Skip to content
ปู ภูริวัตร เผยเบื้องหลังเครื่องแต่งกายสุดอลังการ ละคร รากนครา

ปู ภูริวัตร เปิดเบื้องหลังความละเมียด กว่าจะมาเป็นละครสุดอลัง “รากนครา”

รากนครา สุดยอดอลังการงานละครแห่งปี ของทางช่อง 3 ที่ร่วมกับผู้กำกับมือทองแห่งยุคอย่าง อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง มาดูแลโปรเจ็คท์ โดยได้ แต้ว ณฐพร รับบทเป็น เจ้าแม้นเมือง และหมาก ปริญ รับบทเป็น เจ้าศุขวงศ์ ซึ่งมีกำหนดลงจอตอนแรกในวันอังคารที่ 5 กันยายน ที่จะถึงนี้

ล่าสุด ทางทีมสไตลิสต์มือรางวัล พี่ปู ภูริวัตร กิตติศรีไสว ได้ออกมาเปิดเผย ถึงความละเมียดในการรังสรรค์เครื่องแต่งกายของตัวละครแต่ละตัว ฉากแต่ละฉากเอาไว้ ดังนี้

ฉากเปิดตัวที่พระนางเจอกันครั้งแรกใต้ต้นชมพูป่า

via poo_poly

แม้นเมืองอยู่ในช่วงใส่ทุกข์สีขาว ทางผู้กำกับ ลุงอ๊อฟใจดี มีความอยากบอกเล่าผ่านอารมณ์ตัวละครในซีนนี้ ที่เจอะเจอครั้งแรก ไม่อยากใด้เป็นสีขาวทั้งคู่ ถ้าศุขวงค์ไม่เป็นชุดขาวจะได้มั้ย ก็เลยปรึกษากับคุณวสิน เราจะหาชุดอะไรให้ศุขวงค์ใส่ดีสำหรับฉากนี้ เลือกกันอยู่นานมาก ว่าใส่อะไรจะเหมาะสุด และได้ดั่งความต้องการผู้กำกับ ที่อยากจะบอกเล่ามู้ดแอนด์โทนซีนนี้ เพราะบรรยาศในช่วงนี้ เป็นฉากไว้ทุกข์ สีที่อยู่ในส่วนนี้ก็ไม่ควรจะฉูดฉาดมาก ถึงได้เสื้อตัวนี้เป็นสีน้ำเงินเข้มมีลายคล้ายกลีบดอกชมพูป่าสีทองบนเนื้อผ้า จึงได้เลือกผ้านุ่งเป็นสีเลือดหมูเข้ม คาดทับด้วยผ้าหนามขนุนลายดอกซากุระสีแดงเลือดหมู เพื่อจะเล่าผ่านตัวละครทางเครื่องกาย ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ที่จะเข้าแปดเปื้อนสิ่งที่เป็นผ้าขาว ดั่งสถานะบ้านเมืองของเชียงเงิน

ขอบคุณลุงผู้กำกับใจดี ที่สอนที่ให้วิธีคิดในการนำเสนอเล่าอารมณ์ตัวละครผ่านทางเครื่องแต่งกายของนักแสดง

ฉากแต่งงาน

via poo_poly

ฉากแต่งงานในนวนิยายได้กล่าวไว้ว่า เจ้าแสนอินทะได้มอบกระดุมทองคำให้เป็นขวัญวันแต่งงาน ได้ปรึกษาคุณปิยะพร และคุณยิ่งยศว่าขอเป็นเสื้อกาบคำได้มั้ย โดยตามความจริงแล้วเสื้อกาบคำพระราชทาน ให้ยืมใส่ในวันแต่งงานแล้วเก็บไว้ในหอคำเท่านั้น แต่ในรากนคราเวอรชั่นนี้ก็เลยปรึกษากับผู้กำกับ และคุณวสิน ว่าเราจะขอเปลี่ยนเป็นเสื้อกาบคำแทนได้มั้ย ที่จะแทนสื่อถึงความรักของเจ้าแสนอินทะ ที่มีต่อแม้นเมืองด้วยที่มอบเสื้อกาบคำตัวนี้เป็นของขวัญ คือของขวัญที่ล้ำค่า มิใช่แค่แม้นเมืองคนเดียว มันคือชาติและบ้านเมืองที่ให้ศุขวงค์ไปดูแล ส่วนแม้นเมืองให้ตระหนักถึงภาระและหน้าที่ๆตัวเองต้องไปทำ ภาระหน้าที่ให้ตระหนักคือบ้านเมืองไม่ใช่ภาระส่วนตัว

ขอบคุณ คุณปิยะพรที่อนุญาตให้ปรับ คุณยิ่งยศที่ให้เปลี่ยน ผู้กำกับลุงใจดีที่เปิดกว้างให้ทีมงานได้คิดเห็น สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้จะเกิดแรงบันดาลใจไม่ได้เลยถ้านวนิยายไม่ดีงาม คนเขียนบทไม่ใส่ใจใส่รายละเอียด ผู้กำกับไม่เล็งเห็น กราบงามๆ

ภาพถ่ายใบเดียว แต่รายละเอียดมากเหลือ

via poo_poly

อีกซีนนึงทึ่ทำการบ้านหนัก คือซีนที่ศุขวงค์ให้แบรคกิ้นเป็นคนถ่ายรูปให้ และภาพถ่ายใบนี้เป็นใบเดียว ที่จะเหลือใว้ให้เจ้าไศลรัตน์ดูตอนจบของเรื่อง คิดนานมาก คิดไม่ตกว่าจะเลือกให้แม้นเมืองใส่ชุดอะไรดี ธีมอะไรดี จนวันนึงคุณแม่ได้เสียชีวิตลง จะเลือกรูปคุณแม่วางหน้าหีบศพ นึกขึ้นใด้ว่าคุณแม่ได้สั่งไว้ว่า ถ้าวันนึงแม่ไม่อยู่แล้ว ให้เอารูปแม่ที่เคยได้ถ่ายตอนที่คุณแม่ไปเปลี่ยนสัญชาติมาไว้หน้าหีบศพ จึงได้แรงบันดาลใจจากจุดนี้ มาวางธีมให้แม้นเมืองใส่ในโอกาศที่ตัวเองเป็นคนของเชียงพระคำอย่างเต็มตัว ใส่เครื่องแต่งกายแบบเชียงพระคำ เพื่อจะสื่อให้ศุขวงค์ได้รับรู้ว่า ตัวเองรักและยอมผิดคำสัญญากับพี่ชายตัวเอง ที่อย่าไปรัก และอยู่กับเชียงพระคำ แค่คัทเดียวจะเล่าอย่างไร ให้ภาพเหล่านี้บอกตัวอารมณ์ของตัวแม้นเมืองให้สมบูรณ์แบบ

ขอบคุณนวนิยายรากนครา ป้ายุ่นที่เขียนซีนนี้ขึ้นมา ผู้กำกับที่ใส่ใจให้ความสำคัญกับซีนนี้แม้จะเป็นคัทสั้นๆ แต้วที่ถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึกของแม้นเมืองตอนนั้นออกมา ไม่ใช่แค่นั่งถ่ายรูปประกอบอย่างเดียว หมากที่ซัพพอร์ตอารมณ์ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ

ฉากเล่าความรู้สึกผ่านเครื่องแต่งกาย

via poo_poly

เป็นซีนที่กดดัน และทำการบ้านหนักมาก ที่จะเลือกเสื้อให้แม้นเมืองใส่ ฉากนี้เล่าความรู้สึกของตัวละครผ่านทางเครื่องแต่งกาย ถึงสิ่งที่แม้นเมืองผูกพันกับดงชมพูป่า โดยที่ไม่จงใจและตีกันกับแบลคกราว์ที่มีดอกไม้ละลานตา พร้อมทั้งสอดแทรกให้เห็นถึงความอ่อนหวาน และบอบบางภายในตัวแม้นเมือง ในขณะเดียวกันที่จิตใจของแม้นเมืองที่สูญเสีย (สีม่วง เป็นสีการดูแล และปลอบโยนช่วยให้จิตใจสงบ และอดทนต่อความรู้สึกที่โศกเศร้า หรือสูญเสียที่มากระทบจิตใจและประสาท สีม่วงเฉดต่างๆ ยังช่วยสร้างสมดุลของจิตใจ ให้ฟื้นกลับมาจากภาวะตกต่ำ หรือความเศร้าที่ครอบงำอยู่) ถึงได้ตัดสินใจเลือกผ้าถุงไหมคำสีม่วงตัดกับเสื้อลายดอกสีชมพู สำหรับซีนนี้ ผ่านอารมณ์ตัวละครทางเสื้อผ้า

ขอบคุณตี๋ ที่สานฝันและหาผ้ามาตัดเสื้อสำหรับซีนนี้ให้ใด้ดั่งใจ