแหละ ซลฮีก็ภาพตัดไป หมดสติหัวฟาดไปกับโต๊ะ เสื้อผ้าเปรอะซอสต๊อกบ๊กกีไปทั้งตัว 555

เดตแรกนะ โดฮาก็ต้องแบกซลฮีในสภาพเมาคอตกออกมาจากร้านซะแล้ว เขาแบกซลฮีมาถึงห้อง แล้วก็พาเธอไปนอนบนเตียง ก่อนจะตัดสินใจถอดเสื้อนอกที่เปรอะซอสต๊อกบ๊กกีของเธอออก แหม่ แล้วอยู่ดี ๆ ซลฮีก็ได้งัวเงียลลุกขึ้นมาตบหน้าเขาไปหนึ่งฉาด “ฉันนึกว่าคุณเป็นคนดีซะอีก” อ้าว โดฮาได้แต่ยืนงง ๆ ก่อนที่ซลฮีจะภาพตัดล้มพับไปนอนบนเตียง

เที่ยงอีกวัน ซลฮีงัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยอาการเมาค้าง เมื่อจำได้ว่าไปตบหน้าโดฮา เพราะเข้าใจผิดว่าเขาจะทำมิดีมิร้าย ซลฮีก็รู้สึกผิดขึ้นมา “โอ๊ย ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย”

แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น โดฮายื่นเครื่องดื่มแก้เมาค้างให้ ซลฮียื่นมือไปรับถุงเครื่องดื่มแล้วก็ยืนบิดไปบิดมาไม่รู้จะพูดยังไงเรื่องที่ตบหน้าเขาเมื่อคืน โดฮาจึงบอกว่าเขาไม่ได้ติดใจอะไร จากนั้นก็ชวนซลฮีไปดูบอลทีมชาตินัดอุ่นเครื่องที่ร้านอาหารที่มีจอขนาดใหญ่ ทีนี้แหละ ซลฮียิ้มจมแก้มแทบปริ

ถูกบีบให้ต้องเลือก

ระหว่างนั้น ฮยางซุก แม่ของซลฮีกำลังวางแผนจับหนุ่มใหญ่ ฐานะดีที่ภรรยากำลังป่วยด้วยโรคร้าย ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของลูกสาวทั้งสอง เพราะสงสัยว่าฮยางซุกทำดีกับพ่อเพราะหลังสมบัติ พวกเธอจึงไปจ้างซลฮีให้มาจับโกหกฮยางซุก โดยนัดไปเจอกันนที่สนามเทนนิส

เมื่อถึงวันนัด ทั้งฮยางซุกและซลฮีต่างตกตกใจ … ไอ้ลูกสาวคนนี้จะมาขัดขวางช่องทางการทำมาหากินของแม่งั้นเหรอ ? ฮยางซุกจึงหาจังหวะต่อรองกับลูกสาว โดยเสนอเงินเป็นสองเท่าของค่าจ้างได้ซลฮีได้รับ ซลฮีอึดอัดที่ถูกบีบให้ต้องเลือกระหว่างสิ่งที่ถูกต้องกับแม่

ลูกสาวคนเล็กของหนุ่มใหญ่ยิงคำถามใส่ฮยางซุก “คุณรักพ่อฉันอย่างจริงใจหรือเปล่าคะ ?” แน่นอนว่าฮยางซุกตอบว่า “รัก” สัญญาณเตือนในหัวบอกซลฮีทันทีว่า แม่โกหก … แผนต้มตุ๋นของฮยางซุกจึงพังไม่เป็นท่า ด้วยฝีมือลูกสาวตัวเอง

คืนนั้น ฮยางซุกไปหาซลฮีด้วยความโกรธควันออกหู เธอต่อว่าด่าทอลูกสาวที่ทำให้แผนต้มตุ๋นของเธอพังพินาศ แถมยังขุดเอาเรื่องในอดีตขึ้นมาทำร้ายความรู้สึกของซลฮี ด้วยความโกรธจนขาดสติ ฮยางซุกคว้าเอาวัตถุของแข็งเตรียมปาใส่ซลฮี แต่ยังไม่ทันได้ปา โดฮาก็เดินเข้ามาซะก่อน ฮยางซุกจึงวางวัตถุนั้นลงแล้วเดินออกไปด้วยสายตาไม่พอใจโดฮาที่เข้ามาสอด

ซลฮีรู้สึกอายจนไม่กล้าสู้หน้าโดฮา และคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอคงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งยังสารภาพว่า ความสามารถพิเศษของเธอคือการจับโกหก ซึ่งทำให้ต้องห่างเหินครอบครัว และไม่สามารถคบกับใครได้

EP.7 ทำตามความรู้สึกของหัวใจ

โดฮาเชื่อซลฮีอย่างสนิทใจเรื่องที่เธอสามารถจับโกหกคนได้จากคำพูด เขาไม่ได้มีท่าทีปฏิบัติกับเปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว

วันต่อมา ลูกค้าร้านเบเกอรีพากันมารวมตัวกันโวยวาย เนื่องจากพบแมลงสาบในขนมปัง ซลฮีรู้สึกแปลก ๆ แต่เธอก็รู้ว่าลูกค้าทุกคนไม่มีใครโกหก จากนั้น ก็มีคนโพสต์เรื่องแมลงสาบในขนมปังลงอินเทอร์เน็ต จนทำให้แทบไม่มีลูกค้าเข้าร้านเบเกอรีร้านนั้นเลย

อย่างไรตาม ด้วยความช่วยเหลือของซลฮีและโดฮา ทำให้ความจริงเปิดเผย แท้จริงแล้วเรื่องทั้งหมดเป็นการจัดฉากเพื่อให้ร้านเบเกอรีเจ๊ง โดยสองผัวเมียนายหน้าค้าที่ดิน ที่ต้องการได้ตึกร้านเบเกอรีให้ลูกชายตัวเอง

ต่อมา ด้วยความคิดถึงที่มันแน่นอก ชาอนจึงพรางตัวด้วยการสวมแมสก์และใส่หมวกมาดักรอโดฮา แต่การเจอหน้าโดฮาไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย เพราะโดฮายังคงยืนยันว่ามองเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ท่าทางเย็นชาของเขาทำให้เธอยิ่งเจ็บปวดไปกว่าเดิม

อีชีอู - คิมโซฮยอน ในซีรีส์เกาหลี My Lovely Liar EP.7

อย่างไรก็ตาม ชาอนยังไม่เลิกล้มความพยายามที่จะทำตามความรู้สึกของหัวใจ เธอจึงไปขอร้องพร้อมกับเสนอเงินก้อนโตให้ซลฮีย้ายไปอยู่ที่อื่น และขอให้ตัดขาดจากโดฮา เพราะชาอนเชื่ออยู่ลึก ๆ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างซลฮีกับโดฮาไม่ได้เป็นเพียงแค่เพื่อนบ้าน แต่ซลฮีปฏิเสธที่จะย้าย และปฏิเสธว่าไม่ได้คบกับโดฮา

คำปฏิเสธของซลฮี ทำให้ชาอนงัดไม้ตายที่เคยใช้มาตลอด นั่นคือการขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย คำพูดคำว่า “ตาย” จากปากชาอนเมื่อเปล่งออกมา ซลฮีก็รู้ในทันทีว่าเป็นคำโกหก มันเป็นคำที่ชาอนมักจะพูดเพื่อเรียกร้องความสนใจคนอื่นจนเป็นนิสัย

ตอนนั้นเอง ชาอนได้เผยความจริง “ที่ฉันต้องพูดคำว่า ‘ตาย’ เพราะมันเป็นจุดอ่อนที่ทำให้พี่โดฮาสนใจฉัน”

ซลฮียิงคำถามใส่ชาอนว่าจุดอ่อนของโดฮาคืออะไร ? คำตอบจากปากชาอนทำเอาซลฮีถึงกับตกตะลึง “พี่เขาเคยฆ่าคนตาย” !

คืนเดียวกัน ซลฮีไม่อาจเก็บงำความเคลือบแคลงเอาไว้ได้ เธอถามโดฮาตรง ๆ ว่าเขาเคยฆ่าคนตายจริงหรือเปล่า ?

โดฮาอึ้งไปนานนับนาทีก่อนที่จะตอบกลับไปว่า “ผมเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม แต่ผมไม่ได้ฆ่าใคร” แล้วสัญญาณบางอย่างก็ดังขึ้นในหัวของซลฮี … โดฮาพูดจริงหรือพูดโกหก ?

EP.8 คำโกหกที่เลวร้ายที่สุด

เมื่อโดฮาบอกว่าเขาไม่ได้ฆ่าคนตาย สัญญาณเตือนในหัวซลฮีบอกว่าเขาโกหก นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่โดฮาโกหกเรื่องที่เขาไม่ได้ฆ่าคน … คืนนั้นทั้งคืน ซลฮีได้แต่ครุ่นคิดถึงคำพูดของโดฮา ใจหนึ่งเธอก็เชื่อสัญญาณจับโกหก แต่อีกใจหนึ่งก็อยากเชื่อว่าหูฝาดไป

ฮวังมินฮยอน - คิมโซฮยอน

วันต่อมา ซลฮีนัดเจอกับโดฮาอีกครั้ง เธอต้องการได้ยินเขาพูดอีกครั้ง พูดว่าเขาไม่ได้ฆ่าใครอีกครั้ง … “ผมไม่ได้ฆ่าเธอ” คำพูดที่เปล่งออกจากปากโดฮาแหวกผ่านอากาศเข้าสู่โสตประสาทของซลฮี ณ วินาทีเดียวกันนั้น สัญญาณในหัวของเธอก็บอกว่า ‘โกหก’

ซลฮีตกใจ เธอพยายามหลอกตัวเองให้เชื่อว่าเขาไม่ได้ฆ่าใคร แต่ทุกครั้งล้วนแล้วแต่เป็นคำโกหก

คืนนั้น ซลฮีดื่มโซจูจนเมามายหน้าแดงก่ำ เธอชอบโดฮามากจริง ๆ มากจนไม่อาจทำใจให้เชื่อได้ว่าเขาเป็นฆาตกรฆ่าคน มันเชื่อยากจริง ๆ … และนับจากวันนั้นอีกหลายวัน ซลฮีก็อยู่ในอาการซึมกะทือ เหม่อลอย คนรอบข้างเห็นก็รู้ในทันทีว่าเป็นอาการของคนอกหัก

คำโกหกที่จริงใจ

ระหว่างนั้น ซลฮีก็ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับคังมิน แฟนเก่าของเธอ เขาเคยเข้ารับการผ่าตัดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และนั่นก็เป็นสาเหตุแท้จริงที่ทำให้เขาเลื่อนการแต่งงานกับเธอ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอบอกเลิกกับเขา … คังมินโกหกเพราะไม่ต้องการให้ซลฮีเป็นกังวลกับโรคร้ายที่เขาเป็น … มันเป็นคำโกหกที่มีเจตนาดีไม่ใช่เหรอ ?

วันเดียวกัน ซลฮีได้รับการว่าจ้างจากคุณลุงที่ป่วยเป็นโรคร้าย คุณลุงต้องการให้เธอจับโกหกหมอและครอบครัว … ซลฮีไปตามนัด เธอฟังการสรุปการผ่าตัดของหมอที่บอกกับคุณลุงว่า “การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี” ซลฮีรู้ในทันทีว่ามันเป็นคำโกหก

หลังครอบครัวของคุณลุงกลับไปแล้ว ซลฮีบอกกับคุณลุงว่าทุกคนโกหก แต่ทว่า คุณลุงไม่ได้มีอาการแปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังพูดออกมาว่า “เมื่อพวกเขาพยายามทำถึงขนาดนี้ ผมคงต้องทำเป็นเชื่อในสิ่งที่พวกเขาบอก”

ซลฮีแปลกใจที่คุณลุงพูดด้วยรอยยิ้มทั้งที่โดนทุกคนโกหก คุณลุงกล่าวว่า “คำโกหกบางคำก็ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความจริงใจ” … ประโยคนี้จากปากคุณลุงเป็นเหมือนประโยคเบิกเนตรให้ซลฮีเข้าใจ เข้าใจแก่นแท้และความหมายในอีกแง่มุมหนึ่งของการโกหก บางทีสิ่งที่สำคัญกว่าการโกหกคือเจตนาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำโกหก

ค่ำวันหนึ่ง คังมินนัดเจอกับซลฮี ทั้งสองได้คุยเปิดอกคุยกันถึงเรื่องในอดีต เขายอมรับกับเธอว่าตอนนั้นเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่สาม ซลฮีกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เธอเสียใจที่วันนั้นไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาในวันที่เขาต้องการมากที่สุด “ฉันไม่รู้มาก่อนเลย ฉันขอโทษ”

คืนนั้น คังมินขอเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับซลฮี ถึงอย่างนั้น เธอก็บอกความจริงกับเขาว่าตอนนี้เธอมีคนที่รักอยู่แล้ว คังมินเข้าใจและอวยพรให้ซลฮีสมหวัง ก่อนจะเดินคอตกกลับไป

รีแคปซีรีส์ My Lovely Liar EP.8 - ฮวังมินฮยอน - คิมโซฮยอน

ซลฮีรีบขับรถไปหาโดฮาที่คอนโด เมื่อขับมาหยุดที่หน้าป้อมยาม แล้วชายท่าทางแปลก ๆ ในชุดรปภ. ก็เดินมาที่รถของซลฮีแล้วถามว่ามาหาใคร ? โดฮาที่อยู่ในสายโทรศัพท์ได้ยินเสียงชายคนนั้นก็รู้ทันทีว่า มันคือคนที่จ้องจะฆ่าเขา โดฮาจึงบอกให้ซลฮีรีบหนีไป

โดฮารีบวิ่งลงมาหาซลฮี ไม่นานหลังจากนั้น ชายในชุดรปภ. ก็ถูกตำรวจควบคุมตัวไป … เวลานั้น ซลฮีบอกกับโดฮา “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันเชื่อใจคุณ”

EP.9 ความจริงเบื้องหลังคดีฆาตกรรม

โดฮาเล่าเรื่องในอดีตของเขากับ ออมจี (รับบทโดย ซงจีฮยอน) ให้ซลฮีฟัง … เขากับออมจีเป็นรักแรกของกันและกัน ด้วยความที่โดฮาสอบติดมหาวิทยาลัยโซล ทำให้ทั้งสองจำต้องห่างกัน แต่ออมจีไม่คิดเช่นนั้น เธอพยายามขอร้องไม่ให้เขาไปด้วยความกระวนกระวายใจ ตลอดเวลาเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด

พูดง่าย ๆ คือออมจีคลั่งรักโดฮาชนิดที่เรียกว่า ถ้ามีอะไรนิดเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่รัก เธอจะทำร้ายตัวเอง ไม่กี่วันก่อนโดฮาจะเดินทางไปโซล ออมจีถือวิสาสะพิมพ์ข้อความไปหาเพื่อนผู้หญิงในโทรศัพท์ของโดฮา เธอไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามายุ่มย่ามกับเขาเลย ด้วยความหึงแรงโดยไร้เหตุผล ทำให้โดฮาโกรธ เขาขว้างปาแก้วลงพื้นเพื่อระบายโทสะต่อหน้าออมจี ก่อนจะตัดสินใจบอกเลิก “ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เราเลิกกันเถอะ”

และด้วยอารมณ์ชั่ววูบ โดฮาจึงโกหกไปว่ามีผู้หญิงคนอื่นที่ชอบแล้ว ออมจีหัวใจสลาย เพราะเขาคือความฝันเดียวที่เธอมี เธอตัดสินใจหยิบเศษแก้วขึ้นมาทำร้ายตัวเอง โดฮาเห็นแบบนั้นแต่ก็ยังทำใจแข็งเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับไปมอง เขาทิ้งหญิงสาวที่หัวใจแตกสลายจมกองเลือด เพราะคำโกหกของเขาไว้เพียงลำพัง โดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมอง

รุ่งขึ้น โดฮาถูกตำรวจจับในข้อหาฆาตกรรม โดยมีหลักฐานเป็นคราบเลือดของออมจีติดอยู่ที่เสื้อ ระหว่างการสอบปากคำ โดฮาสารภาพทั้งน้ำตาว่าเขาเป็นคนฆ่าเธอ อย่างไรก็ตาม ในหลักกฎหมาย เมื่อยังไม่พบศพตำรวจจะไม่สามารถแจ้งข้อหาฆาตกรรมได้ โดฮาจึงพ้นข้อกล่าวหาในที่สุด

ถึงจะไม่มีความผิดในทางกฎหมาย แต่มันเป็นความผิดบาปที่ติดคาอยู่ในใจโดฮามาตลอด คำพูดโกหกของเขาคำนั้นทำให้ออมจีต้องตาย … ซลฮีฟังเรื่องทั้งหมดก็เข้าไปโอบกอดโดฮาที่หลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุด

และชายที่ปลอมเป็นรปภ. คนนั้นก็คือออมโฮ พี่ชายของออมจี คนที่ตามล่าหาโดฮาเพื่อฆ่าล้างแค้นให้น้องสาว

คืนนั้น โดฮาจึงขอให้ซลฮีนอนค้างกับเขาที่คอนโด … ทีนี้ ด้วยความที่นอนต่างที่ซลฮีจึงนอนไม่หลับ โดฮาจึงชวนเธอมาดูบอลด้วยกันที่ห้องเธียเตอร์รูม แล้วเด็กผีกับเด็กหงส์ก็นั่งดูบอลกันอย่างสนุกสนาน ช่างเป็นภาพการดูบอลของเด็กผีและเด็กหงส์ที่น่ารักอะไรแบบนี้

คิมโซฮยอน - ฮวังมินฮยอน

พรหมลิขิต

ต่อมา โดฮากับซลฮีนัดไปตั้งเต็นท์แคมปิ้งด้วยกัน ตกค่ำก็ตั้งเตาย่างเนื้อกิน แต่ไม่รู้ย่างอีท่าไหน ย่างไปย่างมาไฟลุกท่ามซะอย่างนั้น ซลฮีตกใจจนตกเก้าอี้ก้นจ้ำเบ้า ก่อนที่จะหัวเราะออกมาด้วยความตลกขบขัน ค่ำคืนนี้ซลฮียิ้มไม่หุบเลยจริง ๆ ยิ้มที่ออกมาจากความสุข

“มันน่าทึ่งมากนะ เมื่อห้าปีก่อนคุณนั่งรถบัสข้าง ๆ ฉัน แล้วก็มาเป็นเพื่อนบ้านข้างห้อง และตอนนี้เราก็ได้มานั่งข้าง ๆ กัน ฉันคิดว่าคุณเป็นพรหมลิขิตของฉัน” ซลฮีพูดไปก็บิดไปบิดมาด้วยความเขินอาย

“คนที่ผมชอบมากที่สุดตอนนี้คือคุณซลฮีครับ” หลังพูดจบ โดฮาก็หันหน้าไปหาซลฮี แล้วทั้งสองก็จูบอย่างหวานซึ้ง เพื่อยืนยันความรู้สึกของกันและกัน

ในขณะที่ออมโฮเปลี่ยนแผนใหม่ เมื่อเข้าถึงตัวโดฮาไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจลักพาตัวชาอน เพื่อบีบให้โดฮาออกมาเจอ … โดฮามาตามนัด ออมโฮไม่ฟังเสียงระดมหมัดใส่โดฮาหมัดแล้วหมัดเล่า โดฮาได้แต่ยืนนิ่งโดยไม่ตอบโต้แม้แต่นิดเดียว ก่อนที่เขาจะบอกความจริงในคืนนั้น “ออมจีฆ่าตัวตาย ผมรู้ว่าเป็นความผิดของผม และผมจะสำนึกผิดไปชั่วชีวิต”

ออมโฮไม่สนใจสิ่งที่โดฮาพูด เขาชักมีดออกมาทำท่าจะแทงใส่โดฮา ทันใดนั้นคังมินก็ปรากฏตัวขึ้น กระโดดถีบใส่ออมโฮจนมีดในมือกระเด็น

EP.10 ลูกบอลพร้อมลายเซ็นรูนีย์ ?

หลังโดนคังมินถีบจนมีดกระเด็นหลุดออกจากมือ ออมโฮก็รีบลุกขึ้นมาหยิบมีดแล้ววิ่งหนีไป คังมินจึงพยายามวิ่งไล่ตามจับ แต่ทว่า โดฮาก็วิ่งไล่ตามไปกอดคังมินแล้วตะโกนให้ออมโฮรีบหนีไป

คังมินเป็นห่วงซลฮี เขาไม่เชื่อใจดาโฮ เพราะมีประวัติเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม เขาจึงไปเตือนซลฮี ถึงอย่างนั้นซลฮีก็ยังยืนยันที่จะเชื่อใจโดฮา “พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ”

ระหว่างนั้น เรื่องในอดีตของโดฮาก็ยังคงตามกวนใจคังมินไม่เลิก คังมินจึงตามสืบคดีในอดีตของโดฮาต่อไป … คังมินไปหาหัวหน้าเก่าที่ทำคดีของโดฮา หัวหน้าชี้แจงกับคังมินชัดเจนว่ามันเป็นการฆ่าตัวตาย และไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรม

ซลฮีกับโดฮา รวมถึงพนักงานคาเฟ่ไพ่ทาโรต์มาออกบูธขายเครื่องดื่มที่ตลาดนัด แต่ไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียว นั่งหาวนั่งตบยกกันเพลินเลย ซลฮีจึงวางแผนให้โดฮาเป็นหน้าม้าเข้ามาซื้อเครื่องดื่ม แล้วตะโกนดัง ๆ ว่าอร่อยมาก เฮ้ย ได้ผลจริง ๆ มีลูกค้ามาต่อแถวรุมซื้อกันยกใหญ่

เมื่อถึงเวลาที่มีการแสดงดนตรี ซลฮีจึงสนับสนุนให้โดฮาขึ้นเวทีไปแสดงฝีมือการเล่นเปียโน เพราะมาก เพราะขนาดที่ได้รางวัลชนะเลิศ เยี่ยมไปเลย

หลังตลาดนัดเลิก โดฮาให้ของขวัญเซอร์ไพรส์ซลฮี เป็นลูกบอลลายแมนยูพร้อมลายเซ็นของเวย์น รูนีย์ ที่เขาเพิ่งซื้อมาจากร้านที่วางขายในตลาดนัด โดฮาพาซลฮีกลับไปถามคนขายว่าลายเซ็นบนลูกบอลเป็นลายเซ็นของรูนีย์จริงหรือเปล่า​ ?

My Lovely Liar EP.10 - ฮวังมินฮยอน - คิมโซฮยอน

คนขายก็ตอบอย่างมั่นใจว่า “จริง … ฉันไปโอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อปี 2010 แล้วขอลายเซ็นมากับมือตัวเองเลยค่ะ” ซลฮียิ้มแหย่ ๆ เพราะในหัวเธอส่งสัญญาณว่าคนขายโกหก ถึงอย่างนั้นเธอก็บอกกับโดฮาไปว่าคนขายพูดจริง เพื่อไม่ให้เขาเสียความรู้สึก … แล้วภาพก็อินเสิร์ตให้เห็นว่า คนขายยังมีลูกบอลพร้อมลายเซ็นของนักเตะดังกองอยู่บนพื้นอีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือลายเซ็นของโรนัลโด้ 555555

EP.11 ข้อจำกัดของการจับโกหก

ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเจอกระดูกมนุษย์ถูกฝังอยู่บนเนินเขา คังมินที่ขอตามไปด้วยจึงบอกกับหัวหน้าว่า โครงกระดูกมนุษย์ที่พบอาจเป็นออมจี เพราะจุดที่พบอยู่บริเวณเดียวกับจุดที่ออมจีหายตัวไป … ระหว่างนั้น หัวหน้าลงไปดูโครงกระดูกและได้พบแหวนคู่ของผู้ชาย แต่เขาได้แอบเก็บเอาไว้โดยไม่บอกใคร !?

หัวหน้ากลับมาดูแฟ้มคดี ‘ออมจี’ แล้วก็พบว่า โครงกระดูกที่พบเป็นออมจี เขาจึงรีบโทร. ไปหา สส.จองยอนมี (แม่ของโดฮา) เพื่อแจ้งการพบศพออมจี และบอกว่าเขาได้ทำลายแหวนคู่ผู้ชาย หลักฐานชิ้นเดียวที่พบไปแล้ว

ซอจีฮุน - คิมโซฮยอน

ด้านคังมินก็ไปหาซลฮีด้วยความเป็นห่วง เขาถามถึงข้อจำกัดในความสามารถจับโกหกของเธอ ซลฮีจึงบอกว่า เธอไม่สามารถจับโกหกผ่านทางทีวีหรือโทรศัพท์ได้ ต้องได้ยินด้วยหูตัวเองเท่านั้น ที่สำคัญ ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง แต่ถ้าคนพูดเชื่อว่าเป็นความจริง เธอก็จะได้ยินว่าเป็นความจริง

เมื่อรู้ถึงข้อจำกัด คังมินจึงตั้งคำถามจี้ไปว่า “ถ้าอย่างนั้น สมมติว่ามีคนฆ่าคนตายโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนฆ่า เธอจะได้ยินว่าเป็นความจริงสินะ” ซลฮีได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไป คังมินจึงอธิบายต่อว่า โดฮากินยานอนหลับกับยาระงับประสาท ซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้ความสามารถในการรับรู้และความจำลดลง

ซลฮีนึกย้อนกลับไปคืนที่ไปนอนค้างที่คอนโดของโดฮา เขาพบยานอนหลับกับยาระงับประสาทอย่างที่คังมินพูดจริง ๆ … ซลฮีเริ่มรู้สึกสับสน

ตำรวจเรียกโดฮามาสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งหัวหน้าเป็นคนสอบปากคำด้วยตัวเอง แต่ทว่า โดฮากลับให้การไม่ตรงกับครั้งก่อน … ครั้งนี้เขาต้องการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ในขณะที่ครั้งก่อนเขาให้การตามคำแนะนำของทนายที่แม่เขาจ้างให้ทำคดี … ครั้งนั้นเขามีแหล่งที่อยู่ชัดเจนตอนที่ออมจีหายตัวไป แต่ครั้งนี้ เขาพูดความจริงว่าอยู่กับออมจีเป็นคนสุดท้ายที่ชายหาด

ความจริงที่ออกจากปากโดฮา ทำให้เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อได้ยินโดฮาให้การไม่ตรงกับครั้งก่อน หัวหน้าจึงปิดเครื่องบันทึกวิดีโอและบันทึกเสียงทันที เขากล่าวเตือนโดฮาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “นายพูดแบบนี้ นายไม่นึกถึงแม่และโจดึกชานเลยงั้นเหรอ” พูดจบ หัวหน้าก็เปิดเครื่องบันทึกวิดีโอ แล้วไล่ให้โดฮากลับไป … หัวหน้าพยายามช่วยโดฮา

หลังรู้เรื่องการพบศพของน้องสาว ออมโฮก็ไปหานักข่าวที่เกาะติดคดีนี้ นักข่าวจึงได้รู้ว่า คิมซึงจู ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมได้เปลี่ยนชื่อเป็น โดฮา และกลายเป็นนักแต่งเพลงชื่อดัง

แล้วคืนนั้น ออมโฮก็ไปดักรอโดฮาที่อพาร์ตเมนต์ เขานั่งรอพร้อมกับมีดปลายแหลม เขานั่งรออยู่อย่างนั้นนานนับชั่วโมง กระทั่งชายคนหนึ่งเดินมาที่หน้าห้องโดฮา ออมโฮจึงออกมาจากมุมมืดพร้อมมีดในมือ ก่อนจะแทงชายคนนั้นเข้าที่ท้อง ชายคนนั้นล้มลงเลือดไหลออกมาไม่หยุด … ชายคนนั้นใช่โดฮาหรือไม่ ?

EP.12 ตามล่าหาความจริง

ชายที่ออมโฮแทงไม่ใช่โดฮา เพราะความมืด และมาสก์ที่ปิดบังใบหน้าทำให้ออมโฮเข้าใจผิด … ซึ่งเวลาเดียวกัน โดฮาก็มาถึงห้องพอดี จึงเข้าไปต่อสู้และยื้อแย่งมีดในมือของออมโฮ สุดท้าย ตำรวจก็มาที่เกิดเหตุและจับออมโฮเอาไว้ได้

ที่สถานีตำรวจ คังมินสอบปากคำโดฮาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น คังมินกล่าวตำหนิโดฮาว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ อีกทั้งยังทำให้ซลฮีตกอยู่ในอันตราย ซ้ำร้ายตัวโดฮาเองกลับเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว

อย่างไรก็ตาม ข่าวที่โดฮาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมก็ถูกเผยแพร่ นักข่าวหลายสิบคนตามมาดักรอสัมภาษณ์ ครั้งนี้เขาไม่ใส่มาสก์ปิดบังหน้าตาหรือหนีนักข่าวอีกต่อไป เขาเผชิญหน้าพร้อมกับตอบยอมรับ ที่ผ่านมาเขาปิดบังตัวตนเพราะไม่อยากให้คนรู้ว่า เขาเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมจริง ๆ พร้อมทั้งประกาศจะสืบหาตัวฆาตกรตัวจริงให้ได้

ข่าวของโดฮาส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง สส.จองยอนมีก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากในทางการเมือง เธอกำลังถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งจากข่าวอื้อฉาวของลูกชาย ด้านประธานโจดึกชานเองก็ตกที่นั่งลำบากเช่นกัน … ไม่เว้นแม้แต่แม่ของซลฮีที่มาโวยวายขอให้ซลฮีเลิกยุ่งกับโดฮา แต่ซลฮีเชื่อใจเขา เธอเชื่ออยากหมดใจว่าเขาไม่ใช่ฆาตกร

ระหว่างนำตัวออมโฮส่งเรือนจำ ออมโฮได้มอบสมุดโน้ตหลักฐานทั้งหมดในคดีออมจีให้คังมิน พร้อมกับย้ำว่า หัวหน้าตำรวจที่รับผิดชอบคดีรับเงินสินบนจาก สส.จองยอนมี

คังมินเปิดสมุดบันทึกเล่มนั้นอ่านทีละหน้า มีหลักฐานหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันจนหนักแน่นพอที่จะฟันธงได้ว่าโดฮาเป็นฆาตกร ในทางกลับกันก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ได้ว่าออมจีฆ่าตัวตายเช่นกัน

พูดง่าย ๆ ถ้าคดียังคลุมเครืออยู่แบบนี้ โดฮาก็จะตกเป็นจำเลยของสังคมต่อไป

โดฮาตัดสินใจกลับไปที่ฮักชอน บ้านเกิดอีกครั้ง เขากลับมาเพื่อสืบหาตัวฆาตกรด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนชาวบ้านจะปักใจเชื่อแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร เขาโดนทั้งปาของใส่และด่าทอ

ระหว่างนั้น ซลฮีทนอยู่เฉยไม่ไหว จึงตามไปฮักชอนเพื่อช่วยโดฮาตามล่าหาความจริง โดยใช้ความสามารถในการจับโกหก เป้าหมายที่ทั้งสองต้องการตามหาคือ ‘ชเวยงกุก’ พ่อของออมจี เพราะโดฮาเชื่อว่า ชเวยงกุกนี่แหละคือฆาตกรตัวจริง ที่ฆ่าลูกสาวเพื่อหวังเงินประกัน

EP.13 แหวนคู่ปริศนา

โดฮาตามหาพ่อของออมจีจนเจอ พ่อออมจียอมรับว่าการตายของออมจีทำให้เขาได้รับเงินประกันก้อนโต แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสาว จากนั้นก็เปิดเผยว่า แจชานคอยแอบตามออมจีอยู่ตลอดเวลา

โดฮาขับรถไล่ตามมอเตอร์ไซค์ขอแจชานไปจนทัน แจชานสารภาพว่าเขาเป็นลงมือฆ่าออมจี ก่อนจะหัวเราะเยาะใส่โดฮา แล้วบอกว่าล้อเล่น เมื่อแจชานเห็นซลฮีมาถึง เขาจึงใช้มีดเข้าไปจี้เธอ แล้วสั่งให้โดฮาโยนกุญแจรถมา โดฮายอมทำตาม แจชานจึงรีบขึ้นรถขับหนีไป

ซลฮีบอกโดฮาว่า สิ่งที่แจชานพูดเป็นเรื่องโกหก แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องโกหก

ด้านคังมินก็สืบเรื่องนี้ต่อไปจนพบกับพยานที่เห็นโดฮากับออมจีที่ชายหาดในคืนนั้น ทำให้คังมินรู้ว่าโดฮาให้การเท็จกับตำรวจ ที่ไปสนามฟุตบอลและไปเที่ยวผับ

คังมินนัดเจอโดฮาเพื่อคุยเรื่องนี้ โดฮาสารภาพว่าคืนนั้นเขาไปที่ชายหาดกับออมจีจริง ๆ แต่เขาอยู่กับเธอแค่แป๊บเดียว จากนั้นเขาก็เดินกลับบ้าน คืนนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน โจดึกชานกับแจชานจึงสร้างพยานที่อยู่ให้เขา เป็นที่สนามฟุตบอลและผับ เพื่อให้เขาพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย และคนที่อยู่ในกล้องวงจรปิดก็คือโจดึกชาน

คังมินบอกโดฮาต่อว่า พยานคนนั้นเห็นคนสวมชุดแดงไปพบออมจี “คุณคิดว่าคนคนนั้นเป็นใคร ?” โดฮาตอบโดยแทบไม่ต้องคิดเลยว่า แจชาน เขาเชื่อว่าแจชานเป็นคนฆ่าออมจี เพราะเขาเพิ่งรู้ว่าแจชานแอบชอบออมจีมาตลอด

เมื่อได้ยินคำตอบจากปากโดฮา คังมินก็อดแปลกใจไม่น้อย เพราะแจชานเป็นหนึ่งในคนที่สร้างหลักฐานที่อยู่เพื่อช่วยโดฮาให้พ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย ถ้าแจชานเป็นฆาตกรจริง เขาจะช่วยโดฮาทำไม ฟังดูมันย้อนแย้งในเหตุและผลไม่น้อย

หัวหน้าไม่ต้องการตกอยู่ใต้อำนาจของ สส.จองยอนมี (แม่ของโดฮา) อีกต่อไป เขาจึงมาพบคังมิน พร้อมกับรับสารภาพว่าเขารับเงินจาก สส.จองยอนมี เพราะต้องการเงินไปรักษาลูกสาว จากนั้นก็มอบแหวนคู่ผู้ชายที่พบที่ศพออมจี เพื่อให้คังมินสืบคดีนี้ต่อไป

ไม่เท่านั้น หัวหน้ายังนำคลิปการสนทนากับ สส.จองยอนมี ที่เขาแอบบันทึกเอาไว้ไปให้นักข่าว เพื่อนำไปเปิดเผยความจริง เพราะต้องการรับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำในอดีต

คังมินนำแหวนไปสืบ เขาพบว่าเป็นแหวนที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้เป็นแหวนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าผู้สั่งทำแหวนก็คือโดฮา ที่น่าแปลกก็คือ คนทำแหวนบอกว่ามีการสั่งทำแหวนแบบเดียวกันนี้ถึงสองครั้ง โดยมีขนาดต่างกัน แต่เมื่อคังมินไปถามโดฮา เขากลับบอกว่าเขาสั่งทำแหวนนี้ด้วยตัวเอง และสั่งทำเพียงครั้งเดียว หลังจากเลิกกับออมจี เขาก็โยนแหวนวงนี้ทิ้งลงทะเล

My Lovely Liar EP.13

โดฮานัดเจอโจดึกชานที่แจ๊สคลับที่เขาไปเล่นเปียโน โดยให้ซลฮีซ่อนตัวเพื่อฟังสิ่งที่โจดึกชานพูด … เมื่อโจดึกชานมาถึง โดฮาก็ยิงคำถามใส่ทั้งเรื่องแหวนและเรื่องแจชาน มีหลายคำตอบของโจดึกชานที่ซลฮีได้ยินว่าเป็นคำโกหก เธอจะกดปุ่มรีโมตส่งสัญญาณ อุปกรณ์รับสัญญาณในมือของโดฮาก็สั่นขึ้น

เมื่อโดฮาถามว่าแจชานอยู่ไหน โจดึกชานจึงตอบไปว่า แจชานกำลังเดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ อุปกรณ์ในมือโดฮาก็สั่นขึ้น … หรือว่าโจดึกชานคือฆาตกรตัวจริง !?

EP.14 ความรู้สึกในหัวใจของฆาตกร

ซลฮีแอบฟังสิ่งที่โจดึกชานพูดออกมา แทบทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหก มีเพียงเรื่องเดียวที่เป็นเรื่องจริง คือคำพูดที่โจดึกชานบอกว่าเป็นห่วงโดฮามากกว่าแจชาน ซึ่งเป็นน้องชายของเขาเสียอีก

ด้าน สส.จองยอนมีก็ถูกเรื่องอื้อฉาว ในการให้สินบนหัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยคดีโดฮา จนทำให้หมดอนาคตทางการเมือง

หลังคดีคลี่คลาย ซลฮีก็เป็นเจ้าภาพเลี้ยงฉลอง โดฮาและเพื่อน ๆ ต่างยิ้มแย้มด้วยความสุข

แต่ทว่า คังมินมีข้อสงสัยในคำให้การของแจชาน ที่บอกว่าเขาถอดแหวนออกจากมือเธอก่อนที่จะลงมือฆ่า และสั่งทำแหวนแบบเดียวกัน เพื่อจะได้รู้สึกดีเหมือนได้เป็นแฟนกับเธอ

แจชานเห็นออมจีทะเลาะกับโดฮาที่ชายหาดอย่างรุนแรง เหมือนกับว่าทั้งสองเลิกกันแล้ว แจชานจึงดึงมือชวนออมจีไปคุยในป่า แล้วขอร้องให้เธอคบกับเขา แต่ออมจีปฏิเสธ เขาจึงผลักเธอด้วยความโกรธ ออมจีหัวล้มไปฟาดเข้ากับหินเสียชีวิตคาที่ จากนั้นเขาก็ขุดหลุมฝังร่างของเธอ สุดท้ายก็เอาเสื้อผ้าของเธอทิ้งลงทะเล … ตรงนี้แหละที่คังมินสงสัย เพราะในบันทึกคำให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษรระบุว่า เขาเผาเสื้อผ้าของออมจี !?

คังมินจี้ถามต่อถึงเหตุผลที่ทำให้แจชานยอมเข้ามามอบตัว แจชานพูดโดยไม่สบตา เขาอ้างว่าเพราะกลัว เนื่องจากตำรวจพบแหวนของเขาอยู่กับศพ และรู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป แล้วแจชานก็พูดประโยคที่ทำให้คังมินถึงกับแปลกใจ “ถ้าผมพ้นผิดเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ มันก็เป็นเรื่องของกฎหมาย ใช่มั้ยครับ”

ด้วยเซนส์ของความเป็นตำรวจ คังมินค่อนข้างมั่นใจว่าแจชานไม่ใช่คนร้ายตัวจริง และคนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือ โจดึกชาน เขาจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกซลฮี เพื่อขอให้เธอช่วย

ซลฮีเข้าเยี่ยมแจชาน เธอถามคำถามมากมายเกี่ยวคดี แต่ทุกคำที่ออกจากปากแจชานล้วนแล้วแต่เป็นคำโกหกทั้งสิ้น นั่นหมายความว่าแจชานไม่ใช่ฆาตกร และฆาตกรตัวจริงก็คือ โจดึกชาน !

ในที่สุด แจชานก็สารภาพหมดเปลือก เขามอบตัวแทนพี่ชาย ที่เป็นคนฆ่าออมจี เนื่องจากโจดึกชานสัญญาว่าจะยกทรัพย์สินทั้งหมดให้ และจะเข้ามอบตัวในภายหลัง พร้อมทั้งบอกที่ซ่อนของหลักฐานสำคัญ ซึ่งถูกเก็บเอาไว้ในเซฟที่ห้องทำงานของโจดึกชาน

สปอยล์ซีรีส์ My Lovely Liar EP.14

ซลฮีรีบขับรถไปที่ออฟฟิศของโจดึกชานทันที ระหว่างกำลังหารหัสเปิดตู้เซฟ เธอก็เจอรูปถ่ายของโดฮา ซึ่งเขียนเลขวันเกิดกำกับเอาไว้ ซลฮีจึงลองเอาเลขนั้นไปใส่รหัส ปรากฏว่ารหัสถูกต้อง ณ จุดนี้เอง ซลฮีจึงคิดขึ้นมาได้ว่า แท้จริงแล้วโจดึกชานแอบรักโดฮามาตลอด

จังหวะนั้น โจดึกชานกลับมาที่ห้องแล้วเจอกับซลฮีที่ถือกล่องหลักฐานในมือ เขาวิ่งไล่ตามเธอ แต่โดฮากับคังมินพร้อมด้วยกำลังตำรวจมาถึงพอดี โจดึกชานจึงสารภาพทั้งน้ำตาว่าชอบโดฮามาตลอด พูดจบก็รีบวิ่งหนีไปด้วยความอับอาย ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับหนีไปด้วยความเร็ว รถของโจดึกชานพุ่งไปชนแบริเออร์จนเกิดการพลิกคว่ำ เขาตั้งใจจะจบชีวิตตัวเองแบบนี้ เขาตั้งใจจะให้เรื่องทั้งหมดจบไปพร้อมกับชีวิตของตัวเอง

โดฮา ซลฮี และคังมิน ขับรถตามมาถึง โจดึกชานอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว คังมินจึงรีบเข้าไปทำ CPR ทันที ทันใดนั้นก็เกิดประกายไฟขึ้น และแสงวูบที่เกิดจากแรงระเบิดก็ส่องประกายไปทั่วบริเวณ

EP.15 โอปป้าโดฮา

ที่โรงพยาบาล … ชลฮีฟื้นขึ้นมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ในขณะที่โจดึกชานก็รอดชีวิตหลังเข้ารับการผ่าตัด

โดฮาไปเยี่ยมโจดึกชานที่ห้องผู้ป่วย โจดึกชานจึงเผยเรื่องที่เกิดขึ้น คืนนั้นโดฮาไม่มาดูบอลตามนัด โจดึกชานจึงไปตามที่ชายหาด ปรากฏว่าออมจีบอกให้เขาเลิกยุ่งกับโดฮา เธอรู้เรื่องที่เขาแอบชอบโดฮามาตลอด จากนั้น ทั้งสองก็พากันไปทะเลาะโต้เถียงกันต่อบนเนินเขา โจดึกชานโกรธจึงผลักออมจีจนล้ม หัวกระแทกหินจนแน่นิ่ง เลือดไหลออกมาไม่หยุด

โจดึกชานจึงคิดอำพรางคดีให้เป็นการฆ่าตัวตาย และเพื่อไม่ให้โดฮาตกเป็นผู้ต้องสงสัย โจดึกชานจึงเอาแหวนกับเสื้อผ้าเก็บไว้โดยไม่เผาทำลาย เพราะเขาตั้งใจจะเก็บเอาไว้ใช้เป็นหลักฐานในการเข้ามอบตัว ถ้าเกิดโดฮาถูกจับติดคุก

หลังฟังเรื่องทั้งหมด โดฮาก็เดินออกจากห้องไป

ออมโฮได้รับอนุญาตให้ออกมาจากคุกเพื่อมางานศพออมจี ออมโฮคุกเข่าขอโทษโดฮาที่เข้าใจผิดมาตลอด

ฮวังมินฮยอน และ คิมโซฮยอน ในซีรีส์เกาหลี My Lovely Liar EP.15

เมื่อเรื่องราวว้าวุ่นจบลง โดฮาก็ใกล้ชิดกับชลฮีมากขึ้น ระหว่างนั้น โดฮาจึงเข้าไปถามชลฮีด้วยน้ำเสียงที่ออกแนวน้อยใจ เขาถามว่าทำไมยังเรียกคังมินว่าโอปป้าอยู่อีก “ผมว่าเรียกคุณอีคังมินเฉย ๆ ก็ได้นะ”

ชลฮียิ้มจนแก้มยุ้ย แล้วก็พูดออกไปว่า “อย่างงั้นเหรอคะ โอปป้าโดฮา” 5555

โดฮาได้ยินชลฮีเรียกเขาว่าโอปป้าก็ทำเอาน้ำในปากแทบพุ่ง ก่อนจะยิ้มเขิน ๆ ออกมา … โอ๊ย เขินตามไปด้วยเลยล่ะ ^-^’

ต่อมา ชลฮีได้รู้ความจริงอันน่าตกใจ เธอไม่สามารถจับโกหกได้อีกต่อไป ทำให้ต้องคืนเงินลูกค้าที่ว่าจ้างเต็มจำนวน จากนั้นชลฮีก็ไปหาโดฮา เพื่อปรับทุกข์เรื่องที่ไม่สามารถจับโกหกได้อีกต่อไป โดฮาจึงบอกว่าอาจจะเกิดจากแรงระเบิด และอาจจะดีขึ้นเองตามธรรมชาติ อีกอย่างคือเขาไม่ใช่คนที่ชอบโกหกอยู่แล้ว

ฮวังมินฮยอน - คิมโซฮยอน ในซีรีส์ My Lovely Liar EP.15

คืนต่อมา โดฮาเซอร์ไพรส์ซลฮีด้วยการชวนเธอมาที่ห้องของเขา เพื่อดินเนอร์อาหารอิตาเลียนที่เขาทำด้วยฝีมือตัวเอง ซลฮีลองชิมแล้วถึงกับประหลาดใจที่รสชาติอร่อยมาก ๆ โดฮายิ้มเขิน ๆ แล้วบอกว่าที่อร่อยก็เพราะทำจากใจ

กินอาหารเสร็จ ทั้งคู่ก็มานั่งดูหนังกันที่เธียเตอร์รูม ก่อนที่ซลฮีจะโน้มตัวไปจูบโดฮา

EP.16 ใช้ชีวิตอย่างคนปกติ (ตอนจบ)

ซลฮีไม่ชินกับการที่ไม่รู้ว่าใครพูดจริงพูดโกหก จึงมาปรึกษากับโดฮา เขาจึงแนะนำให้เชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อ เหมือนกับตอนที่เธอเชื่อใจว่าเขาไม่ใช่ฆาตกรยังไงล่ะ แต่สีหน้าของชลฮีก็ดูจะยังเป็นกังวลอยู่ โดฮาจึงพูดขึ้นมาว่า “แค่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดก็พอ พี่รักเธอนะ” คำพูดของโดฮาทำให้ชลฮียิ้มออกจนแก้มแทบปริ

คิมโซฮยอน และ ซอจีฮุน ในซีรีส์ My Lovely Liar EP.16 ตอนจบ

คังมินมาลาชลฮี เขาตัดสินใจจะจากไป เพราะความรู้สึกอันลึกซึ้งที่เขามีต่อเธอนั้น มันมีมากเกินกว่าจะเป็นเพื่อนกับเธอได้

ต่อมา ชลฮีพยายามทำให้พ่อแม่กลับมาคืนดีกัน แต่ดูเหมือนความพยายามของเธอจะว่างเปล่า เพราะเมื่อแม่เจอกับพ่อก็เอาแต่ทะเลาะกัน พูดจารุนแรงใส่กัน

ทีนี้ ชลฮีจึงเดินเกมใหม่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากโดฮา เธอจัดแจงแต่งหล่อให้พ่อ ตัดผมตัดเพ่า และหาชุดสูทสุดเท่มาให้พ่อใส่

My Lovely Liar EP.16 ตอนจบ

เมื่อแม่เห็นพ่อในลุคสุดเท่เท่านั้นแหละก็ถึงกับตกตะลึง พ่อหยิบแหวนแต่งงานออกมาจากกระเป๋าแล้วขอแม่แต่งงานอีกครั้ง แม่รีบปฏิเสธทันที “ฉันไม่มีทางกลับไปอยู่กับคุณหรอก”

ทันใดนั้นเอง ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อชลฮีที่ดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ ๆ ได้รับสัญญาณเตือนในหูว่าแม่พูดโกหก ความสามารถของเธอกลับมาใช้ได้อีกครั้ง

ชลฮีรีบเดินไปหาแม่ แล้วบอกพ่อว่าแม่พูดโกหก เพราะจริง ๆ แล้วแม่อยากกลับไปอยู่กับพ่อ แม่ได้ยินชลฮีพูดแบบนั้นก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาไม่หยุด พ่อจึงโผเข้าไปโอบกอดแม่เพื่อปลอบโยน

อย่างไรก็ตาม แม้ความสามารถจับโกหกจะกลับมาใช้ได้อีกครั้ง แต่ชลฮีตัดสินใจจะเลิกเป็นนักล่าคนโกหก เธออยากจะใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ

ด้านโดฮาก็ทำเพลงให้อีธาน ซึ่งเวลาต่อมาในปี 2024 โดฮาก็ได้รับรางวัลนักแต่งเพลงยอดเยี่ยมแห่งปีอีกครั้ง ครั้งนี้โดฮาเปิดหน้าขึ้นไปรับรางวัลด้วยตัวเองอย่างภาคภูมิใจ

ส่วนชาอนก็กุ๊กกิ๊กกับอดีตคนขับรถของชลฮี ที่ตอนนี้กลายเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของชาอนไปแล้ว ด้วยความใกล้ชิดนั่นแหละ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ พ่อของชลฮีก็เปิดร้านอาหาร กิจการรุ่งเรืองมีลูกค้ามากินมากมาย ต้องมายืนต่อคิวกันอย่างกับแจกฟรี แม่ของชลฮีเสิร์ฟอาหารมือเป็นระวิง

รีแคปซีรีส์ My Lovely Liar EP.16 ตอนจบ : ใช้ชีวิตอย่างคนปกติ

ตอนท้าย ที่คาเฟ่ไพ่ทาโรต์ โดฮายื่นไพ่ให้ชลฮี ด้านหลังของไพ่เขียนข้อความว่า “แต่งงานกันนะ” ก่อนที่โดฮาจะคุกเข่าลงเพื่อขอชลฮีแต่งงาน ชลฮีตอบเยสทั้งรอยยิ้มแห่งความสุข จากนั้น โดฮาก็ยื่นของขวัญให้ชลฮี เป็นของขวัญเป็นตั๋วชมการแข่งขันระหว่างแมนยูกับเวสต์แฮม ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ชลฮีดีใจมากที่จะได้ไปดูแรชฟอร์ดตัวเป็น ๆ อย่างที่ฝันไว้มานาน

Images : tvN Korea
ดู My Lovely Liar ที่ VIU : คลิกที่นี่

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ My Lovely Liar (2023) appeared first on idol.

]]>
สรุปเนื้อเรื่อง The Uncanny Counter 2 (2023) เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ 2 https://www.online-idol.com/2023/08/12/the-uncanny-counter-season-2-2023-kdrama-spoiler-36308/ Sat, 12 Aug 2023 07:32:22 +0000 https://www.online-idol.com/?p=36308 เคาน์เตอร์นักล่าปีศาจกลับมาพร้อมขุมพลังใหม่ พร้อมสมาชิกน้องใหม่ป้ายแดง กับการล่าปีศาจที่พยายามจะกลืนกินมนุษยชาติ …

The post สรุปเนื้อเรื่อง The Uncanny Counter 2 (2023) เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ 2 appeared first on idol.

]]>
The Uncanny Counter ซีซั่น 2 สปอยล์ : เคาน์เตอร์นักล่าปีศาจกลับมาพร้อมขุมพลังใหม่ พร้อมสมาชิกน้องใหม่ป้ายแดง กับการล่าปีศาจที่พยายามจะกลืนกินมนุษยชาติ …

EP.1 เคาน์เตอร์พันช์

ซีรีส์เริ่มต้นที่คนขับรถบัสรับส่งนักเรียนอนุบาล กำลังจอดรถรับเด็กน้อยวัยน่ารัก แต่เอ๊ะ ทำไมคนขับรถดูท่าทางแปลก ๆ

ที่แท้คนขับรถมันเป็นปีศาจระดับสอง … เมื่อรถบัสขับผ่านม่านพลังเคาน์เตอร์ (ถ้าเหล่าเคาน์เตอร์อยู่ในเขตม่านพลัง จะทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า) ฮานา (รับบทโดย คิมเซจอง) ผู้มีความสามารถในการตรวจจับปีศาจและอ่านความทรงจำคน เมื่อเธอตรวจจับปีศาจได้ จึงรีบแจ้งให้สมาชิกคนอื่น ๆ รู้ทันที

แล้วป้าชู (รับบทโดย ยอมฮเยรัน) ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมท่อนเหล็กขนาดใหญ่ในมือ ก่อนจะใช้ท่อนเหล็กแทงทะลุเข้าไปที่โครงรถบัส จากนั้นก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีหยุดรถ แต่เจ้าปีศาจระดับสองมันร้ายกาจไม่เบา ป้าชูเพียงคนเดียวจึงไม่อาจหยุดรถเอาไว้ได้

เห็นท่าไม่ดี ฮานาจึงรีบเข้ามาช่วยอีกแรง ฮานากระโดดขึ้นรถบัส แล้วใช้ลูกหวดตีนระเบิดเตะเข้าไปที่เบ้าหน้าของเจ้าปีศาจระดับสอง ตัวของมันกระเด็นออกไปจากที่นั่งคนขับ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องหวาดกลัวของเด็ก ๆ ที่นั่งอยู่เต็มคันรถ ฮานาขึ้นมาขับรถบัสแทน แต่ทว่า เบรกแตก !

งานงอก ฮานาไม่สามารถหยุดรถบัสได้ จังหวะนั้น โมทัก (รับบทโดย ยูจุนซัง) จึงปรากฏตัวขึ้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีจากบัฟเขตม่านพลัง ดันรถบัสให้หยุด สำเร็จ

ยังไม่จบภารกิจ เจ้าปีศาจระดับสองยังไม่สิ้นฤทธิ์ มันจับเด็กน้อยเป็นตัวประกัน พร้อมด้วยเศษกระจกในมือที่จ่อไปที่คอหอยของเด็กน้อย มันขู่จะจัดการกับเด็กน้อยคนนี้ซะถ้าเหล่าเคาน์เตอร์ไม่ยอมแพ้ “ฮะฮะฮ่า” มันหัวเราะอย่างผู้ชนะ แต่ …

แต่ทันใดนั้น มือของเจ้าปีศาจระดับสองก็บิดงอ จนเศษกระจกในมือร่วงหล่นลงกับพื้น มันต้องเป็นพลังจิตของใครแน่ ๆ … แล้ว โซมุน (รับบทโดย โจบยองกยู) ก็ปรากฏตัวขึ้น ในซีซั่นนี้นอกจะโซมุนจะเป็นเด็กขายก๋วยเตี๋ยวสุดโหดแล้ว เขายังมีพลังจิตที่ทำให้เจ้าปีศาจระดับสองไม่อาจต่อกรกับเขาได้เลย

โซมุนใช้พลังจิตจากระยะไกล ควบคุมเจ้าปีศาจระดับสองให้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเกือบถึงชั้นสตราโทสเฟียร์ จากนั้นก็ปล่อยมันลงมากระแทกกับพื้นถนนจนแตกร้าว เมื่อเจ้าปีศาจสิ้นท่า โซมุนจึงส่งวิญญาณชั่วร้ายกลับไปสู่ปรโลกแบบชิล ๆ

รีแคปซีรีส์ The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.1 เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ

ปีศาจสุดโหดระดับสี่

ระหว่างที่เหล่าเคาน์เตอร์นักล่าปีศาจเกาหลีกำลังใช้ชีวิตแฮปปี้มีความสุข แต่อีกมุมหนึ่งของโลกกลับตรงกันข้าม ณ ประเทศจีน เหล่านักล่าปีศาจจีนกำลังเสียท่าให้กับเหล่าปีศาจระดับสาม บางตัวเป็นถึงปีศาจระดับสี่ ซึ่งเป็นระดับสุดโหด นักล่าปีศาจโดนพวกปีศาจจัดการไปทีละคน ๆ

ปีศาจสุดโหดจากเมืองจีนมีทั้งหมด 3 ตัว พวกมันกลืนกินพลังของนักล่าปีศาจ แล้วมันจะสามารถใช้พลังของนักล่าปีศาจได้ ยิ่งได้กลืนกินพลังมันก็ยิ่งแกร่งจนกลายเป็นปีศาจระดับสี่ ระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา บอกเลย พวกมันมีพลังจิตที่โหดกว่าโซมุนซะอีก

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ยมทูตต้องเรียกประชุมนักล่าปีศาจด่วน ยมทูตบอกทุกคนให้รู้ว่าปีศาจสุดโหดได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว พวกมันรักษาบาดแผลตัวเองได้ บางตัวใช้พลังจิตได้ แถมยังสามารถอ่านความทรงจำได้อีกด้วย และตอนนี้พวกมันกำลังเดินทางมาเกาหลี โดยมีเป้าหมายเพื่อกำจัดเหล่านักล่าปีศาจให้สิ้นซาก

EP.2 นักล่าปีศาจน้องใหม่

ยูอินซู

จ๊อกบง (รับบทโดย ยูอินซู) หนุ่มหน้ามนคนเลี้ยงวัว ต้องการจะมีคู่ครอง จึงนัดเดตสาวจากอินเทอร์เน็ตที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง แหม่ แต่สาวเจ้าเมื่อเห็นตัวจริงของจ๊อกบง ไม่ตรงปกกับรูปที่ลงเอาไว้ในเน็ต เธอจึงเดินหนีออกจากร้านไปก่อนที่จะกล่าวทักทายซะอีก

กี่ครั้งแล้วที่สาว ๆ หนีเขาแบบนี้ คราวนี้จ๊อกบงจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีไปอีกคน เขารีบวิ่งตามออกมาโดยไม่มองดูตาม้าตาเรือ รถบรรทุกที่วิ่งมาทางตรงจึงสอยไอ้หนุ่มหน้ามนคนเลี้ยงวัวกระเด็นไปยี่สิบแปดตลบ

ยังดีที่จอกจงยังไม่ตาย แต่ก็อยู่ในอาการโคม่า โอกาสรอดแทบจะไม่มี … ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ทีมนักล่าปีศาจต้องการคนเพิ่มอยู่พอดี โมทักที่เฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดจึงมั่นใจว่า เจ้าหนุ่มจ๊อกบงนี่แหละเหมาะที่จะเป็นนักล่าปีศาจคนใหม่

ระหว่างนั้น จ๊อกบงที่นอนนิ่งอยู่ในห้องฉุกเฉินก็ได้ไปเฝ้ายมทูตในฝัน ยมทูตบอกว่าเจ้านี่แหละเหมาะที่จะเป็นนักล่าปีศาจ เพราะมีจิตใจดี “ตอนนี้คุณอยู่ในภาวะโคม่า อยู่ระหว่างความเป็นความตาย ถ้าคุณยอมเป็นเคาน์เตอร์นักล่าปีศาจ เราจะทำให้คุณฟื้นจากโคม่า” จากนั้น ยมทูตก็อธิบายทุกสิ่งอย่างกับเจ้าหนุ่มจ๊อกบง ท้ายที่สุดเขาก็ยอมรับการเป็นนักล่าปีศาจน้องใหม่ป้ายแดง

ณ ศาลอาญา … มาจูซอก (รับบทโดย จินซอนกยู) มาฟังการพิจารณาคดีฉ้อโกง ที่เขากับชาวบ้านอีกจำนวนมาก โดนไอ้พวกแก๊งต้มตุ๋นหลอกเอาเงินค่าคอนโดไป แต่เมื่อผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษายกฟ้อง ให้พวกแก๊งต้มตุ๋นไม่มีความผิด มาจูซอกกับภรรยาที่กำลังท้องแก่ก็ถึงกับคอตกด้วยความผิดหวัง เพราะเงินทั้งหมดที่เก็บมาตลอดทั้งชีวิตต้องสูญไป ไม่เหลือแม้แต่เงินค่าทำคลอดของลูกน้อยที่กำลังลืมตาดูโลก

แล้วจู่ ๆ ขณะที่หนึ่งในพวกแก๊งต้มตุ๋นเข้ามาในลิฟต์ มันก็เจอกับปีศาจทั้งสามที่มาทวงเงินของพวกมันคืน จังหวะนั้น ภรรยาของมาจูซอกเปิดลิฟต์มาพอดี ซวยล่ะงานนี้ … พวกปีศาจจัดการกับภรรยาท้องแก่ของมาจูซอกอย่างโหดเหี้ยม !

ขณะที่เหล่านักล่าปีศาจกำลังจมอยู่กับความทุกข์ที่เกิดจากความสูญเสีย ไอ้พวกปีศาจทั้งสามกลับได้เงินก้อนโต และใช้ชีวิตกินหรูอยู่แพงสบายใจ แต่ …

แต่พวกมันไม่พอใจกับสิ่งที่มี พวกมันมั่นใจว่าจะสามารถจัดการกับพวกเคาน์เตอร์ได้ไม่อยาก อย่างเช่นที่เคยทำมาแล้วที่ประเทศจีน สิ่งที่พวกมันต้องการคือพลังของเหล่าเคาน์เตอร์นั่นเอง

เคาน์เตอร์น้องใหม่

จ๊อกบงฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่า แล้วเข้ามาแนะนำตัวกับรุ่นพี่ แหม่ เพียงได้เจอแวบแรกแวบเดียวเท่านั้นแหละ เจ้าหนุ่มคนเลี้ยงวัวก็หลงรักฮานาเข้าอย่างจัง … ไอ้นี่ไม่รู้ฤทธิ์ของน้องฮานาซะแล้ว รำคาญจริง มาทำเป็นส่งสายตาปิ๊ง ๆ ๆ ฮานาเลยคว้าเอาไม้ถูพื้นมาฟาดจ๊อกบงให้ได้สติ “เค้าให้นายมาล่าปีศาจนะโว้ย”

ณ จุดนี้ สมาชิกนักล่าปีศาจมีทั้งหมดมีด้วยกัน 6 คน ทั้งหมดต้องร่วมแรงร่วมใจกับเจ้าปีศาจสุดแข็งแกร่งนี้ให้ได้

แล้วพวกปีศาจก็เข้ามาในเขตม่านพลัง ทำให้ฮานาตรวจจับได้ เหล่านักล่าปีศาจจึงรีบมุ่งหน้าไปจัดการกับพวกปีศาจร้ายทันที การต่อสู้ได้เริ่มขึ้น … ป้าชูแมอ๊ก ตกตะลึง เมื่อได้เห็นปีศาจสามารถรักษาตัวเองได้ “มันเป็นไปได้ยังไง ที่ปีศาจจะมีพลังแบบเดียวกับเคาน์เตอร์” !?

ด้านฮานาเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เมื่อเธอได้รู้ว่าปีศาจเหล่านี้เป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยต่อกรมา หรือว่าพวกมันจะเป็นปีศาจระดับสี่ ? ฮานารู้ในทันทีว่าเธอไม่สามารถสู้พวกมันได้ เธอยื้อเวลารอจนโมทักมาช่วย

โมทักมาแล้ว พร้อมด้วยพลังอันมหาศาลกระแทกเข้าไปที่ปีศาจจนแขนบิดงอ แต่ไอ้ปีศาจมันยิ้มเยาะ จากนั้นมันก็ใช้พลังรักษาแขนของมันให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม … ฮานาที่มองดูอยู่ถึงกับตกตะลึง นี่มันปีศาจบ้าอะไรเนี่ย ถึงได้มีพลังรักษาตัวเอง !

โซมุนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับม่านพลัง ด้วยพลังจิตอันสุดยอดของโซมุนจึงจัดการกับไอ้ปีศาจร้ายจนหนีไป

ต่อมา ฮานาไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูความทรงจำของไอ้แก๊งต้มตุ๋นที่นอนเป็นผักอยู่ ฮานาได้เห็นเหตุการณ์ตอนที่ภรรยาของมาจูซอกถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม เธอสาบานว่าจะล้างแค้นให้ได้ เพราะมาจูซอกก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวของเธอเช่นกัน

EP.3 ปีศาจที่น่ากลัวที่สุด

คังกียอง - โจกบองกยู ในซีรีส์ The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.3

พิลกวัง (รับบทโดย คังกียอง) ไปที่ร้านบะหมี่ โซมุนมานั่งคุยกับมัน ทั้งสองใช้พลังจิตต่อสู้กันอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ให้เด็ก ๆ ที่นั่งกินบะหมี่อยู่เต็มร้านได้รับอันตราย การดวลพลังจิตครั้งนี้ทำให้ได้รู้ว่า พลังของเจ้าปีศาจพิลกวังแข็งแกร่งกว่าโซมุน จากนั้น พิลกวังก็เดินออกจากร้านไปด้วยรวยยิ้มอย่างผู้ชนะ ทิ้งให้โซมุนกระอักเลือดทรุดลงไปกับพื้น

ระหว่างนั้น มาจูซอกก็ขับรถดับเพลิงไปขวางรถขนส่งนักโทษ เขาใช้ขวานพังประตูเข้าไปจนถึงตัวไอ้ชั่ว เขาต้องการจะฆ่าไอ้ชั่วที่ฆ่าภรรยาเขาให้ตายคามือ ฟันมันให้เละหัวแบะด้วยขวานที่อยู่ในมือ ยังดีที่โมทักมาห้ามเอาไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะทำอะไรลงไป แต่ถึงอย่างนั้น มาจูซอกก็ต้องเข้าคุกกับความผิดที่ก่อ

มาจูซอกยังรู้สึกผิดที่ไม่สามารถฆ่าไอ้ชั่วได้ เขาไม่สามารถล้างแค้นให้ภรรยาของเขาได้ ในคุก เขานั่งหมดอาลัยตายอยากด้วยความเศร้าและความแค้น แล้วจู่ ๆ ก็มีนักโทษขาเกรียนเข้ามายั่วโมโห “แกเองน่ะเหรอ ที่ติดคุกเพราะโง่ที่ฆ่าคนที่ฆ่าเมียแกไม่ได้ แกนี่มันโง่จริง ๆ” มาจูซอกระงับความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ สาวหมัดซัดไอ้เกรียนนั่นจนสลบคาพื้น

ณ ห้องขังเดี่ยว นาทีนี้มาจูซอกดำดิ่งลงไปลึกสุดของเหวอันเว้งว้าง จิตใจเขาถูกความเศร้าครอบงำจนหมดสิ้นซึ่งความหวังแล้ว เขาใช้เสื้อตัวเองผูกกับลูกกรงเหล็ก มาจูซอกเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองไปซะ

แต่ก่อนที่มาจูซอกจะสิ้นลมหายใจ เจ้าวิญญาณชั่วร้ายก็วิ่งเข้าร่างของเขา “ความเศร้าและความโกรธที่อยู่ในตัวเจ้าเรียกข้า” ในที่สุดวิญญาณร้ายก็เข้าสิงร่างมาจูซอกโดยสมบูรณ์ !

ในขณะที่โมทักฝึกการต่อสู้ เขารู้สึกได้ว่าพลังของเขาอ่อนแอลงมาก จนกลายเป็นจุดอ่อนของทีม เขาคิดว่ามันคงถึงเวลาที่เขาต้องเกษียณตัวเองซะที

คิมเซจอง

ตัดมาที่ฮานา ระหว่างกำลังพาเจ้าเด็กใหม่จ๊อกบงวิ่งออกกำลังกาย เธอบังเอิญเจอกับชายหนุ่มซึ่งเป็นรักแรกของเธอสมัยเรียนมัธยมปลาย ชายหนุ่มเห็นฮานาแวบแรกก็จำได้ทันทีจึงเข้ามาทักทาย แต่ฮานาพยายามปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่ฮานา

หลังจากนั้นไม่นาน ฮานาก็ตรวจจับเจ้าปีศาจได้ มันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ … ชังมุล (รับบทโดย อันซอกฮวาน) กับป้าชูที่อยู่ใกล้ไปถึงพิพิธภัณฑ์ก่อน นักล่าปีศาจรุ่นเก๋าลายครามมองไปที่พิลกวังด้วยความหวั่นเกรง ป้าชูเคยเห็นพลังของมันหลายครั้ง ป้ารู้ดีว่ามันไม่ใช่ปีศาจกระจอก ๆ

แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ชังมุลถูกมันจัดการอย่างง่ายตายจนลงไปนอนแน่นิ่งเลือดกบปากอยู่กับพื้น ก่อนที่พิลกวังจะใช้พลังจิตบังคับให้ป้าชูหยิบหอกแทงเข้าไปที่หัวของชังมุล ป้าชูสู้สุดกำลัง แม้พลังของป้าจะอ่อนด้อยกว่ามันมาก แต่ป้าก็พยายามฝืนอย่างเต็มที่ ปลายแหลมของโลหะที่ปลายหอกจ่อเข้าไปที่หัวของชังมุล ทันใดนั้นเอง หอกในมือของป้าชูก็กระเด็น พุ่งเฉียดหน้าเจ้าพิลกวังก่อนจะไปปักที่ผนัง

โซมุนมาทันเวลาพอดี เขาใช้พลังจิตช่วยป้าชูกับชังมุลเอาไว้ได้

EP.4 ถ้าย้อนเวลากลับไปได้

รีแคปซีรีส์ The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.4 : คังกียอง - โจบยองกยู

การดวลเดี่ยวระหว่างพิลกวังกับโซมุนได้เริ่มต้นขึ้น แม้เบื้องต้นจะดูสูสี ทว่าโซมุนกลับพลาดท่า โดนพิลกวังใช้พลังซัดไปติดกำแพง มันค่อย ๆ ใช้พลังบีบร่างของโซมุนให้แตกสลาย

โซมุนกำลังจะตาย ? ใช่เขากำลังจะตาย แต่เขาไม่ยอมง่าย ๆ หรอก ในหัวของโซมุนในตอนนี้คิดถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับมาจูซอก คำสัญญาที่จะล้างแค้นให้เขากับภรรยา เขาต้องรักษาสัญญาฆ่าไอ้ปีศาจหัวตนนี้ให้ได้ ทันใดนั้นเอง โซมุนก็ระเบิดพลังออกมา แต่ปีศาจพิลกวังไม่ได้โง่ เมื่อมันรู้ว่าสถานการณ์พลิกมันจึงรีบหนีหางจุกตูดไปทันที

ถึงการต่อสู้ครั้งนี้ เจ้าปีศาจพิลกวังจะรอดไปได้ แต่หนึ่งในลูกสมุนของมันก็โดนป้าชูกับโมทักสวดส่งวิญญาณกลับไปปรโลกได้สำเร็จ

ณ จุดนี้ พิลกวังรู้แลัวว่า พลังของมันไม่อาจเทียบกับพลังของโซมุนได้เลย นี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้มันต้องการครอบครองพลังของโซมุน คืนนั้น มันนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างแล้วก็ครุ่นคิดวิธีการเอาชนะโซมุน

และเพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จ คืนนั้นทีมเคาน์เตอร์จึงจัดงานเลี้ยงฉลอง ที่เด็ดก็คือ ป้าชูมาในลุคสาวสุดเซ็กซี่ เต้นรำกับชังมุล ท่ามกลางรอยยิ้มของสมาชิกในทีม … โอ๊ย อย่างฮา

พลังดมกลิ่นปีศาจ

หลังจบงานเลี้ยง เด็กใหม่จ๊อกบงก็นอนจมอยู่กับความคิดที่จะออกจากทีม เพราะความสามารถในการ ‘ดมกลิ่นปีศาจ’ ของเขาจู่ ๆ ก็ใช้งานไม่ได้ขึ้นมา มันเป็นความสามารถเดียวที่เขามี ถ้าปราศจากความสามารถนี้ เขาก็ไร้ประโยชน์ แม้เพื่อน ๆ ในทีมจะคอยให้กำลังใจ “อาจจะเป็นแค่นายยังไม่คุ้นกับพลังก็ได้นะ” ส่วนโมทักก็พยายามอธิบาย “บางทีมันอาจแค่หายไปชั่วคราวเท่านั้นแหละ คิดมาก”

วันต่อมา จ๊อกบงจึงตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฟาร์มวัวเหมือนเดิม พร้อมกับความรู้สึกอ่อนแอขี้แพ้ … แต่เขาไม่รู้หรอกว่า ถึงจะหนียังไง เมื่อเป็นเคาน์เตอร์แล้วก็หนีปีศาจไม่พ้น

วันหนึ่ง จ๊อกบงพบลูกชายผู้ใหญ่บ้านเป็นปีศาจ แต่การต่อสู้อันอ่อนด๋อยของจ๊อกบง จึงไม่สามารถต่อกรกับปีศาจได้เลย ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ จู่ ๆ พลังรับรู้กลิ่นปีศาจ พร้อมด้วยพลังการต่อสู้อันแข็งแกร่งก็กลับมาเฉยเลย นาทีนี้ จ๊อกบงไม่ใช่เคาน์เตอร์อ่อนด๋อยอีกต่อไปแล้ว เขาจัดการเจ้าปีศาจระดับหนึ่งหน้าโง่ได้อย่างง่ายดาย … จ๊อกบงมาว่ะ 555

แล้วจ๊อกบงก็ได้เรียนรู้วิธีการสวดส่งวิญญาณเจ้าปีศาจร้ายไปสู่ปรโลกเป็นครั้งแรก

ภาพหน้าจอซีรีส์ The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.4 - จินซอนกยู - คังกียอง - โจบยองกยู

เมื่อถึงวันพิจารณาคดีของมาจูซอก เขาต้องต่อสู้กับเสียงวิญญาณร้ายในหัว วิญญาณปีศาจร้ายที่คอยบอกให้เขาปะทุความโกรธออกมา

ในห้องพิจารณาคดี พยานทุกคนต่างแสดงความเห็นอกเห็นใจมาจูซอกต่อหน้าผู้พิพากษา ด้านทนายก็ย้ำให้เขาแสดงความสำนึกผิด เพื่อจะได้รับโทษสถานเบาที่สุด …

มาจูซอกออกไปยืนต่อหน้าบัลลังก์ เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าเรียบเฉย “ถ้าผมย้อนกลับไปได้ในตอนนั้น ผมจะฆ่าเขาให้ตายคามือ” !

EP.5 สิงสู่

ปีศาจพิลกวังเข้าไปฟังการพิจารณาคดี มันสังเกตเห็นแววตาของมาจูซอกไม่เหมือนแววตาของมนุษย์ทั่วไป มันรู้ในทันทีว่าเวลานี้มีวิญญาณร้ายสิงสู่อยู่ในร่างของเขา เป็นเพียงแต่ความที่มาจูซอกเป็นคนมีจิตใจดี ทำให้สามารถกดวิญญาณร้ายไม่ให้แสดงออกมาชัดเจน

ด้านเหล่าเคาน์เตอร์คิดจะปิดเกมเร็ว นอกจากได้จัดการปีศาจร้ายแล้วยังช่วยให้มาจูซอกได้รู้ความจริง โซมุนจึงเสนอให้ขับรถตระเวนโดยใช้ความสามารถในการดมกลิ่นของจ๊อกบง ซึ่งสามารถดมกลิ่นปีศาจได้ไกลในรัศมี 3 กิโลเมตร

จ๊อกบงตามกลิ่นปีศาจสาวแกลลี่ (รับบทโดย คิมฮีออรา) แฟนของพิลกวังมาถึงโกดังแห่งหนึ่ง แต่ทว่าสกิลการหนีหางจุกตูดของปีศาจสาวไม่ธรรมดาเลย โซมุนและเพื่อน ๆ จึงไล่ตามมันไม่ทัน

แกลลี่กลับมาที่คอนโด เธอโผเข้าไปกอดพิลกวังด้วยความหวาดกลัว “พวกมันดมกลิ่นเราได้ ไม่นานมันจะตามหาเราเจอ” พิลกวังไม่คิดเช่นนั้น ถ้าพวกเคาน์เตอร์ดมกลิ่นมันได้ ทำไมถึงไม่มาที่นี่ทันที ?

ระหว่างนั้น ฮานากับหนุ่มนักเปียโนรักแรกของเธอก็ค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์กันจนแนบแน่น ความหลังเมื่อวัยเด็กทำให้เธอไม่อาจต้านทานความรู้สึกตัวเองได้ … ด้านป้าชูก็อดฟินไม่ได้ที่แอบดูฮานากำลังสวีตหวานแหววกับหนุ่มหล่อ ป้าชูถึงกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกมาด้วยความปลื้มปริ่ม

คืนนั้น พิลกวังบุกเข้าไปหามาจูซอกในคุก มันพยายามแสดงและกระตุ้นให้มาจูซอกยอมรับวิญญาณชั่วร้ายที่สิงอยู่ในร่าง เพราะพลังนั้นจะทำให้เขาล้างแค้นคนที่ฆ่าภรรยาและลูกในท้องได้

ณ จุดนี้ มาจูซอกโดนบีบทั้งจากภายในและภายนอก ในที่สุดมาจูซอกก็ยอมรับวิญญาณชั่วร้ายที่สิงสู่อยู่ในร่าง

รุ่งขึ้น นักโทษที่เคยถูกมาจูซอกต่อยเบ้าหน้าจนสลบเหมือด พาเพื่อน ๆ มาเอาคืน พวกมันกะจะชำระแค้นมาจูซอกให้ตายคามือด้วยเหล็กแหลมในมือ แต่ทว่า มาจูซอกตอนนี้ไม่ใช่มาจูซอกคนดีคนเดิมอีกต่อไป เขาได้รับพลังปีศาจจนมนุษย์ธรรมดาทั้งสามไม่อาจแตะเขาได้แม้แต่ปลายเล็บ มาจูซอกให้พลังซัดเดนมนุษย์ทั้งสามลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย ก่อนที่เขาจะกระโดดข้ามกำแพงคุกออกมา

EP.6 การต่อสู้ที่น่าอึดอัด

เมื่อรู้ข่าวการแหกคุกของลุงมา (มาจูซอก) ทั้งโซมุน ฮานา และทีมเคาน์เตอร์ต่างก็พากันออกตามหา จนมาเจอที่บ้านแม่ลุงมา ซึ่งมีกำลังเจ้าหน้าที่ซุ่มรออยู่แล้ว

ลุงมาร่ำลาแม่ทั้งน้ำตา ก่อนจะออกมาเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่นับสิบที่มีอาวุธครบมือ พลังของลุงมาตอนนี้แข็งแกร่งเหลือเกิน แค่สะบัดมือไปมา เหล่าเจ้าหน้าที่ก็กระเด็นไปกันคนละทิศละทาง ฮานาเองก็ต้องหลบพลังอันรุนแรงของลุงมาเช่นกัน แล้วเธอก็อาศัยจังหวะนั้นเข้าไปเกลี้ยกล่อมลุงมา แต่ก็ไร้ผล ลุงมายืนยันจะเดินในทางที่เขาเลือกแล้ว

กลายร่างเป็นปีศาจโดยสมบูรณ์

เหล่าเคาน์เตอร์มาประชุมกับเหล่ายมทูตเรื่องลุงมา ยมทูตตั้งข้อสังเกตว่า ความดีในตัวเขายังคงต่อต้านปีศาจร้ายได้อยู่ ทำให้เขายังไม่ลงมือฆ่าใคร แม้จะมีพลังที่แข็งแกร่งอาจจะเทียบเท่าปีศาจระดับสี่ แต่เมื่อไรก็ตามที่เขาลงมือฆ่าคนแม้แต่คนเดียว ตอนนั้นเขาจะกลายร่างเป็นปีศาจโดยสมบูรณ์

นั่นหมายความว่า ต้องช่วยดึงปีศาจออกจากร่างลุงมาให้เร็วที่สุด ก่อนที่ลุงมาจะลงมือฆ่าใคร

ด้านพิลกวังก็เห็นเช่นกัน มันเห็นว่าความมีจิตใจดีของลุงมา ยังคงต่อต้านวิญญาณร้ายที่สิงสู่อยู่ในร่างอย่างสุดฤทธิ์ พิลกวังจึงส่งปีศาจสาวแกลลี่ไปยั่วความโกรธแค้นในตัวลุงมาให้ลุกโชน แล้วนังปีศาจแกลลี่ก็ทำสำเร็จ

ลุงมาไปหาไอ้ชั่วที่เชื่อว่าเป็นคนฆ่าภรรยาของเขา ลุงมาซัดเปรี้ยงเดียว ไอ้ชั่วก็ตายคามืออย่างง่ายดาย โซมุนกับฮานารีบตามมาทันที แต่สายไปซะแล้ว ลุงมากำลังดูดวิญญาณของไอ้ชั่ว ณ ตอนนี้ ลุงมากลายร่างเป็นปีศาจโดยสมบูรณ์

ลุงมาใช้หางตามองไปที่เคาน์เตอร์ทั้งสอง ก่อนจะซัดพลังออกไป ฮานาโดนพลังเข้าเต็ม ๆ ถึงกับกระอักเลือด โซมุนตวาดลั่นออกมาใส่หน้าปีศาจลุงมา “ในเมื่อลุงไม่เชื่อผม คราวนี้ผมจะไม่ปล่อยลุงไว้แน่”

EP.7 เพลิงแค้น

โซมุนเหลืออด ตวาดลั่นใส่ปีศาจลุงมา เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้อีกต่อไป การต่อสู้ระหว่างโซมุนกับปีศาจลุงมาจึงได้เริ่มต้นขึ้น หลังปะทะกันพักหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าโซมุนแข็งแกร่งกว่าเยอะ ก่อนจะซัดปีศาจลุงมาลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น

ขณะกำลังทำการสวดส่งวิญญาณปีศาจลุงมาลงไปสู่นรกภูมิ โซมุนเกิดลังเล เขาทำใจยากเหลือเกินที่จะส่งคุณลุงผู้แสนดีลงนรก ทันใดนั้น พิลกวังกับแกลลี่ก็ปรากฏตัวขึ้น มันจัดการฮานาที่ได้รับบาดเจ็บอยู่เพื่อดึงความสนใจโซมุน โซมุนจึงต้องปล่อยปีศาจลุงมา เพื่อไปช่วยฮานาที่เสียท่าให้แกลลี่

อย่างไรก็ตาม ปีศาจยังไม่สามารถเข้าควบคุมร่างของลุงมาได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ มันยังต้องการให้เพลิงแค้นของลุงมาลุกโชนมากขึ้นกว่านี้ เมื่อรู้เช่นนี้ พิลกวังจึงชี้เป้าหมายการล้างแค้นต่อไปให้กับลุงมา คนคนนั้นคือ อีชุงแจ ประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้มตุ๋นเงินภรรยาของลุงมา

ชื่ออีชุงแจ ทำให้ลุงมาหวนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ที่ไอ้ชั่วอีชุงแจทำกับภรรยาของเขา … วันนั้น ภรรยาลุงมาไปคุกเข่าขอเงินคืนต่อหน้าอีชุงแจ เพราะมันเป็นเงินที่เธอกับลุงมาช่วยกันเก็บมาทั้งชีวิต แต่ไอ้เลวนั่นด่าทอเธออย่างกับหมูกับหมา ไม่เท่านั้น ประธานแพ็กดูยังถุยน้ำลายให้หน้าเธออีกด้วย

ด้านเหล่าเคาน์เตอร์ก็คาดการณ์เป้าหมายการล้างแค้นต่อไปของปีศาจลุงมา พวกเขาคิดว่า อีชุงแจ พวกเขาจึงออกตามหาอีชุงแจทันที ปัญหาคือพวกเขาตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอ อีชุงแจหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

คิมเซจอง - ฮีออรา

ระหว่างนั้น ฮานาก็ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับ โดฮวี หนุ่มรักแรกของเธอ เนื่องจากไม่ต้องการให้เขาได้รับอันตราย ทันใดนั้น ปีศาจสาวแกลลี่ก็เข้าล็อกคอโดฮวีจากด้านหลัง โดยใช้สนับมือเหล็กแหลมจ่อไปที่คอหอยของเขา

ฮานาปล่อยพลังเข้าสู้เพื่อช่วยชายหนุ่ม แต่กลับโดนปีศาจสาวซัดพลังใส่และเข้าทำร้ายที่ลูกตา ฮานาแทบจะสูญเสียการมองเห็น ไอ้ปีศาจชั่วมันแค้นฮานาที่ทำมันสูญเสียดวงตาซ้าย แต่ก่อนที่ปีศาจสาวแกลลี่จะซัดพลังใส่ฮานา โดฮวีก็เอาร่างของตัวเองมาขวางเอาไว้จนเขาได้รับบาดเจ็บจนร่างทรุดลงไปกองกับพื้น

EP.8 ความทรงจำที่หายไป

หลังฮานาช่วยโดฮวี ชายหนุ่มรักแรกของเธอให้พ้นจากเงื้อมมือปีศาจสาวแกลลี่ได้สำเร็จ ฮานาก็เข้าดวลเดี่ยวกับแกลลี่ด้วยความโกรธแค้น แต่ระหว่างที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น จู่ ๆ พิลกวังก็ปรากฏตัวขึ้น มันไม่ได้มาเพื่อช่วยแกลลี่ แต่มันมาเพื่อสังหารแกลลี่และฮานาไปพร้อม ๆ กัน เพราะมันต้องการดูดพลังของทั้งสอง

ไม่ง่ายอย่างนั้น ฮานาใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่มี ปล่อยพลังจิตซัดพิลกวังจนบาดเจ็บ จากนั้นก็พาร่างของโดฮวีหนีไป

ฮานาพาโดฮวีกลับมาฐาน ป้าชูใช้พลังรักษาโดฮวี แล้วฮานาก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ยากลำบาก นั่นคือการลบความทรงจำของโดฮวีในส่วนที่มีเธอออก เขาจะจำเธอไม่ได้อีกต่อไป ที่ฮานาจำเป็นต้องทำแบบนี้เพราะไม่ต้องการให้เขาได้รับอันตราย

หลายวันต่อมา โดฮวีหายดีและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ฮานาวิ่งออกกำลังกายผ่านโรงเรียนสอนเปียโนของโดฮวี เขาได้แต่มองหน้าเธอด้วยสายตาของคนไม่รู้จัก ก่อนที่เธอจะวิ่งผ่านไปด้วยรอยยิ้ม

กลิ่น

เป้าหมายต่อไปของปีศาจลุงมาคือ ประธานแพ็กดู ประธานชั่วที่โกงเงินและถุยน้ำลายใส่ภรรยาของเขา แต่ก่อนที่ปีศาจลุงมาจะซัดหมัดเข้าใส่ประธานแพ็กดู โมทักก็เข้ามาขัดขวาง ทั้งสองจึงดวลเดี่ยวกันหมัดต่อหมัด ทว่า ปีศาจลุงมาแข็งแกร่งเกินไป “ตายซะ” ปีศาจลุงมาบีบคอโมทัก อีกแค่ไม่กี่วินาทีโมทักก็จะขาดอากาศหายใจ เวลานั้น จู่ ๆ จิตใจด้านดีของลุงมาก็ทำงาน โมทักจึงรอดชีวิต

ระหว่างนั้น ประธานแพ็กดูจึงรีบขับรถหนีไป ปีศาจลุงมาเองก็ต้องหนีเช่นกัน เพราะโซมุนและเคาน์เตอร์คนอื่น ๆ มาถึงแล้ว

สูงจนม่านพลังขึ้นไปไม่ถึง

ต่อมา เคาน์เตอร์ร่วมกันวางแผนไล่ล่าหาที่กบดานของพิลกวัง พวกเขาใช้ความสามารถในการดมกลิ่นปีศาจของจ๊อกบง ซึ่งก่อนหน้านี้ ฮานาได้ดูความทรงจำของแกลลี่ เธอจึงเห็นว่ามันอยู่ในห้องพักหรูบนตึกสูง

ในที่สุด จ๊อกบงก็ดมกลิ่นเจอว่าพวกมันอยู่บนชั้น 123 ห้องสวีทของโรงแรมหรู ที่แท้พวกมันอยู่บนตึกระฟ้านี่เอง จึงทำให้จ๊อกบงไม่ได้กลิ่น … แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ ม่านพลังของโซมุนก็ขึ้นมาไม่ถึงเพราะอยู่สูงเกินไป !

ณ ตึกระฟ้า ชั้น 123 เคาน์เตอร์ไม่มีม่านพลัง ที่จะทำให้พลังของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ! ตรงกันข้ามกับไอ้พวกปีศาจ พวกมันไม่จำเป็นต้องใช้ม่านพลังก็มีพลังอันแข็งแกร่ง แล้วพิลกวังก็ปรากฏตัวขึ้น มันหัวเราะเยาะใส่โซมุน จากนั้นมันก็ปล่อยพลังซัดเคาน์เตอร์จนร่วงลงไปนอนกองกับพื้นทีละคน ๆ

The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.8

ความปรารถนาของพิลกวังใกล้เป็นจริงแล้ว สิ่งที่มันต้องการมากที่สุดคือพลังของโซมุน พิลกวังค่อย ๆ เดินมาหาโซมุนเพื่อดูดพลัง ทันใดนั้น แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ปรากฏตัวขึ้น ปีศาจสาวแกลลี่

แกลลี่ซัดพิลกวังกระเด็นไปไกล ก่อนที่จะดวลเดี่ยวกับโซมุน แม้จะไม่มีม่านพลังแต่ดูเหมือนพลังของแกลลี่จะไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะจัดการกับโซมุนได้ “ฉันมีพลังไม่พอที่จะฆ่าแก แต่ถ้าฉันลบความทรงจำของแกล่ะ พลังที่แกได้รับมาก็จะหายไป”

แกลลี่ลบความทรงจำของโซมุน พลังของเขาก็หายไปด้วย … แกลลี่หันไปหัวเราะอย่างผู้ชนะใส่หน้าพิลกวัง เธอรู้ว่าพิลกวังต้องการพลังของโซมุนมากที่สุด แต่เวลานี้มันไม่มีแล้ว ปีศาจสาวแกลลี่หัวเราะเสียงดังลั่นอยู่อย่างนั้นนานนับนาที

EP.9 สู้ ๆ นะ โซมุน

โซมุนถูกแกลลี่ลบความทรงจำจนทำให้เขาหมดสติไป หลังจากนั้นก็เกิดการตะลุมบอนขึ้น แต่ด้วยความที่ไม่มีม่านพลัง ทำให้เหล่าเคาน์เตอร์สู้พิลกวังกับจูซอกไม่ได้เลย ทันใดนั้น ลุงชเวก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับปืนกลสงคราม ลุงแกสาดกระสุนนับร้อยนับพันนัด ไอ้ปีศาจหน้าโง่ที่มีพลังแข็งแกร่งกลับวิ่งหนีกระสุนหัวซุกหัวซุน เหล่าเคาน์เตอร์อาศัยจังหวะนั้นพากับหลบหนีออกมาได้

ป้าชูพยายามใช้พลังรักษาโซมุนแต่ก็ไร้ผล โซมุนยังนอนนิ่งไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น … ณ ที่ประชุมยมทูต ทุกคนพยายามระดมสมองเพื่อหาทางช่วยโซมุน แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางที่จะกู้คืนความทรงจำที่ถูกลบไปได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวัง ป้าชูก็ลุงขึ้นพูดต่อหน้าทุกคน ยังไงก็ต้องช่วยให้โซมุนฟื้นขึ้นมาให้ได้

สวดส่งวิญญาณปีศาจสาวไปลงนรก

เมื่อยังไม่รู้วิธีช่วยโซมุน เหล่าเคาน์เตอร์จึงตกลงกันว่าจะออกไปจัดการแกลลี่ก่อน เพราะนังปีศาจแตกคอกับพิลกวัง ซึ่งจัดการได้ไม่ยาก ฮานาวางแผนใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้แกลลี่เข้าไปอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ก่อนจะจัดการตาของนังปีศาจชั่วอีกข้างให้มืดบอดสนิท ณ เวลานี้ปีศาจสาวอยู่ในโลกอันมืดสนิท แล้วฮานาก็จัดการสวดส่งวิญญาณมันไปลงนรก

ระหว่างตำรวจกำลังพาตัวแกลลี่ไปโรงพัก พิลกวังมาดักรอระหว่างทาง มันไม่ได้มาช่วยแต่มันมาฆ่าเพื่อเอาพลังของแกลลี่ ทำให้ตอนนี้พิลกวังแข็งแกร่งขึ้นไประดับแล้ว

ฉันจะพาโซมุนกลับมาให้ได้

“ฉันจะต้องพาโซมุนกลับมาให้ได้” ฮานาตัดสินใจที่จะเข้าไปในจิตของโซมุน เธอต้องพาเขากลับมาให้ได้ โซมุนที่ตอนนี้เข้าไปหลบซ่อนอยู่ในส่วนที่ลึกของจิตใจ ลึกขนาดที่ฮานาอาจไม่มีวันกลับออกมาได้เช่นกัน แต่เธอพร้อมที่จะเสี่ยง เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้โซมุนฟื้น และโซมุนก็เป็นกำลังหลักที่แข็งแกร่งพอที่จะสู้กับไอ้ปีศาจชั่วพิลกวังได้

รีแคปซีรีส์ The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.9 : สู้ ๆ นะ โซมุน

ฮานาเข้าไปในจิตโซมุนและโน้มน้าวเขาให้กลับออกมา โซมุนที่ตอนนี้คิดว่าทุกคนตายไปหมดแล้ว โซมุนที่จมอยู่กับความท้อแท้สิ้นหวัง ฮานาต้องทำให้เขากล้าลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง เธอต้องทำให้ได้ “เรามาร่วมมือกันสู้อีกครั้งเถอะนะ”

“ไม่ล่ะ ตอนนี้ผมเหนื่อยจนไปต่อไม่ไหวแล้ว” โซมุนพูดน้ำเสียงอ่อย ๆ

แต่โซมุนตัวจริงไม่มีวันยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนั้น โซมุนตัวจริงต้องกล้าที่จะลุกขึ้นสู้ มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ โซมุนเริ่มหลั่งน้ำตาออกมา ก่อนจะโผเอากอดฮานา “ผมขอโทษนะที่ปล่อยให้ทุกคนรอนาน”

EP.10 เล่นแร่แปรร่าง

เมื่อโซมุนสูญเสียพลัง เป้าหมายของพิลกวังก็เปลี่ยนไป มันคิดจะดูดพลังของปีศาจลุงมาแทน พิลกวังใช้พลังอันร้ายกาจเข้าโจมตีปีศาจลุงมา แล้วจู่ ๆ ม่านพลังก็ปรากฏขึ้น เรื่องที่น่าแปลกคือปีศาจลุงมาได้รับพลังเพิ่มจากม่านพลังเหมือนพวกเคาน์เตอร์ พิลกวังงงเป็นไก่ตาแตก นี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่ !? เพราะกฏคือ ปีศาจจะไม่สามารถใช้ม่านพลังได้

ปีศาจลุงมามีพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณจากม่านพลัง พิลกวังโดนซัดทีเดียวถึงกับกระอักเลือดล้มลงไปนอนนิ่งอยู่กับพื้น พลังมหาศาลเหล่านั้นมาจากไหนไม่มีใครรู้ ไม่มีใครรู้จริง ๆ ว่าทำไมปีศาจลุงมาถึงมีความสามารถเดียวกับเคาน์เตอร์ ?

เวลาเดียวกันนั้น เหล่าเคาน์เตอร์นักล่าปีศาจร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกันเป็นมื้อแรกหลังจากโซมุนฟื้นขึ้นมา ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แต่หน้าที่กำจัดเหล่าปีศาจชั่วยังไม่จบ

คำถามที่ไม่มีคำตอบ

รุ่งขึ้น ระหว่างนำตัวอีชุงแจจากศาลเข้าเรือนจำ เหล่าเคาน์เตอร์มาช่วยคุ้มกัน พวกเขามั่นใจว่าปีศาจลุงมาต้องตามมาล้างแค้นอีชุงแจแน่นอน แล้วก็เป็นอย่างที่คาด แต่ที่ไม่ได้คาดคือ ปีศาจลุงมามีพลังจิตที่แข็งแกร่งอย่างที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน พลังที่เพียงวาดมือไปมา เหล่าเคาน์เตอร์ก็ไม่อาจตามมาได้ ก่อนที่ปีศาจลุงมาจะชิงรถบัสรับส่งนักโทษไป

โซมุนตามมาที่หลัง ก็รีบวิ่งหน้าตั้งตามปีศาจลุงมาไป เมื่อไปถึงเขาก็กางม่านพลังออกมา แต่แล้วโซมุนก็ต้องตกตะลึง เมื่อม่านพลังที่เขากางออกทำให้ปีศาจลุงมามีพลังมหาศาล พลังที่มากถึงขนาดที่ตัวโซมุนเองมิอาจต้านทานได้ ยังโชคดีที่ความดีของตัวลุงมายังหลงเหลืออยู่ ปีศาจลุงมาจึงปล่อยโซมุนไป

หลังการปะทะกับปีศาจลุงมา เหล่าเคาน์เตอร์ไปประชุมกับยมทูต ทำไมปีศาจที่กลายร่างสมบูรณ์แล้วถึงใช้ม่านพลังได้ ? คำถามที่แม้แต่ยมทูตเองก็ไม่มีคำตอบ เมื่อไม่มีคำตอบ ทางเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือหยุดกางม่านพลัง

ระหว่างนั้น ฮานาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวจนรู้ว่า ผู้บงการอยู่เบื้องหลังแก๊งฉ้อโกงที่มีมูลค่า 1.2 แสนล้านวอน (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) ก็คือพิลกวัง

คังกียอง - จินซอนกยู

หัวในกล่อง

พิลกวังเคลื่อนไหวแล้ว มันสังหารอีชุงแจอย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่จะตัดหัวใส่กล่องแล้วเดินไปหานักข่าว พิลกวังมันต้องการออกสื่อไปทั่วประเทศเพื่อเผยความจริงเกี่ยวกับคดีฉ้อโกง พิลกวังพูดต่อหน้ากล้องที่กำลงถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ มันสารภาพว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฉ้อโกง ที่สำคัญมันยังประกาศด้วยว่ามันเป็นคนฆ่าเมียของลุงมา

พิลกวังต้องการใช้สื่อล่อตัวปีศาจลุงมา ซึ่งมันได้ผลลจริง ๆ ปีศาจลุงมาตามมาล้างแค้นทันที แค้นที่พร้อมจะฆ่าไอ้ปีศาจชั่วพิลกวังให้ตายคามือ ปีศาจลุงมาสะบัดมือนิดเดียว พิลกวังก็คอหักตายอย่างง่ายดาย จากนั้นปีศาจลุงมาก็ค่อย ๆ ดูดพลังของพิลกวัง

แต่ทว่า ทั้งหมดเป็นแผนของปีศาจพิลกวัง เมื่อปีศาจในตัวพิลกวังถูกดูดเข้าไป ปีศาจพิลกวังก็เข้าไปจัดการกับปีศาจในตัวลุงมา เท่ากับว่าตอนนี้ ปีศาจพิลกวังเข้าควบคุมร่างลุงมาได้โดยสมบูรณ์แล้ว !

EP.11 จิตส่วนดีที่ยังคงอยู่

ปีศาจพิลกวังเข้าไปยึดร่างของลุงมาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับพลังปีศาจระดับบอสใหญ่

ในที่ประชุม ยมทูตบอกกับเหล่านักล่าปีศาจว่า พิลกวังยังไม่ตาย แต่มันเข้าไปควบคุมร่างของลุงมาโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่เพียงเท่านั้น เรื่องที่อันตรายยิ่งกว่าก็คือ ปีศาจลุงมาในตอนนี้สามารถหาเคาน์เตอร์เจอได้ด้วยม่านพลัง นั่นหมายความว่า จากนี้เคาน์เตอร์จะไม่สามารถใช้ม่านพลังได้อีกต่อไป เพราะจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย

ยมทูตสั่งให้เคาน์เตอร์กำจัดปีศาจลุงมาซะ เพราะตอนนี้มันกลายเป็นปีศาจร่างสมบูรณ์แล้ว

อย่างไรก็ตาม โซมุนก็ไม่เห็นด้วยกับการกำจัดปีศาจลุงมา เพราะเขาต้องการช่วยวิญญาณบริสุทธิ์ของลุงมาที่อยู่ในร่างปีศาจ แล้วจะทำยังไงล่ะ ?

วิธีการคือ โซมุนขอให้ฮานาช่วยใช้พลังทำให้เขาเข้าไปด้านในจิตของลุงมา … โซมุนเข้าไปด้านในที่มีแต่ความดำมืด ระหว่างที่อยู่ด้านใน โซมุนถูกปีศาจพิลกวังทำร้าย ยังดีที่ลุงมามาช่วยเอาไว้ โซมุนจึงหลุดออกมาได้

วันหนึ่ง โมทักกับตำรวจคู่หูบังเอิญไปเจอปีศาจลุงมาโดยบังเอิญ คู่หูของโมทักถูกปีศาจลุงมาจัดการอย่างง่ายดาย โมทักรีบหนีออกมา แล้วกลับไปที่ฐานเพื่อเอาอาวุธสงครามไปจัดการกับปีศาจชั่วเพื่อล้างแค้น โมทักเสียใจจนสติแตก … เหล่าเคาน์เตอร์พยายามเตือนสติโมทัก การทำอะไรวู่วามอาจทำทุกคนตกอยู่ในอันตราย

วันต่อมา โมทักได้รับแจ้งว่าคู่หูของเขายังไม่ตาย และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ฮานาจึงรีบตามไป เธอใช้พลังดูความทรงจำ ทำให้ได้รู้ว่าลุงมาช่วยคู่หูของโมทักเอาไว้

วันเดียวกัน ปีศาจลุงมาบุกมายังฐานของเคาน์เตอร์ พลังของปีศาจลุงมาแข็งแกร่งเหลือเกิน มันสะบัดมือปล่อยพลังออกไปนิดเดียวก็ทำให้ ป้าชู โมทัก และฮานา กระเด็นลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น เมื่อไม่สามารถเปิดใช้ม่านพลังได้ เหล่าเคาน์เตอร์ก็ยากที่จะรับมือ ในทางกลับกัน ถ้าเปิดใช้ม่านพลังก็ยิ่งเพิ่มพลังให้ปีศาจลุงให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก ทำยังไงล่ะทีนี้ ?

รีแคปซีรีส์ The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.11

โซมุนจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เขาเดินไปเปิดการทำงานของระเบิดเวลา จากนั้นก็ล็อกห้องขังตัวเองให้อยู่กับปีศาจลุงมา โซมุนกะลุยเดี่ยวกับปีศาจลุงมาแล้วรอเวลาให้ระเบิดทำงานแล้วตายไปด้วยกัน แต่ …

แต่พลังของปีศาจชั่วมันแข็งแกร่งจริง ๆ มันใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็จัดหนักจนโซมุนแทบปางตาย … แผนของโซมุนล้มเหลวไม่เป็นท่า เหล่าเคาน์เตอร์จึงช่วยกันพังประตูเข้ามาช่วยโซมุน เวลาที่เหลืออีกเพียงแค่ 4 นาที โมทักจึงบอกให้ทุกคนเปลี่ยนแผน “เราจะไม่ฆ่ามัน แต่เราต้องเรียกลุงมา”

เหล่าเคาน์เตอร์ยืนเรียงรายเป็นหน้ากระดานทั้งหกคน ก่อนที่โซมุนจะพูดขึ้นว่า “ผมไม่เคยหมอหวังในตัวเขา [ลุงมา] ตั้งแต่แรก”

EP.12 ตอนจบ

รีแคปซีรีส์ The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.12 : ตอนจบ

นักล่าปีศาจทั้งหกคนร่วมมือกันรุมปีศาจลุงมา การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ไอ้ปีศาจร้ายโดนบาทาและพลังของทั้งหกโถมเข้าใส่จนมันกระอักเลือด เมื่อถึงคราวคับขัน ปีศาจชั่วจึงระเบิดพลังออกมา ตูม นักล่าปีศาจทั้งหกกระเด็นลงไปนอนกองกับพื้น แล้วโซมุนก็ตัดสินใจทำบางอย่าง …

โซมุนเปิดม่านพลังขึ้นมา ม่านพลังที่จะทำให้ไอ้ปีศาจชั่วมีพลังเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวี โซมุนอาศัยจังหวะนั้น ให้ฮานาใช้พลังส่งเขาเข้าไปในจิตของลุงมา

ณ จุดนี้ โซมุนเข้าไปในจิตของลุงมาที่มีแต่ความดำมืด ไม่ว่ายังไงเขาต้องตามหาลุงมาให้เจอ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เจ้าปีศาจพิลกวังเข้ามาขัดขวาง การต่อสู้คู่ขนานกันของภายนอกกับภายในจิตจึงเริ่มขึ้น

ภายในจิตโซมุนถูกปีศาจพิลกวังบีบคอจนใกล้ขาดใจ ภายนอกก็เช่นกัน นักล่าปีศาจกำลังขาดใจตาย ทุกคนกำลังจะกลายเป็นเพียงอดีต ไม่กี่วินาทีก่อนโซมุนจะขาดใจ น้ำตาของเขาร่วงหล่นลง น้ำตาหยดนี้เองทำให้ลุงมาลุกขึ้นมาสู้กับไอ้ปีศาจชั่ว ลุงมาเข้าควบคุมร่างตัวเองได้อีกครั้ง ลุงมาจึงตัดสินใจควบคุมร่างตัวเองพุ่งตรงไปยังเหล็กแหลมท่อนใหญ่เพื่อจบชีวิตตัวเอง

เจ้าปีศาจชั่วพิลกวังถูกส่งกลับไปอยู่ในนรกอย่างง่ายดาย … ส่วนโซมุนก็ตามลุงมาจนเจอและชวนลุงมาให้กลับมาใช้ชีวิตต่อไป

โซมุนฟื้นขึ้นมา ระเบิดเวลาหยุดแล้ว ทุกอย่างจบลงแล้ว ขณะนั้น ลุงมาก็ค่อย ๆ ลืมตาฟื้นขึ้นมา ป้าชูจึงจัดการลบความทรงจำของลุงมาซะ เพื่อที่เขาจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ ก่อนจะเข้าไปรับโทษในเรือนจำตามกฎหมาย

ภาพหน้าจอซีรีส์ The Uncanny Counter ซีซั่น 2 EP.12 : ตอนจบ

ภารกิจส่งปีศาจร่าสมบูรณ์กลับสู่นรกภูมิสำเร็จลงแล้ว ผลงานครั้งนี้สุดยอดมาก โซมุนจึงถูกส่งไปฝึกนักล่าปีศาจที่ต่างประเทศทั่วโลก

ไม่กี่เดือนต่อมา โซมุนก็กลับมาเกาหลีอีกครั้ง เพื่อมาช่วย ป้าชู ฮานา โมทัก จ๊อกบง จัดการกับเหล่าปีศาจร้ายต่อไป

จบบริบูรณ์

Image : tvN Korea
ดู The Uncanny Counter ซีซั่น 2 ที่ Netflix : คลิกที่นี่

The post สรุปเนื้อเรื่อง The Uncanny Counter 2 (2023) เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ 2 appeared first on idol.

]]>
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Lies Hidden in My Garden (2023) ปริศนาสวนคำลวง https://www.online-idol.com/2023/07/16/lies-hidden-in-my-garden-2023-kdrama-spoiler-36046/ Sun, 16 Jul 2023 07:42:38 +0000 https://www.online-idol.com/?p=36046 หญิงในบ้านหลังงาม กับหญิงตั้งครรภ์ ผู้เป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงสองคนที่มีชีวิตต่างกันสิ้นเชิง กับความลับบางอย่างที่ถูกซ่อนอยู่ในสวนหลังบ้าน …

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Lies Hidden in My Garden (2023) ปริศนาสวนคำลวง appeared first on idol.

]]>
Lies Hidden in My Garden สปอยล์โดย Kopook

หญิงในบ้านหลังงาม กับหญิงตั้งครรภ์ ผู้เป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงสองคนที่มีชีวิตต่างกันสิ้นเชิง กับความลับบางอย่างที่ถูกซ่อนอยู่ในสวนหลังบ้าน …

EP.1 กลิ่นแปลก ๆ

รีแคปซีรีส์ Lies Hidden in My Garden EP.1 : กลิ่นแปลก ๆ

กลิ่นแปลก ๆ ที่กวนจิตใจ

มุนจูรัน (รับบทโดย คิมแทฮี) เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านในโครงการคอร์เนเลียได้ประมาณสามเดือน เธออาศัยอยู่กับสามีที่เป็นหมอชื่อดังและลูกชายวัยมัธยมต้น แต่ทว่า ชีวิตที่ดูเพียบพร้อมกับบ้านที่ถูกตกแต่งเป็นอย่างดี กลับสวนทางกับสภาพจิตใจของเธอ

จูรันต้องเข้ารับการรักษาอาการทางจิต เนื่องจากสภาวะจิตใจไม่มั่นคง อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์บางอย่างในอดีต เกี่ยวกับความตายของพี่สาว ภาพเลือดเกรอะกรังเต็มใบหน้าของพี่สาว เป็นความสยดสยองที่ยังคงฝังอยู่ในหัวของเธอ ดังนั้น แม้จะเข้ามาอยู่บ้านใหม่ได้หลายเดือนแล้ว แต่เธอไม่เคยออกไปพบปะหรือเจอเพื่อนบ้านเลย

จากความประสาทของจูรันที่มักแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ออกมา ส่งผลให้ลูกชายของเธอจมอยู่กับความทุกข์ จนเก็บเอาไว้ไม่อยู่ ต้องไประบายกับครูที่โรงเรียนว่า “อยากตาย” ! เขาไม่อยากอยู่บ้านเดียวกับแม่ เขาเกลียดแม่ แม่เป็นคนที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิต

ยาเป็นสิ่งที่ทำให้จูรันพอจะสงบจิตสงบใจลงได้บ้าง วันทั้งวันเธอเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน ทำความสะอาดและจัดแจงทุกอย่างจนเรียบร้อย แต่มีสิ่งหนึ่งที่กวนใจเธอไม่เลิก นั่นคือกลิ่นแปลก ๆ ที่ลอยมาจากสวนหลังบ้าน

จูรันเก็บความสงสัยเรื่องกลิ่นเอาไว้ จนวันหนึ่งเธอเอ่ยปากถามสามี … “กลิ่นปุ๋ยอินทรีย์ ที่คุณเป็นคนขอให้ผมซื้อมาทำสวนหลังบ้านไง จำไม่ได้เหรอ” คำตอบจากปากสามีทำให้จูรันเริ่มคลายกังวล แต่ทว่า เสียงเพื่อนบ้านที่บ่นเรื่องกลิ่นที่ลอยมาจากสวนหลังบ้าน ทำให้เธอกลับมากังวลอีกครั้ง หรือสามีเธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้ ?

อิมจียอน

ความรุนแรงในครอบครัว

ซังอึน (รับบทโดย อิมจียอน) หญิงท้องห้าเดือนที่อาศัยในห้องเช่า อยู่กับสามีที่ชอบใช้ความรุนแรง หลังกระทืบเมียจนหนำใจ เขาก็มักจะมอบของขวัญให้เธอ และให้เศษเงินไปซื้อของที่อยากกิน ชีวิตของซังอึนวนเวียนอยู่อย่างนั้น

วันหนึ่ง สามีของซังอึนโทร. ไปหา พัคแจโฮ (รับบทโดย คิมซองโอ) สามีของจูรัน เพื่อนัดกันไปตกปลาตอนกลางคืน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการนัดเพื่อจะรีดเงินแบล็กเมลก้อนโต

เมื่อถึงวันนัด ซังอึนขอติดรถสามีไปด้วยเพื่อไปหาแม่ ระหว่างทางเธอขอแวะซื้อของฝาก และซื้อเครื่องดื่มชูกำลังให้สามีหนึ่งขวด

รุ่งขึ้น ซังอึนได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ แจ้งข่าวว่า สามีของเธอจมน้ำตาย !

คิมแทฮี ในซีรีส์เกาหลี Lies Hidden in My Garden EP.1

ในขณะที่จูรันตัดสินใจใช้พลั่วขุดดินที่สวนหลังบ้าน เพื่อพิสูจน์ความเชื่อของตัวเองว่า กลิ่นแปลก ๆ ไม่ใช่กลิ่นจากปุ๋ยอินทรีย์ เมื่อขุดไปไม่ลึกนัก เธอก็เห็นวัตถุบางอย่างคล้ายนิ้วมือคน จูรันถึงกับผงะล้มลงก้นจ้ำเบ้า สักพักเธอก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เธอไม่ได้บ้า สิ่งที่เธอคิดถูกต้อง มันเป็นกลิ่นจากศพมนุษย์จริง ๆ

EP.2 ความเชื่อกับความจริง

คิมซองโฮ

เหตุการณ์วันนัดตกปลารอบดึก

ย้อนกลับไปวันที่ มุนยอง (รับบทโดย ชเวแจริม) สามีของซังอึนเสียชีวิต …

จูรันขุดพบมือมนุษย์ถูกฝังอยู่ที่สวนหลังบ้าน เมื่อสามีกลับมา เธอจึงรีบบอกสิ่งที่ขุดเจอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาขุดลึกลงไป เขาเดินกลับมาในบ้านพร้อมกับถุงมือ มันเป็นถุงมือใช้แล้ว ไม่ใช่มือคน !?

จูรันมองหน้าสามีด้วยความไม่เชื่อ “ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าเป็นมือคน” เธอยืนยันว่าสิ่งที่ถูกฝังอยู่ในสวนหลังบ้านเป็นมือคน

จูรันกรี๊ดลั่นออกมาแล้วทำท่าจะเดินไปดูหลุมที่สวนหลังบ้านอีกครั้ง แต่สามีเข้าดึงตัวเธอเอาไว้ “ตอนแรกผมก็คิดว่าเป็นมือคนเหมือนกัน และเหตุผลที่คุณได้กลิ่นแปลก ๆ เป็นเพราะใกล้ครบรอบวันตายของพี่สาวคุณ” โอบกอดของสามีทำให้จูรันสงบลง แต่เธอก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลย

ค่ำวันนั้น มุนยองส่งข้อความไปหาพัคแจโฮ “เตรียมเงิน 500 ล้านวอน (ประมาณ 13.49 ล้านบาท) ไปด้วย แล้วคืนนี้พบกันที่อ่างเก็บน้ำ” ก่อนเขาจะขับรถออกไป โดยซังอึนขอติดรถไปบ้านแม่ของเธอ

ระหว่างทาง ซังอึนขอแวะซูเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อของฝากให้แม่ เธอซื้อเครื่องดื่มชูกำลังให้สามีหนึ่งขวด

กลางดึกคืนนั้น ฝนเทลงมาห่าใหญ่ จูรันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกจากเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง เธอไม่เจอสามีนอนอยู่ข้าง ๆ เธอจึงคิดว่าเขาออกไปตกปลารอบตึกตามที่นัดไว้กับยุนบอม

ความเชื่อกับความจริง

จูรันตื่นเช้าด้วยความแปลกใจที่วันนี้สามีตื่นเร็วผิดปกติ เขาบอกเธอว่าเมื่อคืนไม่ได้ไปตามนัด เพราะฝนตกลงมาหนักมาก เขาจึงไปอยู่ในห้องหนังสือ เตรียมข้อมูลสัมมนาแล้วเผลอหลับไป

วันนี้ทั้งสามพ่อแม่ลูกต้องไปพิธีรำลึกวันครบรอบการจากไปของพี่สาวจูรัน … จูรันเดินเข้าไปหยิบรองเท้าในห้องรองเท้า เธอพบรองเท้าของสามีเปื้อนโคลน และเมื่อเดินมาที่รถ ก็พบขอบยางรถเปื้อนโคลนอีกเช่นกัน ความสงสัยเริ่มเกาะกุม “ทำไมสามีต้องโกหกเธอว่าเมื่อคืนไม่ไปตามนัด ?”

ด้านซังอึนเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ในคืนวันที่สามีของเธอเสียชีวิต เขานัดเจอกับพัคแจโฮที่อ่างเก็บน้ำ นั่นเป็นทั้งหมดที่เธอบอกกับตำรวจ

จากนั้น ซังอึนกลับไปที่ห้องเช่าเพื่อเก็บข้าวของของสามีเอาไปทิ้ง เธอพบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งพร้อมด้วยโทรศัพท์ที่ใส่เคสกุ๊กกิ๊กน่ารักแบบเด็กสาววัยรุ่น เมื่อเปิดดูในโทรศัพท์ก็พบรูปภาพพัคแจโฮกับครอบครัวอยู่ในนั้น ซังอึนจึงปะติดปะต่อเรื่องราว จนได้ความว่า สามีของเธอกำลังแบล็กเมลพัคแจโฮเป็นเงินก้อนโต

ตำรวจมารอสอบปากคำที่บ้านของพัคแจโฮ มันยิ่งตอกย้ำให้จูรันยิ่งเชื่อว่า สามีของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของยุนบอม นับแต่นั้น จูรันจึงตัดสินใจหยุดกินยา ยาที่เธอคิดว่าไม่ได้ช่วยให้อาการของเธอดีขึ้นเลย

เมื่อพัคแจโฮไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ จูรันจึงพิสูจน์ความสงสัยด้วยการดูคลิปจากกล้องวงจรปิดในคืนวันนั้น แต่ปรากฏว่าคลิปถูกลบไปทั้งหมด … สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้จูรันสงสัยในตัวสามีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

EP.3 สามีของคุณฆ่าสามีฉัน

พัคแจโฮไปงานศพยุนบอม จูรันจึงขอไปด้วย … ที่งานศพ ซังอึนขอคุยกับพัคแจโฮเป็นการส่วนตัว แล้วกล่าวหาเขาว่าเป็นคนฆ่าสามีของเธอ จากนั้นก็พยายามแบล็กเมลด้วยหลักฐานที่ยุนบอมทิ้งเอาไว้ แต่พัคแจโฮตอบกลับด้วยท่าทีแข็งกร้าว เขาปฏิเสธและไม่สนใจสิ่งที่ซังอึนพูดเลยแม้แต่นิดเดียว

อิมจียอน - คิมแทฮี ในซีรีสืเกาหลี Lies Hidden in My Garden EP.3

ด้วยความโกรธ ซังอึนจึงไปหาจูรัน และพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น “สามีของคุณฆ่าสามีฉัน”

จูรันตกตะลึงที่ได้ยินประโยคนั้นจากปากของซังอึน พัคแจโฮเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพาจูรันกลับบ้าน

ซังอึนยืนรับแดดอยู่บนดาดฟ้า ในมือถือลูกแอปเปิ้ลลูกใหญ่หนึ่งลูก เธอค่อย ๆ ใช้ปากกัด จากนั้นก็ค่อย ๆ เคี้ยว น้ำจากผลแอปเปิ้ลไหลย้อยที่บริเวณมุมปาก ปากเธอกำลังรับรสความหวาน ขณะที่ในหัวของเธอกำลังนึกย้อนกลับไปในคืนวันนั้น คืนวันที่ฝนตกหนัก … ซังอึนเป็นคนวางยาสามีในเครื่องดื่มชูกำลัง ก่อนที่เธอจะขับรถไปชายตลิ่งของอ่างเก็บน้ำ แล้วก็ใช้แรงทั้งหมดที่มี ดันรถยนต์ที่มีร่างไร้สติของยุนบอมลงไปในอ่างเก็บน้ำ !

EP.4 ความสับสน

เริ่มต้นด้วยการย้อนกลับไปเล่าเรื่องในอดีตของจูรัน …

ในวันที่จูรันพบพี่สาวเสียชีวิตอยู่ในห้องพัก เธอตกใจออกมานั่งร้องไห้อยู่หน้าห้อง จังหวะนั้น ชายที่อาศัยอยู่ข้างห้องกำลังไขกุญแจเข้าห้องตัวเอง จูรันมองหน้าชายคนนั้นด้วยความสงสัยว่าเขาเป็นฆาตกร !?

ต่อมา จูรันรู้ว่าชายคนนั้นเป็นครูประจำชั้นของลูกชาย เธอจึงแสดงท่าทีวิตกกังวล และพยายามกีดกันลูกชายไม่ให้เข้าใกล้ครูประจำชั้น จนถึงวันที่ลูกชายไปเข้าค่ายของโรงเรียน จูรันตามไปที่นั่นและใช้ไม้ตีเข้าที่ท้ายทอยของครูประจำชั้น ท่ามกลางสายตาของนักเรียน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือลูกชายของเธอ

คิมแทฮี - อิมจียอน

ปกป้องครอบครัว

ตัดกลับมาปัจจุบัน … ตอนนี้ จูรันตัดสินใจเลิกกินยา เธอเดินหน้าสืบเรื่องสามีต่อไป โดยไปขอดูคลิปจากกล้องวงจรปิดเพื่อนบ้านในคืนวันนั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า สามีของเธอขับรถออกไปในคืนนั้นตอนตีหนึ่ง

จากนั้น จูรันก็ขอยืมรถเพื่อนบ้าน เธอขับรถไปหาซังอึนที่ห้องเช่า “ฉันอยากให้คุณอธิบายเรื่องที่บอกฉันที่งานศพ”

ซังอึนจึงเล่าเรื่องที่ยุนบอม สามีของเธอ ตามสืบเรื่องของพัคแจโฮ ในสมุดบันทึกเขียนเอาไว้ตีความได้ว่า พัคแจโฮซื้อบริการเด็กสาวขายบริการอายุต่ำกว่าสิบแปด และเอาเรื่องนี้ไปรีดเงินพัคแจโฮ 500 ล้านวอน ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ยุนบอมถูกฆ่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับจูรันในตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นมันมากกว่าความเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่สิ่งที่เธอต้องการคือ ปกป้องครอบครัวของเธอ “มันไม่สำคัญหรอกว่าสามีฉันจะเป็นคนยังไง แต่ฉันต้องปกป้องครอบครัวของฉัน”

อิมจียอน - คิมซองโอ ในซีรีส์ Lies Hidden in My Garden EP.4

คุณฆ่าเขาทำไม ?

ต่อมา พัคแจโฮโทร. นัดซังอึนให้มาเจอที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง จูรันจึงขอไปด้วย โดยนั่งฟังเสียงการสนทนาผ่านโทรศัพท์บนรถ …

ซังอึนเสนอความต้องการเป็นเงิน 500 ล้านวอน พร้อมกับเผยให้รู้ว่า เธอมีหลักฐานที่เขามีความสัมพันธ์กับเด็กสาวอายุ 15-16 ปี ก่อนจะยิงคำถามใส่พัคแจโฮ “คุณฆ่าสามีฉันหรือเปล่า ?”

“ถ้าคุณเชื่อว่าผมฆ่าสามีคุณ คุณคงไม่มาพบผม แต่คงจะแจ้งตำรวจไปแล้ว” พัคแจโฮตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ซังอึนไม่คาดคิด “ขอถามอะไรหน่อย คุณย้ายศพยุนบอมยังไง คุณก็ยังท้องอยู่ด้วย … คุณฆ่าเขาทำไม !?”

จากที่เป็นผู้กล่าวหา ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายถูกกล่าวหาเสียเอง แต่ซังอึนก็พยายามควบคุมสีหน้า “ทำไมต้องพูดเหมือนกับฉันเป็นฆาตกร ?”

พัคแจโฮจบการสนทนาด้วยรอยยิ้ม ก่อนยื่นข้อเสนอกลับไป ให้เขากับเธอไปหาตำรวจด้วยกัน พร้อมกับหลักฐานที่เธอมี แต่ซังอึนปฏิเสธ … ซังอึนสับสนกับท่าทีของพัคแจโฮ

EP.5 ฆาตกรตัวจริง !?

ก่อนหน้านี้ เราได้รู้ความจริงที่เผยออกมาแล้วว่า ซังอึนคือคนที่วางยายุนบอม และดันรถให้จมน้ำ อำพรางจัดฉากว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

เรื่องราวย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้ง … ศพเด็กหญิงอายุ 15 ที่ชื่อ ‘อีซูมิน’ นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นบ้าน พัคแจโฮจัดการนำศพของเธอไปฝังเอาไว้ที่สวนหลังบ้าน ก่อนที่ในคืนนั้น คืนวันฝนตกหนัก เขาจะขุดศพขึ้นมาแล้วเอาไปทิ้งในป่า … แต่ใครล่ะที่เป็นคนฆ่าเธอ ใช่พัคแจโฮหรือเปล่า ?

ซังอึนกับจูรันพากันไปหาแมงดาที่คอยจัดหาหญิงสาว ทั้งสองมาเพื่อหาความจริงเกี่ยวกับพัคแจโฮ และเด็กสาวอีซูมิน

แมงดาบอกว่า พัคแจโฮไม่ได้เป็นลูกค้าของมัน และไม่เกี่ยวอะไรกับการซื้อบริการเด็กหญิงเลย สิ่งที่พวกมันทำคือ ใช้เด็กสาวอีซูมินไปยั่วยวนพัคแจโฮให้มีความสัมพันธ์เพื่อแบล็กเมล แต่ไม่สำเร็จ

ระหว่างนั้น ตำรวจก็ได้รับแจ้งว่าพบศพเด็กหญิงในป่า เบื้องต้นในตัวไม่มีเอกสารระบุตัวตน มีเพียงของใช้ส่วนตัวไม่กี่อย่าง และถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้จำนวนหลายชิ้น

ส่วนคดียุนบอม ตำรวจมาหาซังอึนเพื่อแจ้งว่า ผลการชันสูตรพบยานอนหลับในตัวเขา กล่าวโดยสรุปคือ ตำรวจกำลังปิดคดีนี้ด้วยการระบุว่า ‘เป็นการฆ่าตัวตาย’ … ส่วนพัคแจโฮตำรวจทำการตรวจสอบแล้ว เขาไม่ได้อยู่ที่อ่างเก็บน้ำในคืนนั้น

เมื่อความจริงปรากฏว่าพัคแจโฮไม่ใช่ฆาตกร และไม่ได้ไปพบยุนบอมที่อ่างเก็บน้ำในคืนนั้น จูรันจึงสารภาพความจริงกับสามีว่า รู้สึกผิดที่ไม่ไว้ใจสืบเรื่องของเขา

จูรันรู้สึกแล้วว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเกิดจากอาการทางจิตของเธอ จูรันจึงเริ่มกลับมากินยาอีกครั้ง และพยายามกลับไปใช้ชีวิตแม่บ้าน ดูแลบ้าน ดูแลสามี ดูแลลูกชาย

แต่แล้วระหว่างที่กำลังทำอาหาร จูรันเกิดไปเจอเรซิ่นรูปดอกไม้ที่ใช้ตกแต่งเคสโทรศัพท์ แบบเดียวกับที่ใช้ตกแต่งโทรศัพท์ของเด็กหญิงที่ชื่อ ‘อีซูมิน’ ตกอยู่ภายในบ้าน !

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Lies Hidden in My Garden EP.5

โลกในห้วงความคิดของจูรันเปลี่ยนอีกครั้ง เธอคว้าพลั่วไปขุดสวนหลังบ้านอีกครั้ง จูรันขุดอยู่อย่างนั้นจนกลายเป็นหลุมลึก กระทั่งพัคแจโฮกับลูกชายกลับมาบ้าน … พัคแจโฮรีบเข้าไปหา แต่จูรันคะยั้นคะยอขอให้เขาบอกความจริง ในท้ายที่สุด พัคแจโฮก็ยอมรับว่ามีศพถูกฝังอยู่จริง ๆ เป็นศพของเด็กหญิงที่ชื่อ ‘อีซูมิน’

สถานการณ์กำลังตึงเครียด จู่ ๆ ลูกชายของทั้งสองก็โพร่งเข้ามา แล้วรับสารภาพว่า “ผมฆ่าเธอ ผมฆ่าอีซูมิน” !!!

EP.6 จุดพลิกผัน

ย้อนกลับไปในอดีต … หลังจากล่อพัคแจโฮให้ติดกับดักไม่สำเร็จ ‘อีซูมิน’ จึงเบนเข็มไปเข้าหา ‘ซึงแจ’ ผู้เป็นลูกชายแทน เธอไปดักรอเขาหลังเลิกเรียนและเข้าตีสนิท จากนั้นก็ขอไปบ้าน โดยอ้างว่าขอยืมหนังสืออ่านเตรียมสอบ

ขณะอยู่ในห้องซึงแจ อีซูมินแกล้งทำกรอบรูปครอบครัวของซึงแจตกแตก แล้วก็เริ่มพูดจาด้วยประโยคแปลก ๆ “แม่นายไม่ได้สอนเหรอว่า อย่าเปิดประตูให้คนแปลกหน้าเข้าบ้าน …” จากนั้นก็หยิบเอาที่ตรวจครรภ์ให้ซึงแจดู แล้วอ้างว่าเธอท้องกับพ่อของเขา “… ฟังดี ๆ นะ นายอาจต้องเรียกฉันว่าแม่ก็ได้”

อีซูมินยืนอยู่ตรงบันได ด้วยความโกรธ ซึงแจจึงผลักอีซูมินตกบันได ร่างเด็กหญิงไม่ไหวติง เลือดค่อย ๆ ซึมออกจากหัว ซึงแจได้แต่นั่งนิ่งด้วยความกลัว กระทั่ง พัคแจโฮกลับบ้าน สิ่งที่พ่อตัดสินใจทำในตอนนั้น คือการปกปิดความผิดให้ลูกชาย แทนที่จะโทร. แจ้งตำรวจ … พัคแจโฮลากเอาร่างของอีซูมินไปซ่อนเอาไว้ในห้องชั้นบนเพื่อไม่ให้จูรันรู้ รุ่งขึ้นจึงเอาร่างเด็กหญิงไปฝังไว้ในสวนหลังบ้าน … อีกหลายวันต่อมา ในคืนวันฝนตกหนัก เขาก็ย้ายร่างอีซูมินไปทิ้งในป่าใกล้ ๆ กับอ่างเก็บน้ำ จุดที่ยุนบอมเสียชีวิต

ตัดกลับมาปัจจุบัน …

พัคแจโฮเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับจูรัน เขาเล่าว่า มีหมอที่คลินิกสองคนไปซื้อบริการเด็กสาวจากพวกแมงดา เขาจึงต่อว่าหมอเหล่านั้น จึงเป็นเหตุให้เด็กหญิงพวกนี้เอาคืน “ผมจัดการกับศพไปแล้ว ลืม ๆ มันไปเถอะ”

จูรันไม่เห็นด้วย เธอต้องการทำให้ถูกต้อง เธอต้องการพาซึงแจเข้ามอบตัว อย่างไรก็ตาม พัคแจโฮได้ห้ามเธอเอาไว้ “ถ้าคุณทำอย่างนั้น ทุกอย่างก็จบ ทั้งลูก ทั้งผม บ้าน และคลินิก” เมื่อได้ยินเช่นนั้น จูรันจึงมีท่าทีอ่อนลง

รีแคปซีรีส์ Lies Hidden in My Garden EP.6

ต่อมา ซึงแจหนีออกจากบ้านไปอยู่ห้องเช่าซ่อมซ่อ แต่จูรันตามหาจนเจอ …

ประโยคแรกที่ซึงแจเอ่ยกับแม่ “ผมไม่กลับไปครับแม่ …” จากนั้น เขาก็เล่าความจริงให้แม่ฟัง “… พ่อเป็นคนฆ่าอีซูมิน ผมเห็นกับตาตัวเอง” !!?

แล้วภาพความจริงก็ปรากฏ … หลังจากถูกซึงแจผลักตกบันได อีซูมินยังไม่ตาย ! ในวันที่ พัคแจโฮฝังร่างอีซูมินในสวนหลังบ้าน เขาตัดสินใจบีบคอเธอจนตายก่อนจะฝัง ซึงแจเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขารู้มาตลอดว่าอีซูมินยังไม่ตาย

จูรันร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ เธอได้ยินเสียงแปลก ๆ บนห้อง แต่เธอไม่ได้ขึ้นไปช่วย เพราะคิดว่าตัวเองมีอาการทางจิต หูแว่ว

ด้านซังอึนได้โทรศัพท์ของยุนบอมคืนจากตำรวจ หลังจากตำรวจสรุปปิดคดีว่าเป็นการฆ่าตัวตาย … ในนั้นมีข้อมูลบางอย่างที่ทำให้ซังอึนรู้ว่า ทำไมสิ่งที่ยุนบอมให้แบล็กเมลพัคแจโฮถึงมีมูลค่ามากถึง 500 ล้านวอน

EP.7 ข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้

ย้อนกลับไปในอดีต วันนั้นจูรันกำลังเตรียมตัวไปเที่ยว จึงขอให้พี่สาวมาดูแลห้อง โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้เจอกับพี่สาวขณะยังมีชีวิต เพราะเมื่อกลับมาถึงห้อง จูรันก็พบพี่สาวถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม

ตัดกลับมาปัจจุบัน … จูรันไปหาแม่ เพื่อขอให้ดูแลซึงแจสามสี่วัน จากนั้น เธอก็ขอให้แม่ขอโทษที่เคยโทษว่า พี่ตายเพราะเธอ

คำพูดของแม่ที่กล่าวหาว่าจูรันเป็นคนทำให้พี่ตาย มันติดค้างในใจของเธอตลอดมา สุดท้ายแม่ก็ยอมขอโทษ คำขอโทษของแม่ ทำให้จูรันถูกปลดปล่อยจากพันธนาการของความรู้สึกผิด ณ จุดนี้ จูรันพร้อมแล้วสำหรับแผนที่วางเอาไว้ … แผนสังหารพัคแจโฮ

อิมจียอน - คิมแทฮี ในซีรีส์ Lies Hidden in My Garden EP.6

น่าขยะแขยง

ด้านซังอึน ตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอรู้ความลับของพัคแจโฮแล้ว เธอรู้แล้วว่าทำไมความลับที่ว่ามันถึงมีมูลค่าถึง 500 ล้านวอน

ซังอึนไปหาจูรันที่บ้านตามนัด เมื่อไปถึงจูรันเตรียมเงินสด 200 ล้านวอนใส่กระเป๋าเอาไว้ให้ซังอึน และจะให้อีก 300 ล้านวอนเมื่อเสร็จงาน “ช่วยฆ่าสามีฉันด้วย เหมือนที่คุณฆ่าสามีคุณ”

“จะบ้าไปแล้วเหรอ !” ซังอึนตวาดเสียงลั่น … จูรันรู้เรื่องนี้จากปากของแม่ซังอึน ในวันที่ไปส่งซังอึนที่บ้านพักคนชรา แม่ของซังอึนรู้ว่าลูกสาวฆ่าสามีตัวเอง รู้ตั้งแต่คืนวันนั้นที่ซังอึนมาหาตอนดึกในคืนวันฝนตกหนัก ซังอึนมานอนข้าง ๆ แม่แล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด

อย่างไรก็ตาม ซังอึนพยายามปฏิเสธว่าเธอไม่ได้ฆ่ายุนบอม โดยอ้างว่าแม่ของเธอเป็นโรคความจำเสื่อม แต่จูรันรู้ว่ามันเป็นความจริง และขู่ว่าถ้าไม่ทำในสิ่งที่ต้องการจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ

“คุณรู้ตัวใช่มั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ จ้างวานฆ่า น่าขยะแขยงจริง ๆ …” ซังอึนหัวเราะแบบเย้ยหยัน “… ฉันคิดว่าคุณจะแตกต่างจากฉันซะอีก” ถึงปากจะบอกว่าน่าขยะแขยง แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเงินที่บีบคั้น ถูกให้ออกจากงาน ห้องเช่าก็กำลังจะถูกไล่ ค่าดูแลรักษาแม่ก็ไม่มี ซังอึนจึงตอบตกลง

ภาพหน้าจอจากซีรีส์เกาหลี Lies Hidden in My Garden EP.6 ปริศนาสวนคำลวง

แผนการ

รุ่งขึ้น ซังอึนนัดบอกแผนการกับจูรัน แผนจัดฉากว่าพัคแจโฮฆ่าตัวตาย เรื่องจากรู้สึกผิดที่ฆ่าอีซูมิน … เริ่มจากให้จูรันโทร. ให้พัคแจโฮซื้อถ่าน อ้างว่าจะมาทำบาร์บีคิว เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน จูรันก็วางยานอนหลับในน้ำผลไม้ปั่น เมื่อพัคแจโฮหลับสนิท ซังอึนก็จะเข้ามาขนย้ายร่างเขาไปไว้ที่ท้ายรถ ก่อนจะขับไปยังสถานที่เปลี่ยว แล้วย้ายพัคแจโฮมาที่นั่งคนขับ ก่อนจะจุดถ่านไว้ในรถ

เมื่อซักซ้อมแผนการเรียบร้อย จูรันจึงเอ่ยปากถามซังอึนว่าทำไมต้องฆ่าสามีตัวเอง ? คำตอบที่ออกจากปากซังอึนคือ “ฉันเชื่อว่าฉันไม่ได้ฆ่าคนหนึ่งคน แต่ฉันช่วยชีวิตคนสองคนเอาไว้ต่างหาก (ตัวเธอเองกับลูกในท้อง)”

เมื่อถึงวันทุกอย่างเป็นไปตามแผน จูรันปิดกล้องวงจรปิดทั้งหมด พัคแจโฮหลับเพราะฤทธิ์ยา ซังอึนก็เข้ามาในบ้าน ทันใดนั้นเอง พัคแจโฮก็ลุกขึ้น ในมือมีเข็มฉีดยา เข็มฉีดยาที่ปักลงไปที่ต้นคอของซังอึน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ร่างของหญิงท้องห้าเดือนก็สลบเหมือดลงไปนอนกองอยู่กับพื้น จากนั้น พัคแจโฮก็หยิบเอาสายรัดมารัดที่ข้อมือของเธอจนแน่น

ปริศนาสวนคำลวง ตอนที่ 6 Lies Hidden in My Garden EP.6

เฮือกสุดท้ายก่อนที่ซังอึนจะหมดสติ เธอคิดขึ้นมาว่า “ฉันไม่น่าเชื่อผู้หญิงคนนี้เลย”

EP.8 คำสารภาพที่บิดเบือน (ตอนจบ)

หลังจากจ้างซังอึนให้ฆ่าพัคแจโฮ จูรันก็เกิดเปลี่ยนใจสารภาพแผนการที่วางเอาไว้กับพัคแจโฮ

ผ่านไปไม่นานนัก ซังอึนเริ่มได้สติ จูรันจึงแอบเอามีดใส่ในมือของซังอึน แล้วกระซิบให้เธอแกล้งหมดสติต่อไป … ณ จุดนี้ เหมือนจูรันได้เปลี่ยนใจอีกครั้ง หรือว่าทั้งหมดเป็นแผนซ้อนแผนซ้อนแผนที่จูรันวางเอาไว้ตั้งแต่ต้น ?

ปกป้องครอบครัวหรือปกป้องตัวเอง ?

จากนั้น จูรันเดินไปฮาพัคแจโฮและถามเขาว่า “คุณจำเป็นต้องฆ่าเด็กสาวคนนั้นด้วยเหรอ ?”

“ใช่ ผมฆ่าเธอเพราะเธอมาทำลายครอบครัวผม ถ้าผมไม่ทำซึงแจก็จะมีความผิดฐานพยายามฆ่า” พัคแจโฮพยายามอธิบายเหตุผลที่ตัดสินใจฆ่าอีซูมิน

แม้คำแก้ตัวของพัคแจโฮดูจะมีน้ำหนัก แต่จูรันมองต่างออกไป “ซึงแจยอมรับความผิดที่ทำลงไป แต่คุณกลับเป็นคนห้ามเขา ทำให้เขาต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต …” น้ำตาเริ่มไหลออกมานองหน้าจูรัน “… คำโกหกของคุณไม่ได้ปกป้องใครเลย”

สิ่งที่จูรันคิด คือ สามีของเธอไม่ได้ทำไปเพื่อปกป้องครอบครัว แท้จริงแล้วเขาทำไปเพื่อปกป้องตัวเองต่างหาก ปกป้องคลินิกและโรงพยาบาลที่กำลังสร้าง เขาเพียงแค่คิดว่าถ้ามีเรื่องฉาวนี้ออกไป จะทำให้ธุรกิจที่เขาวางเอาไว้พังทลายลง จูรันคิดอย่างนั้น

ภาพหน้าจอจากซีรีส์ Lies Hidden in My Garden EP.8 ตอนจบ

ระหว่างนั้น พัคแจโฮเริ่มสังเกตว่าซังอึนได้สติ เขาจึงเดินเข้าไปเช็กอาการของเธอใกล้ ๆ ทันใดนั้นเอง มีดในมือของซังอึนก็ปาดเข้าไปที่หน้าของพัคแจโฮ แล้วทั้งสองก็ต่อสู้กัน หญิงท้องห้าเดือนกับชายฉกรรจ์วัยกลางคน ไม่มีทางเลยที่ซังอึนจะสู้ได้ พัคแจโฮตุ๊ยท้องและเหวี่ยงซังอึนลงไปนอนกับพื้น ก่อนจะสาดแข้งเข้าใส่ไม่ยั้งนับครั้งไม่ถ้วน ซังอึนพยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด จนมือไปถึงผ้าม่านผืนใหญ่ขาดลงมา

จูรันที่เห็นซังอึนอาการปางตายจึงคว้ามีดทำท่าจะกรีดข้อมือตัวเอง “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะทำจริง ๆ” แล้วเธอก็ยื่นคำขาดให้เขาเข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อจบเรื่องนี้ซะ

คำพูดจากปากจูรันเป็นคำพูดที่พัคแจโฮไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน ผู้หญิงที่เขาเชื่อมาตลอดว่าจะไม่มีวันหักหลังเขา พัคแจโฮเริ่มสติแตก เขาปรี่เข้าไปหาเธอและง้างมือตบเข้าไปที่หน้าเธออย่างแรงจนกระเด็นทรุดลงไปกองกับพื้น จูรันพยายามเอาตัวรอดด้วยการคลานขึ้นไปชั้นสอง แต่พัคแจโฮก็ยังตามขึ้นมา เขาใช้มือสองมือบีบเข้าไปที่คอของภรรยา โดยหวังจะให้เธอตายคามือ

Lies Hidden in My Garden EP.8 ตอนจบ

อย่างไรก็ตาม ม่านที่ซังอึนดึงจนฉีกขาด ทำให้เพื่อนบ้านมองเห็นว่าซังอึนกำลังขอความช่วยเหลือ เพื่อนบ้านจึงรีบโทร. แจ้งตำรวจทันที

ช่วงเวลาเดียวกัน ซังอึนใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มี หยิบโคมไฟตั้งพื้นที่ฐานทำจากเหล็กกระแทกเข้าไปที่กระจกจนแตก พัคแจโฮจึงผละมือออกจากคอของจูรันแล้วมองไปที่ซังอึนตามสัญชาตญาณ จูรันอาศัยจังหวะนั้น ผลักพัคแจโฮตกลงจากบันได ร่างของเขากลิ้งลงมาไม่ต่างไปจากร่างอีซูมิน แต่ที่ต่างกันคือ พัคแจโฮเสียชีวิตคาที่จมกองเลือดทันที !

คิมแทฮี

คำสารภาพที่บิดเบือน

ณ ห้องสอบสวน … จูรันเล่าความจริงทั้งหมด และยอมรับความผิดที่ตัวเองกระทำไปทั้งหมด แต่มีสิ่งเดียวที่เธอโกหกคือ “พัคแจโฮเป็นคนฆ่ายุนบอม” ด้วยเหตุนี้ ความผิดของซังอึนจึงถูกฝังกลบเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ทำให้บริษัทประกันชีวิตอนุมัติเงินประกัน 500 ล้านวอนให้กับซังอึน

จูรันรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เมื่อศาลตัดสิน เธอจึงต้องไปใช้ชีวิตในคุก ในทางตรงกันข้าม ซังอึนใช้เงินที่ได้เปิดร้านขนม และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับลูกน้อยที่คลอดออกมา ตามคำขอร้องของจูรัน “ช่วยใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขนะคะ สำหรับฉันถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็ยังทำเหมือนเดิม”

อิมจียอน - คิมแทฮี ในซีรีส์ Lies Hidden in My Garden EP.8 ตอนจบ - ปริศนาสวนคำลวง

ในตอนท้าย ภาพตัดให้เห็นว่าจูรันใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ชีวิตที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกับเพื่อนบ้าน ลูกชาย และสามี … แต่ทว่า ภาพที่เห็นเป็นการใช้ชีวิตอยู่ในจินตนาการของตัวเธอเองหรือเปล่านะ ?

หรือว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียง ‘คำโกหก’ ที่เธอสร้างขึ้นกันแน่ ?

จบบริบูรณ์

Images : ENA Korea
ดู Lies Hidden in My Garden ที่ Prime Video >>> คลิกที่นี่

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Lies Hidden in My Garden (2023) ปริศนาสวนคำลวง appeared first on idol.

]]>
สรุปเนิ้อเรื่องซีรีส์ See You in My 19th Life (2023) ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ https://www.online-idol.com/2023/06/24/see-you-in-my-19th-life-2023-kdrama-spoiler-35821/ Fri, 23 Jun 2023 20:11:51 +0000 https://www.online-idol.com/?p=35821 จีอึมกลับชาติมาเกิดใหม่กี่ชาติก็ได้ แต่ชีวิตในชาติที่ 18 จบเร็วเกินไป เธอจึงตั้งใจตามหารักแรกในชาติที่ 19

The post สรุปเนิ้อเรื่องซีรีส์ See You in My 19th Life (2023) ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ appeared first on idol.

]]>
See You in My 19th Life สปอยล์ : จีอึมสามารถกลับชาติมาเกิดใหม่กี่ชาติก็ได้ แต่ชีวิตในชาติที่ 18 จบเร็วเกินไป เธอจึงตั้งใจตามหารักวัยแรกให้เจอในชาติที่ 19 …

EP.1 ข้ามชาติตามหารัก

ซีรีส์เริ่มต้นด้วยตัวละครหลัก บันจีอึม (รับบทโดย ชินฮเยซอน) ออกมาเล่าเรื่องราวของตัวเอง … เธอสามารถระลึกชาติ และจดจำสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตทั้งสิบแปดชาติที่ผ่านมาได้

ชาติปัจจุบันเป็นชาติที่ 19 ชาตินี้จีอึมเกิดเป็นผู้หญิง เมื่ออายุ 9 ขวบความทรงจำในอดีตชาติก็กลับมา

จีอึมบรรยายความรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องน่าเบื่อที่จำอดีตในชาติก่อน ๆ ของตัวเองได้ ไม่ต่างจากคนแก่ที่ต้องใช้ชีวิตมาหลายร้อยปี ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้อีก ยกเว้นการได้พบกับเด็กชายในชาติที่ 18 ชื่อ ‘ซอฮา’

ตอนนั้น จีอึมอายุประมาณ 11 ปี ซอฮาอายุน้อยกว่า เขาจึงเรียกเธอว่าพี่ ในตอนนั้น แม่ซอฮากำลังจากไป จีอึมเป็นคนเดียวที่เข้าใจ และคอยปลอบโยนเขาให้ผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ ยิ่งวันเวลาผ่านไป ทั้งสองก็ค่อย ๆ สนิทกัน ก่อนแม่ซอฮาจะเสีย เธอขอร้องให้จีอึมดูแลซอฮาด้วย จีอึมจึงสัญญากับซอฮาว่าจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป แต่เหมือนโดนโชคชะตาเล่นตลก เมื่ออายุได้ 12 ปี จีอึมก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

ดังนั้น ในชาติปัจจุบันชาติที่ 19 จีอึมจึงพยายามออกตามหาซอฮา เพื่อทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้

อย่างไรก็ตาม ชีวิตในชาติที่ 19 นี้ไม่ง่ายเลย จีอึมเกิดในครอบครัวยากจน แถมพ่อยังผีพนันเข้าสิง ต่อมา เมื่อพ่อแม่รู้ว่าเธอเป็นเด็กที่มีความสามารถพิเศษหลายอย่าง เช่น พูดได้หลายภาษา เธอจึงถูกพาไปออกรายการทีวีโชว์ แต่เงินที่ได้มาพ่อก็เอาไปถลุงในบ่อนจนหมด แล้วความอดทนของจีอึมก็หมดลง เมื่อพ่อขโมยเงินเก็บของเธอไปจนหมด

ตามหารักแท้

จีอึมหนีออกจากบ้าน แล้วไปหา แอกยอง (รับบทโดย แชชองฮวา) แม่ค้าขายโดนัทเกรียว หลานสาวของเธอในชาติที่ 17 … สาวน้อยวัย 9 ขวบมาขอยืมเงิน โดยอ้างตัวเป็นลุงที่ตายไปแล้ว มันยากที่จะเชื่อ แต่ทว่า จีอึมสามารถเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้ถูกต้องทั้งหมด แอกยองจึงตกลงจะให้เงิน แลกกับจีอึมต้องอยู่ในความดูแลของเธอ

จีอึมไปที่บ้านซอฮา บ้านหลังใหญ่หลังเดิม เธอแอบติดตามดูเขาผ่านทางหน้าต่าง ซอฮา (รับบทโดย อันโบฮยอน) ที่ตอนนี้เติบโตเป็นวัยรุ่นแสดงความโกรธเกรี้ยวใส่พ่อ เมื่อเห็นว่าพ่อพาผู้หญิงเข้ามาอยู่ในบ้าน

จีอึมแอบตามดูซอฮาเป็นประจำเป็นเวลาหลายเดือน พอตกเย็นก็กลับบ้านแอกยอง เธอสังเกตเห็นว่าเขามีความทุกข์ แต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งซอฮาก็หายไป

ผ่านไปสิบกว่าปี จีอึมเรียนจบและเข้าทำงานที่บริษัทของครอบครัวซอฮา ด้วยความหวังที่ว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง ซึ่งต่อมาเธอได้รู้ว่าซอฮาย้ายไปอยู่เยอรมนี

ระหว่างที่จีอึมกำลังหาทางไปเยอรมนี โชคชะตาก็เข้าข้างเธอ เมื่อซอฮาตัดสินใจกลับเกาหลี เธอจึงไปสมัครงานที่โรงแรม MI ซึ่งได้ข่าวมาว่าพ่อตั้งให้เขามาบริหารงานที่นี่ เพราะนี่คือเหตุผลที่เขากลับมาเกาหลี เพื่อฟื้นฟูกิจการโรงแรมของแม่

จีอึมไปสัมภาษณ์งานที่โรงแรม MI โดยซอฮาเป็นคนสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง จีอึมเดินเข้าไปในห้องแล้วกล่าวทักทาย แต่ทว่า ซอฮาที่ยืนมองวิวด้านนอกไม่หันกลับมา จึอึมกล่าวทักทายอีกหลายครั้งแต่เขาก็ยังไม่ได้ยิน สักพักเขาจึงหันกลับมาทำท่าสะดุ้งเล็กน้อยที่เห็นจีอึมยืนอยู่ จากนั้นก็หยิบเครื่องช่วยฟังขึ้นมาใส่ที่หูด้านขวา

อุบัติเหตุทางรถยนต์ในวัยเด็ก ทำให้การได้ยินของซอฮาสูญเสียไป เขาแทบไม่ได้ยินอะไรเลยถ้าไม่ได้ใส่เครื่องช่วยฟัง

ซอฮาเปิดใบสมัครของจีอึมที่ระบุว่า พูดได้ 4 ภาษา อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น อาหรับ เขาสงสัยว่าทำไมถึงพูดภาษาอาหรับได้ จีอึมบอกว่าเธอเคยทำงานแถบนั้น ซอฮาได้ยินคำตอบก็งงเข้าไปใหญ่ เพิ่งเรียนจบและทำงานได้ไม่กี่ปี ไปทำงานตะวันออกกลางตอนไหน

อันโบฮยอน - ชินฮเยซอย ในซีรีส์ See You in My 19th Life EP.1

เรียนก็เก่ง ความสามารถก็เยอะ แถมเคยทำงานตำแหน่งระดับสูงในบริษัทขนาดใหญ่ แล้วทำไมถึงมาสมัครงานโรงแรม คำถามเหล่านี้วนอยู่ในหัวซอฮา จนเขาแสดงอาการประหม่าออกมา

แต่ซอฮายิ่งอึ้งหนักเมื่อจึอึมเอ่ยออกมาว่า “ลองคบกับฉันมั้ยคะ”

EP.2 เกิดชาตินี้เพื่อเจอนาย

ซอฮาถึงกับผงะเมื่อได้ยินประโยคที่จีอึมพูดออกมา เขาตัดบทยุติการสัมภาษณ์ทันที … หลังจากนั้น ซอฮาพยายามคิดหาเหตุผล แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ทำไมอยู่ดี ๆ หญิงสาวถึงมาขอคบกับเขา

ต่อมา ระหว่างซอฮากำลังเดินอยู่ เสียงแตรรถยนต์ดังลั่นทำให้อาการแพนิกกำเริบ จีอึมที่แอบตามมาเห็นจึงรีบดึงมือแล้วพาเขาออกวิ่ง ซอฮาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงวิ่งตาม ผ่านไปหลายร้อยเมตร ซอฮาก็หายจากอาการแพนิก

จีอึมบอกเขาว่าการวิ่งทำให้เรามีสมาธิอยู่กับการหายใจ เป็นวิธีที่ทำให้อาการแพนิกดีขึ้น ระหว่างที่กำลังนั่งคุยกันบนม้านั่ง จีอึมกระซิบข้างหูซอฮา “‘แต่งงานกับผมนะ’ เป็นคำใบ้ที่บอกว่าเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน” ซอฮาสะดุ้งกับคำพูดนั้น เขาเต็มไปด้วยความอึดอัด และรู้สึกแปลกประหลาดกับการกระทำของจีอึม

หลังไม่ได้รับการติดต่อ จีอึมจึงทำแผนฟื้นฟูโรงแรมแล้วไปขอพบกับซอฮาอีกครั้ง เธอยืนยันว่าต้องการทำงานที่นี่ ถึงเขาจะไม่รับ เธอก็จะสมัครเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ซอฮาตัดบทว่าจะติดต่อกลับไป

เวลาเดียวกันนั้น โชวอน (รับบทโดย ฮายุนคยอง) มาหาซอฮาที่โรงแรม MI จีอึมจำได้ว่าโชวอนคือน้องสาวของเธอเมื่อชาติที่แล้ว … แต่คำถามที่จีอึมยังไม่รู้ความตอบคือ ความสัมพันธ์ระหว่างโชวอนกับซอฮาเป็นแบบไหน ?

ต่อมา จีอึมก็ได้งานที่โรงแรม MI … ซอฮาจำได้แล้ว จีอึมคือเด็กหญิงตัวน้อยที่คอยตามเขาตอนเขาเรียนมัธยมปลาย เขาพูดติดตลก “คุณโตมาก็ยังเป็นคนพิลึกเหมือนเดิมเลยนะ”

ณ จุดนี้ จีอึมก็ยิงตรงประเด็น “งั้นเรามาแต่งงานกันนะ เพราะคุณเป็นรักแรกของฉัน” …​ ซอฮาขำกับความคิดแปลกประหลาดของจีอึม เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เลิก มีผู้หญิงแปลกประหลาดแบบนี้ด้วยแฮะ 555

อันโบฮยอน - ชินฮเยซอน

รุ่งขึ้น จีอึมขับรถพาซอฮาไปยังสุสาน เมื่อไปถึงเธอจึงรู้ว่าเป็นสุสานของเธอเมื่อชาติที่แล้ว ซอฮานั่งคุกเข่าต่อหน้าหลุมศพน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด แม้จะผ่านไปกว่ายี่สิบปี แต่ความเศร้าและความรักที่มียังไม่จางไปเลยแม้แต่นิดเดียว

จีอึมเดินออกมานั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง เธอคิดถึงอดีตในสิบแปดชาติที่ผ่านมา ที่ต้องพบเจอกับความเศร้ากับการจากไปของคนรอบตัว เธอต้องแบกความเศร้าเหล่านั้นที่อยู่ในความทรงจำ

EP.3 ความเจ็บปวดที่คนรักจากไป

ระหว่างนั่งรถกลับจากสุสาน ซอฮาที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างจีอึมที่เป็นคนขับ ก็กระโดดออกมาจากรถด้วยความตื่นตระหนก เมื่อมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งมาจากด้านข้าง ขณะกำลังจอดรถติดไฟแดง จีอึมรีบลงมาจากรถพร้อมถุงพลาสติกในมือยื่นให้ซอฮา … การหายใจในถุงเป็นการช่วยให้อาการแพนิกดีขึ้น

ดูเหมือนบาดแผลในใจของซอฮายังไม่จางหายไปเลย แม้เวลาจะล่วงมากว่ายี่สิบปีก็ตาม จีอึมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า การตายของเธอเมื่อชาติที่แล้วจะส่งผลกระทบกับซอฮามากมายขนาดนี้

คืนนี้ จีอึมจำได้ว่าเป็นวันเกิดของซอฮา ซึ่งตรงกับวันเกิดของเธอเมื่อชาติที่แล้ว และเป็นวันตายของเธอด้วยเช่นกัน นั่นทำให้วันเกิดของซอฮาไม่ใช่วันที่เขามีความสุข จีอึมรีบไปหาเขาที่บ้านเพื่อแฮปปี้เบิร์ดเดย์ เมื่อไปถึงเธอกลับเจอโชวอนอยู่ที่นั่น

เพื่อคลายความสงสัย จีอึมจึงหาจังหวะถามโชวอนอย่างเปิดอกว่าชอบซอฮาใช่มั้ย ? โชวอนไม่มีคำตอบแต่เป็นการยิงคำถามกลับ “ถ้าฉันตอบว่าใช่ เธอจะยอมแพ้หรือเปล่า ?” จีอึมไม่มีคำตอบ จะตอบยังไงล่ะ เมื่อคู่แข่งคือน้องสาวของเธอเมื่อชาติที่แล้ว !?

ระหว่างที่จีอึมกำลังสับสน ต่อมาเธอได้มีโอกาสพูดคุยกับโชวอน ตอนนั้นโชวอนดื่มจนเมามาย เธอจึงเผยความในใจออกมา จริง ๆ แล้วคนที่เธอชอบคือ โดยุน (รับบทโดย อันดงกู) เลขาฯ ของซอฮา … จีอึมถึงกับโล่งอก

จีอึมพาโชวอนนั่งแท็กซี่ไปส่งบ้าน เมื่อไปถึงจีอึมก็พบกับคนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ ‘แม่ของเธอเมื่อชาติที่แล้ว’ … แม่มองจีอึมด้วยท่าทีตกใจ เธอจำลูกสาวของตัวเองได้ แม่รู้ว่าจีอึมเป็นลูกสาวของเธอเมื่อชาติที่แล้ว !? “แม่รอลูกมาตลอด” ทั้งสองโผเข้ากอดกันทั้งน้ำตา แต่ …

แต่ทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการของจีอึม ไม่มีแม่อยู่ตรงนั้น ไม่มีเลยจริง ๆ จีอึมยืนร้องไห้เพียงลำพัง ยืนโอบกอดตัวเองเพียงลำพัง ไม่มีแม่ ไม่มี

อันโบฮยอน - ชินฮเยซอน

ซอฮาเดินมาพอดี เขาเห็นจีอึมทำท่าทางแปลก ๆ จึงเดินเข้าไปทัก

“ซอฮา ซอฮา” เสียงและสำเนียงการพูดที่ออกจากปากจีอึม

สำเนียงที่เปล่งออกมาจากปากจีอึม ซอฮาจำได้เป็นอย่างดี “พี่จริง ๆ เหรอ ?”

EP.4 คิดถึงแต่เธอ

จีอึมปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่ ‘พี่สาว’ คนที่เขาคิด เธอคือบันจีอึม หญิงสาวที่ชอบเขามาก ๆ … จีอึมอยากให้ซอฮาจำเธอได้ แต่เมื่อเขาจำได้ เธอกลับปฏิเสธ ? หรือว่าจีอึมต้องการให้เขารักตัวตนของเธอในชาตินี้ ?

ขณะที่เรากำลังสงสัย จีอึมก็นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในชาติก่อน ๆ … เธอเคยกลับหาแม่เมื่อชาติก่อนหลายครั้ง แต่ทุกครั้งจะถูกแม่ไล่ออกมาทุกครั้ง ไม่มีแม่คนไหนเชื่อว่าเธอคือลูกเมื่อชาติก่อน ในชาตินี้จีอึมจึงเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

จากนั้น ทั้งสองก็พากันไปกินบะหมี่ในร้านสะดวกซื้อ ซอฮาสารภาพ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเห็นรอยยิ้มของจีอึมแล้วคิดถึงแต่ ‘จูวอน’

หลังจากวันนั้น ภาพในหัวของซอฮาก็มีแต่จีอึม เหมือนโดนล้างสมองไปแล้ว

รุ่งขึ้น ซอฮา เลขาโดยุน และจีอึม เดินทางไปที่สวนของโชวอน เพื่อแจ้งข่าวดีว่าเขาตัดสินใจให้เธอได้งานปรับทัศนียภาพของโรงแรม MI … ระหว่างนั้น โชวอนหาจังหวะสารภาพรักกับโดยุน แต่เขาปฏิเสธ

EP.5 คำสารภาพรัก

ซอฮาดื่มเหล้าจนเมามาย จีอึมเข้ามาดูแลที่ห้อง ที่นั่นเธอเจอของที่ซื้อให้ซอฮาเป็นของขวัญเมื่อชาติที่แล้ว เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ มันเป็นความรู้สึกที่ดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน เธอเมื่อชาติ [จูวอน] จากไปกว่ายี่สิบปี แต่เขาไม่หยุดรักเธอเลย

วันต่อมา ซอฮาดำดิ่งอยู่กับความรู้สึกแปลกประหลาด เขาสับสนกับความรู้สึกตัวเองที่เกิดชอบจีอึม แต่ก็ยังทำใจไม่ให้หยุดรักจูวอนไม่ได้ ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นในใจ

โดยุนเห็นซอฮาท่าทางไม่สบายใจจึงชวนเขาไปเดินเล่นริมทะเล โดยชวนจีอึมกับโชวอนไปด้วย เมื่อมีเวลาที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ซอฮาจึงถามจีอึมด้วยความสงสัย ทำไมเธอถึงพูดกับเขาไม่มีหางเสียง เหมือนคนที่สนิทกันมานาน ? … จีอึมตอบคำถามนั้นด้วยการสารภาพรักครั้งแรกกับเขา แน่นอนว่าซอฮาไม่ตอบรับ เพราะสตั๊นกับคำสารภาพรักที่หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างไม่คาดคิด

แล้วจู่ ๆ ฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก โชวอนจึงชวนทั้งสามไปพักที่บ้านพักตากอากาศของเธอที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น

คืนนั้น เมื่อจีอึมคิดว่าทุกคนหลับกันหมดแล้ว เธอจึงลุกขึ้นมากลางดึกเพื่อไปหาตุ๊กตาที่เธอซ่อนเอาไว้ในตู้นาฬิกาเมื่อชาติที่แล้ว จีอึมหยิบตุ๊กตาตัวนั้นออกมาชื่นชมด้วยความสุข ก่อนจะเก็บมันเอาไว้ที่เดิม โดยที่ไม่รู้เลยว่าโชวอนยืนมองดูอยู่ “คุณจีอึมรู้เรื่องตุ๊กตาได้ยังไงคะ ?”

จีอึมพูดกลบเกลื่อนว่า ตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกเลยเดินดูบ้าน อย่างไรก็ตาม โชวอนยังสงสัย ตุ๊กตาที่เธอหามาทั้งชีวิต อยู่ดี ๆ จีอึมดันหามันเจอ มันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ

ผ่านไปหลายวัน ความสงสัยของโชวอนยังคงค้างคา เธอตัดสินใจนัดจีอึมมาคุยเปิดอก โชวอนเข้าใจว่าจีอึมทำดีกับเธอเพื่อต้องการสืบประวัติของพี่สาวของเธอ เพราะพี่สาวของเธอเป็นผู้หญิงที่ซอฮารักเพียงคนเดียว

เมื่อเห็นโชวอนร้องไห้ออกมาไม่หยุด จีอึมจึงตัดสินใจบอกความจริง “โชวอน มองพี่นะ … ฉันคือจูวอน ฉันระลึกชาติได้ ชาติที่แล้วฉันคือจูวอน”

EP.6 ความลับเบื้องหลังอุบัติเหตุ

โชวอนไม่เชื่อ จีอึมจึงบอกว่าโชวอนมีรอยแผลเป็นบริเวณ เพราะตอนเด็กโชวอนซนมากคลานเล่นจนกระจกตกลงมาใส่ จนทำให้แม่ร้องไห้

โชวอนไปหาแม่ที่บ้านในคืนนั้นทันที เธอถามแม่เรื่องข้อมูลที่ได้รับจากจีอึม แม่บอกว่าทั้งหมดเป็นความจริง มันเป็นความจริง ความจริงที่ทำให้โชวอนสับสน ความจริงที่ยากจะเชื่อ

ต่อมา จีอึมตัดสินใจออกโรงแทนพี่ชาย จัดการกับพวกแก๊งทวงหนี้นอกระบบด้วยตัวเอง เธอบุกไปที่ออฟฟิศของพวกมัน แล้วอัดพวกมันเรียงตัว ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ร่างบอบบางกับรองเท้าส้นสูง อัดชายฉกรรจ์ร่างกำยำเพียงหมัดเดียว แม้ท่าทางจะดูเก้ ๆ กัง ๆ แต่เธอก็จัดการพวกมันได้อย่างง่ายดาย

จีอึมเข้าไปพบหัวหน้าแก๊ง เพื่อมอบแจกันโบราณสมัยโครยอใช้แทนหนี้

ระหว่างนั้น แอคยองก็เกิดล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ด้านโชวอนที่เอาแต่คิดเรื่องจีอึมทั้งวัน วันนี้เธอนัดเจอจีอึมอีกครั้ง เธอโผเข้าไปสวมกอดจีอึม มันเป็นความจริงที่ยากจะเชื่อ แต่มันก็เป็นความจริงที่เธออยากจะเชื่อเช่นกัน ทั้งสองสวมกอดกัน น้ำตาแห่งความปีติของทั้งสองหลั่งไหลออกมาไม่หยุด

จีอึมขอร้องโชวอนว่าอย่าเรียกเธอว่าพี่สาวในที่สาธารณะ เพราะโชวอนอายุมากกว่า และขอให้เก็บเรื่องที่เธอระลึกชาติได้เป็นความลับ

ทีนี้ พี่ชายของจีอึมที่เกิดไปได้ยินหัวหน้าแก๊งเงินกู้นอกระบบ คุยกันเรื่องเบื้องหลังการจัดฉากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของซอฮาเมื่อวัยเด็ก อุบัติเหตุที่ทำให้จูวอนเสียชีวิต และทำให้ซอฮามีปัญหาทางการได้ยิน … เขาจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกซอฮา

ซอฮาเอาเรื่องอุบัติเหตุไปบอกโดยุน ทำให้ได้รู้ว่าพ่อของโดยุนเป็นคนขับรถ และเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน

ชินฮเยซอน

จีอึมรู้จึงรีบไปที่ออฟฟิศแก๊งเงินกู้นอกระบบทันที ไม่พูดพร่ำทำเพลง เธอเข้าไปบีบคอชายอกสามศอกเพื่อเค้นความจริงว่า ใครเป็นผู้บงการเบื้องหลังอุบัติเหตุในครั้งนั้น “ถ้าแกไม่บอก ฉันจะบีบคอแกให้ตายภายในสิบวินาที”

อย่างไรก็ตาม ไอ้สถุลอันธพาลชั้นสวะก็เลือกที่จะไม่ตอบ มันบอกว่าถึงบอกยังไงมันก็ตายอยู่ดี

EP.7 ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ

ซอฮาจมอยู่กับความรู้สึกผิด หลังรู้ว่ามีคนจัดฉากอุบัติเหตุในครั้งนั้น เป็นเหตุให้พ่อโดยุน ซึ่งเป็นคนขับรถต้องมาตายแทนเขา หลังจากมีโทรศัพท์ปริศนาโทร. มาแจ้งข่าวว่า คนใกล้ชิดเขาเป็นคนอยู่เบื้องหลัง … ซอฮาที่ไม่รู้จะจัดการเรื่องนี้ยังไง เขาเดินไปที่ริมขอบสระว่ายน้ำ แล้วทิ้งตัวลงไปน้ำ

ซอฮาเดินอยู่บนถนนเนื้อตัวเปียกปอนเพียงลำพัง สักพักจีอึมก็ขับรถมาพร้อมกับผ้าห่ม จังหวะนั้น ซอฮาโน้มตัวลงไปจูบจีอึมอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก่อนจะผละออกมาด้วยความตกใจ จีอึมเห็นซอฮาผงะตัวออกไป ก็ใช้มือโอบตัวเขาเข้ามาจูบอีกครั้ง

โดยุนดื่มเหล้าจนเมามาย โชวอนจึงขับรถไปหาเพื่อพาเขากลับบ้าน จังหวะนั้น โดยุนได้โน้มตัวเข้าไปจูบโชวอน มันเป็นจูบที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจของโชวอน

ต่อมา โดยุนสารภาพว่าชอบโชวอน แต่เขาไม่อาจคบกับเธอได้เพราะสถานะที่ต่างกัน เขาเป็นผู้ชายที่ต่ำต้อยเกินไปสำหรับเธอ

จากนั้น จีอึมก็ได้เจอกับคนระลึกชาติได้เหมือนกับเธอ ‘คังมินกิ’ กับ ‘ฮันนา’ จีอึมดีใจมากที่ได้เจอคนที่เป็นแบบเดียวกัน การได้เจอคังมินกิทำให้จีอึมได้รู้ความลับเกี่ยวกับ ‘กระดิ่งร่างทรง’ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำให้จำความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในชาติแรกได้

ภาพหน้าจอซีรีส์เกาหลี See You in My 19th Life EP.7

ซอฮาได้รับการติดต่อจากแก๊งทวงหนี้ นัดให้ไปเจอสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อเอาหลักฐานบางอย่างที่ระบุได้ว่า ใครเป็นผู้บงการอุบัติเหตุในครั้งนั้น จึอึมจึงอาสาขับรถไปส่ง

ระหว่างที่ซอฮากำลังเดินไปยังที่ที่ได้นัดหมาย ภาพในอดีตปรากฏขึ้นในหัวของจีอึม และซอฮาคือชายในภาพนั้น !?

EP.8 คนลงมือและผู้บงการ

จีอึมเห็นภาพในอดีตชาติของซอฮา เขากำลังเดินลากดาบเปื้อนเลือด เธอจึงรีบเดินตามเขาไปด้วยความหวั่นใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

สถานที่นัดเจอเป็นตึกสูงที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง ซอฮาเดินเข้าไปก็ต้องเจอกับร่างชายคนหนึ่งร่วงลงมาจากที่สูง จากนั้น เขาก็เจอกับพวกอันธพาล ทำให้เกิดการต่อสู้กัน … ไม่น่าเชื่อว่า ซอฮาสามารถใช้มือเปล่าจัดการกับอันธพาลพวกนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น

รักแรกในชาติแรก ?

คังมินกิมาพบจีอึมอีกครั้ง เขาขอให้เธอจับกระดิ่งร่างทรงเพื่อระลึกถึงความสัมพันธ์ในชาติแรก จีอึมหยิบกระดิ่งร่างทรงขึ้นมาแล้วก็หลับตา ภาพซอฮาถือดาบเปื้อนเลือดในมือปรากฎขึ้น … สิ่งที่เห็นทำให้เธอคิดว่า ซอฮาเป็นรักแรกในชาติแรกของเธอ จีอึมยิ้มไม่หุบ

ตรงกันข้ามกับคังมินกิที่มีสีหน้าผิดหวัง เพราะแท้จริงแล้ว เขาต่างหากคือรักแรกในชาติแรกของจีอึม และซอฮาเป็นคนสังหารเขาด้วยดาบเล่มนั้น ดาบที่เปื้อนเลือดเล่มนั้น !

หลักฐานใหม่

จากนั้น ซอฮาก็ได้รับหลักฐานบางอย่างที่ถูกส่งจากบุคคลปริศนา หลักฐานที่ได้ทำให้เขาเริ่มสับสน เพราะเป็นสัญญากู้เงินที่เชื่อมโยงกับพ่อของจีอึม หรือว่าคนขับรถบรรทุกที่พุ่งชนรถของเขาในวันนั้น คือ พ่อของจีอึม !?

อย่างไรก็ตาม ซอฮาตัดสินใจที่จะไม่เอาหลักฐานที่ได้รับ มาทำลายความสัมพันธ์ของเขากับจีอึม

รุ่งขึ้นอีกวัน จีอึมมากินข้าวที่บ้านซอฮา และบังเอิญได้เห็นสัญญาเงินกู้ของพ่อเธอ เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราว เธอจึงรีบไปหาพ่อของเธอทันที …

“คุณเคยฆ่าคนมั้ย ?” จีอึมยิงคำถามใส่พ่อที่เธอไม่เรียกว่าพ่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ความเงียบคือคำตอบ พ่อไม่เอ่ยปากตอบแม้แต่คำเดียว แต่เมื่อโดนไล่เบี้ย พ่อจึงยอมเอ่ยปากว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่า แค่รับจ้างงานพาร์ตไทม์ขับรถชนเฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าใคร

แล้วใครเป็นผู้บงการ ? ซอฮาเปิดเทปคาสเซตบันทึกเสียง เนื้อหาเป็นเสียงการสั่งการให้จัดหาคนขับรถบรรทุก เพื่อมาจัดฉากชนอุบัติเหตุชนแล้วหนี ซอฮาค่อย ๆ ฟังอย่างตั้งใจ เสียงในเทปคุ้นหูมาก มันคือเสียงลุง

คนที่จัดฉากฆ่าซอฮาคือลุงของเขาเอง !

ระหว่างที่ซอฮานั่งน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด จีอึมที่มาหาเขาที่บ้าน เมื่อเห็นซอฮาจมอยู่ในความเศร้า เธอจึงเดินไปที่เปียโนแล้วเล่นเพลงที่ทำเอาซอฮาตกตะลึง มันเป็นเพลงที่จูวอนแต่งขึ้นและเคยเล่นให้เขาฟังเมื่อยี่สิบปีก่อน

อันโบฮยอน - ชินฮเยซอน ในซีรีส์ See You in My 19th Life EP.8

ซอฮาค่อย ๆ เดินเข้าไปหาจีอึม ก่อนจะเอ่ยถามว่าเธอรู้จักเพลงนี้ได้ยังไง จีอึมหันไปมองซอฮาด้วยรอยยิ้ม “เพราะฉันเป็นคนแต่งเพลงนี้ไงคะ และฉันคือจูวอน”

EP.9 คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน

จีอึมพยายามอธิบายว่าเธอคือจูวอน แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ซอฮาก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ … จีอึมจึงบอกว่า มีกุญแจที่ซ่อนเอาไว้ในหนังสือนิทาน ‘พระจันทร์กับป่าของแม่มด” ซึ่งเป็นหนังสือเล่มโปรดของจูวอน กุญแจนั้นจะสามารถเอาไปเปิดกล่องเครื่องประดับที่จูวอนเคยให้ซอฮาในวัยเด็ก … จีอึมยืนกระดาษโน้ตที่พับจนเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ให้ซอฮา แล้วย้ำว่าให้เปิดอ่านตอนที่เปิดกล่องเครื่องประดับ เมื่อนั้นเขาจะรู้ความจริง

ซอฮาไปที่ห้องหนังสือที่มีหนังสือเรียงราววางอยู่บนชั้นนับพัน ๆ เล่ม เขาเอื้อมไปหยิบหนังสือนิทานเล่มนั้นออกมา ตรงนั้นมีกุญแจซ่อนอยู่ตามที่จีอึมบอกจริง ๆ

ซอฮาใช้กุญแจเปิดกล่องเครื่องประดับ ในนั้นมีสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่เขียนด้วยลายมือของจูวอน “มีคนคนหนึ่งที่จำชาติที่แล้วของตัวเองได้ทุกชาติ …” เนื้อหาเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีตตั้งแต่ชาติแรก “… ฉันจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้ดี แต่ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้”

เมื่ออ่านสมุดบันทึกเล่มนั้นจนจบ ซอฮาก็คลี่กระดาษโน้ตที่จีอึมให้ไว้ออกมาอ่าน “ตัวเอกในเรื่องที่นายอ่านคือจูวอน ซึ่งตอนนี้คือจีอึม ถ้าคุณเชื่อสิ่งที่ฉันบอก ก็ให้มาพบฉันที่ที่เราสัญญาว่าจะไปด้วยกันแล้วยังไม่ได้ไป ในวันที่ฉันให้กล่องเครื่องประดับกับคุณ ฉันจะรอคุณอยู่ที่นั่น”

อันโบฮยอน - ชินฮเยซอน ในซีรีส์เกาหลี See You in My 19th Life EP.9

ณ บริเวณม้าหมุน ที่สวนสนุกแห่งหนึ่ง จีอึมเดินไปเดินมารอซอฮาอยู่ที่นั่น ในขณะที่ซอฮารีบนั่งแท็กซี่มาที่สวนสนุก เมื่อเขาเจอกับจีอึม น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด ตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าคือ ‘จูวอน’ … จีอึมค่อย ๆ เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มเขาเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบ แล้วทั้งสองก็กอดกัน บรรยากาศอันหวานซึ้งเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลังจากความคิดถึงที่สั่งสมมานานกว่า 20 ปี

ด้านโชวอนมาหาโดยุนด้วยความคิดถึง แต่คำพูดจากปากของโดยุนยังคงยืนยันคำเดิม “คนเราชอบกันไม่ได้แปลว่าต้องคบกันนี่ครับ” เขาปฏิเสธจะคบกับเธอ เพราะเขาคิดว่าสถานะของเขาต่ำต้อย ไม่เหมาะสมกับเธอ โชวอนร้องไห้เดินหันหลังกลับไปด้วยความเสียใจ

ต่อมา ซอฮาเผชิญหน้ากับอีซังฮยอก ลุงของเขาสารภาพว่าคนที่ตั้งใจจะฆ่าคือ พ่อซอฮา แต่ดันผิดแผนที่ซอฮานั่งอยู่บนรถคันนั้น และเหตุผลที่ทำแบบนั้นเพราะอีซังฮยอกแอบหลงรักแม่ของซอฮา จึงทนไม่ได้ที่เห็นพ่อซอฮาทำไม่ได้กับเธอ

หลังจากนั้นไม่นาน อีซังฮยอกก็เข้ามอบตัวกับตำรวจด้วยความสำนึกผิด ความจริงที่ถูกฝังมานานหลายปีถูกเปิดเผย

จากนั้น ระหว่างที่จีอึมกำลังเดินเล่นอยู่กับซอฮา ภาพจากอดีตเมื่อชาติแรกก็แทรกเข้ามาในหัวของจีอึม ภาพที่เธอกำลังใกล้ชิดกับซอฮา แต่ดูเหมือนว่า มันเป็นความใกล้ชิดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต ไม่ใช้ความใกล้ชิดของหญิงชายที่เกิดจากบุพเพสันนิวาส !?

EP.10 จุดเริ่มต้นชีวิตในชาติแรก

แม้ภาพในชาติแรกจะปรากฏขึ้นในหัวของจีอึม แต่ยังไม่ชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้เห็นความจริง ถึงอย่างนั้น ภาพที่เห็นก็ทำให้จีอึมสงสัยและรู้สึกเป็นกังวล

ซอฮาตรวจสอบบัญชีของโรงแรมโดยละเอียด เขาพบว่ามีการยักยอกเงินบริษัท เมื่อได้หลักฐานแน่นหนา เขาจึงเข้าพบ CEO โรงแรมเอ็มไอ จางยอนอ๊ก และแจ้งกับเธอว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหายักยอกทรัพย์

เมื่อเรื่องถึงหูท่านประธาน พ่อของซอฮา จึงมีคำสั่งไล่ออก CEO จางยอนอ๊ก แม้เธอจะคุกเข่าต่อหน้าท่านประธาน แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายไปซะแล้ว

ต่อมา แอกยองนอนหมดสติอยู่ในห้องฉุกเฉิน จีอึมรีบไปที่โรงพยาบาลด้วยความเป็นกังวล สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ อาการป่วยของแอกยองเป็นอาการป่วยที่หมอก็ไม่รู้สาเหตุ

คังมินกิตัดสินใจบอกความลับกับจีอึม เมื่อคนระลึกชาติไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในชาติก่อนของตัวเอง จะเกิดปัญหาขึ้น นั่นหมายความว่า ที่แอกยองป่วยโดยไม่รู้สาเหตุ เป็นเพราะจีอึมบอกความสัมพันธ์เมื่อชาติที่แล้ว “ถ้าคุณ [จีอึม] ยังดื้อรั้นต่อไป คุณแอกยองอาจจะตายก็ได้”

ชินฮเยซอน - อันโบฮยอน

จากนั้น คังมินกิก็บอกทางเดียวที่ช่วยแอกยองกับจีอึม คือ จีอึมต้องจดจำชาติแรกของตัวเองให้ได้

จีอึมนั่งอยู่ในห้องเพียงลำพัง ในมือของเธอถือ ‘กระดิ่งร่างทรง’ ภาพในชาติแรกค่อย ๆ กลับเข้ามา มันเป็นภาพความตายของพี่สาวในชาติแรกของจีอึม ความตายที่เกิดจากดาบเปื้อนเลือดในมือซอฮา !!!

จังหวะนั้น ซอฮาเดินเข้ามาหาจีอึม ภาพชาติแรกที่อยู่ในหัวจีอึมทับซ้อนกับภาพความจริงในปัจจุบัน เธอเอื้อมมือไปบีบคอซอฮาด้วยสีหน้าโกรธแค้น ก่อนจะตวาดออกไปว่า “ข้าจะฆ่าเจ้า” !?

EP.11 ความเข้าใจผิด

จีอึมเห็นภาพที่เกิดขึ้นในชาติแรกของเธอ ในชาตินั้นเธอมีพี่สาวที่กำลังป่วย เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยพี่สาว จนกระทั่งเธอพบวิธีช่วยพี่สาว เป็นเพียงแต่ว่า ยาที่ใช้รักษาเป็นยาหายากที่ไม่สามารถใช้เงินซื้อได้ ต้องขโมย ‘กระดิ่งร่างทรง’ เพื่อไปแลกมาเท่านั้น

คืนนั้น จีอึมแอบเข้าไปขโมยกระดิ่งร่างทรงในศาลเจ้า เพื่อเอาไปแลกยารักษาพี่สาว อย่างไรก็ตาม ซอฮาก็ตามมาเอากระดิ่งร่างทรง และสังหารพี่สาวของจีอึมตายคาคมดาบ

ตัดกลับมาในปัจจุบัน …

จีอึมตวาดใส่ซอฮาด้วยความแค้น “แกฆ่าพี่สาวฉัน” เธอกำลังสับสน มือของเธอก็เอื้อมไปบีบคอซอฮา ในขณะที่ซอฮาพยายามเรียกสติของจีอึมให้กลับมา ไม่นานนักจีอึมก็ได้สติ เธอจึงกล่าวกับเขาว่าอยากอยู่คนเดียว

ต่อมา จีอึมไปหาคังมินกิเพื่อเอากระดิ่งร่างทรงไปคืน แต่เมื่อคังมินกิสอบถามถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชาติแรกของจีอึม เขาจึงรู้ในทันทีว่า เธอยังไม่เห็นภาพทั้งหมด เขาจึงให้เธอนำกระดิ่งร่างทรงกลับไปอีกครั้ง โดยแนะนำให้หาคนที่ทำให้เธอกลายเป็นคนระลึกชาติ จึงจะสามารถช่วยชีวิตแอกยองได้

วันเดียวกันนั้น ซอฮามาหาจีอึมที่เคยทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ในชาติแรกของจีอึม แม้จะไม่รู้ว่าทำอะไรไป แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกผิด … ซอฮาขออยู่ด้วย ในขณะที่จีอึมกำลังสัมผัสกระดิ่งร่างทรง เพื่อจดจำเหตุการณ์ทั้งหมดในชาติแรก

อันโบฮยอน - ชินฮเยซอน See You in My 19th Life EP.11

การสัมผ้สกระดิ่งครั้งนี้ จีอึมเห็นภาพต่าง ๆ ละเอียดขึ้น จนได้เห็นว่า แท้จริงแล้วคนที่ฟาดดาบสังหารชีวิตพี่สาวเธอคือ คังมินกิ เจ้านายของซอฮาในชาตินั้น

ส่วนซอฮากลับเป็นคนห้ามคังมินกิไม่ให้ลงดาบสังหารจีอึม

คืนนั้น จีอึมถือมีดสั้นในมือ เธอปรี่เข้าไปหวังปักเข้าที่ขั้วหัวใจของคังมินกิ แต่ทว่า จีอึมยังเข้าไม่ถึงตัวคังมินกิ มือธนูก็ง้างศรพุ่งปักร่างจีอึม ก่อนจีอึมจะสิ้นใจ เธอได้กล่าวสาปแช่งเอาไว้ว่า …

“ข้าจะจดจำแค้นนี้ไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะตายไปร้อยปีพันปี ข้าก็จะแก้แค้นเจ้าให้จงได้”

EP.12 ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ

จีอึมจดจำชาติแรกได้ทั้งหมดแล้ว เธอรู้แล้วว่าเป็นตัวเธอเองที่ทำให้เธอกลายเป็นคนระลึกชาติ ความแค้นจองจำเธอให้กลายเป็นแบบนี้ … จีอึมโผล่เข้าจูบซอฮา ก่อนจะกล่าวขอบคุณที่เป็นห่วงเป็นใยเธอมาตลอด ตั้งแต่ชาติแรกจนถึงชาตินี้

เมื่อรู้ความจริง จีอึมรีบไปหาคังมินกิทันที แต่จีอึมไม่ได้มาแก้แค้นอย่างที่เขาคาดไว้ เธอแค่มาบอกว่าเธอปล่อยวางทุกอย่างได้แล้ว เพราะชาตินี้เธอคือจีอึม ไม่ใช่หญิงสาวคนเดิมเมื่อชาติแรกอีกต่อไป

คังมินกิจึงบอกเงื่อนไขในการช่วยชีวิตแอกยอง ซึ่งหมายถึงจะทำให้จีอึมหยุดกลายเป็นคนระลึกชาติ เธอจะไม่สามารถจำเรื่องในชาติก่อน ๆ ได้อีก และเธอจะไม่มีความทรงจำของใครอีกต่อไป

จีอึมต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญ ความทรงจำในชาติก่อน ๆ คนรัก การลาจาก ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นความทรงจำที่ประเมินค่าไม่ได้ เมื่อมันต้องแลกกับชีวิตของแอกยอง เธอจะเลือกอะไร ?

ระหว่างนั้น ด้วยความเป็นแม่สื่อของจีอึม โดยุนจึงก้าวข้ามเรื่องสถานะทางครอบครัวที่แตกต่าง ยอมรับโชวอนเป็นแฟน แล้วทั้งคู่ก็เปิดใจตกลงคบหากัน

ในขณะที่ซอฮาก็ไปหาคังมินกิเพื่อถามหาความจริง เมื่อรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น เขาจึงรีบไปหาจีอึมทันที เขาบอกกับเธอว่า เขาจะไม่ทิ้งเธอไปเพียงเพราะเธอลืมทุกอย่าง เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะเป็นฝ่ายเข้าหาเธอเอง

เมื่อเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย จีอึมจึงตัดสินใจทำตามที่คังมินกิบอก เธอเดินไปบนสะพาน ณ จุดเดิมที่เธอเสียชีวิตในชาติแรก แล้วความทรงจำทุกอย่างของจีอึมในชาติก่อนก็หายไป “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมจะเป็นคนจำทุกอย่างเอง”

ด้านโชวอนก็เช่นกัน เมื่อรู้ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นกับจีอึม เธอจึงเตรียมเครื่องประดับไอเท็มคู่เอาไว้ เพื่อให้เมื่อถึงเวลาที่จีอึมไม่มีความทรงจำในอดีต ไอเท็มคู่จะเป็นเครื่องเตือนความทรงจำถึงความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่มีให้กัน

See You in My 19th Life Ep.12 ตอนจบ

กลับไปที่จุดเริ่มต้น

จีอึมกลับไปยังจุดเริ่มต้น จุดที่เธอเสียชีวิตในชาติแรก เมื่อกลับไป ณ จุดนั้น ความทรงจำเก่า ๆ ใน 19 ชาติในอดีตก็เริ่มหายไป

จีอึมกลับไปทำงานเป็นวิศวกรทดสอบรถยนต์ที่บริษัทรถยนต์อีกครั้ง ระหว่างที่จีอึมกำลังช็อปปิ้งกระเป๋าแบรนด์เนม โชวอนก็ปรากฏตัวขึ้นและเข้าไปทักทาย จีอึมจำโชวอนไม่ได้แม้แต่นิดเดียว โชวอนที่รู้อยู่แล้วก็กล่าวทักทายเหมือนคนไม่รู้จักเช่นกัน

จากนั้น จีอึมก็ไปกินอาหารที่ร้านอาหารของแอกยอง เธอรู้สึกแปลกใจกับรสชาติอาหารมาก เพราะเป็นอาหารที่กินแล้วถูกปากอย่างไม่น่าเชื่อ แอกยองได้แต่มองและยิ้มให้กับจีอึมคนใหม่

วันต่อมา จีอึมไปทีโรงแรมเอ็มไอ ที่นั่นเธอได้เจอกับซอฮา ซอฮาที่เพิ่งเจอครั้งแรกก็ขอคบกับเธอซะแล้ว จีอึมได้แต่ยิ้มแล้วก็ถามกลับไปว่า “จะให้ฉันคบกับคนที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรกได้ยังไงคะ”

ซอฮายิ้มและยิ้มมือออกไปให้ดูแหวนที่นิ้วนางมือซ้ายให้จีอึมดู ซึ่งเป็นแหวนคู่แบบเดียวกันกับที่อยู่ที่นิ้วนางมือซ้ายของเธอเช่นเดียวกัน … และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ในชีวิตของจีอึม

Images : tvN Korea

The post สรุปเนิ้อเรื่องซีรีส์ See You in My 19th Life (2023) ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ appeared first on idol.

]]>
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ King the Land (2023) https://www.online-idol.com/2023/06/19/king-the-land-2023-kdrama-spoiler-35765/ Mon, 19 Jun 2023 07:22:40 +0000 https://www.online-idol.com/?p=35765 เรื่องราวของทายาทแชบอลผู้ไม่สามารถทนกับรอยยิ้มอันจอมปลอม กับหญิงสาวที่มาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส …

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ King the Land (2023) appeared first on idol.

]]>
King the Land สปอยล์ : เรื่องราวของทายาทแชบอลผู้ไม่สามารถทนกับรอยยิ้มอันจอมปลอม กับหญิงสาวที่มาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส …

EP.1 คุณหนูยิ้มยากกับสาวสวยยิ้มง่าย

ภาพหน้าจอ King the Land EP.1

King Hotel เป็นโรงแรมระดับ 6 ดาวในเครือ King Group ตั้งเด่นเป็นสง่าในกรุงโซล

วันนี้ ชอนซารัง (รับบทโดย ยุนอา) หญิงสาวที่มีรอยยิ้มอันสดใสกำลังมาสัมภาษณ์งานที่เธอรัก ระหว่างเดินเข้าห้องสัมภาษณ์ส้นรองเท้าส้นสูงเกิดหัก แต่ด้วยไหวพริบและความฉลาด ทำให้เธอสร้างส้นเท้าเสมือนขึ้นมา แล้วทำท่าเดินเหมือนยังมีส้นอยู่เข้าห้องสัมภาษณ์โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

อย่างไรก็ตาม ซารังมาขอฝึกงานที่โรงแรมคิงทั้งที่เรียนแค่มหาวิทยาลัยปี 2 ไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ต้องเรียนปี 4 เธอจึงทำใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ได้งานที่นี่ ถึงอย่างนั้นก็ขอให้ได้ลองเถอะ

ผิดคาด วันต่อมาซารังได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า ผ่านการสัมภาษณ์ได้ฝึกงานที่โรงแรมคิงเป็นเวลาหนึ่งเดือน ซารังกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจยกใหญ่

อีจุนโฮ

คุณหนูยิ้มยาก

กูวอน (รับบทโดย อีจุนโฮ) เป็นทายาทของ King Group วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกในฐานะเด็กฝึกงาน พ่อต้องการให้เขาเรียนรู้ตั้งแต่ตำแหน่งล่างสุดไปถึงบนสุด แต่แค่วันแรกเขาก็มาทำงานสายซะแล้ว เพราะกระโดดร่มลงผิดตึก !?

กูวอนนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาจากเกาะเชจู แล้วโดดร่มลงมาบนตึกอย่างเท่ ๆ แหม่แต่ดันลงผิดตึกซะงั้น

ด้วยความเป็นลูกคุณหนู กูวอนเลยทำงานอะไรไม่เป็น เมื่อถูกหัวหน้างานสั่งให้ไปถ่ายเอกสารซึ่งควรจะเป็นงานง่าย ๆ แต่เขาต้องเปิดโทรศัพท์หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต จนเพื่อนที่ฝึกงานด้วยกันต้องมาช่วย ทีนี้ เจ้าเพื่อนสมองล้นคนนั้นไม่รู้ทำอีท่าไหน หมึกพิมพ์เกิดระเบิดกระจายเต็มห้อง ทั้งคู่จึงโดนหัวหน้างานไล่ออกทั้งที่เพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึงวัน

แหม่ ไล่ลูกชายเจ้าของออกซะงั้น ตอนแรกไม่รู้ไงว่ากูวอนเป็นใคร พอรู้เท่านั้นแหละ หัวหน้างานหน้าเหลือสองนิ้ว 555 … แต่กูวอนยอมรับการถูกไล่ออก เพราะเขาไม่อยากเป็นเด็กฝึกงานอยู่แล้วตั้งแต่แรก

กูฮวารัน เป็นพี่สาวของกูวอน ทั้งคู่ไม่ค่อยลงรอยกัน พ่อเชื่อใจฮวารันให้บริหารโรงแรมคิง ในขณะที่พ่อก็พยายามผลักดันกูวอนให้เรียนรู้เรื่องการบริหาร ติดตรงที่ฮวารันคอยกันท่าตลอด เธอขอร้องแกมบังคับน้องชายให้ไปอยู่อังกฤษ

สาวยิ้มง่าย

ซารังมาทำงานเป็นวันแรก งานที่ได้รับมอบหมายคือ คอยดูแลและทำความสะอาดฟิตเนส ที่ยี้ที่สุดคือต้องคอยเช็ด ‘เหงื่อร่องก้น’ ของแขกที่ติดอยู่บนเก้าอี้ฟิตเนส อี๋ แค่นึกก็สยองแล้ว

ระหว่างทำงานด้วยความขยันขันแข็ง เกิดมีแขกโรคจิตส่งจดหมายเขียนด้วยลายมือชวนขึ้นห้อง ซารังโกรธจัดเลยจะไปเอาเรื่อง แต่ก็ให้บังเอิญว่ากูวอนดันใส่เสื้อแบบเดียวกับแขกโรคจิตคนนั้น ทำให้ซารังเข้าใจผิด เข้าไปด่าตวาดใส่หน้ากูวอนแบบไม่เว้นช่องว่างให้เถียง กูวอนก็โกรธแบบงง ๆ ไปว่า “อะไรวะ !?”

เรื่องราวดำเนินไป ซารังถูกย้ายให้มาอยู่ที่ล็อบบี้ ด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของเธอ ฮวารันบอกเหตุผลที่เลื่อนซารัง “ล็อบบี้เป็นหน้าตาของโรงแรม รอยยิ้มของเธอจะเป็นหน้าตาให้กับโรงแรม”

ส่วนกูวอนก็เดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ

7 ปีผ่านไป

ณ ปัจจุบัน ซารังได้รับการบรรจุให้เป็นพนักงานประจำของโรงแรมคิง และได้รับการเลือกให้เป็นพนักงานดีเด่นหลายสมัย

ในขณะใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ กูวอนได้รับจดหมายปริศนา เขาตัดสินใจกลับเกาหลีอย่างกะทันหัน การกลับมาคราวนี้ เขาบอกกับพ่อว่าต้องการบริหารโรงแรม พ่อดีใจเพราะคงถึงเวลาแล้วที่ฮวารันกับกูวอนจะต้องพิสูจน์ฝีมือ ใครกันแน่ที่สมควรจะได้เป็นทายาทสืบทอดธุรกิจต่อไป

ยุนอา - อีจุนโฮ ในซีรีส์เกาหลี King the Land EP.1

วันนี้ กูวอนตื่นจากห้องสวีทขึ้นลิฟต์ไปทำงานเป็นวันแรก แต่ก็ให้บังเอิญว่าลืมโทรศัพทืไว้ที่ห้อง เลขาของกูวอนจึงโทร. ไปที่ล็อบบี้ให้พนักงานขึ้นไปเอาโทรศัพท์ให้ พนักงานคนนั้นคือ ซารัง แต่ …

แต่ซารังปวดท้องเข้าห้องน้ำจนตัวบิดตัวงอ อีหัวหน้าก็ไม่ได้ดูอะไรเลย ยืนยันคำสั่งให้ซารังไปเอาโทรศัพท์ก่อนแล้วค่อยเข้าห้องน้ำทีหลัง ซารังก็ต้องทำตาม ระหว่างทางไปห้องสวีทเธอต้องเกร็งขั้นสุดเพื่อต่อต้านข้าศึก เมื่อเข้าไปในห้อง ซารังเหลือบไปเห็นห้องสวรรค์อยู่เบื้องหน้า เอาวะ ทำผิดกฎใช้ห้องน้ำของแขกยังดีกว่าปล่อยให้ข้าศึกพังกำแพงได้

เมื่อได้นั่งที่สุขภัณฑ์หรู ความฟินก็บังเกิด ซารังยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ จริง ๆ ก็ควรจะจบไปแบบนี้ ถ้าเธอไม่มือบอนไปหยิบรีโมตเปิดปิดม่านไฟฟ้าในห้องน้ำมากดเล่น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่กูวอนเดินกลับมาที่ห้องเพื่อมาเอาโทรศัพท์ด้วยตัวเอง เอ๊ะ ทำไมม่านไฟฟ้ามันเปิด ๆ ปิด ๆ เขาจึงเดินเข้าไปดู

ซารังหน้าเหวออ้าปากหวอ ตกใจขึ้นสุด ที่เห็นกูวอนยืนมองหน้านิ่งดูเธอปลดปล่อยข้าศึกอยู่ในนั้น !

EP.2 ยิ้มจอมปลอม

กูวอนเห็นซารังนั่งหน้าเหวอขณะกำลังทำภารกิจส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ เขาจึงเดินออกมารอด้านนอก ซารังกดชักโครกแล้วเดินออกมาทำหน้าเหลอหลา แต่ก็ยังฝืนฉีกยิ้มตามที่ได้รับการอบรมมา ก่อนจะขอโทษที่ใช้ห้องน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต

มองไปมองมา กูวอนเริ่มคุ้นหน้าซารัง เขานึกสักพักจนจำได้ว่า เมื่อ 7 ปีที่แล้วเธอนี่เองที่เป็นคนพูดจาหยาบคายใส่เขา ด่าว่าเขาเป็นพวกโรคจิต กูวอนขอให้เธอขอโทษเรื่องในวันนั้นด้วย ซารังปฏิเสธ กูวอนจึงบอกไม่ให้เธอมาเจอหน้าเขาอีก

“ได้ค่ะ คุณลูกค้า ฉันก็ต้องการแบบนั้นเหมือนกัน” ซารังพูดไปทั้งที่หน้ายังฉีกยิ้มตามที่ได้ฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี

ยิ้มจอมปลอม

พ่อตั้งกูวอนให้เป็นผู้อำนวยการโรงแรม และสั่งให้จัดพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ เมื่อกูวอนยืนอยู่ที่โพเดียม เขามองไปที่ด้านล่าง พนักงานทุกคนส่งยิ้มให้เขา อาการวิงเวียนก็กำเริบ กูวอนพยายามควบคุมตัวเองแล้วกล่าวแนะนำตัวเองสองประโยค

แต่คนที่หนักกว่าคือ ซารัง เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่า ‘ไอ้โรคจิต’ จะมาเป็นผู้อำนวยการที่นี่ ชห ละงานนี้ เพราะเธอต้องเป็นตัวแทนพนักงานมอบดอกไม้ให้กับกูวอน

หลังจบงานต้อนรับ กูวอนเรียกซารังให้มาพบที่ห้องทำงานเป็นการส่วนตัว เขาถามด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงเรียกเขาว่า “ไอ้โรคจิต” ซารังจึงเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น พอได้คุยกันเธอจึงได้รู้ว่าที่แท้ ผิดคน ! ซารังโค้งขอโทษยกใหญ่

ก่อนซารังจะออกจากห้อง กูวอนสั่งให้หยุดยิ้ม “อย่ายิ้ม ถ้ายิ้มจะไล่ออก ฉันไม่ชอบยิ้มจอมปลอมนั่น” ซารังทำตามคำสั่งพร้อมกับสารภาพว่า ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมยิ้มให้เขาด้วยความจริงใจ และก็ขอบคุณที่ไม่ให้เธอต้องฝืนฉีกยิ้ม

ระหว่างนั้น ฮวารันยังคงหวาดระแวงว่ากูวอนจะมาแย่งมรดก กูวอนจึงเปิดอกกับพี่สาวว่าเขาไม่คิดที่จะเป็นผู้สืบทอดธุรกิจ ถึงอย่างนั้น ฮวารันก็ยังไม่เชื่อใจเขาอยู่ดี

คุณแม๊แห่งชาติ

วันนี้ มีนักแสดงอาวุโสชื่อดังฉายา ‘คุณแม่แห่งชาติ’ มาเข้าพักที่โรงแรม แต่จะขอสิทธิพิเศษอัปเกรดห้องจากดีลักซ์เป็นห้องสวีทโดยไม่เสียเงินเพิ่ม ซารังปฏิเสธด้วยรอยยิ้มและคำพูดที่ควบคุมอารมณ์เป็นอย่างดี แต่คุณแม๊แห่งชาติโวยวายยกใหญ่จะเอาห้องสวีทให้ได้ ซารังก็ได้แต่ตอบด้วยประโยคที่ได้รับการฝึกมาพร้อมรอยยิ้มกลับไป

กูวอนมาเห็นจึงสั่งให้ รปภ.พาตัวคุณแม๊แห่งชาติ ที่เขาเรียกว่าเป็นแขกนิสัยเสียออกไปจากโรงแรมซะ จากนั้นก็เรียกซารังให้มาพบที่ห้องทำงาน เขาไม่พอใจที่โรงแรมไม่มีระบบการจัดการกับแขกนิสัยเสียขั้นเด็ดขาด ซารังจึงชี้แจงว่า ไม่ว่ายังไงเราต้องอัธยาศัยดีกับแขกเสมอ เธอเป็นมืออาชีพ เมื่อถึงเวลาทำงานเธอไม่ใช่ ‘ชอนซารัง’ แต่เป็นพนักงานที่ทำงานอย่างมืออาชีพ โดยไม่ใช่อารมณ์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง

กูวอนอึ้งกับทัศนคติอันเยี่ยมยอดของซารัง

คืนนั้น ซารังไปเดตกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาประมาณปีกว่า ทั้งสองขึ้นไปดูวิวกรุงโซลกัน แต่ดูเหมือนแฟนของเธอจะเป็นผู้ชายประเภท ‘ปสด’ ให้แท็กซี่ส่งกลางทาง แล้วพาซารังเดินขึ้นบันไดสูงประมาณสามพันแปดร้อยขั้น เขาอ้างว่าอยากให้เธอออกกำลังกาย

เมื่อไปถึง ดูวิวชิล ๆ ได้ไม่กี่นาที เพื่อนเขาก็โทร. มาชวนให้ไปดื่มงานเลี้ยงรุ่น เขาจึงบอกซารัง “กลับกันเถอะ” อ้าว เฮ้ย เพิ่งมาถึงเมื่อกี๊เองนะ สุดท้าย ซารังก็ไปงานเลี้ยงรุ่นกับเขาด้วย เหมือนเดิม เขาทิ้งเธอให้นั่งอยู่คนเดียว ส่วนตัวเองก็ไปสนุกกับเพื่อน ๆ

ณ จุดนี้ ซารังหมดความอดทน เห็นทีจะต้องเลิกกับไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนี้แล้วล่ะ

ยุนอา อีจุนโฮ ในซ๊รีส์ King the Land EP.2

สายตาที่เปลี่ยนไป

ซารังกับกูวอนเดินทางไปเกาะเชจู เพื่อถ่ายทำรายการโปรโมตโรงแรมคิง ที่สนามบิน กูวอนถึงกับอึ้งไปหลายวินาทีเมื่อเห็นซารังในเดรสสีขาวปล่อยผมยาวสลวย ที่นั่น กูวอนมีเรื่องนิดหน่อย แต่ก็จัดการให้มันผ่านพ้นไปได้ด้วยเช็คเงินสด 1 ล้านวอน แหม่

เมื่อถึงเวลาถ่ายทำ ซารังที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรก็ถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นกูวอนในมาดสุดเท่ เธอยืนขึ้นแล้วมองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

EP.3 ความรู้สึกที่เรียกว่ารัก

ก่อนการสัมภาษณ์จะเริ่มไม่กี่นาที ฮวารันสั่งลูกน้องให้เอาสคริปต์มาสับเปลี่ยน … การสัมภาษณ์รายการสดเริ่มขึ้น ซารังยิงคำถามเกี่ยวกับแม่ใส่กูวอน สีหน้าของผู้ถูกถามเปลี่ยนไปทันที หันมามองตาขวางใส่ซารัง ก่อนจะลุกขึ้นออกจากเซตด้วยสีหน้าไม่พอใจ

แม่คือปมในใจ เขาคิดถึงผู้จากไปแทบทุกวินาที !

ยังดีที่ซารังแก้ไขสถานการณ์เอาไว้ได้ เธอเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ ผ่านไปหลายนาที กูวอนก็กลับเข้ามาในเซตอีกครั้งด้วยท่าทางใจเย็นลง เขาขอดูสคริปต์ในมือซารังก่อนจะโยนมันทิ้งไป แล้วการสัมภาษณ์ก็จบลงด้วยดีจากฝีมือของซารัง

วันต่อมาเป็นการถ่ายภาพนิ่งของทั้งคู่ ช่างภาพถึงกับกุมขมับ ถ่ายเป็นร้อยรูปพันรูป กูวอนไม่ยิ้มซักกะรูป ลูกน้องหัวหน้าช่างภาพจึงเสนอว่าจะโฟโต้ชอปรอยยิ้มให้

ติดเกาะ

งานน่าจะจบลงแค่นี้ แต่ผู้กำกับฯ ขอเก็บภาพเพิ่ม ซารังกับกูวอนจึงต้องลงเรือประมงที่ส่งวัตถุดิบให้โรงแรมใช้ทำอาหาร ระหว่างอยู่กลางทะเลเรือพังซะงั้น คืนนี้ทั้งสองเลยต้องนอนพักที่โรงแรมบนเกาะ เกาะที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

อีจุนโฮ - ยุนอา ในซีรีส์ King the Land EP.3

เกาะแปลกประหลาดแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยความมืด บรรยากาศน่ากลัวเหลือเกิน เกาะวังเวงไม่น่าจะมีโรงแรม น่าจะมีผีซะมากกว่า … ซารังเปิดไฟฉายบนไอโฟนเพื่อส่องนำทาง เดินไปสักพักก็เห็นแสงสลัว ๆ สามดวงอยู่ กูวอนหน้าเริ่มถอดสี แล้วเงาตะคุ่ม ๆ ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า นั่นมันผียายแก่ กูวอนถึงกับช็อกสลบเหมือดไปทันที ปั๊ดโธ่ ไหนคุยนักคุยหนาว่าไม่กลัวผี 555

หนักซารังต้องแบกกูวอนไปที่โรงแรม ผีที่กูวอนเห็นที่แท้ก็เป็นยายแก่เจ้าของโรงแรม คืนนั้น ทั้งคู่มีดื่มกันจนเมามาย ทำให้มีโมเมนต์ที่ใกล้ชิดกัน รุ่งเช้าก็ปั่นจักรยานเล่นกัน

พอถึงตอนคิดเงินนี่สิ ซารังโวยวายออกมาไม่หยุด “มันขูดรีดกันชัด ๆ” ยายแก่คิดค่าที่พักพร้อมอาหารและค่าเช่าจักรยานเป็นเงิน 675,000 วอน (ประมาณ 18,000 บาท) ซารังสวมบทแม่สาวนักต่อ จนยายแก่ยอมลดเหลือ 350,000 วอนอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

ระหว่างนั่งเรือกลับ กูวอนบ่นซารังที่ไปเสียพลังงานต่อรองราคา จ่าย ๆ ไปซะก็จบเงินแค่นั้นเอง ซารังเล่าว่าคุณย่าสอนเธอตั้งแต่เด็กให้รู้จักคุณค่าของเงิน ยิ่งเป็นการขูดรีดกันแบบนี้ยิ่งไม่สมควรต้องจ่าย … ทัศนคติของซารังทำให้กูวอนเริ่มมองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

ความรู้สึกที่เรียกว่ารัก

กูวอนกลับมาบ้านก็โดนพ่อด่ากรอกหู ที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมตอนออกรายการสด แต่ทว่า กูวอนกลับมองพ่อด้วยสายตาที่แข็งกร้าวแล้วพูดประโยคปริศนาออกมา “ผมต้องรู้ความจริงเรื่องแม่ให้ได้” พ่อได้ยินประโยคนี้ถึงกับเสียงอ่อนและรีบเดินจากไปทันที … ปริศนาเรื่องแม่ของกูวอนมันคืออะไรกันนะ ?

ในขณะที่ซารังได้รับคำชื่นชมที่แก้ไขสถานการณ์ตอนออกรายการสด เธอจึงได้รับการโปรโมตให้ไปทำงานในโซน VVIPs ของโรงแรม

หลังกลับมาจากติดเกาะ กูวอนก็เอาซารังออกจากหัวไม่ได้เลย เอาแต่คิดถึงรอยยิ้มของเธอทั้งวัน เขาเริ่มสับสนกับความรู้สึกตัวเอง “มันคือรักหรือเปล่านะ ?”

King the Land EP.3

ระหว่างกำลังงง ๆ กับความรู้สึก คืนนั้น กูวอนซื้อมาการองไปให้ซารัง แต่ภาพที่เขาเห็นคือ ซารังกอดกันตัวกลมกับแฟนหนุ่มของเธอ !?

EP.4 สองคนสองความรู้สึก

กูวอนทนเห็นภาพบาดตาบาดใจไม่ไหวจนต้องเดินหลบไป แต่จริง ๆ แล้วภาพที่เห็นกับสิ่งที่เป็นกลับตรงกันข้าม ซารังตัดสินใจบอกเลิกกับแฟนหนุ่มจอมเห็นแก่ตัวในคืนนั้น

วันต่อมา ซารังตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ที่ได้แต่งตั้งจากท่านประธาน (พ่อกูวอน) การทำงานในห้องรับรองแขก VVIPs ถือเป็นงานที่พนักงานทุกคนใฝ่ฝัน อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมงานตั้งแง่ว่าเธอเป็นเด็กเส้น และดูจะไม่ยอมรับซารัง เนื่องจากซารังจบมหาวิทยาแค่ปีสอง ขณะที่เธอจบปีสี่จากมหาวิทยาลัยดังในกรุงโซล “ถ้าอยากได้รับการยอมรับก็ต้องพิสูจน์ฝีมือ”

ส่วนพ่อหนุ่มกูวอนในตอนนี้กำลังโดนสิ่งที่เรียกว่าความรักเล่นงานเข้าอย่างจัง เขาอดคิดถึงซารังไม่ได้เลย ไม่ได้เลยจริง ๆ เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความไปหาเธอ “เย็นนี้มาเจอกันหลังเลิกงาน” … คือพอส่งเสร็จก็อารมณ์แบบ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กแทบทุกนาที แต่ดูกี่ที ๆ ซารังก็ไม่ตอบกลับ โอ๊ยมันแน่นอก รักแรกอะนะ มันก็จะโฉ่งฉ่างหน่อย 555

ผ่านไปหนึ่งวัน เมื่อไม่ตอบ กูวอนก็เข้าถึงตัวซารังแล้วชวนไปไดนิ่งดินเนอร์ อ้างว่ามีธุระจะคุย ด้วยความที่ฟอร์มเยอะ แทนที่น้ำเสียงจะนุ่มนวลแบบชวนสาวออกเดต แต่กลับเป็นน้ำเสียงออกคำสั่งซะอย่างนั้น ซารังปฏิเสธทันที พร้อมกับพูดสั่งสอน “การขอนัดทานอาหารเย็นต้องพูดจาดี ๆ ไหมล่ะ ไม่ใช่พูดเหมือนออกคำสั่งแบบนี้”

นิสัยคุณหนูเอาแต่ใจ กูวอนไม่ยอม ยังไง ๆ ค่ำนี้ก็ต้องทานอาหารกับซารังให้ได้ เขาจึงไปปรึกษากับเลขาฯ สมองเขื่อง จนได้ความว่าให้เรียกพนักงานทุกคนมารับประทานอาหารค่ำร่วมกัน … แหม่ ถึงจะไม่ได้ร่วมโต๊ะกันสองต่อสอง ก็ยังดีที่มีซารังร่วมโต๊ะ 555

ระหว่างรับประทานร่วมกันอยู่นั้น กูวอนสังเกตเห็นซารังไม่ชอบกินซาชิมิ เขาจึงสั่งสเต๊กมาให้ ซารังกินไปก็เขินไปที่ตัวเองเป็นจุดเด่น จนตกเป็นเป้าสายตาของพนักงานคนอื่น

หลังรับประทานอาหารเสร็จ ซารังหาจังหวะเข้าไปด่ากูวอน “ทีหลังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้นะ” เธอไม่พอใจที่เขาทำให้เธออยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด และดูไม่ดีในสายตาเพื่อนร่วมงาน … กร่อยเลย แผนที่กูวอนตั้งใจจะทำคะแนน กลับเป็นติดลบซะอย่างนั้น บอกแล้วว่ารักแรกมันจะโฉ่งฉ่างหน่อย 555

สองความรู้สึก

คืนเดียวกัน แฟนหนุ่มของซารังถือช่อดอกไม้มาง้อขอคืนดี ไม่เป็นผล ซารังตัดสินใจจะเลิกกับเขาอย่างเด็ดขาด

เมื่อแฟนหนุ่มจอมเห็นแก่ตัวเดินจากไป ซารังก็ปล่อยโฮออกมาไม่หยุด เธอยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายฝน อย่างน้อยสายฝนคงจะช่วยชะล้างคราบน้ำตาออกไป และกลบเกลือนความเสียใจที่มี ทันใดนั้น คุณหนูกูวอนก็ถือร่มเดินตรงมาที่ซารังด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ยุนอา - อีจุนโฮ ในซีรีส์เกาหลี King the Land EP.4

ซารังไม่สนใจร่มกับใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มของกูวอนเลยแม้แต่นิดเดียว มันไม่โรแมนซ์เหมือนที่กูวอนคาดหวัง ซารังมองเขาด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันหลังเดินหนีไป แต่พรหมลิขิตอะนะ จู่ ๆ ซารังก็สะดุดทำท่าจะล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปกระแทกกับพื้น ยังดีที่กูวอนเข้าไปประคองเธอเอาไว้ได้ทัน … มือขวาถือร่ม มือซ้ายเข้าไปประคอง

ซารังอยู่ในอ้อมกอดของกูวอน ทั้งสองมองตากันและกัน คนหนึ่งใบหน้าเรียบเฉยไร้รอยยิ้ม อีกคนหนึ่งตาแดงก่ำจากน้ำตา คนหนึ่งเพิ่งพบกับรักแรก อีกคนหนึ่งกำลังเสียใจกับรักที่ล้มเหลว

EP.5 แง่มุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

บรรยากาศความโรแมนซ์ก่อตัวขึ้นหนักแน่นและรุนแรงท่ามกลางสายฝน เม็ดฝนที่ตกลงมากระทบผืนผ้าใบของร่มในมือกูวอน ร่มที่ปกป้องซารังจากฝนที่ตกลงมาไม่หยุด

กูวอนเห็นใบหน้าซารังเปียกชุ่ม ดวงตาอันเศร้าสร้อย แม้เขาจะไม่ชอบรอยยิ้ม แต่สำหรับความเศร้าเขารู้จักเป็นอย่างดี “กลับเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง”

ระหว่างรถติดอยู่บนรถในค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำเทลงมาไม่หยุด ซารังเผลอหลับไป กูวอนจึงถือวิสาสะพาเธอไปที่ร้านอาหารหรูร้านหนึ่ง เพื่อเลี้ยงฉลองวันเกิดให้ซารัง … ที่นั่น ซารังได้เห็นแง่มุมอันละเอียดละออเอาใจใส่ของกูวอนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ‘แฟนหนุ่ม’ ที่ตอนนี้ถูกเรียกว่า ‘แฟนเก่า’ มาดักรอที่หน้าบ้านของซารัง ทั้งสองโต้เถียงกัน ก่อนที่เธอยืนยันให้เขาไปให้พ้น ๆ แล้วเดินหนีเข้าบ้านอย่างไม่สนใจใยดีรักเน่า ๆ ของผู้ชายห่วย ๆ … กูวอนเห็นไอ้หนุ่มแฟนเก่าโวยวายไม่เลิกจึงเข้าไปเล่นงาน พร้อมคำขู่ “อย่ามายุ่งกับซารังอีก ไม่งั้นเจอดีแน่”

คืนนั้น กูวอนโทร. หาซารัง “สุขสันต์วันเกิด” เขาเอ่ยคำอวยพรที่ยังไม่ได้กล่าว จนเกิดเป็นความรู้สึกพิเศษระหว่างคนทั้งสองขึ้น ณ จุดนี้ เห็นได้ชัดว่าซารังเริ่มรู้สึกดี ๆ กับกูวอน วันเกิดที่เธอไม่เคยรู้สึกมีคุณค่า กลับถูกทำให้มีคุณค่าขึ้นมาในวันนี้ เพราะเขา

ค่ำวันต่อมา กูวอนชวนซารังไปไดนิ่ง เธอตอบตกลงและขอเป็นคนเลี้ยงเอง ซารังพาไปร้านอาหารดังสไตล์ที่กูวอนไม่เคยไปมาก่อน กูวอนได้รับประสบการณ์ใหม่อย่างที่ไม่เคยเจอ ตั้งแต่การนั่งรอคิว และการนั่งกินอาหารที่มีผู้คนมากมาย มีแอมเบียนต์เป็นเสียงอึกทึกของผู้คน มันไม่ใช่การกินอาหารแบบสงบเงียบอย่างที่เขากินมาตลอดทั้งชีวิต

วันต่อมา กูวอนได้อนุมัติให้พนักงานโซน VVIP ไปทำกิจกรรมประจำปีที่เรียกว่า Super Farmer Week ซารังที่เป็นน้องเล็กสุดถูกให้ไปทำกิจกรรมสุดโหด นั่นคือ ไปหา ‘โสมป่า’ บนเขาจีรี

ยุนอา และ อีจุนโฮ ในซีรีส์ King the Land EP.5

ทีนี้ กูวอนที่ตอนแรกไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับ Super Farmer Week เมื่อได้รู้ว่าซารังต้องไปผจญกับความลำบาก เขาจึงอดเป็นห่วงไม่ได้ ระหว่างที่ซารังกำลังเดินขึ้นไปบนเขาเป็นเวลานานกว่าสองชั่วโมง กูวอนจึงโทร. หาด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ซารังบังเอิญเจอโสมป่าพอดี โสมป่าที่อยู่ตรงหน้าผา

ซารังค่อย ๆ เอื้อมมือไปขุดโสมป่าหายากออกมาด้วยความตื่นเต้น ทันใดนั้น ซารังเกิดลื่นพลัดตกหน้าผา ยังดีที่เธอไม่ตกลงไปจนสุดก้นเหว ร่างไร้สติของซารังกระแทกลงพื้นที่เล็ก ๆ ที่ยื่นออกมา

ผ่านไปจนค่ำมืด ซารังได้สติขึ้นด้วยความตกใจ แสงไฟและเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้น เงาของกูวอนปรากฏ พระเอกขี่เฮลิคอปเตอร์มาช่วยแล้ว

EP.6 หึงแหละดูออก

กูวอนขอฮวารันใช้เฮลิคอปเตอร์ของบริษัท แต่ถูกปฏิเสธ เขาจึงใช้ความเป็นลูกชายท่านประธานสั่งให้พนักงานเอาเฮลิคอปเตอร์ขึ้น โดยจะรับผิดชอบเอง

กูวอนตามตำแหน่ง GPS ไป เมื่อเจอซารัง เขาก็กระโดดลงไปอยู่กับเธอ แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็บินจากไป อ้าว !

“นี่คุณอย่าบอกนะว่ามาช่วยฉันแค่คนเดียว แล้วเราจะขึ้นไปยังไงเนี่ย ?” ซารังทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก แบบนี้ไม่เรียกมาช่วย มาอยู่เป็นเพื่อนซะมากกว่า 555

อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักก็มีคนเดินผ่านมาพอดี จึงมาช่วยทั้งสองเอาไว้ได้ จากนั้นก็ให้ไปนอนที่บ้าน … ที่แท้คนที่มาช่วยก็คือ เถ้าแก่ขุดโสมที่ซารังได้รับมอบหมายให้มาเจรจา เพื่อให้เถ้าแก่ส่งโสมคุณภาพดีให้กับโรงแรมคิง รุ่งเช้า ซารังจึงหยิบโสมป่าที่เธอขุดมาได้เอามาให้เถ้าแก่ดู มันเป็นโสมป่าจริง ๆ

“เธอต้องเป็นคนที่สั่งสมบุญบารมีมากจริง ๆ ถึงจะเจอโสมป่าหายากแบบนี้” เถ้าแก่กล่าวชื่นชมซารังยกใหญ่ ก่อนจะตกลงขายวัตถุดิบให้โรงแรมคิง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ใครมาเจรจา เถ้าแก่ก็ปฏิเสธ ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของซารัง

King the Land EP.6

หลังจากนั้น กูวอนก็ขับรถ AUDI e-tron รถไฟฟ้าสีดำสุดเท่ไปส่งซารังที่บ้านย่า เพื่อเอาโสมป่าไปให้คุณย่าที่เปิดร้านอาหาร ด้วยความที่มีลูกค้าเต็มร้าน เมื่อไปถึงคุณย่าจึงสั่งให้ซารังช่วยเสิร์ฟอาหการ ส่วนกูวอนก็ต้องไปปอกหอมหัวใหญ่ กูวอนมองหน้าคุณย่า แต่ก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำไปแบบงง ๆ

เสร็จภารกิจปอกหอมหัวใหญ่ ซารังก็ชวนกูวอนออกไปเดินตลาด เปิดโลกเลย เพราะเขาไม่เคยเดินตลาดแบบนี้มาก่อน เมื่อไปเจอเกมจับฉลากปลาคาล์ฟยักษ์ครั้งละ 1 พันวอน เขาจึงจับแล้วจับอีกจับไม่เลิก เพื่อจะเอาชนะรางวัลใหญ่ให้ได้ จับไม่รู้กี่สิบครั้งก็ได้แต่แห้ว ซารังจึงเตือนให้หยุดเล่นได้แล้ว แต่ความดื้ออยากเอาชนะนั่นแหละ กูวอนก็จับไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ชนะได้รางวัลใหญ่ ฟินสุด ๆ … เอิ่ม ไปซื้อเองจะถูกกว่านะ 555

คู่หมั้นคลุมถุงชน

ซารังกลับมาทำงานที่โซน VVIP … วันนี้ มีหญิงสาวไฮโซมาฉลองวันเกิด ระหว่างที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ กูวอนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกล่องของขวัญแบรนด์เนมสุดหรู เป็นของวันเกิดของหญิงสาว หญิงสาวที่พ่อของทั้งคู่ตกลงให้แต่งงานกัน !

ซารังได้เห็นและได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมาทั้งหมด “ทั้งคู่เป็นคู่หมั้นกันเหรอ !?” ซารังหน้าบอกบุญไม่รับทันที ใคร ๆ ก็ดูออกว่าหึง

คืนนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้าน ซารังดื่มกับเพื่อน ๆ และร้องคาราโอเกะเพื่อลืมความเศร้า ขณะที่กำลังร้องเพลงอย่างเมามัน จู่ ๆ เสียงกดกริ่งก็ดังขึ้น เมื่อซารังเปิดประตูก็ถึงกับผงะ กูวอนมาหาเธอที่บ้านด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

EP.7 คู่แข่งหัวใจ

กูวอนมาหาซารังที่บ้าน เขามาเพราะสังเกตเห็นเธอหึงเขาหนักมาก พร้อมกับบอกว่าหญิงสาวที่กอดกับเขาที่โรงแรมไม่ใช่แฟน เป็นเพียงคนที่พ่อจะให้แต่งงานด้วย แต่ทั้งสองตกลงกันว่า ถ้าอีกฝ่ายมีคนที่ชอบอีกฝ่ายก็จะไม่เหนี่ยวรั้ง เนื่องจากฝ่ายหญิงก็ไม่ชอบที่พ่อจับคู่ให้เธอเช่นกัน

ซารังเดินไปส่งกูวอน ระหว่างนั้น กูวอนกุมมือซารังเดินเคียงคู่กันไป และนี่คือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์อันหวานซึ้งของทั้งคู่

รุ่งขึ้น ฮวารันเรียกซารังมาพบ เพื่อขอให้นำเรื่องการตกหน้าผาที่เขาจีรีมาประชาสัมพันธ์โรงแรม โดยสคริปต์มีการแต่งเสริมเติมแต่งให้เรื่องมีความดราม่า ส่วนในตอนท้ายซารังต้องกล่าวขอบคุณโรงแรมคิงและฮวารัน … ซารังยอมรับคำสั่งอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

เมื่อถึงตอนแถลงข่าวต่อหน้าสื่อ ซารังพูดทุกอย่างตามสคริปต์ แต่ในตอนท้าย เธอกล่าวของคุณกูวอนเพิ่มเข้าไปอีกคน … เมื่อข่าวถูกเผยแพร่ เรื่องราวของเธอจึงกลายเป็นไวรัลในเน็ตทันที

เจ้าชายอาหรับ

ต่อมา กูวอนได้รับผิดชอบงานสำคัญของโรงแรม คือการดึงตัว ‘ซาเมียร์’ เจ้าชายอาหรับ ผู้ที่รวยอันดับ 13 ของโลก แขกระดับซูเปอร์วีวีไอพี ที่ตอนนี้เลือกพักโรงแรมคู่แข่ง ดังนั้น ท่านประธาน พ่อของกูวอนจึงยอมไม่ได้ โรงแรมคิงต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น

ตอนแรก ฮวารันพยายามทำทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงคิดหาวิธีโบ้ยความรับผิดชอบ โดยให้กูวอนเป็นคนทำหน้าที่ดึงตัว ‘ซาเมียร์’ กูวอนตกปากรับคำด้วยสีหน้ามั่นใจ เพราะแท้จริงแล้ว เขากับซาเมียร์เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกัน แม้เขาจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าอีตาซาเมียร์ก็เถอะ

กูวอนโทร. ไปหาซาเมียร์เพื่อตกลง ‘ดีลลับ’ ตอนแรกซาเมียร์ปฏิเสธ กูวอนจึงยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ไปให้ “ฉันจะดูแลนายอย่างดี ฉันจะจัดให้ทุกอย่างที่นายต้องการ” … ดันดีล

เมื่อถึงหมายกำหนดการ ซาเมียร์เดินทางมาตามนัดหมาย ซารังพร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงมาต้อนรับกันอย่างพร้อมเพรียง ซาเมียร์ลงมาจากรถลีมูซีนคันหรู สิ่งแรกที่เขาเห็นคือใบหน้าที่มีรอยยิ้มอันงดงามของซารัง เจ้าชายอาหรับปิ๊งซารังตั้งแต่แรกเห็น

กูวอนงานเข้า อยู่ดี ๆ ก็มีคู่แข่งหัวใจขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ด้วยความเป็นเพื่อนนักเรียนกันมา กูวอนจึงหาจังหวะเข้าไปเป็น กขค ABC อยู่ตลอด … กูวอนใช้ข้อตกลงในสัญญาเข้าพักที่ระบุว่า เขาต้องเป็นคนดูแลเจ้าชายอาหรับตลอดเวลาเป็นข้ออ้าง ซึ่งในสัญญาระบุด้วยว่า พนักงานโรงแรมต้องยิ้มตลอดเวลา ซารังจึงสอนให้กูวอนยิ้ม

และเมื่อกูวอนยิ้ม กลายเป็นว่าเขามียิ้มที่สวยงามหน้ามองอย่างเหลือเชื่อ

ระหว่างนั้น ด้วยความสงสัย ซารังจึงถามว่าทำไมซาเมียร์ถึงพูดภาษาเกาหลีได้ดี เขาตอบด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย “รักแรกของผมเป็นคนเกาหลี แต่เธอดันทิ้งผมไป”

รีแคปซีรีส์ King the Land EP.7

รุ่งขึ้น ซาเมียร์อยากไปเที่ยวพระราชวังสมัยโชซอนกับซารัง กูวอนจึงขอไปด้วยในฐานะก้างขวางคอ 555

แล้วอยู่ดี ๆ ซาเมียร์เกิดอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ เข้าพิธีอภิเษกแบบโชซอนกับซารัง … ซารังแต่งตัวเต็มยศในฐานะเจ้าสาว แต่ทว่า เมื่อเจ้าบ่าวปรากฏเบื้องหน้ากลับเป็น กูวอน

ฮะ ! ซารังตกตะลึง

EP.8 รอยจูบกลางสายน้ำ

กูวอนอาศัยจังหวะที่กำลังแต่งตัวเข้าพิธีอภิเษกย้อนยุคแบบจำลอง หลอกให้เจ้าชายซาเมียร์แต่งตัวชุดคนกวาดขยะ โดยอ้างว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่มีเกียรติสูงสุด โถ เจ้าชายอาหรับก็โง๊โง่ เชื่อกูวอนเฉยเลย

ส่วนกูวอนก็แต่งตัวชุดเจ้าบ่าวเข้าพิธีอภิเษกกับซารัง แต่พิธียังไม่ทันเสร็จ เจ้าชายซาเมียร์ที่เพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอกก็เข้ามาโวยวายใส่กูวอน ถือไม้กวาดวิ่งไล่ตีอย่างกับเด็ก ๆ ซารังได้แต่ยืนมองผู้ชายทั้งสองด้วยความเหนื่อยใจ 555

ต่อมา ในคืนวันก่อนเจ้าชายซาเมียร์จะกลับ เขาเชิญซารังมาร่วมรับประทานอาหารค่ำสุดหรูเป็นการส่วนตัว โดยให้กูวอนแต่งตัวเป็นบริการคอยเสิร์ฟอาหาร กูวอนก็ต้องทำตามอะนะ เพราะเป็นข้อบังคับที่ระบุเอาไว้ในสัญญา

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เจ้าชายอาหรับก็หยิบเอาแหวนเพชรราคาแพงออกมาขอซารังแต่งงาน กูวอนเห็นจึงเข้าไปแย่งแหวนวงนั้นเอาไว้กับตัว แต่ซารังก็ขอแหวนคืนจากกูวอน ก่อนจะเอาไปคืนให้เจ้าชายซาเมียร์พร้อมปฏิเสธด้วยคำพูดอันนุ่มนวล เจ้าชายอาหรับคอตกด้วยความผิดหวัง ถึงอย่างนั้นเขาก็เคารพการตัดสินใจของเธอ

เมื่อถึงวันเช็กเอาต์ ซาเมียร์โผเข้าไปกอดกูวอน พร้อมกับเอ่ยปากออกมาว่า “โชคดีเพื่อน แล้วจะกลับมาอีก”

“เออ ถ้านายกลับมาอีก ฉันจะปิดโรงแรมหนี” กูวอนตอบกลับด้วยสีหน้าไร้รอยยิ้ม

หลังงานดึงตัวเจ้าชายซาเมียรืมาพักที่โรงแรมคิงผ่านไปได้ด้วยดี ท่านประธาน พ่อของกูวอนก็กล่าวชื่นชมเขายกใหญ่ ณ จุดนี้ กูวอนเริ่มได้แรงบันดาลใจที่จะต่อกรกับฮวารัน ในการแย่างชิงตำแหน่งผู้สืบทอดคิงกรุ๊ป เขาต้องการหาความจริงเรื่องแม่

ซาวน่าเตาไฟ

เพื่อนสนิททั้งสองชวนซารังไปซาวน่าเตาไฟ เพื่อไปช่วยกันขายสินค้าปลอดภาษี กูวอนจึงตามไปด้วย … เพื่อนสาวของซารังจึงอาศัยจังหวะนั้นเข้าหากูวอน และคะยั้นคะยอให้เขาเผยความรู้สึกในใจกับซารัง

กูวอนตัดสินใจนัดซารังให้มาดินเนอร์ในวันรุ่งขึ้น

เฟิร์สคิส

ร้านอาหารที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นอย่างดี พนักงานคนเดียวในร้านคือกูวอน เมื่อซารังมาถึงเขาเดินไปต้อนรับด้วยความสุภาพ ก่อนจะแนะนำตัวเองว่าเป็นเชฟในวันนี้

แต่เอ๊ะ ซารังสงสัยว่าเมื่อวันก่อน เขายังปอกหัวหอมไม่เป็นอยู่เลย วันนี้เป็นเชฟจะกินได้มั้ยเนี่ย กูวอนจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า เขาได้รับการฝึกจากเชฟชั้นนำเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ ซารังได้ยินก็ตบมือให้ด้วยความชื่นชมในความพยายาม

กูวอนทำอาหารมาเสิร์ฟแต่ละเมนู ทั้งดูดีหน้าตาและรสชาติ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณหนูที่มีคนทำทุกอย่างมาให้ทั้งชีวิต จะมุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ เพื่อซารัง แต่ …

เมื่อถึงตอนทำสเต๊ก กูวอนทำฟอร์มโชว์โรยเกลือโปรยหิมะ แต่ไม่รู้ทำอีท่าไหน ไฟเกิดลุกท่วมอย่างกับผักบุ้งไฟแดง !

ยุนอา อีจุนโฮ จูบแรก

ควันลุกท่วม เครื่องฉีดน้ำดับเพลิงอัตโนมัติทำงาน ไฟฟ้าตัด … กูวอนรีบวิ่งไปคว้าตัวซารัง สายน้ำที่ไหล แสงไฟสลัวที่รอดผ่านกระจกจากภายนอก ก่อเกิดเป็นบรรยากาศโรแมนติกขึ้นมา ทั้งสองจูบกันอย่างหวานซึ้ง จูบแรกที่ยืนยันความรู้สึกของกันและกัน

EP.9 เธอเป็นแฟนฉันแล้ว

หลังจากค่ำคืนอันสุดแสนโรแมนซ์ท่ามกลางสายน้ำจากสปริงเกอร์ดับเพลิง วันรุ่งขึ้น บรรยากาศความหวานระหว่างกูวอนกับซารังก็ยังคงดำเนินต่อไป ณ ลิฟต์ของโรงแรม ทั้งสองได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง แต่ทว่า ระหว่างการทำงานทั้งสองต้องทำเป็นวางฟอร์ม เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นรู้

แหม่ แต่คุณหนูกูวอนดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่ แกล้งทำเป็นฟอร์มนั่งดื่มกาแฟอยู่ในโซน VVIP เพื่อดูซารังทำงาน จนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด เธอจึงพยายามขอร้องให้เขาไปซะ คูณหนูกูวอนก็จะสั่งกาแฟแก้วที่สี่เพื่อเป็นข้ออ้าง 555

จากนั้น กูวอนก็ประกาศสงครามกับฮวารันอย่างเต็มตัว เขาประกาศความต้องการที่จะเป็นผู้ดูแลโรงแรมต่อหน้าท่านประธาน ผู้เป็นบิดา โดยท่านประธานจะพิจารณาเรื่องนี้อีกทีหลังเสร็จงานฉลองครบรอบ 100 ปีของคิงกรุ๊ป ซึ่งกูวอนเป็นผู้รับผิดชอบ ในขณะที่ฮวารันมองหน้าน้องชายต่างแม่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

เพื่อขัดขวางไม่ให้กูวอนได้แย่งคิงกรุ๊ปไป เธอจึงเตรียมแผนการบางอย่างเอาไว้ในงานฉลองครบรอบ 100 ปีเรียบร้อยแล้ว

ภาพหน้าจอจากซีรีส์เกาหลี King the Land EP.9

เข้าหาผู้ใหญ่

กูวอนเดินทางไปหาคุณย่าของซารัง แต่ให้บังเอิญว่าเมื่อเขาไปถึงคุณย่าเกิดตกจากเก้าอี้ขณะเปลี่ยนหลอดไฟ เขาจึงรีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาล และรับปากว่าจะดูแลเปิดร้านอาหารด้วยตัวเอง เพื่อที่คุณย่าจะได้รักษาตัวอย่างหมดห่วง

ซารังตามมาดูอาการคุณย่าที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ … คืนนั้น ทั้งสองมาที่ร้านอาหาร กูวอนทำเก่งอาสาจะซ่อมไฟด้วยตัวเอง แต่ไหงทำไปทำมาไฟช็อต ไฟดับทั้งหลังไปซะอย่างนั้น

แสงไฟสลัว ๆ ทำให้เกิดบรรยากาศโรแมนซ์ขึ้นมาอีกครั้ง กูวอนกับซารังจูบกันอย่างหวานซึ้ง ตอกย้ำความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กัน … ทั้งคู่นอนที่ห้องคุณย่า แต่ซารังจัดที่นอนห่างกันประมาณ 28 เอเคอร์ กูวอนเห็นว่านอนห่างกันเกินไป เขาจึงเดินไปลากที่นอนของซารังเข้ามานอนข้าง ๆ เขา แล้วคืนนั้นซารังก็นอนหลับ ในขณะที่มือของกูวอนกุมมือของซารังอย่างมีความสุข

เช้ารุ่งขึ้น คุณย่าออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้านเร็วกว่าที่คิด คุณย่าพากูวอนไปเดินตลาดเพื่อแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับกูวอนในฐานะ ‘หลานเขย’

กูวอนปกปิดสถานะที่แท้ของตัวเองในฐานะทายาทคิงกรุ๊ป แถมยังบอกทุกคนว่ายังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อน ๆ ของคุณย่ายกเอาหลานเขาของตัวเองขึ้นมาคุยทับ จนคุณย่าหน้าเสีย

จากนั้น คุณย่าจึงพากูวอนมาเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการซื้อบ้านให้กูวอน โดยคุณย่าประเดิมออกเงินก้อนแรกที่ใช้ในการเปิดบัญชีให้ สีหน้ากูวอนรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่คุณย่าทำให้เป็นอย่างมาก

ระหว่างนั้น เพื่อนสนิทของซารังทั้งสองคนที่ทำงานในบริษัทในเครือ King Group ถูกเอารัดเอาเปรียบจากหัวหน้า ที่ไม่ทำตามสัญญาเมื่อทำยอดขายได้ตามเป้า แทนที่จะพาไปเที่ยวบาหลีตามสัญญา กลับพาไปร้านอาหารชื่อ ‘บาหลี’ ซะอย่างนั้น

ส่วนเพื่อนอีกคนที่เป็นแอร์โฮสเตส ทำยอดขายติดอันดับอยู่ในเกณฑ์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ แต่หัวหน้าดันตั้งรุ่นน้องข้ามหัวเธอไปเฉยเลย

เมื่อกูวอนรู้ เขาจึงโกรธจัดที่บริษัทปฏิบัติต่อพนักงานอย่างไม่เป็นธรรม เขาจึงจัดทริปพิเศษระดับพรีเมียมเพื่อตอบแทนให้กับสุดยอดพนักงานของบริษัท ให้กับสองเพื่อนซี้และซารัง

EP.10 อะเมซิ่งไทยแลนด์

กูวอน ซารัง และชาวแก๊งมาเจอกันที่สนามบินเพื่อเดินทางไปทริปท่องเที่ยวประเทศไทย

เมื่อถึงกรุงเทพฯ เลขาสติเฟื่องได้จัดเตรียมจองรีสอร์ตหรูเอาไว้ แหม่ มากันห้าคนดันจองไว้แค่สองห้อง กูวอนจึงไม่พอใจที่ต้องนอนร่วมเตียงกับเลขาคนสนิท “มาห้าคนทำไมจองแค่สองห้อง” แต่ความหงุดหงิดของเขาก็หายไป เมื่อเห็นซารังชอบรีสอร์ตแห่งนี้

ทริปอะเมซิ่งไทยแลนด์ดำเนินไป เลขาสติเฟื่องพาทุกคนเข้าร้านนู้นไปกินร้านนี้ ตกค่ำก็พาไปเดินตลาดกลางคืนซื้อของกินแนวสตรีทฟูด จนซารังเอ่ยปากออกมาว่า “ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการกินอย่างแท้จริง”

หลังจากไปตระเวนกินกันจนเหนื่อยล้า ทุกคนก็พากันหลับปุ๋ย กูวอนที่รู้สึกว่าทริปนี้เขาไม่มีโอกาสอยู่กับซารังสองต่อสองเลย จึงส่งข้อความไปหาเธอให้มาจู๋จี๋กันที่บริเวณริมสระน้ำ คุยกันสักพัก กูวอนก็ชวนซารังให้ลงมาเล่นน้ำด้วยกัน ก่อนที่สระน้ำจะกลายเป็นฉากการจูบอันหวานซึ้งของทั้งสองอีกครั้ง

อีจุนโฮ - ยุนอา King the Land EP.10 - กรุงเทพฯ ประเทศไทย

รุ่งขึ้น กูวอนกับซารังตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะทั้งสองนัดออกไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสอง และวันนั้นก็กลายเป็นเดตแรกอย่างเป็นทางการของทั้งคู่

จากนั้น ระหว่างนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน กูวอนได้บอกเรื่องที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนกับซารัง เขาเล่าเรื่องแม่ที่หายไปตั้งแต่เขายังเด็ก แม่ไปโดยไม่ได้บอกอะไรเขาเลย ตอนนั้นเขาตะโกนเรียกแม่ลั่นบ้าน แต่ทุกคนเอาแต่ยิ้มให้ มันทำให้เขาคิดว่ายิ้มเหล่านั้นเป็นยิ้มของปีศาจ และคิดว่าคนรอบตัวไม่มีใครยิ้มอย่างจริงใจกับเขาเลย เมื่อโตขึ้น เขาก็พยายามตามหาแม่ แต่สืบยังไงก็ไม่เจอร่องรอยของแม่เลย เหมือนแม่ไม่มีตัวตน

ซารังฟังสิ่งที่กูวอนเล่า เธอจึงเอื้อมมือมากุมมือเขาแล้วกล่าวว่า “เราจะตามหาแม่ไปด้วยกันนะคะ” แล้วค่ำคืนนั้นก็จบลงด้วยรอยจูบอันหวานซึ้ง ท่ามกลางฉากหลังเป็นทิวทัศน์เมืองกรุงเทพฯ อันสวยงาม

EP.11 ยาหม่องตราเสือ

บนดาดฟ้าสุดหรูบนตึกสูงใจกลางกรุงเทพฯ กูวอนสารภาพรักกับซารัง “ผมรักคุณนะ ชอนซารัง” หญิงสาวยิ้มด้วยความสุขก่อนจะเอ่ยกลับไป “ฉันก็รักคุณเช่นกันค่ะ” จากนั้น ทั้งสองก็บรรจงรอยจูบอันหวานซึ้ง เป็นการยืนยันความรู้สึกที่มีให้กัน

เมื่อกลับมาถึงเกาหลี ซารังมีของขวัญติดไม้ติดมือให้กับเพื่อนร่วมงานที่ King the Land ทุกคน แต่ไม่วายที่ยังมีบางคนแอบนินทาลับหลังซารัง

ด้านกูวอน ต้องวุ่นอยู่กับการเตรียมงานฉลองครบรอบ 100 ปีคิงกรุ๊ป ถึงงานจะยุ่งจนหัวหมุน แต่ด้วยความรักที่กำลังสุกงอม กูวอนจึงเอาเอกสารไปทำที่โซนคิงเดอะแลนด์ เพื่อได้เห็นหน้าและใกล้ชิดกับซารัง แม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้จิตใจเขาพองโตมีความสุขแล้ว … ทั้งสองตกลงนัดเจอกันหลังเลิกงาน

ค่ำวันนั้นหลังเลิกงาน ซารังยืนรอกูวอนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ กูวอนอาศัยจังหวะนั้นทำเซอร์ไพรส์แอบเข้าไปสวมกอดซารัง ด้วยความตกใจ ซารังจึงกระทุ้งข้อศอกกระแทกกูวอนอย่างแรงจนเข่าสุดลงไปนั่งจุกอยู่กับพื้น เมื่อรู้ว่าเป็นหญิงสาวซารังจึงเข้าไปประคองเข้าขึ้นมานั่งที่ม้านั่ง กูวอนที่ทำตัวออดอ้อนเป็นเด็กน้อยก็เข้าไปกอดแขนซารัง “ต้องขอชาร์จแบตหน่อยแล้วก็จะหายเอง”

ซารังระดมหอมแก้มกูวอนหลายต่อหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายกูวอนหันหน้ามา ทั้งสองจึงจุ๊บปากกัน น่ารักไม่ไหว

รุ่งขึ้น กูวอนไปหาคุณย่าของซารังเพื่อเอาของฝากกองใหญ่จากเมืองไทยไปให้ ที่เด็ดคือ ‘ยาหม่องตราเสือ’ ที่กูวอนภูมิใจนำเสนอ ระหว่างนั้นเขาก็ซ่อมท่อน้ำให้คุณย่าด้วย … แหม่ เข้าทางผู้ใหญ่ได้ดีทุกคน บอกเลย

และแล้วก็ถึงวันงานฉลองครบรอบ 100 ปี งานดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังจากท่านประธานขึ้นมากล่าวคำอวยพร กูวอนก็เรียกให้ลูกชายของหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งโรงแรมขึ้นมาพูด แทนที่จะเป็นท่าน สส.ที่ถูกเชิญมาในงานตามธรรมเนียมปฏิบัติ

ฮวารันแสดงความไม่พอใจที่กูวอนหักหน้าท่าน สส. ที่มีอำนาจในการให้ใบอนุญาตธุรกิจปลอดภาษี และการขยายเส้นทางการบินให้บริษัทในเครือคิงกรุ๊ป แต่ดูเหมือนว่าท่านประธานจะรำลึกถึงความหลังบางอย่างในอดีต ที่ได้ยินจากคำพูดของลูกชายผู้ก่อตั้งโรงแรม ฮวารันจึงหัวร้อนเดินหันหลังออกไปด้วยความโกรธ

อีจุนโฮ - ยุนอา ในซีรีส์เกาหลี King the Land EP.16

หลังงานครบรอบ 100 ปีผ่านไป คืนนั้น กูวอนมาหาซารังที่ห้อง ขณะที่กูวอนกำลังโอบอุ้มซารังเอาไว้ ขณะที่ทั้งสองกำลังบรรจงจูบกัน จู่ ๆ เพื่อนซี้ทั้งสองก็เปิดประตูห้องเข้ามา “กรี๊ด ๆ ๆ” ทุกคนต่างช็อกกับภาพที่เห็น ในขณะที่ซารังกับกูวอนถึงกับหน้าถอดสี

EP.12 ผู้สืบทอดบริษัท

เพื่อนซี้ทั้งสองของซารังทำการสอบสวนความสัมพันธ์ของทั้งสอง เมื่อเห็นว่าความแตก กูวอนจึงสารภาพความจริงทุกอย่าง และสารภาพว่าเขาคือลูกชายของท่านประธานคิงกรุ๊ป ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ เมื่อรู้ความจริงเท่านั้นแหละ เพื่อนซี้ทั้งสองต่างเปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนน้อมถ่อมตน “เราทั้งสองสมควรตาย ท่าน ผอ. เราต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ” 555

กูวอนพยายามบอกสถานะของเขาว่า ตอนนี้เขาเป็นเพียงแฟนของซารัง ขอให้ทุกคนทำตัวตามสบายเหมือนแต่ก่อน

รุ่งขึ้น ท่านประธานเรียกประชุมใหญ่รับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น ฮวารันยืนยันว่าต้องลดค่าใช้จ่ายขององค์กร ด้านกูวอนกลับมองตรงกันข้ามว่า การลดค่าใช้จ่ายเป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น ที่ส่งผลกระทบกับพนักงาน ถ้าต้องการให้คิงกรุ๊ปกลายเป็นบริษัทระดับโลก ต้องมองการแก้ปัญหาระยะยาว

เมื่อผู้ชิงตำแหน่งผู้สืบทอดทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน ท่านประธานจึงบอกให้ทั้งคู่ไปทำแผนธุรกิจมานำเสนอ … การแข่งขันเป็นผู้สืบทอดบริษัทระหว่างกูวอนกับฮวารันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

ระหว่างนั้น ฮวารันที่กำลังทุ่มทุกอย่างไปกับการชิงตำแหน่งผู้สืบทอด กลับต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัว เมื่อสามีของเธอต้องการหย่า ด้วยเหตุผลที่ฮวารันไม่เคยสนใจดูแลลูกชายและครอบครัวเลย มัวแต่เอาเวลาทั้งหมดไปกับการชิงตำแหน่งผู้สืบทอด

ยุนอา - อีจุนโฮ

ด้านซารังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในดรีมทีม ผู้ทำหน้าที่บริการให้กับท่านประธานที่คฤหาสน์หรู ซารังเดินเข้าไปในห้องอาหารเพื่อเสิร์ฟซุป มีท่านประธานนั่งอยู่หัวโต๊ะ ถัดมาเป็นกูวอน ซึ่งนั่งข้าง ๆ กับหญิงสาวที่ผู้ใหญ่วางตัวเอาไว้ให้เป็นคู่หมั้นของเขา

ซารังหน้าตายิ้มแย้มค่อย ๆ เอื้อมมือไปบรรจงหยิบจานที่กูวอนทานเสร็จแล้ว ทันใดนั้นเอง ท่านประธานก็พูดขึ้น “ตอนนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ให้วอนกับยูรีแต่งงานกันปีนี้เลยนะ” เมื่อได้ยินประโยคนี้ ประโยคที่เหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวใจของซารัง จานที่ถืออยู่ในมือก็ร่วงลงกระแทกกับพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ

EP.13 คลุมถุงชน

ซารังยืนสตั๊นนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้นนานหลายวินาที พนักงานอีกคนในดรีมทีมจึงเข้ามาจัดการเคลียร์เศษกระเบื้องที่แตกกระจัดกระจาย

ผ่านไปชั่วครู่ กูวอนได้หันไปพูดกับท่านประธานที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ “ผมมีคนรักอยู่แล้วครับ” แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขาพูดจะไม่มีใครสนใจเลย ท่านประธานยังคงยืนยันให้เขาแต่งงานกับยูรี จนสุดท้าย กูวอนแสดงความไม่พอใจ ด้วยการลุกออกจากโต๊ะอาหารอย่างหัวเสีย

ด้านซารังเองก็อึน ๆ ไปเช่นกัน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกูวอนดำเนินไปอย่างกระอักกระอ่วน จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองได้มีโอกาสเปิดใจ ทำให้เข้าใจกันและกันมากขึ้น

จากนั้น ซารังก็เล่าความอึดอัดใจเรื่อง ‘ดรีมทีม’ ซึ่งเธอไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันคืออะไร รู้เพียงว่ามันเป็นจุดสูงสุดที่พนักงานโรงแรมคิงทุกคนต้องการก้าวไปถึง กระทั่งเธอได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ทำให้ได้รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด ดรีมทีมเป็นเพียงแค่งานคนรับใช้ ไม่ใช่งานบริการที่มีเกียรติอย่างที่เธอคิด แต่สิ่งที่ทุกคนต้องการจากการเป็นหนึ่งในดรีมทีมก็คือเงินค่าจ้าง ซึ่งทำงานเพียงหนึ่งวันจะได้เท่ากับเงินเดือนทั้งเดือน กูวอนจึงรับปากว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงมัน เขาสัญญาว่าจะยกเลิกดรีมทีมที่เป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ให้ได้

รีแคปซีรีส์ King the Land EP.13

ท่านประธานคนใหม่

ณ ห้องประชุม … กูวอนเตรียมนำเสนอแผนงานของโรงแรมคิง ที่จะปูทางให้กลายเป็นโรงแรมชั้นนำระดับโลก โดยเขาเน้นย้ำเรื่องการให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคน ดังนั้น เขาเลือกที่จะไม่เขี่ยพนักงานทิ้ง แม้ว่าสถานะทางเศรษฐกิจจะทำให้โรงแรมอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก “ถ้าเราไม่ให้ใจกับพนักงาน พวกเขาก็ไม่มีทางทำงานอย่างจริงใจให้เราเช่นกัน หัวใจของธุรกิจโรงแรมคือการบริการ ถ้าพนักงานไม่มีใจในการทำงาน ก็ยากที่จะบริการลูกค้าด้วยใจ”

แน่นอนว่าแนวทางของกูวอนแตกต่างกับฮวารันอย่างสิ้นเชิง ฮวารันมองวิธีการลดค่าใช้จ่ายเป็นวิธีเบสิกที่ผู้บริหารทุกคนมักจะเลือกทำ เมื่อองค์กรกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทางเศรษฐกิจ แต่ …

แต่กูวอนไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่าถ้าไม่ลดค่าใช้จ่าย สิ่งที่ต้องทำคือการเพิ่มรายได้และกำไร

กูวอนลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปยืนหน้าจอพรีเซนเตชั่นต่อหน้าผู้ร่วมประชุม เขาพรีเซนต์แผนงานที่เตรียมเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ผมยื่นข้อเสนอไปให้โรงแรม 170 แห่งทั่วโลก และมี 30 โรงแรมรับข้อเสนอที่จะให้โรงแรมคิงเป็นที่ปรึกษา แลกกับการใช้ชื่อและการบริการระดับเดียวกับโรงแรมคิง”

กูวอนบอกตัวเลขค่าตอบแทนที่จะได้รับจากโปรเจกต์นี้ที่ 35,000 ล้านวอน (ประมาณ 930 ล้านบาท) ที่สำคัญจะทำให้โรงแรมคิงก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในเชนโรงแรมระดับโลก

ท่านประธานประทับใจเป็นอย่างมาก และแต่งตั้งให้กูวอนขึ้นเป็นประธานของโรงแรมคิง พร้อมทั้งกล่าวย้ำให้เขาทำโรงแรมคิงให้เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก ทุกคนในห้องเงียบกริบ โดยเฉพาะฮวารันที่แสดงความไม่เห็นด้วย

EP.14 รักลับ ๆ ของทายาทรุ่นที่สาม

ฮวารันส่งคนไปแอบถ่ายรูปตอนที่ซารังกับกูวอนใกล้ชิดกัน จากนั้น ก็ใช้มันตีข่าว “รักลับ ๆ ของทายาทรุ่นที่สาม” จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์

ยุนอา - อีจุนโฮ

ข่าวที่เกิดขึ้นทำให้ซารังกลายเป็นจุดสนใจที่เพื่อนร่วมงานเอาไปเม้ามอย หลายคนมองซารังด้วยสายตาแปลก ๆ อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ออกไปก็ไม่ได้ทำให้กูวอนกับซารังรักกันน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียว ในทางตรงกันข้าม กูวอนยังอยู่เคียงข้างซารัง และพยายามหาทางจัดการกับข่าวที่เกิดขึ้น

กูวอนประกาศต่อหน้าพนักงาน King the Land เขาอธิบายว่าข่าวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องอื้อฉาว แต่มันเป็นเรื่องของความรัก

ฮวารันประชุมผู้บริหารฉุกเฉิน เพื่อปรึกษากันเรื่องการรับมือข่าวฉาวที่เกิดขึ้นกับกูวอน โดยจะเอาความเห็นของชาวเน็ต อย่างเช่น “ทายาทโรงแรมเกาะแกะพนักงานหญิง” หรือ “โรงแรมคิงเป็นโรงแรมพลอดรักของทายาท” ยื่นเสนอท่านประธานให้ยกเลิกการเข้ารับตำแหน่งประธานโรงแรมคิงของกูวอน โดยอ้างว่าข่าวฉาวที่เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์ของโรงแรม ถ้ากูวอนได้ขึ้นเป็นประธาน

ผิดคาด ท่านประธานไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของฮวารัน จนเป็นเหตุให้ทั้งสองโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ฮวารันตวาดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจใส่ท่านประธาน “ไม่ว่าจะทำยังไง พ่อก็ไม่เคยมีหนูอยู่ในใจ ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้” เมื่อพูดจบเธอก็หันหลังและเดินออกจากห้องไป

ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับเข้ามาในห้วงความคิดของฮวารัน ภาพที่ท่านประธานสนใจกับแต่กูวอน ภาพที่เธอเป็นลูกสาวที่ถูกพ่อมองข้ามมาโดยตลอด

ห่างกันสักพัก

วันต่อมา ท่านประธานนัดคุยกับซารังเป็นการส่วนตัว เขาสั่งให้ซารังอยู่เงียบ ๆ จนกว่าข่าวจะซาลง พูดง่าย ๆ ก็คือ ท่านประธานออกคำสั่งให้ซารังอยู่ห่างกูวอน

กูวอนเองก็ได้รับคำสั่งให้ไปดูงานที่ต่างประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์ คืนนั้น เขาจึงไปหาซารังและชวนไปสวนสนุก สวนสนุกที่กูวอนเช่าทั้งหมดเพื่อความเป็นส่วนตัว ทั้งสองใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันอย่างเต็มที่ก่อนจะไม่ได้เจอกันเกือบเดือน

รุ่งขึ้น ซารังถูกส่งไปทำงานที่โรงแรมคิงทัวริสต์ เมื่อไปถึง ซารังจึงได้รู้จากปากของพนักงานที่ทำงานที่นั่นว่า โรงแรมแห่งนี้คือสถานที่เนรเทศพนักงานที่ไม่เป็นที่ต้องการของบริษัท แถมยังเป็นโรงแรมที่ต่ำต้อยที่สุดในเครือโรงแรมคิง

ที่นั่น ซารังต้องทำงานอย่างหนัก แบกรับภาระหลายหน้าที่ ตั้งแต่รีเซปชันยันพนักงานเสิร์ฟในห้องอาหาร เนื่องจากพนักงานไม่พอ แต่ด้วยความเป็นพนักงานเบอร์หนึ่ง รอยยิ้มแอร์เมสของเธอยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยการบริการที่จริงใจให้กับแขกของโรงแรมทุกคน แม้ว่าแขกที่โรงแรมคิงทัวริสต์แห่งนี้ จะเป็นแขกคนละระดับกับที่ King the Land ก็เถอะ

ผ่านไป 3 สัปดาห์ กูวอนกลับมาถึงเกาหลี เขารีบตรงไปหาซารังที่ King the Land ทันที แต่ซารังไม่อยู่แล้ว เธอไม่อยู่ที่นั่นแล้ว

ระหว่างที่กูวอนเดินออกมาจาก King the Land เขาเดินสวนกับหญิงคนหนึ่ง หญิงที่ยิ้มให้เขาแล้วเรียกชื่อเขา “วอน นี่แม่เอง” … เธอคือแม่ของกูวอนอย่างนั้นเหรอ ?

EP.15 ประโยคที่คาดไม่ถึง

แม่ของกูวอนปรากฏตัวขึ้น และเหตุผลที่ทำให้เธอต้องจากไปก็ถูกเปิดเผย … ในอดีต แม่กูวอนเป็นผู้นำในการก่อตั้งสหภาพแรงงาน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของบริษัท ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อสามีของเธอ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานในขณะนั้น บีบให้เธอออกจากบ้าน โดยใช้ตัวกูวอนเป็นตัวประกัน

รีแคปซีรีส์ King the Land EP.15 : ประโยคที่ไม่คาดคิด

กูวอนเจอแม่ที่โถงทางเดินของโรงแรม เขามองไปที่แม่ด้วยสีหน้าเย็นชา ประโยคแรกที่เขาเอ่ยกับแม่เป็นประโยคที่เย็นชายิ่งกว่า “มีธุระอะไรครับ ?” แม่มาเพื่อขอโทษ และพยายามอ้างเหตุผลที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจจากไป จริง ๆ แล้วกูวอนไม่ได้สนใจคำขอโทษเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาไม่เคยโกรธแม่ เป็นเพียงแต่เขาไม่มีความทรงจำในอดีตที่มีแม่อยู่เลย ไม่มีเลยจริง ๆ

เมื่อพูดกันได้ไม่กี่คำ กูวอนก็ขอตัว … เมื่อเดินหันหลังออกมา น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด น้ำตาที่ทำให้เขาเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น กูวอนตัดสินใจเดินกลับไปหาแม่อีกครั้ง แม้สายตาเขาจะยังคงเย็นชา แต่มือของเขาก็ค่อย ๆ เอื้อมไปโอบกอดแม่ พร้อมทั้งรอยยิ้มที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น

ตัดมาที่โรงแรมคิงทัวริสต์ … ซารังได้รับแจ้งจากประธานว่าโรงแรมกำลังจะปิดกิจการ ประธานจึงบอกให้พนักงานรีบไปหางานใหม่ทำซะ ในขณะที่ซารังพยายามเสนอวิธีที่จะทำให้โรงแรมแห่งนี้ดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่กลับถูกประธานต่อว่า

แล้วพระเอกก็ขี่ม้าขาวมาทันเวลาพอดี กูวอนปรากฏตัวขึ้น ซารังยิ้มไม่หุบเมื่อได้เจอหน้าคนรัก หลังไม่ได้เจอกันมานานนับเดือน

กูวอนได้รู้สถานการณ์ที่ง่อนแง่นของโรงแรมคิงทัวริสต์จากปากของซารัง เขาใช้เวลาตลอดทั้งวันในการสำรวจโลเคชัน และพื้นที่ใช้สอยของโรงแรม เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ เขาจึงยื่นข้อเสนอกับประธานว่า จะซื้อโรงแรมแห่งนี้เอาไว้เอง เพราะเขาไม่ต้องการให้พนักงานต้องตกงาน ที่สำคัญเขามองเห็นศักยภาพของพื้นที่ติดธรรมชาติ ซึ่งมีผืนป่าขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังของโรงแรม

พนักงานโรงแรมคิงทัวริสต์มองกูวอนด้วยสายตาชื่นชม ไม่น่าเชื่อว่าลูกชายของท่านประธานใหญ่ จะเป็นคนหล่อใจดี แถมเก่งขนาดนี้

ประธานคนใหม่

แล้ววันเข้ารับตำแหน่งประธานโรงแรมคิงก็มาถึง กูวอนได้เป็นประธานอย่างเต็มตัว ในวันนั้น ฮวารันเข้ามาทักทายกูวอน และเตือนว่าอย่าคิดแย่งอะไรไปจากเธอ แต่สำหรับกูวอนแล้วเขาไม่ได้มองฮวารันเป็นคู่แข่งหรือศัตรูเลย เขามองฮวารันเป็นครอบครัว

อีจุนโฮ - ยุนอา

คืนนั้น กูวอนนัดทานอาหารค่ำกับซารังที่ร้านอาหารที่ทั้งสองเคยมาด้วยกันครั้งแรก เขาเตรียมเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน แต่ทว่า ซารังกลับเอ่ยประโยคที่ไม่คาดคิดออกมา …

“ฉันอยากเลิกค่ะ” !!!

EP.16 โรงแรมห้ายิ้ม (ตอนจบ)

แหม่ ประโยคที่ซารังเอ่ยว่า “ฉันอยากเลิกค่ะ” เธอหมายถึงว่าอยากเลิกทำงานที่โรงแรม และกำลังตัดสินใจจะลาออก ซารังบอกกับกูวอนว่าเธออยากทำโรงแรมเล็ก ๆ ในแบบที่เธอกำหนดเอง

ถึงจะผิดแผนจนทำให้แผนเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานต้องยกเลิกไป แต่กูวอนก็โล่งใจที่ซารังค้นพบสิ่งที่ต้องการซะที … ซารังถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความปีติที่กูวอนสนับสนุนความคิดของเธอ ช่างเป็นผู้ชายแสนดีอะไรอย่างนี้

รุ่งขึ้น ซารังขอพบท่านประธานเป็นการส่วนตัวเพื่อขอลาออก ขณะเดินออกจากโรงแรมคิง สีหน้าของซารังแสดงให้เห็นถึงความเสียใจที่คละเคล้าไปด้วยความโล่งใจ

ด้านกูวอนเองก็เริ่มเปลี่ยนแปลงโรงแรมคิงในแบบที่เขาต้องการ นั่นคือ การปฏิบัติต่อแขกของโรงแรมทุกคนในฐานะแขกวีไอพี ในอีกด้านหนึ่ง เขาก็ปฏิบัติต่อพนักงานในฐานะส่วนหนึ่งของโรงแรมเช่นกัน

King the Land EP.16 ตอนจบ - ยุนอา - อีจุนโฮ

โรงแรมอะมอร์

ระหว่างนั้น ซารังก็เจอสถานที่ที่จะทำเป็นโรงแรมในฝัน โดยคุณย่าได้ให้เงินที่เก็บหอมรอบริบมาทั้งชีวิตให้ซารัง

หลังจากทำการรีโนเวตและตกแต่งจนเสร็จด้วยตัวเอง ซารังก็ได้เชิญแขกคนแรกมาที่โรงแรมเล็ก ๆ ในฝันของเธอ นั่นคือ กูวอน … ซารังคุยว่า ‘โรงแรมอะมอร์’ ของเธอเป็นโรงแรมระดับ 5 ยิ้ม มีแม้จะไม่หรูหราเท่าโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่เป็นโรงแรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขของทั้งเจ้าของและแขกผู้มาพัก

และคืนนั้น ทั้งสองได้ยืนยันความรักด้วยกันอย่างลึกซึ้ง รุ่งเช้าทั้งสองตื่นมาด้วยความรู้สึกที่แนบแน่นกว่าเดิม บรรยากาศเต็มไปด้วยความรักอันหวานซึ้งและอบอุ่น

นับแต่นั้น กูวอนก็เทียวมาหาซารังทุกวัน แม้โรงแรมจะอยู่ห่างจากโซลก็เถอะ แหม่

ทีนี้ ด้วยความที่มีแขกเข้าพักเต็มตลอดทั้งเดือน ซารังจึงคิดจ้างพนักงานพาร์ตไทม์มาช่วยงาน สัมภาษณ์ผู้ที่มาสมัครไปหลายคน แต่ไม่มีสักคนที่มีรอยยิ้มอย่างจริงใจ จนสุดท้าย กูวอนมาขอสมัครเป็นพนักงาน เขามีเงื่อนไขว่าจะไม่ขอเป็นแค่พนักงานพาร์ตไทม์ แต่จะขอเป็นพนักงานไปชั่วชีวิต

ตอนนั้นเอง กูวอนคุกเข่าลงกับพื้น ก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋าหยิบแหวนออกมา “แต่งงานกับผมนะ” ซารังพยักหน้าตอบตกลงทันที

ตอนจบซีรีส์ King the Land EP.16

จากนั้น ทั้งสองก็ไปหาคุณย่า และประกาศการแต่งงานอย่างเป็นทางการ … การแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีคุณย่าซารัง ท่านประธานและแม่กูวอนมาร่วมงาน แล้วเรื่องราวก็จบลงอย่างมีความสุข

จบบริบูรณ์

Images : JTBC Korea

The post สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ King the Land (2023) appeared first on idol.

]]>