Skip to content
ซีรีส์ Lovers of the Red Sky (2021)

รีแคปซีรีส์ Lovers of the Red Sky EP.9 : ร่างที่ผนึกพญามาร

Lovers of the Red Sky EP.9 รีแคป : องค์ชายยังมยองสงสัยตัวตนของฮารัม เตือนฮารัมให้อยู่ห่างจากชอนกิ ส่วนองค์ชายจูฮยางก็พบกับอิลวอลซองเพื่อตามหาพญามาร …

องค์ชายจูฮยางพยายามปลุกพญามารในร่างของฮารัมขึ้นมา เพื่อหวังใช้อำนาจของพญามารในการก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป

ฮารัมทรุดลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าตำหนักคยองวอน ในขณะที่พญามารในร่างเริ่มปรากฏตัวออกมา จนในที่สุดก็เข้าครอบงำร่างฮารัมโดยสมบูรณ์ สิ่งแรกและสิ่งเดียวที่มันต้องการในเวลานี้ก็คือดวงตาของมัน พญามารพุ่งตรงเข้าไปหาชอนกีที่ยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง มันเข้าไปบีบคอนางอย่างสุดแรง แต่ก่อนที่ชอนกีจะขาดอากาศจนสิ้นใจ ทันใดนั้นเอง พยัคฆีก็ปรากฏตัวขึ้น …

“พญามารที่นี่คือวังหลวง เจ้าไม่มีอำนาจที่นี่ กลับไปซะ” พยัคฆีในร่างของสาวน้อยผมขาวเอ่ยวาจาออกมา แต่พญามารก็คือพญามาร มันยังดื้อดึงต้องการดวงตาของมันคืน เพื่อมันจะได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง “ข้าจะเอาดวงตาของข้าคืน” แต่พยัคฆีนั้นมีพลังมากมายเหลือเกิน ท้ายที่สุดพญามารก็สูญเสียพลังไปจนหมด แล้วกลับเข้าอยู่ในร่างของฮารัมดังเดิม

ชอนกีคอยดูแลฮารัมที่ยังนอนหมดสติบนที่นอนอยู่ไม่ห่าง นางได้แต่คิดอยู่ในใจว่า “เจ้าเป็นคนสำคัญสำหรับข้า ฟื้นขึ้นมาเถอะนะ” ชอนกีเฝ้าฮารัมอยู่อย่างนั้นจนตัวเองง่วงเหงาหาวนอนและเผลอหลับไป ระหว่างนั้นเอง ยายซัมซินก็มาช่วยให้ฮารัมฟื้นขึ้น

วันรุ่งขึ้น พยัคฆีมาเดินเล่นที่โคฮวาวอน ชอนกีเห็นจึงเข้าไปทัก พยัคฆีแปลกใจมากที่ชอนกีมองเห็นนาง นั่นเป็นเพราะชอนกีมีดวงตาวิเศษ จากนั้นพยัคฆีก็หายตัวไปท่ามกลางความมึนงงของชอนกี

องค์ชายยังมยองปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน จนทำให้เขาสงสัยว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ภาพเหมือนของกษัตริย์ยองจง กับพิธีขอฝนที่เป็นเหตุให้ฮารัมตาบอดเมื่อ 20 ปีก่อน ต้องมีความเกี่ยวข้องกัน พระองค์จึงเข้าไปทูลถามกับเสด็จพ่อ เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ พระเจ้าซองโจจึงเล่าความจริงเรื่องพญามาร และพิธีผนึกพญามารให้องค์ชายยังมยองได้รู้

ชอนกีกับฮารัมได้มีโอกาสไปเล่นว่าวด้วยกัน ทั้งคู่มีความสุขด้วยกันมาก ๆ เป็นความสุขที่แท้จริง ที่ดูเหมือนว่านานมากแล้วที่ทั้งสองไม่ได้รู้สึกถึงความสุขเช่นนี้ …

“หากเจ้าไม่เห็นข้าสองสามวันก็อย่าตกใจไปนะ เรื่องที่เกิดขึ้นหน้าตำหนักคยองวอนทำให้ข้าต้องไปสำนักตรวจการกับองค์ชายยังมยอง ถ้าข้าไปตรวจร่างกายแล้วเป็นปรกติข้าก็จะกลับมา” เมื่อฮารัมพูดจบ เขาก็หยิบเอาถุงผ้าที่ในนั้นมีแหวนหยกที่ท่านพ่อให้ท่านแม่ เป็นแหวนที่มีเพียงวงเดียวในโลก “ข้าอยากให้เจ้าเก็บเอาไว้ให้เป็นอย่างดี”

ชอนกีรับไว้ ก่อนจะเอ่ยถามออกไป “ทำไมท่านถึงได้ให้ของมีค่าเช่นนี้กับข้าล่ะ ?”

ฮารัมหันหน้าไปทางชอนกี ก่อนจะเอ่ยวาจาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข “ก็เพราะว่า ข้ารักเจ้าน่ะ”

ในคืนนั้น ชอนกีถามองค์ชายยังมยองด้วยความสงสัยว่า เหตุใดถึงเลือกนางให้เป็นคนวาดภาพเหมือน องค์ชายจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางได้รู้ “ผุ้ที่วาดภาพเหมือนของกษัตริย์ยองจงต้องเป็นจิตรกรผู้มีญาณวิเศษเท่านั้น อย่างเช่นพ่อของเจ้า ก่อนที่ท่านปู่ (พระเจ้ายองจง) จะเสด็จสวรรคต ท่านได้ผนึกพญามารเอาไว้ในภาพวาดนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มันสามารถไปเข่นฆ่าผู้คนได้อีก แต่ภาพวาดนั้นเกิดไฟไหม้เสียหาย นับแต่นั้นพญามารก็หายตัวไป”

เมื่อได้รู้ความจริง ทำให้ชอนกีเข้าใจแล้วว่า ทำไมทั้งท่านพ่อและอาจารย์ต่างพากันคัดค้านไม่ให้นางรับวาดภาพเหมือนนี้

ในเวลาเดียวกันนั้น องค์ชายจูฮยางเดินทางมาหาอิลวอลซอง (ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คืออีกหน้าฉากหนึ่งของฮารัม) เพื่อพูดจาความเรื่องการขึ้นครองบัลลังก์กษัตริย์ “ข้าต้องการพญามารเพื่อขึ้นครองบัลลังก์ กษัตริย์องค์ก่อน (พระเจ้ายองจง) เคยตรัสเอาไว้ว่า โลกนี้มิเคยมั่นคง และบัลลังก์ก็ไม่มีวันอยู่ค้ำฟ้า พวกที่ยังหลงเหลือจากราชวงศ์ก่อนยังคงเฝ้ารอโอกาสจะแบ่งแย่งดินแดนในชนบท ส่วนในวังหลวงก็ล้วนแล้วแต่มีผู้คนที่ยากจะคาดเดาว่าใครบ้างที่ภักดี ฉะนั้นแล้ว ข้าต้องขึ้นเป็นกษัตริย์”

อิลวอลซอง (ฮารัม) ที่ปกปิดใบหน้าตัวเองด้วยหน้ากากทรงแปลกประหลาดได้เอ่ยถามออกไปว่า “แล้วหม่อมฉันต้องทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ ?”

“เจ้ารู้จักบัณฑิตฮาหรือไม่ ?” องค์ชายจูฮยางเดินไปอยู่เบื้องหลังของอิลวอลซอง น้ำเสียงของพระองค์ช่างดุดันและน่าเกรงขามยิ่งนัก

“กระหม่อมได้ยินว่าเขาเป็นนักโหราศาสตร์ที่ฝ่าบาททรงโปรดปราน”

“พญามารถูกผนึกอยู่ในร่างของบัณฑิตฮา !!!”

Source : SBS Korea